สงกรานต์ 2567 เที่ยวไหนดี ? แนะนำที่เที่ยวช่วงวันหยุดยาว เพื่อชาร์จพลังและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก
วันสงกรานต์ 2567 หรือวันขึ้นปีใหม่ของไทย เป็นช่วงวันหยุดยาวที่หลายคนหาเวลาพักให้ตัวเอง ไม่ว่าจะอยู่บ้านกับครอบครัว หรือเดินทางไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ทั้งที่
เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่
เที่ยวหน้าร้อน ซึ่งถ้าใครยังไม่รู้จะวางแผนไปเที่ยวไหนในวันหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ เรามีที่
เที่ยวสงกรานต์ 2567 มาฝากกัน ดังนี้
ที่เที่ยวสงกรานต์ 2567 สงกรานต์นี้ เที่ยวไหนดี ?
1. ชิม ช้อป ชิลที่ตลาดน้ำ นนทบุรี
วันหยุดยาวทั้งทีชวนไปเปิดประสบการณ์ชม ชิม ช้อป ที่ตลาดน้ำนนทบุรี ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปจับจ่ายหาซื้อผลิตภัณฑ์และอาหารท้องถิ่นราคาประหยัด ชิมของกินที่คุณลุงคุณป้าชาวสวนพายเรือมาขายถึงที่ มีทั้งผักสดและผลไม้ปลอดสาร กาแฟโบราณรสเข้มข้นหวานมัน ถ้าหิวก็มีอาหารให้เลือกกินเพียบ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ เป็ดพะโล้เจ้าดัง หรือขนมผักกาดและก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ ที่คุณป้าคนขายลงมือผัดในกระทะเสิร์ฟจากบนเรือ ได้บรรยากาศสนุกเหมือนย้อนไปในวันวานเลย
ภาพจาก : Anirut Thailand / Shutterstock.com
2. ไหว้พระ ทำบุญ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
วันสงกรานต์ ถือเป็นวันขึ้นปีใหม่ไทย และเมื่อเข้าช่วงปีใหม่ทั้งทีต้องเริ่มต้นด้วยการทำบุญ ไหว้พระ ขอพร เพื่อความเป็นสิริมงคลกันที่เมืองกรุงเก่าของไทย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งวัดที่ผู้คนนิยมไปทำบุญมีมากมาย อาทิ วัดไชยวัฒนาราม วัดพนัญเชิงวรวิหาร วัดใหญ่ชัยมงคล และวัดหน้าพระเมรุ นอกจากไหว้พระ ขอพร ชมวัดแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้สำหรับการเดินทางมาอยุธยา คือการเช็กอินแลนด์มาร์กต่าง ๆ อย่างตลาดน้ำอโยธยา ตลาดน้ำทุ่งบัวชม รวมไปถึงลิ้มรสกุ้งแม่น้ำตัวโต ๆ จากหลากหลายร้านอาหารชื่อดัง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวช่วงวันสงกรานต์ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ และมีกิจกรรมเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวเลย
3. น้ำตกชันตาเถร จังหวัดชลบุรี
น้ำตกสวยที่อยู่ในตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา ในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาเขียว-เขาชมภู่ และเป็นป่าต้นน้ำของอ่างเก็บน้ำบางพระ อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ป่าผืนสุดท้ายของชลบุรี ที่ยังคงความสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพให้เราได้เห็นกันด้วย
น้ำตกชันตาเถร เป็นน้ำตกที่มี 5 ชั้นด้วยกัน ซึ่งชั้นที่สวยที่สุดคือชั้นที่ 4 โดยแต่ละชั้นจะมีบริเวณของโขดหินก้อนเล็กก้อนใหญ่มากมาย รวมไปถึงพรรณไม้หลายสายพันธุ์ ทั้งเฟิร์น ผักหวานป่า หวายป่า ไผ่ต่าง ๆ ที่สำคัญยังมีสัตว์ป่า เช่น หมูป่า, กระรอก, กระถิก, นกโพระดก, กระแต, ตะกอง, นกขุนทอง, นกโพระดกตีทอง รวมถึงปูชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ในน้ำตกบนภูเขา มีลำตัวใหญ่กว่าปูนาอีกด้วย น้ำตกแห่งนี้สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี โดยช่วงเวลาที่แนะนำในการมาเที่ยวจะเป็นช่วงเดือนสิงหาคมถึงพฤศจิกายน เนื่องจากเป็นช่วงหน้าฝน น้ำจะเยอะ แต่ในช่วงหน้าแล้งตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงเมษายน ก็สามารถมาทำกิจกรรมดูนก โดยเฉพาะนกเงือก หรือเดินเทรลเส้นทางศึกษาธรรมชาติได้
4. ผาหินกูบ จังหวัดจันทบุรี
ตั้งอยู่ทางใต้ของเทือกเขาสอยดาว ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยพิทักษ์ป่าบ้านทุ่งเพล มีความสูงอยู่ที่ 960 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีไฮไลต์คือ ผาหินกูบ ลักษณะเป็นก้อนหินขนาดใหญ่อยู่บนยอดเขา มีโหนกนูนตรงกลาง และโค้งลาดลง 2 ด้าน คล้ายกับกูบช้าง คำว่า กูบ หมายถึง ที่นั่งบนหลังช้าง เมื่อขึ้นไปนั่งอยู่บนยอดเขาเหมือนนั่งอยู่บนหลังช้างตัวใหญ่นั่นเอง สำหรับเส้นทางเดินป่าผาหินกูบมีระยะทางประมาณ 6-7 กิโลเมตร และต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเท่านั้น ซึ่งนักท่องเที่ยวจะนิยมขึ้นเขาแบบ 2 วัน 1 คืน คือเดินขึ้นไปวันเสาร์ และกลับลงมาวันอาทิตย์
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก จุดชมวิวผาหินกูบ จ.จันทบุรี โทรศัพท์ 08-6379-1597
5. วัดป่าประดู่ จังหวัดระยอง
ตั้งอยู่ในตัวเมืองระยองบนถนนสุขุมวิท เป็นวัดเก่าแก่ สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อว่า วัดป่าเลไลยก์ ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดป่าประดู่ เพราะมีต้นประดู่ใหญ่อยู่ภายในวัดจำนวนมาก แต่ปัจจุบันเหลือเพียงต้นเดียวตรงประตูทางเข้าวัด สิ่งที่โดดเด่นภายในวัดป่าประดู่แห่งนี้คือ พระพุทธรูปนอนตะแคงซ้าย ซึ่งมีการหนุนพระเศียรด้วยหัตถ์ซ้าย เป็นพระพุทธไสยาสน์ที่แปลกที่สุดในประเทศไทย เพราะโดยปกติแล้วพระพุทธไสยาสน์ของวัดทั่วไปมักจะสร้างขึ้นในท่าประทับตะแคงขวา ถือเป็นพระพุทธรูปองค์สำคัญคู่บ้านคู่เมืองระยอง และยังเป็นพระพุทธรูปประจำวันอังคารที่ควรไปสักการะสักครั้งรับปีใหม่ไทยด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีโบสถ์หลังเก่าที่ชาวบ้านร่วมสร้างขึ้นในช่วงต้นสมัยรัตนโกสินทร์ ทำให้มีสถาปัตยกรรมอันงดงามของช่วงนั้นที่ผสมผสานสถาปัตยกรรมไทยเข้ากับสถาปัตยกรรมจีนอย่างสวยงามน่าชมด้วย
6. เกาะกูด จังหวัดตราด
เกาะกูด เป็นเกาะสุดท้ายทางทิศตะวันออกของประเทศไทยในน่านน้ำทะเลตราด และมีความใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากเกาะช้างในจังหวัดตราด หรือเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมในช่วงซัมเมอร์ ด้วยบรรยากาศที่แสนสงบกับน้ำทะเลสีฟ้าสดใสตลอดทั้งวัน อีกทั้งยังมีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์และชายหาดทรายสีขาวเนื้อเนียนละเอียด ทำให้เกาะกูดกลายเป็นสวรรค์ของคนรักทะเล ที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาตินิยมมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว เพราะเต็มไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบและมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้ทำตลอดทั้งวัน
7. แก่งบางระจัน เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
แก่งบางระจัน ตั้งอยู่ที่บ้านหนองแม่นา ตำบลหนองแม่นา อำเภอเขาค้อ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศกลางธรรมชาติ มีกิจกรรมสนุก ๆ ทั้งการพายเรือท่องป่าล่องไปในลำน้ำเข็ก ชมความสมบูรณ์ของป่าธรรมชาติ และการตามหาแมงกะพรุนน้ำจืด (Freshwater Jellyfish) ซึ่งในประเทศไทยพบเป็นประเทศที่ 5 ของโลก (หลังจากพบที่สหรัฐอเมริกา รัสเซีย อังกฤษ และญี่ปุ่น) โดยสายพันธุ์ที่พบคือ Craspedacusta Sowerbii และจะปรากฏตัวให้เห็นในหน้าแล้ง ประมาณเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคมของทุกปี ช่วงเวลาตั้งแต่ 10 โมงเช้าไปจนถึง 4 โมงเย็น นอกจากนี้ยังได้ชมเหล่าผีเสื้อนานาพันธุ์และพรรณไม้แปลกตาริมสองฝั่งลำน้ำเข็ก ท่ามกลางอุณหภูมิที่ไม่ได้ร้อนมากมายนักสำหรับที่สูงบนภูเขาอย่างเขาค้อ
ภาพจาก : Sitthipong Pengjan / Shutterstock.com
8. น้ำตกคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
ที่เที่ยววันสงกรานต์สำหรับทุกคนในครอบครัว เหมาะแก่การไปเล่นน้ำให้ชุ่มฉ่ำคลายร้อน พร้อมกับดื่มด่ำธรรมชาติความงดงามของต้นไม้สีเขียวที่ล้อมรอบน้ำตก น้ำตกคลองลาน เป็นน้ำตกสวยในอุทยานแห่งชาติคลองลาน ที่ขึ้นชื่อเรื่องความงดงาม สามารถเที่ยวได้ตลอดปี มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ลงเล่นน้ำได้ และยังมีจุดเช็กอินถ่ายรูปสวยบริเวณรอบ ๆ อีกมากมาย เป็นที่เที่ยวช่วงวันหยุดยาวที่คนรักธรรมชาติพลาดไม่ได้เลย
9. ตลาดโอ๊ะป่อย จังหวัดราชบุรี
ตั้งอยู่ที่ริมธารลำน้ำภาชี ในชุมชนบ้านท่ามะขาม อำเภอสวนผึ้ง เป็นตลาดเช้าริมน้ำ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ของธรรมชาติ โดยคำว่า “โอ๊ะป่อย” มีที่มาจากภาษากะเหรี่ยง แปลว่า พักผ่อน ผ่อนคลาย ซึ่งก็คือความรู้สึกที่นักท่องเที่ยวจะได้รับเมื่อมาเยือนตลาดแห่งนี้นั่นเอง ด้วยบรรยากาศสบาย ๆ ร้านรวงที่ขายอาหารของกินพื้นบ้านมีให้เลือกกินจนพุงกาง แถมถ้าได้มาตอนเช้าต้องไม่พลาดกิจกรรมไฮไลต์อย่างการใส่บาตรพระที่ล่องแพมารับบาตร นอกจากนี้ยังมีการทำบุญด้วยการรดน้ำต้นผึ้ง ด้วยน้ำที่ตักจากลำธารลำภาชี ซึ่งเป็นธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ ด้วยความเชื่อที่ว่าการรดน้ำต้นผึ้งมั่งมีศรีสุขจากธารน้ำนี้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตด้วย
ภาพจาก : Supaporn.c / Shutterstock.com
10. น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและมีชื่อเสียง แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความงดงามแตกต่างกัน โดยมีชื่อดังนี้ ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา และชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ซึ่งเป็นชั้นบนสุด เมื่อน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียร หรือที่เรียกว่า ช้างเอราวัณ จึงเป็นที่มาของอุทยานแห่งชาติเอราวัณ นอกจากนี้น้ำในลำธารยังเปล่งประกายเป็นสีเขียวมรกตที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park โทรศัพท์ 0-3457-4222
11. แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
อำเภอหนึ่งในเพชรบุรีที่ขึ้นชื่อเรื่องความงามตามธรรมชาติ โดยอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสำรวจพืชและสัตว์นานาชนิด อีกทั้งยังเป็นแหล่งมรดกโลกแห่งที่ 6 ของประเทศไทย และเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งที่ 3 ของไทย นอกจากธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้วยังมีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือก เช่น เดินป่า ตั้งแคมป์ ดูผีเสื้อ และดูนก หรือจะหาที่พักแก่งกระจานนอนพักชิล ๆ สัก 1-2 คืน ก็มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ
ภาพจาก : Ballscholes / Shutterstock.com
12. แม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่
นอกจากงานสงกรานต์ที่ถนนคนเดินท่าแพและตามจุดต่าง ๆ ของเชียงใหม่แล้ว ถ้าใครขึ้นเหนือช่วงหน้าร้อนก็อย่าลืมแวะไปเที่ยวที่หมู่บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน ด้วย เพราะเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนเขา มีความสูงถึง 1,300 เมตร จากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี แถมยังเดินทางไป-มาสะดวก เพราะมีรถตู้โดยสารวิ่งจากตัวเมืองเชียงใหม่ส่งตรงถึงหมู่บ้านเลยด้วย เมื่อเข้าไปถึงหมู่บ้าน แวบแรกที่สายลมเย็นพัดมาทักทายก็จะรู้สึกถึงความสดชื่น เดินเล่นชมหมู่บ้านได้เพลิน ๆ หรือจะนั่งชิลจิบกาแฟแบบวิถีสโลว์ไลฟ์ก็มีร้านกาแฟคาเฟ่สุดชิคให้เลือกเพียบ ใครที่เป็นสายธรรมชาติสามารถเดินไปเที่ยวชมน้ำตกแม่กำปอง ฟังเสียงน้ำตกที่ไหลเชี่ยว ให้สีเขียวชอุ่มของต้นไม้ได้เยียวยาหัวใจ และยังมีที่เที่ยวเชียงใหม่อีกมากมายให้คุณได้ไปสัมผัสกัน
13. น้ำตกแม่เกิ๋งหลวง จังหวัดแพร่
ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเวียงโกศัย ตำบลแม่เกิ๋ง อำเภอวังชิ้น เป็นน้ำตกสวยงามขนาดใหญ่ มีทั้งหมด 7 ชั้น รวมระยะทาง 213 เมตร โดยสายน้ำจะไหลลงมาจากยอดดอยแม่เกิ๋งคล้ายขั้นบันได และบริเวณส่วนของชั้นที่ 1 จะเหมาะกับการเล่นน้ำมากที่สุดเพราะมีแอ่งน้ำกว้างขวาง นอกจากความสวยงามของน้ำตกแม่เกิ๋งหลวงแห่งนี้แล้ว ไม่ไกลกันยังมีน้ำตกที่สวยงามอีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำตกแม่สิน น้ำตกแม่จอก น้ำตกแม่ป้าก น้ำตกแม่รัง น้ำตกขุนห้วย เป็นต้น รวมถึงมีจุดชมวิวสวย ๆ อย่าง ม่อนแม่เกิ๋ง อีกด้วย
14. สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี
สามพันโบก หรือแก่งหินสามพันโบก เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ในลำน้ำโขงที่ถูกกระแสน้ำธรรมชาติกัดเซาะมาเป็นเวลาหลายพันปี จนกลายเป็นแอ่งหรือโบกที่มีลักษณะต่าง ๆ เช่น รูปวงรี รูปดาว รูปวงกลม ตามแต่จินตนาการของนักท่องเที่ยว ซึ่งแอ่งหรือโบกในภาษาอีสานนี้มีมากกว่า 3,000 แห่ง จึงกลายเป็นที่มาของชื่อสามพันโบก แถมที่นี่ยังได้ฉายาว่าเป็นแกรนด์แคนยอนเมืองไทยด้วย โดยเราจะได้เห็นความงามของแก่งหินนี้ในช่วงน้ำแล้งเท่านั้น
15. หมู่บ้านคีรีวงกต จังหวัดอุดรธานี
คีรีวงกต หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอันแสนอุดมสมบูรณ์ โดดเด่นด้วยวิถีชีวิตชุมชน มีกิจกรรมในแต่ละช่วงเวลาของปีให้นักท่องเที่ยวได้ลองทำแตกต่างกันไป อย่างช่วงซัมเมอร์สงกรานต์ จะเป็นการเก็บผลไม้ และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เห็นจะเป็นการนั่งรถอีแต๊กของชาวบ้านขึ้นไปที่น้ำตกห้วยช้างพลาย ซึ่งระหว่างทางที่นั่งจะผ่านทั้งธารน้ำ เนินเขา และไร่สวนต่าง ๆ ตลอดจนฉายภาพวิถีชีวิตให้นักท่องเที่ยวได้เห็น และเมื่อถึงจุดหมายก็สามารถลงเล่นน้ำ หรือจะทัศนาวิวธรรมชาติกันตามอัธยาศัย ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสงกรานต์ที่เหมาะกับสายเที่ยวธรรมชาติ หลีกหนีจากความวุ่นวายแล้วปล่อยใจสบาย ๆ ไปกับธรรมชาติกันได้
ภาพจาก : huahuap / Shutterstock.com
16. พระเจดีย์มหามงคลบัว จังหวัดร้อยเอ็ด
ตั้งอยู่ในตำบลหนองแวง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด เป็นพระเจดีย์สีทองอร่ามองค์ใหญ่ สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ของพระธรรมวิสุทธิมงคล หรือ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน แห่งวัดป่าบ้านตาด รวมถึงเพื่อเป็นสถานที่เผยแพร่ธรรมะและปฏิบัติธรรมของพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาในหลวงตามหาบัวด้วย ด้านหน้าเจดีย์จะเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ ภายในองค์พระเจดีย์แบ่งเป็น 4 ชั้น ด้านบนสุดเป็นที่ประดิษฐานพระประธาน รูปเหมือนหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงตามหาบัว และหลวงปู่หล้า ซึ่งทั้งหมดเป็นพระภิกษุที่ได้รับความเคารพเลื่อมใสจากพุทธศาสนิกชนชาวอีสาน
17. เกาะพยาม จังหวัดระนอง
เจ้าของฉายามัลดีฟส์เมืองไทย ที่นักเดินทางจำนวนไม่น้อยใฝ่ฝันว่าต้องหาโอกาสมาเยือนกันสักครั้ง เกาะพยาม เป็นเกาะใหญ่อันดับ 2 ของจังหวัดระนอง ตั้งอยู่ระหว่างเกาะช้างกับเกาะค้างคาว มีพื้นที่ประมาณ 35 กิโลเมตร และมีชาวบ้านในท้องถิ่นอาศัยอยู่ประมาณ 160 ครัวเรือน เสน่ห์ของเกาะแห่งนี้คือความสวยงามของธรรมชาติและบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหนีความวุ่นวายมาชาร์จแบตชาร์จพลังชีวิตอย่างแท้จริง
ลักษณะของเกาะพยายาม ตอนกลางเป็นพื้นที่ภูเขา ป่าไม้ยังคงอุดมสมบูรณ์ และมีสัตว์ป่าหายากให้ชมอย่างลิง หมูป่า และนกแก๊ก รวมไปถึงเหยี่ยวแดง ที่มักบินวนเวียนไป-มาให้เห็นอยู่เสมอ ส่วนบริเวณรอบเกาะเป็นพื้นที่ชายหาดสลับกับโขดหิน และมีหาดทรายสวย ๆ อยู่หลายหาดด้วยกัน เช่น อ่าวแม่หม้าย เป็นชุมชนใหญ่ที่สุดบนเกาะและคึกคักมากที่สุด เป็นศูนย์กลางการคมนาคมเชื่อมไปยังอ่าวต่าง ๆ บนเกาะ นอกจากนี้ยังมีส่วนอ่าวใหญ่และอ่าวเขาควาย ซึ่งทั้ง 2 อ่าวมีลักษณะเป็นหาดทรายยาวเหยียด นักท่องเที่ยวสามารถเลือกกิจกรรมความสนุกได้ตามอัธยาศัย ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่น นอนเล่น อ่านหนังสือ ขี่จักรยานเที่ยวรอบเกาะ เช่าเรือดำน้ำชมปะการัง หรือนั่งเรือชมวิวรอบเกาะ
18. อุทยานนกน้ำทะเลน้อย จังหวัดพัทลุง
พักการเล่นน้ำทะเลมาผ่อนคลายกับทะเลสาบน้ำจืดกันบ้างที่ อุทยานนกน้ำทะเลน้อย ตั้งอยู่ที่ตำบลนางตุงและตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง มีความกว้างประมาณ 5 กิโลเมตร ยาวประมาณ 6 กิโลเมตร นับเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแห่งแรกของประเทศไทย สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นพื้นที่สวรรค์ของนักดูนก เพราะมีทั้งนกที่ประจำถิ่นและนกอพยพมาจากที่อื่นตามฤดูกาล เช่น นกกาบบัว, นกกุลา, นกกระสานวล, นกกระสาแดง, นกกาน้ำเล็ก, นกแขวก, นกเป็ดน้ำ, นกกระทุง, นกนางนวล, นกกระเต็น และสายพันธุ์อื่น ๆ อีกกว่า 200 ชนิด โดยช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายนจะเป็นช่วงเวลาที่นกชุกชุมมากที่สุด และนอกจากการดูนกแล้ว อุทยานนกน้ำทะเลน้อยยังมีสิ่งที่น่าสนใจโดดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือ ทะเลบัวแดง หรือทะเลบัวสาย โดยในช่วงเช้าเหล่าบัวสายจะพากันออกดอกสีแดงสดบานสะพรั่งเต็มท้องน้ำ เหมาะแก่การล่องเรือชมบัวเพลิน ๆ สัมผัสบรรยากาศความสวยงามแห่งภูมิทัศน์ที่งดงาม
19. ล่องแพไม้ไผ่วังเคียงคู่ จังหวัดพังงา
กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่ไปตามลำธารที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ ชมความงดงามของธรรมชาติทั้งสองข้างทางที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ มวลหมู่ไม้มีความเขียวชอุ่มใกล้ชิดธรรมชาติ มีจุดให้ลงไปเล่นน้ำคลายร้อนได้ รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 1.5-3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 30-45 นาทีต่อรอบ
20. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ไปพักผ่อนช่วงวันสงกรานต์ท่ามกลางภูเขาและสายน้ำเย็นกันที่เขื่อนรัชชประภา หรือชื่อเดิม เขื่อนเชี่ยวหลาน ตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาสก โดยนักท่องเที่ยวจะได้ชมวิวสุดอลังของภูเขาหินปูน พายเรือคายักหรือแคนูกลางทะเลสาบ พร้อมเที่ยวถ้ำปะการัง และเล่นน้ำคลายร้อนสุดชุ่มฉ่ำ หากใครอยากมาพักผ่อนกันแบบชิล ๆ ทางอุทยานก็มีบริการแพที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวด้วย หรือจะพักกับเอกชนก็มีให้เลือกเยอะเช่นกัน
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาสก - Khao Sok National Park โทรศัพท์ 0-7739-5139
ทั้งหมดนี้คือสถานที่เที่ยวในช่วงวันสงกรานต์ 2567 หรือช่วงวันหยุดยาว ที่เรานำมาฝากให้เป็นตัวเลือกในการวางแผนเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนชมความสวยงามของธรรมชาติ เล่นน้ำคลายร้อน และแวะถ่ายรูปสวย ๆ ตามสถานที่ต่าง ๆ รับรองว่าช่วงวันหยุดยาวของคุณจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ เที่ยวหน้าร้อน เที่ยวทะเล อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง