x close

15 ที่เที่ยววันหยุดยาว เตรียมจัดกระเป๋าไปเช็กอินที่เที่ยวไทย ไม่ใช่กรุงเทพฯ

          แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวไทยสวย ๆ สำหรับเป็นตัวเลือกในการไปเที่ยวพักผ่อนในวันหยุดยาว มีทั้งที่เที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรม เลือกกันได้ตามไลฟ์สไตล์ของตัวเอง
          วันหยุดยาวทั้งทีแต่ก็ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี...มาดูทางนี้ ขอจุดประกายไอเดียกันหน่อย สำหรับใครที่อยากออกไปเที่ยววันหยุดยาว เราได้รวบรวมแหล่งท่องเที่ยวไทยสวย ๆ มาฝากกัน เหมาะแก่การจัดทริปเที่ยวค้างคืน หรือเที่ยว 3 วัน 2 คืน ใครมีเวลามากกว่านั้นก็เที่ยวได้ จัดไปตามความสะดวก มีที่ไหนบ้างไปดูกัน

แนะนำที่เที่ยววันหยุดยาว

1. แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

          อุทยานแห่งชาติที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ครอบคลุมเนื้อที่มากกว่า 2,914.70 ตารางกิโลเมตร ในป่าแห่งนี้จึงมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย และยังเป็นป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ มีพืชพรรณและสัตว์ป่านานาชนิด อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ทั้งนี้กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวมักจะไปสนุกกันที่แก่งกระจาน ก็จะเป็นการนอนพักกางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำ ชมวิวภูเขา สายหมอก และพระอาทิตย์-ขึ้นลง เดินเล่นบนสะพานแขวน

          ใครมีเวลามากหน่อยก็เช่ารถกระบะของเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้านขึ้นไปยังเขาพะเนินทุ่ง แวะชมผีเสื้อที่แคมป์บ้านกร่าง และชมทะเลหมอกตามจุดชมวิวต่าง ๆ หรือถ้ามีกันแบบแฟมิลี่ทริป ก็มีรีสอร์ตที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเพชรบุรีให้บริการมากมาย ซึ่งมีทั้งเครื่องเล่นทางน้ำและพาล่องแพในแม่น้ำ ร่วมสนุกกันได้ทุกวัย

2. เที่ยวระยอง ไม่ใช่ทะเล

          ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่มีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปเช็กอินหลากหลายรูปแบบ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้ ขับรถไปกันเองชิล ๆ เที่ยวได้ทั้งครอบครัว ซึ่งนอกจากทะเลระยองแล้ว ในตัวจังหวัดระยองก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เที่ยวได้ทุกฤดู

ภาพจาก SUTHIN LODTHONG / Shutterstock.com

          แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ สวนผลไม้ต่าง ๆ, ตลาดโบราณเกาะกลอย, ทุ่งโปรงทอง, ปากน้ำประแส, อ่างเก็บน้ำดอกกราย, ถนนยมจินดา, สะพานรักษ์แสม, สวนหอมมีสุข, สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำระยอง, สตรอเบอรี่ ทาวน์, น้ำตกเขาชะเมา, พระเจดีย์กลางน้ำ และอุทยานสุนทรภู่ เป็นต้น

3. แก่นมะกรูด จังหวัดอุทัยธานี

          ตำบลเล็ก ๆ ในอำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี ตั้งอยู่ใกล้กับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร-ห้วยขาแข้ง จึงทำให้หมู่บ้านในตำบลนี้มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีวิวทิวทัศน์ของขุนเขาที่สวยงาม อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน และหน้าหนาว จะมีทะเลหมอกสีขาวคลอเคลียเต็มยอดเขา ยิ่งถ้าเป็นหน้าหนาว อากาศก็จะหนาวจนถึงขั้นปลุกดอกไม้เมืองหนาวได้ตลอดทั้งฤดูกาล จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด

          ภายในตำบลแก่นมะกรูดจะมีจุดให้นักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์ได้ มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟให้บริการในช่วงวันหยุดยาว และยังมีโฮมสเตย์ของชาวบ้านให้บริการด้วย

4. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี

          เป็นอำเภอที่ครบเครื่องเรื่องธรรมชาติและวัฒนธรรม โดดเด่นด้วยวิถีชีวิตของคน 3 เชื้อชาติ ได้แก่ ไทย มอญ และกะเหรี่ยง ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข พร้อมกับธรรมชาติที่สวยงาม เงียบสงบ อากาศบริสุทธิ์สดชื่น เหมาะแก่การพาร่างกายมาเติมพลังงานดี ๆ

          แหล่งท่องเที่ยวสังขละบุรีที่น่าสนใจ อาทิ สะพานมอญ (สะพานอุตตมานุสรณ์), เมืองบาดาล, วัดวังก์วิเวการาม (ใหม่), เจดีย์พุทธคยา, ถนนคนเดินสังขละบุรี, ด่านเจดีย์สามองค์, น้ำตกไดช่องถ่อง, จุดชมวิวป้อมปี่, น้ำตกเกริงกระเวีย, น้ำตกนพพิบูลย์, ล่องแพลำน้ำซองกาเลีย และเขาสันหนอกวัว เป็นต้น

5. เขาค้อ-ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

          ที่เที่ยวภูเขาที่สามารถไปเที่ยวได้ตลอดทั้งปี อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมากกว่า 1,000 เมตร เต็มไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่ วิวทิวทัศน์สวยงามจับตา โดยเฉพาะทะเลหมอก ที่มักจะโผล่มาทักทายกันตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ฤดูฝน มีมากมีน้อยแตกต่างกันไปในทุกวัน แต่ถ้ามาวันที่ฝนตกช่วงกลางคืนแล้วหยุดตกตอนเช้ามืด ก็เตรียมตัวชมทะเลหมอกแบบอลังการกันได้เลย ยิ่งถ้าเป็นช่วงหน้าหนาว อากาศก็จะหนาวจับใจ บรรยากาศคล้ายกับสวิตเซอร์แลนด์เลยล่ะ

          ที่เที่ยวเขาค้อที่น่าสนใจ อาทิ พระตำหนักเขาค้อ, จุดชมวิวยอดเขาย่า, วัดผาซ่อนแก้ว, พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก, อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ, พิพิธภัณฑ์อาวุธ ฐานยิงสนับสนุนอิทธิ, น้ำตกศรีดิษฐ์ และจุดชมวิวเขาตะเคียนโง๊ะ เป็นต้น
          ส่วนทางฝั่ง “ภูทับเบิก” จุดเช็กอินที่เป็นไฮไลต์จะอยู่ที่อาคารหอดูดาวและที่วัดอุณหภูมิภูทับเบิก ซึ่งสามารถขับรถเที่ยวชมไร่กะหล่ำปลีและหมู่บ้านโดยรอบได้

6. แม่สาย จังหวัดเชียงราย

          อำเภอที่สำคัญของเชียงราย ด้วยเป็นเขตติดต่อกับประเทศเมียนมา จึงเป็นทั้งเมืองค้าขายและเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจริง ๆ แล้วแม่สายมีแหล่งท่องเที่ยวให้ไปเที่ยวชมหลากหลายรูปแบบ ทั้งวัดวาอาราม ตลาดขายสินค้าราคาถูก ชุมชนวัฒนธรรม และที่เที่ยวธรรมชาติ ถ้าใครชอบเที่ยวบรรยากาศเมือง ชอบช้อปปิ้ง ก็สามารถไปเที่ยวได้ทางฝั่งตำบลเวียงพางคำ ใกล้ ๆ กับด่านท่าขี้เหล็ก จะมีตลาดชายแดน จำหน่ายสินค้าราคาถูกมากมาย มีวัดพระธาตุดอยเวาให้ไปกราบไหว้พระขอพร ใครที่ชอบงานสตรีตอาร์ตก็มีถนนแม่สายสตรีตอาร์ต (ซอยเทศบาล 8) ให้ไปถ่ายรูปสวย ๆ
          ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่โดดเด่น ก็ต้องเป็นวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ถ้ำขนาดใหญ่ที่โด่งดังจากเหตุการณ์ตามล่าหาโค้ชและเด็ก ๆ ทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี ซึ่งจะเปิดให้เข้าเที่ยวชมในช่วงหน้าร้อน แต่ที่ด้านหน้าถ้ำจะมีสระขุนน้ำมรกตให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี

           อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่กำลังได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ก็คือ หมู่บ้านผาหมี และ หมู่บ้านผาฮี้ เป็นหมู่บ้านที่อยู่ด้านบนดอยนางนอน บรรยากาศเงียบสงบ วิวสวยมาก อีกทั้งยังมีกาแฟอร่อย ๆ ให้ชิมลิ้มลองกันอย่างจุใจ ใครอยากพักผ่อนเบา ๆ กับธรรมชาติ หมู่บ้านเหล่านี้ก็เป็นคำตอบที่ดีทีเดียว  

7. ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย

          อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติสวย ๆ ของเชียงราย ตั้งอยู่ที่ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย เหมาะสำหรับคนที่อยากหาที่เที่ยวใหม่ ๆ เพราะที่นี่ยังไม่ค่อยได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากนัก บรรยากาศจึงสดใหม่ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านที่แท้จริง และที่สำคัญที่นี่เป็นแหล่งปลูกกาแฟอาราบิก้าชื่อดังของเมืองไทย ใครที่เป็นคอกาแฟจะถูกใจแน่นอน ไม่เพียงเท่านั้นบนดอยแห่งนี้ยังมีวิวทิวทัศน์ของขุนเขาที่สวยงาม มีทะเลหมอกให้ได้ชมกันอยู่เรื่อย ๆ ในช่วงหน้าฝนจนถึงปลายฤดูหนาว บรรยากาศดีจนทำให้ใครหลายคนไม่อยากกลับบ้านกันเลยทีเดียว

8. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

          ที่เที่ยวธรรมชาติและวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาน้อยใหญ่มากมาย ซึ่งทำให้เมืองแม่แจ่มเป็นเมืองแห่งธรรมชาติอย่างแท้จริง และยิ่งถ้าใครอยากเห็นนาข้าวขั้นบันไดสวย ๆ ก็มีบ้านป่าบงเปียง หมู่บ้านบนเขาสูงที่ทำนาข้าวขั้นบันไดกว้างใหญ่ให้ไปเที่ยวชม มีโฮมสเตย์ของชาวบ้านรองรับ

          นอกจากนี้ก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวแม่แจ่มอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนาขั้นบันไดบ้านตีนผา, วัดป่าแดด, วัดยางหลวง, วัดพุทธเอ้น, หมู่บ้านหัตถกรรมผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม, นาขั้นบันไดบ้านกองกาน, สถานีทดลองเกษตรที่สูงแม่จอนหลวง, วัดกองกาน, น้ำออกฮู, บ้านแม่ลอง, ดอยม่อนหมาก, สวนป่าแม่แจ่ม และสะพานโตงเตง เป็นต้น

9. เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่

          ที่เที่ยวภูเขาที่โดดเด่นอีกแห่งของเชียงใหม่ ไฮไลต์ของอำเภอเชียงดาวก็คือ ยอดดอยหลวงเชียงดาว มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติให้ไปท้าวัดใจกันด้วย แต่ถ้าใครปีนเขา เดินป่าระยะไกลไม่ไหว ก็ยังสามารถที่จะดื่มด่ำกับธรรมชาติสวย ๆ ในอำเภอเชียงดาวได้เช่นกัน

          แหล่งท่องเที่ยวเชียงดาวที่น่าสนใจ อาทิ วัดถ้ำเชียงดาว, บ้านนาเลาใหม่, บ้านแม่แมะ, แก่งปันเต๊า, บ่อน้ำร้อนโป่งอ่าง, พระธาตุสามเงา วัดปางมะโอ, บ้านอรุโณทัย, เมืองคอง, พระสถูปเจดีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชานุสรณ์, ดอยค้ำฟ้า, ปางช้างเชียงดาว, ผาแดง, สวนองุ่นนิศาชล และกิ่วผาวอก เป็นต้น

10. เขาใหญ่-วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

          ที่เที่ยวธรรมชาติที่อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ราว ๆ 3-4 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งนอกจากผืนป่ากว้างใหญ่แล้ว ก็ยังมีที่เที่ยวสวย ๆ ที่อยู่รอบ ๆ อีกเพียบ จะเริ่มเที่ยวจากทางฝั่งอำเภอวังน้ำเขียว ไล่มาทางฝั่งอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อำเภอปากช่อง ก็ได้ หรือใครจะเที่ยวสลับเส้นทาง เที่ยวมาจากทางฝั่งมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี แล้วไล่เข้ามาทางปากช่อง ไปออกที่วังน้ำเขียว แล้วกลับกรุงเทพฯ ก็ได้
          ใครที่ชอบนอนเต็นท์ก็แนะนำให้เข้าไปเที่ยวพักผ่อนกางเต็นท์กันภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่ถ้าใครไม่สะดวกก็มีที่พักหลากหลายระดับให้เลือกพักผ่อนอยู่รอบ ๆ

          ที่เที่ยวเขาใหญ่ที่น่าสนใจ อาทิ ไร่องุ่นพีบี วัลเล่ย์, สวนซ่อนศิลป์, The Bloom, The Pete Maze, เขาใหญ่ พาโนรามา ฟาร์ม,  เขาใหญ่ อาร์ต มิวเซียม, Scenical World Khao Yai, ปาลิโอ เขาใหญ่, The Birder’s Lodge, ทองสมบูรณ์คลับ, ฟาร์มโชคชัย และพรีโม เพียซซ่า เป็นต้น

เที่ยวเขาใหญ่ ในวันที่อากาศเย็น ๆ ชมวิวสวย ๆ

          ส่วนที่เที่ยววังน้ำเขียวที่น่าสนใจ อาทิ อ่างเก็บน้ำบ้านสันกำแพง,  A Cup of Love, มอนทาน่า ฟาร์ม วังน้ำเขียว, The Little Garden, วิลเลจฟาร์ม แอนด์ ไวน์เนอรี่, สวนองุ่นพันเก้า, สวนภูมิพฤกษา, ผาเก็บตะวัน อุทยานแห่งชาติทับลาน, สวนลุงไกร, เขาแผงม้า, รักจังเมล่อนฟาร์ม และน้ำตกม่านฟ้า เป็นต้น 

11. ไหว้พระอ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท

          เส้นทางบุญที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ โดยทั้ง 3 จังหวัดนี้มีวัดเด่นดังที่น่าสนใจอยู่ไม่ไกลกันมากนัก เหมาะที่จะพาคุณพ่อคุณแม่ และสมาชิกในครอบครัวไปเที่ยวชิล ๆ

          โดยสามารถเริ่มกันได้จากฝั่งจังหวัดอ่างทอง กับวัดท่าสุทธาวาส, วัดจันทรังษี, วัดต้นสน, วัดม่วง, วัดเขียน ไล่ขึ้นไปที่วัดขุนอินทประมูล และวัดไชโยวรวิหาร จากนั้นเข้าสู่จังหวัดสิงห์บุรี เริ่มกันด้วยวัดพิกุลทอง พระอารามหลวง ต่อด้วยวัดโพธิ์เก้าต้น, วัดพระนอนจักรสีห์วรวิหาร, วัดหน้าพระธาตุ, วัดสว่างอารมณ์, วัดม่วงชุม และวัดกระดังงาบุปผาราม แล้วไปปิดท้ายด้วยวัดไทร ขับรถเที่ยวเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบ เด็กก็เที่ยวได้ ผู้ใหญ่ก็เที่ยวดี

12. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

          สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่าเขื่อนรัชชประภา มีพื้นที่ส่วนหนึ่งอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาสก จึงทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งเรียกที่นี่ว่า เขาสก และยังขนานนามให้ที่นี่เป็นกุ้ยหลินเมืองไทย ด้วยมีภูเขาหินปูนสูงใหญ่ รูปร่างสวยงามแปลกตา ตั้งตระหง่านอยู่กลางเขื่อน วันไหนอากาศเป็นใจก็มีสายหมอกสีขาวมาคลอเคลียอยู่เหนือยอดเขา บรรยากาศสวยงามมาก

ภาพจาก tingsriton chairat / Shutterstock.com

          ทั้งนี้เสน่ห์ของเขื่อนเชี่ยวหลาน ยังอยู่ที่น้ำสุดเย็นฉ่ำสีเขียวมรกตใส สามารถกระโดดเล่นน้ำกันได้จุใจ มีแพที่พักให้บริการหลากหลายรูปแบบ ทั้งแพที่พักธรรมดา ๆ กับเพที่พักสุดหรูหรา แต่ทั้งหมดก็ล้วนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงาม เพียงได้พาตัวเองมานอนพักผ่อน สูดอากาศดี ๆ กันสักค่ำคืน ก็ฟินแล้ว

13. เชียงกลาง จังหวัดน่าน

          อำเภอเชียงกลาง เป็นอีกอำเภอที่น่าเที่ยวของจังหวัดน่าน นักท่องเที่ยวยังให้ความสนใจน้อย จึงทำให้ธรรมชาติยังคงสดใหม่ วิถีชีวิตของชาวบ้านยังเป็นไปตามแบบดั้งเดิม ไม่ถูกผสมผสานกับวัฒนธรรมใหม่ ๆ ที่นี่โดดเด่นด้วยวิวทิวทัศน์ของทุ่งนากว้างใหญ่ และขุนเขาสีเขียวสลับซับซ้อน เหมาะแก่การพาตัวเองมาใช้ชีวิตสโลวไลฟ์สักวันสองวัน

          ที่เที่ยวเชียงกลางที่น่าสนใจ อาทิ พระธาตุจอมกิตติ, สะพานสายรุ้ง, โบราณสถานวิหารไทลื้อ วัดหนองแดง, โรงยาสูบ, วัดรัชดา, น้ำตกตาดม่าน, ตลาดเทศบาลตำบลเชียงกลาง, แก่งสะม้าเก้าบั้ง, พระพุทธบาทจำลอง, อ่างน้ำเลียบ, ฝายน้ำกอน, ไร่จุฑามาศ และพระธาตุดอนแก้ว เป็นต้น

14. เมืองเก่าสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

          ถ้าชอบประวัติศาสตร์ ต้องไม่พลาดไปเที่ยวชมโบราณสถานอายุหลายร้อยปีกันที่อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ซึ่งครอบคลุมเนื้อที่มากกว่า 70 ตารางกิโลเมตร แต่ละแห่งกระจายตัวกันออกไป บางแห่งก็อยู่ใจกลางทุ่งนา บรรยากาศสวยงามมาก เหมาะแก่การขี่จักรยานเที่ยวชมชิล ๆ

          โดยมีจุดเช็กอินที่น่าสนใจ อาทิ วัดมหาธาตุ, วัดชนะสงคราม, วัดตระพังเงิน, วัดสระศรี, วัดศรีสวาย, แหล่งโบราณคดีเครื่องปั้นดินเผาสุโขทัย (เตาทุเรียง), วัดพระพายหลวง, วัดศรีชุม, วัดช้างรอบ, วัดสะพานหิน, วัดช้างล้อม และวัดตระพังทองหลาง เป็นต้น

15. ภูเรือ จังหวัดเลย

          สถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ที่ได้ชื่อว่าเป็นยอดดอยที่หนาวที่สุดยอดหนึ่งของเมืองไทย โดยตั้งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 1,365 เมตร อากาศจึงเย็นสบายน่าเที่ยวตลอดทั้งปี ยิ่งช่วงหน้าฝนและหน้าหนาว อากาศจะเย็นมากกว่าปกติ บางวันในช่วงหน้าหนาวอากาศก็ติดลบ มีทะเลหมอกสวยตระการตาให้ได้ชมอยู่ตลอด สามารถมานอนกางเต็นท์รอชมพระอาทิตย์ขึ้นได้ด้วย

          ทั้งนี้ก็มีแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้กับอุทยานแห่งชาติภูเรืออีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นวัดป่าห้วยลาด, สถานีทดลองเกษตรที่สูงภูเรือ, จุดชมวิวเดโช, น้ำตกปลาบ่า, ภูโปก, น้ำตกแก่งเกลี้ยง และภูบักได เป็นต้น

          ทั้งหมดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยววันหยุดยาวที่สามารถไปเที่ยวกันได้ทุกฤดูกาล ร้อนก็เที่ยวได้ ฝนก็เที่ยวดี ยิ่งหนาวยิ่งสวยไปใหญ่ ใครกำลังวางแผนสำหรับการเที่ยวในวันหยุดยาวครั้งหน้า ก็ลองพิจารณาที่เที่ยวเหล่านี้กันนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก : park.dnp.go.th, sukhothai.go.th และ park.dnp.go.th
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
15 ที่เที่ยววันหยุดยาว เตรียมจัดกระเป๋าไปเช็กอินที่เที่ยวไทย ไม่ใช่กรุงเทพฯ อัปเดตล่าสุด 27 กรกฎาคม 2566 เวลา 10:21:45 59,219 อ่าน
TOP