1. กรุงเทพฯ - แม่กลอง
การเดินทางโดยรถไฟมาเที่ยวแม่กลอง อาจจะดูซับซ้อนไปสักนิด เพราะไม่มีขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ ถึงแม่กลองโดยตรง แต่เราสามารถนั่งรถไฟจากสถานีวงเวียนใหญ่ไปลงที่สถานีมหาชัย ขบวนรถเร็ว ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 10 บาท จากนั้นให้ต่อเรือเพื่อข้ามไปฝั่งท่าฉลอม เพื่อต่อรถไฟอีกขบวนจากสถานีบ้านแหลม เพื่อไปยังสถานีแม่กลอง ที่จะมีทั้งขบวนรถเร็ว ชั้น 3 และขบวนรถด่วน ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 10 บาท
เมื่อมาถึงแม่กลองแล้ว ใกล้ ๆ กับสถานีรถไฟจะมี ตลาดร่มหุบ หรือที่ชาวบ้านมักจะเรียกว่า ตลาดเสี่ยงตาย เป็นตลาดที่ติดอยู่กับสถานีรถไฟ โดยพ่อค้าแม่ค้าจะตั้งแผงสองข้างทางรถไฟ ส่วนลูกค้าก็อาศัยทางรถไฟเป็นถนนสำหรับจับจ่ายซื้อของ สิ่งที่เป็นเสน่ห์ของตลาดแห่งนี้คือ เวลาที่รถไฟกำลังจะมา เหล่าพ่อค้าแม่ค้าจะรีบเก็บของและหุบร่มอย่างรวดเร็ว เมื่อรถไฟผ่านไปทุกอย่างก็จะกลับคืนสู่สภาพเดิม สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักท่องเที่ยวมาก
20 ที่เที่ยวสมุทรสงคราม ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปเช้า-เย็นกลับสบาย ๆ
2. กรุงเทพฯ - ฉะเชิงเทรา
ฉะเชิงเทรา จังหวัดทางภาคตะวันออกที่สามารถนั่งรถไฟไปเที่ยวได้เพลิน ๆ โดยสามารถขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง อัตราค่าโดยสารขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 และขบวนรถพิเศษชานเมือง ชั้น 3 คนละ 13 บาท และลงที่สถานีชุมทางฉะเชิงเทรา
เมื่อมาถึงฉะเชิงเทราแล้วสามารถเรียกรถสองแถวให้ไปส่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง เช่น วัดโสธรวรารามวรวิหาร, พิพิธภัณฑ์เมืองฉะเชิงเทรา, ตลาดบ้านใหม่ เมืองแปดริ้ว, วัดจีนประชาสโมสร (วัดเล่งฮกยี่) และวัดสมานรัตนาราม เป็นต้น
3. กรุงเทพฯ - นครปฐม
ชวนไปไหว้องค์พระปฐมเจดีย์ หาของกินอร่อย ๆ กันที่นครปฐม เดินทางสะดวกด้วยรถไฟ โดยขึ้นที่สถานีหัวลำโพง มีให้เลือกทั้งแบบขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 แบบรถพิเศษชานเมือง ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 14 บาท และขบวนรถเร็ว ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 44 บาท
เมื่อถึงสถานีรถไฟนครปฐมแล้วสามารถเดินเท้าหรือเรียกวินมอเตอร์ไซค์ไปส่งยังที่เที่ยวต่าง ๆ เช่น สะพานเจริญศรัทธา (สะพานยักษ์), ตลาดบน-ตลาดล่าง, องค์พระปฐมเจดีย์, พระราชวังสนามจันทร์ ก่อนจะปิดท้ายหาซื้อของอร่อยกินกันที่ตลาดโต้รุ่งองค์พระปฐมเจดีย์
4. กรุงเทพฯ - อยุธยา
นั่งรถไฟไปเที่ยวเมืองเก่าของไทยกัน โดยสามารถขึ้นที่สถานีหัวลำโพง ขบวนรถชานเมือง ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 15 บาท หรือเลือกนั่งเป็นรถเร็ว ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 45 บาท
เมื่อถึงอยุธยา สามารถที่จะไปเยี่ยมชมโบราณสถานได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเหมารถตุ๊ก ๆ นำเที่ยว ถ้าไปกันหลายคนเหมารถเป็นวันก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะประหยัด ได้เที่ยวหลายที่ และไม่ต้องขับรถเองด้วย หรือจะเป็นการเช่าจักรยานเพื่อชมโบราณสถานแบบชิล ๆ แถมยังได้ออกกำลังกายอีกด้วย ซึ่งโบราณสถานแต่ละแห่งนั้นไม่ได้อยู่ไกลกันมาก สามารถปั่นจักรยานชมได้อย่างสบายเลย
สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของจังหวัดอยุธยาในละแวกใกล้ ๆ สถานีรถไฟอยุธยา ได้แก่ วัดมหาธาตุ, วัดราชบูรณะ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดมงคลบพิตร, วัดพระราม, วังช้างอยุธยา แล เพนียด และตลาดน้ำอโยธยา เป็นต้น
5. กรุงเทพฯ - สระบุรี
ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติ เพราะเราจะพานั่งรถไฟจากสถานีหัวลำโพง ด้วยขบวนรถชานเมือง ชั้น 3 ราคาค่าโดยสารคนละ 24 บาท หรือจะเลือกนั่งเป็นรถขบวนเร็ว ชั้น 3 ราคา 54 บาท ไปฟินกับสถานที่เที่ยวในจังหวัดสระบุรีมากมาย เที่ยวครบได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็น
โดยเราสามารถเลือกลงที่สถานีสระบุรี ซึ่งอยู่ในตัวเมืองเลยก็ได้ หรือจะนั่งต่อมาอีกนิดแล้วลงที่สถานีชุมทางแก่งคอย เดินเล่นตลาดแก่งคอย หาซื้อของอร่อยเติมพลัง ก่อนจะขึ้นรถสองแถวไปเล่นน้ำตกเย็น ๆ ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ชิลกับธรรมชาติแสนบริสุทธิ์ให้ร่างกายได้ผ่อนคลายกัน
นอกจากนี้ที่จังหวัดสระบุรีก็ยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย เช่น อุโมงค์รถไฟพระพุทธฉาย, วัดพระพุทธบาทราชวรมหาวิหาร, ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า สระบุรี, อุทยานแห่งชาติน้ำตกสามหลั่น และอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ยังมีจุดกางเต็นท์ริมน้ำเอาไว้ให้สายแคมปิ้งทั้งหลายมาพักผ่อนกันด้วย
6. กรุงเทพฯ - ราชบุรี
เที่ยวเมืองโอ่งด้วยรถไฟ โดยเริ่มต้นที่สถานีหัวลำโพง นั่งขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ค่าโดยสารคนละ 25 บาท หรือจะนั่งรถเร็ว ชั้น 3 ในราคา 55 บาท ลงที่สถานีรถไฟราชบุรี จากนั้นก็เรียกรถสองเที่ยวเหมาให้พาเที่ยวในตัวเมืองหรืออำเภอข้างเคียงก็ได้
ทั้งนี้ ราชบุรี เป็นจังหวัดไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ตอบโจทย์การท่องเที่ยวทุกไลฟ์สไตล์ ทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ คาเฟ่ ร้านอาหาร และลานกางเต็นท์ต่าง ๆ เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย หรือครอบครัวที่อยากจะพากันไปเที่ยวทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
7. กรุงเทพฯ - กาญจนบุรี
เมื่อพูดถึงกาญจนบุรี แน่นอนเลยว่าหนึ่งสิ่งที่จะต้องนึกถึงนั่นก็คือรถไฟ เพราะการเดินทางโดยรถไฟไปกาญจนบุรีนั้น นอกจากจะเป็นการเดินทางที่สะดวกและง่ายแล้ว ยังเต็มไปด้วยความชิล พร้อมกับความสนุก ตื่นตาตื่นใจไปกับบรรยากาศสองข้างทางรถไฟด้วย โดยสามารถขึ้นได้จากสถานีธนบุรี ขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 ราคาสำหรับคนไทยคนละ 25 บาท และชาวต่างชาติคนละ 100 บาท ลงที่สถานีรถไฟกาญจนบุรี
ทั้งนี้ สถานีกาญจนบุรีจะเป็นสถานีที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นกันมากเพื่อผ่านไปยังสถานีสะพานข้ามแม่น้ำแคว จุดแลนด์มาร์กสุดโด่งดังของกาญจนบุรีนั่นเอง เพราะขณะที่รถไฟเคลื่อนผ่านสะพานจะได้เห็นตัวสะพานข้ามแม่น้ำแควที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไปพร้อม ๆ กับได้สัมผัสลมอ่อน ๆ และได้มองภาพทิวทัศน์ของแม่น้ำแควใหญ่อีกด้วย
ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรีมาแล้ว นักท่องเที่ยวที่ยังนั่งรถไฟไม่จุใจก็สามารถนั่งต่อมาที่ สถานีถ้ำกระแซ ซึ่งสองฝั่งข้างทางจะมีจุดที่เป็นไฮไลต์มากมาย เป็นช่วงเส้นทางที่รู้จักกันในนามเส้นทางรถไฟสายมรณะ และหนึ่งในไฮไลต์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ต้องตื่นตาตื่นใจทุกครั้งคือ ช่วงที่ขบวนรถไฟจะแล่นไปตามสะพานรางเหล็กที่สร้างขนาบไปกับโค้งแนวผา และมีแม่น้ำแควน้อยไหลอยู่เบื้องล่างนั่นเอง
8. กรุงเทพฯ - ปราจีนบุรี
ปักหมุดสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดปราจีนบุรี เช่น
-
พิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ที่มีไฮไลต์เด่นคือ ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นอาคารก่ออิฐถือปูน 2 ชั้น สีเหลือง ศิลปะแบบบารอค ชั้นล่างเป็นส่วนจำหน่ายสินค้าสมุนไพรของโรงพยาบาล และชั้น 2 จัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์การแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร ที่เก็บรวบรวมองค์ความรู้และภูมิปัญญาด้านการแพทย์แผนไทยที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ
-
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี สถานที่รวบรวมศิลปะโบราณวัตถุที่ค้นพบได้ในจังหวัดปราจีนบุรีและจังหวัดในภูมิภาคตะวันออก ตั้งอยู่หลังศาลากลางจังหวัดหลังเก่า โดยจัดแสดงเรื่องราวและโบราณวัตถุตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ต่อเนื่องมาจนถึงรัตนโกสินทร์
-
วัดแก้วพิจิตร เป็นวัดเก่าแก่ของจังหวัดปราจีนบุรี มีพระอุโบสถที่สวยงาม เนื่องจากได้รับการบูรณะใหม่จากเดิมเป็นสีขาวให้เป็นสีแดงอิฐและสีชมพู ตัวอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมแบบไทย จีน ยุโรป ขอม ผสมผสานได้อย่างลงตัว ซึ่งมีเพียงแห่งเดียวในประเทศ
9. กรุงเทพฯ - ลพบุรี
10. กรุงเทพฯ - พัทยา
11. กรุงเทพฯ - สัตหีบ
พาเที่ยวสัตหีบ ทะเลสวยใกล้กรุงเทพฯ ไม่ใกล้ไม่ไกล นั่งรถไฟไปแป๊บเดียวก็ถึง โดยสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีหัวลำโพง เป็นขบวนรถธรรมดา ชั้น 3 วิ่งเฉพาะวันจันทร์ถึงศุกร์ ราคาค่าโดยสารคนละ 37 บาท หรือรถด่วนพิเศษ ชั้น 2 วิ่งเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ ราคาคนละ 170 บาท ลงที่สถานีบ้านพลูตาหลวง ซึ่งจะมีบริการรถสองแถวประจำทางและรถรับจ้างไม่ประจำทางเพื่อไปเที่ยวที่ต่าง ๆ ต่อไป
ที่เที่ยวสัตหีบก็มีอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นหาดเตยงาม หาดนางรำ หาดดงตาล หรือถ้าใครอยากไปเที่ยวเกาะแสมสาร สามารถลงสถานีนี้แล้วต่อรถไปท่าเรือได้เช่นกัน
12. กรุงเทพฯ - เพชรบุรี
ปักหมุดที่เที่ยวต้องห้ามพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวเพชรบุรีด้วยรถไฟ ได้แก่
-
วัดเขาบันไดอิฐ วัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา จุดเด่นของที่นี่คือ มีถ้ำอยู่หลายถ้ำ สามารถเดินเข้าไปชมได้ และที่สำคัญหากมาที่วัดแห่งนี้แล้วต้องไปสักการะสรีรสังขารของหลวงพ่อแดง รตฺโต อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ และเป็นพระเกจิชื่อดังของเมืองเพชรในด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ ซึ่งปัจจุบันยังคงมีผู้ที่ศรัทธาเข้ามาที่วัดเป็นจำนวนมาก
-
วัดช้าง สักการะพระเศียรหลวงพ่อดำ พระพุทธรูปเก่าแก่ตั้งแต่สมัยสุโขทัยที่ประดิษฐานอยู่ภายในวัด ถูกค้นพบอยู่ใต้ฐานของพระประธานภายในโบสถ์ จึงถูกย้ายให้ลงมาประดิษฐานอยู่ด้านล่าง เพื่อให้ประชาชนได้กราบสักการะ
-
วัดข่อย เป็นอีกวัดขึ้นชื่อที่มีพระบรมสารีริกธาตุให้สักการบูชา แถมยังประดิษฐานอยู่ในอาคารทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสลักษณะคล้ายยันต์ เรียกว่า ยันต์ฉิมพลี เป็นสถาปัตยกรรมที่สวยมาก ๆ นักท่องเที่ยวนิยมมาไหว้พระวัดนี้ และมีทริกเพื่อความปังคือ การเวียนเทียน 3 รอบ นึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ก่อนจะบูชาพระบรมสารีริกธาตุ และขอพรได้ตามอัธยาศัย
-
วัดมหาธาตุวรวิหาร วัดคู่บ้านคู่เมืองเพชรบุรี ที่มีความสวยงามตระการตา นอกจากจะได้ไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ที่นี่ยังมีพระปรางค์ห้ายอดอันเป็นร่องรอยอารยธรรมแบบเขมรอีกด้วย
-
ชุมชนริมแม่น้ำเพชรบุรี ชุมชนเล็กแสนสงบที่มีสตรีตอาร์ตเป็นรูปน้องแมวน่ารัก ๆ ตลอดเส้นทาง ซึ่งเป็นฝีมือของชาวเพชรบุรีที่สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสะท้อนเรื่องราวในชุมชนที่มักมีคนนำแมวและสุนัขมาปล่อยบริเวณนี้
ที่เที่ยวเพชรบุรี เที่ยวสบาย ๆ วันหยุด กับเมืองที่มีดีมากกว่าทะเล
13. กรุงเทพฯ - หัวหิน
เป็นอย่างไรบ้างกับตัวอย่างเส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟที่เรานำมาฝากกัน ใครที่อยากเดินทางเที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ในราคาประหยัด ก็ลองใช้เป็นแนวทางได้เลยนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง