1. ล่องแก่งสุดมัน
กิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่ต้องไปโดนในฤดูฝน วันนี้เราหยิบเอา 5 สถานที่ล่องแก่งยอดนิยมมาแนะนำกัน เริ่มที่
- ล่องแก่งเรือยาง แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี
แก่งกระจาน นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่บรรยากาศสวยงาม หนึ่งในกิจกรรมสุดฮิต ก็คือ การล่องแก่งเรือยางไปตามแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาสูงชันในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไหลเข้าสู่เขื่อนแก่งกระจาน แล้วไหลต่อไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเพชรบุรี โดยจุดล่องแก่งเรือยางจะอยู่ด้านหลังของเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งจะมีน้ำให้ได้เล่นกันตลอดทั้งปี มีระยะทางราว ๆ 6-8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ระดับการล่องแก่งไม่ยาก สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีที่พักให้บริการริมแม่น้ำเพชรบุรีมากมาย สามารถสอบถามรายละเอียดการล่องแก่งได้จากที่พัก หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 0 3247 1005-6
- ล่องแก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
สถานที่ล่องแก่งยอดนิยมอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย อยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในแต่ละปีจะมีการจัด "เทศกาลล่องแก่งหินเพิง" ตลอดทุกช่วงฤดูฝน โดยแก่งหินเพิงมีลักษณะเป็นลำน้ำใสใหญ่ มีต้นกำเนิดจากยอดเขาใหญ่แล้วไหลเรื่อยมาจนถึงบริเวณแก่งหิน เป็นระยะทางกว่า 80 กิโลเมตร แต่ส่วนที่นักท่องเที่ยวใช้ล่องแก่งได้เป็นระยะทางสั้น ๆ เพียงแค่ 3-4 กิโลเมตร ตรงบริเวณส่วนปลายของลำน้ำ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคกลางเขต 8 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Saksupha Resort
- ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก
หนึ่งในสถานที่ล่องแก่งที่ได้ชื่อว่าสนุกสนานที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยระดับความยากของการล่องแก่งลำน้ำเข็กจะอยู่ที่ระดับ 1-5 ซึ่งระดับ 5 จะเป็นระดับที่ยากที่สุด โดยในลำน้ำเข็กจะมีระดับ 5 อยู่ประมาณ 3-4 จุด คือ แก่งซาง, แก่งยาว, แก่งโสภาราม และแก่งนางคอย ทั้งนี้กิจกรรมการล่องแก่งลำน้ำเข็ก จะมีขึ้นในช่วงหน้าฝนของทุกปี (บางปีที่น้ำน้อยก็ล่องไม่ได้) ใครที่สนใจอยากจะล่องแก่ง จะต้องโทรศัพท์สอบถามเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด เพราะปริมาณน้ำของลำน้ำเข็กนั้นขึ้น-ลงเร็ว หากมีฝนตกหนัก ก็ไม่เหมาะแก่การล่องแก่ง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก โทรศัพท์ 0 5525 2742-3
- ล่องแก่งแม่น้ำนครนายก จังหวัดนครนายก
แม่น้ำนครนายก มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ และเขื่อนขุนด่านปราการชล ซึ่งจะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งจะอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานท่าด่าน ไปจนถึงบริเวณบ้านวังยาว มีความยาก-ง่ายอยู่ที่ระดับ 3-5 โดยเรือที่ใช้ในการล่องแก่งจะเป็นเรือยาง ล่องไปตามแม่น้ำใช้เวลาราว ๆ 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรีสอร์ตที่เข้าพัก ผู้ประกอบการที่ให้บริการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก โทรศัพท์ 0 3731 2284
- ล่องแก่งหนานมดแดง จังหวัดพัทลุง
แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดพัทลุงที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม เป็นการล่องเรือคายักไปตามคลองน้ำใส โดยผู้ที่ริเริ่มกิจกรรมล่องแก่งในคลองน้ำใส ก็คือ หนานมดแดงรีสอร์ท จึงทำให้ที่นี่มีชื่อเรียกกันปากต่อปากว่า ล่องแก่งหนานมดแดง มีระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องราว ๆ 2 ชั่วโมง มีระดับความยากอยู่ที่ 2-3 สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.nhanmoddang.com หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครศรีธรรมราช (นครศรีธรรมราช-พัทลุง) โทรศัพท์ 0 7534 6515
2. เที่ยวไร่ชา
เอาใจคนชอบความเขียวขจีของใบชา หน้าฝนนี้ชวนไปลั้ลลาสัมผัสบรรยากาศเย็นสบายยามสายฝนโปรย ณ ไร่ชาในจังหวัดต่าง ๆ ดังนี้
- ไร่ชา 2000 จังหวัดเชียงใหม่
ไร่ชาที่ตั้งอยู่ในหุบเขา เป็นสถานที่สุดโรแมนติกของดอยอ่างขางอีกหนึ่งแห่ง ยามเช้าที่นี่จะมีหมอกให้ได้ยลโฉมมากมาย มีศาลาและจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน หากขับรถเข้ามาภายในสถานีเกษตรหลวงอ่างขางแล้ว ให้ขับรถไปทางหมู่บ้านขอบด้ง จากนั้นให้ขับเลยหมู่บ้านขอบด้งไปสักนิด จะเจอกับป้ายไร่ชา 2000 อยู่ทางซ้ายมือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์บริการข้อมูลท่องเที่ยวอ่างขาง โทรศัพท์ 0 5396 9489
- ไร่ชาฉุยฟง จังหวัดเชียงราย
ตั้งอยู่ที่ตำบลป่าซาง อำเภอแม่จัน อยู่เหนือกว่าระดับน้ำทะเลมากถึง 1,200 เมตร ชาที่นี่มีรสชาติอร่อยกลมกล่อม มีความหอมเป็นเอกลักษณ์ การันตีคุณภาพจากรางวัลต่าง ๆ ตลอดมา โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปเข้าชมทัศนียภาพของไร่ชา พร้อมทั้งเลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จากทางไร่ได้ในราคาย่อมเยา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.chouifongtea.com
- ไร่ชาสิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย
ไร่ชาที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ภายในเต็มไปด้วยไร่ชาที่ถูกโอบล้อมด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา นอกจากนี้ภายในไร่บุญรอดยังมีแปลงเพาะปลูกพุทรา, มะเฟือง, สตรอว์เบอร์รี, ทะเลสาบขนาดใหญ่, นาข้าว, ไร่ยางพารา, ทุ่งปอเทือง, ทุ่งดอกคอสมอส ฯลฯ ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเดินเที่ยวชมไร่ พร้อมทั้งเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ของไร่บุญรอด และลิ้มชิมรสอาหารที่ร้านภูภิรมย์ ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ singhapark.com
- ไร่ชาหงษ์ฝู่ จังหวัดเชียงราย
ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของดอยแม่สลอง ไร่ชาหงษ์ฝู่ก็ได้อิงแอบอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ด้วยเช่นกัน จากประสบการณ์การปลูกชามาอย่างยาวนาน ทำให้ชาที่นี่มีรสชาติกลมกล่อม หอมนุ่ม ใส่ใจตั้งแต่การปลูก การเก็บเกี่ยว ไปจนถึงการผลิตใบชาแห้งออกจำหน่าย จึงเป็นไร่ชาออร์แกนิกที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว นอกจากนี้ยังมีบริการร้านอาหาร ร้านขายของฝากของที่ระลึก หากต้องการพักผ่อนบนดอยแม่สลอง ไร่ชาหงษ์ฝู่ก็มีที่พักเปิดให้บริการ ซึ่งมีบรรยากาศที่สวยงามและราคาไม่แพงด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hongfuteas.com
- ไร่ชาวาวี จังหวัดเชียงราย
ชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนฮ่อที่อพยพเข้ามาทางตอนเหนือของประเทศไทย และได้นำวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวจีนคือการดื่มชาเข้ามาในเมืองไทย จนทำให้พวกเขายึดอาชีพการปลูกชาเป็นหลัก และด้วยพื้นที่ของดอยวาวี บวกกับพันธุ์ชาดั้งเดิม ทำให้ชาของที่นี่มีรสชาติหอมหวานไม่เหมือนกับที่ไหนในเมืองไทย โดยทั่วดอยวาวีจะมีทัศนียภาพของไร่ชาที่สวยงาม
- ไร่ชาลุงเดช จังหวัดเชียงใหม่
ไร่ชาที่ตั้งอยู่ใกล้กับศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ นอกจากชาที่นี่จะมีคุณภาพดีแล้ว ยังมีทัศนียภาพที่สวยงามอีกด้วย เพราะตั้งอยู่บนเนินเขาที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน จึงทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมไร่ชา พร้อมทั้งเรียนรู้วิธีการเก็บเกี่ยวชา ชิมชา และเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชาจากไร่ในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด อีกทั้งยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้ง และเที่ยวชมสวนส้ม สวนกล้วยไม้ แปลงปลูกกาแฟ และพืชผลเมืองหนาว และยังมีที่พักไว้บริการอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ไร่ชาลุงเดช
3. น้ำตกบ๋าหลวง จังหวัดขอนแก่น
อีกหนึ่งที่เที่ยวขอนแก่นที่หลาย ๆ คนยังไม่เคยไป ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงมูล ตำบลห้วยยาง อำเภอกระนวน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ คือ น้ำตกบ๋าหลวง มีจุดให้นักท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจด้วยกัน 3 จุด จุดแรกบริเวณตัวน้ำตกบ๋าหลวง เป็นลานหินกว้าง
4. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ
สำหรับเทศกาลทุ่งดอกกระเจียว 2562 จังหวัดชัยภูมิ จะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน ไปจนถึงปลายเดือนสิงหาคม ของทุกปี โดยจะออกดอกสีม่วงชมพูสวยหวานเต็มผืนป่าให้ได้ชมกันที่ “อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” อำเภอเทพสถิต และ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ ที่ตั้งของทุ่งดอกกระเจียวป่าสีชมพูสีสันสดใสตัดกับสีเขียวของลำต้นและใบหญ้า ขึ้นแทรกอยู่เป็นระยะท่ามกลางต้นหญ้าและป่าไม้นานาชนิด
เทศกาลทุ่งดอกกระเจียว 2562 ชัยภูมิ ชมดอกไม้สีม่วงชมพูบานเต็มผืนป่า
5. น้ำตกเหวอีอ่ำ จังหวัดปราจีนบุรี
น้ำตกที่มีชื่อเสียงร่ำลือถึงความสวยงาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลบุฝ้าย อำเภอประจันตคาม เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ของจังหวัดปราจีนบุรี ว่ากันว่าช่วงที่น้ำตกสวยงามที่สุดคือช่วงหน้าฝน ซึ่งคุณจะได้เห็นม่านน้ำยิ่งใหญ่สุดอลัง แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะทางลงไปยังน้ำตกเบื้องล่างเป็นหน้าผาชัน ปกคลุมด้วยต้นไม้ และก้อนหินที่ค่อนข้างลื่น อาจเกิดอันตรายได้
นักท่องเที่ยวที่อยากไปสัมผัสน้ำตกเหวอีอ่ำ ต้องมีใจรักการผจญภัยอยู่ไม่น้อย เพราะเส้นทางไปยังน้ำตกเป็นทางขึ้นเขาค่อนข้างชัน คดเคี้ยว และจะต้องเดินเท้าเป็นประยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตร
น้ำตกเหวอีอ่ำ อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ หน่วย ขญ.11 คลองเพกา และเนื่องด้วยยังไม่ได้ประกาศเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ หากต้องการเข้าไปต้องติดต่อขออนุญาตก่อน อีกทั้งจำเป็นที่จะต้องมีเจ้าหน้าดูแลและคอยนำทาง สอบถามข้อมูลต่าง ๆ ได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ 086 092 6527, 086 092 6529, 086 092 6531
6. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
- ยอดดอยอินทนนท์ ป่าดิบดึกดำบรรพ์ที่น้อยคนนักจะได้สัมผัสธรรมชาติที่แท้จริงของภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศ ที่นี่มีทั้งกล้วยไม้และพรรณไม้ป่าที่สวยงามและหายาก นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานกู่พระอัฐิของพระเจ้าอินทวิชยานนท์ ผู้ครองเชียงใหม่องค์ที่ 7 และเป็นที่ตั้งของสถานีเรดาร์ของกองทัพอากาศไทย
- พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล และพระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ ตั้งอยู่บนเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ ทั้งสองพระธาตุสร้างขึ้นเพื่อถวายพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสทรงพระเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2530 และสร้างถวายสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในโอกาสทรงพระเจริญพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ เมื่อปี พ.ศ. 2535
- น้ำตกแม่ยะ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ สูงประมาณ 280 เมตร เรียกได้ว่าเป็นน้ำตกที่สวยที่สุดอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย ด้วยจะมีสายน้ำไหลลดหลั่นกันลงมาตามหน้าผาหินคล้ายกับม่านสีขาวสะอาดตา ก่อนที่จะไหลลงไปสู่แอ่งน้ำกว้างใหญ่เบื้องล่าง และยังมีต้นไม้สีเขียวขจีหลากหลายสายพันธุ์อยู่รอบ ๆ ทั้งสองข้างของน้ำตก บรรยากาศจึงดูผ่อนคลาย เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจได้อย่างดี
- สถานีเกษตรหลวงอินทนนท์ ตั้งในพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นสถานีวิจัยอีกแห่งหนึ่งของมูลนิธิโครงการหลวง ที่ดำเนินงานด้านวิจัยค้นคว้าข้อมูล เป็นแนวทางที่จะนำเอาผลจากการวิจัยมาส่งเสริมอาชีพเป็นรายได้ของครอบครัวเกษตรกร และถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ภายในมีสระน้ำ หงส์ เป็ดน้ำ ร้านกาแฟ สวนดอกไม้ มีที่เที่ยวให้คุณเที่ยวเพลิน ๆ ทั้งวัน
- บ้านแม่กลางหลวง หมู่บ้านเล็ก ๆ บนเส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ หมู่บ้านแห่งนี้เต็มไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม โดยเฉพาะนาข้าวขั้นบันไดที่ลดหลั่นกันลงมาตามไหล่เขา มองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ภายในหมู่บ้านมีโฮมสเตย์เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวหลายแห่ง นักท่องเที่ยวจึงจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างแท้จริง
7. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ จังหวัดเชียงใหม่
โดยพลาดไม่ได้กับการชมนาขั้นบันไดกว้างใหญ่สุดสายตา ท่ามกลางทิวทัศน์สวย ที่ไม่ว่าใครมาเห็นจะต้องถ่ายภาพเก็บไว้เป็นที่ระลึก ซึ่งช่วงที่เหมาะในการชมนาข้าวขั้นบันไดเขียวขจี ควรไปตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป และเมื่อเข้าสู่ช่วงเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน นาข้าวจะเริ่มออกรวงเป็นสีเหลืองทองอร่าม
นอกจากนี้ยังสามารถชมแปลงส่งเสริมผลผลิตต่าง ๆ ของโครงการ เช่น พลับ อะโวคาโด ดอกไฮเดรนเยีย สมุนไพร และพืชไร่ โดยเฉพาะการชมทุ่งดอกไฮเดรนเยียหลากสีสันงามตา ทั้งสีฟ้า สีชมพู สีม่วง สีขาว นักท่องเที่ยวจะถ่ายรูปเพลินไปกับแปลงดอกไม้ที่มีฉากหลังเป็นภูเขาล้อมรอบ
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะ รอบ ๆ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะยังมีที่เที่ยวที่น่าสนใจ เช่น การได้เที่ยวชม "น้ำตกขุนแปะ" น้ำตกที่มีความสำคัญต่อชาวบ้าน ซึ่งเป็นทั้งแหล่งผลิตน้ำเพื่อการเกษตร แหล่งผลิตไฟฟ้า รวมถึงการลัดเลาะเข้า "ถ้ำป่ากล้วย" บริเวณโดยรอบเป็นป่าโปร่ง มีทิวทัศน์สวยงาม หรือจะเป็นการเดินทางตามเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ มีอาสาสมัครโดยไกด์ท้องถิ่นอัธยาศัยดี
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงขุนแปะ โทรศัพท์ 053 214 417, 081 026 2071 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ royalprojectthailand.com
8. เขาช่องลม จังหวัดนครนายก
ที่เที่ยวนครนายกที่กลายเป็นแลนด์มาร์กยอดนิยมไปแล้ว สำหรับ “เขาช่องลม” ที่ตั้งอยู่ภายในเขื่อนขุนด่านปราการชล ว่ากันว่าช่วงที่เหมาะมาเที่ยวที่เขาช่องลมมากที่สุด ก็ต้องเป็นช่วงหน้าฝนนี่แหละ เพราะด้วยลักษณะเป็นช่องเนินเขา มีลำธารไหลผ่านอยู่ตรงกลาง พร้อมด้วยทุ่งหญ้าที่ขึ้นเต็มสองฟากฝั่ง มีก้อนหินน้อยใหญ่อยู่ในลำธาร ทำให้บรรยากาศสวยงามมาก หากเดินลึกเข้าไปด้านในจะพบกับน้ำตกช่องลม ช่วงหน้าฝนที่น้ำเยอะ ๆ สามารถลงเล่นน้ำได้ บรรยากาศรอบ ๆ เป็นสีเขียวสดชื่น
การเดินทางเข้าไปยังเขาช่องลมนั้น สามารถลงเรือได้ที่เขื่อนขุนด่านปราการชล ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที โดยเรือจะแวะ 4 จุด ได้แก่ น้ำตกผางามงอน, น้ำตกคลองคราม, น้ำตกต้นน้ำ และน้ำตกช่องลม
9. ผีเสื้อปางสีดา จังหวัดสระแก้ว
ถือได้ว่าเป็นอีกเทศกาลช่วงหน้าฝนที่หลาย ๆ คนรอคอย กับ “เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา” ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว เพราะเป็นเทศกาลที่ในหนึ่งปีจะมีให้ชมเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น โดยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายนไปจนถึงปลายเดือนกรกฎาคม
ทั้งนี้ผีเสื้อภายในอุทยานแห่งชาติปางสีดาจะมีให้ได้ชมจำนวนนับหมื่นตัว มากกว่า 400 สายพันธุ์ เช่น ผีเสื้อหนอนคูน, ผีเสื้อหางดาบลายจุด และผีเสื้อหนอนจำปี โดยเฉพาะในวันที่ท้องฟ้าโปร่งโล่ง แสงแดดส่องลงมาถึงผืนป่า ผีเสื้อก็จะออกมาให้ได้ชมกันแบบจุใจ ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมผีเสื้อจะอยู่ในช่วง 09.00-12.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติปางสีดา - Pang sida National Park
เทศกาลดูผีเสื้อปางสีดา 2562 สีสันแห่งธรรมชาติ เริ่มต้นขึ้นแล้ว !
10. น้ำตกเต่าดำ จังหวัดกำแพงเพชร
น้ำตกขนาดใหญ่ที่มีความสูงเกือบ 200 เมตร ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า จังหวัดกำแพงเพชร มีน้ำตลอดปี ใครที่ได้มาเห็นน้ำตกเต่าดำ เป็นต้องประทับใจกับม่านน้ำตกอลังการสวยงาม ไหลเป็นทางยาว และทิ้งดิ่งโจนทะยานแผ่สยายสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง ท่ามกลางบรรยากาศรายล้อมของป่าที่เขียวขจี
สำหรับการเดินทางไปเที่ยวน้ำตกเต่าดำ สามารถนอนพักที่อุทยานได้ หรือหากใครอยากสัมผัสกับธรรมชาติแบบใกล้ชิดชนิดนอนฟังเสียงน้ำตก ทางอุทยานยังได้จัดทำลานกางเต็นท์ไว้บริเวณเหนือทางลงน้ำตกเต่าดำ ให้นักนิยมไพรไปกางเต็นท์นอนอิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติกันอีกด้วย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติคลองวังเจ้า โทรศัพท์ 093 793 0935
11. น้ำตกสายรุ้งละอองดาว จังหวัดระนอง
น้ำตกสวยอลังการอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย ตั้งอยู่ในตำบลบ้านนา อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ที่มาของชื่อ "น้ำตกสายรุ้งละอองดาว" มาจากทุกครั้งที่สายน้ำตกไหลลงมากระทบกับก้อนหินเป็นฝอย ๆ เมื่อโดนแสงแดด จะเกิดเป็นรุ้งกินน้ำที่สวยงาม หรือใครอยากจะลองเอาตัวไปแนบชิดกับน้ำตกใหญ่ ให้สายน้ำตกตกใส่หลัง ไม่นานก็จะเห็นเหมือนรุ้งกินน้ำ คล้ายกับว่าโอบล้อมตัวเราอยู่
สำหรับคนที่อยากไปชื่นชมความงดงามของน้ำตกสายรุ้งละอองดาวแบบเต็มที่ เราขอแนะนำว่าให้เที่ยวในช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ว่ากันว่าเป็นช่วงที่น้ำตกมีความสวยงามมากที่สุด
การเดินทางมาเที่ยวน้ำตกสายรุ้งละอองดาวนั้น ด้วยเพราะตัวน้ำตกอยู่ในป่าลึก นักท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องนอนค้างคืนในป่า ต้องผ่านลำธาร น้ำตก ขึ้นเขา ลงเขา และเพื่อความปลอดภัย นักท่องเที่ยวควรติดต่อแจ้งรายชื่อแก่เจ้าหน้าที่ให้เรียบร้อย เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือเลยกำหนดเวลาที่จะต้องออกมา เจ้าหน้าที่จะได้ประสานงานเข้าช่วยเหลือได้ทัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานชุมพร โทรศัพท์ 077 501 831, 077 502 775-6
12. ชมนาขั้นบันไดสุดลูกหูลูกตา
- บ้านแม่กลางหลวง ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ของชาวปกาเกอะญอ ตั้งอยู่ในหุบเขาขั้นบันไดบริเวณลุ่มน้ำแม่กลางบนดอยอินทนนท์ ซึ่งความงดงามของนาขั้นบันไดเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่สวยงาม โดยช่วงที่เหมาะจะไปชมนาขั้นบันไดมีสองช่วง คือเดือนกันยายน-กลางตุลาคม นาข้าวจะเริ่มเขียวขจีชุ่มฉ่ำ ส่วนปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน จะเป็นช่วงที่นาข้าวออกรวงเป็นสีทองเต็มท้องทุ่งเหลืองสวยงามมาก
- บ้านผาหมอน ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ พื้นที่ของบ้านถูกโอบล้อมไปด้วยนาขั้นบันได มันจึงมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีโปรแกรมท่องเที่ยวเอาใจนักเดินทาง 2 แบบ คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติ โดยต้องเดินขึ้นเขาไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผ่านวิถีชีวิตชุมชนการทำนาขั้นบันไดสู่ชุมชน
- อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ถือได้ว่าเป็นสถานที่ซึ่งมีนาขั้นบันไดสวย ๆ ให้เราชมหลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็สวยงามไม่แพ้กันเลย ทั้งนาขั้นบันไดป่าบงเปียง, นาข้าวขั้นบันไดบ้านกองกาน, นาข้าวขั้นบันไดแม่ปาน และนาขั้นบันไดตีนผา ซึ่งนอกจากความงดงามของนาขั้นบันไดเหล่านี้แล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกได้ดีทีเดียว
- อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอำเภอที่โอบล้อมด้วยภูเขา ซึ่งแยกออกมาจากอำเภอขุนยวมและอำเภอแม่สะเรียง ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวไทยใหญ่, ปกาเกอะญอ, ละว้า และม้ง ที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม แน่นอนว่าเราจึงได้เห็นเรือกสวนไร่นามากมาย โดยเฉพาะนาขั้นบันไดในโครงการหลวงแม่ลาน้อย ซึ่งนอกจากความสวยงามแล้ว คุณยังจะได้เรียนรู้ความเป็นมาของโครงการ รวมทั้งการปลูกผักปลอดสารพิษอีกด้วย
13. น้ำตกห้วยหลวง จังหวัดอุบลราชธานี
โดยกระแสน้ำที่ไหลตกจากที่สูงทำให้เกิดเป็นหาดทรายขนาดย่อม สามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยป่าไม้ที่ร่มรื่น นับเป็นหาดทรายกลางป่าที่สวยงามไม่เหมือนที่ใด ๆ และจะสวยงามมากที่สุดในช่วงปลายฝนต้นหนาว
15 ที่เที่ยวอุบลราชธานี จังหวัดสุดแซ่บแดนอีสาน ต้องลองเที่ยวดูสักครั้ง
14. อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
สถานที่ท่องเที่ยวลับแล
- ซุ้มประตูเมืองลับแล ตั้งอย่างสง่างามอยู่บริเวณเทศบาลตำบลศรีพนมมาศ มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบสุโขทัยประยุกต์สีเหลืองเปลือกไข่ สูงประมาณ 10 เมตร ยาว 41 เมตร บนซุ้มประตูมีตัวอักษรเขียนว่า "เมืองลับแล" ออกแบบโดยกรมศิลปากร ที่ด้านข้างของซุ้มประตูมีสวนสีเขียว ซึ่งมีรูปปั้นของหญิงสาวยืนอุ้มลูกน้อยสีหน้าเศร้า ข้าง ๆ มีสามีนั่งก้มหน้า ในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้น ลักษณะคล้ายกับจะออกเดินทางจากเมืองลับแล ตามตำนานเมืองลับแล
- พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล ตั้งอยู่บนถนนอินใจมี ตำบลศรีพนมมาศ เป็นสถานที่เผยแพร่ให้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวิถีชีวิตชุมชนของเมืองลับแลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
- อนุสาวรีย์พระศรีพนมมาศ ตั้งอยู่ใจกลางตำบลศรีพนมมาศ ใกล้กับตลาดสดเทศบาลศรีนพมาศ ด้านหน้ามีอักษรเขียนอย่างโดดเด่นว่า "เขตห้ามพูดโกหก" สำหรับพระศรีพนมมาศนั้น นามเดิมชื่อว่า นายทองอิน นายอากรสุราเชื้อสายจีน ซึ่งได้มุ่งมั่นพัฒนาเมืองลับแลให้เจริญก้าวหน้า เป็นผู้นำชุมชนที่ชาวบ้านต่างรักและเคารพนับถือ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 จึงได้รับบรรดาศักดิ์เป็นขุนพิศาลจีนะกิจ และได้เลื่อนยศเป็นพระศรีพนมมาศ ในปี พ.ศ. 2451
- ถนนคนกิน เป็นฉายาของถนนราษฎร์อุทิศ ตำบลศรีพนมมาศ เพราะถนนเส้นนี้เต็มไปด้วยร้านของกินพื้นเมืองอร่อย ๆ มากมาย และยังเป็นเส้นทางเชื่อมต่อไปยังร้านอาหารอร่อย ๆ ร้านอื่น ๆ ในเมืองลับแลด้วย
- วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ตั้งอยู่ที่ตำบลทุ่งยั้ง ภายในวัดมีโบราณสถานและโบราณวัตถุที่น่าสนใจมากมาย พระวิหารหลวงมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม มีหลังคาซ้อนสามชั้นลาดต่ำ คล้ายกับศิลปะล้านนา ด้านในเป็นที่ประดิษฐานของ “หลวงพ่อโต” และมีภาพวาดตำนานสังข์ทอง ด้านหลังของพระวิหารมีประตูเชื่อมไปยังพระบรมธาตุเจดีย์ อันเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
- น้ำตกแม่พูล ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่พูล เป็นน้ำตกธรรมชาติขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นชั้นหินลดหลั่นกันลงมาหลายชั้น ด้านล่างมีการสร้างฝายปูน เพื่อให้สามารถเล่นน้ำกันได้อย่างสะดวก มีร้านค้า ร้านอาหาร และห้องน้ำให้บริการ
- บ้านบนดอย ตั้งอยู่เลขที่ 77 หมู่ 2 ตำบลแม่พูล เป็นสวนผลไม้ท้องถิ่นที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมสวน ซึ่งมีทั้งสวนทุเรียน, สวนลองกอง, สวนลางสาด, สวนมังคุด ฯลฯ ในหน้าผลไม้นักท่องเที่ยวจะได้ชิมลิ้มลองผลไม้สด ๆ จากต้นกันไม่อั้น และยังมีพิพิธภัณฑ์ชุมชนเพื่อให้รู้จักกับที่นี่มากขึ้น
เที่ยวลับแล อุตรดิตถ์ ชมวิถีชีวิตดั้งเดิม เพลินวัฒนธรรม และสวนผลไม้
15. เกาะช้าง จังหวัดตราด
ชายหาดที่มีชื่อเสียงของเกาะช้าง ได้แก่ หาดคลองสน, หาดทรายขาว, หาดคลองพร้าว และหาดไก่แบ้ เป็นต้น โดยแต่ละหาดจะเชื่อมยาวถึงกัน แถมบริเวณรอบ ๆ เกาะช้าง ก็ยังมีเกาะน้อยใหญ่สวย ๆ อีกมากมายที่สวยงามไม่แพ้กัน เช่น เกาะช้างน้อย, เกาะเหลายา, เกาะคลุ้ม, เกาะง่าม และเกาะหมาก เป็นต้น บอกเลยว่าธรรมชาติแต่ละเกาะ สวยงามประทับใจคนไปเที่ยวแน่นอน
16. น้ำตกแม่สุรินทร์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
น้ำตกที่สวยงามและมีความสูงมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ บริเวณท้องที่อำเภอขุนยวมและอำเภอเมือง เป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ โดยลักษณะของน้ำตกที่นี่จะมีขนาดใหญ่ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลจากหน้าผาลงสู่หุบเขาด้านล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 100 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี
จุดชมน้ำตกแม่สุรินทร์มีอยู่ 2 แห่ง คือ ชมจากศาลาชมวิวบนยอดดอยที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้ โดยจะเห็นน้ำตกจากระยะไกล และจะได้ยินเสียงน้ำตกที่ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งผืนป่า ที่ทำให้คุณต้องหลงใหลจนไม่อยากกลับเลยทีเดียว ส่วนอีกจุดจะใกล้ชิดกับน้ำตกมากกว่า แต่ทว่าต้องใช้เวลาและความพยายามในการเดินทางพอสมควร อีกทั้งจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเพราะอยู่ในหุบเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากสัมผัสความงามของน้ำตกแบบใกล้ ๆ อดทนเดินกันหน่อยนะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์
17. เกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร
ตั้งอยู่บริเวณอ่าวท้องครก ตำบลบางน้ำจืด เดิมทีเกาะแห่งนี้ชื่อว่า "เกาะผีทัก" เพราะเคยมีชาวประมงออกเรือมาที่เกาะพิทักษ์ และพบกับเงาคนกำลังกวักมือเรียก แต่เมื่อเข้าไปใกล้ ๆ กลับไม่พบใคร จนต่างพากันเรียกเกาะแห่งนี้ว่าเกาะผีทัก
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวบนเกาะแห่งนี้สามารถเดินเล่นเที่ยวรอบเกาะ ชมวิวทิวทัศน์ได้อย่างสะดวกสบาย ด้วยเพราะบรรยากาศที่เงียบสงบของเกาะ ทำให้มีนักท่องเที่ยวติดใจแวะเวียนมาพักที่เกาะแห่งนี้เป็นจำนวนไม่น้อย มีบ้านพักแบบโฮมสเตย์ไว้บริการ แถมยังได้ทำกิจกรรมสนุก ๆ ร่วมกับคนในชุมชน เช่น เรียนรู้วิถีชีวิตประมง กินอาหารทะเลสด ๆ ล่องเรือ ดำน้ำชมปะการังน้ำตื้น เป็นต้น นับว่าเป็นเกาะท่องเที่ยวในชุมพรที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อย
18. ล่องแพพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
การล่องแพจะเริ่มตั้งแต่คลองต้นน้ำ นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับสายน้ำเย็นชุ่มฉ่ำแล้ว ยังจะได้พบเห็นสัตว์ป่านานาชนิด ที่ออกมาเผยโฉมให้เราเห็นได้ไม่บ่อยครั้งนัก รวมถึงการพักแบบโฮมสเตย์ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชม และการอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติ โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดที่นักท่องเที่ยวจะมาล่องแพ คือ ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปี
19. เกาะลันตา จังหวัดกระบี่
เกาะลันตา ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอลันตา จังหวัดกระบี่ ประกอบด้วย “เกาะลันตาใหญ่” และ “เกาะลันตาน้อย” แต่แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมส่วนมากอยู่บนเกาะลันตาใหญ่ โดยโดดเด่นด้วยชายหาดยาวเรียงรายต่อเนื่องกันถึง 13 หาด เพียบพร้อมด้วยที่พักหลากสไตล์ หลายราคา รวมถึงนักท่องเที่ยวยังจะได้สัมผัสเสน่ห์วิถีชุมชนที่แสนสงบของชาวไทย-จีน ชาวไทย-มุสลิม ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักท่องเที่ยว มีทั้งบริษัททัวร์ ร้านดำน้ำ ธนาคาร ร้านอาหาร ร้านบริการอินเทอร์เน็ต ร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ ร้านขายของที่ระลึก ฯลฯ อีกทั้งเกาะลันตาใหญ่ ยังเป็นที่ตั้งของที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา บริเวณแหลมโตนด โดยมีสภาพป่าไม้ที่สมบูรณ์และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ได้แก่ ชายหาดที่สวยงาม และจุดชมวิวบริเวณประภาคาร เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา
20. คลองสังเน่ห์ จังหวัดพังงา
21. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ชื่อของ “ภูทับเบิก” ก็ยังคงอยู่ในลิสต์รายชื่อที่เที่ยวหน้าฝนที่ไม่ควรพลาด เพราะความงดงามของทะเลหมอกหลังฝนมาเยือน หรือวิวไร่กะหล่ำปลีสุดลูกหูลูกตา ชาวบ้านดั้งเดิมส่วนใหญ่เป็นชาวเขาเผ่าม้ง ประกอบอาชีพปลูกกะหล่ำปลีเป็นหลัก วิถีชีวิตของชาวเขาเผ่าม้งยังคงมีให้เห็นได้ที่นี่
สถานที่ท่องเที่ยวภูทับเบิก เช่น สถานีวิจัยเพชรบูรณ์แปลงทดลองทับเบิก มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ แหล่งสาธิตการปลูกพืชเมืองหนาว, วัดป่าภูทับเบิก มีพระมหาเจดีย์โพธิปักขิยธรรม เจดีย์เพชร 37 ยอด บรรจุพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ธาตุไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมสักการะ
เที่ยวภูทับเบิกช่วงไหนดี เดินทางอย่างไร คำถามเหล่านี้มีคำตอบ
นอกจากนี้จากภูทับเบิกยังสามารถเดินทางไป “เที่ยวเขาค้อ” แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ที่เที่ยวทางธรรมชาติได้อีกด้วย เพราะตั้งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก แถมยังเดินทางสะดวก
22. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
ที่เที่ยวฮอตฮิตยามสายฝนโปรย เจ้าของฉายาสวิตเซอร์แลนด์แดนอีสานที่มีเสน่ห์ดึงดูดนักเดินทางเหลือเกิน อาจเพราะสามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะมีอากาศที่บริสุทธิ์ เย็นสบาย มีทัศนียภาพของป่าขุนเขาที่โอบล้อมให้มองอย่างสบายตา อีกทั้งยังเงียบสงบ จึงทำให้กลายเป็นที่พักตากอากาศฮอตฮิตอีกแห่งหนึ่งของคนกรุง
กิจกรรมที่น่าสนใจเมื่อมาเยือนวังน้ำเขียว เช่น "สวนผักปลอดสารพิษลุงไกร" ที่นี่มีการรวมตัวกันเป็น "กลุ่มส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษ วังน้ำเขียว" เน้นการปลูกผักสลัด ผักกาดหอมเป็นส่วนใหญ่ มีหลายหลายสายพันธุ์ ผักจากสวนลุงไกร สด สะอาด อร่อย หรือไปชม "สวนหน้าวัวสุชาดา" ที่มีแปลงปลูกดอกหน้าวัวหลากหลายสายพันธุ์จากต่างประเทศ นอกจากนั้นยังมีแปลงปลูกองุ่นไร้เมล็ดด้วย หรือไปชมทัศนียภาพของขุนเขา ณ ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน
20 ที่เที่ยววังน้ำเขียวห้ามพลาด ธรรมชาติสวยสมบูรณ์กับอากาศที่บริสุทธิ์
23. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
อำเภอเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยภูเขาและสายน้ำ มีสถานที่ท่องเที่ยวอันโด่งดังตั้งอยู่ที่นี่ นั่นก็คือ สะพานมอญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่มีความยาวมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของโลก และยังมี เมืองบาดาล เมืองโบราณที่โผล่ขึ้นมาเพียงเล็กน้อยในฤดูน้ำหลากให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย
ไม่เพียงเท่านั้น ที่นี่ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยวัฒนธรรมของชาวมอญ นักท่องเที่ยวจะได้ชมวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน ได้ลองกินอาหารพื้นเมือง ได้ดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติและบรรยากาศสุดเงียบสงบที่นี่ ถ้าคุณกำลังมองหาสถานที่เพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง สังขละบุรีถือว่าเป็นตัวเลือกที่ใช่เลยทีเดียว
24. เที่ยวภูเก็ต
ภูเก็ต เมืองท่องเที่ยวยอดฮิต เจ้าของฉายาไข่มุกแห่งอันดามัน ที่นี่ขึ้นชื่อว่าเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้งที่พัก ที่เที่ยวและร้านอาหารอร่อย ๆ หลากหลายระดับและหลากหลายราคา ตามแต่งบประมาณในกระเป๋าของแต่ละคนจะเอื้ออำนวย ที่สำคัญยังเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เอาเป็นว่าหน้าฝนนี้เก็บภูเก็ตไว้ในลิสต์ที่เที่ยวหน้าฝนอันดับต้น ๆ กันดูบ้างนะ
สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวภูเก็ตที่น่าสนใจ
- ชมวิว ณ แหลมพรหมเทพ โดยเฉพาะในช่วงยามเย็นที่จะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์กลมโตค่อย ๆ หย่อนตัวลงสู่ทะเลตรงเส้นขอบฟ้า พร้อมกับเปล่งแสงสีเหลืองอร่ามไปจนถึงฟ้าอมม่วง สร้างทิวทัศน์ที่งดงามจนยากจะลืมเลือน
- เคารพบูชาและขอพร "หลวงพ่อแช่ม" (พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี) ณ วัดฉลอง หรือวัดไชยธาราราม อีกทั้งยังสามารถกราบไหว้พระบรมสารีริกธาตุ ที่พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศได้อีกด้วย
- สักการะพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี (พระใหญ่) ณ เขานาคเกิด มีขนาดหน้าตักกว้าง 25.45 เมตร สูง 45 เมตร เป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา ซึ่งสามารถมองเห็นได้จากทั่วเกาะภูเก็ต
- ย้อนรอยอดีตในย่านเมืองเก่ากับสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโน-โปรตุกีส สิ่งที่หลงเหลืออยู่ให้นึกถึงวันวานเมื่อครั้งภูเก็ตเคยรุ่งเรืองในด้านการค้า บ้านเรือนสีสันสดใสตั้งเรียงรายให้ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์กันตั้งแต่ถนนภูเก็ต ยาวไปสิ้นสุดที่เส้นทางของถนนเทพกระษัตรี มีแกลลอรี่ ร้านค้าขายของที่ระลึกและของฝากประจำท้องถิ่น ร้านอาหารต้นตำรับ ร้านกาแฟโบราณอันเลื่องชื่อมากมายให้ได้เดินเลือกจับจ่ายใช้สอยตลอดเส้นทาง รวมทั้งพิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทยหัว ที่ได้รวบรวมเรื่องราวตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันของเมืองภูเก็ตไว้ให้เด็กรุ่นหลังได้ศึกษาประวัติศาสตร์กันด้วย
- เที่ยวชายหาดสวย ๆ น้ำทะเลใส แถมยังมากสีสัน ไม่ว่าจะเป็นหาดป่าตอง หาดกะรน หาดกะตะ หาดในหาน หาดสุรินทร์ หรือหาดไม้ขาว ฯลฯ
- แหวกว่ายชมปะการังใต้ท้องทะเล รอบ ๆ เกาะภูเก็ต โดยเฉพาะที่หาดกล้วย บนเกาะเฮ ซึ่งซ่อนตัวอยู่อย่างงดงาม
- เดินทอดน่องชิล ๆ ที่ถนนคนเดินภูเก็ต หลาดใหญ่ แถมยังได้ลิ้มลองอาหารพื้นเมืองหลากหลายชนิด รวมถึงจับจ่ายสินค้าของฝากของที่ระลึกหรือสินค้าแฮนด์เมดเก๋ ๆ
25. หมู่บ้านสะปัน จังหวัดน่าน
หมู่บ้านเล็ก ๆ ในอำเภอบ่อเกลือ ที่ถูกโอบกอดด้วยหุบเขา สายหมอก แม่น้ำ ทุ่งนา และชาวบ้านที่น่ารัก ที่นี่เป็นหมู่บ้านเรียบง่าย มีเพียงขุนเขา ความสงบ และความสวยงามเคียงคู่ลำน้ำว้าที่ไหลผ่าน แต่เรารับประกันว่าได้เจอแค่นี้ก็เพียงพอต่อใจมาก ช่วงที่แนะนำให้เดินทางมามากที่สุด คือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะจะเจอทั้งบรรยากาศดีและอากาศเย็น ๆ
แถมใกล้ ๆ หมู่บ้านยังมีน้ำตกสะปัน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติขุนน่าน มีลักษณะเป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มี 3 ชั้น สูงประมาณ 3-6 เมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สายน้ำจะไหลเย็น อากาศเย็นสบาย ป่าไม้รอบ ๆ สวยงามเขียวขจี น่ามาเที่ยวพักผ่อน
การเดินทางมายังน้ำตกสะปัน เมื่อมาถึงหมู่บ้านสะปัน ก่อนถึงโรงเรียนบ้านสะปัน จะมีทางแยกอยู่ทางขวามือ ขับรถเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเดินเข้าไปยังตัวน้ำตกอีกราว ๆ 100 เมตร
นี่คือที่เที่ยวหน้าฝน 2562 ที่เรานำมาแนะนำกัน ซึ่งเป็นที่เที่ยวหน้าฝนเพียงบางส่วนเท่านั้น จริง ๆ แล้วเมืองไทยยังมีที่เที่ยวสวย ๆ อีกมากมาย เอาเป็นว่าหาวันว่าง ๆ หยิบกล้อง สะพายกระเป๋า แล้วออกไปเที่ยวไทยกันค่ะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ททท. และ สำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช