แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสังขละบุรี ที่เที่ยวกาญจนบุรีที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี สัมผัสกับวัฒนธรรมไทย-มอญ ในหมู่บ้านเล็ก ๆ กลางหุบเขาและสายน้ำ พร้อมเที่ยวชมธรรมชาติและสถานที่ท่องเที่ยวศักดิ์สิทธิ์
สังขละบุรี อำเภอเล็ก ๆ กลางหุบเขาที่เต็มไปด้วยความงดงามของธรรมชาติ และเรื่องราววัฒนธรรมที่น่าหลงใหลของชาวไทย-มอญ อดีตเราจะรู้จักสังขละบุรีว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จากบารมีของหลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล) พระเกจิอาจารย์ชื่อดังที่ได้รับความเคารพเลื่อมใสจากคนไทยเชื้อสายมอญและพุทธศาสนิกชน
ซึ่งสิ่งที่โดดเด่นมาก ๆ ในสังขละบุรีก็คือ สะพานมอญ สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย ซึ่งปัจจุบันได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดกาญจนบุรีไปแล้ว อีกทั้งความสวยงามของธรรมชาติโดยรอบของที่นี่ก็ทำให้สังขละบุรีน่าหลงใหลขึ้นอีกเท่าตัว วันนี้เราจึงได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวสังขละบุรีมาฝากกัน จะมีที่ไหนบ้าง...ไปดูกัน
ที่เที่ยวสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
ภาพจาก Supakit Wisetanuphong / Shutterstock.com
1. สะพานมอญ (สะพานอุตตมานุสรณ์)
สะพานที่มีลักษณะเป็นสะพานไม้ยาว ทอดข้ามแม่น้ำซองกาเลีย บริเวณตำบลหนองลู มีระยะทางทั้งหมดราว ๆ 800-900 เมตร ถือได้ว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในเมืองไทย และยาวเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ยามเช้าต้องไม่พลาดกับการใส่บาตรบนสะพานไม้ การมาสูดอากาศเย็น ๆ ชมสายหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น นอกจากนี้เรายังจะได้เห็นชาวบ้าน ทั้งชาวไทยและชาวมอญสัญจรไป-มาบนสะพานแห่งนี้ เป็นวิถีชีวิตสุดเรียบง่าย แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ที่ทำให้ใครหลายคนตกหลุมรักสังขละบุรีโดยไม่รู้ตัว
2. เมืองบาดาล
อันซีนไทยแลนด์กับเมืองใต้ผืนน้ำในเขตเขื่อนเขาแหลมหรือเขื่อนวชิราลงกรณ เดิมทีที่นี่เป็นที่ตั้งของวัดวังก์วิเวการาม แต่เมื่อมีโครงการสร้างเขื่อนเขาแหลม ตัววัดจึงต้องย้ายไปยังพื้นที่สูง เหลือเพียงซากปรักหักพังของอุโบสถ และหอระฆังที่จะจมน้ำในฤดูฝน และจะโผล่ขึ้นอวดโฉมอีกครั้งในฤดูแล้ง การมาเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถนั่งเรือมาเที่ยวชมได้ ติดต่อเรือได้บริเวณสะพานมอญ
3. วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่)
ตั้งอยู่ทางฝั่งหมู่บ้านมอญ ที่ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี เป็นศูนย์รวมจิตใจที่สำคัญของชาวสังขละบุรี ภายในวัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พระอุโบสถ, วิหารหลวงพ่ออุตตมะ (ปราสาท 9 ยอด) หรือวิหารหลวงพ่อขาว เป็นต้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้รู้ถึงที่มาที่ไปของเมืองสังขละบุรีและประวัติหลวงพ่ออุตตมะอย่างละเอียด พร้อมกับชมสถาปัตยกรรมแบบมอญที่หาดูได้ยากในเมืองไทย
4. เจดีย์พุทธคยา
ตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัดวังก์วิเวการาม (ใหม่) ในจุดที่แม่น้ำ 3 สายมาบรรจบกัน คือแม่น้ำซองกาเลีย แม่น้ำบีคลี่ และแม่น้ำรันตี มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกรวยสี่เหลี่ยม มียอดแหลม สีเหลืองทองทั้งองค์เจดีย์ มีรูปปั้นสิงห์คู่แบบมอญตั้งอยู่ด้านหน้า ภายในยอดเจดีย์ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งหลวงพ่ออุตตมะได้อัญเชิญมาจากประเทศศรีลังกา เหมาะแก่การพาครอบครัวไปไหว้สักการะและขอพร
5. ถนนคนเดินสังขละบุรี
ถนนคนเดินแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณตลาดใหม่ ใกล้กับโรงพยาบาลสังขละบุรี เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ส่งเสริมให้คนในชุมชนได้นำสินค้าท้องถิ่นของตนเองมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งจะมีทั้งอาหารพื้นบ้าน ขนมโบราณ สินค้าแฮนด์เมด สินค้าพื้นเมือง ราคาย่อมเยา ให้ได้เดินเลือกซื้อกันอย่างเพลิดเพลิน อีกทั้งยังมีการแสดงจากเยาวชนในท้องถิ่นให้ได้ชมกันแบบฟรี ๆ อีกด้วย ถนนคนเดินสังขละบุรีจะจัดขึ้นทุกวันเสาร์ ติดตามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก ถนนคนเดินสังขละบุรี
ภาพจาก iDear Studio / Shutterstock.com
6. ตลาดสังขละบุรี
แหล่งช้อปปิ้งอาหารสดและสินค้าพื้นเมืองอีกหนึ่งแห่งของเมืองสังขละบุรี ใครอยากได้ของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถมาเดินเที่ยวที่นี่กันได้ค่ะ หรือจะมาหาของอร่อย ๆ กินกันก็มีอาหารหลากหลายแบบให้เลือกสรรกันตามแต่ความชอบใจ
7. ด่านเจดีย์สามองค์
ตั้งอยู่บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี มีลักษณะเป็นเจดีย์สีขาว 3 องค์ ตั้งเรียงรายกันอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านมาตั้งแต่อดีต ไม่ว่าใครผ่านไปผ่านมาในเส้นทางนี้เป็นต้องแวะไหว้เคารพสักการะและขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเองและครอบครัว บริเวณใกล้เคียงกับเจดีย์ มีตลาดพญาตองซู แหล่งช้อปปิ้งสินค้าไทย-เมียนมา ราคาไม่แพง ซึ่งจะมีสินค้าจากฝั่งเมียนมานำมาขายมากมาย ใครอยากได้ของฝากเก๋ ๆ ก็มาเดินช้อปปิ้งกันได้เลย
8. วัดสมเด็จ (เก่า)
ตั้งอยู่ตรงข้ามกับเมืองบาดาล บนเนินเขาไม่สูงมากนัก สร้างโดยพระครูวิมลกาญจนคุณ ปัจจุบันเหลือเพียงวิหารเก่า เพราะได้มีการย้ายวัดไปเมื่อครั้งที่สร้างเขื่อนเขาแหลม ภายในวิหารมีพระประธานลักษณะงดงามตั้งอยู่ให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้ขอพร บริเวณรอบ ๆ วิหารมีรากของต้นไม้เกาะอยู่ ให้ความรู้สึกที่น่าศรัทธาอย่างยิ่ง
9. น้ำตกไดช่องถ่อง
ตั้งอยู่ที่ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี ไม่ไกลจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดกลาง แบ่งกันไปเป็นชั้น ๆ โดยชั้นบนสุดจะมีความสูงประมาณ 15 เมตร สายน้ำมากมายจะไหลลงผ่านชั้นหินปูน แล้วไหลลงสู่แอ่งน้ำด้านล่าง น้ำใสสะอาด สามารถเล่นน้ำได้ มีต้นไม้เขียวขจีอยู่โดยรอบ บรรยากาศเงียบสงบ ใครที่ชอบการผจญภัยต้องไม่พลาด
10. จุดชมวิวป้อมปี่
จุดชมวิวที่ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม บริเวณริมเขื่อนเขาแหลม เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นักท่องเที่ยวจะได้ชื่นชมพระอาทิตย์กลมโตค่อย ๆ ลาลับขอบฟ้าลายไปหลังสันเขา บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ อากาศเย็นสบาย สามารถนอนกางเต็นท์ริมเขื่อนได้ด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โทรศัพท์ 0 3451 0431
11. น้ำตกเกริงกระเวีย
น้ำตกที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาแหลม บริเวณใกล้กับทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 323 ตำบลปรังเผล อำเภอสังขละบุรี มีลักษณะเป็นน้ำตกขนาดกลาง สูงราว ๆ 1-2 เมตร น้ำจำนวนมากมายจะไหลลงมาผ่านชั้นหินปูน ลงสู่แอ่งต่าง ๆ สามารถเล่นน้ำได้ บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ
12. น้ำตกกระเต็งเจ็ง
น้ำตกกระเต็งเจ็ง เป็นอีกน้ำตกที่มีความสวยงามของสังขละบุรี ตั้งอยู่ด้านหลังที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีทั้งหมด 9 ชั้น แต่ละชั้นไม่สูงมากนัก มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป จากชั้นแรกจนถึงชั้นบนสุดมีระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ชั้นบนสุดจะสูงประมาณ 5 เมตร สามารถเล่นน้ำได้บริเวณชั้น 1 เพราะสะดวกในการเข้าห้องน้ำ ไม่อันตราย ใกล้ที่ทำการอุทยาน
13. น้ำตกนพพิบูลย์
น้ำตกนพพิบูลย์ หรือน้ำตกหมวดเดช ตั้งอยู่บริเวณตำบลหนองลู อำเภอสังขละบุรี ไม่ไกลจากถนนทางหลวงชนบท 2078 โดดเด่นด้วยชั้นหินปูนที่ไล่ระดับลดหลั่นกันลงมา ก่อนที่สายน้ำจะไหลลงสู่หน้าผาหินสูงประมาณ 25 เมตร น้ำใสสะอาด โดยรอบมีต้นไม้นานาพรรณ บรรยากาศร่มรื่นและน่าท่องเที่ยวมาก ๆ
14. ล่องแพลำน้ำซองกาเลีย
อีกหนึ่งกิจกรรมสนุกสนานที่ห้ามพลาดของเมืองสังขละบุรี ซึ่งผู้ประกอบการจะใช้แพไม้ไผ่หรือแพยางล่องไปตามลำห้วยซองกาเลีย นักท่องเที่ยวจะได้นั่งชมวิวป่าเขาสองฟากฝั่งแม่น้ำซองกาเลีย พร้อมกับแวะพักเล่นน้ำอันเย็นฉ่ำ สายน้ำไม่แรงมากนัก สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่
15. เขาสันหนอกวัว
เอาใจคนรักการเดินป่ากันหน่อย ด้วยเส้นทางเดินป่าสุดท้าทาย ณ เขาสันหนอกวัว ยอดเขาที่สูงที่สุดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี ซึ่งมีระยะทางทั้งหมดประมาณ 12 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 5-6 ชั่วโมง ยอดเขาสันหนอกวัวสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,767 เมตร มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับสันนูนบนหลังของวัว สามารถชมวิวทะเลหมอกได้แบบอลังการ พร้อมทั้งวิวของยอดเขาน้อยใหญ่โดยรอบ อากาศเย็นตลอดทั้งปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม โทรศัพท์ 0 3451 0431, 08 9228 7612
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง