ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ยอดดอยสูงสุดแดนสยาม สถานที่ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม และที่สำคัญสามารถเที่ยวได้ทุกช่วงฤดูกาล
ดอยอินทนนท์ ถือว่าเป็นลิสต์ที่เที่ยวอันดับต้น ๆ
ที่นักท่องเที่ยวทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพต้องสัมผัสสักครั้งในชีวิต
เพราะไม่ว่าคุณจะรักการเที่ยวแบบชิล ๆ หรือลุย ๆ ดอยอินทนนท์ ก็พร้อมต้อนรับคุณด้วยความงดงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง
ทั้งความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่า บวกกับสภาพอากาศที่เย็นสบาย
ทำให้ไม่ว่าใครที่เดินทางก็ต้องประทับใจกับสีสันของธรรมชาติที่อินทนนท์ด้วยกันทั้งนั้น
เพราะฉะนั้นไปเที่ยวอินทนนท์ทั้งทีต้องไปให้สนุก
มีอะไรที่นักท่องเที่ยวอย่างเราต้องรู้เกี่ยวกับอินทนนท์บ้าง...มาดูกัน
● 1. ยอดดอยอินทนน์ เป็นยอดดอยที่สูงที่สุดในประเทศไทย อยู่ที่ 2,565 เมตร จากระดับน้ำทะเล
● 2. ดอยอินทนนท์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไปได้ทุกฤดู แต่ละฤดูก็มีสีสันความสวยงามแตกต่างกันไป
● 3. ใครไปดอยอินทนนท์ช่วงฤดูหนาว ก็จะเจอกับอากาศที่แสนเย็นเฉียบ เย็นมาก ๆๆๆ เท่าที่จะเย็นได้ในประเทศไทย
● 4. อากาศที่เย็นจัดบนอินทนนท์ทำให้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำค้างแข็งหรือแม่คะนิ้ง
● 5. แต่ก็ใช่ว่าทุกคนไปแล้วจะเจอกับแม่คะนิ้ง เพราะของอย่างนี้มันขึ้นอยู่กับดวงล้วน ๆ

● 6. ใครไปดอยอินทนนท์ช่วงฤดูร้อน ถึงแม้ว่าอากาศในเมืองจะร้อนตับแตก แต่พอไปถึงยอดดอยก็จะพบกับอากาศที่แสนจะเย็นชื่นใจ
● 7. มีคนจำนวนไม่น้อยเลือกไปเที่ยวดอยอินทนนท์ช่วงหน้าฝน เพราะจะได้ไม่ต้องไปเบียดเสียดกับผู้คน บรรยากาศเงียบสงบ ได้ดูวิวธรรมชาติเขียวขจีแบบสบายใจ
● 8. ข้อดีอีกอย่างของการเที่ยวดอยอินทนนท์หน้าฝน คือลานจอดรถจะโล่งมากเป็นพิเศษ เพราะเป็นฤดูที่ไม่มีใครเที่ยว งานนี้กระโดดโลดเต้นสบาย ๆ
● 9. หรือจะไปช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่ดอยอินทนน์ก็มีนาข้าวขั้นบันไดสวย ๆ ให้ได้ชม

● 11. แต่ถ้าเป็นขาลง คนขับอาจต้องใช้ความชำนาญมากเป็นพิเศษ ต้องใช้เกียร์ต่ำ ใช้เบรกให้น้อยที่สุด แล้วค่อย ๆ ไหลลงมาเรื่อย ๆ
● 12. กระซิบนิดหนึ่งว่าลานจอดรถข้างสถานีเรดาร์ ห้ามถ่ายรูปเป็นอันขาด เนื่องจากเป็นความลับของทางการทหาร แต่จะแวะไปกินกาแฟ ถ่ายรูปนก ดอกไม้ หน้าตัวเองก็ทำได้ แต่อย่าได้ถ่ายรูปเรดาร์เด็ดขาด
● 13. ที่ดอยอินทนนท์มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติมากมาย ทางที่ดีควรเตรียมอุปกรณ์อย่างพวกยาทากันยุงไว้กับตัว เพราะภายในพื้นที่ป่าเต็มไปด้วยพวกแมลงบินต่าง ๆ ที่คอยจ้องจะดูดเลือดของเรา
● 14. หนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอินทนนท์ที่น่าสนใจ คือ "กิ่วแม่ปาน" แต่ที่นี่จะปิดช่วงฤดูฝน เพราะสภาพดินแฉะ เละเป็นโคลน ดีไม่ดีอาจเกิดอันตราย

● 15. จากกิ่วแม่ปาน นักท่องเที่ยวจะมองเห็นพระธาตุเจดีย์คู่ โดยรอบมีสวนดอกไม้ และจุดชมวิวสวย ๆ รอคุณอยู่เพียบ
● 16. ที่เห็นว่าเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานมีผืนป่าที่สมบูรณ์แบบนี้ ใครจะรู้ว่าครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นผืนป่าที่ถูกทำลายมาก่อน
● 17. ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ ใครมาที่กิ่วแม่ปานจะได้เจอกับ "กุหลาบพันปี" ที่บานขึ้นตามป่าทั้งสีขาวและสีแดงเต็มไปหมด

● 18. เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปานนี้ ได้รับรางวัลดีเด่นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ครั้งที่ 4 ประจำปี พ.ศ. 2545 มีรางวัลการันตีแบบนี้ยิ่งน่าเที่ยวเข้าไปใหญ่
● 19. พระตำหนักดอยผาตั้ง ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จัดเป็นหนึ่งในสถานที่แลนด์มาร์กเด็ดสำหรับการชมความสวยงามของดอกนางพญาเสือโคร่งที่พลาดไม่ได้
● 20. แต่ถ้าใครตั้งใจอยากมาชมดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่ดอยอินทนนท์จริง ๆ ที่นี่ก็มีเส้นทางชมพญาเสือโคร่ง ไล่ตั้งแต่พระตำหนักดอยผาตั้ง-ขุนกลาง-ขุนวาง เป็นถนนสายสีชมพูระยะทางกว่า 25 กิโลเมตร

ภาพจาก Em_7 / shutterstock.com
● 21. แต่จริง ๆ แล้วฤดูกาลของพญาเสือโคร่งค่อนข้างคาดเดาได้ลำบาก ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นสำคัญ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะบานในช่วงปลายเดือนธันวาคมเป็นต้นไป ถ้าจะให้ดีโทรศัพท์มาถามเลยจะดีกว่า● 22. ความสวยงามของพญาเสือโคร่งที่นี่สวยทุกโมเมนต์ ทั้งที่บานสะพรั่งบนต้น หรือตอนดอกร่วงเต็มพื้น ดูตระการตางดงามไปเสียหมด
● 23. หรือจะลองไปชมดอกนางพญาเสือโคร่งที่สถานีเกษตรขุนวาง โครงการหลวงขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโครงการหลวงอินทนนท์ ที่นี่ก็เด็ดไม่แพ้กัน
● 24. แถมยังมีไฮไลต์เด็ดอยู่ที่อุโมงค์พญาเสือโคร่ง แต่ถ้าอยากไปแล้วเจออุโมงค์สีชมพูสวย ๆ อาจจะต้องเช็กข่าวนาทีต่อนาที เผื่อกันพลาด
● 25. สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ตั้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ภายในมีสระน้ำ หงส์ เป็ดน้ำ ร้านกาแฟ สวนดอกไม้ มีที่เที่ยวให้คุณเที่ยวเพลิน ๆ ทั้งวัน
● 26. ใครที่รักและชื่นชอบดอกไม้เมืองหนาวสวย ๆ พลาดไม่ได้กับ "สวน 80 พรรษา" ที่ภายในได้รับการตกแต่งภูมิทัศน์เป็นอย่างดี จนคุณเดินถ่ายรูปได้ทั้งวัน
● 27. บ้านพักสถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ในโครงการหลวงดอยอินทนนท์ มีให้เลือกหลายแบบหลายราคา สามารถโทร.จองได้ที่ 053 286 771-2 หรือ 080 769 1944
● 28. ภายในบ้านพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบ ทั้งหมอน ที่นอน ห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศ
● 29. แต่เอาเข้าจริง ๆ ใครที่ไปนอนช่วงหน้าหนาว แทบไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ เพราะเย็นยะเยือก น้ำยังแทบไม่อยากจะอาบเลยทีเดียว

ภาพจาก Twenty-two hours / shutterstock.com
● 30. เป็นอันรู้กันว่าช่วงหน้าเทศกาลเป็นช่วงที่บ้านพักจองยากสุด ๆ แนะนำว่าไปนอนช่วงหน้าฝนแทน รับรองว่าฟินไม่แพ้กัน
● 31. หากรู้ตัวว่าอยากจะนอนที่บ้านพักในโครงการหลวง ต้องสำรองที่พักล่วงหน้าหนึ่งอาทิตย์ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ โทร. 02 562 0760 หรือเว็บไซต์ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053 355 728, 053 311 608
● 32. ร้านอาหารที่โครงการหลวงจัดได้ว่าเด็ดไม่แพ้ใคร ลองเข้าไปดู คุณจะพบกับเมนูแปลก ๆ มากมายหลากหลายวัตถุดิบ
● 33. จุดเด่นของร้านอาหาร คือ การนำปลาเทราต์และปลาสเตอร์เจียนสด ๆ จากบ่อเลี้ยงมาเป็นวัตถุดิบในการปรุงอาหาร
● 34. พลาดไม่ได้กับเมนูเด็ดต้องลอง เช่น สลัดปลาสเตอร์เจียนย่างซัลซ่าซอส ปลาเทราต์ทอดกระเทียม เป็นต้น
● 35. ใครที่รับประทานอาหารอิ่มแล้ว สามารถลงไปเดินย่อยอาหารได้ที่สวนใกล้ร้านอาหาร ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขา สระน้ำ และสวนดอกไม้ ซึ่งสวยงามไปตามระเบียบ

● 37. กิจกรรมดูนกดอยอินทนนท์ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่คุณไม่ควรพลาด
● 38. ก่อนเดินทางกลับแวะอุดหนุนสินค้าเกษตร พวกพืชผัก-ผลไม้เมืองหนาวที่ "ตลาดม้ง" ตลาดพื้นเมืองชุมชนไทยม้ง บ้านขุนกลาง แห่งดอยอินทนนท์ ก็ดีเหมือนกันนะ
● 39. หากงงหรือสงสัย ไม่รู้ว่าจะเริ่มเที่ยวที่ไหนของดอยอินทนนท์ก่อน แนะนำให้ขอคำปรึกษาได้ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์นักท่องเที่ยว จะมีเจ้าหน้าที่รอให้คำแนะนำคุณอยู่ (ตั้งอยู่บริเวณ กิโลเมตรที่ 9 ของเส้นทางหมายเลข 1009 มีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำ และมีนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติ สัตว์ป่า และอื่น ๆ)
● 40. การเดินทางเที่ยวที่ดอยอินทนนท์สามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัว และรถโดยสารประจำทาง และไม่ลำบากอย่างที่คิด
คราวนี้เพื่อน ๆ ก็รู้แล้วว่าดอยอินทนนท์ไม่ได้เป็นที่เที่ยวสำหรับฤดูหนาวเท่านั้น ลองเปลี่ยนบรรยากาศเที่ยวดอยอินทนนท์ช่วงฤดูอื่นดูบ้าง หรือไม่ทางที่ดีก็ไปให้ครบทุกฤดูเลยก็ได้นะ รับรองว่าสวยงามไม่ซ้ำกันเลยทีเดียว ใครสนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ โทร. 053 355 728, 053 311 608
ขอขอบคุณข้อมูลจาก

