"ทะเลแหวก" หนึ่งใน Unseen Thailand ที่หลาย ๆ คนอยากไปเห็นสักครั้ง ซึ่งในประเทศไทยมีที่ไหนสวย ๆ บ้าง วันนี้เรารวบรวมมาให้ดูกันแล้ว
ทะเลแหวก สิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์เอาไว้อย่างสวยงาม โดยจะเกิดขึ้นในยามที่น้ำลด ซึ่งน้ำจะพัดพาเอาเม็ดทรายมาบรรจบกันไว้ ทำให้มองเห็นเป็นสันทรายทอดตัวเป็นแนวยาวเชื่อมต่อถึงกัน แต่เอ๊ะ ! ในประเทศไทยของเราจะสามารถไปหาชมปรากฏการณ์ธรรมชาติเหล่านี้ได้ที่ไหนกันล่ะ อ๊ะ ๆ ไม่ต้องก้มหน้าเสิร์ชกูเกิลกันให้ปวดคอ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมรวบรวมแหล่งชมทะเลแหวกในไทยมาให้ดูกันแล้ว
1. ทะเลแหวก จังหวัดกระบี่
2. ทะเลแหวก 2 จังหวัดกระบี่
ทะเลแหวก 2 ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ระหว่างเกาะผักเบี้ยและเกาะไร่ โดยช่วงเวลาที่น้ำทะเลจะปรากฏแนวสันทรายระหว่าง 2 เกาะ มีความยาวประมาณ 500 เมตร ซึ่งเกิดจากการขุดลอกร่องน้ำเดินเรือเข้า-ออกอุทยาน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต้องระวังในช่วงน้ำขึ้น เพราะเป็นจุดที่มีน้ำไหลวน
3. ทะเลแหวกเกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
4. ทะเลแหวกเกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร
ตั้งอยู่ห่างจากปากอ่าวแม่น้ำหลังประมาณ 1 กิโลเมตร โดยในยามที่น้ำลดจะเกิดปรากฏการณ์ทะเลแหวก มีสันทรายทอดยาวเชื่อมต่อระหว่างฝั่งกับเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามไป-มาได้แบบสบาย ๆ และถึงแม้ทะเลแหวกของที่นี่อาจจะไม่สวยงามขาวละเอียดเหมือนที่อื่น ๆ แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย
5. ทะเลแหวกเกาะมันใน จังหวัดระยอง
เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะมันที่มีทั้งหมด 3 เกาะ มีพื้นที่ประมาณ 131 ไร่ มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม, อ่าวหินโขดหญ้า, อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน นอกจากนี้ในช่วงเวลาน้ำลดจะเกิดเป็นสันทรายสวยงามทอดยาวจากเกาะมันในไปจนถึงเกาะมันกลาง โดยมีระยะทางประมาณ 200 เมตร ซึ่งนับเป็นทะเลแหวกของภาคตะวันออกที่มีความสวยงามไม่แพ้ทะเลทางภาคใต้เลยจริง ๆ
6. ทะเลแหวกหาดแม่หาด จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หาดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพะงัน เป็นหาดทรายสีขาวโค้งทอดตัวยาวประมาณ 1.1 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบมีชายหาดที่สวยงาม เงียบสงบ มีทิวสนร่มรื่น เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน นอนอาบแดด และเล่นน้ำทะเล ไฮไลต์เด็ดอยู่ในช่วงเวลาที่ระดับน้ำลดต่ำลง จะสามารถมองเห็นสันทรายทะเลแหวกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมีความยาวประมาณ 350 เมตร เชื่อมไปยังเกาะม้า นับเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาได้อย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นชมวิว เก็บบรรยากาศรอบ ๆ ได้
7. ทะเลแหวกบางชัน จังหวัดจันทบุรี
ทะเลแหวกบางชัน ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไร้แผ่นดินและบ้านท่าขาหย่าง ตำบลบางชัน อำเภอขลุง ไม่มากนัก โดยในช่วงน้ำลดนักท่องเที่ยวจะเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของสันทรายที่โผล่ขึ้นมาอย่างสวยงาม ซึ่งเกิดจากการทับถมของเปลือกหอยและทรายที่ทับถมกันบริเวณปากแม่น้ำเวฬุ โดยมีความยาวประมาณ 700 เมตร และมีไฮไลต์พิเศษตรงที่หาดทรายของที่นี่จะเป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาไม่ได้เกิดจากความสกปรกแต่อย่างใด นับเป็นความสวยงามของธรรมชาติที่หาชมได้ยาก และไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
8. ทะเลแหวกบ้านหินร่ม จังหวัดพังงา
ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เป็นทะเลแหวกบริเวณเกาะนุ้ย เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านหินร่ม โดยจะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำขึ้น-ลงวันละ 2 ครั้ง และวันที่น้ำไม่ขึ้น-ลงอยู่ 5 วัน ช่วงเวลาน้ำขึ้น-ลงแบบนี้นี่เองที่ได้พัดเอาดินตะกอน ทราย และเปลือกหอยต่าง ๆ มากองรวมกันเป็นสันหาดคดเคี้ยวที่สวยงาม สอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านหินร่ม โทรศัพท์ 080 707 0416 หรือ เฟซบุ๊ก วิสาหกิจชุมชน บ้านหินร่ม
9. ทะเลแหวกเกาะกระดาด จังหวัดตราด
นอกจากทะเลแหวกแล้ว ปรากฏการณ์ธรรมชาติอีกหนึ่งอย่างที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ก็คือ สันหลังมังกร ตั้งอยู่กลางท้องทะเลอย่างสันหลังมังกรหรือเนินทราย ที่โผล่ขึ้นมาอยู่กลางทะเลในยามน้ำลด โดยในท้องทะเลตรังและสตูลจะพบสันหลังมังกรหลายแห่ง ได้แก่
+ สันหลังมังกรตันหยงโป จังหวัดสตูล
แหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตในจังหวัดสตูล โดยในยามที่น้ำลดจะมองเห็นสันทรายโผล่ขึ้นมา ปรากฏเป็นเส้นทางคดเคี้ยวทอดยาวราวกับมังกรกำลังว่ายน้ำอย่างสนุกสนานอยู่กลางทะเล ตั้งอยู่บริเวณตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล มีลักษณะเป็นสันทรายยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ถ้าช่วงที่น้ำลดเต็มที่ เราก็จะเห็นว่าสันทรายแห่งนี้มีลักษณะโค้งคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ บริเวณสันทรายจะเป็นเปลือกหอยเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจึงกลายเป็นสีเหลืองทองสวยงาม
ทั้งนี้การเที่ยวชมสันหลังมังกรสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละวันจะมีช่วงเวลาน้ำขึ้น-ลง ที่แตกต่างกันออกไป ควรเช็กข้อมูลการท่องเที่ยวสันหลังมังกรกับผู้ประกอบการนำเที่ยวก่อนเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม โทรศัพท์ 0 7528 8593 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล โทรศัพท์ 0 7521 1058
+ สันหลังมังกร จังหวัดตรัง
- สันหลังมังกรเหลือง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ 2 บ้านหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน เป็นสันทรายสีเหลืองทองสวยงามจับตาที่โผล่ขึ้นกลางทะเล ทอดตัวยาวเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สันทรายแห่งนี้สามารถมองเห็นมาจากเกาะสะบัน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
- สันหลังมังกรหยก เป็นอีกหนึ่งสันหลังมังกรของท้องทะเลตรังที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านเสียมไหม ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน มีความโดดเด่นตรงที่เป็นเนินดินโคลนผสมกับเปลือกหอยน้อยใหญ่ บนเนินทรายจะเป็นลอนคลื่นสวยงาม มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ยามที่แสงส่องลงมากระทบกับสันหลังมังกร จะสามารถมองเห็นเป็นสีเขียวมรกต
- สันหลังมังกรทับทิมสยาม หรือราชาสันหลังมังกรแห่งท้องทะเลอันดามัน ตั้งอยู่บริเวณบ้านหาดทรายทอง ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน มีความยาวมากกว่า 5 กิโลเมตร และกว้างมากถึง 700 เมตร ถือได้ว่าเป็นสันหลังมังกรที่ใหญ่และยาวที่สุดในท้องทะเลตรัง บนพื้นสันทรายจะมีสีน้ำตาลเข้ม เนียนละเอียด แต่สิ่งที่อัศจรรย์อีกหนึ่งสิ่งของสันทรายแห่งนี้ ก็คือ ปูแดง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นปูตัวเล็ก ๆ เดินไป-มามากมายบนเนินทราย พบได้ทั่วไปบนผืนทราย ที่นี่จึงกลายเป็นบ้านของปูแดงไปโดยปริยาย
- สันหลังมังกรนิล ตั้งอยู่ที่ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ ไม่ไกลจากชายหาดทะเลสำราญมากนัก โดยบริเวณสันทรายแห่งนี้จะเป็นดินโคลนสีดำ ผสมกับวัชพืชและเปลือกหอย มองเห็นเป็นสีดำนิล มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร
- สันหลังมังกรเผือก เป็นอีกสันหลังมังกรที่มีความสวยงามมาก ๆ ของจังหวัดตรัง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ 3 บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง เป็นเนินทรายที่โผล่ขึ้นกลางทะเล ทอดตัวยาวตั้งแต่หัวเกาะบ้านมดตะนอยลงไปประมาณ 3 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะของพื้นเนินทรายจะเป็นสีขาว ชมพู และเทา เมื่อมองจากด้านบนอากาศ จะเห็นเป็นสันทรายสีขาวสุดโดดเด่น เนื้อทรายจะนุ่มเนียนละเอียด น่าสัมผัสสุด ๆ
- สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ ห่างจากสันหลังมังกรเหลืองไม่ไกลเท่าไร ก็จะพบกับสันหลังมังกรอีกแห่ง นั่นก็คือสันหลังมังกรเกล็ดทองคำ ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน สันหลังมังกรแห่งนี้จะแตกต่างจากสันหลังมังกรเหลือง ด้วยบนเนินจะเป็นเปลือกหอยน้อยใหญ่ มีสีเหลืองทองอร่ามงามตา ยิ่งในเวลาที่เนินเปลือกหอยเหล่านี้สะท้อนแสงแดดยามเช้าและยามเย็น ก็จะส่องแสงประกายระยิบระยับ สวยงามอลังการมาก ๆ สันหลังมังกรเกล็ดทองคำนี้มีความยาวทั้งหมดประมาณ 2 กิโลเมตร
ทะเลแหวก สิ่งมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติได้รังสรรค์เอาไว้อย่างสวยงาม โดยจะเกิดขึ้นในยามที่น้ำลด ซึ่งน้ำจะพัดพาเอาเม็ดทรายมาบรรจบกันไว้ ทำให้มองเห็นเป็นสันทรายทอดตัวเป็นแนวยาวเชื่อมต่อถึงกัน แต่เอ๊ะ ! ในประเทศไทยของเราจะสามารถไปหาชมปรากฏการณ์ธรรมชาติเหล่านี้ได้ที่ไหนกันล่ะ อ๊ะ ๆ ไม่ต้องก้มหน้าเสิร์ชกูเกิลกันให้ปวดคอ เพราะวันนี้กระปุกดอทคอมรวบรวมแหล่งชมทะเลแหวกในไทยมาให้ดูกันแล้ว
1. ทะเลแหวก จังหวัดกระบี่
เริ่มกันที่
Unseen Thailand กับ 3 เกาะ ได้แก่ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ
ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม
ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดจากอิทธิพลของน้ำขึ้นและน้ำลงทำให้เกิดเป็นสันทรายสีขาวสะอาดทอดตัวยาวสวยงาม
โดยจะเกิดขึ้นก่อนและหลังวันขึ้น 15 ค่ำ ราว 5 วัน
นักท่องเที่ยวสามารถเดินชิลไป-มาระหว่างเกาะได้
ทั้งนี้แนะนำให้มาเที่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนพฤษภาคม
เพราะจะได้เห็นทะเลแหวกแบบสวยสุด ๆ เลยล่ะ
2. ทะเลแหวก 2 จังหวัดกระบี่
ทะเลแหวก 2 ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี ระหว่างเกาะผักเบี้ยและเกาะไร่ โดยช่วงเวลาที่น้ำทะเลจะปรากฏแนวสันทรายระหว่าง 2 เกาะ มีความยาวประมาณ 500 เมตร ซึ่งเกิดจากการขุดลอกร่องน้ำเดินเรือเข้า-ออกอุทยาน ทั้งนี้นักท่องเที่ยวต้องระวังในช่วงน้ำขึ้น เพราะเป็นจุดที่มีน้ำไหลวน
3. ทะเลแหวกเกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะเล็ก
ๆ ที่มีสันทรายเชื่อมต่อกับเกาะเต่า นับเป็น 1 ใน 10 เกาะติดอันดับโลก
อีกทั้งยังเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยปะการังและปลาสวยงามน้อยใหญ่หลากหลายชนิด
มีจุดดำน้ำที่สวยงามระดับโลก
ตลอดจนมีจุดชมวิวบนเขาที่สามารถชมเกาะนางยวนได้ทั้งเกาะ
และโดยเฉพาะในช่วงเวลาบ่ายจะมีสันทรายโผล่ขึ้นมาให้เห็นอย่างชัดเจน
สามารถเดินไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศ นอนอาบแดด หรือแช่ตัวในน้ำทะเลกันได้
ตั้งอยู่ห่างจากปากอ่าวแม่น้ำหลังประมาณ 1 กิโลเมตร โดยในยามที่น้ำลดจะเกิดปรากฏการณ์ทะเลแหวก มีสันทรายทอดยาวเชื่อมต่อระหว่างฝั่งกับเกาะ นักท่องเที่ยวสามารถเดินข้ามไป-มาได้แบบสบาย ๆ และถึงแม้ทะเลแหวกของที่นี่อาจจะไม่สวยงามขาวละเอียดเหมือนที่อื่น ๆ แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ไม่น้อย
5. ทะเลแหวกเกาะมันใน จังหวัดระยอง
เป็นเกาะหนึ่งในหมู่เกาะมันที่มีทั้งหมด 3 เกาะ มีพื้นที่ประมาณ 131 ไร่ มีอ่าวที่น่าสนใจอยู่หลายแห่ง เช่น อ่าวต้นมะขาม, อ่าวหินโขดหญ้า, อ่าวโกงกาง และอ่าวหน้าบ้าน นอกจากนี้ในช่วงเวลาน้ำลดจะเกิดเป็นสันทรายสวยงามทอดยาวจากเกาะมันในไปจนถึงเกาะมันกลาง โดยมีระยะทางประมาณ 200 เมตร ซึ่งนับเป็นทะเลแหวกของภาคตะวันออกที่มีความสวยงามไม่แพ้ทะเลทางภาคใต้เลยจริง ๆ
6. ทะเลแหวกหาดแม่หาด จังหวัดสุราษฎร์ธานี
หาดเล็ก ๆ ตั้งอยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะพะงัน เป็นหาดทรายสีขาวโค้งทอดตัวยาวประมาณ 1.1 กิโลเมตร บริเวณโดยรอบมีชายหาดที่สวยงาม เงียบสงบ มีทิวสนร่มรื่น เหมาะแก่การเดินทางมาพักผ่อน นอนอาบแดด และเล่นน้ำทะเล ไฮไลต์เด็ดอยู่ในช่วงเวลาที่ระดับน้ำลดต่ำลง จะสามารถมองเห็นสันทรายทะเลแหวกได้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยมีความยาวประมาณ 350 เมตร เชื่อมไปยังเกาะม้า นับเป็นอีกหนึ่งความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นมาได้อย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถมาเดินเล่นชมวิว เก็บบรรยากาศรอบ ๆ ได้
7. ทะเลแหวกบางชัน จังหวัดจันทบุรี
ทะเลแหวกบางชัน ตั้งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไร้แผ่นดินและบ้านท่าขาหย่าง ตำบลบางชัน อำเภอขลุง ไม่มากนัก โดยในช่วงน้ำลดนักท่องเที่ยวจะเห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติของสันทรายที่โผล่ขึ้นมาอย่างสวยงาม ซึ่งเกิดจากการทับถมของเปลือกหอยและทรายที่ทับถมกันบริเวณปากแม่น้ำเวฬุ โดยมีความยาวประมาณ 700 เมตร และมีไฮไลต์พิเศษตรงที่หาดทรายของที่นี่จะเป็นสีดำ ซึ่งเป็นสีที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมาไม่ได้เกิดจากความสกปรกแต่อย่างใด นับเป็นความสวยงามของธรรมชาติที่หาชมได้ยาก และไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง
8. ทะเลแหวกบ้านหินร่ม จังหวัดพังงา
ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลคลองเคียน อำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา เป็นทะเลแหวกบริเวณเกาะนุ้ย เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านหินร่ม โดยจะเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติน้ำขึ้น-ลงวันละ 2 ครั้ง และวันที่น้ำไม่ขึ้น-ลงอยู่ 5 วัน ช่วงเวลาน้ำขึ้น-ลงแบบนี้นี่เองที่ได้พัดเอาดินตะกอน ทราย และเปลือกหอยต่าง ๆ มากองรวมกันเป็นสันหาดคดเคี้ยวที่สวยงาม สอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านหินร่ม โทรศัพท์ 080 707 0416 หรือ เฟซบุ๊ก วิสาหกิจชุมชน บ้านหินร่ม
9. ทะเลแหวกเกาะกระดาด จังหวัดตราด
ดินแดนซาฟารีกลางอ่าวไทย
เพราะบนเกาะมีฝูงกวางนับพันตัวอาศัยอยู่อย่างเสรี
อีกทั้งยังเป็นเกาะส่วนตัวที่มีที่พักเพียงแห่งเดียว จึงค่อนข้างเงียบสงบ
นอกจากนี้หลาย ๆ
คนยังนิยมไปชมทะเลแหวกที่เกิดขึ้นระหว่างเกาะกระดาดไปยังเกาะนกนอก เกาะนกใน
และเกาะขายหัวเราะ (เกาะที่เรามักเห็นในหนังสือการ์ตูนขายหัวเราะ)
สอบถามข้อมูลต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก
เกาะกระดาดอันซีนไทยแลนด์ทะเลตราด
นอกจากทะเลแหวกแล้ว ปรากฏการณ์ธรรมชาติอีกหนึ่งอย่างที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ก็คือ สันหลังมังกร ตั้งอยู่กลางท้องทะเลอย่างสันหลังมังกรหรือเนินทราย ที่โผล่ขึ้นมาอยู่กลางทะเลในยามน้ำลด โดยในท้องทะเลตรังและสตูลจะพบสันหลังมังกรหลายแห่ง ได้แก่
+ สันหลังมังกรตันหยงโป จังหวัดสตูล
แหล่งท่องเที่ยวสุดฮอตในจังหวัดสตูล โดยในยามที่น้ำลดจะมองเห็นสันทรายโผล่ขึ้นมา ปรากฏเป็นเส้นทางคดเคี้ยวทอดยาวราวกับมังกรกำลังว่ายน้ำอย่างสนุกสนานอยู่กลางทะเล ตั้งอยู่บริเวณตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล มีลักษณะเป็นสันทรายยาวประมาณ 4 กิโลเมตร ถ้าช่วงที่น้ำลดเต็มที่ เราก็จะเห็นว่าสันทรายแห่งนี้มีลักษณะโค้งคล้ายเสี้ยวพระจันทร์ บริเวณสันทรายจะเป็นเปลือกหอยเล็ก ๆ สีน้ำตาลอ่อน เมื่อสะท้อนกับแสงแดดจึงกลายเป็นสีเหลืองทองสวยงาม
ทั้งนี้การเที่ยวชมสันหลังมังกรสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี โดยในแต่ละวันจะมีช่วงเวลาน้ำขึ้น-ลง ที่แตกต่างกันออกไป ควรเช็กข้อมูลการท่องเที่ยวสันหลังมังกรกับผู้ประกอบการนำเที่ยวก่อนเดินทาง สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลท่าข้าม โทรศัพท์ 0 7528 8593 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล โทรศัพท์ 0 7521 1058
+ สันหลังมังกร จังหวัดตรัง
- สันหลังมังกรเหลือง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ 2 บ้านหยงสตาร์ ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน เป็นสันทรายสีเหลืองทองสวยงามจับตาที่โผล่ขึ้นกลางทะเล ทอดตัวยาวเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สันทรายแห่งนี้สามารถมองเห็นมาจากเกาะสะบัน อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล
- สันหลังมังกรหยก เป็นอีกหนึ่งสันหลังมังกรของท้องทะเลตรังที่มีความสวยงาม ตั้งอยู่ที่หมู่ 1 บ้านเสียมไหม ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน มีความโดดเด่นตรงที่เป็นเนินดินโคลนผสมกับเปลือกหอยน้อยใหญ่ บนเนินทรายจะเป็นลอนคลื่นสวยงาม มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ยามที่แสงส่องลงมากระทบกับสันหลังมังกร จะสามารถมองเห็นเป็นสีเขียวมรกต
- สันหลังมังกรทับทิมสยาม หรือราชาสันหลังมังกรแห่งท้องทะเลอันดามัน ตั้งอยู่บริเวณบ้านหาดทรายทอง ตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน มีความยาวมากกว่า 5 กิโลเมตร และกว้างมากถึง 700 เมตร ถือได้ว่าเป็นสันหลังมังกรที่ใหญ่และยาวที่สุดในท้องทะเลตรัง บนพื้นสันทรายจะมีสีน้ำตาลเข้ม เนียนละเอียด แต่สิ่งที่อัศจรรย์อีกหนึ่งสิ่งของสันทรายแห่งนี้ ก็คือ ปูแดง ซึ่งจะมีลักษณะเป็นปูตัวเล็ก ๆ เดินไป-มามากมายบนเนินทราย พบได้ทั่วไปบนผืนทราย ที่นี่จึงกลายเป็นบ้านของปูแดงไปโดยปริยาย
- สันหลังมังกรนิล ตั้งอยู่ที่ตำบลตะเสะ อำเภอหาดสำราญ ไม่ไกลจากชายหาดทะเลสำราญมากนัก โดยบริเวณสันทรายแห่งนี้จะเป็นดินโคลนสีดำ ผสมกับวัชพืชและเปลือกหอย มองเห็นเป็นสีดำนิล มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร
- สันหลังมังกรเผือก เป็นอีกสันหลังมังกรที่มีความสวยงามมาก ๆ ของจังหวัดตรัง ตั้งอยู่บริเวณหมู่ 3 บ้านมดตะนอย ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง เป็นเนินทรายที่โผล่ขึ้นกลางทะเล ทอดตัวยาวตั้งแต่หัวเกาะบ้านมดตะนอยลงไปประมาณ 3 กิโลเมตร กว้างประมาณ 1 กิโลเมตร ลักษณะของพื้นเนินทรายจะเป็นสีขาว ชมพู และเทา เมื่อมองจากด้านบนอากาศ จะเห็นเป็นสันทรายสีขาวสุดโดดเด่น เนื้อทรายจะนุ่มเนียนละเอียด น่าสัมผัสสุด ๆ
- สันหลังมังกรเกล็ดทองคำ ห่างจากสันหลังมังกรเหลืองไม่ไกลเท่าไร ก็จะพบกับสันหลังมังกรอีกแห่ง นั่นก็คือสันหลังมังกรเกล็ดทองคำ ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ 4 บ้านทุ่งรวงทอง ตำบลท่าข้าม อำเภอปะเหลียน สันหลังมังกรแห่งนี้จะแตกต่างจากสันหลังมังกรเหลือง ด้วยบนเนินจะเป็นเปลือกหอยน้อยใหญ่ มีสีเหลืองทองอร่ามงามตา ยิ่งในเวลาที่เนินเปลือกหอยเหล่านี้สะท้อนแสงแดดยามเช้าและยามเย็น ก็จะส่องแสงประกายระยิบระยับ สวยงามอลังการมาก ๆ สันหลังมังกรเกล็ดทองคำนี้มีความยาวทั้งหมดประมาณ 2 กิโลเมตร
จะมีสักกี่ประเทศในโลกนี้ที่มีทะเลแหวกสวยงามอย่างประเทศไทยของเรา
ถ้าอยากรู้ว่าสวยงามขนาดไหนวันหยุดนี้เตรียมจัดกระเป๋า หอบเสื้อผ้า
คว้ากล้องคู่ใจพุ่งตัวออกไปดูกันให้รู้ไปเลย อ้อ !
แล้วอย่าลืมเก็บบรรยากาศสันทรายสวย ๆ น้ำทะเลใส ๆ มาให้ดูด้วยล่ะ ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TAT Contact Center 1672
หมายเหตุ : ข้อมูลต่าง ๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลง กรุณาตรวจสอบอีกครั้งก่อนเดินทาง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : จังหวัดสุราษฎร์ธานี, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสุราษฎรธานี, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่, เฟซบุ๊ก สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง (ระยอง จันทบุรี), เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานระยอง, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร, เฟซบุ๊ก TATChumphonRanong, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตรัง, เฟซบุ๊ก ตรัง สตูล : ความทรงจำที่ดีงามของคุณ, เฟซบุ๊ก TAT Trang ททท.สำนักงานตรัง และ trang.go.th