ที่เที่ยวอยุธยา ชวนเที่ยวอยุธยาไม่ซ้ำใคร ไม่ไปวัด แต่ประทับใจไม่ต่างกัน

เที่ยวอยุธยาแบบไม่ซ้ำใคร เพราะนอกจากจะไปไหว้พระอยุธยายังมีสถานที่เที่ยวอื่น ๆ ให้ได้ไปชมอีกเพียบ ทั้งตลาด คาเฟ่ และที่พักยอดฮิต บอกเลยว่าชิคและเก๋ไก๋น่าไปถ่ายรูปเช็กอิน

จังหวัดพระนครศรีอยุธยา กรุงเก่าของไทยที่ในอดีตเคยรุ่งเรือง แต่ด้วยภัยสงครามทำให้ราชธานี วัดวาอารามเก่าต้องถูกทำลาย จนกลายเป็นโบราณสถานที่น่าจดจำและทรงคุณค่ามาจนถึงปัจจุบันนี้ อีกทั้งได้เป็นเมืองมรดกโลกจากองค์การยูเนสโกด้วย ทำให้อยุธยากลายเป็นหนึ่งในจังหวัดที่น่าเที่ยวและได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและชาวไทย และเมื่อพูดถึงเที่ยวอยุธยา หลายคนก็ต้องนึกถึงทริปไหว้พระตามวัดเก่าแก่ต่าง ๆ โดยเฉพาะไหว้พระอยุธยา 9 วัด เสริมบุญเพื่อความเป็นสิริมงคล หรือเที่ยวชมตามอุทยานประวัติศาสตร์ แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปเที่ยวอยุธยาแบบใหม่ เพราะจะไม่เข้าวัด แต่ลัดเลาะไปดูที่เที่ยวอยุธยาอื่น ๆ กันบ้าง จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกันเลย

ที่เที่ยวอยุธยาที่ ไม่ใช่วัด

1. ตลาดหลวงปู่ทวด

ตลาดที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของวัดวชิรธรรมาราม จุดเด่นของตลาดแห่งนี้คือ หลวงพ่อทวดองค์ใหญ่ สามารถเห็นได้แต่ไกล และเมื่อเข้ามาข้างในเราจะพบกับตลาดขนาดพอเหมาะ บรรยากาศร่มรื่น มีร้านค้าขายของ ขายอาหารตลอดระหว่างทางเดินเข้าไปสักการะบูชาหลวงพ่อทวด ไม่ว่าจะเป็น ทองม้วน ขนมไทย ก๋วยเตี๋ยว ร้านเครื่องจักสาน ครบจบในที่เดียว รวมถึงมีร้านกาแฟที่ตกแต่งให้มีความย้อนยุค เป็นเที่ยวอยุธยาที่เหมาะสำหรับการเดินเล่นสุด ๆ นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงยังมี หอศิลป์กรุงสยาม 3 มิติ จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งของหลวงพ่อองค์ต่าง ๆ และรูป 3 มิติ สื่อให้เห็นถึงความเป็นไทยทั้งด้านพระพุทธศาสนา วัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยว ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมถ่ายรูปกัน

ภาพจาก iFocus / Shutterstock.com

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
ที่อยู่ : ตำบลบ้านใหม่ อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 0-3561-0565
เฟซบุ๊ก : ตลาดหลวงปู่ทวด อยุธยา

2. โบสถ์เซนต์ยอเซฟ

โบสถ์คริสเก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 100 ปี มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา และยังเป็นโบสถ์คริสต์แห่งแรกในประเทศไทยอีกด้วย เอกลักษณ์ของ St. Joseph’s Church โดดเด่นด้วยศิลปะแบบฝรั่งเศส ตัวโบสถ์มีความสวยสง่าประดับกระจกสี เหนือช่องหน้าต่าง พระแท่นหินอ่อนลวดลายงดงาม ซึ่งได้มีการบูรณะและใช้เป็นที่ประกอบศาสนกิจ ศูนย์รวมศรัทธาแห่งชาวคริสต์มาจนปัจจุบัน ถือเป็นสถานที่ที่น่าแวะมาถ่ายรูปอย่างมาก

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 09.00-17.00 น.
ที่อยู่ : ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

3. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

ตั้งอยู่บนถนนโรจนะ ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา ภายในจัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของกรุงศรีอยุธยา และของมีค่าต่าง ๆ พร้อมทั้งข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่สมัยโบราณ มีทั้งหมด 3 อาคาร ซึ่งแบ่งการจัดแสดงแตกต่างกันออกไป คือ 1. หมู่อาคารเรือนไทย สร้างอยู่ในสระน้ำ มีลักษณะเป็นเรือนไทยภาคกลาง ภายในจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ของผู้คนในอดีต 2. อาคารศิลปะในประเทศไทย มี 2 ชั้น จัดแสดงศิลปวัตถุสมัยต่าง ๆ ที่รวบรวมได้จากจังหวัดอยุธยา และ 3. อาคารเจ้าสามพระยา จัดแสดงศิลปวัตถุสำคัญ ๆ จากสมัยอยุธยา ใครที่อินกับเรื่องราวประวัติศาสตร์ ไม่ควรพลาดการมาเยือนสถานที่แห่งนี้

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น. (หยุดวันจันทร์)
ที่อยู่ : ถนนเทศบาลเมืองอโยธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 0-3524-1587
เฟซบุ๊ก : พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา

4. หมู่บ้านฮอลันดา

หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยอย่างมาก เพราะสะท้อนให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของกรุงศรีอยุธยาในอดีต ที่มีชาวฮอลันดาหรือชาวเนเธอร์แลนด์เข้ามาอยู่อาศัยทำการค้ากับกรุงศรีอยุธยา ภายในบ้านฮอลันดาจะเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและประเทศเนเธอร์แลนด์ที่คอยช่วยเหลือเกื้อกูลกันมาตั้งแต่สมัยพระนเรศวรมหาราช แบ่งออกเป็น 2 ชั้นคือ โซนชั้นบนที่เป็นห้องจัดแสดงสิ่งของของชาวออลันดาที่นำเข้ามาในกรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังมีภาพวาดที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตอีกด้วย และโซนชั้นล่างเป็นโซนที่บอกเล่าเรื่องราวของประเทศเนเธอร์แลนด์ และมีคาเฟ่เล็ก ๆ ของบ้านฮอลันดาอีกด้วย ภายนอกอาคารนั้นถูกออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมแบบฝรั่ง ตกแต่งด้วยสีโอรสสดใส นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดอยุธยาที่น่าสนใจและไม่ควรมองข้ามเลยจริง ๆ

ที่อยู่ : ตำบลกระมัง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 0 3524 2286

5. หมู่บ้านโปรตุเกส

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ภายในเป็นแหล่งโบราณคดี มีการจัดแสดงหลุมขุดค้นทางโบราณคดี และมีพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงถึงสัมพันธไมตรีของประเทศไทยกับประเทศโปรตุเกส ซึ่งเป็นชนชาติแรกที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีและติดต่อค้าขายกับกรุงศรีอยุธยา ทำให้มีชาวโปรตุเกสทมาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้มากถึง 3,000 คนเลยทีเดียว ในหมู่บ้านแห่งนี้มีการสร้างโบสถ์ขึ้นเพื่อเผยแพร่ศาสนาและเป็นศูนย์กลางของชุมชน ปัจจุบันบริเวณนี้ยังมีร่องรอยซากสิ่งก่อสร้างปรากฏให้เห็นคือ โบราณสถานซานเปโตร หรือเรียกในสมัยอยุธยาว่า โบสถ์เซนต์โดมินิค นับเป็นโบสถ์แห่งแรกที่สร้างขึ้นในแผ่นดินไทย

ที่อยู่ : ตำบลสำเภาล่ม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 0 3524 2501

6. ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ

แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่เปิดให้ผู้สนใจเปิดเข้าชมฟรี ที่นี่คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่จัดสรรผืนแผ่นดินตามทฤษฎีเกษตรทฤษฎีใหม่และเป็นแหล่งให้ความรู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให้เด็ก และเยาวชน รวมทั้งประชาชนได้มาศึกษาเรียนรู้วิถีชีวิตแบบพอเพียง ไม่เพียงเท่านั้นที่นี่ยังมีบริการเครื่องดื่มและอาหารเมนูต่าง ๆ แต่ละจานทำอย่างตั้งใจและใส่ใจ ให้ทุกจานออกมาสวยงาม ดูน่ากินอีกด้วย

ภาพจาก Sakcared / Shutterstock.com

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
  ที่อยู่ : ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  โทรศัพท์ : 09-8965-7998
  เฟซบุ๊ก : ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ

7. ศาลหลักเมืองอยุธยา

หลักชัยคู่บ้านคู่เมืองที่ส่งเสริมความร่มเย็นเป็นสุข เป็นสิริมงคล มิ่งขวัญ รวมทั้งเพื่อแสดงถึงความมั่นคงและเป็นปึกแผ่นของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่มีมาอย่างยาวนาน สันนิษฐานว่าได้มีการสถาปนาหลักเมืองพระนครศรีอยุธยาขึ้นในคราวเดียวกันเมื่อครั้งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 หรือพระเจ้าอู่ทอง ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันเป็นศาลหลักเมืองที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่เนื่องในมหามงคลสมัยสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี ในปี พ.ศ. 2525 เพื่อเป็นสิริมงคลตามประเพณีโบราณที่ปฏิบัติสืบทอดกันมาช้านาน โดยองค์เสาหลักเมืองทำจากไม้มงคลชัยพฤกษ์ ยอดเสาแกะสลักเป็นรูปดอกบัวแก้วซ้อนกัน 7 ชั้น ส่วนฐานเสาสูงจากอาคารชั้นล่างขึ้นมาอาคารชั้นบนนั้นมีกระจกแก้วครอบไว้อีกชั้นหนึ่ง ขณะไหว้สามารถมองเห็นองค์เสาหลักเมืองจากภายนอกผ่านกระจกใสได้ชัดเจน นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนมากราบไหว้ทุกคน

ที่อยู่ : ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

8. ศาลาอยุธยา (Sala Ayutthaya)

โรงแรมบูติกขนาดเล็กแห่งใหม่ในเครือ SALA Hospitality เป็นที่พักริมน้ำบรรยากาศดี มีการออกแบบโดยผสมผสานความเป็นโมเดิร์น ทันสมัย และความเรียบหรู เข้ากับกลิ่นอายความเป็นเมืองประวัติศาสตร์ได้อย่างลงตัว มีบริการห้องพักธรรมดาและห้องสวีตรวม 27 ห้อง ภายในห้องพักแต่ละห้องจะติดริมแม่น้ำ ทำให้แขกที่มาเข้าพักสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของวัดวาอารามตั้งตระหง่านสวยงามจับตาอยู่ตรงหน้า นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารซิกเนเจอร์อย่าง ศาลาอยุธยา อีทเทอรี่ แอนด์ บาร์ ซึ่งเป็นร้านอาหารและบาร์ริมแม่น้ำที่น่ารื่นรมย์ มีทั้งโซนอินดอร์ อากาศเย็นสบาย และพื้นที่เอาต์ดอร์ริมฝั่งแม่น้ำที่สวยงาม อีกทั้งยังมีสระแช่ตัวส่วนตัว หอศิลป์ศาลาอยุธยา แกลเลอรี่จัดแสดงโชว์ภาพวาดและงานศิลปะทางประวัติศาสตร์จากศิลปินหลายท่าน นับเป็นอีกหนึ่งสุดยอดที่พักอยุธยาริมน้ำ

ภาพจาก Nathapon Triratanachat / Shutterstock.com

ที่อยู่ : 9/2 หมู่ 4 ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 0-3524-2588
Line ID : @salaayutthaya
เฟซบุ๊ก : sala ayutthaya
เว็บไซต์ : salahospitality.com

9. พระนครแซ่บ คาเฟ่

คาเฟ่แปลกแหวกแนวในสไตล์ตรุกี กับ พระนครแซ่บ คาเฟ่ หนึ่งเดียวในอยุธยาที่ถูกใจสายถ่ายภาพทั้งหลาย ภายในร้ายแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ โซนคาเฟ่ ให้บริการเครื่องดื่มและขนมแบบตุรกี และในโซนของร้านอาหารที่เน้นให้บริการอาหารอีสานรสแซ่บหลากเมนู โดยในส่วนของคาเฟ่ จะมีไฮไลต์เด็ดเป็นพื้นที่ที่ตกแต่งด้วยพรมลวดลายสวยงาม มีโต๊ะนั่งและพรอพเครื่องประดับในแบบตุรกีให้ใส่ถ่ายภาพฟรีอีกด้วย ถูกใจมุมไหนก็โพสต์ให้สุดไปเลย รับรองถ่ายรูปกันเพลินจนเมมเต็มแน่ ๆ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น.
ที่อยู่ : หมู่ 5 ถนน 309 อยุธยา-อ่างทอง ตำบลวัดตูม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 09-2994-6111
เฟซบุ๊ก : พระนครแซ่บ คาเฟ่

10. ปรางค์วิวคาเฟ่ (Prang View Cafe)

คาเฟ่สุดเก๋ ตั้งอยู่ใจกลางอยุธยา ตัวร้านตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์นในสีขาวโดดเด่นสุดคลาสสิก ภายในตัวร้านมีมุมต่าง ๆ ที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย ผสมกลิ่นอายความเป็นไทย และโปร่งโล่งเน้นแสงธรรมชาติ ใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้แบบคลาสสิกเรียบเก๋ และยังมีโซนเอาต์ดอร์ตรงกลางร้านให้ออกไปรับลมแบบชิล ๆ ไฮไลต์อยู่ตรงหน้าร้านที่สามารถนั่งชมวิวพระปรางค์ของวัดมหาธาตุได้ นอกจากนี้ในร้านยังมีเมนูให้เลือกทั้งเครื่องดื่ม ของหวาน และของคาวแนวฟิวชั่น เรียกว่าผสมผสานความทันสมัยเข้ากับประวัติศาสตร์โบราณได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-20.00 น.
ที่อยู่ : 22/13 ถนนนเรศวร ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 08-9801-0138
เฟซบุ๊ก : PRANG VIEW

11. บุษบา อยุธยา (Busaba Ayutthaya)

ที่พักสไตล์โฮสเทล คอนเซปต์ใหม่ที่ให้ความเป็นสากลในรูปแบบบ้านเรือนไทยโมเดิร์น ตัวที่พักโดดเด่นด้วยโครงเหล็กสีขาวลายฝาประกน ครอบตัวบ้านเรือนไทยไว้ได้อย่างลงตัว ทำให้ได้ความรู้สึกโมเดิร์น แต่ก็ยังแฝงกลิ่นอายความเป็นอยุธยาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ด้านหน้าที่พักยังมีคาเฟ่สไตล์มินิมอลสีขาวนวล ชื่อว่า บุษบา คาเฟ่ & มีล ที่รังสรรค์เมนูสไตล์ยุโรป ที่ผสมผสานกับความเป็นอยุธยาได้อย่างลงตัว เพียบพร้อมทั้งที่พักและคาเฟ่สุดชิคขนาดนี้ ไปเที่ยวอยุธยาครั้งหน้า ต้องไม่พลาดแล้วล่ะ

ภาพจาก oradige59 / Shutterstock.com

ที่อยู่ : หมู่ 3 ถนนอู่ทอง ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 08-2995-2008
เฟซบุ๊ก : Busaba Ayutthaya

12. บ้านป้อมเพชร

เป็นทั้งร้านอาหารไทยสูตรของครอบครัวและที่พักอยู่ติดริมแม่น้ำในโซนเมืองเก่า ใกล้กับโบราณสถานป้อมเพชร มีจุดเด่นคือสถาปัตยกรรมด้วยโครงสร้างอิฐสีส้ม ผสมกับงานไม้ดีไซน์เรียบเท่และล้ำสมัย แต่ยังคงคลุมโทนสีให้เข้ากับความเป็นเมืองเก่าของอยุธยา พร้อมเสิร์ฟเมนูทั้งอาหารคาวที่มีให้เลือกมากมาย รวมทั้งเมนูเด็ดขึ้นชื่อของอยุธยาอย่างกุ้งแม่น้ำเผาตัวโต ส่วนสายหวานหรือสายโซเชียลทั้งหลาย สามารถสั่งเครื่องดื่มและของหวานอย่างเค้ก เค้กวันเกิดมาลองชิม และถ่ายรูปสวยเก๋ตามมุมต่าง ๆ ของร้าน รับรองได้ภาพและมุมถูกใจโพสต์ลงโซเชียลแบบรัว ๆ แล้ว

ภาพจาก เฟซบุ๊ก Baan Pomphet

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น.
ที่อยู่ : 13/5 ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 0-3524-2242
เฟซบุ๊ก : Baan Pomphet

13. ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา

เที่ยวอยุธยาทั้งที ต้องอิ่มท้องไปกับ ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา ตั้งอยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ริมน้ำเจ้าพระยา ภายในร้านมีที่นั่งให้เลือก 2 โซนคือ โซนศาลาริมน้ำนั่งกินบนโต๊ะ และโซนนั่งห้อยขาแบบชิล พร้อมเปลตาข่ายที่ยื่นออกไปให้ได้นั่งถ่ายรูปและรับลมชมวิวกันแบบเพลิดเพลิน สำหรับเมนูขึ้นชื่อที่มาแล้ว ห้ามพลาดคือ ก๋วยเตี๋ยวเรือไข่ยางมะตูม ก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่ไข่ เกาเหลายางมะตูมหม้อไฟ รวมถึงเมนูส้มต้มแซ่บ ๆ ให้นั่งกิน พร้อมมองวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเพลิน ๆ อีกด้วย

ภาพจาก เฟซบุ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา อยุธยา

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน วันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-20.00 น.
ที่อยู่ : 21/14 ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 09-2743-2200
เฟซบุ๊ก : ก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา อยุธยา

14. บ้านข้าวหนม

เอาใจคนชอบกินของหวานกับ บ้านข้าวหนม ร้านคาเฟ่ขนมไทยโบราณสไตล์วินเทจ ตกแต่งด้านในร้านด้วยหินมอญแบบเปลือย และเฟอร์นิเจอร์ไม้สุดคลาสสิก ประดับตกแต่งด้วยหัตกรรมเครื่องจักสานภูมิปัญญาไทย ๆ อย่างชะลอมไม้ไผ่ ตะกร้าหวาย เมื่อเข้าไปในร้านก็ต้องตื่นตาตื่นใจกับขนมไทยที่มีให้เลือกมากกว่า 50 ชนิด ทำกันแบบสดใหม่ วันต่อวัน ส่วนเมนูที่มาร้านนี้แล้วต้องสั่งคือ ชุดข้าวหนมมงคล ที่มีทั้งขนมทองเอก เสน่ห์จันทร์ จ่ามงกุฎ จัดเป็นเซตน่ากิน และยังมีเมนูขนมไทยฟิวชันอีกหลายเมนู ทั้งไอติมหลงยุค ไอติมยาหยี ใครที่ชอบกินขนมไทยโบราณ มาร้านนี้ไม่มีผิดหวังแน่นอน

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
ที่อยู่ : ถนนอู่ทอง ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 09-7921-9465
เฟซบุ๊ก : Baan kao nhom - บ้านข้าวหนม

15. บ้านขาวม้า

คาเฟ่เล็ก ๆ ในธีมอนุรักษ์ ตกแต่งร้านในแนวไทยร่วมสมัย เน้นใช้ผ้าขาวม้าที่ชาวไทยต่างคุ้นเคยและรู้จักเป็นอย่างดีเป็นอุปกรณ์ตกแต่งร้าน ทำให้บรรยากาศของร้านออกมาดูเรียบง่าย และน่ารักเป็นกันเอง ให้บริการอาหารฟิวชัน กาแฟ และเบเกอรี่ โดยมีเมนูซิกเนเจอร์เป็นเครปเค้กสายไหม รสชาติหวาน หอม กำลังดี นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มอร่อย ๆ อย่างชาไทย ชาเย็น กาแฟสด พร้อมเสิร์ฟ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกเก๋ ๆ ที่ทำจากผ้าขาวม้าสวย ๆ เอาไว้เลือกซื้อเลือกหานำไปเป็นของฝากเพื่อนฝูงและญาติมิตรได้

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.30-18.30 น.
ที่อยู่ : ทางหลวงชนบท 3477 ถนนเจดีย์-วัดใหญ่ชัยมงคล อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โทรศัพท์ : 09-5645-9933
เฟซบุ๊ก : บ้านขาวม้า คาเฟ่ - Baankhaoma Cafe'

ทั้งหมดคือ 15 ที่เที่ยวอยุธยาแบบไม่ซ้ำใคร และไม่ได้มีแค่วัดเก่าแก่เท่านั้น ครบทั้งร้านอาหาร ตลาด คาเฟ่ ที่พัก และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ด้วย สุดสัปดาห์นี้ใครอยากหาที่เที่ยวใกล้ ๆ กรุงเทพฯ ก็ลองเลือกจังหวัดอยุธยาให้เป็นเป้าหมายในการท่องเที่ยวได้เลย

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

แนะนำ ที่เที่ยวอยุธยา ที่เกี่ยวข้อง

ที่เที่ยวอยุธยา 2024 ชี้พิกัดจุดเช็กอินเมืองเก่าของไทย ไม่ได้มีดีแค่วัด