x close

แจก 13 เส้นทางรถไฟ เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ในราคาไม่เกิน 100 บาท

            เส้นทางรถไฟ แนะนำโปรแกรมนั่งรถไฟเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ราคาประหยัด สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว หรืออยากเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ
           วันหยุดชิล ๆ มานั่งรถไฟไปเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ กันดีกว่า กับเส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ เที่ยวเพลินโดนใจ ในราคาแบงก์ 100 ยังมีทอน ชวนทุกคนไปนั่งเจ้าม้าเหล็กรับลมเย็นสบาย จะไปเช้า-เย็นกลับ หรือค้างคืนยาว ๆ ก็ได้หมดตามสะดวกเลย แถมยังได้ตระเวนที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบจุใจ ทั้งแม่กลอง นครปฐม ราชบุรี กาญจนบุรี พัทยา สัตหีบ ฉะเชิงเทรา และอื่น ๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าเที่ยวสนุก จุใจเกินต้าน แถมนอกจากจะสามารถไปเที่ยวได้หลากหลายเส้นทางแล้ว ยังทำให้ได้ลองใช้ชีวิตแบบช้าลง ซึมซับบรรยากาศรอบตัว และชมทิวทัศน์สองข้างทางได้อย่างเต็มอิ่ม ใครที่ไม่มีรถส่วนตัวหรืออยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ ต้องลองแล้ว

1. กรุงเทพฯ - แม่กลอง

          การเดินทางโดยรถไฟมาเที่ยวแม่กลอง อาจจะดูซับซ้อนไปสักนิด เพราะไม่มีขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ ถึงแม่กลองโดยตรง แต่เราสามารถนั่งรถไฟจากสถานีวงเวียนใหญ่ไปลงที่สถานีมหาชัย ขบวนรถเร็ว ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 10 บาท จากนั้นให้ต่อเรือเพื่อข้ามไปฝั่งท่าฉลอม เพื่อต่อรถไฟอีกขบวนจากสถานีบ้านแหลม เพื่อไปยังสถานีแม่กลอง ที่จะมีทั้งขบวนรถเร็ว ชั้น 3 และขบวนรถด่วน ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 10 บาท

          เมื่อมาถึงแม่กลองแล้ว ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟจะมี ตลาดร่มหุบ หรือที่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า ตลาดเสี่ยงตาย เป็นตลาดที่ติดอยู่กับสถานีรถไฟ โดยพ่อค้าแม่ค้าจะตั้งแผงสองข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นถนนสำหรับจับจ่ายซื้อของ สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของตลาดแห่งนี้คือ เวลาที่รถไฟกำลังจะมา เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะรีบเก็บของและหุบร่มอย่างรวดเร็ว เมื่อรถไฟผ่านไปทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวมาก

เส้นทางรถไฟ

          นอกจากนี้ในละแวกใกล้เคียงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของเมืองแม่กลองอีกมากมาย เช่น ตลาดน้ำอัมพวา, ดอนหอยหลอด, วัดบางกุ้ง, วัดบางกะพ้อม, คลองโคน, พิพิธภัณฑ์บ้านขนมไทย, อาสนวิหารแม่พระบังเกิด, ตลาดน้ำบางน้อย, ตลาดน้ำ 3 อำเภอ และอุทยาน ร.2 เป็นต้น

20 ที่เที่ยวสมุทรสงคราม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับสบาย ๆ

2. กรุงเทพฯ - ฉะเชิงเทรา

          ฉะเชิงเทรา จังหวัดทางภาคตะวันออกที่สามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวได้เพลิน ๆ โดยสามารถขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง อัตราค่าโดยสารขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 และขบวนรถพิเศษชานเมือง ชั้น 3 คนละ 13 บาท และลงที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา

          เมื่อมาถึงฉะเชิงเทราแล้วสามารถเรียกรถสองแถวให้ไปส่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น วัดโสธรวรารามวรวิหาร, พิพิธภัณฑ์เมืองฉะเชิงเทรา, ตลาดบ้านใหม่ เมืองแปดริ้ว, วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) และวัดสมานรัตนาราม เป็นต้น

เส้นทางรถไฟ

3. กรุงเทพฯ - นครปฐม

          ชวนไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ หาของกินอร่อย ๆ กันที่นครปฐม เดินทางสะดวกด้วยรถไฟ โดยขึ้นที่สถานีหัวลำโพง มีให้เลือกทั้งแบบขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 แบบรถพิเศษชานเมือง ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 14 บาท และขบวนรถเร็ว ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 44 บาท

          เมื่อถึงสถานีรถไฟนครปฐมแล้วสามารถเดินเท้าหรือเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปส่งยังที่เที่ยวต่าง ๆ เช่น สะพานเจริญศรัทธา (สะพานยักษ์), ตลาดบน-ตลาดล่าง, องค์พระปฐมเจดีย์, พระราชวังสนามจันทร์ ก่อนจะปิดท้ายหาซื้อของอร่อยกินกันที่ตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์

เส้นทางรถไฟ

4. กรุงเทพฯ - อยุธยา

          นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเก่าของไทยกัน โดยสามารถขึ้นที่สถานีหัวลำโพง ขบวนรถชานเมือง ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 15 บาท หรือเลือกนั่งเป็นรถเร็ว ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 45 บาท

          เมื่อถึงอยุธยา สามารถที่จะไปเยี่ยมชมโบราณสถานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเหมารถตุ๊ก ๆ นำเที่ยว ถ้าไปกันหลายคนเหมารถเป็นวันก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะประหยัด ได้เที่ยวหลายที่ และไม่ต้องขับรถเองด้วย หรือจะเป็นการเช่าจักรยานเพื่อชมโบราณสถานแบบชิล ๆ แถมยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย ซึ่งโบราณสถานแต่ละแห่งนั้นไม่ได้อยู่ไกลกันมาก สามารถปั่นจักรยานชมได้อย่างสบายเลย

          สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดอยุธยาในละแวกใกล้ ๆ สถานีรถไฟอยุธยา ได้แก่ วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดมงคลบพิตร, วัดพระราม, วังช้างอยุธยา แล เพนียด และตลาดน้ำอโยธยา เป็นต้น

เส้นทางรถไฟ

5. กรุงเทพฯ - สระบุรี

          ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ เพราะเราจะพานั่งรถไฟจากสถานีหัวลำโพง ด้วยขบวนรถชานเมือง ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 24 บาท หรือจะเลือกนั่งเป็นรถขบวนเร็ว ชั้น 3 ราคา 54 บาท ไปฟินกับสถานที่เที่ยวในจังหวัดสระบุรีมากมาย เที่ยวครบได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น

          โดยเราสามารถเลือกลงที่สถานีสระบุรี ซึ่งอยู่ในตัวเมืองเลยก็ได้ หรือจะนั่งต่อมาอีกนิดแล้วลงที่สถานีชุมทางแก่งคอย เดินเล่นตลาดแก่งคอย หาซื้อของอร่อยเติมพลัง ก่อนจะขึ้นรถสองแถวไปเล่นน้ำตกเย็น ๆ ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ชิลกับธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ให้ร่างกายได้ผ่อนคลายกัน

          นอกจากนี้ที่จังหวัดสระบุรีก็ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย, วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร, ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า สระบุรี, อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีจุดกางเต็นท์ริมน้ำเอาไว้ให้สายแคมปิ้งทั้งหลายมาพักผ่อนกันด้วย

เส้นทางรถไฟ

6. กรุงเทพฯ - ราชบุรี

          เที่ยวเมืองโอ่งด้วยรถไฟ โดยเริ่มต้นที่สถานีหัวลำโพง นั่งขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ค่าโดยสารคนละ 25 บาท หรือจะนั่งรถเร็ว ชั้น 3 ในราคา 55 บาท ลงที่สถานีรถไฟราชบุรี จากนั้นก็เรียกรถสองเที่ยวเหมาให้พาเที่ยวในตัวเมืองหรืออำเภอข้างเคียงก็ได้

          ทั้งนี้ ราชบุรี เป็นจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตอบโจทย์การท่องเที่ยวทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร และลานกางเต็นท์ต่าง ๆ เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย หรือครอบครัวที่อยากจะพากันไปเที่ยวทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ

เส้นทางรถไฟ

ภาพจาก : Amnat Phuthamrong / Shutterstock.com

7. กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี

          เมื่อพูดถึงกาญจนบุรี แน่นอนเลยว่าหนึ่งสิ่งที่จะต้องนึกถึงนั่นก็คือรถไฟ เพราะการเดินทางโดยรถไฟไปกาญจนบุรีนั้น นอกจากจะเป็นการเดินทางที่สะดวกและง่ายแล้ว ยังเต็มไปด้วยความชิล พร้อมกับความสนุก ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศสองข้างทางรถไฟด้วย โดยสามารถขึ้นได้จากสถานีธนบุรี ขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ราคาสำหรับคนไทยคนละ 25 บาท และชาวต่างชาติคนละ 100 บาท ลงที่สถานีรถไฟกาญจนบุรี

          ทั้งนี้ สถานีกาญจนบุรีจะเป็นสถานีที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นกันมากเพื่อผ่านไปยังสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว จุดแลนด์มาร์กสุดโด่งดังของกาญจนบุรีนั่นเอง เพราะขณะที่รถไฟเคลื่อนผ่านสะพานจะได้เห็นตัวสะพานข้ามแม่น้ำแควที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปพร้อม ๆ กับได้สัมผัสลมอ่อน ๆ และได้มองภาพทิวทัศน์ของแม่น้ำแควใหญ่อีกด้วย

          ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรีมาแล้ว นักท่องเที่ยวที่ยังนั่งรถไฟไม่จุใจก็สามารถนั่งต่อมาที่ สถานีถ้ำกระแซ ซึ่งสองฝั่งข้างทางจะมีจุดที่เป็นไฮไลต์มากมาย เป็นช่วงเส้นทางที่รู้จักกันในนามเส้นทางรถไฟสายมรณะ และหนึ่งในไฮไลต์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ต้องตื่นตาตื่นใจทุกครั้งคือ ช่วงที่ขบวนรถไฟจะแล่นไปตามสะพานรางเหล็กที่สร้างขนาบไปกับโค้งแนวผา และมีแม่น้ำแควน้อยไหลอยู่เบื้องล่างนั่นเอง

เส้นทางรถไฟ

           ถ้านั่งรถไฟต่อมายัง สถานีน้ำตก ก็จะถึงอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อของกาญจนบุรี นั่นคือ น้ำตกไทรโยคน้อย ที่นักท่องเที่ยวสามารถแวะพักเล่นน้ำตก หาซื้อของกินอร่อย ๆ ชิลกับธรรมชาติ เพราะที่นี่มีทั้งตลาดและท่ารถโดยสารเพื่อเชื่อมต่อไปยังน้ำตกไทรโยคใหญ่ อำเภอสังขละบุรี อำเภอศรีสวัสดิ์ หรือกลับเข้าสู่ตัวเมืองกาญจนบุรีด้วย
เส้นทางรถไฟ

8. กรุงเทพฯ - ปราจีนบุรี

          ปราจีนบุรี อีกหนึ่งจังหวัดที่มีที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ และสามารถนั่งรถไฟชิล ๆ ไปเที่ยวได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องง้อรถยนต์ส่วนตัว เที่ยวได้ครบทั้งที่เที่ยวดัง ร้านอาหารเก่าแก่ วัดขึ้นชื่อ และแลนด์มาร์กของจังหวัด โดยสามารถขึ้นได้ที่สถานีหัวลำโพง ขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 26 บาท และลงที่สถานีรถไฟปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ในตัวเมือง จากนั้นก็สามารถเรียกรถสองแถวหรือรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งตามสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อได้

          ปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดปราจีนบุรี เช่น

 
  • พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ที่มีไฮไลต์เด่นคือ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น สีเหลือง ศิลปะแบบบารอค ชั้นล่างเป็นส่วนจำหน่ายสินค้าสมุนไพรของโรงพยาบาล และชั้น 2 จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ที่เก็บรวบรวมองค์ความรู้และภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ
     

  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี สถานที่รวบรวมศิลปะโบราณวัตถุที่ค้นพบได้ในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดในภูมิภาคตะวันออก ตั้งอยู่หลังศาลากลางจังหวัดหลังเก่า โดยจัดแสดงเรื่องราวและโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาจนถึงรัตนโกสินทร์
     

  • วัดแก้วพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี มีพระอุโบสถที่สวยงาม เนื่องจากได้รับการบูรณะใหม่จากเดิมเป็นสีขาวให้เป็นสีแดงอิฐและสีชมพู ตัวอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย จีน ยุโรป ขอม ผสมผสานได้อย่างลงตัว ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศ 

เส้นทางรถไฟ

9. กรุงเทพฯ - ลพบุรี

           นั่งรถไฟเที่ยวเมืองลิง ไปง่าย ๆ วันเดียวก็เที่ยวได้ โดยสามารถขึ้นรถไฟได้ที่สถานีหัวลำโพง ขบวนรถชานเมือง ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 28 บาท หรือจะนั่งรถเร็ว ชั้น 3 ในราคาคนละ 58 บาท จากนั้นลงที่สถานีรถไฟลพบุรี แล้วเที่ยวต่อในตัวเมือง ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย เช่น วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ, วัดนครโกษา, ศาลพระกาฬ, พระปรางค์สามยอด, เทวสถานปรางค์แขก, บ้านวิชาเยนทร์ และพระนารายณ์ราชนิเวศน์ เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ

ภาพจาก : DH Saragih / Shutterstock.com

           นอกจากนี้ยังมีโปรแกรมนั่งรถไฟขบวนพิเศษเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักกันในชื่อ รถไฟลอยน้ำ เป็นขบวนพิเศษ ที่ 1 ปีจะให้บริการในช่วงเวลาประมาณ 3 เดือนเท่านั้น โดยเป็นทริปที่การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดขบวนรถพิเศษสำหรับนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ นักท่องเที่ยวจะได้นั่งรถไฟชมวิวเขื่อนกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ท่ามกลางบรรยากาศผืนน้ำและผืนป่าเขียวที่โอบล้อมอยู่สองข้างทาง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถไฟขบวนพิเศษเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ที่ เฟซบุ๊ก ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย
เส้นทางรถไฟ

10. กรุงเทพฯ - พัทยา

           พัทยา เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่หลายคนมักจะชอบเดินทางไปด้วยรถยนต์ส่วนตัว หรือรถโดยสารประจำทาง แต่หากได้ลองเปลี่ยนบรรยากาศมานั่งรถไฟชิล ๆ ดูธรรมชาติสองข้างทางก็น่าจะเพลินไปอีกแบบนะ โดยสามารถขึ้นรถไฟได้ที่สถานีหัวลำโพง มีให้เลือกทั้งแบบรถธรรมดา ชั้น 3 วิ่งเฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ ราคาค่าโดยสารคนละ 32 บาท และรถด่วนพิเศษ ชั้น 2 วิ่งเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ราคาคนละ 170 บาท หรือเที่ยวบางแสนก็ไม่ไกลจากพัทยานะ
เส้นทางรถไฟ

ภาพจาก : A.Khachachart / Shutterstock.com

           สถานีรถไฟของเมืองพัทยาที่สามารถลงได้คือ สถานีพัทยา, สถานีตลาดน้ำสี่ภาคพัทยา, สถานีญาณสังวราราม และสถานีสวนนงนุช โดยทุกสถานีมีรถรับจ้างสาธารณะรับ-ส่งจากสถานีไปยังแหล่งท่องเที่ยวและเข้าเมือง โดยมีบริการทั้งรถประจำทางและรถเช่าเหมาให้เลือกได้ตามความต้องการ
เส้นทางรถไฟ

ภาพจาก : Panwasin seemala / Shutterstock.com

11. กรุงเทพฯ - สัตหีบ

           พาเที่ยวสัตหีบ ทะเลสวยใกล้กรุงเทพฯ ไม่ใกล้ไม่ไกล นั่งรถไฟไปแป๊บเดียวก็ถึง โดยสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีหัวลำโพง เป็นขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 วิ่งเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ ราคาค่าโดยสารคนละ 37 บาท หรือรถด่วนพิเศษ ชั้น 2 วิ่งเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ราคาคนละ 170 บาท ลงที่สถานีบ้านพลูตาหลวง ซึ่งจะมีบริการรถสองแถวประจำทางและรถรับจ้างไม่ประจำทางเพื่อไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ต่อไป

          ที่เที่ยวสัตหีบก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหาดเตยงาม หาดนางรำ หาดดงตาล หรือถ้าใครอยากไปเที่ยวเกาะแสมสาร สามารถลงสถานีนี้แล้วต่อรถไปท่าเรือได้เช่นกัน

เส้นทางรถไฟ

ภาพจาก : NavyBank / Shutterstock.com

12. กรุงเทพฯ - เพชรบุรี

           สำหรับใครที่อยากนั่งรถไฟไปเที่ยว ไหว้พระ และลองชิมอาหารอร่อย ๆ ต้องไม่พลาดจังหวัดเพชรบุรี เพราะเดินทางง่าย สะดวก มีที่เที่ยวครบครัน สามารถมาเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือจะหาที่พักนอนค้างสักคืนก็ยังได้ โดยเริ่มต้นที่สถานีหัวลำโพง ขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 34 บาท หรือจะเลือกนั่งเป็นรถเร็ว ชั้น 3 ราคาคนละ 84 บาท และลงที่สถานีรถไฟเพชรบุรี จากนั้นก็เรียก รถเล้ง หรือรถโดยสารรอบเมืองของเพชรบุรี ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ในเมืองเพชรได้เลย
เส้นทางรถไฟ

ภาพจาก : amnat30 / Shutterstock.com

          ปักหมุดที่เที่ยวต้องห้ามพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวเพชรบุรีด้วยรถไฟ ได้แก่
 

  • วัดเขาบันไดอิฐ วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จุดเด่นของที่นี่คือ มีถ้ำอยู่หลายถ้ำ สามารถเดินเข้าไปชมได้ และที่สำคัญหากมาที่วัดแห่งนี้แล้วต้องไปสักการะสรีรสังขารของหลวงพ่อแดง รตฺโต อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ และเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองเพชรในด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีผู้ที่ศรัทธาเข้ามาที่วัดเป็นจำนวนมาก 
     

  • วัดช้าง สักการะพระเศียรหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัยที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด ถูกค้นพบอยู่ใต้ฐานของพระประธานภายในโบสถ์ จึงถูกย้ายให้ลงมาประดิษฐานอยู่ด้านล่าง เพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะ
     

  • วัดข่อย เป็นอีกวัดขึ้นชื่อที่มีพระบรมสารีริกธาตุให้สักการบูชา แถมยังประดิษฐานอยู่ในอาคารทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสลักษณะคล้ายยันต์ เรียกว่า ยันต์ฉิมพลี เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยมาก ๆ นักท่องเที่ยวนิยมมาไหว้พระวัดนี้ และมีทริกเพื่อความปังคือ การเวียนเทียน 3 รอบ นึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ก่อนจะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และขอพรได้ตามอัธยาศัย
     

  • วัดมหาธาตุวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรี ที่มีความสวยงามตระการตา นอกจากจะได้ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ที่นี่ยังมีพระปรางค์ห้ายอดอันเป็นร่องรอยอารยธรรมแบบเขมรอีกด้วย 
     

  • ชุมชนริมแม่น้ำเพชรบุรี ชุมชนเล็กแสนสงบที่มีสตรีตอาร์ตเป็นรูปน้องแมวน่ารัก ๆ ตลอดเส้นทาง ซึ่งเป็นฝีมือของชาวเพชรบุรีที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสะท้อนเรื่องราวในชุมชนที่มักมีคนนำแมวและสุนัขมาปล่อยบริเวณนี้

ที่เที่ยวเพชรบุรี เที่ยวสบาย ๆ วันหยุด กับเมืองที่มีดีมากกว่าทะเล

13. กรุงเทพฯ - หัวหิน

           พานั่งรถไฟไปเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง พร้อมนั่งชิลกับบรรยากาศริมชายหาด แหงนมองท้องฟ้าสีสันสดใสตัดกับทะเลสีครามกันที่ หัวหิน โดยสามารถขึ้นได้ที่สถานีหัวลำโพง กับขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 44 บาท หรือขบวนรถเร็ว ชั้น 3 ราคาคนละ 94 บาท และลงที่สถานีรถไฟหัวหิน ซึ่งเป็นสถานีที่ขึ้นชื่อว่าสวยที่สุดในประเทศไทย ตัวอาคารเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้แบบดั้งเดิม มีพลับพลาพระมงกุฎเกล้าฯ เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งยังมีลวดลายไม้ฉลุสวยงาม และมีรถไฟเก่าไว้ให้ได้ถ่ายรูปเป็นระลึก ทำให้สถานีแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึกจำนวนมาก
เส้นทางรถไฟ

            เมื่อถึงสถานีหัวหินแล้วสามารถต่อสองแถวหรือวินมอเตอร์ไซค์ไปเที่ยวในสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงได้เลย ไม่ว่าจะเป็นชายหาดหัวหิน ขี่ม้าริมชายหาด เดินเที่ยวลัดเลาะ หาของกินที่ตลาดนัดโต้รุ่งหัวหิน ชายหาดเขาตะเกียบ วัดเขาตะเกียบ และสะพานปลาหัวหิน เป็นต้น
เส้นทางรถไฟ

ภาพจาก : Blanscape / Shutterstock.com

          เป็นอย่างไรบ้างกับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟที่เรานำมาฝากกัน ใครที่อยากเดินทางเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ในราคาประหยัด ก็ลองใช้เป็นแนวทางได้เลยนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แจก 13 เส้นทางรถไฟ เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ในราคาไม่เกิน 100 บาท อัปเดตล่าสุด 17 มกราคม 2567 เวลา 16:26:49 71,003 อ่าน
TOP