แนะนำสถานที่ท่องเที่ยววันหยุดยาว กับที่เที่ยวไทยสวย ๆ มากมาย มีทั้งที่เที่ยวทะเล ที่เที่ยวภูเขา และที่เที่ยวทางวัฒนธรรม
วันหยุดเที่ยวไหนดี ? หนึ่งในคำถามยอดนิยมเมื่อกางปฏิทินแล้วเห็นว่ามีวันหยุดต่อเนื่องกันหลาย ๆ วัน บางคนก็เตรียมวางแผนเอาไว้เสร็จสรรพ แต่ยังมีหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวทะเล ภูเขา หรือไปเดินตลาดพื้นเมืองช้อปปิ้งของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านดีนะ ... เอาเป็นว่าหากใครกำลังหาไอเดียเพื่อไปชิล เราก็มีมาฝากกัน มีทั้งเหนือ อีสาน ใต้ จัดให้จุก ๆ ไปเลย ชอบบรรยากาศไหน จัดไปให้อิ่มใจ จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกัน
ที่เที่ยววันหยุดยาว
1. เกาะกูด จังหวัดตราด
สวรรค์ของท้องทะเลทางภาคตะวันออก เกาะน้อย ๆ ที่รายล้อมไปด้วยท้องทะเลสีฟ้าเขียวมรกตสดใส น้ำทะเลใสแจ๋ว แถมบรรยากาศยังเงียบสงบเป็นส่วนตัว บนเกาะกูดก็ยังเต็มไปด้วยสวนมะพร้าวมากมาย ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตเรียบง่าย เหมือนได้พาตัวเองไปติดเกาะ พักผ่อนสมองอย่างแท้จริง ที่สำคัญมีโรงแรมและที่พักให้เลือกเยอะมาก หลากหลายราคา สามารถจัดสรรได้ตามที่เราพึงพอใจ
2. เกาะเสม็ด จังหวัดระยอง
ชวนติดเกาะใกล้กรุงเทพฯ กับเกาะเสม็ด เกาะเล็ก ๆ ใกล้ชายฝั่งเมืองระยอง เป็นเกาะที่มีหลากหลายชายหาดให้ไปเที่ยวชม ซึ่งแต่ละหาดก็จะมีบรรยากาศสวยงามแตกต่างกันออกไป เงียบบ้าง คึกคักบ้าง ชอบแบบไหน ก็เลือกไปเยือนได้เลย ครบครันไปด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ที่พัก บาร์ริมชายหาด และจุดชมวิวสวย ๆ ได้พาร่างกายและสมองไปพักผ่อนสักคืนสองคืน บอกเลยว่าฟินสุด ๆ
3. สัตหีบ จังหวัดชลบุรี
เมืองริมทะเล บรรยากาศสบาย ๆ ที่ไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่ยังมีจุดท่องเที่ยวสัตหีบที่น่าสนใจอื่น ๆ รวมถึงที่พักและร้านกาแฟเก๋ ๆ ชิค ๆ มากมาย สามารถที่จะขับรถไปชมชายหาดอันเงียบสงบ แวะพักเที่ยวระหว่างทางไปเรื่อย ๆ มีให้เลือกทั้ง มิโมซ่า พัทยา, สวนน้ำ การ์ตูนเน็ตเวิร์ค อเมโซน, สวนน้ำรามายณะ, สวนนงนุช, หาดเตยงาม, หาดบ้านอำเภอ, หาดนางรำ-หาดนางรอง, เรือหลวงจักรีนฤเบศวร, เกาะขาม และเกาะแสมสาร เป็นต้น มีบ้านพักติดชายทะเล เงียบสงบ ให้เลือกพักผ่อนมากมาย
ภาพจาก NavyBank / Shutterstock.com
4. เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะสวยใจกลางอ่าวไทย จุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนในฝันของใครหลายคน เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลใสแจ๋ว หาดทรายขาวสะอาดตาและเงียบสงบแทบทุกแห่ง บรรยากาศบนเกาะเต่าก็ยังคงเป็นแบบดั้งเดิม ได้ผ่อนคลายทั้งวิวทิวทัศน์ของทะเลและเนินเขา มีที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟวิวสวยให้บริการมากมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ เช่น ดำน้ำตื้น, ดำน้ำลึก, การเล่นกีฬาทางน้ำ และเวิร์กช็อปทำงานศิลปะ ด้วย
5. เกาะพยาม และที่เที่ยวระนอง
จังหวัดระนอง ก็มีความน่าเที่ยวไม่น้อยไปกว่าที่อื่น ๆ ครบครันทั้งที่เที่ยวภูเขา ท้องทะเล อ่างเก็บน้ำ และที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ ปัจจุบันก็ยังมีคาเฟ่และที่พักสวย ๆ เปิดให้บริการรอต้อนรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ขับรถเที่ยวชิล ๆ ไล่กันมาตั้งแต่ล่องแพกระบุรี, จุดชมวิวเขาฝาชี, จวนเจ้าเมืองระนอง, อ่างเก็บน้ำหาดส้มแป้น, บ่อน้ำร้อนพรรั้ง, หาดทรายดำ, น้ำตกโตนเพชร, อุทยานแห่งชาติแหลมสน และอุทยานวังมัจฉา เป็นต้น แต่ถ้าหากอยากพักผ่อนอย่างเต็มที่กับท้องทะเล ขอแนะนำให้ไปใช้เวลาวันหยุดกันที่เกาะพยาม หรือเกาะช้าง เป็นที่เที่ยวทะเลระนองบรรยากาศเงียบสงบ เป็นส่วนตัว ได้สูดกลิ่นทะเลเต็มปอดแน่นอน
6. โฮมสเตย์ จังหวัดจันทบุรี
ที่เที่ยวที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย เที่ยวได้ทั้งครอบครัว แถมยังมีอาหารทะเลอร่อย ๆ ไว้จัดเสิร์ฟมากมาย ขับรถเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวจันทบุรีไปเรื่อย ๆ แล้วค่อยไปเช็กอินกับโฮมสเตย์ในดวงใจ เล่นเครื่องเล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโฮมสเตย์จัดไว้ให้ ช่วงเย็นก็เตรียมพุงไว้ดินเนอร์กับอาหารทะเลสดใหม่ เนื้อแน่น น้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ นั่งกินใต้แสงดาว บรรยากาศเงียบสงบ อากาศเย็นสบายสดชื่น พักสักคืน ก็ช่วยเพิ่มพลังงานให้ร่างกายได้ไม่น้อย
7. เขาค้อ-ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่เที่ยวไทยที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี สถานที่ที่จะให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินไปกับวิวทิวทัศน์สวย ๆ ของภูเขาน้อยใหญ่ สีเขียวขจีกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ในช่วงหน้าฝนและหน้าหนาวก็มีทะเลหมอกสวยอลังการให้ได้ชมกันแทบทุกวัน อากาศยังเย็นสบาย สูดเข้าปอดวินาทีไหนก็พาร่างกายสดชื่น นอกจากนี้ยังเต็มไปด้วยรีสอร์ตที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟวิวสวยมากมาย มีวัดวาอารามให้ได้ไหว้พระทำบุญด้วย เที่ยวครบจบในที่เดียวได้เช่นกัน
เขาค้อ
8. เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
เขาใหญ่ ไม่ได้มีเพียงแค่พื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เท่านั้นที่น่าเที่ยวชม เพราะรอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยที่เที่ยวเขาใหญ่มากกว่า 20 แห่ง ทั้งสวนสนุก สวนน้ำ คอมมูนิตี้มอลล์บรรยากาศยุโรป ไร่องุ่น โรงบ่มไวน์ สวนสัตว์ ฟาร์มออร์แกนิก รวมไปถึงร้านอาหาร และร้านกาแฟบรรยากาศดีที่ซ่อนตัวอยู่ตามขุนเขากว้างใหญ่แห่งนี้อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะไปเที่ยวเมื่อไรก็ประทับใจ ทั้งวิวทิวทัศน์และอากาศล้วนเหมาะสมแก่การพักผ่อนสุด ๆ
ภาพจาก Santiparp Wattanaporn / Shutterstock.com
9. ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
อำเภอน่าเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติของป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าใครได้มาสัมผัสเป็นต้องหลงรัก ชวนพักผ่อนไปกับวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้านชาวไทย-มอญ-กะเหรี่ยง พักผ่อนชิล ๆ กับวิวสวย ๆ ในเขื่อนวชิราลงกรณ สายผจญภัยก็มีเส้นทางเดินป่าที่อุทยานแห่งชาติลำคลองงู รวมถึงเขาช้างเผือกไว้รอ ถ้าอยากนอนกางเต็นท์ชมหมอก สูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสอากาศเย็นเจี๊ยบในช่วงหน้าหนาวก็ขึ้นไปทางฝั่งอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ไปเยี่ยมชมหมืองปิล๊อก กินปูทะเลอร่อย ๆ จากทะเลอันดามันฝั่งเมียนมา กับไปแตะชายแดนไทย-เมียนมากันง่าย ๆ ในหมู่บ้านอันเงียบสงบ
10. เชียงแสน จังหวัดเชียงราย
อำเภอริมฝั่งแม่น้ำโขงเกือบเหนือสุดของประเทศไทย กับบรรยากาศเมืองโบราณที่มีอายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งยังคงหลงเหลือซากปรักหักพังของเมืองเก่าไว้ให้ได้ชมกัน รวมไปถึงยังมีจุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสามเหลี่ยมทองคำ, พระธาตุสามมุมเมือง, ดอยสะโง้, หนองขุมถ่าน บ้านเวียงแก้ว, วัดพระธาตุจอมกิตติ, วัดพระเจ้าล้านทอง, วัดพระธาตุผาเงา และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองบงคาย เป็นต้น
วัดเจดีย์หลวง | ภาพจาก amnat30 / Shutterstock.com
11. แม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
เปลี่ยนบรรยากาศจากภาพเมืองที่ยุ่งเหยิงเป็นวิวทิวทัศน์ของขุนเขาน้อยใหญ่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาจากระเบียงบ้านพัก ตื่นมาพร้อมกับเสียงนกร้องทักทาย และนาข้าวขั้นบันไดเขียว ๆ ที่อยู่รอบ ๆ อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมือง เติมพลังก่อนไปเที่ยวชมหมู่บ้านวัฒนธรรม เลือกซื้อผ้าไหมตีนจก ไหว้พระทำบุญกับวัดเก่าแก่หลายแห่งในอำเภอแม่แจ่ม แวะพักนั่งชิลกับร้านอาหารอร่อย ๆ และร้านกาแฟบรรยากาศดี ไม่ว่าใครได้มาสัมผัสต่างก็หลงรัก
12. บ่อเกลือ จังหวัดน่าน
อำเภอที่อยู่ติดกับชายแดนประเทศลาว ซึ่งเต็มไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่มากมาย เป็นที่ตั้งของบ่อเกลือสินเธาว์ภูเขาที่อยู่สูงที่สุดในไทย ปัจจุบันยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทยด้วย นอกจากนี้ยังงดงามไปด้วยวิวของภูเขาสูง อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีที่พักสวย ๆ บรรยากาศเงียบสงบให้บริการหลายแห่ง เหมาะแก่การพาใจไปพักผ่อน พาปอดไปชะล้างทำความสะอาดสุด ๆ
ภาพจาก Bangprikphoto / Shutterstock.com
13. เมืองนครพนม
เมืองริมฝั่งโขงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมไทย-อีสาน-เวียดนาม-ยุโรป ไว้ได้อย่างลงตัว สมัยก่อนนั้นที่นี่เป็นแหล่งพักพิงของชาวเวียดนามที่อพยพมาพร้อมกับท่านโฮจิมินห์ ซึ่งก็ได้นำสถาปัตยกรรมที่รับมาจากฝรั่งเศสเข้ามาด้วย ทำให้มีตึกและอาคารเก่าแก่หลายแห่งที่มีสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล พอมีการฟื้นฟูเมืองนี้ ก็ทำให้นครพนมเป็นเมืองชิค ๆ ที่ไม่ควรพลาดของอีสาน นอกจากนี้ยังมีวัดวาอารามเก่าแก่ จุดชมวิว ร้านอาหารและร้านกาแฟสวย ๆ ให้ไปเช็กอินอีกเพียบ
พิพิธภัณฑ์จวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม | ภาพจาก Gaid Kornsilapa / Shutterstock.com
สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3
14. เมืองเก่ากำแพงเพชร
กำแพงเพชร เป็นเมืองโบราณที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานพอ ๆ กับสุโขทัย ตามประวัติศาสตร์ที่นี่มีฐานะเป็นถึงเมืองหน้าด่านของสุโขทัยเลยทีเดียว จึงทำให้กำแพงเพชรมีเขตเมืองเก่าอยู่ด้วยเช่นกัน โดยปัจจุบันยังคงหลงเหลือซากปรักหักพังของกำแพงเมืองและวัดโบราณมากกว่า 40 แห่ง ให้ได้ปั่นจักรยานเที่ยวชมชิล ๆ หรือจะนั่งรถรางที่ทางอุทยานประวัติศาสตร์กําแพงเพชรเตรียมไว้บริการก็ได้
วัดช้างรอบ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
15. เชียงคาน จังหวัดเลย
อีกหนึ่งเมืองริมฝั่งโขงน่าเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว พักผ่อนไปกับชุมชนริมน้ำ บรรยากาศสบาย ๆ ตื่นเช้าใส่บาตรทำบุญหน้าบ้านพัก จิบกาแฟกับข้าวจี่ร้อน ๆ นั่งชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นสะท้อนลงสู่ลำน้ำโขงเงียบ ๆ หรือจะไปชมทะเลหมอกสวยอลังการที่ภูทอก สัมผัสอากาศเย็น ๆ บนยอดเขา กลางวันก็ตะลุยตามหาร้านอร่อยในเชียงคาน อิ่มจุกจุใจไปกับส้มตำรสเด็ด ข้าวเปียกชามโต และอาหารอีสานมากมาย บ่าย ๆ ก็แวะนวดตัว นวดเท้า ก่อนจะช้อปกระจายที่ถนนคนเดิน สนุกกำลังดีในแบบที่ทุกคนก็เที่ยวได้
ภาพจาก eakkaluktemwanich / Shutterstock.com
หวังว่าสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้จะจุดประกายไฟในการเดินทางให้ได้บ้างไม่มากก็น้อยนะ ทำงานเหนื่อยกันมาเหนื่อย ๆ ประกอบกับต้องอยู่บ้านกันยาวนานมาหลายเดือน ไปผ่อนคลายกันหน่อยเนอะ แต่ก็อย่าลืมเรื่องการรักษาความสะอาดตามมาตรการป้องกันโรคระบาดอย่างที่ผ่าน ๆ มากันด้วยนะ เราจะได้เที่ยวกันอย่างสบายใจ :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
แนะนำ ที่เที่ยววันหยุดยาว อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
+++ 15 ที่เที่ยววันหยุดยาว เตรียมจัดกระเป๋าไปเช็กอินที่เที่ยวไทย ไม่ใช่กรุงเทพฯ
+++ หยุดยาวเที่ยวไหนดี 2567 มัดรวม 5 โปรแกรมเที่ยววันหยุดแบบชิล ๆ
+++ หยุดยาวเที่ยวไหนดี แนะนำ 10 ที่เที่ยว ชวนจัดทริปแฮปปี้ในวันชิล ๆ
+++ เที่ยววันหยุดยาว กับ 10 ที่เที่ยวใหม่ ๆ หลากสไตล์ หลายบรรยากาศ
ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : เว็บไซต์ thai.tourismthailand.org
