12 พิพิธภัณฑ์ในไทย แหล่งเรียนรู้ชั้นดีที่น่าไปเยือนสักครั้ง
1. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร

ภาพจาก thebigland / Shutterstock.com

ภาพจาก Kritthaneth / Shutterstock.com
โดยแบ่งการจัดแสดงเป็นประเภทต่าง ๆ เช่น ประวัติศาสตร์ชาติไทย, ประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี, ประณีตศิลป์และชาติพันธุ์วิทยา และโบราณสถานวังหน้า (โบราณสถาน อาคารประวัติศาสตร์ ภายในพิพิธภัณฑสถาน) เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่เราอยากให้ไปสัมผัสกันสักครั้ง
ที่อยู่ : ถนนหน้าพระธาตุ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200 (ตั้งอยู่ระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และโรงละครแห่งชาติ)
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันพุธ-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. ปิดวันจันทร์-อังคาร และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ค่าเข้าชม : คนไทย 30 บาท ชาวต่างชาติ 200 บาท ยกเว้นค่าเข้าชมสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี นักเรียน นักศึกษาไทย ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป
เบอร์โทรศัพท์ : 02 224 1370
เฟซบุ๊ก : National Museum Bangkok : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
2. มิวเซียมสยาม

ภาพจาก JOYFULLIFE / Shutterstock.com

ภาพจาก Photo APS / Shutterstock.com
โดยใช้วิธีการจัดแสดงแบบใหม่ผ่านสื่อเครื่องมือต่าง ๆ ที่ทันสมัย รับรองเลยว่าคุณจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์ในมุมมองที่สนุกสนาน ประกอบด้วยนิทรรศการถาวร, นิทรรศการหมุนเวียน และกิจกรรมการเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์
ที่อยู่ : บริเวณท่าเตียน ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น.
ค่าเข้าชม : นักเรียน นักศึกษา (อายุ 15 ปีขึ้นไป) 50 บาท, ผู้ใหญ่คนไทย 100 บาท ผู้ใหญ่ชาวต่างชาติ 200 บาท เยาวชนไทยและเยาวชนต่างชาติ อายุต่ำกว่า 15 ปี ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป พระภิกษุสงฆ์ นักบวช ผู้พิการ และทุพพลภาพ มัคคุเทศก์ (แสดงบัตรประจำตัวที่ออกโดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) เข้าชมฟรี
เบอร์โทรศัพท์ : 02 225 2777
เว็บไซต์ : m.museumsiam.org
เฟซบุ๊ก : Museum Siam
3. พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร

ภาพจาก Camera_Bravo / Shutterstock.com
หมายเหตุ : สามารถจองวัน เวลา และรอบที่ต้องการเข้าชมล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์ศูนย์การเรียนรู้ฯ หรือติดต่อเข้าชมด้วยตนเอง (Walk-in) โดยพิพิธภัณฑ์ศูนย์การเรียนรู้ฯ เปิดให้บริการวันอังคาร-อาทิตย์ เปิดรอบเข้าชมวันละ 6 รอบ (รอบละไม่เกิน 40 คน) ใช้เวลาชมรอบละประมาณ 1.30 ชั่วโมง ได้แก่ รอบ 10.00 น., 10.30 น., 11.00 น., 13.30 น., 14.00 น. จะมีเจ้าหน้าที่นำชม และรอบ 14.30 น. สำหรับเดินชมตามอัธยาศัยโดยใช้ BOT Museum Application ประกอบการชม ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ขอสงวนสิทธิ์ในการจัดกลุ่มการนำชม
ที่อยู่ : ถนนสามเสน แขวงวัดสามพระยา เขตพระนคร กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.30-20.00 น. (พิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย, ห้องค้นคว้าจดหมายเหตุ, ร้านสินค้าที่ระลึก และร้านกาแฟ/หนังสือ ปิดให้บริการ 16.30 น.)
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2356 7766
เว็บไซต์ : botlc.or.th
4. พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้
สายดอกไม้ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง สำหรับ “พิพิธภัณฑ์วัฒนธรรมดอกไม้” แห่งนี้ ที่ก่อตั้งขึ้นจากความตั้งใจของ คุณสกุล อินทกุล เพื่ออยากให้เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนและเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมดอกไม้ทั้งในไทยและทวีปเอเชีย โดดเด่นด้วยตัวตึกอาคารบ้านไม้สักรูปทรงโคโลเนียล ความน่าสนใจอยู่ที่การจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์เกี่ยวกับการจัดดอกไม้ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมทางชนชาติกับการจัดดอกไม้ โดยแบ่งออกเป็นห้องต่าง ๆ และแต่ละห้องนิทรรศการคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับความสวยงามของดอกไม้ที่จะช่วยสร้างความรื่นรมย์ทั้งทางอารมณ์และจิตใจ
อีกทั้งภายในพิพิธภัณฑ์ยังมี Café Botanica คาเฟ่ที่มีบรรยากาศธรรมชาติของต้นไม้และบ้านเก่าอายุร่วมหนึ่งร้อยปี พร้อมกับสารพัดเมนูเครื่องดื่มและขนมแสนอร่อยมากมายให้ได้ลิ้มลองกัน
ที่อยู่ : ซอยแยกองครักษ์ 13 ซอยสามเสน 28 ถนนสามเสน (ใกล้แยกบางกระบือ) เขตดุสิต กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 10.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์) เปิดให้เข้าชมเป็นรอบ ใช้เวลารอบละประมาณ 1 ชั่วโมง
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 150 บาท และเด็ก (อายุต่ำกว่า 17 ปี) เข้าชมฟรี ในส่วนของคาเฟ่ไม่จำเป็นต้องซื้อบัตรเข้าชมพิพิธภัณฑ์
เบอร์โทรศัพท์ : 02 669 3633-4
เว็บไซต์ : floralmuseum.com
เฟซบุ๊ก : The Museum of Floral Culture
5. พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน กรุงเทพฯ

ภาพจาก amnat30 / Shutterstock.com

ภายในพิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถานได้รับการออกแบบอย่างสวยงาม ทันสมัย ใช้ระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมทั้งสื่อนำเสนอและระบบการเข้าชม สามารถรองรับการเยี่ยมชมได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแบบหมู่คณะคราวละหลายร้อยคน หรือผู้สนใจที่มาแบบส่วนตัวก็ได้เช่นกัน
ที่อยู่ : ริมน้ำท่ารถไฟ โรงพยาบาลศิริราช ถนนวังหลัง แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันพุธ-จันทร์ (ปิดวันอังคาร) ตั้งแต่เวลา 10.00-17.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย ผู้ใหญ่ 80 บาท เด็ก 25 บาท, ต่างชาติ 200 บาท
เบอร์โทรศัพท์ : 02 419 2600 ext. 2601
เว็บไซต์ : si.mahidol.ac.th
6. พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ กรุงเทพฯ
ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2495 โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อรวบรวมและเก็บรักษาอากาศยาน อาวุธยุทโธปกรณ์ เครื่องมือสื่อสารที่เคยใช้ในกองทัพอากาศ ตลอดจนบริภัณฑ์ประจำตัวนักบิน เครื่องแบบ เอกสารและพัสดุสำคัญอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับกิจการบิน อีกทั้งยังมีห้องสมุดประวัติศาสตร์การบินที่รวบรวมหนังสือ จดหมายเหตุ รูปภาพ และเอกสารทางประวัติศาสตร์ของกิจการบินไว้ให้ศึกษาค้นคว้า
อาคารจัดแสดงมีการแยกออกเป็นสัดส่วน ด้านซ้ายประกอบไปด้วยเครื่องบินรบแบบต่าง ๆ และนิทรรศการ “100 ปี การบินบุพการีทหารอากาศ” นอกจากนั้นยังมีเครื่องบินประเภทต่าง ๆ ที่หาชมที่ไหนไม่ได้จัดแสดง ขณะที่ส่วนด้านขวาคือส่วนที่จัดแสดงเครื่องบินรบสมรรถนะสูง
อาคาร 2 จัดแสดงอากาศยานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ทั้งเครื่องบินทิ้งระเบิด “บริพัตร” ซึ่งเป็นเครื่องบินแบบแรกที่คนไทยออกแบบและสร้างเอง รวมทั้งมีห้องสมุดประวัติศาสตร์ด้านการบิน มีอาคารจัดแสดงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการบิน เครื่องแบบทหารอากาศในอดีตและปัจจุบัน ส่วนใครที่อยากศึกษาเรื่องการบินจริงจังที่นี่มีห้องปรับบรรยากาศความกดดันต่ำ (Hypobaric Chamber) ที่จะจำลองสภาพบรรยากาศความกดดันต่ำเพื่อการศึกษา และอื่น ๆ อีกมากมาย
ที่อยู่ : 171 พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศ แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. (วันศุกร์ เปิดเวลา 08.30-15.30 น.)
ค่าเข้าชม : ไม่มีค่าใช้จ่าย
เบอร์โทรศัพท์ : 02 534 1853
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ
7. องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี

ภาพจาก Yes058 / Shutterstock.com
- พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ โดดเด่นด้วยการออกแบบอาคารที่ทันสมัย ภายในมีนิทรรศการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากมาย ตลอดจนกิจกรรมที่ชวนค้นพบ ทดลอง และเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่น่าสนใจ
- พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ค้นพบความหลากหลายทางธรรมชาติอันน่าพิศวงของพืชและสัตว์
- พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ เรียนรู้วิธีคิดและกระบวนการพัฒนาเทคโนโลยีการสื่อสาร การคำนวณ และคอมพิวเตอร์
- พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และความตระหนัก ในบทบาทความสัมพันธ์ของระบบนิเวศที่สำคัญของโลกและของประเทศไทย ตามแนวคิดและวิธีการทรงงานต้นแบบจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ที่อยู่ : ตำบลคลองห้า อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 09.30-16.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.30-17.00 น. (หยุดวันจันทร์)
ค่าเข้าชม : บัตรรวม 3 พิพิธภัณฑ์ (พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ, พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา, พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์) ผู้ใหญ่/ครู-อาจารย์ ราคา 100 บาท, นักเรียน นักศึกษาปริญญาตรี (ไม่เกิน 24 ปี โปรดแสดงบัตร) และผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) เข้าชมฟรี
เบอร์โทรศัพท์ : 02 577 9999
เว็บไซต์ : nsm.or.th
8. พิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จังหวัดปทุมธานี
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระมหากษัตริย์ไทยกับความสัมพันธ์ในด้านการเกษตรตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แบ่งเป็นโซนพิพิธภัณฑ์ในอาคารและพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง
พิพิธภัณฑ์ในอาคาร จัดแสดงพระราชพิธีในวิถีเกษตร, แนวประพฤติปฏิบัติทางด้านการเกษตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, โรงภาพยนตร์ 3 มิติขนาดย่อม, ของใช้ ของเล่นโบราณจากธรรมชาติ, นิทรรศการแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง, โครงการส่วนพระองค์, พระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร, ผลงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และนิทรรศการวัฏจักรของน้ำ
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง จัดแสดงแปลงสาธิตการทำการเกษตรต่าง ๆ ทั้งการปลูกข้าว ทำแปลงนาอินทรีย์ เทคนิคการทำนาต่าง ๆ การทำแปลงผัก การปลูกสมุนไพร การเพาะเห็ด ไปจนถึงปศุสัตว์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ตามรอยวิถีเกษตรของในหลวง รัชกาลที่ 9
ล่าสุดเปิด Wisdom Farm ที่มีชื่อเต็ม ๆ ว่า "แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด WISDOM FARM" ที่เป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับการเกษตร โดยจุดเด่นอยู่ที่ “สะพานไม้ไผ่กลางทุ่งนา” ที่โค้งลัดเลาะไปรอบ ๆ ท้องทุ่งสีเขียวชอุ่ม มีศาลาและจุดนั่งพักชิล ๆ อยู่ตลอดทางเดิน ใกล้ ๆ กับสะพานไม้จะเป็น Wisdom Cafe' คาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟน้ำผลไม้สด ๆ เย็นชื่นใจ ปลอดภัย ไร้สารพิษ เป็นอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ที่เราแนะนำ
ที่อยู่ : หมู่ 13 ถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 46-48 ตรงข้ามโรงพยาบาลการุญเวช นวนคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์และวันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 09.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : ดูเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ wisdomking.or.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2529 2212-13
เว็บไซต์ : wisdomking.or.th
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ
9. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง จังหวัดอุดรธานี

ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง แบ่งออกเป็น
ส่วนที่ 1 ตั้งอยู่ทางด้านขวาของทางเข้า อยู่ในบริเวณวัดโพธิ์ศรีใน เป็นพิพิธภัณฑ์เปิดที่เป็นแหล่งโบราณคดีแห่งแรกในประเทศไทย เป็นนิทรรศการถาวร ซึ่งแสดงขั้นตอนการขุดค้นทางโบราณคดีที่ยังคงลักษณะของศิลปวัตถุที่พบตามชั้นดิน เพื่อให้ผู้เข้าชมได้ศึกษาถึงการขุดค้นทางโบราณคดีและโบราณวัตถุ โดยส่วนใหญ่เป็นภาชนะเผาที่ฝังรวมกับศพที่กลายมาเป็นโครงกระดูกในปัจจุบัน

ภาพจาก amnat30 / Shutterstock.com
ส่วนที่ 2 ตั้งอยู่ทางด้านซ้ายของทางเข้า เป็นอาคารจัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวและวัฒนธรรมของบ้านเชียงในอดีต ตลอดจนเครื่องมือเครื่องใช้ที่แสดงถึงเทคโนโลยีในสมัยโบราณ รวมทั้งโบราณวัตถุและนิทรรศการบ้านเชียงที่เคยจัดแสดง ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนั้นยังมีห้องนิทรรศการ ห้องบรรยาย ฉายภาพยนตร์ ภาพนิ่ง และการให้บริการการศึกษาต่าง ๆ อีกด้วย
ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2535 องค์การยูเนสโก (Unesco) ได้ขึ้นบัญชีให้เป็นมรดกโลกอันดับที่ 359 และนับว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางโบราณคดีอันดับที่ 4 ของประเทศไทย ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
ที่อยู่ : หมู่ที่ 13 ถนนสุทธิพงษ์ ตำบลบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันพุธ-อาทิตย์ (ปิดวันจันทร์-อังคาร) ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : คนไทย 30 บาท คนต่างชาติ 150 บาท
เบอร์โทรศัพท์ : 042 235 040
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ บ้านเชียง : Banchiang National Museum
10. ศูนย์ศึกษาวิจัยและพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว หรือพิพิธภัณฑ์สิรินธร จังหวัดกาฬสินธุ์

ภาพจาก Nor Gal / Shutterstock.com

ภาพจาก Nor Gal / Shutterstock.com
พิพิธภัณฑ์แห่งนี้น่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของเหล่าเด็ก ๆ ที่ต้องการชมชีวิตและความเป็นอยู่ของสัตว์โลกดึกดำบรรพ์ชนิดนี้ เพราะเพียงแค่ก้าวแรกที่เข้ามาในพิพิธภัณฑ์ก็จะได้พบกับหุ่นจำลองไดโนเสาร์ "สยามโมไทรันนัส อิสานเอนซิส" ที่ยืนโดดเด่นแยกเขี้ยวอ้าปากกว้าง มีห้องแสดงฟอสซิลจำลองที่พบในสถานที่ต่าง ๆ ทั่วโลก โครงกระดูกไดโนเสาร์ที่พบในกาฬสินธุ์ ในสภาพที่สมบูรณ์ทั้งตัวพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่บรรจุขุมทรัพย์ความรู้เกี่ยวกับไดโนเสาร์ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทยเลยก็ว่าได้
ที่อยู่ : เลขที่ 200 หมู่ 11 ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา 09.30-16.30 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท มัธยมศึกษา 10 บาท (อายุต่ำกว่า 12 ปี หรือเกิน 60 ปี ชมฟรี) โรงเรียนสามารถทำหนังสือขอเข้าชมโดยยกเว้นค่าธรรมเนียมส่งมาได้เลย
เบอร์โทรศัพท์ : 043-871613-616 ต่อ 119
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์สิรินธร-Dinosaur museum
11. สถานีวิจัยลำตะคอง วว. จังหวัดนครราชสีมา
ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ใช่พิพิธภัณฑ์แต่เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรและพฤกษศาสตร์แห่งใหม่ของประเทศไทยที่เราอยากให้ไปสัมผัสกันสักครั้ง เพราะเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวจะได้เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ในเรื่องพฤกษศาสตร์และแมลงอย่างสนุกสนานทั้งครอบครัว ภายในพื้นที่กว่า 700 ไร่ แบ่งออกเป็น 2 โซน คือ โซนแรก "เรือนกระจก" จัดแสดงพรรณไม้หายากทั้งไทยและต่างประเทศ และโซนที่ 2 "จัดแสดงการใช้ประโยชน์จากพืช"
นอกจากนี้ยังมีในส่วนของพิพิธภัณฑ์และห้องภาพ ที่ทำให้เห็นถึงการเชื่อมโยงงานศิลป์ของคนไปสู่แมลง โดยภายในอาคารจะมีเหล่าแมลงที่บินไปมาอย่างอิสระ ทักทายนักท่องเที่ยวอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
ที่อยู่ : สถานีวิจัยลำตะคอง เลขที่ 333 หมู่ 12 ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน (ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 40 บาท, เด็กอนุบาล 10 บาท, ประถมศึกษา-มัธยมศึกษา 20 บาท, นิสิต/นักศึกษา (ต้องแสดงบัตร) 20 บาท และเด็ก (ความสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร)/ผู้สูงอายุ/ผู้พิการ เข้าชมฟรี
เบอร์โทรศัพท์ : 044 390 107
เว็บไซต์ : tistr.or.th
เฟซบุ๊ก : สถานีวิจัยลำตะคอง วว.
12. พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง) จังหวัดเชียงใหม่

ภาพจาก Artorn Thongtukit / Shutterstock.com
ภายในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง) ประกอบไปด้วยส่วนหลัก ๆ 2 ส่วน ได้แก่
1. โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ ๑ (ฝาง) ที่มีวิสัยทัศน์ว่า "พิพิธภัณฑ์พื้นที่ที่มีชีวิต" โดยพัฒนาโรงงานหลวงและพื้นที่โดยรอบให้เป็นพื้นที่เพื่อการเรียนรู้ (A Platform for Learning Experience) และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างดี อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
2. พิพิธภัณฑ์ที่มีการจัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจมากมาย เช่น นิทรรศการจัดแสดงวัตถุสะสม อันเป็นสิ่งของจากชาวบ้านชุมชนบ้านยางบริจาคให้พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง), นิทรรศการจัดแสดงภาพถ่ายขั้นตอนกระบวนการผลิตของโรงงานหลวง และภาพถ่ายสมัยที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 เสด็จฯ เยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคเหนือ เป็นต้น

ภาพจาก Artorn Thongtukit / Shutterstock.com
โดยแวดล้อมไปด้วยชุมชนบ้านยางที่เงียบสงบและสวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ นอกจากจะได้ความรู้กลับบ้านแล้ว ยังสามารถเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ดอยคำหลากหลายแบบได้ที่นี่อีกด้วย
ที่อยู่ : หมู่บ้านยาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น.
ค่าเข้าชม : เข้าชมฟรี
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑ์โรงงานหลวงที่ ๑ (ฝาง)
พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า จ.ปทุมธานี แหล่งเรียนรู้ชั้นดี พร้อมเปิดช่วงปลายปี 2562
และนี่เป็นพิพิธภัณฑ์เพียงไม่กี่แห่งที่เรานำมาแนะนำกัน จริง ๆ แล้วยังมีแหล่งเรียนรู้ชั้นเยี่ยมอยู่อีกมากมาย เอาเป็นว่าใครมีพิพิธภัณฑ์เจ๋ง ๆ แนะนำมาได้เลยนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thai.tourismthailand.org, museumthailand.com, si.mahidol.ac.th