แม่กำปอง เชียงใหม่ สถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่ยังคงสวยงาม โอบล้อมด้วยต้นไม้ ลำธารและป่าเขา ใครที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติต้องไม่พลาด
แม่กำปอง หมู่บ้านเล็ก ๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาในจังหวัดเชียงใหม่ แทบทุกตารางพื้นที่ในหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่าน และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ แน่นอนว่าอากาศที่นี่ดีตลอดทั้งปีอีกด้วย ประกอบกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่แสนเรียบง่าย ยิ่งทำให้ที่นี่ดูเหมือนจะมีเสน่ห์ดึงดูดให้คนแปลกหน้าต่างถิ่นอย่างเรา ๆ อยากที่จะไปเที่ยวที่แม่กำปองดูสักครั้ง เช่นเดียวกับ คุณ Chuttie Journey สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่เป็นอีกหนึ่งคนที่อดใจไม่ไหว เดินทางมาสัมผัสเสน่ห์ที่แม่กำปองด้วยตัวเอง และค้นพบว่าที่นี่ยังคงรักษาความเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ไว้เป็นอย่างดี และนี่คงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมแม่กำปองจึงยังเป็นสถานที่ที่เชื้อเชิญให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชื่นชมความงามอย่างไม่ขาดสาย ชักเริ่มอยากจะเห็นกันแล้วใช่ไหมคะ ? อย่ามัวชักช้า ตามไปดูด้วยกันเลย
+++++++++++++++++++++++
สวัสดีครับผม ผมกลับมาอีกแล้ว ตามคำเรียกร้อง (ของตัวเอง) ผมไม้..หรือ กานต์ ดี ? จะเรียกอะไรก็ได้ครับ ขอแค่ผมยังดูเป็นมนุษย์อยู่ก็พอ ที่มาวันนี้ก็เพราะว่าผมมีการเดินทางครั้งใหม่ (อยากนำเสนอ)+การเดินทางครั้งเก่า (รอการนำเสนอมาเป็นปีละ) มาเล่าแบ่งปันกันครับ ไม่เชิงเป็นรีวิว ขอเป็นบันทึกการเดินทางแทน ภาษาที่เขียนไม่เป็นทางการเช่นเคย ตรงไหน บรรทัดใดพิมพ์ตกพิมพ์หล่น หรือทำให้ท่านไม่พอใจนัก ขออภัยไว้ด้วยนะครับ
ขอเริ่มเลยนะครับ
ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไกลออกไปจนเกือบสุดเขตแดนจังหวัด ที่นั่นมีหมู่บ้านหนึ่งที่ค่อย ๆ เลื่องชื่อขึ้นมาเรื่อย ๆ จนกลายเป็นสถานที่ที่ต้องมาร์กดอกจันไว้ ถ้ากระดาษแผ่นนั้นได้ร่างทริปเที่ยวเชียงใหม่ขึ้นมาละก็นะ
หมู่บ้านแม่กำปอง อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านที่แทรกตัวอยู่ตามภูเขาเขียว ทำให้ที่นั่นมีอากาศเย็นสบายกว่าหลาย ๆ ที่ และยังเป็นหมู่บ้านที่มีโครงสร้างบ้านเรือนได้น่ารักเป็นเอกลักษณ์แตกต่างจากที่เที่ยวอื่น ๆ เช่นกัน ผมเคยได้มาเยือนหมู่บ้านนี้แล้วครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ตอนนั้นผมก็ยังไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับที่นี่หรอก อาจจะได้ยินแค่ชื่อด้วยซ้ำไป จนวันนั้นตอนว่าง ๆ สาย ๆ ที่ยังไม่รู้จะทำอะไรกับชีวิตนี้ดี ผมใช้นิ้วปัดเลื่อนเช็ดถูที่หน้าฟีดเฟซบุ๊กไปเรื่อย ๆ จนได้ไปเห็นพี่ท่านหนึ่งได้โพสต์ภาพถ่ายต่าง ๆ ของหมู่บ้านแห่งนี้ไว้
ถนนสายหนึ่งที่ทอดยาวไหลคดเคี้ยวเป็นทางขึ้นไปบนภูเขา โดยมีบ้านเรือนตั้งสลับอยู่สองข้างทาง หรือจะเป็นมอสส์กับเฟิร์นที่เกาะบนหลังคา ทำให้ผมตาลุกวาวและมีความกระตือรือร้นขึ้นมาอย่างมาก ผมดูภาพจบก็ค้นหาระยะทางใน Google map ทันที ด้วยระยะทางที่เจ้าแม็ปได้โชว์ขึ้นมา 53 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทาง 1.12 ชั่วโมง ทำให้ผมไม่ลังเลในการตัดสินใจไป (โดยลืมไปว่าข้อมูลนั้น มันเป็นระยะของรถยนต์ ไอ้ผมที่เอามอเตอร์ไซค์ไปน่ะเหรอ นั่งจนตูดแข็ง เหงือกแห้งกันไป)
รีบเดินไปเคาะห้องเพื่อนอีก 2 คน จัดการประชุมและนำข้อมูลขึ้นพรีเซ็นต์ (คะยั้นคะยอ) ราวกับกำลังทำโฆษณาชวนเชื่อ จนทั้งสองคนตกลงไป ล้อรถสองคันหมุนออกจากหอในเที่ยงกว่า ๆ ของวันนั้น จุดมุ่งหมายคือตาม Google map ไป ข้อมูลเหรอ ? ไม่มีหรอก ไม่ได้คิดหาด้วย ขี่ไปเรื่อย ๆ เพื่อนบ่นเมื่อยตลอดทาง บ่นได้บ่นดี เมื่อไหร่จะถึงวะ มาถูกทางแน่หรือ...พี่จ๋า กระผมนั้นได้แต่ยิ้มอ่อน ๆ ตอบกลับไป เพราะผมก็ไม่รู้อะไรเช่นกัน ฮิฮิ จนเวลาล่วงเข้าบ่ายสามโมง พวกเราก็ไปถึงร้านกาแฟ The Giant Chiangmai เป็นที่แรกโดยการถามทางจากชาวบ้านริมทางมาเรื่อย ๆ แล้วเรื่องที่น่าจดจำเรื่องแรกของทริปก็เกิดขึ้น
ทันทีที่เราก้าวไปยืนหน้าสะพานที่จะพาเราไปสู่ต้นไม้ใหญ่ที่เป็นบริเวณของร้าน พนักงานที่ยืนจัดระเบียบการเดินข้ามสะพานก็บอกกับเราว่า "ร้านปิดแล้วค่ะ" .....ถ้าเป็นในหนัง ซีนถัดจากตอนนี้ก็คงเป็นตอนที่พระเอกเกิดอาการช็อก สายตาพร่ามัว ทุกสิ่งรอบตัวหมุนคว้างเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โสตประสาทหูอื้ออึงไปหมดนั่นแหละครับท่านผู้อ่าน นี่ข้าบุกป่าฝ่าดง เสี่ยงตายจากการพุ่งรถขึ้นเนินในระดับ 45 องศา มาเพื่อฟังประโยคนี้หรือ !! (ไปถึงร้านกาแฟตอน 3 โมง ที่ร้านนั้นมีเวลาปิดตอน 3 โมง แต่จะโทษใครล่ะ ไม่หาข้อมูลกันมาเอง)
แต่ยังโชคดีนะเว้ย ที่ร้านบ้านชมนก ชมไม้ ปิดสี่โมง ก็ถือว่าการเที่ยวครั้งนั้นไม่ถือเป็นความล้มเหลวแล้ว ก็นับเป็นเรื่องดีด้วยที่ไปตอนร้านใกล้ปิด คนเหลือน้อยทำให้ถ่ายรูปได้สะดวกขึ้น
จากประสบการณ์ที่ได้รับครั้งนั้น ใครจะไปลืมได้ลงกันล่ะเนอะ อันที่จริงครั้งนั้นมันเป็นการเที่ยวแบบเร่งรีบมาก เพราะต้องเผื่อเวลาอีกสามชั่วโมงในการขี่รถกลับเข้าเมือง เราเลยได้เห็นอะไรแบบผ่าน ๆ แต่นั่นก็ยังทำให้เรารู้สึกว่าสวยอยู่ กาแฟก็อร่อยอยู่นะ บวกกับวิวดี ๆ ไม่แปลกเลยที่จะทำให้อยากกลับไปอีก มีอีกหลายอย่างด้วยที่เราพลาดไม่ได้ไป
ทุกครั้งที่ว่างก็หาเรื่องหาราวจะไปอีกให้ได้ แต่ไม่สบโอกาสสักที จนผ่านไป 1 ปี ทริปแม่กำปอง 2 ก็ได้เกิดขึ้น แต่ครั้งนี้ผมไปกับครอบครัวครับ (จากการเสนอโครงการให้น้องสาว แล้วให้ไปเสนอแม่อีกที) ครั้งนี้ไปแต่หัววัน เลยได้เห็นอะไรหลาย ๆ อย่างมากขึ้น (หาข้อมูลแล้ว) แต่ไม่ได้ไปไจแอ้นท์ เพราะทางมหาโหดมาก
อันที่จริงถ้าเกิดจะให้ผมคิดทริปเที่ยวขึ้นมาแต่ละครั้งละก็ ป่าหรือภูเขานี่อาจจะเป็นความคิดท้าย ๆ เลยล่ะ คงเพราะผมเห็นมันมาตั้งแต่เด็กอยู่แล้วมั้ง ก็เลยเป็นอะไรที่ชินตาไปหมด
บางทีผมเห็นรูปที่คนอื่นถ่ายกัน เฮ้ยยยยย...ทำไมเขาถ่ายป่าเขียว ๆ ถ่ายน้ำตกได้สวยจัง เฮ้ยยยย...มุมแบบนี้เห็นอยู่แทบทุกวัน ถ่ายออกมามันก็สวยนี่หว่า ทำไมเราคิดไม่ถึงวะ (เห็นมาจนชิน จนเป็นธรรมดา เลยไม่คิดว่าเข้าเฟรมแล้วจะสวย) ก่อนไปแม่กำปองก็เกิดความคิดมานิดหน่อย ว่าเราจะถ่ายอะไรกลับมาได้บ้าง เราจะหามุมที่สวยแบบที่คนอื่นถ่ายเจอไหม สุดท้ายก็ได้มานิดหน่อยนะ เน้นไปที่ร้านกาแฟมากกว่า
ถ้าตอนนี้ผมยังเป็นวัยรุ่นอยู่ แม่กำปอง...คงไม่ใช่ที่ที่ผมอยากไปหรอกมั้ง เพราะสิ่งแวดล้อมที่ผมอาศัยอยู่ก็ไม่ต่างไปจากกันเท่าไร คงอยากไปเที่ยวในเมืองเสียมากกว่า อาจเพราะเราโตขึ้นกระมัง ทำให้เราโหยหาสิ่งที่เคยต่อต้านขึ้นมา
เคยเป็นกันไหม อย่างเช่นตอนเด็กเรามักจะได้ยินเพลงลูกทุ่งบ่อย ๆ แต่มีความรู้สึกไม่ชอบเลย ทำไมไม่เปิดเพลงสตริง พอแก่ขึ้นมากลับหาเปิดเพลงลูกทุ่งเองซะงั้น (อยู่ ๆ ก็นึกอยากฟังขึ้นมา ไม่เข้าใจตัวเองจริง ๆ) ที่บ้านตกใจเลย มันนึกยังไงของมัน ถึงมาเปิดเพลงพวกนี้ หรือวันนี้ที่บ้านทำแกงแค น้ำพริกหนุ่มกินอีกแล้ว โธ่ ! คุณแม่ก็รู้อยู่ว่าหนูไม่กินผัก ทำไมไม่ทอดไก่หรือซื้อไก่ย่าง 5 ดาว มาล่ะ แต่พอแก่มา "แม่ วันนี้ทำแกงขนุนให้กินหน่อยสิ", "แม่ อยากกินน้ำพริกอ่อง" ไอ้น้ำต้ม น้ำแกงที่เคยไม่ชอบ กลับรู้สึกว่ามันหอมขึ้นมาซะอย่างนั้น ก็นั่นแหละครับ เหตุผลที่อยากไปแม่กำปองก็คงไม่ต่างกัน
วัดแม่กำปอง
ปกติเที่ยวทุกครั้งผมมักจะได้ไปวัดทุกครั้งไป ตั้งใจบ้างบางทริป บางทริปไม่ได้ตั้งใจแต่ก็ได้ไป แต่ผมไม่ค่อยชอบถ่ายภาพวัดเท่าไรนัก นั่นคงเพราะ
1. วัดแต่ละที่ก็ไม่ต่างกันเท่าไร
2. เวลาเอารูปวัดไปรวมกับภาพอื่น ๆ ที่อื่น ๆ แล้วมันดูแปลกและโดดออกไป ในอินสตาแกรมเลยไม่มีรูปที่เกี่ยวกับวัดเลย (นอกจากหมาวัด)
3. ผมไม่รู้จะถ่ายมุมไหน ถ่ายออกมายังไงดี (หลาย ๆ วัดผมถ่ายนะ แต่ถ่ายแล้วก็เก็บไว้) แต่วัดที่แม่กำปองนั้นแตกต่าง ผมว่ามีมุมมากมายให้ถ่ายดี วัดน่ารัก (ใช้คำได้ไม่เหมาะสม แต่ผมว่าน่ารักจริง ๆ) ดูสบาย ๆ อยู่รวมกับธรรมชาติได้กลมกลืน เดินถ่ายรูปเพลินดี
แล้วก็อยากจะบอกว่าหมาวัดที่นี่หยิ่งนะ แค่ขอถ่ายรูปหน่อยขู่กันซะงั้น แล้วก็เรื่องน่า...น่าตกใจอีกเรื่องหนึ่งคือในตอนที่ผมเดินถ่ายรูปเล่นไปเรื่อย ๆ หลุดโคจรจากครอบครัว หลุดจากผู้คนออกมาแบบเพลิน ๆ สายตาก็เหลือบไปเห็นหมาวัดตัวหนึ่ง (ขออนุญาตใช้คำว่า \'หมา\' นะครับ) ด้วยความที่ว่าเป็นติ่งหมาอยู่แล้ว ผมเลยหยุดแล้วเรียกหมาที่กำลังเดินผ่านไป เจ้าหมาไม่ให้ความสนใจ รีบโกยสี่เท้าเดินหนีไปเฉย ๆ ไม่แม้จะหันหรือชำเลืองมาสักหน่อย
แต่ในขณะเดียวกันกลับมีเสียงหนึ่งดังตอบรับขึ้นมาแทน เสียงนั้นแหลม ๆ สูง ๆ ดังระรัวอยู่ไม่ไกลจากข้างหลังผม ตอนนั้นผมตกใจมาก คิดในใจว่า เฮ้ย ! เสียงอะไรวะ ?! จะโดนผีหลอกกลางวันแสก ๆ เลยหรือ ผมยืนอยู่ตรงนั้นคนเดียวด้วย เลยค่อย ๆ หันหลังกลับไปดู ในระดับสายตาผมนั้นไม่มีใคร ไม่มีอะไรเลย ! เอาแล้วไงล่ะ ผมเลยมองต่ำลงไปกว่าสายตาอีกช้า ๆ แล้ว...ผมก็พบกับหนูตัวหนึ่งที่มีสีดำลายขาว ยืนเกาะขอบกรงส่งเสียงเรียกผมอยู่ โค้ววว..บ่ะ ขนคิงลุกหม๊ด !! แต่ให้อภัย มันก็น่ารักกกกกกกขนาดนี้
ร้านกาแฟ ณ แม่กำปอง
พอเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว แน่นอนล่ะว่าต้องมีที่พัก, โฮมสเตย์ หรือร้านกาแฟเกิดขึ้น ที่แม่กำปองเราจะพบร้านเหล่านี้ด้วยอารมณ์ที่แตกต่างจากที่อื่น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คงเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้แม่กำปองมีชื่อเสียงขึ้นมา แต่ละร้านตั้งและแต่งขึ้นได้กลมกลืนกับธรรมชาติเป็นอย่างดี แฝงตัวได้อย่างแนบเนียน ไม่ได้แปลกหรือโดดออกไปจากสิ่งแวดล้อมเลย เลยทำให้มองไปทางไหนก็ดีไปหมด ที่ที่ผมแนะนำเลยก็คงเป็น บ้านชม ชมไม้ ใครก็คงทราบกันดี และมีมุมมหาชนจนเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านไปแล้ว
ร้านที่สองก็ \'Y life ไว้ลาย\' เป็นร้านที่มีทัศนียภาพที่ดีอยู่ เครื่องดื่มอร่อย แถมกาแฟดริปแค่ 60 บาทเอง อีกร้านก็คง Teddu Coffe ร้านบรรยากาศดี มีน้ำตกและลำธารไหลผ่าน ตอนผมไปดูร้านอาจจะเงียบเหงาไปบ้าง (จนเหมือนเกือบจะร้าง คงเพราะไม่ค่อยเปิดไฟแหละ) แต่ก็ยอมให้กับบรรยากาศ แล้วก็เจ้าแมวน้อยของร้านด้วย
ร้าน Y life ไว้ลาย
ร้าน Teddu Coffee
มาแม่กำปอง อย่าลืมแวะกอดแมวนะครับ แม้จะไม่เห็นแมวเป็น ๆ ที่ร้าน แต่ของแต่ละอย่างน่ารักทั้งนั้น สมุดทำมือ ของแฮนด์เมด ราคาสมเหตุสมผล เจ้าของร้านน่ารัก เป็นกันเอง ใครเป็นทาสแมวอยู่แล้วต้องชอบแน่นอน
ร้านไส้อั่ว แม่นิ่ม
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ถ้าหิวแล้วยังไม่รู้จะไปร้านไหน ลองร้านนี้ดูครับ ไส้อั่ว, ขนมจีนน้ำเงี้ยว, ส้มตำ, ต้มแซ่บ อร่อยทุกอย่างในแนวรสชาติของพื้นเมืองจริง ๆ
เป็นอันได้เวลา ต้องขอจบทริปการเดินทางครั้งนี้แล้วนะครับ รูปหมดแล้ววววว...ขอบคุณมากครับที่สนใจเรื่องราวของผม ท่านใดยังเหลือเวลาว่างอยู่ ยังไม่เบื่อการพ่นเรื่องของผม ลองอ่านกระทู้เก่า ๆ ของผมฆ่าเวลาได้นะครับ
● Osaka | Kyoto "Walk alone find the unknown me in Japan" เดินคนเดียวเที่ยวค้นหาสิ่งที่ฉันไม่รู้ในญี่ปุ่น
● มือหมุนเลนส์กับฟิล์มที่หมุนกลับ [Olympus OM-1 กับความยากของการใช้กล้องฟิล์ม]
● ภูทับเบิก-ปาย สะพายกล้อง : บันทึกการเดินทาง เที่ยวภูเขาหน้าฝน
● เก็บกระเป๋าลงเขา ไปขึ้นเขา...ค้อ 2วัน 1คืน ล่าทะเลหมอกและความหวาดเสียว 9-10 สิงหาคม 2557
Thank you ^___^ ありがとうございます。
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ Chuttie Journey สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม