สถานที่ท่องเที่ยวไทย แนะนำที่เที่ยวหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะหาดสวย เกาะน้ำใส น้ำตกบรรยากาศดี ภูเขาสูง หรือแลนด์มาร์กต่าง ๆ เผื่อจะวางแพลนออกไปท่องเที่ยวในวันว่างกัน
หลังจากที่เราเคยหยิบเอาสถานที่ท่องเที่ยวบางส่วนมาแนะนำกันไปบ้างแล้ว คราวนี้ขอมาอัปเดตแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ อีกเช่นเคย กับ 50 สถานที่ท่องเที่ยวไทย ที่น่าไปเยือนสักครั้ง จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้นไปดูกัน
สถานที่ท่องเที่ยวไทย
1. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
ที่เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายฝั่งศรีราชาเท่าไรนัก เป็นเกาะที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน ชาวบ้านยังคงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม บนเกาะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งที่พัก ร้านอาหาร คาเฟ่ รวมถึงที่เที่ยวน่าสนใจ เช่น ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวบ้านบนเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือมาช้านาน, มณฑปรอยพระพุทธบาท, พิพิธภัณฑ์พระจุฑาธุชราชฐาน, ช่องเขาขาด และหาดถ้ำเขาพัง เป็นต้น
2. อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม สัตหีบ จังหวัดชลบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ การท่องเที่ยวเกาะขามจึงต้องเป็นไปตามกฎของกองทัพเรือ บนเกาะมีชายหาดขาวสะอาด เงียบสงบ บริเวณรอบ ๆ ยังมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลใสมาก สามารถเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริป
3. เกาะแสมสาร จังหวัดชลบุรี
เกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ในตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ เปิดเป็นแหล่งเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ และไม่อนุญาตให้ค้างคืน จึงสามารถไปเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้เท่านั้น และสามารถลงเล่นน้ำได้แค่ 2 หาด คือ หาดเทียน และหาดลูกลม นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้ทำ เช่น ดำน้ำ, นั่งเรือท้องกระจก, ขี่จักรยาน/เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และพายเรือ เป็นต้น
4. หาดแสงจันทร์ จังหวัดระยอง
ชายหาดที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองระยอง ซึ่งบริเวณชายหาดมีการกั้นการกัดเซาะคลื่นทะเลด้วยแนวหิน ทำให้มีลักษณะเป็นครึ่งเสี้ยวพระจันทร์ตลอดแนวชายหาด สวยงามแปลกตาไปอีกแบบ นอกจากนี้ยังมีที่พักและร้านอาหารหลากหลายสไตล์ให้เลือกพักผ่อน กินอาหารทะเล ชมวิวชิล ๆ
5. หาดเจ้าหลาว จังหวัดจันทบุรี
ชายหาดชื่อดังของจังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของอ่าวคุ้งกระเบน บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าว หาดทรายจะเป็นสีแดงละเอียด ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษของหาดทรายเมืองจันท์ มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกทำเพียบ รวมถึงมีที่พักและร้านอาหารหลากหลายเปิดให้บริการ
6. เกาะกระดาด จังหวัดตราด
เกาะเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะหมาก เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลที่มีประวัติศาสตร์น่าสนใจและเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากเกาะอื่น ๆ เพราะเป็นเกาะเดียวในประเทศไทยที่มีโฉนดที่ดินถูกต้องตามกฎหมาย อีกทั้งบนเกาะยังมีความสวยงามของธรรมชาติทั้งชายหาด ทุ่งหญ้า และแนวปะการัง รวมถึงฝูงกวางป่า ซึ่งเป็นผลมาจากการนำกวางมาเลี้ยงในอดีตและขยายพันธุ์ตามธรรมชาติ
7. เกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร
เกาะเก่าแก่ที่ตั้งอยู่บริเวณอ่าวท้องครก อำเภอหลังสวน ห่างจากชายฝั่ง 1 กิโลเมตร บรรยากาศเงียบสงบ บ้านเรือนตั้งเรียงรายอยู่ในทะเล พร้อมเปิดรอต้อนรับนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเกาะ มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ไว้บริการ แถมยังได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกับคนในชุมชน เช่น เรียนรู้การทำประมงพื้นบ้าน กินอาหารทะเลสด ๆ ล่องเรือ และดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น เป็นต้น
8. เกาะแรต จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะเล็ก ๆ กลางทะเลอ่าวไทย ใกล้ชายฝั่งอำเภอดอนสัก เพียงแค่ราว ๆ 500 เมตรเท่านั้น โดยมีสะพานปูนเชื่อมเข้าไปถึงตัวเกาะ สถานที่พักผ่อนชิล ๆ กับท้องทะเลและชุมชนชาวประมงแบบพื้นฐาน ได้อิ่มอร่อยไปกับอาหารทะเลสดใหม่ในราคาย่อมเยา พร้อมเดินเล่นสะพานริมทะเลชมพระอาทิตย์ตกดิน นั่งเรือไปทักทายปลาโลมาสีชมพู โดยบ้านเรือนบางส่วนปรับให้เป็นโฮมสเตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวด้วย
9. อ่าวเขาควาย จังหวัดระนอง
เวิ้งอ่าวสวยแห่งท้องทะเลระนอง ตั้งอยู่ในเกาะกำตก ทางตอนเหนือของเกาะกำใหญ่ พื้นที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน มีลักษณะเป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมคล้ายกับเขาควาย จึงเรียกกันว่า อ่าวเขาควาย ชายหาดขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด น้ำทะเลโดยรอบยังเป็นสีฟ้าใสแจ๋ว สามารถลงไปว่ายน้ำเล่น ชมปะการังใต้ท้องทะเลได้ชิล ๆ อีกทั้งยังมีต้นสนขึ้นเรียงรายเต็มแนวชายหาด สร้างความร่มรื่น ที่สำคัญยังเงียบสงบ เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนอย่างแท้จริง
10. เสม็ดนางชี จังหวัดพังงา
จุดชมวิวฮอตฮิตของจังหวัดพังงา ตั้งอยู่ที่อำเภอตะกั่วทุ่ง ไฮไลต์ที่น่าสนใจของการมาเที่ยวที่นี่คือการได้ชมวิวอ่าวพังงาล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนน้อยหลากหลายรูปแบบเรียงตัวกันอย่างสวยงาม แถมเป็นระยะทางยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ราวกับภาพวาดที่มีธรรมชาติเป็นผู้บรรจงสร้างสรรค์อย่างมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีทั้งลานกางเต็นท์และที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยวด้วย
11. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย จังหวัดสระบุรี
น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยมวกเหล็ก มีลักษณะเป็นชั้นเตี้ย ๆ จำนวน 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 1-4 เมตร โดยมีสายน้ำไหลลดหลั่นตามชั้นต่าง ๆ ลงมาเป็นธารน้ำกว้างคล้ายแก่งขนาดใหญ่ มีแอ่งน้ำตื้นสามารถเล่นน้ำได้หลายจุด ชั้นที่นิยมเล่นน้ำคือชั้น 1-4 แต่ชั้น 3 จะมีแอ่งน้ำลึก ต้องเล่นน้ำด้วยความระมัดระวัง และชั้น 4 จะเป็นน้ำตกที่สวยงามกว่าชั้นอื่น ส่วนชั้น 6-7 กระแสน้ำค่อนข้างแรง ไม่เหมาะกับการเล่นน้ำมากนัก
12. น้ำตกเหวสุวัต จังหวัดนครราชสีมา
น้ำตกชื่อดังของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (ฝั่งจังหวัดนครราชสีมา) มีลักษณะเป็นสายน้ำตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 20 เมตรเศษ บริเวณด้านล่างของน้ำตกเป็นแอ่งน้ำและลำธาร เหมาะที่จะลงเล่นน้ำ แต่ในช่วงฤดูฝนนั้นจะมีน้ำมากและไหลแรง การลงเล่นน้ำจึงควรใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่งเพื่อความปลอดภัย
13. น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี
น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ขึ้นชื่อว่าเป็นธารมรกตแห่งผืนป่าตะวันตก ที่นักท่องเที่ยวสามารถมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งกางเต็นท์ เล่นน้ำตก ฟินครบ จบที่นี่ที่เดียว สำหรับตัวน้ำตกมีทั้งหมด 7 ชั้น โดยไฮไลต์อยู่ที่ชั้น 4 ฉัตรแก้ว ซึ่งเป็นแลนมาร์กของอุทยานที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป แต่ไม่มีจุดให้เล่นน้ำ
14. น้ำตกคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
น้ำตกสวยที่ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติคลองลาน อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติเพียง 800 เมตรเท่านั้น ทำให้ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว โดยช่วงฤดูฝนสายน้ำจะไหลจากลำห้วยต่าง ๆ ประมาณ 5 สาย ลงสู่แอ่งน้ำกลางหุบเขา เกิดเป็นวังน้ำลึกและลำน้ำยาว แล้วไหลผ่านหน้าผาลงมาเป็นน้ำตกคลองลาน บริเวณใต้น้ำตกเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่ สามารถลงเล่นน้ำได้
15. น้ำตกปิตุ๊โกร จังหวัดตาก
น้ำตกกลางป่าที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาดอยสามหมื่น อำเภออุ้มผาง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงมากกว่า 500 เมตร ได้ฉายาว่า น้ำตกหัวใจ ด้วยมีสายน้ำสองสายไหลจากหน้าผาลงมาบรรจบกัน จนมีรูปร่างคล้ายกับหัวใจสีขาว รอบ ๆ น้ำตกเป็นต้นไม้น้อยใหญ่นานาพรรณสีเขียวขจี ดูสดชื่นสุด ๆ ทั้งนี้ การเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกปิตุ๊โกรควรไปช่วงหน้าฝน และต้องเดินเท้าเข้าไปประมาณ 8 กิโลเมตร นอนค้างคืนในป่า 1 คืน อีกทั้งต้องมีผู้เชี่ยวชาญเส้นทางนำทาง
16. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
ดอยเสมอดาว ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย เป็นจุดชมวิวที่งดงามแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะสำหรับการนอนเต็นท์พักผ่อน ชมทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และนอนดูดาว อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ใกล้กันเป็นที่ตั้งของ ผาหัวสิงห์ มีรูปร่างเหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออก เมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านบนสุดของผาหัวสิงห์จะสามารถมองเห็นทัศนียภาพโดยรอบได้แบบ 360 องศา
17. ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย
ดอยช้าง หนึ่งในดอยสวยของจังหวัดเชียงราย ขึ้นชื่อในเรื่องการปลูกกาแฟอาราบิก้าชั้นดี เป็นหมู่บ้านกลางหุบเขาสูง รายล้อมด้วยป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายเกือบตลอดทั้งปี มีสวนกาแฟและแปลงปลูกผลไม้เมืองหนาวให้เที่ยวชม พร้อมทั้งได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้านในชุมชน รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเชียงราย (บ้านดอยช้าง), ดอยช้าง คอฟฟี่ เฮ้าส์, พุทธอุทยาน, จุดชมวิวดอยช้าง, หน่วยจัดการต้นน้ำแม่ส้าน รวมถึงร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีให้บริการหลากหลายจุด
18. ดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงราย
ยอดดอยสูงอันเป็นที่ตั้งของชุมชนเก่าแก่ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่สลองนอก อำเภอแม่ฟ้าหลวง เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านสันติคีรี ซึ่งมีถนนทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1130 วิ่งลัดเลาะผ่านหมู่บ้าน บ้านของชาวบ้านก็จะปลูกเรียงรายอยู่บนสันเขาริมสองฟากฝั่งของถนน เมื่อมองจากมุมสูงก็จะคล้ายกับเป็นถนนลอยฟ้า ที่นี่เป็นแหล่งปลูกชาขนาดใหญ่ มีการส่งขายทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงสามารถไปสัมผัสกับวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวบ้าน และลิ้มรสอาหารสไตล์จีนยูนนานมากมาย
19. ขุนช่างเคี่ยน จังหวัดเชียงใหม่
สถานีวิจัยและศูนย์ฝึกอบรมเกษตรที่สูงขุนช่างเคี่ยน หรือที่เรียกกันว่า ขุนช่างเคี่ยน ตั้งอยู่ในเส้นทางเดียวกับพระธาตุดอยสุเทพ บนยอดดอยที่ความสูงประมาณ 1,200-1,300 เมตร จากระดับน้ำทะเล โดยมีพื้นที่ครอบคลุมกว่า 262 ไร่ แบ่งออกเป็น Site A และ Site B จุดที่นักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมมากที่สุดจะอยู่บริเวณ Site A จัดทำขึ้นมาเป็นศูนย์วิจัยเกี่ยวกับพืชเมืองหนาวของคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานที่วิจัยและปลูกกาแฟอาราบิก้า ไม้ผลเมืองหนาว พืชผักเมืองหนาว และพืชอื่น ๆ แต่ได้มีการนำต้นนางพญาเสือโคร่งมาปลูกทำรั้ว พอถึงฤดูกาลที่ดอกนางพญาเสือโคร่งบานจึงทำให้ที่นี่กลายเป็นยอดดอยที่สวยงาม
20. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ทุ่งดอกบัวตองขนาดใหญ่แห่งหนึ่งในไทย และยังเป็นที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนไม่ควรพลาดด้วย เพราะช่วงเวลาที่ดอกบัวตองบานสะพรั่งจะเห็นเป็นภูเขาสีเหลืองทั่วทั้งหุบเขา นักท่องเที่ยวมักจะขึ้นไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทุ่งดอกบัวตองในมุมสูง ซึ่งจะเห็นทั้งทุ่งบัวตองและถนนทางหลวงชนบท มส.4009 ที่คดเคี้ยวไป-มาท่ามกลางหุบเขา โดยช่วงเวลาที่ดอกบัวตองบานจะอยู่ประมาณเดือนพฤศจิกายนของทุกปี และจะบานไปจนถึงประมาณต้นเดือนธันวาคม
21. ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม
ทุ่งดอกกระเจียว ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จะบานสะพรั่งสวยงามราวเดือนมิถุนายน-สิงหาคมของทุกปี โดยดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า ในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว ขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร
22. วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุต ตั้งอยู่ริมถนนบวรนิเวศและถนนพระสุเมรุ เป็นหนึ่งในวัดสำคัญของกรุงเทพฯ ที่ขึ้นชื่อทั้งในเรื่องความงดงามทางสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ เมื่อครั้งอดีตพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงพระผนวช และได้เสด็จมาประทับที่วัดนี้เป็นครั้งแรกก่อนเสด็จขึ้นครองราชย์ และพระมหากษัตริย์อีกหลายพระองค์ นับได้ว่าเป็นวัดสำคัญประจำราชวงศ์จักรีนับตั้งแต่อดีตจวบจนถึงปัจจุบัน ภายในพระอุโบสถประดิษฐานพระประธานอยู่ด้วยกัน 2 องค์ คือ พระสุวรรณเขต และพระพุทธชินสีห์ ให้ได้สักการะขอพร
23. วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร กรุงเทพฯ
วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร หรือที่เรียกกันว่า วัดราชบพิธ พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ฝ่ายธรรมยุต เป็นพระอารามหลวงสุดท้ายที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณี ตั้งอยู่บนถนนเฟื่องนคร ริมคลองหลอด ภายในวัดแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ เขตพุทธาวาส เขตสังฆาวาส และเขตสุสานหลวง คนนิยมไปกราบไหว้ พระพุทธอังคีรส พระพุทธรูปปางสมาธิทรงผ้ากลีบ และ พระพุทธรูปนาคปรก พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์แกะสลักจากหินทราย ศิลปะสมัยลพบุรีเดิม
24. วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ
วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า วัดสุทัศน์ ตั้งอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า เทวสถานสัญลักษณ์สำคัญ ทั้งยังเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรมหาวิหาร เพียงไม่กี่แห่งในกรุงเทพฯ และประเทศไทย ว่ากันว่าในทางสถาปัตยกรรม วัดแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นวัดที่มีการออกแบบได้สัดส่วนงดงามที่สุดในสมัยรัตนโกสินทร์ คนนิยมมากราบไหว้นมัสการพระพุทธรูปสำคัญในวัด เช่น พระศรีศากยมุนี (หลวงพ่อโต), พระพุทธตรีโลกเชษฐ์, พระพุทธเสรฏฐมุนี (หลวงพ่อกลักฝิ่น) และท้าวเวสสุวรรณ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่ 8 ตั้งอยู่ด้วย เพราะถือว่าเป็นวัดประจำรัชกาล
25. วัดโสธรวรารามวรวิหาร จังหวัดฉะเชิงเทรา
วัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือ วัดหลวงพ่อโสธร สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของชาวแปดริ้ว ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ภายในประดิษฐาน หลวงพ่อพระพุทธโสธร หรือที่เรียกกันว่า หลวงพ่อโสธร พระพุทธรูปปางสมาธิ ลงรักปิดทองแบบสมัยล้านช้าง คนนิยมไปกราบไหว้และขอบารมีจากหลวงพ่อให้ปกป้องคุ้มครอง ช่วยบันดาลโชคลาภ เงินทอง บ้างก็ขอให้แคล้วคลาดปลอดภัยและสุขภาพดี โดยเชื่อกันว่าหลวงพ่อโสธรชอบไข่ต้ม จึงจะเห็นร้านขายไข่ต้มตั้งเรียงรายอยู่รอบบริเวณเต็มไปหมด
26. วัดไร่ขิง พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม
วัดเก่าแก่ที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน อำเภอสามพราน ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างเมื่อใด อาศัยจากคำบอกเล่าว่า สร้างตั้งแต่ พ.ศ. 2394 สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เป็นต้นมา เมื่อสร้างวัดเสร็จได้อัญเชิญพระพุทธรูปมาจากวัดศาลาปูน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาประดิษฐานไว้เป็นพระประธานวัด ชาวบ้านเรียกว่า "หลวงพ่อวัดไร่ขิง" เป็นพระพุทธรูปเนื้อทองสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัยแบบประยุกต์ หน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้ว สูง 4 ศอก 16 นิ้วเศษ ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชั้น เบื้องหน้าผ้าทิพย์ปูทอดลงมา เป็นพระประธานอยู่ภายในอุโบสถ
27. วัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วัดโบราณที่ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาทางด้านตะวันตกของเกาะเมือง เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก เมื่อปี พ.ศ. 2534 ถือได้ว่าเป็นวัดสำคัญ เพราะเป็นสถานที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์หลังจากสมัยของพระเจ้าปราสาททอง และยังเป็นสถานที่ถวายพระเพลิงพระศพพระบรมวงศานุวงศ์หลายพระองค์ สิ่งที่โดดเด่นในวัดไชยวัฒนาราม คือ พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ ปรางค์ประธานที่ตั้งอยู่บริเวณกลางวัด และระเบียงคด ที่มีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัยตั้งอยู่กว่า 100 องค์
28. วัดพนัญเชิงวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สถานที่ไหว้พระอยุธยายอดนิยม เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นก่อนสมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่นอกเกาะเมืองอยุธยา ริมแม่น้ำป่าสักบรรจบแม่น้ำเจ้าพระยา สถานที่ประดิษฐาน หลวงพ่อโต พระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิราบ ขนาดใหญ่สุดในจังหวัด ผู้คนมักไปขอพรให้แคล้วคลาดปลอดภัย เสริมบารมี ส่วนคนโสดมักไปไหว้เจ้าแม่สร้อยดอกหมาก ให้สมหวังในความรัก ภายในวัดยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายให้สักการบูชา
29. วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดพิษณุโลก
วัดคู่บ้านคู่เมืองพิษณุโลก ตั้งอยู่ถนนพุทธบูชา อำเภอเมืองพิษณุโลก พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ไม่มีหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อใด สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย ภายในพระวิหารทางทิศตะวันตกของวัด ประดิษฐาน พระพุทธชินราช พระพุทธรูปหล่อด้วยสัมฤทธิ์ ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยที่ได้ชื่อว่ามีพุทธลักษณะงดงามมากที่สุดในประเทศไทย องค์พระสูง 7 ศอก หน้าตักกว้าง 5 ศอก 1 คืบ 5 นิ้ว มีซุ้มเรือนแก้วแกะสลักด้วยไม้สัก ลงรักปิดทองสีเหลืองทองอร่าม
30. วัดพระธาตุดอยพระฌาน จังหวัดลำปาง
วัดพระธาตุดอยพระฌาน หนึ่งในวัดสวยของลำปางที่มีเอกลักษณ์น่าสนใจ ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าตัน อำเภอแม่ทะ ภายในวัดจะแบ่งเป็น 2 ฝั่งหลัก ๆ ฝั่งที่เป็นวัดไทยจะเป็นศิลปะสไตล์ล้านนา มองเห็นพระธาตุสีขาวโดดเด่น เมื่อเดินไปอีกฝั่งหนึ่งจะพบพระพุทธรูปไดบุตสึ จำลองมาจากพระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ ประเทศญี่ปุ่น ตั้งตระหง่านท่ามกลางป่าเขาเขียวขจี ให้อารมณ์และกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นมาก ๆ
31. วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช
ปูชนียสถานที่สำคัญของไทย เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบศรีวิชัย ทั้งยังเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ของคนในจังหวัดนครศรีธรรมราชและใกล้เคียง โดยพระบรมธาตุเจดีย์สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุ หรือพระเขี้ยวแก้วเบื้องซ้าย) องค์พระมหาธาตุประกอบด้วยทองรูปพรรณและของมีค่ามากมาย บริเวณโดยรอบมีการสร้างเจดีย์ 158 องค์ ซึ่งเป็นเจดีย์สำหรับรองรับเงาของพระธาตุ นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น วิหารพระมหาภิเนษกรมณ์ (วิหารพระทรงม้า) วิหารเขียน วิหารคด และวิหารพระมหากัจจายนะ (พระแอด) เป็นต้น
32. ตลาดน้ำตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
แหล่งรวมซื้อ-ขายสินค้าและอาหารคาว-หวานตามวิถีชุมชน ตั้งอยู่บริเวณหน้าสำนักงานเขตตลิ่งชัน เป็นตลาดน้ำที่ผสานชีวิตริมน้ำกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว สองฝั่งคลองรายล้อมไปด้วยสวนผัก-ผลไม้และสวนกล้วยไม้ ร่มรื่น เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับใครที่อยากจะหลบหลีกความวุ่นวายของสังคมเมืองมาพักผ่อนกับธรรมชาติ อิ่มท้องไปกับอาหารพื้นบ้านรสเด็ด และดื่มด่ำไปกับบรรยากาศริมน้ำ
33. ปากคลองตลาด กรุงเทพฯ
แหล่งซื้อหาดอกไม้ขนาดใหญ่ ผลผลิตของเกษตรกรในประเทศส่วนหนึ่งถูกส่งตรงมาที่นี่ ตั้งอยู่บริเวณถนนจักรเพชร ยาวไปจนถึงถนนอัษฎางค์และถนนมหาราช ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แต่เดิมเป็นตลาดค้าปลาขนาดใหญ่ ปัจจุบันเปลี่ยนมาเป็นตลาดจำหน่ายผัก ผลไม้ และดอกไม้สด ราคาย่อมเยา มีทั้งดอกไม้ที่ปลูกในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ
34. ถนนคนเดินเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
ถนนคนเดินเชียงใหม่มีอยู่ 2 แห่ง คือ ถนนคนเดินวัวลาย เริ่มตั้งแต่ปากทางเข้าฝั่งถนนช่างหล่อ ใกล้ประตูเชียงใหม่ จนไปสิ้นสุดที่ถนนทิพย์เนตร เปิดเฉพาะวันเสาร์ เวลา 17.00-22.00 น. และ ถนนคนเดินท่าแพ จากประตูท่าแพเรื่อยไปตามถนนราชดำเนิน จนถึงวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร และจากสี่แยกกลางเวียงเรื่อยไปจนถึงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร เปิดวันอาทิตย์ เวลา 17.00-23.00 น. ทั้ง 2 แห่งเป็นแหล่งละลายทรัพย์ให้นักท่องเที่ยวได้จับจ่ายสินค้าพื้นเมือง งานฝีมือ ของที่ระลึกน่ารัก ๆ รวมไปถึงอาหารคาว-หวาน
35. ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง จังหวัดสมุทรปราการ
ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก ตั้งอยู่ภายในพื้นที่บางกะเจ้า เต็มไปด้วยร้านอาหารและร้านค้าให้เลือกช้อปเลือกชิมกันละลานตา สินค้าขึ้นชื่อที่ควรถือติดไม้ติดมือกลับบ้าน เช่น หมูย่างตะไคร้ เมี่ยงคำ และขนมตะโก้ เป็นต้น นอกจากนี้ใกล้ ๆ กันยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง เช่น สวนศรีนครเขื่อนขันธ์ วัดบางน้ำผึ้งนอก พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย และร้านอาหารบรรยากาศดี คาเฟ่เก๋ ๆ ให้ได้นั่งพักผ่อนชิล ๆ เพียบ โดยสามารถปั่นจักรยานเที่ยวแบบ One Day Trip ได้ด้วย
36. ตลาดน้ำดอนหวาย จังหวัดนครปฐม
ตลาดบนบกริมแม่น้ำท่าจีนในอำเภอสามพราน ที่นี่ครบครันไปด้วยสินค้าแฮนด์เมดน่ารัก ๆ อาหารท้องถิ่น ขนมโบราณและพืชผัก-ผลไม้ท้องถิ่น มีให้เลือกซื้อมากมาย เมนูห้ามพลาดเมื่อไปเที่ยวตลาดน้ำดอนหวาย เช่น เป็ดพะโล้, ต้มเค็มปลาทู, ห่อหมกปลาช่อน, อาหารทะเลย่าง, หมี่โบราณ, ขนมตาล, วุ้นกะทิ และขนมไทยโบราณ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารริมแม่น้ำให้ได้นั่งกินข้าวชมวิวรับลมเย็น ๆ
37. ย่านเมืองเก่า จังหวัดสงขลา
ย่านเมืองเก่าสงขลา ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมือง มีถนนสายสำคัญน่าเดินเที่ยว 3 สาย คือ ถนนนครนอก ถนนนครใน และถนนนางงาม ปัจจุบันยังคงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้ มีห้องแถวไม้แบบจีน ตึกคลาสสิกสไตล์ชิโน-โปรตุกีส ศาลเจ้าพ่อกวนอู โรงแรมนางงาม โรงแรมไม้เก่าแก่ประดับลายฉลุไม้วิจิตรบรรจง ขนมอร่อยทั้งไทย จีน และฝรั่ง ให้เลือกชิมหลากหลาย รวมถึงมีการฟื้นฟูการท่องเที่ยวโดยการให้ศิลปินท้องถิ่นวาดภาพสตรีตอาร์ตลงบนกำแพงต่าง ๆ รอบ ๆ เขตเมืองเก่า สะท้อนวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นอีกด้วย
38. มอหินขาว จังหวัดชัยภูมิ
กลุ่มเสาหินทรายสีขาวขนาดใหญ่ ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบนลานหญ้ากว้างบริเวณเนินเขาภายในอุทยานแห่งชาติภูแลนคา อำเภอเมืองชัยภูมิ บริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ จากบริเวณลานมอหินขาวสามารถมองเห็นแนวเทือกเขาเบื้องหน้า พร้อมทั้งผืนป่าสีเขียวขจีได้อย่างชัดเจน ที่สำคัญที่นี่คือจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทย พร้อมทั้งเป็นลานกางเต็นท์เพื่อนอนชมทะเลดาวได้ด้วย
39. เมืองโบราณศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
เมืองโบราณ อายุราว 1,400 ปี ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรม เมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2566 โดยนับเอาพื้นที่ที่เป็น 3 องค์ประกอบอันทรงคุณค่าและมีความเชื่อมโยงกันทั้งในด้านธรรมชาติและวัฒนธรรม ได้แก่ เมืองโบราณศรีเทพ โบราณสถานเขาคลังนอก และเขาถมอรัตน์ ซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดเชื่อมโยงเครือข่ายของการแลกเปลี่ยนสินค้า เส้นทางการค้า และวัฒนธรรมระหว่างพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีความสำคัญมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลายต่อเนื่องจนถึงวัฒนธรรมเขมรโบราณ (พุทธศตวรรษที่ 9-18) ที่ยังคงไว้ซึ่งซากปรักหักพังและสิ่งปลูกสร้างที่สมบูรณ์
40. อุทยานประวัติศาสตร์ภูพระบาท จังหวัดอุดรธานี
มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 5 ของประเทศไทย ตั้งอยู่บนภูเขาที่ชื่อว่าภูพระบาท ในเขตพื้นที่เมืองพาน และเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาภูพาน ที่นี่ไม่ใช่แค่อุทยานประวัติศาสตร์ธรรมดา แต่ยังเป็นสถานที่ให้ทุกคนได้มาสัมผัสความมหัศจรรย์ของธรรมชาติและอารยธรรมโบราณที่สอดประสานกันอย่างลงตัว โดยมีเอกลักษณ์โดดเด่นคือโขดหินทรายที่กระจายตามพื้นที่จำนวนมาก รวมถึงมีการค้นพบหลักฐานเกี่ยวกับกิจกรรมของมนุษย์ในสมัยทวารวดี ซึ่งอยู่ในช่วงพุทธศตวรรษที่ 12-16 โดยมีการดัดแปลงโขดหินและเพิงหินทรายบนภูพระบาทไปเป็นศาสนสถานอยู่หลายจุด
41. สวนพฤกษศาสตร์ จังหวัดระยอง
ศูนย์ศึกษาวิจัยและรวบรวมพรรณไม้ของภาคตะวันออก เพื่อที่จะอนุรักษ์พรรณพืชให้คงอยู่สืบต่อไป ตั้งอยู่ในพื้นที่บึงสำนักใหญ่ (หนองจำรุง) ตำบลชากพง อำเภอแกลง ครอบคลุมพื้นที่กว่า 3,800 ไร่ เป็นบึงน้ำจืดธรรมชาติคล้ายแอ่งกระทะ คอยรองรับน้ำที่ไหลมารวมกัน โดยมีเกาะตั้งอยู่กลางบึง ประกอบไปด้วยป่าเสม็ดขาวและสังคมพืชท้องถิ่นที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมธรรมชาติ พร้อมกับสามารถพายเรือคายักชมสภาพนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด หรือจะปั่นจักรยาน เดินศึกษาพรรณไม้ต่าง ๆ ก็ได้ด้วย
42. ลานหินสีชมพู จังหวัดจันทบุรี
ลานหินสีชมพู ตั้งอยู่ในบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน อำเภอท่าใหม่ โดยหินสีชมพูชนิดนี้เป็นหินทรายอาร์โคส (Arkosic Sandstone) ที่มีส่วนผสมของธาตุเหล็กมาก จึงมีลักษณะสีแดงอมชมพู สีชมพูอมม่วง ไปจนถึงสีม่วงอมน้ำตาลแดง ช่วงเวลาที่จะเห็นชัดเจนคือตอนที่มีแสงแดดกระทบ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติเขาบ่อเตย ระยะทางประมาณ 1,000 เมตร ให้ได้เดินดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วย
43. เขาล่องเรือตาหมื่น จังหวัดพิษณุโลก
ภูเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา ที่ต้องปีนป่ายขึ้นไปถึงจะพบกับความงามด้านบน ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านมุง อำเภอเนินมะปราง สถานที่ท่องเที่ยวแนวผจญภัย เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทาย เพราะบริเวณส่วนยอดของภูเขาลูกนี้จะมีลักษณะเป็นแนวหินแหลมคล้ายใบหอกสลับซับซ้อนกัน เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกอันงดงาม จนได้รับฉายาว่าอัญมณีแห่งบ้านมุง นอกจากนี้ยังมีจุดปีนป่ายให้ขึ้นไปเช็กอินหลายจุด นักท่องเที่ยวสามารถกางเต็นท์เพื่อพักค้างแรมได้
44. อุทยานหินเขางู จังหวัดราชบุรี
แหล่งภูเขาหินปูน ในสวนสาธารณะเขางู ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติสวยแปลกตา มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนสีขาวและน้ำตาลอ่อน ล้อมรอบด้วยอ่างเก็บน้ำใส ท่ามกลางบรรยากาศชิล ๆ จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูปอยู่บริเวณสะพานเลียบแม่น้ำทอดยาว รวมถึงยังมีศาลานั่งพักผ่อนและเรือเป็ดให้ปั่นออกกำลังขากันด้วย
45. ทะเลแหวก จังหวัดกระบี่
สิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์เอาไว้อย่างสวยงาม สำหรับทะเลแหวก 3 เกาะ ได้แก่ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากอิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลง ทำให้เกิดเป็นสันทรายสีขาวสะอาดทอดตัวยาวสวยงาม โดยจะเกิดขึ้นก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน นักท่องเที่ยวสามารถเดินชิลไป-มาระหว่างเกาะได้ ทั้งนี้ แนะนำให้ไปเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม เพราะจะได้เห็นทะเลแหวกแบบสวยสุด ๆ เลยล่ะ
46. แหลมพรหมเทพ จังหวัดภูเก็ต
แหลมปลายสุดของจังหวัดภูเก็ต เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกดินชื่อดัง เพราะสามารถมองเห็นพระอาทิตย์เคลื่อนตัวลงสู่ทะเลได้อย่างชัดเจน ลักษณะเป็นแหลมที่ยื่นลงไปในทะเล มีต้นตาลขึ้นเป็นหย่อม ๆ นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปได้จนสุดปลายแหลม จะเห็นท้องทะเลที่กว้างใหญ่ ทางด้านซ้ายเป็นหาดทรายขาวของหาดในยะ และทางด้านขวาจะเป็นหาดในหาน พร้อมรับลมเย็น ๆ บรรยากาศผ่อนคลายมากทีเดียว
47. หุบป่าตาด จังหวัดอุทัยธานี
หุบป่าตาด ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของไทย ไฮไลต์คือการได้เห็น ต้นตาด พืชตระกูลปาล์มดึกดำบรรพ์ที่พบมากในบริเวณหุบเขาหินปูนแห่งนี้ และ กิ้งกือมังกรสีชมพู สัตว์หายากของโลกที่สามารถพบเห็นได้ที่นี่ด้วย ซึ่งหากไปช่วงฤดูฝนจะพบเห็นได้มากกว่าช่วงอื่น รวมถึงมีถ้ำลึกลับซ่อนตัวอยู่ สามารถเดินทะลุถ้ำได้ ระยะทาง 100 เมตร
48. เขตข้ามกาลเวลาเขาโต๊ะหงาย จังหวัดสตูล
สถานที่ท่องเที่ยวสตูลในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อยู่บริเวณเขาโต๊ะหงาย อำเภอละงู เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงธรรมชาติ โดยเฉพาะด้านธรณีวิทยา เพราะพบรอยสัมผัสของหินที่มีอายุแตกต่างกัน 2 ยุค คือ หินทรายสีแดงยุคแคมเบรียน อายุประมาณ 541-485 ล้านปี และหินปูนยุคออร์โดวิเชียน อายุประมาณ 485-444 ล้านปี โดยรอยสัมผัสของหินดังกล่าวเกิดจากการเลื่อนตัวของเปลือกโลก มีความชัดเจนมาก เสมือนเป็นเขตข้ามกาลเวลาที่เราสามารถก้าวข้ามจากยุคแคมเบรียนไปสู่ยุคออร์โดวิเชียนได้เพียงก้าวเดียว นอกจากนี้บริเวณเขตข้ามกาลเวลายังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม รวมถึงมีสะพานที่เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติทอดยาวเลียบชายฝั่งไปจนถึงที่ทำการอุทยานให้ได้เดินชมธรรมชาติด้วย
49. คลองปากประ จังหวัดพัทลุง
ปากประ ทะเลสาบผืนน้อยของพัทลุง ภาพวิถีชีวิตประมงพื้นบ้าน การยกยอ พร้อมกับแสงแรกของพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ล้วนเป็นภาพความสวยงามที่เราทั้งหลายต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยได้พบเจอ รวมถึงยังเป็นสวรรค์ของบรรดานักถ่ายภาพทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ที่อยากจะถ่ายภาพเก็บความทรงจำนี้เอาไว้ตลอดกาล ทั้งยังเป็นสวรรค์ของนักดูนก เพราะจะได้พบเจอกับนกน้ำนานาชนิด นกท้องถิ่น และนกอพยพ ที่บินมาทักทายกันข้ามขอบฟ้าเลยทีเดียว
50. สกายวอล์กทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา
จุดชมวิวทะเลหมอกในรูปแบบสกายวอล์ก สามารถมองเห็นวิวได้แบบ 360 องศา ตลอดทั้งปี ตั้งอยู่บนยอดเขาไมโครเวฟ ใกล้เคียงกับเสาทวนสัญญาณและจุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ในพื้นที่บ้านธารมะลิ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง โครงสร้างอาคารเป็นเหล็กรูปพรรณ ความสูง 45 เมตร โดยมีลักษณะเป็นทางเดินยื่นออกไปในอากาศ 33 เมตร มองเห็นวิวของขุนเขาน้อยใหญ่รอบ ๆ จุดไฮไลต์อยู่ที่ระเบียงพื้นกระจกใส อีกทั้งผนังของสะพานยังสร้างเป็นกระจกใสด้วยเช่นกัน
และนี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวไทยเพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมาแนะนำ เมืองไทยยังมีแหล่งท่องเที่ยวสวยตระการตาอีกมากมาย เอาเป็นว่าหากมีโอกาสอย่าลืมออกไปท่องเที่ยวกันนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจการมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจการมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
แนะนำ สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
+++ แนะนำที่เที่ยวทะเล หาด และเกาะสวย ๆ
+++ รวมโรงแรม รีสอร์ต ที่พักวิวสวย ๆ หลากแบบหลายสไตล์
+++ มัดรวมร้านอาหาร บุฟเฟต์นานาชาติ และของกินย่านต่าง ๆ
+++ พิกัดที่เที่ยวต่างประเทศ ทั้งเอเชีย ยุโรป และประเทศใกล้ไทย