20 ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ดินแดนเมืองสามหมอก

          ตะลุยเที่ยวแม่ฮ่องสอน ทั้ง 7 อำเภอ อันเป็นเสน่ห์ของแม่ฮ่องสอน นครแห่งความสุขนี้จะมีที่ไหนเด็ด ๆ บ้าง พร้อมแล้วหิ้วกระเป๋าตามมาเลยจ้า

           เมื่อเอ่ยถึง "แม่ฮ่องสอน" ใคร ๆ ก็ล้วนอยากเข้ามาทำความรู้จัก เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประเพณีและวัฒนธรรมอันล้ำค่า รวมไปถึงความงดงามทางประวัติศาสตร์ที่น่าหลงใหล อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวอันเปรียบเสมือนสวรรค์บนดินอีกมากมาย ที่เชื้อเชิญให้ผู้ที่มีใจรักการเดินทางแวะเวียนมาเยี่ยมนครแห่งความสุขแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย

แม่ฮ่องสอน

           แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดชายแดนจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับเมียนมา ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกสุดของภาคเหนือ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 924 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 12,681.259 ตารางกิโลเมตร โดยได้ชื่อว่าเป็น "เมืองสามหมอก" เนื่องจากเป็นเมืองในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทอดขนานไปกับทิวเขาถนนธงชัยและทิวเขาแดนลาว จึงถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติของเทือกเขาสลับซับซ้อนและป่าไม้นานาพรรณ จนมีคำกล่าวว่าเปรียบเสมือนกับเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทย

แม่ฮ่องสอน

แม่ฮ่องสอน

          ในปัจจุบันได้มีการแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง แม่สะเรียง ขุนยวม ปาย แม่ลาน้อย สบเมย และปางมะผ้า ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปตะลุย 20 แหล่งท่องเที่ยวทั้ง 7 อำเภอ อันเป็นเสน่ห์ของนครแห่งความสุขนี้กัน จะมีที่ไหนเด็ด ๆ บ้าง พร้อมแล้วหิ้วกระเป๋าตามมาเลย

อำเภอเมือง


1. วัดพระธาตุดอยกองมู


           หนึ่งในที่เที่ยวแม่ฮ่องสอนตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อ "วัดปลายดอย" เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบไปด้วยพระธาตุเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ 2 องค์ และวิหารพระศิลปะไทใหญ่ เจดีย์องค์พี่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2403 โดยจองต่องสู่ พ่อค้าชาวไต ภายในบรรจุพระธาตุของพระมหาโมคคัลลานะเถระ ซึ่งอัญเชิญมาจากพม่า ส่วนองค์น้องสร้างโดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนท่านแรก ฐานเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดปางต่าง ๆ เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาช้านาน นอกจากกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ยังสามารถชมวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนในมุมสูงที่สุด นับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามมากเลยทีเดียว

วัดพระธาตุดอยกองมู             
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.30-16.30 น.
           ที่อยู่ : ตำบลจองคำ จากถนนขุนลุมประพาสเลี้ยวขวาหน้าอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา แล้วเลี้ยวซ้าย (ตรงข้ามวัดก้ำก่อ) ไปตามทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร หรือเดินเท้ามาตามทางขึ้นฝั่งถนนสิริมงคล
           โทรศัพท์ : 08 1026 4544
           เว็บไซต์ : วัดพระธาตุดอยกองมู
           เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก วัดพระธาตุดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอน (Phra That Doi Kong Mu Temple)

2. วัดก้ำก่อ


           ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดพระนอน เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน เดิมตั้งอยู่บริเวณเชิงพระธาตุดอยกองมูทางทิศใต้ ต่อมาได้ย้ายมาตั้งทางทิศตะวันออก เพื่อให้ใกล้แหล่งชุมชนและสะดวกสบายในการไปมาหาสู่มากกว่าเดิม มีสถาปัตยกรรมไทใหญ่ ที่สร้างโดยฝีมือของช่างชาวไทใหญ่ที่เข้ามาอาศัยและศรัทธาในวัดนี้ นับเป็นศูนย์รวมใจชาวแม่ฮ่องสอนมานานกว่า 123 ปี โดดเด่นด้วยปากทางเข้าที่ถูกขนาบข้างด้วยสิงห์ขาว 2 ตัว ที่เรียกว่า "ส่างหว่าง" หรือซุ้มประตูทอดยาวไปยังศาลาการเปรียญ ชายหลังคาถูกประดับประดาด้วยสังกะสีฉลุลาย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาตำราประวัติศาสตร์ที่เขียนด้วยภาษาไต (ไทใหญ่) ไว้อีกด้วย

           ที่อยู่ : ถนนผดุงม่วยต่อ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ริมถนนสิริมงคล ตรงข้ามวัดพระนอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
           โทรศัพท์ : 0 5361 1225-6

3. วัดจองคำ-วัดจองกลาง


           มากันที่วัดแรกก่อน "วัดจองคำ" ตั้งอยู่บริเวณหนองจองคำ ถือเป็นพุทธสถานแห่งแรกของเมืองแม่ฮ่องสอน โดดเด่นด้วยหลังคาวัดรูปทรงปราสาท 9 ชั้น กราบขอพรหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในแม่ฮ่องสอน ตลอดจนขอพรองค์พระศรีศากยมุนีจำลอง นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถหลังคาทรงเจดีย์ 5 ยอด พร้อมสักการะพระเจดีย์ทรงเครื่องศิลปะมอญที่มียอดฉัตรประดับงานปูนปั้นฉาบสีทองอร่ามตา เมื่อครั้นเวลาเงาตกกระทบกับน้ำหนองจองคำมองแล้วสวยงดงามมาก ซึ่งไม่ควรพลาดที่จะยกกล้องถ่ายรูปคู่ใจมาเก็บภาพอันสวยงามนี้ไว้

วัดจองคำ-วัดจองกลาง

           ส่วน "วัดจองกลาง" ตั้งอยู่ภายในรั้วเดียวกันกับวัดจองคำ ภายในวิหารมีแท่นบูชาตั้งพระพุทธสิหิงค์จำลอง ปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ อีกทั้งสามารถเข้าไปชมตุ๊กตาไม้แกะสลักเรื่องพระเวสสันดรชาดกจากประเทศพม่า ซึ่งนำมาจากพม่าตั้งแต่ พ.ศ. 2400 พร้อมตื่นตาไปกับกระจกเขียนสี ตลอดจนภาพแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้นโดยฝีมือช่างชาวไทใหญ่ และองค์พระอินทร์สานจากหวาย รับรองว่าอิ่มอกอิ่มใจแถมอิ่มบุญกันถ้วนหน้าแน่นอนจ้า

           ที่อยู่ : ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บริเวณหนองจองคำ
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.
           โทรศัพท์ : 0 5361 1752

4. ปางอุ๋ง


           ได้รับสมญาว่า "สวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก" นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่ง ถ้าไม่มาถือว่ามาไม่ถึงแม่ฮ่องสอนเลยเชียวนะ "ปางอุ๋ง" ชื่อเต็ม ๆ ว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,200 เมตร ณ บ้านรวมไทย ภายใต้การดูแลของสำนักงานบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 (แม่สะเรียง) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

ปางอุ๋ง

           เดิมทีเคยเป็นสถานที่ปลูกฝิ่นของชาวเขา ต่อมาได้รับการพัฒนาตามทฤษฎีสวนแบบปางอุ๋ง จนกลายมาเป็น "สวรรค์บนดิน" อันอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชสมุนไพร พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวหลากหลายสีสัน ตลอดจนดงสนสองใบที่เติบโตเรียงรายตลอดแนวอ่างเก็บน้ำปางตอง ที่ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเก็บภาพประทับใจ ยิ่งในยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านทิวสนลงมาเป็นลำ ๆ จะช่วยเพิ่มความงดงามและความโรแมนติกมากยิ่งขึ้นสมชื่อสวรรค์บนดินเสียจริง ๆ จึงไม่แปลกใจที่ถูกนำไปเป็นฉากประทับใจในหนังหลาย ๆ เรื่อง สภาพอากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งโดยเฉพาะในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามาเก็บบรรยากาศความโรแมนติกและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามที่มีไอหมอกลอยอยู่เหนือทะเลสาบแห่งนี้กันอย่างมีความสุข

           ที่อยู่ : บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนประมาณ 44 กิโลเมตร
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 05.30-18.30 น.
           โทรศัพท์ : 0 5361 1244

5. ภูโคลน คันทรีคลับ


ภูโคลน คันทรีคลับ
ภาพจาก phuklon.co.th

           หากเที่ยวกันจนเมื่อยแล้วก็อยากชวนให้แวะมาดูแลสุขภาพกันสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นนวดกระชับผิว แช่น้ำแร่ พอกโคลน อบซาวน่า ที่ "ภูโคลน คันทรีคลับ" ณ โป่งเดือดแม่สะงา แห่งนี้ โคลนของที่นี่เขาไม่ธรรมดา เพราะได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย และเป็นแหล่งโคลน 1 ใน 3 ของโลกที่มีแร่ธาตุหลักที่เหมือนกันรองจากทะเลสาบเดดซี และโคลนภูเขาไฟจากประเทศโรมาเนีย จากโครงการ Unseen in Thailand และ Spa in Paradise ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเลยทีเดียวนะ

          โดยเป็นโคลนเดือดบริสุทธิ์สีดำที่มาจากสายน้ำแร่ใต้ดินที่สะอาด และไม่มีกลิ่นของกำมะถัน ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์ สามารถดูดซับสารพิษตกค้าง ล้างความมันส่วนเกินบนใบหน้า สิ่งสกปรกที่อุดตันตามผิวหนังอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและรอยหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลความงามอีกมากมาย อาทิ โคลนผงพอกหน้า โลชั่นน้ำแร่ สบู่ภูโคลน ครีมอาบน้ำสครับ ที่มีให้คุณเลือกสรรไปประทินผิวได้ตามใจชอบ

           ที่อยู่ : 132 หมู่ 2 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-18.30 น.
           โทรศัพท์ : 0 5328 2579
           เว็บไซต์ : ภูโคลน คันทรีคลับ
           เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก ภูโคลน แม่ฮ่องสอน (แหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย) PHU KLON MUD SPA

6. อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ


           ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขา มีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญมีปลาตัวโต ๆ สีเทาอมฟ้าที่ต่างแหวกว่ายไปมารอคอยขนมปังนับพันตัว เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ไม่น้อย ปลาชนิดนี้มีชื่อว่า "ปลามุง" หรือ "ปลาคัง" เป็นปลาที่มีเกล็ดขนาดใหญ่ ในวงศ์เดียวกับปลาคาร์พ และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอันตราย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า หากใครนำไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป

อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ

          ส่วนใครที่สนใจจะมาสัมผัสกับความสดชื่นและชุ่มฉ่ำของสายน้ำก็เลี้ยวรถต่อมายัง "น้ำตกผาเสื่อ" ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลหมอกจำแป่ น้ำตกแห่งนี้ไหลลงมาจากน้ำตกแม่สะงาในพม่า เป็นน้ำตกขนาดกลางสูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 15 เมตร ในฤดูฝนสายน้ำตกจะปกคลุมเต็มหน้าผาหินกว้าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายเสื่อปูลาด มีน้ำตลอดปี โดยช่วงที่เหมาะสมในการไปท่องเที่ยว คือ เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน

           ที่อยู่ : 70 หมู่ที่ 1 อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ บ้านห้วยผา ตำบลห้วยผา อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
           โทรศัพท์ : 0 5361 9036

7. บ้านน้ำเพียงดิน


           ตั้งอยู่ในเขตตำบลผาบ่อง บริเวณริมน้ำปาย จึงเป็นหมู่บ้านที่นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือเพื่อชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยง โดยจะใช้เวลาล่องเรือทั้งไปและกลับประมาณ 1-2 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือไปตามลำน้ำจะผ่านระลอกน้ำที่ลดระดับลดหลั่นกันไปคล้ายธารน้ำตก แถมยังได้ชมความงดงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่เป็นทุ่งนาและป่าเขา นับว่าเป็นทัศนียภาพที่งดงามแปลกตาหาดูได้ยาก

          โดยจุดเด่นของบ้านน้ำเพียงดิน คือ วิถีชีวิตของชาวปาดอง (กะเหรี่ยงคอยาว) ที่อพยพจากฝั่งประเทศพม่าเข้ามาอยู่ในไทย ก่อนที่จะแยกไปอยู่ที่บ้านน้ำเพียงดินและบ้านในสอย โดยจะมีการแต่งกาย ดังนี้ ผู้ชายจะสวมกางเกงขายาว เสื้อตัวสั้น และมีผ้าโพกศีรษะ ส่วนผู้หญิงจะสวมเสื้อทรงกระบอกสีขาวยาวถึงสะโพก กระโปรงสีดำยาวถึงเข่า ไว้ผมหน้าม้า มีผ้าแถบโพกศีรษะ สวมห่วงคอทองเหลืองเพื่อป้องกันภูตผีปีศาจ และกันการแต่งงานข้ามเผ่า ชาวปาดองมีนิสัยสุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส สะอาดเป็นระเบียบ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีของที่ระลึกจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ว่าง ๆ ก็ลองแวะไปสัมผัสวิถีชีวิต สนทนาพูดคุยกับชาวกะเหรี่ยงดูได้ไม่ว่ากัน

           ที่อยู่ : ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07.30-17.00 น.
           โทรศัพท์ : 0 5361 3160

8. บ้านม้งไมโครเวฟ


           สะดุดหูกับชื่อไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะกับ "บ้านม้งไมโครเวฟ" หลายคนคงคิดว่าบ้านนี้ต้องเต็มไปด้วยไมโครเวฟล่ะสิท่า แต่ไม่ใช่เลย เพราะความจริงก็คือ ยอดดอยแห่งนี้สูงมากจนมีบริษัทของรัฐและเอกชนมาตั้งเสาสัญญาณเพื่อกระจายคลื่นความถี่สูง หรือ "ไมโครเวฟ" (Microwave) นั่นเอง ไม่ใช่เตาอบไมโครเวฟอย่างที่คิด ๆ กัน หมู่บ้านนี้มีอีกชื่อคือ "บ้านยอดดอย" เพราะตั้งอยู่บนยอดดอย ก่อนหน้าถูกเรียกว่า "บ้านแม้วไมโครเวฟ" แม้วกับม้งถูกเรียกสลับไปมา จริง ๆ แล้วคำที่เหมาะสมคือ "ม้ง" เท่านั้น ชาวเขาเผ่าม้งมีความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกผักกะหล่ำปลี ที่ดอยแห่งนี้มีอากาศที่หนาวเย็น หน้าหนาวนับว่าเป็นอีกแห่งที่น่ามาสัมผัสเป็นอย่างมาก สิ่งที่น่าสนใจ คือ มีทะเลหมอกขนาดใหญ่ครอบคลุมเกือบรอบทิศสวยงามจับใจ แวะมาสูดโอโซนยามเช้าที่นี่ได้รับรองว่าฟิน


           ที่อยู่ : บ้านยอดดอย ถนนทางหลวงหมายเลข 108 กิโลเมตรที่ 235 อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
           โทรศัพท์ : 0 5361 1808

9. สะพานซูตองเป้


           "ซูตองเป้" เป็นภาษาไทใหญ่ มีความหมายว่า "ความสำเร็จ" สะพานแห่งนี้นับว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างจากพลังศรัทธาของชาวบ้านกุงไม้สักที่ลงแรงแข็งขันกันบริจาคเสาไม้เก่า ไม้ไผ่ และกำลังทรัพย์ ร่วมกับพระปลัดจิตตพัฒน์ อัคคปัญโญ ประธานสงฆ์สวนธรรมภูสมะ และคณะพุทธศาสนิกชน โดยใช้เวลาสร้างเพียง 2 เดือน สะพานมีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร ทอดผ่านท้องนาของชาวบ้านและแม่น้ำแม่สะงา แม่น้ำสายเล็ก ๆ ซึ่งเส้นทางของสะพานได้เชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะและหมู่บ้านกุงไม้สัก เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาของชาวบ้าน ตลอดจนให้พระภิกษุสามเณรบิณฑบาตได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน และหากท่านใดสนใจมาทำบุญใส่บาตรแนะนำให้มารอบนสะพานตั้งแต่เช้าตรู่

สะพานซูตองเป้

          ทั้งนี้ มีความเชื่อกันว่าหากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความสำเร็จใด ๆ ก็จะพบกับความสมหวังกลับไป จึงทำให้ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมมากที่สุดอีกแห่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย มาเที่ยวกันเยอะ ๆ นะจ๊ะ คุณจะได้เสพทั้งความสวยงามของทัศนียภาพท้องทุ่งนา อีกทั้งยังได้ร่วมทำบุญตักบาตรท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่นที่จะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม

           ที่อยู่ : เลขที่ 200 หมู่บ้านกุงไม้สัก ถนนแม่ฮ่องสอน-ปาย ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000 จาก ทล.1095 สามารถเข้าได้ 2 เส้นทาง จากหมู่บ้านกุงไม้สัก (ทางไปภูโคลน) หรือสวนสาธารณะธรรมภูสมะ
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน แนะนำให้มาช่วงเวลา 06.30-07.00 น.
           โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร 0-5361-2982-3, 0-5361-2984

10. บ้านรักไทย


           บ้านบรรยากาศสุดอบอุ่น เดิมชื่อ "บ้านแม่ออ" ชุมชนชาวจีนยูนนาน ลูกหลานทหารกองพล 93 ที่เดินทางมาจากตอนใต้ของจีนเมื่อหลายสิบปีก่อน ปัจจุบันอาศัยอยู่ร่วมกันกับพี่น้องชาวไทใหญ่และชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ โดยบรรยากาศภายในจะมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ใจกลางหมู่บ้าน และถูกรายล้อมไปด้วยบ้านดินชั้นเดียวมุงหลังคาด้วยใบตองสไตล์จีนที่ถูกดัดแปลงนำมาเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก บางหลังก็ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ที่พัก ไว้บริการนักท่องเที่ยว

บ้านรักไทย
ภาพจาก Phongsak Meedaenphai / Shutterstock.com

          นอกจากนั้นยังได้ชมทิวทัศน์ของทิวเขาที่งดงาม ตลอดจนเพลินตาไปกับไร่ชาแบบขั้นบันไดไล่ระดับประทับใจยิ่งนัก พร้อมพักรับประทานอาหารตำรับจีนยูนนานจานเด็ด อาทิ ขาหมู-หมั่นโถว หมูพันปี ไก่ตุ๋นยาจีน ยำใบชาสด ชาอู่หลง ชาเจียวกู่หลัน ชายอดน้ำค้าง ชาดอกเหมย และของอร่อยอีกมากมาย รับรองว่ามาแล้วจะติดใจ

           ที่อยู่ : หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
           โทรศัพท์ : 08 1764 1376, 08 9557 2258, 08 1952 1383
 

อำเภอแม่สะเรียง


11. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่เหาะ


           เป็นทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามที่อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา อีกทั้งยังเป็นเส้นทางหลวงสายท่องเที่ยว เพื่อมุ่งสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอนอีกด้วย เมื่อผ่านมาบริเวณนี้คุณจะตระการตาไปกับดอกบัวตองสีเหลืองสดที่บานสะพรั่งรายล้อมข้างทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร จนอดใจไม่ไหวที่ต้องจอดแวะเก็บภาพประทับใจ แต่แม้จะดูสวยงามเพียงใด ทุ่งดอกบัวตองแห่งนี้ก็มักจะถูกมองเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองเสียมากกว่า

ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่เหาะ

          อย่างไรก็ตาม ดอยแม่เหาะแห่งนี้ยังมีที่เที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ อาทิ "น้ำตกแม่สวรรค์น้อย" ที่ยามเย็นจะมีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอยู่ที่ดอยหว่ากลึโจ๊ะ แถมในช่วงเช้ายังเป็นดินแดนแห่งทะเลหมอกที่สวยน่าชมอีกแห่งหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังมีบ้านพักโฮมสเตย์ สถานที่กางเต็นท์พักแรม รวมไปถึงร้านอาหาร และร้านกาแฟอีกด้วย หากมีโอกาสมาแม่ฮ่องสอนก็ขอฝากดอยแม่เหาะนี้ไว้ในใจอีกสักที่ รับรองว่าสวยไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในแม่ฮ่องสอนแน่นอนจ้า

           ที่อยู่ : บ้านแม่เหาะ (ถนนทางหลวงหมายเลข 108) ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เหมาะที่จะมาเที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
           โทรศัพท์ : 0 5368 7988 (องค์การบริการส่วนตำบลแม่เหาะ)
           เว็บไซต์ : องค์การบริการส่วนตำบลแม่เหาะ

อำเภอขุนยวม


12. อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์


           ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ บริเวณท้องที่อำเภอขุนยวมและอำเภอเมือง เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม สภาพพื้นที่เป็นป่าเขาเรียงรายสลับซับซ้อน มีภูเขาหินและหน้าผาน้อยใหญ่สูงชันในลักษณะที่แตกต่างกันและคล้ายกันหลายแห่ง นับเป็นสุดยอดน้ำตกที่สวยงามและมีความสูงมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน อันเป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ โดยลักษณะของน้ำตกที่นี่จะมีขนาดใหญ่ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลจากหน้าผาลงสู่หุบเขาด้านล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 100 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี

อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์

           โดยจะมีจุดชมน้ำตกอยู่ 2 แห่ง คือ ชมจากศาลาชมวิวบนยอดดอยที่ทางอุทยานเตรียมไว้ให้ โดยจะเห็นน้ำตกจากระยะไกล และจะได้ยินเสียงน้ำตกที่ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งผืนป่าที่ทำให้คุณต้องหลงใหลจนไม่อยากกลับเลยทีเดียว ส่วนอีกจุดจะใกล้ชิดกับน้ำตกมากกว่า แต่ต้องใช้เวลาและความพยายามในการเดินทางพอสมควร อีกทั้งจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเพราะอยู่ในหุบเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากสัมผัสความงามของน้ำตกแบบใกล้ ๆ อดทนเดินหน่อยคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกว่าไหมจ๊ะ

           ที่อยู่ : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สร.1 (น้ำตกแม่สุรินทร์) ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
           โทรศัพท์ : 0 5306 1073

13. ภูชี้เพ้อ


           ภูชี้เพ้อตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อำเภอขุนยวม ใกล้กับทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ในระดับความสูง 1,818 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ที่เพิ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเมื่อไม่นานมานี้ มีความน่าสนใจตรงที่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์และไอหมอกที่งดงามอีกแห่ง ตลอดจนมีทิวทัศน์ของขุนเขาอันสลับซับซ้อนที่สวยงาม ยิ่งเฉพาะในช่วงเวลาที่ดอกบัวตองบานคุณจะมองเห็นวิวทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอในมุมสูงที่บานเหลืองอร่ามทั่วดอย ช่างเป็นวิวที่ได้อารมณ์โรแมนติกมาก ๆ อย่างไรก็ตาม บนหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอดมีบ้านพักแต่ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ มีจุดกางเต็นท์แต่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก แนะนำให้พักตามที่พักหรือกางเต็นท์บริเวณทุ่งดอกบัวตองหรือในตัวอำเภอขุนยวมจะดีกว่า และอยากแนะนำอีกว่าให้เดินทางมาด้วยรถกระบะจะสะดวกกว่ารถเก๋ง เพราะเส้นทางบางช่วงมีความลาดชันไม่สามารถขึ้นไปได้จ้า

ภูชี้เพ้อ

           ที่อยู่ : หน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
           โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 0 5361 2982-3, 0 5361 2984

อำเภอปาย


14. หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน (สันติชล)


           เป็นหมู่บ้านชาวจีนที่อพยพถิ่นฐานมาจากจีนแผ่นดินใหญ่และมาตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอปาย และยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีแบบดั้งเดิมสืบเนื่องมาจวบจนทุกวันนี้ อาทิ การแต่งกาย ภาษา เป็นต้น ภายในหมู่บ้านมีลักษณะเป็นบ้านดินตั้งเรียงรายกันอยู่ มีก้อนหินสลักชื่อภาษาจีนตัวใหญ่ ๆ วางตระหง่านอยู่ มีร้านค้าของที่ระลึก รวมไปถึงมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ทั้งขี่ม้าพาชมทั่วหมู่บ้าน ถ่ายรูปกับมุมต่าง ๆ อย่างกำแพงเมืองจีนจำลอง ให้อาหารแพะ ตลอดจนทดสอบความกล้ากับการนั่งชิงช้าไม้โบราณที่นั่งได้หลายคนชวนหวาดเสียวได้ไม่น้อย หรือจะแวะให้ซินแสตรวจลมปราณ ตบท้ายด้วยการแวะลิ้มรสอาหารจานเด็ดของที่นี่ อาทิ ขาหมูหมั่นโถว ที่เป็นต้นตำรับของยูนนานโดยแท้ หรือจะเป็นชาหอมรสเยี่ยมกินคู่กันก็อร่อยเด็ดขั้นเทพ หากสนใจก็แวะมาชมทิวทัศน์ บรรยากาศของชุมชน รวมไปถึงภูมิปัญญาการสร้างที่อยู่อาศัยของชาวจีนยูนนานนี้ได้ตลอดนะจ๊ะ

หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน (สันติชล)

           ที่อยู่ : เลขที่ 77/1 หมู่ 5 ตำบลเวียงใต้ ห่างจากตัวเมืองปายประมาณ 4.5 กิโลเมตร เลยวัดน้ำฮูประมาณ 2 กิโลเมตร
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
           โทรศัพท์ : 08 1024 3982

15. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง


          ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก อีกทั้งยังสามารถมองเห็นดอยเชียงดาว และคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ ซึ่งทะเลหมอกที่ห้วยน้ำดังแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงดงามมาก จนได้รับการโหวตให้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวคุณจะได้พบกับดอกไม้ที่กำลังจะเบ่งบาน นับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามไม่สามารถหาที่ใดเปรียบได้ มากกว่านั้นอยากแนะนำให้แวะพระตำหนักเอื้องเงิน ชมไม้เมืองหนาวหลากสีสัน หรือจะไปดอยช้าง เพื่อดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และไปน้ำตกห้วยน้ำดัง น้ำตกแม่เย็น ให้ชุ่มฉ่ำปอดก่อนกลับบ้านกันด้วย

อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง

           ที่อยู่ : หมู่ที่ 5 ตำบลกื๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่  50150
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.
           โทรศัพท์ : 0 5326 3910

16. วัดศรีดอนชัย


          เป็นวัดแห่งแรกในอำเภอปาย ที่มีอายุราว ๆ 600 กว่าปี มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบล้านนา ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์ปาย พระพุทธรูปเก่าแก่เนื้อทองสำริดปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน สิงห์ยุคแรกมีอายุประมาณ 700-800 ปี ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านอย่างมาก โดยใน พ.ศ. 2124 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งทรงนำทหารมาฝึกที่เมืองปาย และได้เสด็จมาทรงสักการะพระสิงห์องค์นี้ด้วย อีกทั้งในช่วงวันสงกรานต์ทางวัดจะอัญเชิญพระสิงห์ปายออกมาให้ชาวบ้านได้สรงน้ำและสักการะเป็นประจำทุกปีอีกด้วย

           ที่อยู่ : เลขที่ 18 หมู่ที่ 8 ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06.00-18.00 น.
           โทรศัพท์ : 09 1079 4240
           เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก วัดศรีดอนชัย วัดแรกของอำเภอปาย

อำเภอแม่ลาน้อย


17. วนอุทยานแก้วโกมล (ถ้ำแก้วโกมล)


           ตั้งอยู่บริเวณเขาดอยถ้ำ เดิมชื่อ "ถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย" ภายในเต็มไปด้วยผลึกแร่แคลไซต์ที่ผนังและเพดานถ้ำ ผลึกมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกัน อาทิ ผลึกคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง ขนาดเล็ก ละเอียด สีขาว ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่สุดของถ้ำ โดยเฉพาะเวลาที่สะท้อนแสงไฟสวยงามจับใจมาก ๆ ผลึกคล้ายเกล็ดน้ำตาลหรือผลึกแร่ควอตซ์ ผลึกที่จับตัวกันคล้ายปะการัง ผ้าม่าน โคมไฟเพดาน ผลึกงอกและย้อยเป็นเสาและแท่ง

           โดยภายในถ้ำแบ่งเป็น 5 ห้อง ได้แก่ "ห้องพระทัยธาร" ซึ่งมีที่มาจากการที่น้ำในถ้ำละลายหินปูนไหลเหมือนเป็นธารน้ำตก, "วิมานเมฆ" ถูกตั้งขึ้นตามลักษณะของแร่ที่อยู่ตามเพดาน ลักษณะคล้ายปุยเมฆ, "เฉกหิมพานต์" เกิดจากจินตนาการของพระองค์ท่านที่มองแล้วเหมือนอยู่ในป่าหิมพานต์ตามวรรณคดี, "ม่านผาแก้ว" เป็นผลึกแก้วขาวใสที่เกาะอยู่คล้ายกับม่านเต็มถ้ำ และ "เพริศแพร้วมณีบุปผา" ถือว่าเป็นห้องที่งดงามที่สุดในถ้ำแก้วโกมล ที่เต็มไปด้วยผลึกแร่ที่ละเอียดเป็นรูปเข็มคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง เปราะบาง แตกหักง่าย ซึ่งถ้ำในลักษณะนี้สามารถพบได้เพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศจีน และประเทศไทย โดยมีค่าเข้าชมอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท อย่างไรก็ตาม มีข้อควรระวัง คือ ห้ามจับผนังถ้ำโดยเด็ดขาด เพราะถ้ำแก้วโกมลเป็นถ้ำที่มีผลึกแร่แคลไซต์ ซึ่งหากสัมผัสกับมนุษย์ก็จะทำปฏิกิริยากับโปรตีนในเหงื่อ ทำให้ดำและไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อีก ยังไงก็ขอความร่วมมือให้ช่วยกันรักษาความสวยงามนี้ไว้ให้คงอยู่กับเราต่อไปนาน ๆ นะจ๊ะ

           ที่อยู่ : หมู่ 14 บ้านห้วยมะไฟ ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.30-16.30 น.
           โทรศัพท์ : 08 1961 8848

อำเภอสบเมย


18. อุทยานแห่งชาติแม่เงา


           อุทยานแห่งชาติแม่เงา มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 257,650 ไร่ หรือ 412.24 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก สิ่งที่น่าสนใจของที่นี่คือ "กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่" ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่มีมาแล้วหลายปีบนแม่น้ำสายนี้ ปัจจุบันการล่องแพไม้ไผ่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เงาลงไปถึงสบเงา ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ช่วงที่ 2 คือ จากบ้านแม่หลุยถึงที่ทำการอุทยาน ใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง

          ส่วนช่วงสุดท้ายน่าสนใจเป็นพิเศษ คือ จากบ้านนาดอยถึงที่ทำการอุทยาน ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามที่หลากหลาย และได้พบกับความสนุกจากการผ่านเกาะแก่งกลางลำน้ำมากขึ้น จัดว่าเป็นการล่องแพไม้ไผ่ที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด โดยแม่น้ำเงาแห่งนี้เป็นสายน้ำที่อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติแม่เงา เป็นแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งมีความใสสะอาดมาก โดยเฉพาะในหน้าแล้งจะสามารถมองเห็นเงาที่สะท้อนอยู่ในน้ำได้ จึงเป็นที่มาของชื่อแม่น้ำ "เงา" นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสภาพป่าดงดิบริมฝั่งน้ำอันบริสุทธิ์งดงามที่หาพบได้ยากจากแม่น้ำอื่นอีกด้วย

           ที่อยู่ : หมู่ที่ 8 บ้านแม่เงา ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58110
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
           โทรศัพท์ : 0 5307 1471

19. ดอยพุ่ยโค


           "ดอยพุ่ยโค" หรือ "ดอยพุย" (ภาษาท้องถิ่นของชาวกะเหรี่ยง) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงที่ 1,406 เมตร จากระดับน้ำทะเล ห่างจากที่ว่าการอำเภอสบเมย ประมาณ 10 กิโลเมตร ดอยพุ่ยโคขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทอง มีวิวทิวทัศน์งดงามเหนือคำบรรยาย ผสานกับความอลังการของทะเลหมอกเกือบ 360 องศา ที่นี่สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน ในยามค่ำคืนจะมองเห็นดวงดาวสว่างไสวกระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า สามารถเดินเท้าขึ้นมาได้ไม่ไกล ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยอดดอย

          ทั้งนี้ อาจจะมีบางช่วงที่เป็นทางชัน แต่ถือว่าไม่ยากสำหรับนักเดินตัวยง ขึ้นไปแล้วจะหายเหนื่อยเพราะจะได้พบกับความสวยงามของทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า ขุนเขาที่เรียงตัวสลับโทนสี จนลืมระยะทางที่เดินขึ้นมาเลยล่ะจะบอกให้ หากต้องการชมทุ่งหญ้าสีทองแนะนำให้มาช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ นะจ๊ะ

           ที่อยู่ : บ้านอุมดาเหนือ ตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           โทรศัพท์ : 08 6117 7254

อำเภอปางมะผ้า


20. สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด (ถ้ำลอด)


           ถ้ำลอด เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงและเป็นที่เลื่องลือในความสวยงาม ถือเป็นผลงานอันวิจิตรสวยงามที่ส่งตรงมาจากธรรมชาติโดยแท้ ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เกิดขึ้นจากลำห้วยน้ำลาง ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของอำเภอปางมะผ้า โดยไหลลอดผ่านภูเขาทะลุออกสู่อีกด้านหนึ่งและได้มีการกัดเซาะรอยแยกของหินปูนมานานหลายล้านปี จนกลายเป็นหินงอกหินย้อยอันสวยงามแปลกตาให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน โดยภายในถูกแบ่งเป็นถ้ำย่อยอีก 3 ถ้ำ คือ "ถ้ำเสาหินหลวง" นั่งแพเข้าไปประมาณ 300 เมตร จะได้พบกับม่านหินย้อยหรือหินกากเพชร สะท้อนแสงระยิบระยับอยู่ภายใน ตลอดจนจะได้พบกับหินลักษณะเป็นแท่งคล้ายเสาตั้งตระหง่านอยู่ ณ ใจกลางถ้ำ เปรียบเสมือนเป็นเสาที่ค้ำเพดานถ้ำแห่งนี้เอาไว้

สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด (ถ้ำลอด)

           ลึกเข้าไปข้างในอีกหน่อยจะเป็น "ถ้ำตุ๊กตา" ประกอบไปด้วยหินรูปร่างประหลาดคล้ายตุ๊กตาเรียงรายอยู่ตามพื้นทั่วทั้งถ้ำ นอกจากนี้ยังมีภาพวาดโบราณที่วาดด้วยสีแดงและดำสมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุราว ๆ 2-3 พันปีเลยทีเดียว และถ้ำสุดท้ายคือ "ถ้ำผีแมน" จะเต็มไปด้วยโบราณวัตถุ อาทิ ภาชนะดินเผา กระดูกมนุษย์โบราณ เครื่องมือหินต่าง ๆ ฯลฯ รวมทั้งโลงผีแมน ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อนไม้ส่วนกลางเซาะร่องคล้ายเรือ เชื่อกันว่าใช้ฝังศพมนุษย์ในยุคโบราณ

           ที่อยู่ : บ้านถ้ำลอด หมู่ 1 ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
           เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.00 น.
           โทรศัพท์ : 0 5361 7218

           หากใครที่อยากหลีกหนีความแออัดในเมืองที่แสนจะวุ่นวาย มานอนเอนกายในดินแดนม่านหมอกสุดโรแมนติกเช่นนี้ ก็เตรียมแพ็กกระเป๋ารอได้เลย รับรองว่าความสุขของคุณจะผลิบานที่นี่ มาแอ่วแม่ฮ่องสอนกันเต๊อะเจ้า !

ขอบคุณข้อมูลจาก
maehongson.go.th, dnp.go.th, fca16mr.com, maeho.go.th, phuklon.co.th, watdoikongmu.com, เฟซบุ๊ก วัดศรีดอนชัย วัดแรกของอำเภอปาย, เฟซบุ๊ก ภูโคลน แม่ฮ่องสอน (แหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย) PHU KLON MUD SPA, เฟซบุ๊ก วัดพระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน (Phra That Doi Kong Mu Temple)

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
20 ที่เที่ยวแม่ฮ่องสอน ดินแดนเมืองสามหมอก อัปเดตล่าสุด 26 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17:54:12 334,635 อ่าน
TOP
x close