สถานที่ท่องเที่ยว คัดเน้น ๆ 50 ที่เที่ยวไทย มีครบทั้งวัด ทะเล ภูเขา

          ดินแดนที่อุดมไปด้วยผืนน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ มีเกาะหลัก ๆ ทั้งหมด 11 เกาะ ได้แก่ เกาะหูยง (เกาะหนึ่ง), เกาะปายัง (เกาะสอง), เกาะปาหยัน (เกาะสาม), เกาะเมียง (เกาะสี่), เกาะห้า, เกาะหก, เกาะปายู (เกาะเจ็ด), เกาะสิมิลัน (เกาะแปด), เกาะบางู (เกาะเก้า), เกาะตาชัย และเกาะบอน ซึ่งล้วนแต่มีหาดทรายที่สวยงาม พร้อมกับแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นสัตว์ทะเลที่หลากหลาย นอกจากนี้หมู่เกาะสิมิลันยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติและจุดชมวิวที่สวยงามตามเกาะต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม - 15 พฤษภาคม ของทุกปี
          + ข้อควรรู้หมู่เกาะสิมิลัน ทะเลในฝันของนักท่องเที่ยวทั่วโลก

2. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา

          สวรรค์แห่งการดำน้ำที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการมาสัมผัสสักครั้ง เกาะต่าง ๆ เต็มไปด้วยแนวปะการังหลากสีสัน เป็นสถานที่ดำน้ำลึกและน้ำตื้นยอดนิยมของคนทั่วโลก ผืนน้ำทะเลใสสะอาด พร้อมทั้งหาดทรายยังขาวเนียนนุ่ม มองดูโดดเด่นกลางทะเลอันดามัน บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์จะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม - 15 พฤษภาคม ของทุกปี

          + พาไปตะลุย 10 ที่เที่ยวในอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์

3. หมู่เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

          หมู่เกาะที่เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา-หมู่เกาะพีพี โดยมีภาพของเวิ้งอ่าวคู่ อันเป็นสัญลักษณ์ของเกาะพีพี ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเยือนทะเลไทยอย่างมากมาย หาดทรายขาวของทั้งอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม พร้อมทั้งน้ำทะเลใส สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวตลอดมา อีกทั้งอ่าวมาหยาอันเลื่องชื่อ ซึ่งอยู่ท่ามกลางอ้อมกอดของภูเขาหินปูน จะทำให้คุณจดจำเกาะพีพีไม่มีวันลืม

          + เที่ยวกระบี่ เที่ยวหมู่เกาะพีพี


4. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล

          สัมผัสหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าครามใส พร้อมทั้งแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ และยังชุกชุมไปด้วยปลาและสัตว์ทะเลอีกหลากหลายชนิดของเกาะหลีเป๊ะ เรียนรู้วิถีชีวิตชาวอูรักลาโว้ย และร่วมสนุกสนานกับสีสันบนเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลอันดามันที่คุณจะไม่มีวันลืม

          + 15 เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ รู้ไว้จะได้เที่ยวเพลิน ๆ


5. เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล

          ดินแดนของนักโทษการเมืองในอดีต ที่เล่าขานกันว่าเป็นนรกกลางทะเลอันดามัน ทว่าปัจจุบันกลับกลายเป็นสวรรค์ของผู้รักการเดินทางไปเสียแล้ว เหตุเพราะมีทิวทัศน์ที่งดงาม ผืนน้ำใสสีมรกต ทรัพยากรใต้ท้องทะเลก็ยังคงอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังมีประติมากรรมธรรมชาติที่ "เกาะไข่" และหาดหินบน "เกาะหินงาม" หรือ "เกาะอาดัง เกาะราวี" ที่มีหาดทรายสีขาวนุ่มเนียนละเอียดลออ รวมไปถึงอีกหลายเกาะ หลายอ่าวที่แสนงดงาม

          + เกาะตะรุเตา สวรรค์ของนักเดินทาง ผู้หลงรักท้องทะเล


6. เกาะกระดาน จังหวัดตรัง

          เพลิดเพลินไปกับหาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสแจ๋ว และแนวปะการังที่สวยงาม ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่เรียบง่าย และห้ามพลาดการเข้าร่วมงานวิวาห์ใต้สมุทร อันเป็นกิจกรรมที่โด่งดังไปทั่วโลก เกาะกระดาน จังหวัดตรัง จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในทะเลตรังที่คุณต้องไม่พลาด

          + เกาะกระดาน ความงดงามของท้องทะเลตรัง


7. เกาะรอก จังหวัดกระบี่

          เจ้าของฉายาราชินีแห่งอันดามัน ด้วยธรรมชาติทั้งป่าเขาบนเกาะและธรรมชาติใต้ท้องทะเลยังคงมีความอุดมสมบูรณ์อย่างมาก มีหาดทรายขาวสะอาดโดดเด่น น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส สามารถมองเห็นใต้ทะเลได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีแนวปะการังหลากสีสัน ที่นี่จึงกลายเป็นจุดดำน้ำยอดนิยมสำหรับคนรักการดำน้ำ

          + 9 เหตุผลดี ๆ ว่าทำไมต้องไปเที่ยวเกาะรอกดูสักครั้ง


8. ถ้ำมรกต จังหวัดตรัง

          หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "ถ้ำน้ำ" ตั้งอยู่บริเวณเกาะมุก มีความยาวทั้งหมด 80 เมตร ที่นี่ถือเป็นถ้ำน้ำทะเลที่มีความงดงามตระการตาอย่างมาก จากปากทางเข้าถ้ำซึ่งเป็นโพรงเล็ก ๆ จะเข้า-ออกได้เฉพาะช่วงน้ำลงเท่านั้น ปากถ้ำเป็นโพรงเล็ก ๆ การเข้า-ออกจะต้องลอยคอในน้ำ ลอดถ้ำอันมืดมิดผ่านเส้นทางคดโค้ง ระยะทางจากปากถ้ำเข้าไปประมาณ 80 เมตร เข้าแถวเรียงหนึ่งตามคนนำทาง จับคนข้างหน้าไว้ให้มั่น ไม่งั้นอาจหลงทางได้ เมื่อพ้นปากถ้ำออกมาอีกด้านหนึ่งจะเป็นหายทรายขาวสะอาด น้ำใสน่าเล่น ล้อมรอบด้วยหน้าผาสูงชัน ที่มีท้องฟ้าเป็นหลังคาและผนังแต่งแต้มด้วยลายเขียวของใบไม้

          + ถ้ำมรกต ความมหัศจรรย์กลางทะเลตรัง


9. เกาะปันหยี จังหวัดพังงา

          เกาะกลางทะเลตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลเกาะปันหยี อำเภอเมือง จังหวัดพังงา เป็นหมู่บ้านของชาวมุสลิมกลางน้ำ ซึ่งมีมายาวนานมากกว่า 200 ปี  ชาวบ้านยังคงใช้วิถีชีวิตแบบชาวเลแท้ ๆ ภายในเกาะมีบ้านเรือนของชาวบ้าน ที่สร้างขึ้นจากวัสดุธรรมชาติ มีมัสยิด รวมทั้งสนามฟุตบอลขนาดเล็กของเด็ก ๆ ในหมู่บ้าน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมวิถีชีวิตอันเรียบง่ายแล้ว ยังจะได้ลิ้มลองอาหารทะเลสดใหม่ อาหารพื้นเมือง พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าแฮนด์เมดของชาวบ้านอีกด้วย

          + 15 เรื่องน่ารู้เกาะปันหยี จ.พังงา อัศจรรย์วิถีชีวิตหมู่บ้านกลางทะเล


10. เกาะพยาม จังหวัดระนอง

          เกาะที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจากเกาะช้าง (ระนอง) ตอนกลางของพื้นที่เกาะเป็นป่าไม้และสัตว์ป่านานาชนิด เช่น นก ลิง และหมูป่า ที่นี่ยังมีบ้านพักเอาไว้บริการนักท่องเที่ยวทั้งแบบวิลล่ากลางน้ำ วิวสวย จนได้รับการขนานนามว่าเป็นมัลดีฟส์เมืองไทย เกาะพยามมีหาดใหญ่ ๆ อยู่ 5 หาด มีป่า ต้นไม้ใหญ่ หาดชายเลน สวนยาง และเป็นแหล่งดูนกเงือก พูดได้ว่าเกาะพยามยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีธรรมชาติค่อนข้างอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งเลยทีเดียว

          + ที่เที่ยวเกาะพยาม ระนอง กับกิจกรรมสนุก ๆ ไปได้ทั้งปีไม่เหงา


11. เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          เกาะเล็ก ๆ ที่เงียบสงบ ตั้งอยู่ข้างเกาะเต่า ประกอบด้วยเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะ เชื่อมต่อด้วยแนวสันทรายสีขาวสะอาดตา ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าใสอย่างงดงาม เป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักเกาะนางยวน ซึ่งเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ กลางอ่าวไทยที่เงียบสงบ มีแนวปะการังสวยงาม เป็นสวรรค์ของนักดำน้ำที่ต้องมาเยือนกันสักครั้ง

          + หนีไปติด 15 เกาะในทะเลไทย ไม่ไปเดี๋ยวเชยนะ


12. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          ห่างจากเกาะนางยวนไปประมาณ 480 เมตร ก็จะเป็นที่ตั้งของเกาะเต่า ที่นี่มีธรรมชาติของท้องทะเลที่สวยงามไม่แพ้เกาะนางยวน ทั้งน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายขาวและเงียบสงบ มีโรงแรมและรีสอร์ตหรูหรา สามารถหลบมาพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างดีเยี่ยม

          + หนีร้อนท่องทะเล เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี

13. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          เกาะกลางทะเลอ่าวไทย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ไม่ได้มีเพียงแค่หาดทรายขาวสะอาด และน้ำทะเลใสสวยงามเท่านั้น แต่ที่นี่ยังเป็นสถานที่แห่งความสนุกสนานเต็มรูปแบบ มีกิจกรรมมากมายที่จัดขึ้นเพื่อสร้างสีสันให้เกาะสมุย พร้อมทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งยังเดินทางได้ง่าย ๆ ด้วยเครื่องบิน เพราะมีสนามบินสไตล์บูติกที่มีความสวยงามติดอันดับโลกรองรับอยู่บนเกาะแห่งนี้อีกด้วย

          + 17 ข้อน่ารู้ก่อนไปเที่ยวเกาะสมุย รู้ไว้จะได้ไม่เที่ยวแบบงง ๆ


14. เกาะช้าง จังหวัดตราด

          เกาะที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของเมืองไทย แห่งท้องทะเลตราด เพียบพร้อมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติทั้งป่าเขาและท้องทะเลที่สวยงาม อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย หากใครได้มาดินเนอร์ริมชายหาดที่เกาะแห่งนี้...บอกเลยว่าจะฟินมาก !

          + เกาะช้าง ที่เที่ยวตราด สถานที่น่าไปเยือนทางภาคตะวันออก


15. เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง

          ที่เที่ยวทางทะเลสุดโรแมนติกที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ เพียงแค่เอื้อม ซึ่งมาพร้อมกับหาดทรายยาวสวยงาม มีน้ำทะเลใสโอบล้อม นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นดินแดนแห่งความบันเทิง มีผับบาร์ ร้านอาหารริมทะเลมากมาย รวมทั้งยังมีกิจกรรมทางน้ำมัน ๆ ให้เล่นกันด้วย ทางด้านที่พักเกาะเสม็ดก็มีให้เลือกหลากแบบหลายสไตล์ เรียกได้ว่าตอบโจทย์ทุกความต้องการ

          + เรื่องน่ารู้เกาะเสม็ด ระยอง ใกล้กรุงเทพฯ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้

16. เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี

          ดินแดนสวรรค์แห่งท้องทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มาก ๆ ไม่มีรถก็สามารถไปได้ง่าย ๆ ค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ที่สำคัญน้ำทะเลใส หาดทรายขาวมาก ๆ มีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกทำเยอะไปหมด ไม่ว่าจะเป็นดำน้ำดูปะการัง เล่นกีฬาทางน้ำอย่างเรือลากร่มชูชีพ เรือสกี หรือสกู๊ตเตอร์ แถมยังมีที่พักเกาะล้านหลายสไตล์ ราคาโดนใจ ให้เลือกสรรตามใจชอบอีกเพียบ

          + เกาะล้าน สารพันเรื่องน่ารู้ เที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ด้วยตัวเองไม่ยาก

17. เกาะกูด จังหวัดตราด

          หากถามถึงทะเลไทยที่สวยงาม เชื่อได้เลยว่าจะต้องมีชื่อของ "เกาะกูด" อยู่ด้วยอย่างแน่นอน เกาะกูดมีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดตราด บริเวณโดยรอบล้อมรอบไปด้วยแนวปะการังที่สวยงามและท้องทะเลสีฟ้าครามใส มีหาดทรายขาว สะอาด เนียนนุ่ม บนเกาะมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

          + เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวเกาะกูด อันดามันแห่งทะเลตะวันออก


18. เกาะหมาก จังหวัดตราด

          เกาะสวยที่ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างและเกาะกูด ที่นี่มีธรรมชาติของทั้งบนเกาะและในท้องทะเลที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ น้ำทะเลจะเป็นสีฟ้าอมเขียวใส สามารถมองเห็นแนวปะการังใต้ท้องทะเลได้จากบนเรืออย่างงดงาม อีกทั้งบนเกาะยังเต็มไปด้วยสวนมะพร้าวอันร่มรื่น มีอ่าวและหาดทรายสวยงามหลายแห่ง ทำให้นักท่องเที่ยวได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างเต็มที่ ชาวบ้านบนเกาะยังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเช่นเดียวกับที่เกาะกูด ที่นี่จึงเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาที่พักผ่อนอย่างแท้จริง

          + 25 ข้อควรรู้เกาะหมาก จังหวัดตราด รู้ไว้ไปเที่ยวได้แบบกูรู

19. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

          ถ้าถามถึงดินแดนทะเลหมอกสุดอลังการในเมืองไทย หนึ่งในนั้นต้องมีภูทับเบิกอย่างแน่นอน ด้วยภูทับเบิกถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาทั้งน้อยใหญ่ บริเวณโดยรอบเป็นป่าเขาเขียวขจีสมบูรณ์ ทำให้ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวจะเกิดปรากฏการณ์ทะเลหมอกสุดอลังการ อีกทั้งยังมีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกประทับใจ

          + เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี เดินทางอย่างไร คำถามเหล่านี้มีคำตอบ

20. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

          เขาค้อ สถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดของจังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งนอกจากจะเป็นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทยแล้ว ยังเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยสุด ๆ อีกด้วย นักท่องเที่ยวจึงเลือกที่จะมานอนพักผ่อน เสพอากาศบริสุทธิ์และสัมผัสกับอากาศหนาวเย็นกันที่นี่ในช่วงวันหยุด ซึ่งในเขาค้อก็มีที่พักหลากหลายแบบให้ได้เลือกพักกัน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวในเขาค้อที่ห้ามพลาด เช่น พระตำหนักเขาค้อ, พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก และอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ ฯลฯ
21. ภูกระดึง จังหวัดเลย

          เส้นทางเดินป่าสุดคลาสสิกที่ต้องไปลองพิชิตกันให้ได้สักครั้งในชีวิต ซึ่งตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นต้นไม้ป่า ดอกไม้ป่านานาพรรณ พร้อมกับจุดท่องเที่ยวมากมาย ยิ่งในช่วงที่ใบเมเปิลเปลี่ยนสีจะยิ่งสวยงาม ซึ่งส่วนใหญ่ต้นเมเปิลจะตั้งอยู่บริเวณริมน้ำตก เมื่อใบเมเปิลสีแดงสดร่วงลงสู่โขดหินที่มีตะไคร่น้ำสีเขียว บริเวณนี้จะงดงามมากจนกลายเป็นจุดถ่ายภาพที่ห้ามพลาดไปเลยทีเดียว นอกจากนี้ภูกระดึงยังมีจุดที่น่าสนใจ เช่น ผานกนางแอ่น, ผาหล่มสัก, สระอโนดาต, น้ำตกวังกวาง, น้ำตกเพ็ญพบใหม่ และน้ำตกโผนพบ ฯลฯ

          + ภูกระดึง ขุนเขามหัศจรรย์แห่งเมืองเลย

22. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

          ยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ธรรมชาติโดยรอบอุดมสมบูรณ์ มีจุดท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงมากมาย ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวดอยอินทนนท์ในช่วงฤดูกาลไหน ก็จะได้สัมผัสกับความสวยงามของดอยอินทนนท์อย่างเต็มอิ่ม  และไฮไลต์หนึ่งที่ไม่ควรพลาดก็คือเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางที่ลัดเลาะป่าไม้ ทุ่งหญ้า ไปจนถึงจุดชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ได้อย่างงดงาม โดยเฉพาะในช่วงที่มีทะเลหมอก บริเวณนี้จะสามารถชมทะเลหมอกได้อย่างกว้างไกล

          + 40 ข้อต้องรู้ แล้วการเที่ยวดอยอินทนนท์ของคุณจะสนุกยิ่งขึ้น


23. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

          สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับการไปพักผ่อนกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ด้วยตั้งอยู่บนยอดดอยสูง ซึ่งโอบล้อมไปด้วยภูเขามากมาย อีกทั้งยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางมีเพียงแปลงปลูกพืชพรรณต่าง ๆ และบริเวณรอบ ๆ ก็มีเพียงหมู่บ้านของชาวไทยภูเขาเท่านั้น บรรยากาศจึงเงียบสงบ ใครที่กำลังมองหาสักสถานที่เพื่อการพักผ่อนอย่างจริงจัง ต้องลองมาสัมผัสอ่างขางสักครั้งแล้วคุณจะหลงรักที่นี่แน่นอน

          + ดอยอ่างขาง ชมดอกไม้เมืองหนาว

24. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

          สวรรค์ของคนรักหมอก ยอดดอยสูงเสียดฟ้าและหน้าผาปลายยอดแหลมที่ยื่นออกไปอย่างสง่างาม เป็นจุดชมวิวที่งดงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ยามเช้าจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกสุดอลังการ มีแสงพระอาทิตย์สีทองที่ค่อย ๆ โผล่พ้นขึ้นจากขอบฟ้าทอลงมาที่หมอกสีขาวอย่างสวยงาม และยังสามารถมองเห็นขุนเขาและธรรมชาติอันงดงามของทางฝั่งประเทศลาวได้อย่างชัดเจนทีเดียว

          + ท่องทะเลหมอก บนยอดภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย


25. ภูสอยดาว จังหวัดพิษณุโลก, จังหวัดอุตรดิตถ์

          อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว หรือที่เรียกกันว่า "ภูสอยดาว" ตั้งอยู่ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด โดยช่วงที่สวยที่สุดจะอยู่ในช่วงเข้าฤดูฝนเต็มตัวประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่การเดินป่าภูสอยดาวมีทั้งความสนุก น่าตื่นเต้น และท้าทายมากที่สุด แถมยังได้ชมความงามของลานดอกไม้ป่าที่ละลานตา มีทั้งดอกหงอนนาค, ดอกหญ้ารากหอม, ดอกสร้อยสุวรรณา และดอกกระดุมเงิน ฯลฯ แต่ในช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวก็นิยมไปนอนสัมผัสกับอากาศหนาวเช่นกัน

          + 15 เรื่องรู้ไว้ก่อนไปภูสอยดาว ปักหมุดชมทุ่งหญ้า ป่าสน และดอกไม้งาม

26. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

          ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว นับเป็นภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตาในอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลมากกว่า 2,225 เมตร สูงเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย ผจญภัยไปกับเส้นทางเดินป่าสุดประทับใจ เพื่อพิชิตยอดดอย แล้วไปนอนมองทะเลดาวและทะเลหมอกสุดอลังการจากด้านบน เป็นประสบการณ์ที่คุณต้องจดจำไปตลอดแน่นอน

          + ที่เที่ยวเชียงดาว เมืองสวรรค์แห่งขุนเขา ดาวเด่นห้ามพลาดของเชียงใหม่

27. ม่อนจอง จังหวัดเชียงใหม่

          ยอดดอยสูงที่มีรูปร่างสวยงามแปลกตา ตั้งอยู่ที่ตำบลอมก๋อย อำเภออมก๋อย สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,929 เมตร เรียกจุดที่สูงที่สุดของดอยม่อนจองว่า "หัวสิงห์" เพราะมีลักษณะคล้ายกับหัวสิงโต เส้นทางการเดินขึ้นไปยังหัวสิงห์นั้นค่อนข้างท้าทาย เพราะบางช่วงต้องเดินบนไหล่เขาหรือสันเขา จึงมีทัศนียภาพที่สวยงาม ที่นี่มีต้นกุหลาบพันปี ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นต้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

          + พิชิต 15 ยอดเขาสูงของไทย ที่สุดแห่งความงามปลายขอบฟ้า
30. เขาใหญ่

          อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า "เขาใหญ่" ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี ที่นี่เป็นอาณาจักรของธรรมชาติที่ใหญ่อันดับต้น ๆ ของเมืองไทย และยังอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกด้วย การเดินทางสะดวกสบาย ขับรถเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับยังได้ อากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี เขาใหญ่จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมความบันเทิง ไม่ว่าจะเป็นแรลลี่ คอนเสิร์ต อยู่บ่อย ๆ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวเขาใหญ่เรื่อย ๆ

          + ที่เที่ยวเขาใหญ่ สนุกครบรส ฟินกับธรรมชาติดี ๆ ได้ตลอดทั้งปี

31. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

          อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของจังหวัดนครราชสีมา มีภูเขา ป่าไม้ และสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ที่สำคัญยังมีอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น ยิ่งถ้าใครที่ชอบบรรยากาศสีเขียว ๆ อากาศเย็น ๆ บอกเลยค่ะว่าหน้าฝนนี้ห้ามพลาดที่จะไปเยือนวังน้ำเขียวเลยเชียวนะ ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดเมื่อไปเยือนวังน้ำเขียว เช่น เขาแผงม้า, A Cup of Love, ไร่สตรอว์เบอร์รี และสวนองุ่น ฯลฯ

          + 20 ที่เที่ยววังน้ำเขียวห้ามพลาด ธรรมชาติสวยสมบูรณ์กับอากาศที่บริสุทธิ์

32. เชียงคาน จังหวัดเลย

          อำเภอริมแม่น้ำโขงในจังหวัดเลย หนึ่งในที่เที่ยวยอดนิยม เหมาะสำหรับการพักผ่อนในวันชิล ๆ และถึงแม้ว่าในช่วงระยะหลังเชียงคานจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวจนหนาตา แต่นั่นก็ไม่อาจลบเสน่ห์ของภาพบ้านไม้หลังเล็ก ๆ ตลอดจนวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่ยินดีพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่เสมอ ซึ่งกิจกรรมห้ามพลาดเมื่อมาเชียงคานคือการตักบาตรข้าวเหนียว และการเดินช้อปปิ้งที่ถนนคนเดินเชียงคาน อีกหนึ่งสีสันท่องเที่ยวยามค่ำคืน
 
          + 16 เรื่องน่ารู้ก่อนไปเชียงคาน รู้แล้วจะเที่ยวสนุกแบบคูณสอง

33. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

          อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดกาญจนบุรี ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาและสายน้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังตั้งอยู่ที่นี่ นั่นก็คือ "สะพานมอญ" ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีความยาวติดอันดับต้น ๆ ของโลก และยังมีเมืองบาดาล เมืองโบราณที่จะจมอยู่ใต้น้ำในฤดูน้ำหลากให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมของชาวมอญ นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน ได้ลองกินอาหารพื้นเมือง ได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติและบรรยากาศสุดเงียบสงบ

          + ที่เที่ยวสังขละบุรี กาญจนบุรี ชมธรรมชาติ ดื่มด่ำวัฒนธรรม

38. อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา
49. น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี
          น้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของไทย ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อำเภอศรีสวัสดิ์ มีลักษณะเป็นน้ำตกหินปูน น้ำเป็นสีเขียวมรกตใส มีความสวยงามมาก แบ่งออกเป็น 7 ชั้น มีระยะทางทั้งหมดประมาณ 2,200 เมตร มีชื่อเรียกต่าง ๆ ไล่กันไปตั้งแต่ชั้นที่ 1-7 ได้แก่ ไหลคืนรัง, วังมัจฉา, ผาน้ำตก, อกนางผีเสื้อ, เบื่อไม่ลง, ดงพฤกษา และภูผาเอราวัณ โดยชั้นที่ 7 จะมีเอกลักษณ์สำคัญคือบริเวณธารน้ำตกจะมีน้ำไหลลงมาตามแนวหินคล้ายรูปช้างสามเศียร หรือที่เรียกกันว่าช้างเอราวัณ จึงเป็นที่มาของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ

          + ตะลอนเที่ยว 12 น้ำตกกาญจนบุรี ไปแล้วมีหรือจะพลาด

50. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

          สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดตาก ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง เป็นน้ำตกเขาหินปูนขนาดใหญ่ เกิดจากลำน้ำห้วยกล้อท้อทั้งสายที่ไหลแผ่ปกคลุมพื้นที่หน้าผากว้าง ก่อนที่จะทะยานลงสู่หน้าผาสูงชันลดหลั่นเป็นชั้น ๆ สูงกว่า 300 เมตร ล้อมรอบด้วยป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ ในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่น้ำตกสวยที่สุด หากแต่นักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องระมัดระวังในการเดินทางด้วยเช่นกัน โดยต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอุ้มผางก่อนทุกครั้ง

          + เรื่องน่ารู้น้ำตกทีลอซู จ.ตาก อลังการม่านน้ำตก ดื่มด่ำธรรมชาติตระการตา

          นี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยส่วนหนึ่งเท่านั้น ยังมีที่เที่ยวไทยสวยอลังการและเป็นอันซีนอยู่อีกมากมาย เอาเป็นว่าหากมีเวลาก็อย่าลืมแพ็กกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวเมืองไทย สูดอากาศบริสุทธิ์ ชมทัศนียภาพสวย ๆ กัน อ๊ะ ๆ หรือใครมีสถานที่ท่องเที่ยวในดวงใจที่ไหนกันบ้าง แชร์บอกเราด้วยนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก