สังขละบุรี สถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตของกาญจนบุรี หลายคนที่สงสัยว่า สังขละบุรี นั้นมีอะไรดี วันนี้เราได้รวบรวมเสน่ห์ของ สังขละบุรี มาฝาก
และวันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ "สังขละบุรี" หนึ่งในอำเภอยอดนิยม ที่นักท่องเที่ยวชอบเดินทางไปหาความสนุก พักผ่อนอย่างมีความสุขในแบบบรรยากาศที่เย็นสบาย เพราะมีธรรมชาติที่สวยงามและแสนจะร่มรื่น...
เอาล่ะ ทีนี้ก็ได้เวลาไปดูสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอำเภอสังขละบุรีกันแล้ว...
เริ่มกันที่ "วัดวังวิเวกการาม" ตั้งอยู่ห่างจากตัวอำเภอสังขละบุรีประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นวัดจำพรรษาของ"หลวงพ่ออุตตมะ" ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งชาวกระเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น ภายในวิหารที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำประดิษฐานพระพุทธรูปหินอ่อนอันงดงาม ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อขาว จากวัดวังวิเวการามแยกไปอีก 1 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยา มีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนที่เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี จะมีการจัดงานคล้ายวันเกิดหลวงพ่ออุตตมะ ในงานมีกิจกรรมต่างๆ ประกอบด้วยพิธีกรรมทางศาสนา การแข่งขันชกมวยคาดเชือก การแสดงของชมรมวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น การรำแบบมอญ การรำตงของชาวกะเหรี่ยง และในงานประชาชนจะพร้อมใจกันแต่งกายตามแบบวัฒนธรรมของชาวไทยรามัญ และจัดเตรียมสำรับอาหารทูนบนศีรษะไปถวายพระสงฆ์ที่วัด
ไปเที่ยวกันต่อกันที่ "ด่านเจดีย์สามองค์" ตั้งอยู่ที่ตำบลหนองลูก่อน ถึงตัวอำเภอสังขละบุรี 4 กิโลเมตร มีทางแยกขวาไปด่านเจดีย์สามองค์อีก 18 กิโมเมตร พระเจดีย์สามองค์นี้เดิมเรียกว่า "หินสามกอง" เป็นที่เคารพสักการะของคนไทยในสมัยโบราณก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่เขตพม่า ต่อมาในปี 2472 พระศรีสุวรรณคีรี เจ้าเมืองสังขละบุรีของไทย ได้เป็นผู้นำชาวบ้านสร้างเป็นเจดีย์ขนาดเล็กสามองค์ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ นอกจากนี้ บริเวณด่านเจดีย์สามองค์ยังเป็นช่องทางเดินทัพที่สำคัญของไทยและพม่าในอดีต ปัจจุบันนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมตลาดชายแดนในเขตพม่าได้ โดยเสียค่าผ่านด่านชาวไทย 25 บาท ชาวต่างประเทศ 130 บาท
"เมืองบาดาล" ในอดีตเป็นวัดเก่าของหลวงพ่ออุตตมะ ที่ชาวบ้านในอำเภอสังขละบุรีให้ความนับถือเป็นอย่างมาก โดยตัววัดถูกน้ำเข้าท่วมในช่วงที่สร้างเขื่อน ทำให้จมอยู่ใต้น้ำมานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยในช่วงน้ำลดจะสามารถสังเกตเห็นตัวโบสถ์ของวัดได้อย่างชัดเจน แต่ในช่วงน้ำขึ้นน้ำจะท่วมสูงเกือบทั้งหมด เหลือเพียงยอดของโบสถ์ให้เห็นเท่านั้น
"อุทยานแห่งชาติเขาแหลม" ห่างจากตัวเมืองประมาณ 180 กิโลเมตร ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 39 - 40 ก่อนถึงอำเภอสังขละบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร พื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี ป่าเขา และอ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณ์ (เขาแหลม) เป็นต้น มีพื้นที่ประมาณ 815 ตารางกิโลเมตร บริเวณอุทยานฯ ร่มรื่น มีห้วยกระเต็งเจ็งไหลผ่าน สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ และมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไปน้ำตกกระเต็งเจ็ง
สำหรับ "น้ำตกกระเต็งเจ็ง" อยู่ใกล้กับที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาแหลม เป็นน้ำตกขนาดกลางที่มีความสูงประมาณ 30 เมตร มีชั้นน้ำตกถึง 23 ชั้น แต่ละชั้นมีความงามแตกต่างกันออกไป เหมาะกับการทัศนศึกษาดูสภาพป่าชนิดต่างๆ เช่น ป่ากล้วย ป่าไผ่ ป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ และมีต้นไม้ขนาด 13 คนโอบ โดยเฉพาะชั้นที่ 16 นั้น มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก การไปชมน้ำตกกะเต็งเจ็ง จากที่ทำการอุทยานฯ เดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 2-3 ชั่วโมง เป็นระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร จะถึงน้ำตกชั้นแรก นักท่องเที่ยวจะต้องปีนป่ายผ่านสายน้ำขึ้นไปตามชั้นต่างๆ จนถึงชั้นบนสุด ด้านบนของน้ำตกจะมีจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นอ่างเก็บน้ำเขื่อนเขาแหลมได้ เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางกลับโดยไม่ใช้ทางเดิม แต่เปลี่ยนเป็นเส้นทางเดินป่า ที่ยังมีสภาพป่าดิบอันสมบูรณ์ ระหว่างทางจะผ่านดงเฟิร์นที่กว้างใหญ่ตระการตา ผ่านป่าระกำ ลิ้นจี่ป่า และมะไฟป่า ตลอดทางเดินจะได้ยินเสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังก้องอยู่ในป่าตลอดเวลา น้ำตกนี้ไม่เหมาะสำหรับการเดินทางในฤดูฝน และควรติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางของอุทยาน ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม มีบ้านพักและสามารถกางเต็นท์พักแรมได้
สำหรับอัตราค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติเขาแหลมนั้น ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม (ป้อมปี่) โทร. 0-3453-2099, 0-6131-3443 และที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เขตบางเขน โทร. 0-2562-0760 วันจันทร์ - ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30 - 18.00 น. วันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 09.00 - 15.30 น.
"น้ำตกเกริงกระเวีย" ขึ้นอยู่กับเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32 – 33 ใกล้กับน้ำตกไดช่องถ่อง ห่างจากอำเภอกาญจนบุรีประมาณ 173 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดเล็ก จะมองเห็นสายน้ำแผ่กระจายไหลมาจากหลายทิศทาง เหมาะสำหรับเป็นจุดพักผ่อนระหว่างการเดินทางไปอำเภอสังขละบุรี สามารถนั่งรถโดยสารสายกาญจนบุรี - สังขละบุรี จากตัวเมืองมาได้ ค่าโดยสาร 90 บาท ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง
"น้ำตกไดช่องถ่อง" ขึ้นอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ก่อนถึงอำเภอสังขละบุรี ตั้งอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 323 (ทองผาภูมิ - สังขละบุรี) กิโลเมตรที่ 32–33 ก่อนถึงน้ำตกเกริงกระเวียเล็กน้อยจะมีป้ายทางซ้ายมือเข้าไปประมาณ 500 เมตร จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าไปอีก 500 เมตร และต้องเดินเท้าไปอีก 600 เมตร เป็นน้ำตกขนาดกลางไหลลงสู่ทะเลสาบเขื่อนแม่กลอง สภาพป่าสมบูรณ์ร่มรื่นสวยงามมากในช่วงฤดูฝน
หรือจะเลือกไป "เที่ยวป่าสังขละบุรี" ซึ่งเป็นบริการนำเที่ยวของสถานที่พักในเขตอำเภอสังขละบุรี โดยจัดให้นักท่องเที่ยวล่องเรือไปตามลำน้ำซองกะเลีย ต่อด้วยการนั่งช้างเที่ยวป่าและล่องแก่ง ผู้สนใจติดต่อล่วงหน้าที่บริษัทนำเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภาคกลางเขต 1 โทร.0-3451-1200, 0-251-2500
อย่างไรก็ตาม ที่อำเภอสังขละบุรียังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย รวมถึงกิจกรรมการท่องเที่ยวเจ๋งๆ อีกเพียบ โดยเฉพาะ "ล่องแก่ง" ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สำหรับแม่น้ำสายต่างๆ ที่นิยมใช้เล่นล่องแก่ง คือ แม่น้ำรันตี แม่น้ำบิคลี้ และแม่น้ำซองกาเลีย
ในส่วนของที่พักที่สังขละบุรี ส่วนใหญ่จะเป็นรีสอร์ทอยู่เรียงรายริมน้ำ ว่ากันว่าที่พัก "พรไพลิน" จะดูหรูหราที่สุดในขณะนี้ เพราะเพิ่งสร้างได้ไม่นาน โดยมีห้องพัก 2 แบบ คือ แบบโซนโรงแรม และโซนบังกะโล ภายในห้องมีทีวีพร้อมระเบียงเห็นวิวริมน้ำ หากเข้าทางตลาดสดสังขละบุรีตรงเข้าไปตามป้ายเกือบสุดทาง จะมีกิจกรรมล่องแพ และขี่ช้าง (กิจกรรมเหล่านี้ถูกใจนักท่องเที่ยวนักล่ะ)
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางสองเลนตลอดถึง อ.ไทรโยค ทางถนนพระบรมราชชนนี หรือเพชรเกษม จากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้เส้นทางหลวง 323 สู่อำเภอไทรโยค อำเภอทองผาภูมิ แล้วเลี้ยวขวาไปอำเภอสังขละบุรี ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง
ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0-3451-1778, 0-3151-2399 ประชาสัมพันธ์จังหวัดกาญจนบุรี โทร. 0-3451-2410, 0-3451-4756
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
, thai-tour.com, dnp.go.th, คุณ Leon Fong และ เฟซบุ๊ก FongPhoto