ที่เที่ยวเดือนเมษายน 2567 ลั้ลลาหน้าร้อน ต้อนรับซัมเมอร์ แดดแรงแค่ไหนก็สนุก !

           เมษาหน้าร้อน เที่ยวไหนดี ? คำถามยอดฮิตในช่วงซัมเมอร์ กับที่เที่ยวในไทย ทั้งทะเล น้ำตก หรือคลองสวยน้ำใสต่าง ๆ รับรองว่าฮอตไม่แพ้แดดช่วงร้อนนี้แน่นอน
           เข้าเดือนเมษายน อากาศเมืองไทยก็ร้อนแรงจนเกินต้าน จะอยู่บ้านเปิดแอร์ก็เปลืองไฟโดยใช่เหตุ สายเที่ยวทั้งหลายที่เตรียมวางแผนเที่ยวหน้าร้อนในช่วงซัมเมอร์นี้ เรามี ที่เที่ยวเดือนเมษายน 2567 มาฝากกัน ทั้งทะเล ชายหาด น้ำตก ลำธาร ป่าชายเลน วัดวาอารามต่าง ๆ รับรองว่าฟินทุกที่ ถ้าพร้อมแล้วอย่ารีรอ รีบจัดกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปกันเลย

ที่เที่ยวเดือนเมษายน 2567

1. งาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567

          เมื่อพูดถึงเดือนเมษายน หลายคนก็มักจะนึกถึง วันสงกรานต์ 2567 วันที่ 13-15 เมษายน ที่เป็นวันหยุดยาวติดต่อกัน พร้อมกับวางแผนทริปเที่ยวต่างจังหวัด หรือเล่นน้ำคลายร้อนกันอย่างสนุกสนาน โดยสถานที่สำคัญของจังหวัดใหญ่ ๆ อย่างถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ, ถนนคนเดินท่าแพ เชียงใหม่, ถนนข้าวเหนียว ขอนแก่น หรือถนนข้าวหลาม ชลบุรี ก็ต่างจัดงานสงกรานต์กัน

          โดยเฉพาะงาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567 ที่จะจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-21 เมษายน ในกรุงเทพฯ และส่วนภูมิภาค 5 จังหวัด เช่น เชียงราย เชียงใหม่ สุโขทัย พระนครศรีอยุธยา โดยกิจกรรมหลักจัดขึ้นที่ถนนราชดำเนินกลาง บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ มีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น การจัดขบวนพาเหรดรถสงกรานต์ การแสดงทางวัฒนธรรม และการแสดงร่วมสมัย กิจกรรมพิเศษสรงน้ำพระ และการเล่นน้ำ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

งาน Maha Songkran World Water Festival 2024 เย็นทั่วหล้า มหาสงกรานต์ 2567

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

2. วัดมณีวงศ์ จังหวัดนครนายก

          สถานที่สำหรับคนอยากเที่ยวหน้าร้อนแต่ไม่อยากไปทะเล เป็นวัดเก่าแก่ใกล้กรุงเทพฯ ที่มีอายุกว่า 100 ปี ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองนครนายก บรรยากาศร่มรื่น มีอุโบสถสีทองอร่าม ไฮไลต์คือ ถ้ำพญานาค หรือวังรัตนมณีมหานครบาดาลนาคราช บริเวณซุ้มประตูจะพบกับรูปปั้นพญานาคพ่อปู่ศรีสุทโธ-แม่ย่าศรีปทุมมา และยังมีพระมหาจักรพรรดิชัยบาดาล พระพุทธรูปปางมารวิชัย กว้าง 9 เมตร สูง 14 เมตร ประดิษฐานอยู่พร้อมกับรูปปั้นพระอริยสงฆ์ พญานาค 4 ตระกูล และบริวารมากกว่า 1,000 ตน ล้อมรอบ เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ไปกราบไหว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดมณีวงศ์ โทรศัพท์ 08-8942-5594
วัดมณีวงศ์ จังหวัดนครนายก

ภาพจาก : Paksongpob Kasempisaisin / Shutterstock.com

3. วันไหลสงกรานต์ จังหวัดชลบุรี

           งานประจำปีที่ต้องไม่พลาดในช่วงเดือนเมษายน คือ งานวันไหล ซึ่งในปี 2567 จะจัดขึ้นในวันที่ 14-22 เมษายน จัดเต็ม 9 วัน เวียน 12 ที่ทั่วจังหวัดชลบุรี เริ่มตั้งแต่พนัสนิคม, บางแสน, นาเกลือ, เกาะล้าน, พัทยา, บางเสร่, มาบตาพุด, บ้านค่าย และบ้านบึง นับเป็นการจัดอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องจากเฉลิมฉลองที่วันสงกรานต์ไทยได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ (Representative List of the Intangible Cultural Heritage of Humanity) จากยูเนสโก
วันไหลสงกรานต์ จังหวัดชลบุรี

ภาพจาก : somkanae sawatdinak / Shutterstock.com

           ภายในงานวันไหลสงกรานต์ มีกิจกรรมที่น่าสนใจต่าง ๆ มากมาย ทั้งการก่อพระทรายวันไหลบางแสน ทำบุญตักบาตร สรงน้ำ ปิดทองพระพุทธรูป การแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การเล่นน้ำ รวมถึงมีการจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองและอาหารต่าง ๆ เรียกว่าใครเล่นสงกรานต์ 3 วันจากที่อื่น ๆ แล้วยังรู้สึกไม่พอ สามารถพุ่งตรงไปเที่ยวกันต่อที่ชลบุรีได้เลย

4. ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ จังหวัดระยอง

          โครงการป่าในเมือง จังหวัดระยอง หรือ ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ เป็นโครงการเพื่ออนุรักษ์ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ บริเวณปากแม่น้ำระยอง ตำบลปากน้ำและตำบลเนินพระ อำเภอเมืองระยอง ซึ่งเป็นป่าเก่าแก่ เนื้อที่ประมาณ 500 ไร่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและออกกำลังกาย เดินชมทัศนียภาพป่าโกงกางที่สมบูรณ์ได้อย่างเพลิดเพลิน มีการสร้างเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและสะพานไม้ตามจุดต่าง ๆ เชื่อมเป็นทางเดินเลียบริมน้ำระยะทาง 7 กิโลเมตร 

          
หนึ่งในไฮไลต์สำคัญของป่าแห่งนี้คือ พระเจดีย์กลางน้ำ เจดีย์สีขาวทรงระฆังที่ตั้งอยู่บนเกาะกลางแม่น้ำระยอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลาการเรียนรู้ จุดเริ่มต้นของเส้นทางศึกษาธรรมชาติ (ศูนย์การเรียนรู้ระบบนิเวศป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ) รวมถึงท่าเทียบเรือชมป่า นอกจากนี้บริเวณทิศตะวันออกของพระเจดีย์กลางน้ำยังเป็นที่ตั้งของหอชมเมือง หรือหอชมวิวเฉลิมพระเกียรติ เป็นจุดที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้นไปชมทิวทัศน์ของปากแม่น้ำระยอง อ่าวไทย และพื้นที่บางส่วนของเมืองในมุม 360 องศาได้เต็มสายตา

ป่าชายเลนพระเจดีย์กลางน้ำ จังหวัดระยอง

ภาพจาก : Bangprikphoto / Shutterstock.com

5. บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุพรรณบุรี

           แหล่งเที่ยวหน้าร้อนใกล้กรุงเทพฯ เป็นบึงน้ำธรรมชาติที่ชวนให้รู้สึกเย็นกายสบายใจยิ่งขึ้น พื้นที่ขนาดใหญ่ราว 2,700 ไร่ มีการจัดพื้นที่ออกเป็นโซนสวนสัตว์ นิทรรศการแสดงประวัติความเป็นมาของบึงฉวาก สถานที่สำหรับถ่ายภาพร่วมกับสัตว์ เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบเพื่อนฝูงหรือครอบครัว เพราะมีพื้นที่กิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้เพลิดเพลินไปกับการเรียนรู้ พร้อมความสวยงามใต้ท้องทะเล ไฮไลต์ห้ามพลาดคือ อุโมงค์ปลาน้ำจืดสวยงาม หาดูยาก เป็นอาคารตู้ปลาทรงกระบอกขนาดใหญ่ และอุโมงค์ปลาฉลาม ซึ่งเป็นอุโมงค์ปลาที่มีความกว้างที่สุดในโลก พร้อมกับแสดงการให้อาหารที่จัดโชว์ทุกวันด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำบึงฉวากเฉลิมพระเกียรติฯ โทรศัพท์ 0-3543-0043
บึงฉวาก จังหวัดสุพรรณบุรี

6. วัดใต้น้ำ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

           วัดใต้น้ำ (วัดจมน้ำ) คือวัดวังก์วิเวการาม (เดิม) ซึ่งกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว Unseen Thailand เพราะความแปลกที่มีซากโบราณสถานจมอยู่ใต้น้ำ เป็นวัดที่หลวงพ่ออุตตมะร่วมกับชาวบ้านสร้างขึ้น เดิมทีวัดนี้ตั้งอยู่บนเนินสูง ต่อมาได้มีการก่อสร้างเขื่อนวชิราลงกรณ ทำให้น้ำเข้าท่วมตัวอำเภอสังขละบุรีเก่ารวมทั้งวัดนี้ด้วย จึงได้ทำการย้ายวัดมาอยู่บนเนินเขาแทน ส่วนวัดเดิมนั้นจมอยู่ใต้น้ำมานานราวสิบปี เหลือเพียงซากปรักหักพังของวัดเท่านั้น
วัดใต้น้ำ สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

           การเที่ยวชมโบสถ์นั้น ถ้าอยากจะเดินเข้าไปชมความสวยงามแนะนำให้ไปประมาณเดือนมีนาคมถึงเมษายน เพราะเป็นช่วงหน้าแล้ง ทำให้สามารถเดินเข้าไปเยี่ยมชมโบสถ์เก่าได้ แต่ถ้ามาในช่วงหน้าหนาว หรือหลังฤดูฝนไปแล้ว การชมวัดใต้น้ำจะทำได้เพียงแค่ล่องเรือไปในบริเวณใกล้ ๆ กับโบสถ์เท่านั้น ซึ่งอาจจะได้เห็นผนังโบสถ์บางส่วนโผล่พ้นน้ำ แต่ถ้าในฤดูน้ำมากก็อาจไม่เห็นเลย

7. น้ำตกป่าละอู จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

           เพราะหัวหินไม่ได้มีแค่ชายหาดและทะเล แต่ยังมี น้ำตกป่าละอู แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์และเหมาะมากในช่วงหน้าร้อน ให้ได้สัมผัสกับความเย็นสบายของบรรยากาศ โดยน้ำตกแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าละอู ทางตอนใต้ของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ห่างจากหัวหินประมาณ 60 กิโลเมตร ประกอบไปด้วย น้ำตกละอูใหญ่ และน้ำตกละอูน้อย ที่ไหลลดหลั่นกันลงมาอย่างสวยงาม มีด้วยกันถึง 15 ชั้น และด้วยน้ำตกที่ไหลลงมาทำให้สามารถลงเล่นน้ำได้
น้ำตกป่าละอู จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

           ในส่วนของผืนป่าแห่งนี้ยังคงอุดมไปด้วยป่าไม้ที่มีความเขียวขจี มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ทั้งชะนี ค่าง ช้าง เม่น และนกหายากสายพันธุ์ต่าง ๆ นอกจากเป็นสวรรค์ของคนชอบดูนกแล้วยังเป็นแหล่งดูผีเสื้ออีกด้วย ซึ่งจุดที่นิยมมาดูผีเสื้อ ได้แก่ บริเวณที่กางเต็นท์ของอุทยาน สะพานข้ามห้วยชลนาฏ วังสมพง บริเวณชั้นที่ 1 ของน้ำตกป่าละอู รวมถึงบริเวณฝาย 1 ซึ่งอยู่ใกล้ลำห้วย ไม่ไกลจากบ้านพักของเจ้าหน้าที่

8. หมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร

           อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ตั้งแต่เกาะจระเข้ในเขตอำเภอปะทิวจดเกาะง่ามใหญ่, เกาะง่ามน้อย, เกาะเสม็ด, เกาะมะพร้าว, เกาะมาตรา, เกาะทองหลาง, เกาะลังกาจิว บริเวณอ่าวทุ่งคาในเขตอำเภอเมือง และหมู่เกาะในเขตอำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก ที่นี่เป็นแหล่งธรรมชาติที่ค่อนข้างหลากหลายและอุดมสมบูรณ์
เกาะลังกาจิว หมู่เกาะชุมพร จังหวัดชุมพร

           มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น อ่าวทุ่งมะขามน้อย, อ่าวทุ่งมะขามใหญ่, อ่าวท้องตมใหญ่, หาดทรายรีสวี, อ่าวมะม่วง, อ่าวท้องตมน้อย, หาดอรุโณทัย และอ่าวท้องครก เป็นต้น ส่วนพื้นที่ทางทะเลประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่รวม 40 เกาะ เช่น เกาะง่ามใหญ่, เกาะง่ามน้อย, เกาะมะพร้าว, เกาะมาตรา, เกาะละวะ, เกาะลังกาจิว และเกาะกุลา ซึ่งหลายเกาะมีแนวปะการังและฝูงปลาที่สวยงามเหมาะกับการดำน้ำ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร - Mu Ko Chumphon National Park โทรศัพท์ 0-7755-8144

9. ล่องแก่งคลองยัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

           ล่องแก่งคลองยัน เป็นกิจกรรมสนุกท้าทายแนวแอดเวนเจอร์ ให้บริการที่บ้านบางไต อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นการล่องแก่งเรือยางที่สนุกสนานในคลองยัน แหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำพุมดวงและแม่น้ำตาปี ที่มีความท้าทายและตื่นเต้นแนวผจญภัยเล็ก ๆ แต่ไม่มีอันตรายใด ๆ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสผืนป่าต้นน้ำที่สมบูรณ์ที่สุดของภาคใต้ โดยมีระยะทางล่องแก่งให้เลือก 2 ระยะ คือ 5-6 และ 10-12 กิโลเมตร
ล่องแก่งคลองยัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง - Kaeng Krung National Park

           สำหรับคนที่สนใจสามารถติดต่อไกด์ท้องถิ่น หรือประสานทางอุทยานแห่งชาติแก่งกรุง เพื่อจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยในการร่วมกิจกรรมทางน้ำแบบวันเดียวจบ หรือจะค้างคืน หุงข้าวกระบอกไม้ไผ่ และประกอบอาหารอย่างง่าย กางเต็นท์นอนบนหาดทรายริมคลองยัน ก็มีให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวและทำกิจกรรมล่องแก่งคลองยันจะอยู่ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงตุลาคมของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแก่งกรุง - Kaeng Krung National Park โทรศัพท์ 09-0878-0774

10. เกาะเหลาเหลียง จังหวัดตรัง

           เกาะเหลาเหลียง (หรือเหล่าเหลียง) ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง เป็นภูเขาหินปูน มีหน้าผาล้อมรอบ หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสีฟ้าอมเขียว บรรยากาศเงียบสงบราวกับเกาะส่วนตัว ซึ่งเกาะเหลาเหลียงเป็นเกาะแฝด แบ่งออกเป็น เกาะเหลาเหลียงพี่ บนเกาะมีชุมชนชาวประมงที่อาศัยชั่วคราวหลายสิบหลังคาเรือน โดยใช้เป็นที่พักสำหรับหลบลมและพักอาศัยเวลาออกทะเล เกาะนี้เป็นสัมปทานรังนก สามารถเดินเที่ยวชมพื้นที่หาดบนเกาะได้ แต่ไม่อนุญาตให้พักค้างคืนบนเกาะ
เกาะเหลาเหลียง จังหวัดตรัง

          ส่วนเกาะเหลาเหลียงน้อง มีหน้าผาสูงกว่าร้อยเมตร หาดทรายขาวสะอาด และมีแนวปะการังที่สวยงามอยู่ทางทิศตะวันออกของเกาะ มีทั้งดอกไม้ทะเล ฝูงปลาการ์ตูน เหมาะสำหรับการดำน้ำตื้น มีที่พักเอกชนเพียงแห่งเดียวบนเกาะ ซึ่งต้องสำรองที่พักล่วงหน้าก่อนเดินทาง 

          เกาะเหลาเหลียงจะปิดการท่องเที่ยวเป็นประจำทุกปีในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เพราะเป็นช่วงมรสุม และเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติรวมทั้งที่พักบนเกาะเหลาเหลียงน้องด้วย โดยจะเปิดเกาะให้ท่องเที่ยวอีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคมของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา-Mu ko phetra national park โทรศัพท์ 0-7474-0272

11. Rock Beach Swing จังหวัดภูเก็ต

           ชายหาดเล็ก ๆ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตั้งอยู่บริเวณจุดชมวิวหาดกะรน ไม่ไกลจากจุดชมวิว 3 อ่าว มีมุมพักผ่อนหลายมุม รวมถึงมุมถ่ายรูปเยอะมาก ๆ ทั้งซุ้มรังนก ซุ้มสี่เหลี่ยมพร้อมเบาะนอน ซุ้มนั่งน่ารัก ๆ เปลตาข่าย ชิงช้า และไฮไลต์เด็ดเลยคือ บันไดสวรรค์ เป็นบันไดสีขาวที่ทอดยาวสู่ท้องฟ้า ดูไร้ที่สิ้นสุด สามารถไปยืนชมวิวรับลมทะเลเย็น ๆ หรือจะโพสท่าเหมือนกำลังเดินขึ้นสวรรค์ก็เก๋ไม่หยอก นอกจากจุดถ่ายภาพยังมีบาร์ขนาดเล็กสำหรับนั่งพักผ่อน มีบริการขายเครื่องดื่มและอาหารด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Rock beach swing โทรศัพท์ 06-3076-2046
Rock Beach Swing จังหวัดภูเก็ต

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Rock beach swing

12. บ้านคุ้งเตาเหล้า จังหวัดพิษณุโลก

          ท่าน้ำบ้านคุ้งเตาเหล้า หรือหาดทรายท้ายเขื่อนนเรศวร ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 และหมู่ 7 ตำบลพรหมพิราม อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก เป็นจุดส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำ O-TOP นวัตวิถีของชุมชน ซึ่งเปิดให้เล่นน้ำแบบชิล ๆ ในช่วงฤดูร้อน มีระดับน้ำไม่ลึก ใส เย็น บรรยากาศโดยรอบเป็นทิวไผ่และต้นไม้ร่มครึ้ม อากาศเย็นสบาย พร้อมหาดทรายที่ละเอียดเนียนไม่ต่างจากหาดทรายที่ชายทะเลเลย อีกทั้งยังมีชาวบ้านนำสินค้าชุมชน อาหาร เครื่องดื่ม มาจำหน่ายสร้างรายได้ในราคาที่ไม่แพง ประกอบกับมีบริการให้นั่งแคร่ กางร่ม แช่น้ำได้ เหมาะแก่การมาท่องเที่ยวและพักผ่อนเป็นอย่างมาก
บ้านคุ้งเตาเหล้า จังหวัดพิษณุโลก

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก บ้านคุ้งเตาเหล้า หมู่ที่ 7

13. หาดสบยาว จังหวัดน่าน

           หาดบ้านสบยาว แหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองจัง อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน มีแม่น้ำยาวไหลผ่าน ไปบรรจบกับแม่น้ำน่านที่บ้านหาดผาขน โดยชาวบ้านได้ร่วมมือกันปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณรอบ ๆ หาดให้มีความสวยงาม เพื่อหวังส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชน พร้อมจัดทำซุ้มแพไม้ไผ่มากกว่า 60 แพ สำหรับนั่งพักผ่อนคลายร้อน หากอยากลงเล่นน้ำก็มีห่วงยางให้เช่าในราคาไม่แพง นอกจากจะได้แช่น้ำเย็น ๆ แล้วยังอิ่มหนำกับอาหารหลากหลายเมนูที่ชาวบ้านนำมาจำหน่าย ทั้งปลาแม่น้ำน่าน อาหารแบบปิ้งย่าง ส้มตำรสแซ่บ ๆ รวมถึงเครื่องดื่มอีกมากมาย
หาดสบยาว จังหวัดน่าน

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก หาดสบยาว

14. วัดพระธาตุดอยพระฌาน จังหวัดลำปาง

           เที่ยวหน้าร้อนให้สบายกายและสบายใจด้วยการไปนมัสการพระใหญ่ ชมความงามของธรรมชาติในจังหวัดลำปาง ที่ วัดพระธาตุดอยพระฌาน ตั้งอยู่บนยอดดอยพระฌานในอำเภอแม่ทะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวประเภทศาสนาวัฒนธรรม ที่ได้รับความสนใจในกลุ่มนักท่องเที่ยวจำนวนมากในตอนนี้ ซึ่งมีความสวยงามทางด้านสถาปัตยกรรม
วัดพระธาตุดอยพระฌาน จังหวัดลำปาง

          สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดพระธาตุดอยพระฌาน เช่น วิหารพระพุทธเจ้าองค์ปฐม สถานที่ประดิษฐานสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณ พิชิตมารวิกรม ปฐมสัมมาสัมโพธิญาณ ศรีพระฌานบรรพต พระประธานในซุ้มเรือนแก้วสีทอง บานประตูวิหารแกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรเป็นรูปพญานาคกระหวัดเกี่ยวรอบองค์พระธาตุสีขาว, พระธาตุดอยพระฌาน เจดีย์สีขาวมีปลียอดและฉัตรสีทอง เป็นองค์พระธาตุที่มีมาแต่ดั้งเดิม และ หลวงพ่อพระใหญ่ไดบุตซึ พระพุทธรูปประทับนั่งธยานมุทรา (ปางสมาธิ) ขนาดหน้าตัก 14 เมตร เนื้อทองแดง ประดิษฐานโดดเด่นอยู่บนเนินเขา มีลักษณะคล้ายกับพระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งบรรยากาศโดยรอบยังประดับประดาด้วยกิมมิกของความเป็นญี่ปุ่นอย่างการห้อยกระดิ่งอธิษฐาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ จ.ลำปาง โทรศัพท์ 09-9798-7479
 

วัดพระธาตุดอยพระฌาน จ.ลำปาง นมัสการรูปปั้นพระใหญ่สไตล์ญี่ปุ่น

15. หาดชมดาว จังหวัดอุบลราชธานี

           หาดชมดาว หรือ แก่งชมดาว ตั้งอยู่ที่บ้านโนนตาล อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี มีลักษณะเป็นแนวหาดหินและแก่งหินกว้างใหญ่ ในช่วงฤดูฝนแก่งหินเหล่านี้จะจมอยู่ใต้แม่น้ำโขง และด้วยกำลังแรงของกระแสน้ำจึงกัดเซาะแก่งหินทำให้กลายเป็นแอ่งเล็กใหญ่จำนวนมาก เกิดเป็นประติมากรรมหินธรรมชาติรูปร่างแปลกตาชวนให้จินตนาการ
หาดชมดาว จังหวัดอุบลราชธานี

          ส่วนที่มาของชื่อ หาดชมดาว นั้น เพราะที่นี่เป็นหาดทรายสีขาวเนียนละเอียดเหมือนชายหาดริมทะเลทอดยาวตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง บางส่วนจะเป็นผืนทรายที่อัดแน่นเป็นแผ่น แตกระแหงเป็นริ้ว ๆ และมีกลุ่มแก่งหินขนาดใหญ่ชื่อ หินชมนภา เป็นไฮไลต์จุดที่สวยที่สุด มีลักษณะเป็นผาหินสูงใหญ่และเว้าแหว่งยาวคล้ายช่องแคบ มีสายน้ำไหลผ่าน และมีก้อนหินเล็กกลางน้ำให้ลงไปยืนถ่ายรูปสะท้อนเงาของท้องฟ้าด้านบนราวกับกระจก ไล่สีของท้องฟ้าตั้งแต่ช่วงรุ่งสาง กลางวัน และยามเย็นได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังเป็นจุดชมทะเลดวงดาวเปล่งประกายระยิบระยับยามค่ำคืนได้อย่างน่าอัศจรรย์ที่สุดด้วย

          สำหรับช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยวคือช่วงเช้าและเย็น เพราะแดดจะไม่ร้อนและถ่ายภาพออกมาได้แสงที่สวยงาม สามารถไปเที่ยวได้ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงพฤษภาคมของทุกปี เพราะระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังไม่สูงมาก จะเห็นเกาะแก่งกลางน้ำชัดเจน

16. ปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

           ปราสาทหินพนมรุ้ง เป็นโบราณสถานที่ตั้งตระหง่านอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง ซึ่งศูนย์กลางประตูจะอยู่ในแนวเดียวกับพระอาทิตย์ขึ้นตรงกันตลอด โดยทุกปีเราจะได้ชมปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ดวงอาทิตย์ขึ้นและตกส่องแสงลอดช่องประตูทั้ง 15 บานของปราสาทพนมรุ้ง เพียง 4 ครั้งเท่านั้น คือ เดือนมีนาคม เมษายน กันยายน และตุลาคม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้ง บุรีรัมย์ Phanom Rung Historical Park โทรศัพท์ 0-4466-6251
ปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

          สำหรับใครที่กำลังมองหาแหล่งเที่ยวหน้าร้อนช่วงซัมเมอร์นี้ บอกเลยไม่ควรพลาดที่เที่ยวเดือนเมษายน 2567 ที่เรานำมาฝาก ออกไปสัมผัสบรรยากาศดี ๆ เล่นน้ำเย็น ๆ หรือหากิจกรรมสนุก ๆ ทำให้สดชื่นดับร้อนกันเถอะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ เที่ยวหน้าร้อน เที่ยวทะเล อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ที่เที่ยวเดือนเมษายน 2567 ลั้ลลาหน้าร้อน ต้อนรับซัมเมอร์ แดดแรงแค่ไหนก็สนุก ! อัปเดตล่าสุด 5 เมษายน 2567 เวลา 15:44:44 46,463 อ่าน
TOP
x close