แนะนำที่เที่ยววันหยุดยาว หลายคนคงจะมีแพลนเที่ยวที่อยากไป แต่สำหรับบางคนที่ยังไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนดี เรารวมสถานที่ท่องเที่ยวมาให้เลือกกัน
วันหยุดคือช่วงเวลาที่มีความสุขของคนชอบเที่ยว แค่ได้ดูปฏิทินแล้วรู้ว่ามีวันหยุดมากกว่าปกติ ก็เริ่มหาแพลนที่เที่ยวแล้ว แต่จะไปไหนดีล่ะ เพราะประเทศไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ทั้งทะเล ภูเขา น้ำตก สวนดอกไม้ สวนผลไม้ โฮมสเตย์สวย ๆ อีกเพียบ เอาเป็นว่าใครที่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวไหนดี ลองดูไอเดียสถานที่เที่ยววันหยุดยาวของเรา ชอบเที่ยวแบบไหน เลือกไปแบบนั้นได้เลย ส่วนจะมีที่ไหนบ้าง ไปดูกัน
ที่เที่ยววันหยุดยาว
1. เกาะมัดสุม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ทางใต้ของเกาะสมุย สามารถใช้บริการเรือหางยาวของชาวบ้านหรือเรือสปีดโบ๊ทจากเกาะสมุยมาที่เกาะมัดสุมได้ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เกาะนี้มีรูปร่างแคบ ไม่ใหญ่มาก สามารถเดินเท้าจากฝั่งหนึ่งไปยังอีกฝั่งของเกาะได้เลย เกาะมัดสุมถือว่าเป็นเกาะที่ธรรมชาติยังอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ต้นไม้เขียวร่มรื่น หาดทรายขาวเนียนนุ่ม ปะการังใต้น้ำก็ยังสมบูรณ์และสวยงาม บนเกาะมีร้านอาหาร ร้านขายเครื่องดื่ม และที่นั่งริมหาดให้พักผ่อนอย่างผ่อนคลาย พร้อมเพลิดเพลินไปกับเสียงคลื่นที่ซัดสาด
และอีกหนึ่งความน่ารักที่ทำให้เกาะมัดสุมเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวก็คือ เหล่าหมูตัวน้อยที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ และเป็นกันเองมาก ๆ น้องจะเดินเล่นอยู่ตามชายหาดเพื่อขออาหารจากนักท่องเที่ยว และให้ถ่ายรูปน่ารัก ๆ แบบใกล้ชิดสุด ๆ ไปเลย จนทำให้หลายคนเรียกเกาะนี้ว่า เกาะหมู ไปโดยปริยาย กิจกรรมเมื่อมาที่เกาะมัดสุม หรือเกาะหมูนี้ นอกจากจะเล่นกับหมูแล้ว ยังสามารถเล่นน้ำทะเล ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น พายเรือคายัก เรือแคนู และเช่าเจ็ตสกีขี่เล่นได้ด้วย
2. เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะสวรรค์ที่สวยงามและเงียบสงบ เหมาะมากสำหรับคนที่ต้องการมาพักผ่อนในวันหยุดยาว ตัวเกาะนางยวนประกอบด้วยเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะ เชื่อมกันด้วยสันทรายสีขาวละเอียด ทำให้มีอ่าวเล็ก ๆ เหมือนเป็นอ่าวส่วนตัวถึง 3 อ่าว ใต้ทะเลรอบเกาะนางยวนมีแนวปะการังที่สมบูรณ์และปลาสวยงามมากมาย
ไฮไลต์ที่โดดเด่นมากสำหรับเกาะนางยวน คือ จุดชมวิว ระยะทางเดินขึ้นเขาประมาณ 10-15 นาที เดินง่ายและสะดวกเพราะเป็นทางปูนเรียบ เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนจะได้พบกับวิวที่สามารถเห็นทั้ง 3 เกาะเชื่อมต่อกัน และเป็นจุดที่สามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้บนหาดเดียวกัน นับว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่เกาะนางยวนนิยมไปเที่ยวที่เกาะเต่าคู่กันด้วย เพราะอยู่ใกล้กัน ใช้เวลานั่งเรือแค่ 10-15 นาทีก็ถึงแล้ว
3. หมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา
คนที่ชอบดำน้ำชมความสวยงามใต้ท้องทะเล ไม่ควรพลาดที่นี่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เพราะเป็นหมู่เกาะที่ยังมีธรรมชาติที่สวยงามและสมบูรณ์ มีปะการังหลากหลายชนิด เช่น ปะการังเขากวาง ปะการังสมอง ปะการังผักกาด ดอกไม้ทะเล และยังมีปลาทะเลสวยงามอีกมากมาย เช่น ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน ปลาสิงโต นอกจากนี้ยังพบสัตว์ทะเลหายากอย่าง เต่าทะเล ฉลามวาฬ และปลากระเบน ที่หมู่เกาะนี้อีกด้วย
อีกกิจกรรมหนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวที่หมู่เกาะสุรินทร์ คือ การไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวมอแกน ชนกลุ่มน้อยที่มีวิถีชีวิตที่ผูกพันกับท้องทะเลผืนนี้มาหลายชั่วอายุคน ดูการใช้ชีวิตและบ้านไม้กลางทะเลหลังสมถะที่เข้ากับธรรมชาติได้อย่างลงตัว
4. เกาะพยาม จังหวัดระนอง
จุดหมายในวันหยุดยาวของนักท่องเที่ยวหลายคน เกาะพยามเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของจังหวัดระนอง รองจากเกาะช้าง มีพื้นที่ประมาณ 35 กิโลเมตร และมีชาวบ้านท้องถิ่นอาศัยอยู่ประมาณ 160 ครัวเรือน บริเวณรอบเกาะจะเป็นหาดทรายสลับโขดหิน เหมาะสำหรับนั่งนอน เล่นน้ำทะเล พักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติ ส่วนด้านในตรงกลางเกาะจะเป็นภูเขา มีป่าไม้อุดมสมบูรณ์ และมักจะเจอสัตว์ป่าหายาก เช่น ลิง หมูป่า หรือเหยี่ยวแดง ออกมาปรากฏตัวให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง มีที่พักรีสอร์ตให้บริการ ไฮไลต์สำคัญของเกาะพยามที่มีเสน่ห์คล้ายกับทะเลมัลดีฟส์ของต่างประเทศ คือน้ำทะเลสวยใสที่สะท้อนยามต้องกับแสงแดด เป็นประกายระยิบระยับ ตัดกับท้องฟ้าสีสดใสนั่นเอง
5. ทะเลแหวก จังหวัดกระบี่
Unseen Thailand อีกหนึ่งสถานที่สำหรับทะเลแหวก ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดจากกระแสน้ำขึ้น-น้ำลง เมื่อน้ำลดลงต่ำสุดของแต่ละวัน จะเกิดเป็นสันทรายขาวละเอียดทอดแนวยาวเชื่อมเกาะเล็ก ๆ 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ เข้าไว้ด้วยกัน สามารถเดินถึงกันได้ และเมื่อน้ำขึ้นทะเลแหวกนี้ก็จะหายไป จุดนี้นับเป็นสถานที่ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมทัศนียภาพที่สวยงาม
นอกจากทะเลแหวกแล้ว จังหวัดกระบี่ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมายที่สามารถไปเที่ยวได้ในช่วงวันหยุดยาว เช่น โปรแกรมนั่งเรือหางยาวชม 9 เกาะ เช่น หมู่เกาะพีพี หาดไร่เลย์ เกาะไก่ สระมรกต และท่าปอมคลองสองน้ำ เป็นต้น
6. เกาะหมาก จังหวัดตราด
ไข่มุกเม็ดงามของทะเลตะวันออก ตั้งอยู่ที่อำเภอเกาะหมาก จังหวัดตราด สถานที่ท่องเที่ยวสำหรับวันหยุดยาวที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการไปพักผ่อนและผ่อนคลาย เพราะเกาะหมากเป็นเกาะที่เงียบสงบ มีธรรมชาติที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ หาดทรายสีขาวเนียนนุ่มละเอียด คลื่นน้ำทะเลใส ตัดกับท้องฟ้าสีคราม บรรยากาศน่าไปเที่ยวพักผ่อนมาก ๆ กิจกรรมบนเกาะหมากมีตั้งแต่นั่งนอนเล่นชิล ๆ เล่นน้ำทะเล ดำน้ำตื้นชมปะการังสีสวย ปั่นจักรยานชมธรรมชาติรอบเกาะ หรือจะพายเรือคายักกันเพลิน ๆ ก็ได้
7. หินสามวาฬ จังหวัดบึงกาฬ
แหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ตั้งอยู่ในพื้นที่อนุรักษ์เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และป่าดงสีชมพู อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ ลักษณะของหินสามวาฬจะเป็นหินขนาดใหญ่ 3 ก้อน รูปร่างคล้ายปลาวาฬ 3 ตัวพ่อแม่ลูก เรียงกันตรงหน้าผา เป็นจุดชมวิวที่สวยและดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมทัศนียภาพที่สวยงามและแปลกตา
นอกจากหินสามวาฬแล้ว พื้นที่ป่าภูสิงห์ยังมีจุดท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยาของเปลือกโลกอย่างการเรียงหิน หน้าผา หินและพื้นดินรูปทรงต่าง ๆ อีกมากมาย เช่น ลานธรรมภูสิงห์ จุดชมวิวถ้ำฤาษี ส้างร้อยบ่อ หินหัวช้าง และกำแพงหินภูสิงห์ เป็นต้น
8. บ้านกลางดอย โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย
โฮมสเตย์บ้านสวนที่รับรองว่าไปพักแล้วเหมือนเวลาจะหยุดนิ่งไปเลย กับ “บ้านกลางดอย” บ้านพักท่ามกลางธรรมชาติที่ห่างจากโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น ต้องใช้รถกระบะขับขึ้นเขาไปประมาณ 3 กิโลเมตร ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวก เช่น ตู้เย็น ทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น แต่มีไฟฟ้าที่ได้จากแผงโซลาร์เซลล์ที่สามารถใช้งานพัดลมหรือชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ กล้องได้ ตัวบ้านเป็น 2 ห้อง 1 ห้องน้ำ สามารถพักได้ไม่เกิน 7 คน สัญญาณโทรศัพท์มีแค่บางเครือข่ายเท่านั้น เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบธรรมชาติ และต้องการความเงียบสงบเป็นที่สุด
9. แกรนด์แคนยอน จังหวัดราชบุรี
แลนด์มาร์กใหม่ของจังหวัดราชบุรี ตั้งอยู่ในอำเภอจอมบึง จังหวัดราชบุรี เป็นพื้นที่โรงขุดโม่หินมาก่อน มีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่สะท้อนวิวภูเขาลูกใหญ่ จนกลายมาเป็นมุมเช็กอินใหม่ที่สายโซเชียลทั้งหลายต้องมา ด้วยภูเขาหินสูงตระหง่าน สลับกับแอ่งน้ำสีเขียวยามสะท้อนแสงอาทิตย์ พื้นดินบางส่วนมีการยุบตัวเป็นรูปทรงสวยแปลกตา และมีริ้วลายที่ถูกลมและน้ำกัดเซาะจนกลายเป็นความสวยงามตามธรรมชาติที่สร้างสรรค์กันอย่างวิจิตร ถ้ามาตอนเช้าตรู่หรือเย็นย่ำ แสงอาทิตย์อ่อน ๆ ตกกระทบพื้นดินและพื้นน้ำ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเดินอยู่ที่แกรนด์แคนยอนของต่างประเทศกันเลยทีเดียว
นอกจากแกรนด์แคนยอนแล้ว จังหวัดราชบุรีก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับวันหยุดยาว เช่น สวนผึ้ง ตลาดโอ๊ะป่อย ฟาร์มแกะ สวนดอกไม้ นอกจากนี้ยังมีที่พักสวย ๆ ร้านอาหาร และร้านกาแฟเก๋ ๆ อีกมากมายรอให้สายโซเชียลทั้งหลายไปเช็กอินกัน
10. สวนทุเรียนบ้านแซงลึก (วิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรชุมชนรักเขาบายศรี) จังหวัดจันทบุรี
ชุมชนรักษ์เขาบายศรี เป็นชุมชมเก่าแก่ของตำบลเขาบายศรี อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี ได้จัดทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยเป็นความร่วมมือกันของสมาชิกในชุมนุม เปิดสวนผลไม้ของชาวบ้านให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางด้านเกษตรกรรม นักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมชิมผลไม้สด ๆ จากสวนของชาวบ้าน และยังมีต้นไม้โบราณอายุกว่า 100 ปี อย่างต้นมังคุดโบราณ และต้นทุเรียนโบราณ ให้เดินชม นอกจากนี้ยังเปิดเป็นโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการจะมาเรียนรู้และใช้ชีวิตชาวสวนผลไม้อีกด้วย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ชุมชนรักษ์เขาบายศรี
11. นั่งรถม้าเที่ยวเมืองลำปาง
จังหวัดเก่าแก่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ชาวสโลว์ไลฟ์ต้องตกหลุมรักเมืองลำปางนี้ เพราะเป็นเมืองที่มีความสวยงาม เงียบสงบ เต็มไปด้วยศิลปะทางวัฒนธรรมล้านนาที่เก่าแก่และงดงาม นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการนั่งรถม้าชมเมืองดูวิถีชีวิตผู้คนและตึกอาคารบ้านเรือนสมัยเก่า รวมถึงวัดวาอารามคู่บ้านคู่เมืองอย่างวัดพระธาตุลำปางหลวง วัดพระเจดีย์ซาวหลัง วัดศรีชุม วัดศรีรองเมือง วัดม่อนปู่ยักษ์ และวัดปงสนุก นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ อีกมากมาย เช่น สะพานรัษฎาภิเศก หรือสะพานขาว สะพานแขวนเทศบาลเมืองลำปาง (สะพานส้ม) และถนนคนเดินตลาดกองต้า เป็นต้น
12. เที่ยวเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์
คำว่า ลับแล หมายถึง มองไม่เห็น แต่สำหรับอำเภอลับแลนั้น ควรไปเห็นด้วยตา เพราะเป็นอำเภอเล็ก ๆ ที่อัดแน่นไปด้วยวัฒนธรรม วิถีชีวิต และความเป็นอยู่แบบท้องถิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวทางศาสนาที่เป็นที่รู้จัก เช่น วัดพระแท่นศิลาอาสน์ ซึ่งเป็นปูชนียวัตถุที่สำคัญของจังหวัด วัดดอนสัก และวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง รวมถึงมีน้ำตกสวย ๆ อย่างน้ำตกแม่พูล แม้จะเป็นน้ำตกที่เกิดจากการตกแต่งธารน้ำ แต่ก็มีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติเลยทีเดียว และสำหรับสายกินก็ไม่ต้องกลัวไป เพราะของขึ้นชื่อมากของอำเภอเมืองลับแลนี้ก็คือ ทุเรียนพันธุ์หลงลับแล-หลินลับแล ที่โดดเด่นมากในเรื่องของรสชาติและกลิ่นที่หอมหวาน
13. สามพันโบก จังหวัดอุบลราชธานี
มหัศจรรย์แก่งหินน้อยใหญ่จำนวนมากในแม่น้ำโขงตั้งอยู่ในอำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี ลักษณะเป็นแอ่ง แก่ง และหลุมหินจำนวนมากกว่า 3,000 แอ่ง ซึ่งคำว่า โบก เป็นภาษาลาว แปลว่า แอ่ง ดังนั้นชื่อเรียกก็มีที่มาจาก แอ่งจำนวน 3,000 แอ่งนั่นเอง เนินแก่งหินเหล่านี้เกิดขึ้นจากการกัดเซาะของน้ำในช่วงฤดูน้ำหลาก และจะปรากฏให้เห็นในช่วงฤดูแล้งที่น้ำในแม่น้ำโขงลดลง ประมาณเดือนมกราคม-เมษายน ของทุกปีนั่นเอง โดยความสวยงามของสามพันโบกอยู่ที่แก่งหินรูปร่างและขนาดต่าง ๆ เช่น แก่งมิกกี้เมาส์ แก่งรูปดาว และหินหัวสุนัข เป็นต้น
14. วัดบ้านเด่น จังหวัดเชียงใหม่
วัดนี้มีชื่อเต็มว่า วัดเด่นสะหรีศรีเมืองแกน เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่สร้างบนเนินซึ่งมีถ้ำศักดิ์สิทธิ์อยู่ด้านล่างเนินนี้ ชาวบ้านเลยนิยมเรียกวัดนี้ว่า วัดบ้านเด่น ภายในตัววัดประกอบด้วย อุโบสถ หอไตร หอกลอง วิหารเสาอินทนิล กุฏิไม้สักทอง พระวิหาร สถูปเจดีย์ที่เป็นศิลปะสถาปัตยกรรมไทยล้านนาอันแสนวิจิตรงดงาม ตกแต่งด้านหน้าด้วยรูปปั้นสัตว์ในป่าหิมพานต์ โดยความตั้งใจของเจ้าอาวาสวัดคือ อยากให้วัดนี้เป็นสถานที่พักผ่อนทางจิตใจ เป็นศาสนสถานที่สวยงาม แต่แฝงไว้ด้วยคติธรรมทางพระพุทธศาสนา ให้ผู้คนได้เข้ามาเที่ยวชมกราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อเสริมสิริมงคลให้แก่ชีวิต
15. เนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดพิษณุโลกที่มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ที่เงียบ สงบ และสวยงาม เนินมะปรางตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามอลังการ มีทั้งโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยว แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ป่าเขา น้ำตก และสวนดอกไม้ ไฮไลต์จุดสำคัญต้องไปเยือนคือ ภูเขาหินปูนสูงใหญ่ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของอำเภอเนินมะปราง น้ำตกห้วยเทิน และต้นไม้รูปหัวใจของหมู่บ้านรักไทย ใครที่อยากมาชาร์จแบตฯ ให้ชีวิต หรือต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติ มาที่นี่ที่เดียวได้กลับไปครบเลยแน่นอน
16. ภูลังกา จังหวัดพะเยา
ผืนป่าขนาด 7,800 ไร่ของจังหวัดพะเยา ที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ทั้งพรรณไม้ป่าหายาก และมีสัตว์ป่าอยู่มากมายกว่า 100 ชนิด ยอดดอยภูลังกามีความสูง 1,720 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล เมื่อขึ้นไปถึงด้านบนสุด ในวันที่อากาศเป็นใจ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นทะเลหมอกและได้สัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย ตลอดสองข้างทางเป็นความสวยงามตามธรรมชาติ ป่าเขา ต้นไม้ ภูเขาน้อยใหญ่เรียงสลับสับหว่างไว้อย่างลงตัว นอกจากนี้ยังมีทุ่งดอกไม้ตามธรรมชาติ และเส้นทางเดินป่าศึกษาระบบนิเวศให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินอีกด้วย
17. ภูเก็ต ได้ทั้งทะเลและงานอาร์ต
จังหวัดเดียวในประเทศไทยที่เป็นเกาะขนาดใหญ่อยู่ในทะเลอันดามัน เป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลยอดฮิตในใจของใครหลายคน ทั้งทะเลสีคราม น้ำใสสะอาด ท้องฟ้าสดใสตัดกับหาดทรายสีขาวเนียนละเอียด เหมาะสำหรับนั่งพักผ่อนริมทะเลเก๋ ๆ หรือถ้าใครอยากจะเสพงานอาร์ต ในโซนเมืองเก่าของภูเก็ตก็มีงานสตรีตอาร์ตและตึกรามอาคารเก่าให้เดินเที่ยวชมได้ สำหรับสายกินและสายโซเชียล ที่นี่เขาก็ตอบโจทย์นะ เพราะมีทั้งอาหารอร่อย ๆ และคาเฟ่ชิค ๆ เต็มเมืองไปหมด หยุดยาวนี้ถ้าไม่รู้จะไปไหน ก็ลองให้ภูเก็ตเป็นตัวเลือกดูก็ได้
18. ดอยผาฮี้ จังหวัดเชียงราย
คอกาแฟทั้งหลายอาจจะถูกใจสถานที่ท่องเที่ยวนี้ เพราะดอยผาฮี้เป็นแหล่งปลูกกาแฟชื่อดังของจังหวัดเชียงราย เมล็ดกาแฟของที่นี่มีคุณภาพและถูกส่งขายไปตามร้านกาแฟชั้นนำทั่วประเทศ และสำหรับคนที่ไม่ดื่มกาแฟ แต่ชื่นชอบความสวยงามของทัศนียภาพ ก็มีวิวทิวทัศน์ของดอยผาฮี้ที่ถูกโอบล้อมด้วยทิวเขาสวยงาม ป่าไม้เขียวขจี ร่มรื่นสบายตา มีร้านกาแฟเก๋ ๆ และโฮมสเตย์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์ และกินอาหารอร่อย ๆ ฟินสุด ๆ ไปเลย
19. อำเภอเมืองแพร่ เมืองเก่าสุดคลาสสิก
จังหวัดแพร่ หลายคนคิดว่าเป็นแค่ทางผ่าน แต่จริง ๆ แล้ว เมืองแพร่ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย เหมาะสำหรับสายสโลว์ไลฟ์ที่ต้องการท่องเที่ยวแบบชิล ๆ ไม่รีบร้อน ต้องการดื่มด่ำไปกับธรรมชาติและความสงบเรียบง่ายของวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน ที่เที่ยวส่วนใหญ่ของเมืองแพร่จะเป็นวัดวาอาราม เช่น วัดพระธาตุช่อแฮ วัดพระบาทมิ่งเมืองวรวิหาร วัดจอมสวรรค์ และโบราณสถานที่มีประวัติยาวนาน เช่น คุ้มเจ้าหลวงเมืองแพร่ อนุสาวรีย์พระยาไชยบูรณ์ อุทยานลิลิตพระลอ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่ส่งเสริมหัตถกรรมและภูมิปัญญาชาวบ้านอย่าง หมู่บ้านทอผ้าตีนจก และตลาดหัวดง แหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ทำจากไม้สักและหวาย
20. เบตง จังหวัดยะลา
อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดยะลา 1 ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่หลายคนอาจจะหวั่นเกรงจากข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่ได้ฟังมา แต่ถ้าได้ลองไปสักครั้งจะต้องตกหลุมรักเมืองแห่งความสมถะ สงบ ผู้คนเป็นมิตร และต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วยรอยยิ้มและความจริงใจ สถานที่ท่องเที่ยวของเบตงจะแบ่งออกเป็นที่เที่ยวในตัวเมืองเบตง ได้แก่ หอนาฬิกา ตู้ไปรษณีย์ยักษ์ อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ พิพิธภัณฑ์เมืองเบตง หรือสตรีตอาร์ตเก๋ ๆ ที่สามารถเดินเที่ยวในตัวเมืองหรือนั่งรถสองแถววิ่งรอบเมืองได้
สำหรับที่เที่ยวนอกเมืองเบตง เช่น จุดชมวิวทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อุโมงค์ปิยะมิตร บ่อน้ำร้อนเบตง แต่ส่วนใหญ่แล้วสถานที่ท่องเที่ยวของเมืองเบตงมักจะอยู่ในเส้นทางเดียวกันและใกล้กัน จึงใช้เวลาไม่นานก็สามารถเที่ยวได้ครบแล้ว
และนี่คือ 20 ที่เที่ยววันหยุดยาวที่เราหยิบมาแนะนำกัน จริง ๆ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่อีกมากมาย ใครที่มีวันหยุดยาวแล้วไม่อยากนอนแกร่วอยู่กับบ้าน ลองดูไอเดียสถานที่เที่ยวเหล่านี้เป็นตัวเลือกในการวางแพลนทริปกันดูนะ เชื่อว่าการเดินทางไปท่องเที่ยวตามที่ใหม่ ๆ จะช่วยเพิ่มกำลังกาย กำลังใจ และลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานได้อย่างแน่นอน
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยววันหยุด สถานที่ท่องเที่ยว อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- เที่ยววันหยุด กับที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ชิลได้ทั้งไปเช้า-เย็นกลับ และค้างคืน
- ส่องความงดงามของ เกาะกูด วิวสวย น้ำใส เหมาะแก่การพักผ่อนในช่วงวันหยุด
- 15 ที่เที่ยววันหยุดยาว ใช้เวลากับครอบครัวกับสถานที่สวย ๆ ทั่วไทย
- 11 ที่เที่ยวอากาศดี เหมาะจะไปพักผ่อนช่วงวันหยุดยาว
- 15 ที่เที่ยววันหยุดยาว เตรียมจัดกระเป๋าไปเช็กอินที่เที่ยวไทย ไม่ใช่กรุงเทพฯ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : kohmui.com, ranongcities.com, krabi.thailocallink.com, thai.tourismthailand.org, buengkan.go.th, Facebook ชุมชนรักษ์เขาบายศรี, lampang.go.th, uttaradit.go.th, thai.tourismthailand.org, thai.tourismthailand.org, noenmaprang.org, park.dnp.go.th, phuket.go.th, cddchiangrai.net, Facebook ภูผาฮี้โฮมสเตย์, phrae.go.th, betongcity.go.th และ เฟซบุ๊ก Maymei Maythinee