ที่เที่ยวสิงคโปร์ 2024 ด้วยตัวเอง วางแผนเที่ยวสิงคโปร์ที่ไหนดี ? วันนี้เราพาไปชี้เป้า 30 สถานที่ท่องเที่ยวสิงคโปร์ยอดฮิตและห้ามพลาดในการไปเช็กอิน
ที่เที่ยวสิงคโปร์ 2024 ฉบับอัปเดต
1. เขื่อนมารีน่า บาร์ราจ (Marina Barrage)
ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำของร่องน้ำมารีน่า (Marina Channel) เป็นอีกหนึ่งพื้นที่สร้างสรรค์ความรู้และทำกิจกรรมที่สนุกสนานของชาวสิงคโปร์ กลายเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ในสิงคโปร์ค่อนข้างมาก เพราะบริเวณริมเขื่อนมีการจัดทำพื้นที่ไว้รองรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ อีกทั้งยังออกแบบในรูปแบบที่ทันสมัย ซึ่งสามารถใช้งานได้จริง อย่างในเขื่อนที่มีน้ำเต็มตลอดปี สามารถที่จะเล่นกีฬาทางน้ำได้อย่างดี หรืออย่างสวนสีเขียวบนดาดฟ้าริมเขื่อนก็กลายเป็นพื้นที่ออกกำลังกาย นั่งปิกนิกชมวิวอ่าวมารีน่าได้แบบสวยสุด ๆ และยังเหมาะแก่การเล่นว่าวอีกด้วย นอกจากนี้อย่าลืมเดินไปเที่ยวชมบริเวณริมอ่าวมารีน่าด้านนอก ซึ่งจะมีทางเดินและสวนสวย ๆ ให้ได้เดินเล่นพักผ่อนในบรรยากาศสุดชิล
2. ย่านคลาร์กคีย์ (Clarke Quay)
ตั้งอยู่บริเวณใจกลางเมืองของสิงคโปร์ เป็นย่านท่าเรือเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว เพราะที่นี่มีร้านค้า ร้านอาหาร พร้อมทั้งคลับบาร์ริมแม่น้ำสิงคโปร์ เปิดให้บริการมากมาย อีกทั้งยังคงมีสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลเก่าแก่ ให้บรรยากาศผ่อนคลายน่านั่งพักผ่อน โดยเฉพาะยามเย็นที่นี่จะสวยงามไปด้วยแสงไฟวิบวับ
3. Nanyang Technological University
มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสิงคโปร์ ที่มีความโดดเด่นในเรื่องวิศวกรรมและเทคโนโลยี ซึ่งสิ่งที่น่าสนใจและทำให้ที่นี่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวก็คือ สถาปัตยกรรมอาคารที่สวยงามแปลกตา โดยเฉพาะตึกเข่งติ่มซำ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเข่งติ่มซำซ้อนกันขึ้นไป เป็นพื้นที่การเรียนรู้สุดเจ๋งของนักศึกษา บอกเลยว่าน่าไปถ่ายรูปเซลฟี่สุด ๆ นอกจากนี้ภายในมหาวิทยาลัยก็ยังมีอาคารเก๋ ๆ ให้เดินเที่ยวชมอีกมากมาย
4. ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ สิงคโปร์
ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซา แหล่งท่องเที่ยวห้ามพลาดของสิงคโปร์เลยก็ว่าได้ เป็นสวนสนุกที่รวบรวมทุกความสนุกไว้ได้อย่างครบรส เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องเล่นและแหล่งเรียนรู้มากมาย ปัจจุบันมีโซนความสนุกมากถึง 7 โซนด้วยกัน ได้แก่ Hollywood, New York, Sci-Fi City, Ancient Egypt, Lost World, Far Far Away และ Madagascar ไม่เพียงเท่านั้นยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก ฯลฯ ให้บริการอย่างครบครันอีกด้วย
5. Marina Bay Sands
สัญลักษณ์สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ ด้วยสถาปัตยกรรมของตึกที่คล้ายกับเรือขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านบน ซึ่งนอกจากจะมีห้องพักสุดหรูหราให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนแล้ว ด้านบนสุดของอาคารยังเป็นที่ตั้งของสระว่ายน้ำลอยฟ้าแบบอินฟินิตี้ไร้ขอบสระ ขนาด 150 เมตร สามารถมองเห็นวิวของตึกต่าง ๆ บริเวณอ่าวมารีน่าได้อย่างสวยงาม ไม่เพียงเท่านั้นด้านหนึ่งของดาดฟ้ายังเป็นที่ตั้งของสกายปาร์ค อันเป็นจุดชมวิวสิงคโปร์มุมสูงที่สวยที่สุดของสิงคโปร์ ยิ่งยามค่ำคืนบรรยากาศด้านบนนี้จะสวยมากขึ้น เพราะแสงไฟจากตึกต่าง ๆ รอบอ่าวจะส่องประกายระยิบระยับ
6. การ์เด้นส์ บาย เดอะ เบย์ (Gardens by the Bay)
สวนพฤกษศาสตร์ริมอ่าวมารีน่า มีการออกแบบอย่างโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญอีกแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ที่ต้องมาเช็กอิน ที่นี่มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 101 เฮกตาร์ ซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้นานาพรรณ รวมทั้งอาคารเรือนกระจกสำหรับปลูกต้นไม้ขนาดใหญ่ แบ่งออกเป็น 2 โซนใหญ่ ๆ ด้วยกัน คือ Bay South Garden และ Bay East Garden โดยในโซน Bay South Garden จะเต็มไปด้วยต้นไม้และดอกไม้มากมาย ซูเปอร์ทรี (Supertrees) ก็อยู่ในโซนนี้เช่นกัน โดยจะมีทางเดินลอยฟ้าให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมสวนในมุมสูงด้วย ส่วน Bay East Garden จะเป็นสวนหญ้าเขียวชอุ่มพร้อมทั้งสวนปาล์มตกแต่ง
7. เมอร์ไลออน (Merlion)
สัญลักษณ์แห่งการท่องเที่ยวของสิงคโปร์ มีลักษณะเป็นรูปปั้นสิงโตทะเลพ่นน้ำ สูงประมาณ 8.6 เมตร และหนัก 70 ตัน ตั้งอยู่ริมอ่าวมารีน่า ช่วงปากแม่น้ำสิงคโปร์ บริเวณสวนสิงโตทะเล (Merlion Park) ข้างสะพานเอสพลานาด (Esplanade Bridge) ด้านหน้าของโรงแรมฟูลเลอร์ตัน (Fullerton Hotel) ซึ่งจากจุดนี้สามารถชมวิวตึกมารีน่า เบย์ แซนด์, สิงคโปร์ ฟลายเออร์ และตึกสูงระฟ้าริมอ่าวมารีน่า ได้อย่างสวยงามอีกด้วย
8. สะพานเฮนเดอร์สัน เวฟ (Henderson Waves Bridge)
สะพานคนเดินที่สูงที่สุดในสิงคโปร์ ด้วยความสูงเหนือพื้นดินราว ๆ 36 เมตร โดยด้านล่างของสะพานทั้งสองฝั่งจะเป็นสวนสีเขียวขจี ไม่เพียงเท่านั้นสะพานแห่งนี้ยังมีรูปร่างสวยงามแปลกตา โดยลอกเลียนรูปทรงขึ้น-ลงของเกลียวคลื่น มีเส้นทางคดโค้งและบิดไปมาตลอดความยาวทั้งสิ้น 274 เมตร สร้างขึ้นโดยใช้โครงเหล็ก และมีแผ่นไม้บาเลา ซึ่งเป็นไม้ท้องถิ่นหายาก มาเสริมและตกแต่งตัวสะพานให้สวยงาม ยามค่ำคืนยังมีแสงไฟ LED ส่องสว่างเก๋ไก๋ หนุ่มสาวชาวสิงคโปร์จึงชอบที่จะพากันมาเดินเล่นและออกกำลังกายกันที่สะพานแห่งนี้ โดยสะพานแห่งนี้เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน
9. สิงคโปร์ ฟลายเออร์ (Singapore Flyer)
สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับการชมวิวเมืองสิงคโปร์ในมุมสูงแบบ 360 องศา ชิงช้าสวรรค์ยักษ์ที่ตั้งอยู่บริเวณริมอ่าวมารีน่า สูงจากพื้นดินถึง 165 เมตร หรือเทียบเท่ากับตึก 42 ชั้น มีทั้งหมด 28 แคปซูล โดยแต่ละแคปซูลจะเป็นหน้าต่างกระจก ซึ่งทำให้นักท่องเที่ยวสามารถชมวิวได้รอบด้าน ในแต่ละรอบจะใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถ้าหากใครอยากเพิ่มความพิเศษให้กับคนพิเศษก็สามารถจองดินเนอร์บนชิงช้าสวรรค์นี้ได้อีกด้วย
10. Helix Bridge
นักท่องเที่ยวมักเรียกกันว่าสะพานเกลียว เป็นสะพานคนเดินที่มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ ทอดข้ามผ่านอ่าวมารีน่าเชื่อมระหว่าง Marina Bay Center ไปยัง Youth Olympic Park มีลักษณะโครงสร้างเป็นเกลียว ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากโครงสร้างของ DNA ยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟที่ประดับประดาอยู่บนสะพานให้สว่างไสวสวยงาม เหมาะแก่การมาเดินเล่นชมอ่าวและถ่ายรูป
11. การแสดงแสง สี เสียง Wonder Full-Light & Water
การแสดงจัดอยู่บริเวณอ่าวมารีน่า ด้านหน้าของโรงแรมมารีน่า เบย์ แซนด์
ซึ่งจะเป็นการแสดงที่สวยงามตระการตา ด้วยการผสมผสานระหว่างน้ำ แสง และเสียง
เล่าเรื่องราวต่าง ๆ จะใช้เวลาแสดงประมาณ 15 นาที
บริเวณที่สามารถชมการแสดงได้ดีที่สุดจะอยู่ฝั่งมารีน่า เบย์ แซนด์
หรือที่นักท่องเที่ยวเรียกว่าลานพรอมมานาด
แต่ถ้าใครอยากเห็นการแสดงแสงบนยอดตึกมารีน่า เบย์ แซนด์ ด้วย
ให้ไปนั่งชมที่ฝั่งเมอร์ไลออน
วัดจีนในศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับไชน่าทาวน์ มีสถาปัตยกรรมของอาคารที่โดดเด่น ด้วยการสร้างตามแบบสมัยราชวงศ์ถัง มีทั้งหมด 5 ชั้น ผู้ออกแบบคือ พระอาจารย์ Shi Fa Zhao ใช้งบประมาณก่อสร้างไปทั้งสิ้น 75 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ สิ่งสำคัญของวัดแห่งนี้นอกจากสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าแล้ว ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้วจะประดิษฐานอยู่ในสถูปใหญ่ โดยมีน้ำหนัก 3,500 กิโลกรัม ทำจากทองแท้หนัก 320 กิโลกรัม โดยทองคำ 234 กิโลกรัม ในจำนวนนี้ได้มาจากการบริจาคโดยผู้มีจิตศรัทธา
ซอยเล็ก ๆ สไตล์ชิค ๆ ที่วัยรุ่นชาวสิงคโปร์ชื่นชอบที่จะมาเดินเที่ยวกัน ภายในซอยจะเป็นบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ Peranakan แต่งแต้มด้วยผลงานสตรีตอาร์ต และมีการรีโนเวทใหม่ให้ทันสมัยขึ้น กลายเป็นร้านกาแฟและร้านอาหารเก๋ ๆ บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะแก่การมาเดินเที่ยวเล่นในวันหยุดว่าง ๆ มีมุมให้ถ่ายรูปเซลฟี่มากมาย อยากจะเป็นฮิปสเตอร์แห่งสิงคโปร์ บอกเลยว่าต้องไม่พลาดที่นี่
โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่มีอายุความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 ความพิเศษของโรงแรมแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่งและการบริการที่หรูหราเท่านั้น แต่ยังมีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก (Neoclassic) อันโดดเด่นอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปเดินถ่ายรูปและเที่ยวชมได้ทุกวัน นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีสะพาน Cavenagh และสะพาน Anderson ซึ่งมีสถาปัตยกรรมในรูปแบบคล้ายคลึงกันทอดข้ามผ่านแม่น้ำสิงคโปร์ ยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟสว่างไสว บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ
ย่านช้อปปิ้งสุดทันสมัยของสิงคโปร์ เป็นแหล่งรวมห้างดังและร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย เต็มไปด้วยอาคารรูปทรงทันสมัย เหมาะสำหรับการมาเดินช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้า บางช่วงจะมีการลดราคาแบบกระหน่ำ ต้องคอยเช็กโปรโมชั่นดี ๆ และถึงแม้ว่าถนนออร์ชาร์ดจะเป็นย่านที่มีความทันสมัย แต่ก็แตกต่างจากย่านใจกลางเมืองของประเทศอื่น ๆ เพราะตลอดแนวถนนจะเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น เดินเที่ยวชมได้ง่าย
สำหรับใครที่ชอบงานสถาปัตยกรรมต้องไม่พลาดไปเที่ยวชม The Pinnacle@Duxton ซึ่งเป็นตึกที่พักอาศัยสุดเจ๋งของชาวสิงคโปร์ ถือได้ว่าเป็นอาคารสำหรับพักอาศัยที่หรูหราและสูงมาก มีทั้งหมด 50 ชั้น โดยด้านบนจะมีสวนลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลกตั้งอยู่ ด้วยความยาวของพื้นที่ราว ๆ 500 เมตร ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. โดยเสียค่าเข้าชม
Singapore City Gallery สถานที่ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับสิงคโปร์มากยิ่งขึ้น เพราะที่นี่จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของสิงคโปร์ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ผ่านสื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยีสุดทันสมัย ทำให้ผู้เข้าชมสามารถสนุกสนานไปกับการเที่ยวชมที่นี่ อีกทั้งยังได้ความรู้กลับบ้านด้วย เปิดให้เข้าเที่ยวชมวันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
12. วัดพระเขี้ยวแก้วและพิพิธภัณฑ์ (Buddha Tooth Relic Temple and Museum)
วัดจีนในศาสนาพุทธ นิกายมหายาน ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับไชน่าทาวน์ มีสถาปัตยกรรมของอาคารที่โดดเด่น ด้วยการสร้างตามแบบสมัยราชวงศ์ถัง มีทั้งหมด 5 ชั้น ผู้ออกแบบคือ พระอาจารย์ Shi Fa Zhao ใช้งบประมาณก่อสร้างไปทั้งสิ้น 75 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ สิ่งสำคัญของวัดแห่งนี้นอกจากสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าแล้ว ภายในยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้วจะประดิษฐานอยู่ในสถูปใหญ่ โดยมีน้ำหนัก 3,500 กิโลกรัม ทำจากทองแท้หนัก 320 กิโลกรัม โดยทองคำ 234 กิโลกรัม ในจำนวนนี้ได้มาจากการบริจาคโดยผู้มีจิตศรัทธา
13. ตรอก Haji Lane
ซอยเล็ก ๆ สไตล์ชิค ๆ ที่วัยรุ่นชาวสิงคโปร์ชื่นชอบที่จะมาเดินเที่ยวกัน ภายในซอยจะเป็นบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ Peranakan แต่งแต้มด้วยผลงานสตรีตอาร์ต และมีการรีโนเวทใหม่ให้ทันสมัยขึ้น กลายเป็นร้านกาแฟและร้านอาหารเก๋ ๆ บรรยากาศสบาย ๆ เหมาะแก่การมาเดินเที่ยวเล่นในวันหยุดว่าง ๆ มีมุมให้ถ่ายรูปเซลฟี่มากมาย อยากจะเป็นฮิปสเตอร์แห่งสิงคโปร์ บอกเลยว่าต้องไม่พลาดที่นี่
14. โรงแรมฟูลเลอร์ตัน (Fullerton Hotel)
โรงแรมระดับ 5 ดาว ที่มีอายุความเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1928 ความพิเศษของโรงแรมแห่งนี้ไม่ใช่เพียงแค่การตกแต่งและการบริการที่หรูหราเท่านั้น แต่ยังมีสถาปัตยกรรมแบบนีโอคลาสสิก (Neoclassic) อันโดดเด่นอีกด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะไปเดินถ่ายรูปและเที่ยวชมได้ทุกวัน นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงยังมีสะพาน Cavenagh และสะพาน Anderson ซึ่งมีสถาปัตยกรรมในรูปแบบคล้ายคลึงกันทอดข้ามผ่านแม่น้ำสิงคโปร์ ยามค่ำคืนจะมีการเปิดไฟสว่างไสว บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ
15. ถนนออร์ชาร์ด (Orchard Road)
ย่านช้อปปิ้งสุดทันสมัยของสิงคโปร์ เป็นแหล่งรวมห้างดังและร้านค้าแบรนด์เนมระดับโลกมากมาย เต็มไปด้วยอาคารรูปทรงทันสมัย เหมาะสำหรับการมาเดินช้อปปิ้งเลือกซื้อสินค้า บางช่วงจะมีการลดราคาแบบกระหน่ำ ต้องคอยเช็กโปรโมชั่นดี ๆ และถึงแม้ว่าถนนออร์ชาร์ดจะเป็นย่านที่มีความทันสมัย แต่ก็แตกต่างจากย่านใจกลางเมืองของประเทศอื่น ๆ เพราะตลอดแนวถนนจะเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น เดินเที่ยวชมได้ง่าย
16. The Pinnacle@Duxton
สำหรับใครที่ชอบงานสถาปัตยกรรมต้องไม่พลาดไปเที่ยวชม The Pinnacle@Duxton ซึ่งเป็นตึกที่พักอาศัยสุดเจ๋งของชาวสิงคโปร์ ถือได้ว่าเป็นอาคารสำหรับพักอาศัยที่หรูหราและสูงมาก มีทั้งหมด 50 ชั้น โดยด้านบนจะมีสวนลอยฟ้าที่ยาวที่สุดในโลกตั้งอยู่ ด้วยความยาวของพื้นที่ราว ๆ 500 เมตร ซึ่งเปิดให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นไปชมวิวทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. โดยเสียค่าเข้าชม
17. Singapore City Gallery
Singapore City Gallery สถานที่ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักกับสิงคโปร์มากยิ่งขึ้น เพราะที่นี่จัดแสดงเกี่ยวกับเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงของสิงคโปร์ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ผ่านสื่อการเรียนรู้และเทคโนโลยีสุดทันสมัย ทำให้ผู้เข้าชมสามารถสนุกสนานไปกับการเที่ยวชมที่นี่ อีกทั้งยังได้ความรู้กลับบ้านด้วย เปิดให้เข้าเที่ยวชมวันจันทร์-เสาร์ (ปิดวันอาทิตย์) ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
18. วัดเจ้าแม่กวนอิม (Kwan Im Thong Hood Cho Temple)
ตั้งอยู่บนถนน Waterloo อีกหนึ่งวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวสิงคโปร์ให้ความเคารพนับถือค่อนข้างมาก สร้างมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1884 ภายในเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิม ซึ่งคนท้องถิ่นมักจะมาไหว้ขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลต่อตัวเองและครอบครัว นอกจากนี้บนถนน Waterloo ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงกับวัดเจ้าแม่กวนอิมอีกเพียบ อาทิ Church of Saints Peter & Paul, Sri Krishnan Temple และ Maghain Aboth Synagogue เป็นต้น
19. ย่าน Tiong bahru
ถ้าอยากเที่ยวชมย่านที่เป็นของคนท้องถิ่นสิงคโปร์จริง ๆ ขอแนะนำให้ลองไปเดินเล่นในย่านเก่าแก่อย่าง Tiong Bahru ที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยสุดเงียบสงบของคนท้องถิ่น เต็มไปด้วยบ้านเรือนเก่าแก่สไตล์ชิค ๆ มีร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่รีโนเวทใหม่แต่ยังคงสไตล์ดั้งเดิมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลองนั่งเล่นชิล ๆ หรือใครจะมาลองกินอาหารท้องถิ่นใน Tiong bahru Market and Food Centre ก็ดีไม่น้อยเช่นกัน แล้วอย่าลืมแวะชิมขนมปังอร่อย ๆ จากร้าน Tiong Bahru Bakery กันด้วยนะ
20. สวนนกจูร่ง (Jurong Bird Sanctuary)
สวนนกขนาดใหญ่ มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 202,000 ตารางเมตร เต็มไปด้วยนกนานาชนิดมากกว่า 5,000 ตัว รวมกว่า 400 สายพันธุ์ และยังเต็มไปด้วยต้นไม้มากมาย บรรยากาศร่มรื่นสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ร่วมสนุกอีกเพียบ ที่นี่เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.
21. Dempsey Hill
คอมมูนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ที่ตกแต่งในสไตล์เก่าแก่แต่แฝงไปด้วยความหรูหราและทันสมัย มีร้านอาหารสำหรับดินเนอร์ให้เลือกสรรหลากหลายแบบ อีกทั้งยังมีสปาสุดหรูหรา และคาเฟ่สไตล์เรียบหรูให้บริการอีกด้วย ใครอยากจะพาคนพิเศษมาดินเนอร์ บอกเลยว่าไม่ควรพลาด
22. สวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ (Singapore Botanic Gardens)
สวนสวยที่เก่าแก่ที่สุดของสิงคโปร์ ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1859 มีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 60 เอเคอร์ เต็มไปด้วยต้นไม้หลากหลายชนิด มีการจัดตกแต่งให้เป็นสวนสวย เพื่อการมาพักผ่อนของชาวสิงคโปร์และนักท่องเที่ยว ไฮไลต์ของที่นี่ก็คือ สวนกล้วยไม้แห่งชาติ มีต้นกล้วยไม้มากกว่า 60,000 ต้น ให้ได้ยลโฉม เปิดให้เข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-19.00 น.
23. ไชน่าทาวน์
สิงคโปร์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีคนจีนอพยพย้ายถิ่นฐานเข้ามาอยู่อาศัย แน่นอนว่าจะต้องมีย่านไชน่าทาวน์ให้ได้ไปเดินเที่ยวชม ซึ่งในย่านนี้จะเป็นแหล่งรวบรวมร้านขายของที่ระลึกราคาไม่แพง รวมไปถึงของฝากมากมาย พร้อมทั้งร้านอาหารจีนอร่อย ๆ ให้ได้เลือกสรรเพียบ และยังถือว่าเป็นย่านที่ชาวแบ็กแพ็กเกอร์ชอบมาพักมากที่สุดอีกหนึ่งย่าน เพราะมีที่พักแบบโฮสเทลเก๋ ๆ ตั้งอยู่ในย่านนี้มากมาย และยังสะดวกต่อการเดินทางอีกด้วย ส่วนถ้าใครไม่ได้อยากช้อปปิ้งก็สามารถมาเดินเที่ยวกันได้ เพราะมีตึกสวย ๆ ให้ได้ถ่ายรูปเพียบ
24. Fort Canning Park
สวนสาธารณะใจกลางเมืองสิงคโปร์ รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย กลายเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนและออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมของสิงคโปร์ ไม่เพียงเท่านั้นจากการออกแบบสวนในสไตล์เก๋ ๆ จึงทำให้ Fort Canning Park กลายเป็นสถานที่ถ่ายรูปและเช็กอินสุดชิคที่วัยรุ่นสิงคโปร์และนักท่องเที่ยวให้ความสนใจ
25. S.E.A. Aquarium
ตั้งอยู่บนเกาะเซ็นโตซา เป็นอควาเรียมขนาดใหญ่ และยังน่าตื่นตาตื่นใจด้วยสัตว์ทะเลมากกว่า 100,000 ตัว ทั้งหมดราว ๆ 800 สายพันธุ์ มีแท็งก์น้ำกระจกขนาดใหญ่บิ๊กเบิ้ม ให้นักท่องเที่ยวได้ชมสัตว์ทะเลต่าง ๆ แหวกว่ายไป-มาในน้ำอย่างอลังการ ซึ่งรวมไปถึงฉลามเสือดาว, ปลากระเบนแมนตา และ Goliath Grouper ที่นี่แบ่งออกเป็นทั้งหมด 10 โซน มีการแสดงสัตว์น้ำในหลากหลายรูปแบบ เป็นสถานที่เปิดโลกกว้างแห่งท้องทะเลที่คุณไม่ควรพลาด
26. พิพิธภัณฑ์ศิลป์และศาสตร์ (ArtScience Museum)
พิพิธภัณฑ์ที่ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของมารีน่า เบย์ แซนด์ส เป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการทางวิทยาศาสตร์และศิลปะระดับโลกมากมาย โดยจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาจัดนิทรรศการให้ได้ชมกันตลอดทั้งปี ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสิงคโปร์โดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมอันเป็นสัญลักษณ์ของการโบกมือต้อนรับสู่สิงคโปร์ด้วยนิ้วทั้งสิบ ที่ปลายนิ้วแต่ละนิ้วกรองแสงธรรมชาติเพื่อแสดงให้เห็นว่าการจัดแสดงนิทรรศการภายใต้แสงที่ดีที่สุด มีห้องแสดงภาพมากถึง 21 ห้อง เรียงรายกันไปทั้ง 3 ชั้น นิทรรศการที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากที่สุดงานหนึ่งก็คือ Future World : Where Art Meets Science นิทรรศการจาก Teamlab ซึ่งจะมีการนำโรปเจกเตอร์มาฉายแบบอินเทอร์แอ็คทีฟเป็นภาพต่าง ๆ และไฮไลต์ของนิทรรศการอยู่ที่ Crystal Universe ห้องที่ประดับไปด้วยดวงไฟ LED มากมาย ถ่ายรูปออกมาสวยตระการตา
27. Residence of Tan Teng Niah
ตั้งอยู่ใกล้กับย่านลิตเติลอินเดีย เป็นบ้านเก่าแก่อายุมากกว่า 100 ปี ของ Tan Teng Niah พ่อค้าชาวจีนที่ร่ำรวยมากในยุคนั้น มีสไลต์แบบโคโลเนียลผสมผสานจีน ปัจจุบันมีการรีโนเวทใหม่ โดยตกแต่งเพิ่มเติมและทาสีให้มีสีสันสดใส กลายเป็นจุดเช็กอินถ่ายภาพเก๋ ๆ ของเหล่าวัยรุ่นสิงคโปร์ไปแล้ว
28. บันไดหลากสีสัน ณ Mount Faber
ที่เที่ยวสิงคโปร์อีกแห่งที่มีชื่อเสียง อยู่ใกล้กับสะพานเฮนเดอร์สัน เวฟ (Henderson Waves Bridge) และสถานีกระเช้าลอยฟ้าที่จะข้ามไปยังเกาะเซ็นโตซา เป็นยอดเขาสูงอันดับ 2 ของสิงคโปร์ สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ รอบเกาะสิงคโปร์ได้ และบริเวณโดยรอบยังเต็มไปด้วยสวนสวย ๆ ต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย บรรยากาศร่มรื่น มี Bell of Happiness ตั้งอยู่ให้คู่รักได้มาอธิษฐานขอพร และใกล้ ๆ กันยังมีบันไดหลากสีสันอีกด้วย
29. บันไดวนสีพาสเทล ณ Bugis Village
หากคุณเป็นคนที่ชอบงานด้านสถาปัตยกรรม หรืออยากถ่ายรูปเก๋ ๆ อีกมุมของสิงคโปร์ ก็ต้องไม่พลาดกับ Bugis Village แห่งนี้ ตั้งอยู่บริเวณถนน Victoria St. ตัดกับ Rochor Rd. มีลักษณะอาคารสไตล์โคโลเนียลสีขาว สวยสะดุดตา มีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย แต่ไฮไลต์ของที่นี่จะอยู่ที่ด้านหลังของอาคาร กับบันไดวนสีพาสเทลสวยหวาน ถ่ายรูปมุมไหนก็ดูดี เก๋เท่ไม่ซ้ำใครเลยล่ะ
30. Chinese Garden
สวนสาธารณะทางฝั่ง Jurong East ของสิงคโปร์ มีลักษณะเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสไตล์จีนโบราณสมัยราชวงศ์ซ่ง ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยสิ่งของตกแต่งแบบจีนทั้งหมด สิ่งที่น่าสนใจก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจดีย์คู่กลางน้ำ สะพาน Bai Hong Qiao สวนบอนไซ พิพิธภัณฑ์เต่าบกและเต่าทะเล เป็นต้น และสำหรับคนที่ชอบงานด้านสถาปัตยกรรมก็อย่าลืมถ่ายรูปเท่ ๆ กับบันไดวนแบบก้นหอยภายในเจดีย์ด้วยล่ะ เป็นมุมมองที่แปลกแตกต่างไม่น้อยเลยทีเดียว
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง