ฝั่งอ่าวไทย
1. เกาะช้าง จังหวัดตราด
มาเริ่มกันที่เกาะใหญ่ ๆ อย่าง "เกาะช้าง" กันก่อนเลย มีพื้นที่ให้ได้เที่ยวและทำกิจกรรมมากถึง 429 ตารางกิโลเมตร เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร และห่างจากอำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด ประมาณ 8 กิโลเมตร หากไม่สะดุดหรือติดขัดเรื่องการเดินทาง เพียงแค่ 5 ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ เท่านั้นก็จะได้สัมผัสกับเกาะมหัศจรรย์แห่งนี้แล้ว
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b13.jpg)
ภายในเกาะช้างมีลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีป่าไม้และแหล่งกำเนิดต้นน้ำที่อุดมสมบูรณ์ รวมทั้งชายหาดที่งดงาม อาทิ หาดทรายขาว หาดไก่แบ้ หาดคลองพร้าว เป็นต้น มีกิจกรรมไว้รองรับนักท่องเที่ยวแบบจัดเต็ม ตั้งแต่การนอนอาบแดดสบาย ๆ ริมชายหาด ดำน้ำดูปะการัง ไปจนถึงกิจกรรมผจญภัยอย่างการห้อยโหนอยู่บนต้นไม้กลางเวหา นักท่องเที่ยวจึงไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรทำหากต้องมาติดอยู่บนเกาะแห่งนี้ นอกจากนี้เกาะช้างยังโอบล้อมไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยต่าง ๆ มากมาย
เกาะช้างจะงดงามที่สุดในช่วงเดือนตุลาคม-เมษายน เพราะคลื่นลมจะสงบ สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ดวงกลมโตขึ้นและลงได้อย่างสวยงาม กลางปีนี้ใครจะไปเยือนเกาะช้างก็ต้องเช็กสภาพอากาศกันสักนิด จะได้ดื่มด่ำกับเกาะช้างได้มากถึงมากที่สุด
2. เกาะกูด จังหวัดตราด
ใช้ชีวิตแบบช้า ๆ ให้เราได้กำหนดโลกด้วยตัวเอง ณ เกาะสวรรค์แห่งทะเลตะวันออก ความใหญ่ของเกาะแห่งนี้ก็ไม่น้อยหน้าเกาะไหน ๆ ความงดงามของเกาะกูดต้องขอบอกว่าเป็นสวรรค์แห่งท้องทะเลอ่าวไทยเลยก็ว่าได้ เพราะน้ำทะเลบริเวณรอบ ๆ เกาะใส สะอาด สามารถดำน้ำดูปะการังได้อย่างใกล้ชิด หาดทรายโดยรอบขาวละเอียด นุ่มน่าสัมผัส มีทิวมะพร้าวเรียงรายเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่น เงียบสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b9.jpg)
ภายในเกาะยังมีธรรมชาติและป่าเขาลำเนาไพรที่อุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะน้ำตกคลองเจ้า ซึ่งเป็นน้ำตกแห่งประวัติศาสตร์ เพราะครั้งหนึ่ง (พ.ศ. 2454) พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเคยเสด็จประพาส และพระราชทานนามว่าน้ำตกอนัมก๊ก นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังจะได้ศึกษาเรียนรู้ถึงวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเกาะได้อย่างเต็มอิ่ม เพราะภายในเกาะประชากรส่วนใหญ่เป็นคนท้องถิ่น และแม้จะเป็นเกาะที่อยู่ห่างจากชายฝั่งพอสมควรแต่ก็เพียบพร้อมไปด้วยสถานีตำรวจ โรงเรียน และสถานพยาบาล จึงมั่นใจในความปลอดภัยได้เต็มร้อย
หากใครที่รักการดำน้ำ เกาะกูดเป็นจุดศูนย์กลางที่จะพาไปชมโลกใต้ทะเลได้ดีอีกจุดหนึ่ง เพราะสามารถไปยังเกาะโดยรอบ อาทิ เกาะหมาก เกาะระยั้งใน เกาะระยั้งนอก เกาะผี เกาะขาม เกาะกระดาด เกาะนก เกาะนอก และเกาะใน หมู่เกาะรัง ซึ่งเป็นจุดที่มีปะการังและสัตว์น้ำที่อุดมสมบูรณ์ได้อย่างง่ายดาย ข้อแนะนำคือควรซื้อแพ็กเกจกับทางรีสอร์ต เพราะจะได้รับความสะดวกสบายและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน คุ้มค่ากว่าการเดินทางด้วยตนเอง
3. เกาะหมาก จังหวัดตราด
เกาะที่มีพื้นที่ประมาณ 9,000 ไร่ จึงทำให้เกาะแห่งนี้สอยอันดับ 3 แห่งความยิ่งใหญ่ในท้องทะเลตราดมาครอบครอง ด้วยความที่มีรูปร่างคล้ายกับดาวสี่แฉก จึงทำให้เกาะหมากมีชายหาดที่งดงามในทุก ๆ ด้าน โอบล้อมไปด้วยท้องทะเลสีฟ้าสดใส ชายหาดยอดนิยม เช่น อ่าวตานิด อ่าวไผ่ อ่าวโปร่ง แหลมสน ฯลฯ ซึ่งแต่ละอ่าวก็สามารถดำน้ำตื้นเพื่อดูปะการังและสัตว์ใต้น้ำได้อย่างง่ายดาย เพราะมีแนวปะการังที่สมบูรณ์รอบ ๆ เกาะ
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b8.jpg)
ภาพจาก sbuyjaidee / Shutterstock.com
ภายในเกาะมีเพียง 2
หมู่บ้านเท่านั้น คือ บ้านอ่าวนิดและบ้านแหลมสน
ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมทำสวนมะพร้าวและสวนยางพารา
ซึ่งชาวบ้านจะใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมเกาะแห่งนี้จึงได้ซึมซับกับวิถีชีวิตของชาวบ้านบนเกาะไปด้วยช่วงท่องเที่ยวเกาะหมากก็ไม่ได้แตกต่างจากเกาะอื่น ๆ ทางฝั่งอ่าวไทย คือต้องเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ ไม่มีพายุฝน นั่นก็คือประมาณเดือนตุลาคม-เมษายน ของทุกปี
4. เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง
ขยับเข้ามาใกล้กรุงเทพ ฯ กันอีกสักนิดกับเกาะยอดนิยมของทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เพราะมีธรรมชาติแห่งท้องทะเลที่สวยงามไม่แพ้กับทางฝั่งอันดามัน อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ได้เลือกทำมากมายไม่รู้เบื่อ มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร การเดินทางสะดวกสบาย มีเรือรับ-ส่งตลอดทั้งวัน จึงเหมาะสำหรับคนที่มีเวลาท่องเที่ยวน้อย สามารถเที่ยวได้ภายใน 1 วัน
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b11.jpg)
ภายในเกาะประกอบไปด้วยธรรมชาติที่งดงามสุดเหลือเชื่อ ทั้งป่าไม้เขียวขจี น้ำทะเลใส และหาดทรายขาวสะอาด พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อย่างครบครัน อีกทั้งกิจกรรมที่หลากหลาย รองรับด้วยร้านอาหารและที่พักมากมาย ให้ได้เลือกสรรตามความชอบใจ ไล่ไปตั้งแต่บังกะโลจนถึงโรงแรมหรูระดับโลก เกาะแห่งนี้จึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางของทั้งคู่รัก กลุ่มเพื่อน และครอบครัว หาดที่ได้รับความนิยม เช่น หาดทรายแก้ว อ่าวไผ่ อ่าวลุงดำ อ่าวช่อ อ่าววงเดือน อ่าวพร้าว เป็นต้น ซึ่งหาดเหล่านี้ได้กระจายตัวอยู่ทั่วทั้งเกาะ นักท่องเที่ยวจึงมั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าจะอยู่ตรงจุดไหนของเกาะเสม็ดก็สามารถชื่นชมกับความสวยงามของเกาะแห่งนี้ได้เช่นกัน
การเดินทางไปท่องเที่ยวเกาะเสม็ดในช่วงหน้าหนาวจนถึงหน้าร้อน (ตั้งแต่เดือนตุลาคม-เมษายน) จะเป็นช่วงเวลาที่นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับความงดงามของท้องทะเลแห่งเกาะเสม็ดได้แบบเต็มอิ่มที่สุด ด้วยมีคลื่นลมสงบ ปราศจากพายุฝน จึงไม่มีอุปสรรคในการเดินทางและท่องเที่ยว
5. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
จุดหมายปลายทางอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกอยากไปสัมผัส ด้วยมีความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร ทั้งธรรมชาติทั้งในและรอบ ๆ เกาะ ท้องทะเลที่งดงาม อุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรทางทะเลที่หลากหลาย ในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม เกาะสมุยจะคลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก เพราะเป็นช่วงที่ดีที่สุดของปีในการท่องเที่ยวทะเลในแถบอ่าวไทย ด้วยไม่มีพายุฝนและคลื่นลมแรง
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b14.jpg)
หาดทรายและน้ำทะเลใสเป็นปัจจัยสำคัญในการดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลงใหลไปกับเกาะแห่งนี้ หาดที่มีชื่อเสียง เช่น หาดเฉวง หาดละไม หาดตลิ่งงาม หาดนาเทียน เป็นต้น อีกทั้งธรรมชาติทั้งป่าไม้และแหล่งน้ำที่เพียบพร้อมภายในเกาะ ก็ทำให้เกาะสมุยกลายเป็นดินแดนสวรรค์อันรื่นรมย์ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัสให้ได้ แม้จะมีผู้คนแปลกหน้าเข้ามาเยี่ยมเยือนมากมาย แต่เสน่ห์แห่งการใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายของชาวบ้านก็ไม่ได้ถูกกลืนหายไป ชาวบ้านยังคงรักษาและดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรมที่ดีงามตามแบบฉบับของคนเกาะสมุย มีการประกอบอาชีพทำสวนมะพร้าวและแปรรูปผลิตภัณฑ์จากมะพร้าว ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
การที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาบนเกาะแห่งนี้จำนวนมาก ทำให้เกาะสมุยมีการเตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวในทุกรูปแบบ สามารถเดินทางมายังเกาะสมุยได้ทั้งทางน้ำและทางอากาศ มีสนามบินภายในเกาะ หรือหากนั่งเครื่องบินมาลงที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็มีรถโดยสารไว้บริการมากมาย ภายในเกาะสมุยยังเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก โรงแรม รีสอร์ตหรู ให้ได้เลือกสรรกันอย่างครบครัน ไม่ว่าจะมาเพื่อการพักผ่อนหรือมาสูดกลิ่นอายของท้องทะเลแบบแบ็กแพ็กเกอร์ เกาะสมุยก็ยินดีและพร้อมรับนักเดินทางในทุก ๆ แบบ
6. เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ห่างจากเกาะสมุยไปประมาณ 20 กิโลเมตร อันเป็นที่ตั้งของเกาะพะงัน ซึ่งโด่งดังมากในกิจกรรม "ฟูลมูน ปาร์ตี้" ที่จัดขึ้นในทุก ๆ วันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงขึ้น 15 ค่ำ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวในแต่ละครั้งได้มากกว่าหนึ่งหมื่นคน เพราะมีกิจกรรมรื่นเริงมากมายให้ได้สนุกสนาน ทั้งการเต้นรำใต้แสงจันทร์ การเพนท์ร่างกายด้วยสีสะท้อนแสง การแสดงกายกรรมผาดโผน เป็นต้น
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b7.jpg)
นอกจากกิจกรรมข้างต้นที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักเกาะพะงันแล้ว ความสวยงามของธรรมชาติทั้งในและรอบ ๆ เกาะแห่งนี้ก็ยังสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนอย่างไม่ขาดสาย หาดทรายขาวสะอาด น้ำทะเลใสสงบนิ่ง ด้วยสภาพภูมิประเทศที่เป็นภูเขาสูงชัน จึงทำให้มีจุดชมวิวที่งดงาม สามารถมองเห็นเกาะเล็กเกาะน้อยที่อยู่รอบ ๆ และไม่น่าเชื่อว่าเกาะแห่งนี้จะเคยเป็นสถานที่เสด็จประพาสของพระมหากษัตริย์ไทยถึง 4 พระองค์ คือ รัชกาลที่ 5 รัชกาลที่ 6 รัชกาลที่ 7 และรัชกาลที่ 9 จึงเป็นเกาะแห่งประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจลืมเลือน
ฤดูกาลแห่งการท่องเที่ยวเกาะพะงันก็ไม่ได้แตกต่างจากเกาะสมุย คือสามารถเที่ยวชมได้ดีที่สุดในช่วงเดือนมกราคม-พฤษภาคม ควรตรวจเช็กสภาพอากาศก่อนการเดินทางทุกครั้ง
7. เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ภาพของสันทรายสีขาวสะอาดตา 3 สาย ซึ่งเชื่อมต่อ 3 เกาะเข้าด้วยกัน เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของเกาะนางยวน ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะเต่าเพียงแค่ 480 เมตรเท่านั้น เสน่ห์ของเกาะนางยวนก็คือความเงียบสงบและความงดงามของท้องทะเลสีฟ้าสดใส มีแนวปะการังที่สมบูรณ์อยู่โดยรอบของเกาะ สามารถดำน้ำดูปะการังได้อย่างจุใจ มีท่าเรือ ร้านอาหาร ที่พักให้บริการอย่างเป็นส่วนตัว
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b3.jpg)
เมื่อมองลงมาจากยอดเขาที่สูงที่สุดจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของเกาะนางยวน สันทราย 3 เส้นสีขาวสะอาดตาที่เชื่อมเกาะทั้ง 3 จะโดดเด่นขึ้นมาเหนือน้ำทะเลสีฟ้าครามที่โอบล้อมรอบด้าน ตัดกับภูเขาสีเขียวขจีทั้ง 3 ที่ให้ความรู้สึกสดชื่น อุดมสมบูรณ์
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมายังเกาะนางยวนได้ 2 เส้นทาง คือจากทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีและจังหวัดชุมพร แต่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาจากทางฝั่งชุมพรมากกว่าเพราะมีระยะทางที่ใกล้และสะดวกสบาย ช่วงที่เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวมากที่สุดคือช่วงเดือนกุมภาพันธ์-ตุลาคม
8. เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี
เกาะที่สวยงาม น้ำทะเลใส และใกล้กรุงเทพฯ มาก ๆ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องการเดินทางเลยสักนิด สามารถเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ และพักค้างคืน แม้จะอยู่ห่างจากพัทยาออกไปไม่มาก แต่น้ำทะเลและหาดทรายที่เกาะล้านก็สวยงามกว่ามากถึงมากที่สุด อีกทั้งยังมีแนวปะการังที่สมบูรณ์กระจายตัวอยู่รอบ ๆ เกาะ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถออกไปดำน้ำตื้นได้ง่ายดาย
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b5.jpg)
ภายในเกาะล้านมีภูเขาสูงใหญ่และพื้นที่ราบ มีหาดทรายที่ขาวสะอาด การเดินทางภายในเกาะสามารถใช้บริการรถรับจ้างหรือเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่รอบ ๆ เกาะได้ ที่พักมีไล่ไปตั้งแต่โฮมสเตย์จนถึงรีสอร์ตหรูหรา มีร้านอาหารทะเลสด ร้านสะดวกซื้อ รองรับอย่างครบครัน
ฝั่งอันดามัน
9. เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล
ถ้าหากคุณกำลังมองหาเกาะสักแห่งที่เงียบสงบ เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง ก็ไม่ควรมองข้ามเกาะตะรุเตาแห่งนี้ ในอดีตนั้นเคยเป็นสถานที่คุมขังนักโทษเด็ดขาด นักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย และนักโทษการเมือง แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดัง เพราะมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์สวยงาม อีกทั้งเงียบสงบจนได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Parks and Reserves) ในปี พ.ศ. 2525
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b15.jpg)
อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวน 51 เกาะ รวมทั้งพื้นที่บนเกาะและทะเลประมาณ 931,250 ไร่ หรือ 1,490 ตารางกิโลเมตร มีที่ราบสลับกับเทือกเขาสูงใหญ่ มีอ่าวที่สำคัญ เช่น อ่าวพันเตมะละกา อ่าวสน อ่าวมะขาม อ่าวตะโละอุดัง และอ่าวตะโละวาว มีถ้ำยุคดึกดำบรรพ์ให้ได้ผจญภัย การเดินทางเข้าไปชมถ้ำทำได้เพียงการล่องเรือยางเข้าไป ภายในถ้ำมีหินงอก หินย้อยที่งดงาม มีการไหลของหยดน้ำตลอดเวลา หากพายเรือเข้าไปเรื่อย ๆ จะสามารถไปทะลุยังอีกหาดหนึ่งได้
ภายในเกาะตะรุเตามีเพียงที่พักของทางอุทยานเท่านั้น แต่มีให้เลือกพักหลากหลายแบบ สะอาด ปลอดภัย มีร้านค้าสะดวกซื้อไว้บริการ หากมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับเกาะตะรุเตาสักครั้ง ความงดงามของมันจะทำให้คุณไม่มีวันลืมเกาะแห่งนี้อย่างแน่นอน
10. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
ถ้าพูดถึงท้องทะเลทางฝั่งอันดามันจะขาดเกาะหลีเป๊ะไปไม่ได้ ลักษณะของเกาะหลีเป๊ะเป็นที่ราบเรียบ ไม่ใหญ่มากนัก มีทั้งหมด 3 หาด สามารถเดินถึงกันเพียงแค่ 15-20 นาที ซึ่งทั้งหมดล้วนขาวสะอาดตัดกับทะเลที่ใสราวกับคริสตัลสีฟ้า รอบ ๆ เกาะเต็มไปด้วยแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์ แค่เดินลงไปที่ชายหาดก็สามารถดำน้ำดูปะการังได้แล้ว บนเกาะประกอบไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร โรงเรียน และสถานพยาบาล
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b6.jpg)
นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานไปกับการดำน้ำรอบ ๆ เกาะ ชมการแสดงกระบองไฟจากชาวบ้านที่หน้าหาด หรือจะเดินเลือกซื้อสินค้าท้องถิ่นจากชาวบ้านที่ถนนคนเดินก็ได้เช่นกัน ร้านอาหารภายในเกาะมีมากมายหลากหลายประเภทให้ได้เลือกกิน พร้อมทั้งโฮมสเตย์ บังกะโล และโรงแรม มีตั้งแต่ราคาถูกไปจนถึงระดับห้าดาว
เกาะหลีเป๊ะยังเป็นศูนย์กลางในการไปยังเกาะต่าง ๆ โดยรอบได้อีกด้วย เช่น เกาะหินงาม เกาะหินซ้อน เกาะอาดังราวี เกาะผึ้ง เกาะรอกลอย ซึ่งแต่ละจุดนั้นจะมีปะการังสีสวยงามและสมบูรณ์ติดอันดับโลกเลยทีเดียว สามารถเช่าเรือของชาวบ้านเพื่อออกไปผจญภัยได้
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b1.jpg)
ทั้งนี้ควรจะตีตั๋วไปเที่ยวเกาะหลีเป๊ะในช่วงเดือนมีนาคม-ต้นเดือนมีนาคม เพราะท้องทะเลยังคงเงียบสงบ ไร้ซึ่งมรสุม ท้องทะเลจะใสไม่ขุ่น อีกทั้งท้องฟ้าจะสดใส ทำให้สนุกไปกับการเที่ยวเกาะได้อย่างเต็มที่
11. หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
สรวงสรรค์แห่งท้องทะเลทางใต้ของไทย จุดมุ่งหมายของคนรักทะเลจากทั่วโลก ด้วยมีธรรมชาติของทั้งบนบกและโลกใต้ทะเลที่งดงามไม่แพ้ทะเลไหนในโลกนี้ ประกอบไปด้วยเกาะเล็ก-ใหญ่ 9 เกาะ ได้แก่ เกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง และเกาะหูยง ซึ่งแต่ละเกาะนั้นก็มีเอกลักษณ์และความสวยงามที่แตกต่างกันไป
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b16.jpg)
หมู่เกาะสิมิลันได้จัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติของประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2525 เมื่อรวมเข้ากับเกาะตาชัย อุทยานแห่งนี้จึงครอบคลุมเนื้อที่กว่า 140 ตารางกิโลเมตร ความงดงามของน้ำทะเลที่ใสไม่ต่างจากกระจก แนวปะการังหลากสีที่สมบูรณ์รอบ ๆ อุทยาน สัตว์ต่าง ๆ ที่อยู่ใต้น้ำมากมาย พร้อมหาดทรายที่ขาวสะอาด ละเอียดนุ่ม ทำให้หมู่เกาะสิมิลันติดอันดับ 1 ใน 10 แหล่งน้ำลึกที่สวยงามของโลกเลยทีเดียว
นักท่องเที่ยวนิยมที่จะมาพักร้อนและดำน้ำกันในช่วงประมาณวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 15 พฤษภาคม และอุทยานจะปิดเกาะตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคม ถึง 31 ตุลาคม ของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่มีมรสุม ทำให้การเดินทางไม่สะดวกและน้ำทะเลก็จะไม่นิ่งและใส ไม่สามารถที่จะดำน้ำหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ โดยสำนักงานของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จะตั้งอยู่บนเกาะแปด ซึ่งเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุด มีทั้งร้านอาหารและที่พักไว้รองรับ
12. เกาะลันตา จังหวัดกระบี่
เกาะที่มีความงดงาม ตั้งตระหง่านอยู่กลางทะเลอันดามัน มี 2 เกาะด้วยกัน คือ เกาะลันตาใหญ่และเกาะลันตาน้อย เสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวหลงใหลเกาะแห่งนี้ก็คือธรรมชาติที่งดงามของท้องทะเลและป่าเขาภายในเกาะ ยิ่งไปกว่านั้นก็คือวิถีชีวิตดั้งเดิมแบบชาวไทย-จีน ชาวไทย-มุสลิม ของชาวบ้าน ยังคงถูกรักษาไว้อย่างดี นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสกับการใช้ชีวิตของคนท้องถิ่นผ่านอาหารการกิน การแต่งกาย ภาษา บ้านเรือนที่พักอาศัย เป็นความงดงามที่หาชมได้ยากยิ่ง
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b2.jpg)
บนเนื้อที่กว่า 472 ตารางกิโลเมตรของเกาะลันตาใหญ่ มีหาดทรายที่งดงามเรียงรายกระจายตัวอยู่รอบ ๆ ทั้งหมด 13 หาด ทางฝั่งตะวันออกเป็นส่วนของชุมชนโบราณ หมู่บ้านศรีรายา ที่มีการตั้งถิ่นฐานมามากกว่า 100 ปี ภายในเกาะมีป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อยู่ทางแหลมโตนด ปลายสุดของเกาะลันตาใหญ่ มีเส้นทางให้ได้เดินศึกษาธรรมชาติ ประภาคารสีขาวตั้งอยู่อย่างโดดเด่น เพื่อแสดงถึงชาวเลหรืออูรักลาโว้ย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะ เป็นอีกหมู่บ้านที่อยู่บนเกาะมาอย่างยาวนาน
นอกจากนี้บนเกาะยังเพียบพร้อมไปด้วยที่พัก ร้านอาหาร สถานบันเทิง แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมาย หากต้องดำน้ำก็สามารถดำน้ำตื้นได้ตามแนวชายฝั่ง หรือถ้าต้องการออกไปดำน้ำยังเกาะอื่น ๆ ก็มีเรือของชาวบ้านให้เช่าเหมาลำ ช่วงที่เหมาะที่สุดในการไปเยือนเกาะลันตาก็คือช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน
13. เกาะพยาม จังหวัดระนอง
เกาะเงียบสงบที่ตั้งอยู่ตำบลเกาะพยาม อำเภอเมือง จังหวัดระนอง ยังไม่มีการปลูกสร้างหรือจัดตั้งแหล่งบันเทิงมากมายเฉกเช่นเกาะอื่น ๆ ในทะเลอันดามัน นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวบ้าน ชมการทำประมงพื้นบ้าน การทำสวนมะพร้าว สวนยาง และสวนกาหยู (มะม่วงหิมพานต์) พร้อมกับการพักผ่อนไปกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งในเกาะและรอบ ๆ เกาะ
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b12.jpg)
เกาะพยามมีหาดทรายและน้ำทะเลที่งดงาม อาทิ อ่าวใหญ่ อ่าวไผ่ อ่าวหินขาว อ่าวแม่หม้าย อ่าวมุก เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้แก่ วัดเกาะพยาม อ่าวกวางปีป แหลมหิน อ่าวเขาควาย เขาทะลุ และทางใต้ของเกาะ หากเมื่อน้ำลดจะมีสันทรายโผล่ขึ้นมาซึ่งเป็นทางเชื่อมให้เดินไปยังเกาะขามได้ นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ใช้ชีวิตแบบช้า ๆ พร้อมกับดื่มด่ำไปกับธรรมชาติที่สวยงามบนเกาะแห่งนี้แล้ว เกาะพยามยังเป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้งดงามที่สุดอีกด้วย สร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกให้กับเกาะแห่งนี้ขึ้นอีกเท่าตัว
การเดินทางไปยังเกาะพยาม สามารถนั่งเรือโดยสารได้จากท่าเรือปากน้ำ มีบริการทั้งรอบเช้าและรอบบ่าย ในทุก ๆ วัน
14. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา
อีกหนึ่งหมู่เกาะที่มีทรัพยากรทางทะเลที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง ได้รับการจัดตั้งให้เป็นอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เมื่อปี พ.ศ. 2524 มีความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ ทั้งท้องทะเลที่ใส หาดทรายขาวสะอาด สภาพป่าอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์ป่าสงวนและพืชนานาชนิด รวมมีพื้นที่มากกว่า 88,282 ไร่
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b10.jpg)
หมู่เกาะทั้งหมดมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป สามารถดำน้ำได้รอบ ๆ หมู่เกาะ เพราะมีแนวปะการังที่สมบูรณ์กระจายตัวอยู่ทั่วไป มีที่พัก ร้านค้า และร้านอาหารของอุทยานไว้รองรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งอุปกรณ์ดำน้ำ ช่วงที่สามารถเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ได้คือช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน ถึง 30 เมษายน ของทุกปี และหมู่เกาะสุรินทร์จะปิดลงในช่วงหน้าฝน คือตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม ถึง 31 ตุลาคม ของทุกปี
15. เกาะกระดาน จังหวัดตรัง
อีกหนึ่งเกาะสวยของท้องทะเลอันดามัน ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ใช้เวลาเดินทางจากฝั่งจังหวัดตรังประมาณ 30-50 นาที อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม ที่นี่มีลักษณะเป็นเกาะเล็ก ๆ รูปร่างยาว มีหาดทรายทั้งหมด 4 หาด ซึ่งแต่ละหาดก็สวยงาม เนื้อทรายเนียนละเอียด ขาวสะอาดโดดเด่น ไม่เพียงเท่านั้นยังมีแนวปะการังแข็งตลอดชายฝั่งของเกาะกระดาน มีปะการังอ่อนและกัลปังหาทางด้านทิศใต้ของเกาะ บรรยากาศบนเกาะเงียบสงบมาก เหมาะแก่การมาเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดยาว
![เที่ยวทะเล เที่ยวทะเล](http://img.kapook.com/u/2019/sutasinee/09/b4.jpg)
บนเกาะมีที่พักให้บริการทั้งในส่วนของอุทยานและเอกชน มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวเกาะกระดานจะอยู่ในช่วงราว ๆ ปลายเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤษภาคม ของทุกปี
การเดินทางไปยังเกาะกระดานที่สะดวกที่สุดคือการซื้อทัวร์แบบวันเดย์ทริป ซึ่งบางแห่งจะรวมเกาะใกล้เคียงอย่างเกาะมุก เกาะไหง เกาะเชือก หรือเกาะม้าเข้าไปด้วย แต่ถ้าอยากไปเที่ยวที่เดียวก็มีเรือหางยาวให้เช่าเหมาลำ สอบถามเรือได้บริเวณท่าเรือควนตุ้งกูและท่าเรือหาดปากเมง
เห็นแบบนี้แล้วจะยังคงนอนตีพุงอยู่กับบ้านกันอยู่อีกไหม ออกไปสัมผัสกับน้ำทะเลใส หาดทรายขาว ที่คนไทยอย่างเราสามารถไปแตะต้องได้กันเถอะ !
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก