ภูเขาไฟฟูจิ ที่เที่ยวญี่ปุ่นวิวสวย ๆ กับหลากหลายเรื่องราวน่ารู้ วางแผนเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ ไปเดือนไหนดี มีกิจกรรมอะไรน่าเที่ยว และมีเรื่องไหนที่ควรรู้อีกบ้าง
ภูเขาไฟฟูจิ (Fuji Mountain)
ถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศญี่ปุ่น หลายคนไปเที่ยวญี่ปุ่นมักจะหาที่เที่ยวหรือจุดเช็กอินที่ถ่ายเห็นภูเขาไฟฟูจิ หรือถ้าใครเป็นสายลุยก็จะรู้ว่าแต่ละปีภูเขาไฟฟูจิจะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เดินไต่พิชิตความสูง เป็นอีกหนึ่งเส้นทางเทรลที่ได้รับความนิยม วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จัก ภูขาไฟฟูจิ ให้มากขึ้น ว่าแต่มีเรื่องอะไรที่ควรรู้บ้างนั้นตามมาดูกันเลย
ภูเขาไฟฟูจิ ที่เที่ยวญี่ปุ่น
1. ภูเขาไฟฟูจิ อยู่เมืองอะไร
ภูเขาไฟฟูจิ ตั้งอยู่บริเวณจังหวัดชิซูโอกะและจังหวัดยามานาชิ ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของโตเกียว (ดูพิกัด Google Maps : ภูเขาไฟฟูจิ)
2. ประวัติภูเขาไฟฟูจิ
ภูเขาไฟฟูจิ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ ในอดีตภูเขาไฟแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งในภูเขาไฟศักดิ์สิทธิ์ เชื่อกันว่ามีผู้ปีนภูเขาไฟฟูจิครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 1206 ซึ่งเป็นนักบวชท่านหนึ่ง และในระหว่างนั้นจนถึงยุคเมจิ ภูเขาไฟฟูจิได้ชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งห้ามผู้หญิงขึ้น อีกทั้งยังเคยเป็นที่ฝึกฝนของฐานทัพซามูไร ซึ่งในปัจจุบันฐานทัพหนึ่งของกองทหารญี่ปุ่นตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูเขาไฟฟูจิอีกด้วย
ปัจจุบัน ภูเขาไฟฟูจิ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญ และเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะเห็นได้จากในงานเขียนหรือภาพวาดต่าง ๆ โดยเฉพาะภาพวาดของ โฮะกุไซ ที่มีให้เห็นในวรรณกรรมและกาพย์กลอนที่สำคัญมากมาย อีกทั้งยังเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวสายเทรลทั้งหลาย ซึ่งแต่ละปีจะมีผู้เดินทางมาพิชิตความสูงเพื่อเสพความงดงามของธรรมชาติโดยรอบบนภูเขาไฟฟูจิ
3. ภูเขาไฟฟูจิ ดับหรือยัง
ถึงแม้ว่าภูเขาไฟฟูจิจะสวยงาม แต่ก็เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่สงบ โดยมีการระเบิดล่าสุดเมื่อปี พ.ศ. 2250 และถ้าหากถามว่าภูเขาไฟฟูจิดับหรือยัง ภูเขาแห่งนี้ถูกจัดอยู่ในลักษณะของภูเขาไฟที่มีโอกาสปะทุต่ำ
4. ภูเขาไฟฟูจิ กับมรดกโลกทางวัฒนธรรม
ภูเขาไฟฟูจิ ที่เที่ยวญี่ปุ่น ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมประจำปี ครั้งที่ 37 ณ กรุงพนมเปญ โดยถือเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งที่ 13 และเป็นมรดกโลกแห่งที่ 17 ของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ลักษณะของภูเขาไฟฟูจิจะมีรูปทรงกรวยเมื่อมองจากด้านบน และมีความสูงถึง 3,776 เมตร จากระดับน้ำทะเล หากใครสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าทุกด้านของภูเขาไฟฟูจิจะเท่ากัน ไม่ว่ามองมุมไหนจะไม่มีบิดเบี้ยว และมีหิมะปกคลุมเป็นสีขาวโพลนเกือบตลอดทั้งปี หลายคนเวลาไปเที่ยวญี่ปุ่น แล้วเป็นเส้นทางที่รู้ว่าจะมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ จึงมักจะจองที่นั่งริมหน้าต่างเพื่อชื่นชมภูเขาไฟฟูจิจากมุมมองด้านบน
5. ภูเขาไฟฟูจิ เที่ยวเดือนไหนดี
ใครที่อยากไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิ เที่ยวญี่ปุ่น มี 2 ฤดูด้วยกันที่เหมาะกับการไปเที่ยว นั่นคือ ฤดูร้อน ท้องฟ้าแจ่มใส สำหรับใครที่เป็นสายผจญภัยแนะนำให้มาช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม เพราะเป็นช่วงที่ฟ้าเปิด เหมาะสำหรับการมาชมพระอาทิตย์ขึ้น และฤดูหนาว ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน หิมะเริ่มปกคลุม มองเห็นเป็นสีขาวโพลน เป็นอีกหนึ่งโมเมนต์การเที่ยวภูเขาไฟฟูจิที่สวยไปอีกแบบ
6. จุดถ่ายรูปคู่ภูเขาไฟฟูจิ ญี่ปุ่น
ภูเขาไฟฟูจิ ถือว่าเป็นแลนด์มาร์กที่เที่ยวยอดนิยมของนักท่องเที่ยวทั่วโลกที่เดินทางมาเที่ยวญี่ปุ่น และด้วยความที่เป็นภูเขาไฟที่มีขนาดใหญ่มาก ๆ สามารถมองเห็นความสวยงามได้จากหลายมุม จึงทำให้ช่วงหลัง ๆ เรามักจะเห็นคนแชร์พิกัดมุมถ่ายรูปที่เห็นภูเขาไฟฟูจิในมุมต่าง ๆ โดยเฉพาะละแวก Kawaguchiko และ Shizuoka เอาไว้ให้ไปตามรอยกัน ได้แก่
ริมทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko)
สถานที่ยอดนิยมของการชมภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ฝั่งตรงข้าม โดย ทะเลสาบคาวากุจิโกะ (Lake Kawaguchiko) ล้อมรอบไปด้วยโรงแรม ร้านอาหาร และสถานที่พักผ่อนท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่สำคัญคือไม่ไกลจากโตเกียว เดินทางสะดวกมาก ๆ
เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda)
เจดีย์แดงชูเรโตะ (Chureito Pagoda) เจดีย์ 5 ชั้นบนเนินเขาที่สามารถมองเห็นเมืองฟูจิโยชิดะ (Fujiyoshida City) และภูเขาไฟฟูจิ ในระยะไกลได้อย่างชัดเจนและงดงาม
สวนโออิชิ (Oishi Park)
สวนโออิชิ (Oishi Park) เป็นหนึ่งในจุดชมวิวยอดฮิตของภูเขาไฟฟูจิ และยังเพลิดเพลินกับถนนดอกไม้ ซึ่งจะออกดอกบานตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม พร้อมกับพรมสีชมพูของต้นฟลอกสมอสที่จะแผ่กระจายไปทั่ว
FUJIYAMA Twin Terrace
FUJIYAMA Twin Terrace จุดชมวิวที่สามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิ เปิดให้บริการที่ชินโดพาสในเมืองฟุเอะฟุกิ (Fuefuki) จังหวัดยามานาชิ สามารถเดินทางได้สะดวก จะมารถบัสหรือรถยนต์ส่วนตัวก็ได้ บนจุดชมวิวมีทั้งร้านค้าและร้านอาหาร และยังมีเส้นทางธรรมชาติให้ได้เดินเล่นกันอีกด้วย
ร้านสะดวกซื้อ Lawson Kawaguchiko Ekimae Shop
ร้านสะดวกซื้อ Lawson Kawaguchiko Ekimae Shop คือหนึ่งในจุดถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟฟูจิที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ที่สุดจุดหนึ่ง และอยู่ไม่ไกลจากสถานี kawaguchiko เดินเพียง 2 นาทีเท่านั้น แต่ใครที่ไปถ่ายจุดนี้อาจต้องเคารพกฎจราจรกันเสียหน่อยเพื่อความปลอดภัย
ภาพจาก : interstid / Shutterstock.com
ทะเลสาบทานูกิ (Lake Tanuki) เมืองชิซูโอกะ
นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิรอบทะเลสาบทานูกิ (Lake Tanuki) เมืองชิซูโอกะ แถมการเดินทางก็มาง่าย ๆ ด้วยรถบัส (แต่เที่ยวรถอาจจะค่อนข้างน้อย) นักท่องเที่ยวอาจจะต้องวางแผนไป-กลับให้ดี ยิ่งถ้าวันไหนอากาศเคลียร์ ๆ เจอน้องฟูจิโผล่มาทักทายแน่นอน
ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko)
ทะเลสาบโชจิโกะ (Lake Shojiko) เป็นทะเลสาบที่มีขนาดเล็กที่สุดท่ามกลางทะเลสาบ 5 แห่งรอบภูเขาไฟฟูจิ สามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของภูเขาไฟฟูจิ อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ตั้งแคมป์ ตกปลา เดินป่า สกีน้ำ เจ็ตสกี และพายเรือ เป็นต้น
สถานี Kawaguchiko Station
ในวันที่อากาศสดใสและท้องฟ้าเป็นใจ เราสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิหลังจากลงที่สถานี Kawaguchiko Station ได้เลย เสร็จแล้วค่อยเดินเล่นรอบ ๆ สถานี เก็บเกี่ยวบรรยากาศความชิล บ้านเรือนที่เรียบง่ายแต่สวยงาม
ภาพจาก : Pakpoom Phummee / Shutterstock.com
จริง ๆ แล้วยังมีพิกัดถ่ายรูปภูเขาไฟฟูจิลับ ๆ อีกมากมายที่แชร์กันตามโซเชียล ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวควรให้ความสำคัญมากที่สุดนั่นคือ การเคารพกฎระเบียบและผู้คนที่อาศัยอยู่โดยรอบบริเวณนั้น ไม่ส่งเสียงดังรบกวนหรือเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวจะดีที่สุด
7. เส้นทางปีนภูเขาไฟฟูจิ
หากว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายชิล สายถ่ายรูป การถ่ายรูปคู่กับภูเขาไฟฟูจิ ดูจะเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม แต่ถ้าเกิดว่าคุณเป็นนักท่องเที่ยวสายเทรล การพิชิตภูเขาไฟฟูจิ ถือเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ควรทำเช่นเดียวกัน
สำหรับเส้นทางการปีนภูเขาไฟฟูจิ มีด้วยกัน 4 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางฟูจิโนะมิยะ, เส้นทางซุบาชิริ, เส้นทางโกเท็นมะ และเส้นทางโยชิดะ โดยเส้นทางที่เหมาะสำหรับนักปีนเขามือใหม่ คือ เส้นทางโยชิดะ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่เดินขึ้นภูเขาได้ง่ายที่สุด เริ่มต้นที่เมืองคาวาคูจิโกะ เป็นเส้นทางที่สะดวก ปลอดภัย มีร้านค้า ที่พัก และเดินง่าย
8. ปีนภูเขาฟูจิ ต้องเจออะไรบ้าง
การปีนภูเขาไฟฟูจิ เป็นอีกหนึ่งความฝันของนักท่องเที่ยวหลาย ๆ คน แต่ก่อนจะไปทำภารกิจพิชิตภูเขาไฟฟูจิ มีเรื่องที่จำเป็นต้องรู้ เช่น
- แน่นอนว่าการมาปีนภูเขาไฟฟูจิ สิ่งหนึ่งที่สำคัญเห็นจะเป็นกำลังขาและกำลังใจ เพราะเส้นทางเทรลค่อนข้างไกล
- ถ้าคุณเป็นมือใหม่ของการเดินเทรล แนะนำว่าให้ใช้เส้นทางโยชิดะจะดีที่สุด สำหรับเส้นทางอื่น ๆ จะมีความยากกว่า ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความชำนาญและทักษะเทรลของแต่ละคน
- ส่วนใหญ่มักจะเริ่มต้นที่สถานีที่ 5 (สามารถนั่งรถบัสขึ้นมาได้) โดยสถานีที่ 5-6 จะเป็นป่า ทางเดินขึ้นไม่ชัน ต่อมาก็จะเจอสถานีที่ 6-10 จะเป็นหินสีดำที่เกิดจากลาวาเย็นตัวลงเมื่อหลายร้อยปีก่อน ไม่มีต้นไม้ใหญ่ เป็นหินและดินลักษณะสีดำไกลสุดสายตาขึ้นไป
ภาพจาก : Foodforthoughts / Shutterstock.com
- ถ้าเป็นไปได้แนะนำให้ติดเสบียงอาหารมาด้วย แต่ใช่ว่าระหว่างทางจะไม่มีของกินขาย แต่ราคาจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามสถานีที่เราเดินขึ้นไป
ภาพจาก : Picturesque Japan / Shutterstock.com
- มีที่พักให้บริการ โดยจะมีแค่ถุงนอนกับหมอน แต่บางวันสภาพอากาศก็แปรปรวน ดังนั้น เตรียมอุปกรณ์กันหนาวของตัวเองไปให้เพียงพอ (สามารถเช็กที่พักได้ที่เว็บไซต์ plala.or.jp)
- การพิชิตภูเขาไฟฟูจิ ถ้าในสภาพอากาศปกติ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะขึ้นมาพักสถานีที่ 7-8 แล้วเดินต่อหลังเที่ยงคืนเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดเขา เพราะทางเดินช่วงนี้ค่อนข้างชัน และใช้เวลาเดินประมาณ 3-4 ชั่วโมง หรือใครอยากทดสอบความอึดและคิดว่าตัวเองไหว สามารถเดินลากยาวไปถึงยอดแล้วรอพระอาทิตย์ขึ้นทีเดียวได้เหมือนกัน
- ใครก็สามารถเป็นโรคแพ้ความสูงได้ในระหว่างที่ปีนเขา โดยเฉพาะคนที่ปีนขึ้นยอดเขาโดยไม่หยุดพัก ดังนั้น สำหรับการป้องกันโรคแพ้ความสูง คือเมื่อถึงชั้นที่ 5 ให้พักประมาณ 30 นาทีก่อน เพื่อให้ร่างกายชินกับความสูง ลองประเมินร่างกายตัวเอง อย่าฝืนถ้าคิดว่าไม่ไหว เดี๋ยวจะได้ไม่คุ้มเสีย
9. ภูเขาไฟฟูจิ เปิดเที่ยวช่วงไหน
ส่วนใหญ่แล้วภูเขาไฟฟูจิ
จะเปิดให้นักท่องเที่ยวได้พิชิตช่วงเดือนกรกฎาคม-กันยายน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี หรือบางปีก็เปิดให้ขึ้นแค่ 2 เดือนในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม ส่วนสภาพอากาศระหว่างทาง อันนี้บอกเลยว่าไม่สามารถคาดเดาได้ในแต่ละวัน สามารถเช็กช่วงเวลาได้ที่เว็บไซต์ fujisan-climb.jp
ภาพจาก : Nonchanon / Shutterstock.com
ภาพจาก : เว็บไซต์ fujisan-climb.jp
10. วิธีการเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิ
การเดินทางไปภูเขาไฟฟูจิสามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่สะดวกที่สุดสำหรับนักปีนเขาที่เดินทางมาจากโตเกียว คือ ขึ้นรถบัสที่วิ่งตรงจากสถานีชินจูกุ ไปยังสถานีที่่ 5 ของเส้นทางได้เลย (*** รถบัสสายนี้จะมีให้บริการเฉพาะช่วงฤดูปีนเขาเท่านั้น) แนะนำว่าให้จองล่วงหน้าก่อน 1 เดือน
ภาพจาก : เว็บไซต์ highway-buses.jp
*** ดูรายละเอียดการจองรถเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์
highway-buses.jp
11. ค่าเข้า ภูเขาไฟฟูจิ
สำหรับค่าเข้าสำหรับพิชิตภูเขาไฟฟูจิ จากรายงานข่าว (วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567) รัฐบาลท้องถิ่นจังหวัดยามานาชิ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีเส้นทางยอดนิยมสำหรับขึ้นภูเขาไฟฟูจิ เตรียมใช้มาตรการควบคุมนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นยอดภูเขาไฟฟูจิในช่วงหน้าร้อนปี 2024 (กรกฎาคม-กันยายน) โดยจะเก็บค่าใช้เส้นทางเพิ่มขึ้นอีก 2,000 เยน จากเดิม 1,000 เยน ทำให้ค่าใช้จ่ายสำหรับการขึ้นภูเขาไฟฟูจิเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 เยน ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาจำนวนนักท่องเที่ยวแออัดบนภูเขา และนำเงินส่วนนี้ไปเป็นทุนสำหรับมาตรการด้านความปลอดภัย สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์ pref.yamanashi.jp.e.aao.hp.transer.com
ใครที่อยากไปสัมผัสหนึ่งในสัญลักษณ์ของญี่ปุ่น ณ ภูเขาไฟฟูจิ จะสายถ่ายรูปชิล ๆ หรือจะสายลุย ยังไงก็ขอให้เที่ยวแบบแฮปปี้ มีโมเมนต์ประทับใจกลับมาทุกคน ^ ^
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
แนะนำ จุดชมฟูจิ ที่เที่ยวญี่ปุ่น อื่น ๆ ที่น่าสนใจ