ภูกระดึง ขุนเขามหัศจรรย์แห่งเมืองเลย

          ภูกระดึง จังหวัดเลย ชวนขึ้นไปสัมผัสความงามทางธรรมชาติที่ไม่เหมือนใคร แถมยังเป็นการพิสูจน์ใจตัวเองอีกด้วย

          ว่ากันว่า....หากอยากพิสูจน์รักแท้ให้พาคนที่เรารักไปร่วมพิสูจน์รักด้วยการเดินทางพิชิตยอดภูของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย และถ้าหากเขาคนนั้นสามารถร่วมเดินทางไปกับคุณจนกระทั่งถึงยอดดอย และคอยช่วยเหลือดูแลกันและกันเป็นอย่างดีแล้วละก็ เขาก็คือรักแท้ของเราเป็นแน่แท้ !!! นี่คือตำนานคำกล่าวขานที่มักได้ยินเสมอ ๆ เมื่อเอ่ยถึง ภูกระดึง หรือ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการที่เราจะขึ้นไปถึงยอดดอยได้ต้องเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 9 กิโลเมตร คือขึ้นเขา 5 กิโลเมตร บวกทางราบอีกประมาณ 3-4 กิโลเมตร (โห...ไหวไหมเนี่ย) ซึ่งนอกจากจะมีคู่รักไปพิสูจน์รักแท้แล้ว ภูกระดึงมักจะได้รับความนิยมในการไปแบบกลุ่มเพื่อน ๆ อีกด้วย และทุกคนที่ได้ไปสัมผัสต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ตอนเดินเหนื่อยมาก ๆ แต่พอได้ไปสัมผัสกับธรรมชาติข้างบนภูกระดึงแล้วคุ้มค่าสุด ๆ

ป้าย ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึงภาพจาก Ging o_o / Shutterstock.com

ภูกระดึง จังหวัดเลย


          แหม...มีเสียงการันตีความท้าทาย ผจญภัย และน่าไปสัมผัสแบบนี้ คงอดใจไม่ได้แล้วที่จะไปศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับภูกระดึง เอาเป็นว่าเราไปทำความรู้จักอุทยานแห่งนี้พร้อม ๆ กันเลย
 

ทำความรู้จักภูกระดึง


          ภูกระดึง เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นภูเขาหินทรายยอดตัด เป็นที่ราบขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร มีความสูง 400-1,200 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ได้รับความนิยมมากแห่งหนึ่งของเมืองไทย จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณคอกเมย มีความสูง 1,316 เมตร จากระดับน้ำทะเล

เส้นทางเดินไปยังจุดท่องเที่ยวของภูกระดึงภาพจาก Sumeth anu / Shutterstock.com

เสน่ห์ของภูกระดึง


          สภาพทั่วไปของภูกระดึงประกอบไปด้วยพรรณไม้นานาพรรณ สัตว์ป่านานาชนิด หน้าผา ทุ่งหญ้า ลำธาร และน้ำตก อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ต้นน้ำของลำน้ำพอง ซึ่งเป็นลำน้ำสายสำคัญสายหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ด้วยความสูง บรรยากาศ และสภาพอากาศที่เย็นสบายตลอดปีบนยอดภูกระดึง โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาวอุณหภูมิอาจลดต่ำจนถึง 0 องศาเซลเซียส จึงเป็นแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวปรารถนาและหวังจะเป็นผู้พิชิตยอดภูกระดึงสักครั้งหนึ่งในชีวิต

สภาพป่าบางจุดของภูกระดึง

การเดินทางพิชิตยอดภูกระดึง


          สำหรับการเดินทางขึ้นภูกระดึงนั้น จากเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park อัปเดตข้อมูลได้มีการปรับเวลาขึ้น-ลงภูกระดึง มีรายละเอียด ดังนี้

         - วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 06.00-13.00 น.
         - วันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 05.30-13.00 น. 

         *** หลังจากเวลา 13.00 น. ไม่อนุญาตให้ผ่านขึ้นเขาทุกกรณี 

         และเพราะระยะทางในการเดินขึ้นเขาต้องใช้เวลาในการเดินเท้าประมาณ 4-5 ชั่วโมง ซึ่งจะตรงกับเวลาพลบค่ำในระหว่างทาง ดังนั้นนักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องวางแผนให้ดี ๆ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของตัวคุณเอง 

ป่าสนสามใบในภูกระดึง

          เส้นทางขึ้นบนยอดภูกระดึงจะต้องเดินเท้าวัดใจผ่านไล่เรียงไปตั้งแต่ซำแฮก ซำบอน ซำกกกอก ซำกกหว้า ซำกกไผ่ ซำกกโดน ซำแคร่ และช่วงสุดท้ายที่จะผ่านขึ้นไปยังหลังแป เป็นช่วงที่เหนื่อยที่สุด เพราะจะต้องปีนป่ายขึ้นโขดหินและต้องเพิ่มความระมัดระวังมากเป็นพิเศษด้วยเช่นกัน แต่ถ้าใครเหนื่อยก็นั่งลงแวะพักดื่มน้ำหาของกินกันได้ มีร้านค้าประจำอยู่ทุกซำ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรกิน

จุดท่องเที่ยวบนภูกระดึง
ภาพจาก Sumeth anu / Shutterstock.com

ภูกระดึงเปิด-ปิดฤดูกาลท่องเที่ยวช่วงไหน

  
          อุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภู ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี และจะทำการปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 กันยายน ของทุกปี เช่นกัน เพื่อเป็นการฟื้นฟูในช่วงฤดูฝน

         


ภูกระดึง
ภาพจาก Tanasara / Shutterstock.com

สถานที่ท่องเที่ยวภูกระดึง


1. ผานกแอ่น


         
ผานกแอ่น ลานหินเล็ก ๆ มีสนต้นหนึ่งขึ้นโดดเด่นอยู่ริมหน้าผา เป็นจุดท่องเที่ยวชมพระอาทิตย์ขึ้น ที่สำคัญอยู่ห่างจากที่พักศูนย์วังกวางเพียง 2 กิโลเมตร ในทุกเช้าของหน้าหนาวจะมีนักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปกันมาก และมักจะมีการชิงทำเลดี ๆ เสมอ สมัยนี้ทางไปมักมีช้างอาละวาด ตอนเช้าจะต้องไปพร้อมเจ้าหน้าที่ ห้ามไปเองเป็นอันขาด

ผานกแอ่น ที่เที่ยวในภูกระดึง
ภาพจาก Udom Aunlamai / Shutterstock.com

          นอกจากนั้นหากอากาศดีพอในช่วงเวลาที่เดินเท้าฝ่าความมืดมาชมพระอาทิตย์ขึ้นนั้น เป็นช่วงที่ประจวบเหมาะกับเวลาที่พระจันทร์กำลังจะลับขอบฟ้า ด้านตะวันตกนั้นจะได้เห็นภาพสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ ริมทางเดินใกล้ผานกแอ่นเป็นสวนหินมีดอกกุหลาบป่าขึ้นอยู่เป็นดงใหญ่ ซึ่งจะบานสะพรั่งเต็มต้นในเดือนมีนาคม-เมษายน และใครที่อยากไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่นควรเตรียมไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางไปด้วย

ผานกแอ่น ที่เที่ยวในภูกระดึง

2. ผาหล่มสัก


          ผาหล่มสัก ถ้าไม่ไปชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ก็เหมือนไม่ได้ไปเยือนภูกระดึง หลายคนถึงกับออกปากไว้แบบนั้น ตัวผาหล่มสักอยู่ห่างจากผาแดง 2.5 กิโลเมตร หากเดินมาจากแยกศูนย์โทรคมนาคมกองทัพอากาศ บนเส้นทางน้ำตก แต่ถ้าเดินจากที่พักศูนย์วังกวางจะมีระยะทางประมาณ 9 กิโลเมตร หากจะไปต้องเตรียมตัวให้ดี เพราะขากลับจะมืดกลางทางอย่างแน่นอน ด้วยลักษณะแผ่นหินแปลกตากับโค้งกิ่งสนที่รองรับกันพอดิบพอดีเช่นนี้ นักท่องเที่ยวจึงนิยมใช้เป็นจุดชมวิวดูพระอาทิตย์ตกดิน และน่าจะถือได้ว่าเป็นภาพที่เป็นสัญลักษณ์สำคัญของอุทยานแห่งชาติภูกระดึง

ผาหล่มสัก ที่เที่ยวในภูกระดึง

          แนะนำสักนิดสำหรับผู้ที่จะไปชมพระอาทิตย์ตกที่ผาหล่มสัก ควรเตรียมเสื้อกันหนาวและไฟฉายสำหรับใช้ส่องทางเวลาเดินกลับที่พัก ซึ่งถ้าเดินเท้าอาจกินเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง แต่นักท่องเที่ยวสามารถย่นระยะเวลาได้ ด้วยการเช่ารถจักรยานจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อเป็นการประหยัดเวลาการเดินทาง

ผาหล่มสัก ที่เที่ยวในภูกระดึง

3. ผาหมากดูก


         
ผาหมากดูก อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2.5 กิโลเมตร เป็นผาที่มีลานหินกว้างขวาง และเป็นผาสำหรับชมพระอาทิตย์ตกที่ใกล้ที่พักมากที่สุด สามารถชมทิวทัศน์ภูผาจิตในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ในช่วงต้นฤดูฝนจะมีดอกกระเจียวขึ้นเต็มทุ่งตามเส้นทางสู่ผาหมากดูก

ผาหมากดูก ที่เที่ยวในภูกระดึง
ภาพจาก sittichai butlop / Shutterstock.com

4. ผาเหยียบเมฆ


         
ผาเหยียบเมฆ ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างผาหมากดูกและผาหล่มสัก มีลักษณะเป็นลานหินกว้างสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ในระยะไกล

ผาเหยียบเมฆ ที่เที่ยวในภูกระดึง

5. ผาแดง


          ผาแดง หน้าผาหินทรายตัดตรงและมีก้อนหินเรียงราย บริเวณโดยรอบเป็นป่าสน เหมะสำหรับไปนั่งชมวิวถ่ายรูปเพลิน ๆ

ผาแดง ที่เที่ยวในภูกระดึง
ภาพจาก Sumeth anu / Shutterstock.com

6. น้ำตกวังกวาง


          น้ำตกวังกวาง ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอยู่ใกล้ที่พักศูนย์วังกวางมากที่สุด โดยมีระยะทางห่างแค่ราว 1 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ห้วยเล็ก ๆ ที่โอบล้อมที่พักอีกด้านจะไหลลงน้ำตกที่นี่ วังกวางเป็นน้ำตกเล็ก ๆ ชั้นที่สูงสุดจะสูงประมาณ 7 เมตร ด้านข้างของน้ำตกมีทางแคบ ๆ สำหรับปีนลงไปทีละคน จะพบหลืบหินมีลักษณะคล้ายถ้ำใต้น้ำตก น้ำตกวังกวางจะมีความสวยงามมากในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคม ส่วนในฤดูท่องเที่ยวซึ่งเป็นฤดูแล้ง ปริมาณน้ำค่อนข้างน้อย นักท่องเที่ยวสามารถแวะชมได้ง่ายใกล้ที่พัก

น้ำตกวังกวาง ทีเที่ยวในภูกระดึง

7. น้ำตกถ้ำสอเหนือ


          น้ำตกถ้ำสอเหนือ อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกวาง 4.8 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดกลาง สูง 10 เมตร น้ำไหลมาจากผาเป็นม่านน้ำตก บริเวณเหนือน้ำตกมีดงกุหลาบแดง ซึ่งในช่วงฤดูร้อนจะผลิดอกสร้างสีสันให้กับบริเวณนี้ให้สวยงามยิ่งขึ้น


น้ำตกถ้ำสอเหนือ ที่เที่ยวในภูกระดึง

8. น้ำตกเพ็ญพบใหม่


          น้ำตกเพ็ญพบใหม่ เกิดจากลำธารวังกวาง น้ำตกไหลผ่านผาหินรูปโค้ง ในหน้าหนาวใบเมเปิลที่อยู่บริเวณริมน้ำตกจะร่วงหล่นลอยไปตามผิวน้ำ ยามแดดสาดส่องผ่านลงมาจะเป็นสีแดงจัดตัดกับสีเขียวขจีของตะไคร่น้ำตามโขดหิน ลำธารวังกวางเป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่มีชื่ออีกแห่งหนึ่ง คือ “น้ำตกโผนพบ” ซึ่งตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ โผน กิ่งเพชร นักชกแชมเปี้ยนโลกคนแรกของชาวไทยในฐานะเป็นผู้ค้นพบคนแรก เมื่อคราวที่ขึ้นไปซ้อมมวยให้ชินกับอากาศหนาว ก่อนเดินทางไปชกในต่างประเทศ

น้ำตกเพ็ญพบใหม่ ที่เที่ยวในภูกระดึง

9. น้ำตกถ้ำใหญ่

 
         น้ำตกถ้ำใหญ่ ห่างจากน้ำตกเพ็ญพบใหม่ประมาณ 1.4 กิโลเมตร เส้นทางเดินไปสู่น้ำตกจะครอบคลุมไปด้วยป่าดิบเขาที่มีพรรณไม้ใหญ่และร่มครึ้ม บางช่วงจะมีลำห้วยเล็ก ๆ ที่มีต้นเมเปิลอยู่เป็นระยะ ๆ และในช่วงต้นเดือนมกราคมจะแดงฉานด้วยใบเมเปิลที่ร่วงหล่นเกลื่อนพื้นป่า เป็นอีกหนึ่งความงามที่ใคร ๆ ก็อยากไปเห็นด้วยตาตัวเองสักครั้ง

น้ำตกถ้ำใหญ่ ที่เที่ยวในภูกระดึง

10. น้ำตกธารสวรรค์ 


         น้ำตกธารสวรรค์ จากน้ำตกถ้ำใหญ่เมื่อออกสู่ป่าสนไม่ไกลนักจะมีทางแยกบนลานหินสู่น้ำตกธารสวรรค์ อยู่ห่างจากที่พักตามเส้นทางป่าสนผ่านลานองค์พระพุทธเมตตาเพียง 1.6 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นน้ำตกขนาดเล็ก

11. สระอโนดาต


          สระอโนดาต อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 2.7 กิโลเมตร เป็นสระน้ำขนาดไม่ใหญ่นักที่มีต้นสนขึ้นเป็นแนวแน่นขนัด ใกล้กันยังมีลานกินรี ซึ่งเป็นสวนหินธรรมชาติที่อุดมไปด้วยพรรณไม้ ทั้งพวกกินแมลงอย่างดุสิตา หยาดน้ำค้าง หรือเฟิร์น เช่น กระปรอกสิงห์ บนหินยังมีไลเคนขึ้นอยู่เต็มไปหมดด้วย

สระอโนดาต ที่เที่ยวในภูกระดึง

          นอกจากที่เอ่ยมาแล้ว อุทยานแห่งชาติภูกระดึงยังมีสถานที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น น้ำตกรัตนา น้ำตกพระองค์ น้ำตกธารสวรรค์ ผาแดง ผาส่องโลก ผานาน้อย ผาจำศีล สวนสีดา ลานกินรี ลานวัดพระแก้ว และอีกมากมายบรรยายกันไม่หมด ดังนั้นใครที่ชอบเดินป่า ปีนเขา และสัมผัสธรรมชาติแบบถึงเนื้อถึงตัว ภูกระดึง...คงเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่คุณจะพลาดไม่ได้

ใบเมเปิ้ล บนภูกระดึง

การจองที่พักบนภูกระดึง


          ถ้าต้องการนอนบ้านพักจะต้องเข้าไปจองล่วงหน้า 60 วัน ที่เว็บไซต์ nps.dnp.go.th หรือติดต่อฝ่ายบริการที่พัก โทรศัพท์ 0-2562-0760, 0-2561-0777 ต่อ 1743, 1744 หรืออุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์ 0-4281-0833, 0-4281-0834 สำหรับใครที่ต้องการนอนเต็นท์ ทางอุทยานมีทั้งเต็นท์ไว้ให้บริการและพื้นที่กางเต็นท์รองรับอย่างเพียงพอ



ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว บนภูกระดึง
ภาพจาก Sumeth anu / Shutterstock.com

การเดินทางไปภูกระดึง


          รถโดยสารประจำทาง : โดยสารรถยนต์จากสถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต) กรุงเทพมหานคร ไปลงที่ผานกเค้า ซึ่งเป็นเขตต่อแดนระหว่างชุมแพ-ภูกระดึง แล้วโดยสารรถประจำทาง (รถสองแถว) ไปลงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง จากนั้นก็เดินต่อขึ้นไปยอดภูกระดึง ควรใช้รถประจำทาง หรือหากนักท่องเที่ยวใช้รถประจำทางเส้นทางกรุงเทพฯ-ขอนแก่น ลงที่ชุมแพ และต่อรถสายขอนแก่น-เลย ไปลงที่ตลาดอำเภอภูกระดึง ซึ่งจะมีรถสองแถวต่อไปถึงอุทยาน

          หมายเหตุ รถสองแถวแดงที่รับจ้างนำนักท่องเที่ยวส่งระหว่างจุดจอดรถที่ผานกเค้ามาที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง คำแนะนำคือถ้าเราไปไม่กี่คนให้รวมทีมกับกรุ๊ปอื่นจะได้เฉลี่ยค่าสองแถว ไม่ต้องเหมารถให้เปลืองสตางค์

          รถไฟ จากกรุงเทพมหานครโดยสารรถไฟไปลงที่ขอนแก่น จากนั้นโดยสารรถประจำทางสายขอนแก่น-เลย ไปยังหน้าตลาดที่ว่าการอำเภอภูกระดึง แล้วต่อรถสองแถว หรือเดินทางต่อไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นปีนเขาขึ้นยอดภู จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นยอดภูอีก 5 กิโลเมตร จึงจะถึง “หลังแป” แล้วเดินเท้าไปตามทุ่งหญ้าอีก 4 กิโลเมตร ก็จะถึงที่พัก บนยอดภูกระดึงทางอุทยาน ได้จัดลูกหาบสัมภาระของนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนยอดภูกระดึง คิดค่าบริการเป็นกิโลกรัม

          รถส่วนตัว : เดินทางโดยรถยนต์ สามารถเดินทางได้หลายเส้นทาง ดังนี้

          1. เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี เพชรบูรณ์ อำเภอหล่มสัก หล่มเก่า ด่านซ้าย ภูเรือ และอำเภอเมืองเลย เลี้ยวเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 (เลย-ขอนแก่น) และเลี้ยวเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2019 เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง


          2. ใช้เส้นทางผ่านจังหวัดสระบุรี นครราชสีมา จนถึงจังหวัดขอนแก่น เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 201 ผ่านอำเภอภูผาม่านและตำบลผานกเค้า เข้าสู่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

          3. เดินทางผ่านจังหวัดสระบุรี อำเภอปากช่อง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 201 ผ่านจังหวัดชัยภูมิ อำเภอภูเขียว แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 ผ่านอำเภอชุมแพ จากนั้นเดินทางเช่นเดียวกับเส้นทางที่ 2

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว


          มีศูนย์บริการนักท่องเที่ยวทั้งบนยอดภูกระดึงและบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติซึ่งอยู่ด้านล่าง ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาขอรับบริการข้อมูลได้ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ระหว่างเวลา 08.00-16.30 น. อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทรศัพท์ 042 810 833, 042 810 834

ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ภูกระดึง

หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ


          บริเวณที่ทำการอุทยานมีด่านเก็บค่าธรรมเนียมผู้ใหญ่ (คนไทย) คนละ 40 บาท เด็ก 20 บาท, ผู้ใหญ่ (ต่างชาติ) 100 บาท เด็ก 200 บาท และบริการลูกหาบสัมภาระ กิโลกรัมละ 30 บาท นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเต็นท์และบ้านพักได้ที่ที่ทำการอุทยาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 4281 0833 และ 0 4281 0834
 
          **หมายเหตุ เมื่อชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติแล้วกรุณาพกบัตรค่าบริการติดตัว ขณะท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติเพื่อการตรวจสอบ

กางเต็นท์ บนภูกระดึง

          ท้ายสุดฝากไว้สำหรับเพื่อน ๆ ที่อยากไปท่องเที่ยวสัมผัสธรรมชาติบนภูกระดึง ควรใช้เวลาอย่างน้อย 3 วัน จึงจะเที่ยวชมธรรมชาติได้ทั่วถึง ซึ่งอุทยานแห่งชาติภูกระดึงจะเปิดให้เที่ยวบนยอดภูกระดึงได้เฉพาะในช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤษภาคมเท่านั้น ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกันยายน ของทุกปี ทางอุทยานจะปิดเพื่อปรับสภาพธรรมชาติให้ฟื้นตัว และปรับปรุงสถานที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว ฉะนั้นเช็กก่อนออกเดินทางกันด้วยล่ะ เมื่อรู้อย่างนี้แล้วบรรดาแบ็กแพ็กเกอร์ทั้งหลายก็เตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วออกเดินทางกันได้เลย...

          การเที่ยวภูกระดึงอย่างมีจิตสำนึกจะเป็นหนึ่งหนทางรักษาความสวยงามของภูกระดึงได้อย่างยั่งยืนที่สุด นักท่องเที่ยวจะต้องช่วยกันอนุรักษ์ธรรมชาติ ทิ้งขยะในที่ที่จัดไว้ให้ ไม่ส่งเสียงดังรบกวนสัตว์ป่า ไม่แกะสลักชื่อหรือขูดขีดร่องรอยไว้ที่ต้นไม้ ก้อนหิน หรือหน้าผา

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ ภูกระดึง ที่เที่ยวอุทยานแห่งชาติ อื่น ๆ ที่น่าสนใจ



ขอบคุณข้อมูลจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park, thai.tourismthailand.org, i-san.tourismthailand.org, อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ภูกระดึง ขุนเขามหัศจรรย์แห่งเมืองเลย อัปเดตล่าสุด 4 ตุลาคม 2567 เวลา 11:37:48 502,455 อ่าน
TOP
x close