x close

40 ที่เที่ยวน่าน เมืองแห่งขุนเขาอันมากเสน่ห์


          น่าน จังหวัดขนาดกะทัดรัดที่น่าไปสัมผัสกับวิถีชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ ตามสไตล์น่าน...เนิบ...เนิบ รับรองว่าคุณจะตกหลุมรักน่านเข้าอย่างจัง !

          ที่เที่ยวน่านมีที่ไหนบ้าง คำถามยอดนิยมเมื่อวางแผนไปเที่ยวน่าน จังหวัดที่ถูกโอบกอดด้วยขุนเขา และยังคงมีกลิ่นอายของวันวานให้ย้อนไปคิดถึง ที่สำคัญคือวิถีชีวิตของผู้คนยังดำเนินไปแบบเรียบง่าย พร้อม ๆ ความเจริญที่เข้ามาทักทาย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เมืองแห่งนี้ทิ้งตัวตนไปไหน อ๊ะ ๆ เอาเป็นว่าหากใครยังไปรู้ว่าจะไปเที่ยวน่านที่ไหนดี ก็ตามเราไปลัดเลาะที่เที่ยวน่านที่เราหยิบมาแนะนำกันก่อนดีกว่า เริ่มกันที่...

1. วัดภูมินทร์


          วัดสำคัญของเมืองน่าน อยู่คู่เมืองน่านมากว่า 400 ปีแล้ว มีสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น โดยเฉพาะพระอุโบสถ ซึ่งมีลักษณะเป็นทรงจตุรมุข มีแห่งเดียวในประเทศไทย ด้านนอกบริเวณทางขึ้นพระอุโบสถจะมีรูปปั้นพญานาค 2 ตัว จึงดูคล้ายกับว่าอาคารแห่งนี้ตั้งอยู่บนหลังพญานาค สิ่งที่น่าสนใจภายในพระอุโบสถวัดภูมินทร์ก็จะมีทั้งธนบัตรใบละ 1 บาท ที่รัฐบาลไทยเคยพิมพ์รูปวัดภูมินทร์ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จิตรกรรมฝาผนังที่เรียกว่า "ฮูปแต้ม" โดยมีรูปของปู่ม่านย่าม่าน ฉายาภาพคือ "ภาพกระซิบรักบันลือโลก" นั่นเอง

วัดภูมินทร์

วัดภูมินทร์

          นอกจากนี้ก็ยังมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่อยู่ทั้ง 4 ทิศ เชื่อกันว่าให้เดินวนรอบก่อน 1 รอบ สังเกตว่าพระพุทธรูปองค์ไหนยิ้มให้เรามากที่สุด ก็ให้ขอพรกับองค์นั้น

2. วัดพระธาตุแช่แห้ง


          ปูชนียสถานที่สำคัญของเมืองน่าน ตั้งอยู่ตำบลม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง ห่างจากวัดภูมินทร์ราว ๆ 3.6 กิโลเมตรเท่านั้น มีอายุเก่าแก่มากกว่า 600 ปี สร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 1969-1902 ในสมัยเจ้าพระยาการเมือง โดยมีจุดประสงค์ในการสร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สันนิษฐานว่ารูปทรงเจดีย์นั้นได้รับอิทธิพลมาจากเจดีย์พระธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน องค์พระธาตุเป็นเจดีย์ทรงระฆัง รอบองค์บุด้วยทองจังโก มีความเชื่อกันว่าพระธาตุแช่แห้งนั้นเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีเถาะ หากได้มาไหว้ขอพรก็จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว

วัดพระธาตุแช่แห้ง

3. วัดมิ่งเมือง


          ตั้งอยู่บนถนนยันตรกิจโกศล (ถนนสุริยพงษ์) กลางเมืองน่าน ห่างจากวัดภูมินทร์เพียงแค่ราว ๆ 500 เมตร และยังเป็นสถานที่ตั้งของ "เสาหลักเมืองน่าน" ซึ่งตั้งอยู่ภายในศาลาจตุรมุข บริเวณด้านหน้าพระอุโบสถ มีความสูงราว ๆ 3 เมตร ฐานของเสาประดับด้วยไม้แกะสลักลวดลายสวยงาม บริเวณยอดเสาก็มีการแกะสลักเป็นรูปพรหมพักตร์ ส่วนพระอุโบสถก็งดงาม มีการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบล้านนาร่วมสมัย ซึ่งได้ช่างชาวเชียงแสนมาเป็นผู้ทำลวดลายปูนปั้นให้กับผนังด้านนอกของอุโบสถ ภายในก็จะมีภาพจิตรกรรมฝาผนังอันสวยงามวิจิตรบรรจงให้ได้ชมกันด้วย

วัดมิ่งเมือง

4. วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร


          วัดที่มีความเก่าแก่ ตั้งอยู่บนถนนยันตรกิจโกศล (ถนนสุริยพงษ์) ตัดกับถนนผากอง ตรงข้ามกับแยกวัดภูมินทร์ สร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 1949 ในสมัยของเจ้าปู่แข็ง เป็นวัดสำคัญที่เจ้าผู้ครองนครจะใช้ประกอบพิธีสำคัญทางพระพุทธศาสนา และทำพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาตามศิลาจารึกหลักที่ 74 โดยมีสิ่งที่น่าสนใจ เช่น เจดีย์ทรงลังกา สีทองอร่ามบริเวณหลังพระอุโบสถ รอบฐานจะมีรูปช้างปูนปั้นครึ่งตัวด้านละ 5 เชือก และมุมทั้งสี่ อีก 4 เชือก จึงกลายเป็นที่มาของชื่อวัดช้างค้ำ ภายในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐานของพระประธานองค์ใหญ่ สีเหลืองทองอร่าม เปิดให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้ขอพร ด้านข้างของพระอุโบสถเป็นพระวิหาร ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี พระพุทธรูปสำริดปางประทานอภัย สูง 145 เซนติเมตร มีส่วนผสมของทองคำมากถึง 65%

5. วัดต้นแหลง


          ตั้งอยู่ภายในหมู่ 2 ตำบลไทยวัฒนา อำเภอปัว เป็นวัดโบราณไทยล้านนา เชื่อกันว่ามีการสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2127 โดดเด่นด้วยวิหารสุดเก่าแก่สไตล์ไทลื้อ มีหลังคาไม้ลาดต่ำซ้อนกันสามชั้น ประดับด้วยนาคสามเศียรบนหลังคา ประตูวิหารยังคงเป็นไม้ดั้งเดิม ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานขององค์พระประธาน ซึ่งถ้าได้มาเที่ยวชมในยามเช้า จะเห็นแสงสาดส่องลงมายังพระประธานอย่างงดงาม

วัดต้นแหลง

6. วัดภูเก็ต


          ตั้งอยู่ที่หมู่ 2 ตำบลวรนคร อำเภอปัว เป็นวัดที่ช่างภาพต่างชอบที่จะไปเก็บภาพความสวยงามของเมืองปัว เพราะตัววัดตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาแสนสวย และมีอาคารที่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ โดยหลังจากไหว้พระขอพรเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถที่จะเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นทุ่งนากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งภูเขาน้อยใหญ่เบื้องหน้า ถ้าได้มาชมวิวในตอนเช้าในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สวยงามอบอุ่นไปอีกแบบ และยังมีสายหมอกบางเบาให้ได้ชื่นชมอีกด้วย

7. วัดศรีพันต้น


          ตั้งอยู่บนถนนเจ้าฟ้า ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน สร้างโดยพญาพันต้น เจ้าผู้ครองนครน่าน แห่งราชวงศ์ภูคา (ครองนครน่านระหว่าง พ.ศ. 1960-1969 ) ภายในวัดมีวิหารที่สวยงาม ตั้งเด่นเป็นสง่ามีสีทองระยิบระยับ และเป็นอีกวัดหนึ่งในจังหวัดน่านที่มีจิตรกรรมปูนปั้นที่สวยงาม โดยเฉพาะพญานาคเจ็ดเศียรเฝ้าบันไดหน้าวิหารวัด สีทองเหลืองอร่ามสวยงามตระการตา ภายในวิหารได้มีการเขียนภาพลายเส้นประวัติของพระพุทธเจ้าและประวัติการกำเนิดเมืองน่าน สวยงามและทรงคุณค่าอย่างยิ่ง

วัดศรีพันต้น

8. วัดสวนตาล


          ตั้งอยู่บนถนนมหายศ ตำบลในเวียง อำเภอเมืองน่าน สร้างขึ้นโดยพระนางปทุมมาวดี เมื่อ พ.ศ. 1770 มีอายุเก่าแก่ถึง 600 ปี และเป็นโบราณสถานคู่เมืองน่าน มีสถานที่ที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นเจดีย์ซึ่งมีสัณฐานงดงาม ชั้นล่างมีซุ้มประตูทั้งสี่ทิศ หรือ "พระเจ้าทองทิพย์" พระพุทธรูปทองสำริดองค์ใหญ่ ปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 10 ฟุต สูง 14 ฟุต 4 นิ้ว ประดิษฐานภายในวิหาร ซึ่งพระเจ้าติโลกราชแห่งนครเชียงใหม่ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1992 นอกจากนี้ยังมีการจัดงานนมัสการและสรงน้ำเป็นประจำทุกปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์

วัดสวนตาล
ภาพจาก kwanchai / Shutterstock.com

9. วัดพญาภู


          เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งที่มีความสำคัญของจังหวัดน่าน ตามพงศาวดารเมืองน่านกล่าวไว้ว่า พระยาภูเข็ง (พญาภู) แห่งราชวงศ์ภูคา ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองเมืองน่าน ระหว่าง พ.ศ. 1950-1960 ได้สร้างวัดพญาภูขึ้น เมื่อ พ.ศ. 1956 ต่อมาเจ้าผู้ครองเมืองน่านทุกพระองค์ได้ให้ความอุปถัมภ์วัดพญาภูตลอดมา จนกระทั่ง พ.ศ. 2400 พระเจ้าอนันตวรฤทธิเดช เจ้าผู้ครองเมืองน่าน ได้บูรณปฏิสังขรณ์วัดพญาภู เช่น บูรณะพระเจดีย์ซึ่งก่ออิฐถือปูน เป็นเจดีย์โบราณ ขนาดฐานกว้าง 14 เมตร สูง 25 เมตร นมัสการพระพุทธปฏิมาเป็นพระประธานองค์ใหญ่ที่สุดของจังหวัดน่าน

10. วัดหนองแดง


          วัดเก่าแก่อายุกว่า 200 ปี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2330 โดยชาวไทลื้อร่วมกับไทพวน ที่นี่มีความน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะ “วิหารไทลื้อ” เป็นโบราณสถานที่สำคัญของอำเภอเชียงกลาง ด้วยอาคารมีสถาปัตยกรรมแบบไทยลื้อ มีช่อฟ้าแกะสลักด้วยไม้สักทอง เรียกว่า นกหัสดีลิงค์ มีเชิงชายประดับไม้ฉลุลายน้ำหยาด ซึ่งเป็นลวดลายเฉพาะของชาวไทลื้อ พร้อมทั้งด้านในยังมีจิตรกรรมฝาผนังเก่าแก่ แสดงทศชาติชาดกการบำเพ็ญเพียรของพระโพธิสัตว์ ซึ่งเขียนลงบนปูนที่ผสมตามสูตรสมัยโบราณ และยังมีองค์พระประดิษฐานบนฐานชุกชี เรียกว่า นาคบัลลังก์ อันเป็นเครื่องหมายแห่งความสง่างาม ความดี และเป็นอารักษ์แห่งพุทธศาสนาอีกด้วย

วัดหนองแดง

11. พระธาตุจอมกิตติ


          ตั้งอยู่ที่บ้านป่าเลา หมู่ 6 ตำบลพระพุทธบาท อำเภอเชียงกลาง ตัวพระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาอย่างสง่างาม สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล มีสีเหลืองทองอร่ามสวยงาม รายล้อมไปด้วยบรรยากาศของทุ่งนาและภูเขา พระธาตุแห่งนี้เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ด้วยภายในบรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า โดยจะมีชาวบ้านแวะเวียนขึ้นมาไหว้พระทำบุญไม่ขาดสาย บริเวณวัดยังมีจุดชมวิวนาข้าวสวย ๆ อีกด้วย

12. วัดพระธาตุเขาน้อย


          มุมภาพมหาชนในจังหวัดน่านที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดอีกจุดหนึ่ง นั่นคือจุดชมวิวเมืองน่านจากมุมสูง ลานปูนหลังพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ที่วัดพระธาตุเขาน้อย องค์พระธาตุตั้งอยู่บนยอดดอยเขาน้อย ซึ่งอยู่ด้านตะวันตกของตัวเมืองน่าน จุดชมวิวจุดนี้นักท่องเที่ยวจะได้เห็นลักษณะภูมิทัศน์ของเมืองน่าน ซึ่งทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ยิ่งถ้าได้ขึ้นมาชมวิวก่อนที่แสงพระอาทิตย์จะทำงาน ไม่แน่ว่าคุณอาจจะได้ทันเก็บภาพบรรยากาศสวยงามแสงแรกของพระอาทิตย์จากด้านหลังองค์พระพุทธรูป จนกลายเป็นอีกหนึ่งมุมภาพมหาชนประจำจังหวัดน่านไปแล้วก็ว่าได้

วัดพระธาตุเขาน้อย

13. พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน


          ตั้งอยู่บริเวณถนนผากองตัดกับถนนยันตรกิจโกศล อำเภอเมืองน่าน หรือเดิมที่ส่วนนี้ก็คือคุ้มของเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช อดีตเจ้าผู้ครองนครน่าน มีลักษณะเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน มีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม ปัจจุบันมีการบูรณะบำรุง อาคารจึงมีสีเหลืองสดใส  ภายในพิพิธภัณฑ์ได้มีการเก็บรักษาโบราณวัตถุ และสิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของเมืองน่านและถิ่นล้านนา สิ่งสำคัญภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็คือ "งาช้างดำ" ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุคู่เมืองน่านมาอย่างยาวนาน นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าของอาคารยังมีอุโมงค์ลีลาวดีให้นักท่องเที่ยวได้ไปถ่ายรูปสวย ๆ กันอีกด้วย

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน

14. หอศิลป์ริมน่าน


          แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะที่มีความสำคัญของจังหวัดน่าน ที่เหมือนเป็นอาณาจักรย่อม ๆ ของเหล่าคนรักงานศิลป์ เกิดจากความมุ่งมั่นของ คุณวินัย ปราบริปู ศิลปินชาวน่าน ที่ต้องการสร้างสรรค์บ้านเกิดให้เป็นเมืองแห่งศิลปะอย่างแท้จริง ตั้งอยู่บริเวณถนนน่าน-ท่าวังผา กิโลเมตรที่ 20 ที่นี่จะเก็บรวบรวมงานศิลปะจากมันสมองของศิลปินไทยร่วมสมัย ที่มีผลงานการสร้างสรรค์และมีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป เปิดให้เข้าชมเวลา 10.00-17.30 น. ทุกวันพุธ-อาทิตย์ และวันนักขัตฤกษ์

15. คุ้มเจ้าราชบุตร


          คุ้มเจ้าราชบุตร (เจ้าหมอกฟ้า ณ น่าน) เดิมบริเวณนี้เป็นเรือนหอของเจ้าพรหมสุรธาดา และเจ้าแม่ศรีโสภา ก่อนที่จะขึ้นครองเมืองน่านเป็นองค์ที่ 64 ซึ่งเป็นองค์สุดท้าย เป็นเรือนไม้สักสองชั้นสร้างราวปี พ.ศ. 2409 ต่อมาเมื่อเจ้ามหาพรหมสุรธาดาขึ้นครองเมืองน่านในปี พ.ศ. 2462 และได้ย้ายไปอยู่หอคำหลวงหรือพิพิธภัณฑสถาน น่าน ในปัจจุบัน จึงได้ยกเรือนหลังนี้ให้เจ้าราชบุตร ปัจจุบันผู้ครอบครองคุ้มเจ้าราชบุตรคือเจ้าสมปรารถนา ณ น่าน และสามี ได้เปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ในบ้านเพื่อให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของเมืองน่าน ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุ เครื่องใช้ และภาพถ่ายทางประวัติศาสตร์รอบบริเวณตกแต่งด้วยพรรณไม้โบราณ

16. ดอยเสมอดาว


          ที่เที่ยวน่านสุดฮอตฮิต อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย เป็นจุดชมวิวที่งดงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดน่าน มีพื้นที่เป็นลานกว้างตามสันเขา เหมาะสำหรับการพักผ่อนดูดาว ดูดวงอาทิตย์ขึ้นและตกดินในบริเวณเดียวกัน ตอนกลางคืนสามารถมองเห็นแสงไฟจากอำเภอนาน้อย ดูแล้วคล้ายดิน และยังสามารถมองเห็นดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจนและทั่วถึง ใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของ "ผาหัวสิงห์" หน้าผารูปร่างเหมือนสิงโตนอนหมอบหันหน้าไปทางทิศตะวันออก สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ 360 องศา ทิศเหนือมองเห็นตัวอำเภอเวียงสา ทิศใต้มองเห็นทิวเขาเป็นแนวยาว ทิศตะวันออกมองเห็นผาชู้ แม่น้ำน่าน ทิศตะวันตกมองเห็นตัวอำเภอนาน้อยเกือบทั้งหมด

ดอยเสมอดาว

17. ผาชู้


          อีกหนึ่งยอดดอยที่สวยงามไม่แพ้ดอยเสมอดาว และยังตั้งอยู่ภายในเขตอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ก็คือ ดอยผาชู้ ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากดอยเสมอดาวเพียงแค่ 4 กิโลเมตรเท่านั้น ที่นี่มีจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่งดงามสุด ๆ สามารถมองเห็นทะเลหมอกสุดกว้างใหญ่สีขาวนวล พร้อมกับแสงสีทองของพระอาทิตย์ยามเช้าได้อย่างชัดเจน และที่นี่ยังเป็นที่ตั้งของสายธงชาติที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวประมาณ 200 เมตร นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์กว้างขวาง ถ้าไม่อยากเบียดเสียดกับผู้คนที่ดอยเสมอดาว ก็สามารถมาจับจองมองทะเลหมอกและดวงดาวกันได้ที่นี่

18. เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม)


          แหล่งท่องเที่ยวมหัศจรรย์ทางธรรมชาติที่สวยไม่แพ้จังหวัดอื่น เกิดจากการกัดเซาะพังทลายของดินเป็นบริเวณกว้างกว่า 20 ไร่ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีลักษณะเป็นผาดินสูงชัน รูปทรงต่าง ๆ กันไป บ้างเป็นแท่งแหลม บ้างเป็นแท่งมนกลม ความสนุกอยู่ที่คุณสามารถใช้จินตนาการกำหนดเอาเองว่าอยากจะให้มันเป็นรูปอะไร เราสามารถเดินชมได้ทั่วทั้งบริเวณ แต่ต้องทำใจไว้นิดว่าอากาศที่นั่นค่อนข้างร้อน เนื่องจากเป็นบริเวณพื้นที่โล่ง แต่ขอรับรองความสวยงามไปแล้วจะไม่ผิดหวัง

เสาดินนาน้อย (ฮ่อมจ๊อม)

19. บ่อเกลือสินเธาว์


          แหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของอำเภอบ่อเกลือและจังหวัดน่าน ตั้งอยู่ที่ตำบลบ่อเกลือใต้ เป็นเป็นแหล่งชุมชนที่มีการทำบ่อเกลือมาหลายชั่วอายุคน โดยชาวบ้านจะตักน้ำเกลือจากบ่อใต้ดินแล้วให้ไหลมาตามรางท่อไม้ไผ่ เพื่อที่จะนำน้ำเกลือมาต้มให้เหลือแต่เม็ดเกลือ เรียกว่า "เกลือภูเขา" ซึ่งชาวบ้านจะนำมาบริโภค และกรอกใส่ถุงเล็ก ๆ แบ่งขายให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งก็จะมีการเพิ่มไอโอดีนให้ด้วย สามารถนำมาขัดผิวและทำอาหารได้อย่างปลอดภัย

บ่อเกลือสินเธาว์

บ่อเกลือสินเธาว์

20. อุทยานแห่งชาติดอยภูคา


          อุทยานที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอปัว ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาแวะชมและสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติของป่าไม้ที่มีความอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะกับการขึ้นไปสัมผัส “ดอยภูคา” อีกหนึ่งยอดดอยที่มีบรรยากาศสวยงาม มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,837 เมตร มีลักษณะโดดเด่นเป็นทุ่งหญ้าบนดอย อีกทั้งยังมีลานหินและหน้าผาสูงชันอีกด้วย และมีพรรณไม้เฉพาะถิ่นและพรรณไม้หายาก เช่น ค้อ กุหลาบพันปี ฯลฯ หรือถ้าใครมาที่นี่แล้วไม่อยากพลาดไฮไลต์เด็ดแล้วละก็ เราขอแนะนำให้ลองไปชม "ต้นชมพูภูคา" ซึ่งเป็นไม้พันธุ์หายากใกล้สูญพันธุ์และมีเพียงที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคาแห่งเดียวเท่านั้น

อุทยานแห่งชาติดอยภูคา


21. ดอยภูแว


          ถ้าใครหลงรักการเดินทางแบบผจญภัย และหลงใหลในป่าเขา เราขอแนะนำให้ไปพิชิตยอดดอยภูแวกันสักครั้ง ที่นี่เป็นอีกหนึ่งยอดดอยที่สวยงามภายในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,837 เมตร เป็นยอดดอยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น มีลักษณะเป็นทุ่งหญ้าสลับกับโขดหินปูน มีหน้าผาสูงชัน รวมทั้งมีเส้นทางเดินป่าสุดหวาดเสียวที่ลัดเลาะสันเขาขึ้นไปยังจุดชมวิว โดยที่จุดชมวิวจะสามารถมองเห็นทะเลหมอกได้แบบ 360 องศา ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกอย่างสวยงาม

ดอยภูแว

22. ดอยสวนยาหลวง


          อีกหนึ่งที่เที่ยวน่านน้องใหม่มาแรง ธรรมชาติที่จัดได้ว่าสวยจนคุณต้องร้องว้าว   ตั้งอยู่ในเขตหมู่บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา ในอดีตพื้นที่บนยอดดอยสวนหลวงยาแห่งนี้ เป็นพื้นที่ปลูกฝิ่นแหล่งใหญ่ของไทย ต่อมาด้วยพระบารมีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นห่วงในเรื่องความเป็นอยู่ของราษฎร ได้เกิดการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ด้านต่าง ๆ จนชาวบ้านเลิกปลูกฝิ่นและหันมาปลูกพืชเศรษฐกิจต่าง ๆ แทน ถ้าใครเดินทางไปเที่ยวดอยสวนยาหลวง จะเห็นความอุดมสมบูรณ์ของสวนกาแฟ ที่วันนี้กลายเป็นพืชเศรษฐกิจหลักของหมู่บ้าน สัมผัสวิถีชาวไทยภูเขาเผ่าเมี่ยน (เย้า) ซึ่งยังคงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม พร้อมรอต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยไมตรีและรอยยิ้ม

          สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง แนะนำว่าให้เพื่อน ๆ ติดต่อผ่าน เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ ไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวเอง ด้วยเพราะเส้นทางขึ้นค่อนข้างลำบาก ดังนั้นถ้าใครอยากเที่ยวแบบสะดวก ๆ ติดต่อคนนำเที่ยวจะดีที่สุด

23. ดอยแม่จอก


          ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน เป็นยอดดอยที่มีความสูง 1,424 เมตร จากระดับน้ำทะเล อากาศหนาวเย็นตลอดปี มีทิวทัศน์ของเทือกเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน สามารถมองเห็นความงดงามของดวงอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า และทะเลหมอกที่เป็นผืนขนาดใหญ่กว้างไกลสุดตา

24. ดอยกู่สถาน (ดอยธง)


          ตั้งอยู่เขตติดต่อระหว่างบ้านขุนสถาน ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย บ้านวังน้ำเย็น ตำบลเมืองลี อำเภอนาหมื่น จังหวัดน่าน กับบ้านห้วยเอียด อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ มีความสูง 1,630 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ใช้เวลาเดินจากบ้านขุนสถาน ประมาณ 3 ชั่วโมง ระหว่างทางจะพบทุ่งหญ้าสลับกับป่าดิบเขา กล้วยไม้ และเฟิร์นออสมันด้า บนสันดอยธงมีจุดชมทิวทัศน์ที่สวยงาม ชมวิวได้ 360 องศา อากาศหนาวเย็นตลอดปี

25. ภูเข้


          เป็น 1 ใน 10 ของยอดดอยที่สูงที่สุดในเมืองไทย มีความสูงราว ๆ 2,079 เมตร อยู่ใกล้กับชายแดนไทย-ลาว ใครที่เป็นสายผจญภัยรับรองได้ว่าจะหลงรักเส้นทางนี้อย่างแน่นอน เพราะตลอดเส้นทางจะผ่านทุ่งนา ป่าเขา ไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน ธรรมชาติยังคงอุดมสมบูรณ์ ป่าไม้เขียวขจี เอกลักษณ์สำคัญบนยอดดอยภูเข้คือหลักดินแดน ที่แสดงอาณาเขตระหว่างไทย-ลาว นักท่องเที่ยวจะได้เยี่ยมชมป่าทั้งสองแผ่นดินอย่างใกล้ชิด และได้ชื่นชมกับวิวสวย ๆ ของขุนเขาโดยรอบอีกด้วย ทั้งนี้เส้นทางขึ้นดอยภูเข้จำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญนำทาง เพราะฉะนั้นเดินทางกับบริษัททัวร์จะดีที่สุด

26. น้ำตกสะปัน


          ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติขุนน่าน ในตำบลดงพญา อำเภอบ่อเกลือ มีลักษณะเป็นน้ำตกที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนัก มี 3 ชั้น สูงประมาณ 3-6 เมตร เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี สายน้ำจะไหลเย็น อากาศเย็นสบาย ป่าไม้รอบ ๆ สวยงามเขียวขจี น่ามาเที่ยวพักผ่อน การเดินทางมายังน้ำตกสะปัน เมื่อมาถึงหมู่บ้านสะปัน ก่อนถึงโรงเรียนบ้านสะปัน จะมีทางแยกอยู่ทางขวามือ ขับรถเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วเดินเข้าไปยังตัวน้ำตกอีกราว ๆ 100 เมตร

น้ำตกสะปัน

27. ต้นดิ๊กเดียม วัดบ้านปรางค์


          เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของอำเภอปัวเลยทีเดียวสำหรับต้นดิ๊กเดียม ไม้ยืนต้นหายาก อายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งนอกจากจะมีสรรพคุณทางยาแล้ว ยังมีความพิเศษตรงที่ถ้าเราเอามือไปถูเบา ๆ บริเวณลำต้น มันก็จะเขย่าทั้งต้น ราวกับว่ามีใครไปจับกิ่งเขย่าแรง ๆ เลยทีเดียว ถ้าอยากพิสูจน์ว่าเจ้าต้นนี้จะมหัศจรรย์จริงหรือไม่ ต้องไปลองที่อำเภอปัวกัน

28. ล่องแก่งลำน้ำว้า


          แก่งน้ำว้าตอนกลางเส้นทางระดับ 3-5 ประมาณกว่า 100 แก่ง สุดยอดความตื่นเต้นและสนุกสนาน เริ่มจากลำน้ำว้าตอนกลาง บ้านสบมาง อำเภอบ่อเกลือ สิ้นสุดที่อำเภอแม่จริม เส้นทางยาวที่สุดในประเทศไทย ถึง 80 กิโลเมตร

ล่องแก่งลำน้ำว้า
ภาพจาก pongpol chanapai / Shutterstock.com


29. บ้านสะปัน


          หมู่บ้านเล็ก ๆ ในอำเภอบ่อเกลือ ที่ถูกโอบกอดด้วยหุบเขา สายหมอก แม่น้ำ ทุ่งนา และชาวบ้านที่น่ารัก ที่นี่เป็นหมู่บ้านเรียบง่าย มีเพียงขุนเขา ความสงบ และความสวยงามเคียงคู่ ลำน้ำว้าที่ไหลผ่าน แต่เรารับประกันว่าได้เจอแค่นี้ก็เพียงพอต่อใจมาก ช่วงที่แนะนำให้เดินทางมามากที่สุด คือ ช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะจะเจอทั้งบรรยากาศดีและอากาศเย็น ๆ

30. วังศิลาแลง


          แก่งหินสุดอัศจรรย์ ที่ได้รับฉายาว่าแกรนด์แคนยอนแห่งเมืองปัว ซึ่งเกิดขึ้นจากรอยเลื่อนปัว มีสายน้ำไหลผ่านบริเวณนี้มานานหลายพันปี จนทำให้หินรอบข้างทั้งสองด้านมีลวดลายสวยงาม มีช่วงลึกบ้าง ตื้นบ้าง สามารถลงเล่นน้ำได้ ที่นี่ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สดใหม่อยู่มาก ธรรมชาติจึงอุดมสมบูรณ์สวยงามน่าไปเที่ยวชม

วังศิลาแลง

31. แก่งหลวง


          ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติศรีน่าน เกิดจากแนวหินน้อยใหญ่ที่กระจัดกระจายอยู่ในแม่น้ำน่านรวมทั้งโขดหินและหน้าผา ยามหน้าน้ำจะมีเสียงน้ำไหลกระทบโขดหินดังกึกก้อง ยามหน้าแล้งจะมองเห็นแนวหิน โขดหินที่มีรูปร่างทรงหลากหลายอย่างสวยงาม

32. ถนนลอยฟ้า


          อำเภอปัวเป็นเขตติดต่อกับอำเภอบ่อเกลือ แหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตอีกหนึ่งแห่งของจังหวัดน่าน นักท่องเที่ยวจะนิยมขับรถจากอำเภอปัวไปยังอำเภอบ่อเกลือ โดยใช้เส้นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 1256 ซึ่งต่างลงเสียงว่าเป็นเส้นทางที่มีวิวสวยงามมาก เพราะสองข้างทางเต็มไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าเขาสวยงามอุดมสมบูรณ์ ถนนจะทอดยาวลัดเลาะขึ้น-ลงภูเขาไปเรื่อย ๆ จนถึงอำเภอบ่อเกลือ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเส้นทางสุดโรแมนติกของเมืองไทยเลยก็ว่าได้

ถนนลอยฟ้า

33. กาแฟบ้านไทลื้อ


          การเดินทางมักจะมาคู่กับแก้วกาแฟอันหอมกรุ่น ซึ่งที่อำเภอปัวแห่งนี้ก็มีร้านกาแฟให้เลือกมากมาย แต่ร้านที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ “ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ” หมู่ 4 ตำบลศิลาแลง อำเภอปัว ซึ่งเป็นร้านกาแฟบ้าน ๆ แต่มีวิวราคาหลักล้านให้ได้นั่งชม เพราะตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนา โดยมีฉากหลังเป็นแนวเทือกเขาสูงใหญ่ อากาศเย็นสบาย ในช่วงหน้าหนาวแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าบรรยากาศจะดีแค่ไหน ได้ใจไปเลยเต็ม ๆ

กาแฟบ้านไทลื้อ

34. ถนนคนเดินข่วงเมืองน่าน


          เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการมาเที่ยวเมืองน่านก็คือถนนคนเดิน เปิดทุกวันศุกร์-เสาร์ บริเวณถนนผากอง ตั้งแต่สี่แยกข่วงเมืองน่านไปจนถึงวัดภูมินทร์ มีสินค้าจำหน่ายมากมาย เช่น อาหารพื้นเมือง ของที่ระลึกเมืองน่าน เสื้อผ้า ภาพวาด ข้าวของเครื่องใช้ เป็นต้น ยิ่งถ้าได้เดินช้อปปิ้งอากาศเย็น ๆ หรือถ้าใครหนาวก็ลองไปช้อปหาผ้าพันคอสวย ๆ สไตล์ชาวเหนือมาใช้ห่มกันหนาว เหล่านี้เป็นบรรยากาศที่สุดจะบรรยายได้เลยทีเดียว ถือเป็นถนนคนเดินที่สวยด้วยบรรยากาศและผู้คนอีกแห่งในจังหวัดน่าน

ถนนคนเดินข่วงเมืองน่าน
ภาพจาก gjee / Shutterstock.com

35. โครงการศูนย์ภูฟ้าพัฒนา


          ตั้งอยู่ที่บ้านผาสุข ตำบลภูฟ้า อำเภอบ่อเกลือ เป็นโครงการที่จัดตั้งขึ้นเพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในการช่วยเหลือราษฎรในพื้นที่ถิ่นทุรกันดารให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเพื่อฟื้นฟูสภาพป่าที่เสื่อมโทรมและเพิ่มพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารให้มีความอุดมสมบูรณ์ พร้อมทั้งยังสร้างอาชีพและรายได้กลับมาสู่ชุมชน หากนักท่องเที่ยวได้เข้ามาเที่ยวชมที่นี่ ก็จะได้สัมผัสกับวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม หรือได้ลิ้มลองกาแฟสดรสชาติเข้มข้น รวมไปถึงชาคุณภาพดี อีกทั้งยังมีสินค้าสวย ๆ ในโครงการภูฟ้าให้เลือกช้อปกันด้วย


36. หมู่บ้านประมงปากนาย


          เดิมเป็นหมู่บ้านริมแม่น้ำน่าน หลังจากที่มีการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ก็ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อน พร้อมกับการก่อเกิดของแพร้านอาหารมากมายที่เปิดโอกาสให้เลือกชิมปลาที่จับขึ้นมาสด ๆ จากเขื่อน แพบางแห่งยังสร้างห้องพักไว้บริการนักท่องเที่ยวที่อยากสัมผัสธรรมชาติเหนือเขื่อนอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเดือนตุลาคม-มีนาคมนั้น ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับท่องเที่ยวที่นี่เลยทีเดียว

37. วังน้ำปัว


          แหล่งท่องเที่ยวพักผ่อนทางธรรมชาติสุดเงียบสงบ ตั้งอยู่บริเวณต้นแม่น้ำปัว บ้านนาฝาง ตำบลสถาน อำเภอปัว โดยบริเวณนี้จะมีแพไม้ไผ่ให้นักท่องเที่ยวได้มานั่งเล่น เอาเท้าหย่อนลงน้ำเย็น ๆ คลายร้อน พร้อมทั้งยังมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการ เพื่อนั่งกินข้าวท่ามกลางธรรมชาติสุดรื่นรมย์ หรือใครจะมานอนกางเต็นท์ นั่งนับดาวยามค่ำคืนที่นี่ก็ได้เช่นกัน

38. สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริภูพยัคฆ์


          ตั้งอยู่ที่บ้านน้ำรีพัฒนา ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ในอดีตเป็นที่ปลูกฝิ่น ก่อนปี พ.ศ. 2523 เคยเป็นสมรภูมิรบระหว่างทหารไทยกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็น สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ  พัฒนาให้ราษฎรชาวไทยภูเขามีจิตสำนึกและมีส่วนร่วมในการฟื้นฟู พัฒนาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารที่มีคุณภาพเป็นป่าที่สมบูรณ์ พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ สร้างงานสร้างรายได้ให้ราษฎรในพื้นที่ เป็นสถานีตัวอย่างในการขยายผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะพืชเมืองหนาว สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริภูพยัคฆ์ มีบ้านพักรับรองพร้อมอุปกรณ์เครื่องนอนสำหรับนักท่องเที่ยว จำนวน 2 หลัง สามารถรับนักท่องเที่ยวได้ 24 คน และมีสถานที่กางเต็นท์ และเต็นท์นอน 2 คน บริการนักท่องเที่ยว จำนวน 20 หลัง มีอาหารบริการแต่จะต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

39. นาขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ


          ตั้งอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน เป็นหนึ่งในโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยนำวิธีการทำนาขั้นบันไดบนพื้นที่ภูเขา เพื่อแก้ปัญหาความยากจนอย่างยั่งยืน นักท่องเที่ยวจะอิ่มเอมใจไปกับภาพนาข้าวเขียวขจี โอบล้อมด้วยภูเขา สลับซับซ้อนดูสวยงามตา แนะนำว่าให้มาเที่ยวช่วงหน้าฝน  ตั้งแต่เดือนกันยายนเป็นต้นไป ส่วนในช่วงปลายเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน นักท่องเที่ยวก็จะได้สัมผัสกับอากาศหนาวพร้อมกับนาข้าวสีเหลืองทอง ที่เริ่มออกรวงดูสวยงามตาไปอีกแบบ

นาขั้นบันได โครงการปิดทองหลังพระ

40. สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง


          โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง เกิดจากแนวพระราชดำริที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ได้เข้ามาช่วยเหลือและส่งเสริมการทำเกษตร ช่วยให้ชาวบ้านมีความเป็นอยู่ที่ดี ส่งผลให้มีรายได้และสามารถหาเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบาย ภายในโครงการนักท่องเที่ยวจะได้เที่ยวชมพืชผักเมืองหนาว แวะชมแปลงทดลองปลูกสตรอว์เบอร์รีพันธุ์ 80 นอกจากนี้ยังสามารถเดินชมแปลงผักปลอดสารพิษ ถั่วลันเตา มะเขือเทศราชินี กะหล่ำหัวใจ ชมการสาธิตการทำปศุสัตว์ในครัวเรือน อย่างการเลี้ยงหมู ไก่ เป็ด แกะ และแพะ


          นอกจากการชื่นชมธรรมชาติและวิถีเกษตรแบบฟิน ๆ แล้ว ภายในโครงการยังมีบ้านพักในไร่ชาให้อิงแอบธรรมชาติ นอนดูดาวในค่ำคืนอันเงียบสงบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง โทรศัพท์ 084 818 1008

          นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของสถานที่ท่องเที่ยวน่านที่เราหยิบมาแนะนำกัน จริง ๆ แล้วเมืองแห่งนี้ยังมีที่เที่ยวอีกหลากหลายแห่งรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่นะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
ททท., park.dnp.go.th, royalprojectthailand.com, nantourism.go.th, เฟซบุ๊ก โครงการสถานีพัฒนาการเกษตรที่สูงตามพระราชดำริ บ้านสะจุก-สะเกี้ยง, เฟซบุ๊ก ศูนย์ภูฟ้าพัฒนา อันเนื่องมาจากพระราชดำริ, เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
40 ที่เที่ยวน่าน เมืองแห่งขุนเขาอันมากเสน่ห์ อัปเดตล่าสุด 19 มีนาคม 2567 เวลา 16:34:24 301,004 อ่าน
TOP