x close

หยุดยาวเที่ยวไหนดี 2567 มัดรวม 5 โปรแกรมเที่ยววันหยุดแบบชิล ๆ

           ที่เที่ยววันหยุดยาว แนะนำโปรแกรมท่องเที่ยวไทย มีทั้งเล่นน้ำทะเล ขึ้นเขาชมทะเลหมอก ไหว้พระขอพรเสริมสิริมงคล หรือลัดเลาะนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่บรรยากาศดี
           วันหยุดยาว เป็นอีกหนึ่งช่วงที่หลายคนเดินทางออกไปท่องเที่ยวชาร์จแบตให้กับตัวเอง แต่ถ้ายังมีคำถามว่าวันหยุดยาวเที่ยวไหนดี ? … มามุงทางนี้เลย เพราะเรามีโปรแกรมที่เที่ยววันหยุด 3 วัน 2 คืน ฉบับตามรอยได้ง่าย ๆ หรือจะนำไปรวมกับสถานที่ที่อยากไปก็ได้ไม่ว่ากัน จะมีที่ไหนบ้างนั้นไปดูเลย

หยุดยาวเที่ยวไหนดี 2567

1. เสพธรรมชาติ ณ สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี สนุกกับกิจกรรมหลากหลาย

  • วันที่ 1 : จากบ้านมุ่งหน้าไปยังอำเภอสวนผึ้ง ก่อนถึงปลายทางแวะเข้าตัวอำเภอเมืองราชบุรี เพื่อไป วัดช่องลม พระอารามหลวง ไหว้ขอพร หลวงพ่อแก่นจันทร์ พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรอันศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นไปจิบกาแฟและเครื่องดื่มเย็น ๆ กันที่ Junction Cafe & Coffee Roaster ใกล้กับสถานีรถไฟราชบุรี ต่อด้วยชิมข้าวซอยและอาหารเหนือรสเด็ดที่ ร้านอาหารเหนืออุ๊ยคำ หรือไปลิ้มรสราเมนโฮมเมด น้ำซุปเข้มข้น ในบรรยากาศน่ารัก ๆ ที่ร้าน Kamego Ramen อิ่มท้องก็เดินทางต่อ คราวนี้ปักหมุดหมายไปที่พักได้เลย ซึ่งในสวนผึ้งก็มีรีสอร์ตหรือลานกางเต็นท์ให้เลือกหลากแบบหลายราคา ชอบแบบไหนจิ้มไปเลย
หลวงพ่อแก่นจันทร์ ที่เที่ยววันหยุด

ภาพจาก : Bai-Bua Photographer / shutterstock.com

           เมื่อถึงแล้วก็เก็บสัมภาระ พักผ่อนเล็กน้อยก็ไปเที่ยวฟาร์ม CORO FIELD เดินเล่นชมแปลงผัก สวนดอกไม้ และรับประทานอาหารสไตล์ Farm to Table อ้อ ที่นี่จะปิดเร็วนิดหนึ่งนะ หากไม่ทันตรงไปรับประทานมื้อเย็นที่ ร้านอาหารครัวม่อนไข่ ร้านอาหารไทยสไตล์พื้นบ้าน รสชาติจัดจ้าน เมนูแนะนำ เช่น ยำผักกูดทรงเครื่อง ปลาทับทิมราดซอสมะขาม และผัดเผ็ดเนื้อใบยี่หร่า เป็นต้น เป็นอันจบวันแรกของทริป
CORO FIELD

  • วันที่ 2 : วันนี้ตื่นเช้าสักหน่อยเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศ ตลาดโอ๊ะป่อย ตลาดเช้าริมลำน้ำภาชี ที่ตั้งอยู่ตรงข้ามวัดป่าท่ามะขาม เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมยามเช้าให้ทำหลากหลาย ทั้งตักบาตรพระล่องแพ ชมวิถีชีวิตชาวกะเหรี่ยง หรือช้อปของกินของใช้ที่มีเอกลักษณ์ ในบรรยากาศแสนชิล ที่นี่เปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 07.00-14.00 น.
ตลาดโอ๊ะป่อย

         ดื่มด่ำพอให้หายเหนื่อยก็ไปต่อกันที่ ธารน้ำร้อนบ่อคลึง ธารน้ำร้อนธรรมชาติที่มีบ่อน้ำร้อนและสระน้ำกระเบื้องสำหรับอาบน้ำร้อนธรรมชาติ และ น้ำตกเก้าชั้น (น้ำตกเก้าโจน) น้ำตกขนาดกลางที่มีน้ำตลอดปี จากลานจอดรถต้องเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 500 เมตรจะถึงบริเวณน้ำตกชั้นล่าง สามารถเดินเท้าขึ้นไปถึงชั้นสุดท้ายได้ ระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งอยู่ใกล้กันนิดเดียวเอง
น้ำตกเก้าชั้น

         เล่นน้ำคลายร้อนจนหนำใจก็ไปเติมพลังกันที่ ครัวทะเลหุบเขา ร้านอาหารไทยและอาหารทะเลสด ๆ มีเมนูแนะนำ เช่น เขียวหวานทะเลแห้ง หมึกผัดกะปิ และยำทะเลเดือด เป็นต้น จากนั้นไปต่อกันที่ The Scenery Vintage Farm ที่พักสไตล์เมดิเตอร์เรเนียนที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ หากไม่ได้เข้าพักก็สามารถเที่ยวฟาร์ม ป้อนอาหารสัตว์ หรือเล่นซุ้มเกมต่าง ๆ ได้ ใกล้กันจะมี Oliva View De'cafe คาเฟ่สไตล์ฝรั่งเศสที่เป็น Specialty Coffee บรรยากาศดี โอบกอดด้วยวิวขุนเขาให้นั่งชิล หรือจะไปกินพิซซ่าสไตล์โฮมเมด แป้งบางกรอบ ชีสเยิ้ม ที่ Feel Pizza เป็นมื้อเย็นก็ได้ นอกจากนี้ยังมีเมนูแนะนำ เช่น สเต๊กหมูสันคอ สปาเกตตีคาโบนารา ยําแซลมอน และสลัดผักปลอดสารพิษต่าง ๆ เป็นต้น
ฟาร์มแกะ

  • วันที่ 3 : เก็บข้าวของลงกระเป๋า เช็กเอาต์เรียบร้อยก็ไปสัมผัส หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส หมู่บ้านเล็ก ๆ ภายใต้วัฒนธรรมผสมผสานไทย-มอญ โอบล้อมด้วยธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่าน แต่บรรยากาศจะคึกคักในช่วงวันหยุด ถ่ายรูปเช็กอินสักพักก็ไปเที่ยวกันต่อ ณ บ้านหอมเทียน แลนด์มาร์กของสวนผึ้ง ที่เป็นทั้งร้านอาหารและคาเฟ่สไตล์วินเทจ รวมถึงมีเทียนหอมและของทำมือดีไซน์เก๋ต่าง ๆ ให้บริการด้วย ต่อด้วย สวนผึ้งไฮแลนด์ ที่เที่ยวสำหรับครอบครัว มีกิจกรรมใกล้ชิดธรรมชาติหลากหลาย ทั้งให้อาหารยีราฟ ม้าแคระ และแพะแองโกรา เป็นต้น ปิดท้ายทริปสวนผึ้งกันที่ ครัวตะนาวศรี ร้านอาหารไทยรสจัด มีเมนูให้เลือกชิมทั้งต้มยำเห็ดรวม ไก่ตะนาวศรี ทอดมันปลากรายผักกูด ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน หมูป่าผัดเผ็ด และขนมหวานอย่างโรลสังขยาใบเตยมะพร้าวอ่อน เป็นต้น
บ้านมอญห้วยน้ำใส

2. เที่ยวจังหวัดตราด เล่นน้ำทะเลเกาะช้าง ดำดิ่งสู่โลกใต้ทะเล

  • วันที่ 1 : จากกรุงเทพฯ มุ่งหน้าไปยังจังหวัดตราด ระยะทาง 300 กว่ากิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมง ถ้าออกจากบ้านเช้าสักหน่อยจะถึงท่าเทียบเรือเฟอร์รี่ช่วงบ่าย ๆ รอเรือข้ามไปยัง เกาะช้าง แบบชิล ๆ ได้เลย เมื่อถึงเกาะช้างก็ปักหมุดเช็กอินที่พักกันก่อน ซึ่งบนเกาะก็มีที่พักให้เลือกเยอะมาก ๆ ทั้งแบบริมทะเล ภูเขา หรือแนวโฮมสเตย์ จากนั้นลัดเลาะเลียบทางฝั่งเกาะช้างแล้วเลี้ยวซ้ายไปเติมพลังกันที่ Kamon's Bakes หรือ Altitude79 แต่หากอยากกินมื้อใหญ่ Ronnie's Coconut Organic Garden ร้านอาหารไทยรสแซ่บ มีเมนูแนะนำ เช่น ส้มตำ ไก่ย่าง ยำปูม้า ต้มแซ่บกระดูกอ่อน และผัดไทย เป็นต้น หรือ เกาะช้างปลาสด ร้านอาหารทะเลสด ๆ บรรยากาศป่าชายเลน มีเมนูให้เลือกชิม เช่น หอยหนามผัดฉ่า ปลาหมึกไข่นึ่งมะนาว และเมนูซาชิมิต่าง ๆ
เกาะช้าง

          ก่อนจะเดินทางไปยัง บ้านสลักคอก ณ ชมรมนำเที่ยวพื้นบ้านสลักคอก เกาะช้างใต้ หมู่บ้านชาวประมงพื้นบ้านดั้งเดิม เพื่อล่องเรือมาดชมธรรมชาติและสัมผัสเสน่ห์วิถีชาวเลสองฟากฝั่ง จะคายักหรือซัพบอร์ดชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติในป่าชายเลนก็มีบริการ แต่ถ้าไม่อยากนั่งเรือเราจะชวนไปเดินเล่นป่าชายเลนสลักเพชร (สะพานแดง) ต่อด้วยสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันที่วัดสลักเพชร และสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงพื้นถิ่น ณ บ้านสลักเพชร บริเวณนี้มีร้านอาหารพื้นบ้านอยู่หลายแห่ง เช่น สลักเพชรซีฟู้ด ครัวแสงอรุณ และ Aoy’s Little Farm & Bakery เป็นต้น
ป่าชายเลนสลักเพชร สะพานแดง

เรือมาด บ้านสลักเพชร

          ส่วนตอนเย็นก็จบมื้อค่ำกันที่ ไอยราซีฟู้ด (สาขาคลองพร้าว) ร้านอาหารทะเลเก่าแก่ บรรยากาศริมน้ำ มีเมนูแนะนำ เช่น ปลาเก๋านึ่งซีอิ๊ว ห่อหมกทะเล น้ำพริกไข่ปู และทะเลเผาต่าง ๆ หรือ ภู-ทะเล ซีฟู้ด เกาะช้าง ร้านอาหารทะเลสด ๆ ที่สามารถนั่งชมวิวได้เพลิน ๆ มีเมนูแนะนำ เช่น ข้าวอบสับปะรด ปูผัดผงกะหรี่ และทอดมันกุ้ง เป็นต้น
  • วันที่ 2 : เช้านี้เตรียมตัวไปสนุกกับกิจกรรม ดำน้ำเกาะช้าง ชมปะการัง และสัตว์โลกใต้ทะเล ตามเกาะรอบเกาะช้าง จะเป็นการเที่ยวทั้งแบบครึ่งวันและเต็มวัน สามารถสอบถามแพ็กเกจได้จากทางที่พัก ซึ่งส่วนใหญ่จะไปเริ่มต้นกันที่ ท่าเรือบางเบ้า จากนั้นก็ออกเรือไปเที่ยวเกาะต่าง ๆ ตามเส้นทางที่เราเลือก เช่น เกาะยักษ์เล็ก เกาะยักษ์ใหญ่ หมู่เกาะรัง เกาะหวาย เกาะคลุ้ม และเกาะเหลายา เป็นต้น
บางเบ้า

เกาะยักษ์ใหญ่

          กลับขึ้นฝั่งพักผ่อนเล็กน้อยก็ถึงเวลานั่งชิล ๆ ริมทะเล เราขอแนะนำร้านอาหารโซนบางเบ้า เช่น ชาวเลซีฟู๊ด เกาะช้าง บางเบ้า, Rasta View, Ido Ido Restaurant & Chill out Bar และ MaHa Restaurants & Bar หรือจะไปชมวิวพระอาทิตย์ตกสวย ๆ ที่ หาดไก่แบ้ บริเวณนี้มีร้านอาหารหลากหลาย เช่น Cabana Koh Chang, The Ocean Terrace, Restaurant & Bar, Sun view seafood & restaurant และ Porn’s restaurant เป็นต้น
หาดไก่แบ้

  • วันที่ 3 : เตรียมตัวกลับบ้านกัน วันนี้ขอเริ่มวันด้วยการไปจิบกาแฟที่ Altitude 79 Coffee Shop คาเฟ่วิวอ่าวสลักเพชร ที่ซ่อนตัวอยู่บนเขาในต้นไม้ใหญ่ เป็นคาเฟ่สไตล์ Slow Bar เล็ก ๆ ที่บรรยากาศดีมาก ก่อนกลับชวนไปสักการะ ศาลเจ้าพ่อเกาะช้าง ขอพรเสริมสิริมงคล และไปท่าเรือเฟอร์รี่เกาะช้าง รอเรือข้ามกลับขึ้นฝั่ง เดินทางกลับบ้านโดยสวัสดิภาพ
เรือเฟอร์รี่ เกาะช้า

3. สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดสกลนคร พร้อมไปเยือนภูพานและล่องแก่งคลายร้อน

  • วันที่ 1 : ขอเริ่มต้นทริปกันที่จังหวัดสกลนคร ไป วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ศาสนสถานคู่บ้านคู่เมือง นมัสการ หลวงพ่อพระแสน พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ต่อด้วย วัดป่าสุทธาวาส สถานที่ละสังขารของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต พระเถระฝ่ายธรรมยุติกนิกาย สายวิปัสสนากรรมฐาน ที่นี่มีพิพิธภัณที่ประดิษฐานรูปหล่อ อัฐิ และตู้แสดงเครื่องบริขารของท่านอยู่
วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร

วัดป่าสุทธาวาส

           จากนั้นมุ่งหน้าไปยัง บ้านท่าแร่ ที่ตั้งอยู่ริมหนองหาร ชุมชนเก่าแก่ที่ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ ซึ่งทุกวันที่ 25 ธันวาคม ของทุกปี จะมีการจัดเทศกาลแห่ดาวคริสต์มาสสุดยิ่งใหญ่ สามารถเดินชมอาคารบ้านเรือนที่เป็นสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส รวมถึงโบสถ์ เสพบรรยากาศของวันวาน ทั้งตึกหินโบราณท่าแร่, คฤหาสน์อุดมเดช และอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล ท่าแร่ โบสถ์สีขาวรูปทรงคล้ายเรือที่เป็นแลนด์มาร์กเด่น และนั่งพักขากันที่ วรา คาเฟ่ หรือ Guzzjung Cafe’ and Alexkoff Roas ก่อนจะไปชมความงามของธรรมชาติ ณ หนองหาร ทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ บริเวณนี้จะมีจุดชมวิวหนองหารที่มีสะพานปูนยื่นออกไปในน้ำให้เดินเล่นได้
คฤหาสน์อุดมเดช  บ้านท่าแร่

หนองหาร สกลนคร

           มื้อเที่ยงแนะนำร้านอาหารที่อยู่รอบ ๆ หนองหาร ซึ่งมีให้เลือกหลายร้าน ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารอีสานรสแซ่บ อิ่มแล้วแวะเช็กอินโรงแรมที่จองไว้ก่อนได้ แล้วค่อยมุ่งหน้าไปยัง พระธาตุภูเพ็ก โบราณสถานที่อยู่ในอำเภอพรรณานิคม เพื่อเดินขึ้นบันไดมากกว่า 400 ขั้น (ค่อนข้างชัน) นมัสการองค์พระธาตุที่สร้างด้วยหินทรายบนฐานศิลาแลง อีกทั้งยังเป็นสถานที่แสดงปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่สามารถบ่งชี้ตำแหน่งดวงอาทิตย์ในจักรราศีได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
พระธาตุภูเพ็ก

           หลังจากนั้นก็กลับเข้าตัวเมืองสกลนคร มื้อเย็นชวนไปลิ้มลองเนื้อโคขุนโพนยางคำที่มีอยู่หลายร้าน เช่น ร้านเดอะเตาถ่านพรีเมี่ยมโคขุนโพนยางคำ, เตาถ่าน โคขุนโพนยางคำ สกลนคร Pon Yang Kham Grill, สหกรณ์การเลี้ยงปศุสัตว์, ไนท์โคขุนโพนยางคำ และฟาร์มฮัก Farm Hug เป็นต้น อ้อ หากไม่กินเนื้อก็มีเนื้อสัตว์อื่น ๆ ก่อนปิดท้ายวันแรกด้วยการไปเดินย่อยที่ ถนนผ้าคราม (ถนนคนเดินสกลนคร) ที่ตั้งอยู่บนถนนเส้นหน้าวัดพระธาตุเชิงชุม เน้นขายสินค้าที่ผลิตจากผ้าย้อมครามต่าง ๆ เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ช่วงเย็น ๆ ถึงค่ำเท่านั้น
เนื้อโคขุนโพยางคำ

  • วันที่ 2 : เช้านี้ขอเริ่มวันด้วยอาหารเช้าสไตล์เวียดนามที่ ร้านเลิศรสไข่กระทะ หรือ ร้านข้าวเกรียบปากหม้อปารีส ก่อนจะเดินทางไปยัง วัดถ้ำผาแด่น วัดสวยที่ตั้งอยู่บนเทือกเขาภูพาน โดยต้องจอดรถไว้ด้านล่างและใช้บริการรถสองแถวขึ้นไปยังวัด ในบริเวณวัดจะมีพระพุทธรูปปางนาคปรกขนาดใหญ่ รวมถึงงานประติมากรรมแกะสลักหินทรายเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติต่าง ๆ ด้านบนมีเจดีย์ตั้งอยู่บนก้อนหินสีทองโดดเด่น นอกจากนี้ยังมีสวนสวย ๆ น้ำตกจำลอง และร้านกาแฟบริการด้วย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เวลาเที่ยวเล่นพอสมควร
ไข่กระทะ

วัดถ้ำผาแด่น

          จากนั้นเตรียมตัวเปียก เพราะจุดหมายที่ 2 ของวันก็คือ แก่งน้ำพุง ณ ชุมชนท่องเที่ยวกกปลาซิว ตำบลกกปลาซิว อำเภอภูพาน เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติที่ไหลมาจากเขื่อนน้ำพุง โดยกิจกรรมล่องแก่งระยะทางจะอยู่ที่ 3.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรือถ้าไม่อยากล่องแก่งก็สามารถนั่งเล่นน้ำชิล ๆ คลายร้อนได้ มีซุ้มบริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก แก่งน้ำพุง ชุมชนท่องเที่ยวกกปลาซิว

          เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยก็ได้เวลากลับเข้าเมือง ไปเติมพลังกันที่ร้านอาหารแจ่วฮ้อนบ้านนา, ร้าน ส.วัวกี้ ลาบ ก้อย ต้ม ต้นตำหรับกกส้มโฮง, ร้านข้าวต้มสามเด้ง สาขาสกลนคร, ร้านอาหารทองดี และบ้านฟ้าโปร่ง สกลนคร เป็นต้น ชอบสไตล์ไหนปักหมุดแล้วไปลิ้มลองกันได้เลย

  • วันที่ 3 : วันสุดท้ายของทริปสกลนคร ขอเที่ยวเล่นในเมือง นั่งจิบกาแฟชิล ๆ ตามคาเฟ่ต่าง ๆ ซึ่งก็มีอยู่หลายร้าน เช่น ร้านกาแฟภิรมย์บุรี, Sweet Cottage Sakonnakhon และ RAINTREE by Green Corner เป็นต้น หรือเขยิบออกไปโซนดงมะไฟกับร้านกาแฟดริปยิปซี ในบรรยากาศวินเทจ เพราะเราจะชวนไป พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร ณ วัดป่าอุดมสมพร สักการะรูปปั้นหลวงปู่ฝั้นขนาดเท่าตัวจริง แวดล้อมด้วยตู้กระจกบรรจุอัฐิและแสดงเครื่องบริขารของท่าน ต่อด้วยไป วัดถ้ำขาม (ภูคำขาม) ซึ่งเคยเป็นสถานที่จำพรรษาของ หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี พระเถระฝ่ายวิปัสสนาธุระ สายพระป่า
พิพิธภัณฑ์อาจารย์ฝั้น อาจาโร

วัดถ้ำขาม

           ก่อนกลับแวะกินอาหารเพิ่มพลังกันสักหน่อย ที่ที่เราจะแนะนำคือ ร้านส้มตำยายเรือง และ วิลลี่แหนมเนือง สกลนคร สายแซ่บกับสายอาหารเวียดนามจิ้มได้เลย อ้อ อย่าลืมซื้อของฝากอย่างกุนเชียง ไส้กรอก หมูฝอย แหนม และแจ่วบอง ที่ร้านปากหม้อยายทองคำ ติดมือกลับบ้าน หรือจะชิมปากหม้อถาดด้วยก็ได้นะ

4. เที่ยวเชียงราย ยลธรรมชาติของขุนเขา นั่งชิลจิบกาแฟดอยช้าง

  • วันที่ 1 : ทริปเชียงรายขอชวนไปสักการะพระแก้วมรกตจำลอง ณ วัดพระแก้วมรกต ขอพรเสริมสิริมงคลกันก่อน ต่อด้วยเพิ่มพลังในมื้อเช้ากับร้านอาหารที่มีให้เลือกเพียบ เช่น ซีเปียวพาณิชย์, โจ๊กหม้อดินนันทกา, สหรส ต้มเลือดหมู, กาแฟรถเหลืองเชียงราย และข้าวมันไก่หลิบบุ๊ง เป็นต้น อิ่มแล้วไปชมความงามของ วัดร่องขุ่น ที่มีเอกลักษณ์ทางศิลปะและสถาปัตยกรรมอันวิจิตร ก่อนจะไปเยือน สิงห์ปาร์ค เชียงราย (ไร่บุญรอด) สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรขนาดใหญ่ เป็นพื้นที่เพาะปลูกพืชหลากหลายชนิด โดยเฉพาะไร่ชาอู่หลง ที่นี่เราสามารถเพลิดเพลินไปกับทัวร์ฟาร์มสิงห์ปาร์ค ชมสวนสัตว์ ปั่นจักรยาน หรือสนุกกับกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ จากนั้นไปกินอาหารหรือจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ชมวิวไร่ชา 360 องศา ณ ร้านอาหารภูภิรมย์
วัดร่องขุ่น

สิงห์ปาร์ค เชียงราย

           ช่วงบ่าย ๆ ชวนไปคลายร้อนด้วยการล่องแพเปียก เขื่อนน้ำแม่สรวย ซึ่งตั้งอยู่บริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำแม่สรวย สนุกสนานและชมวิวสองฟากฝั่ง ระยะเวลาประมาณ 35-45 นาที ดูรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก ล่องแพเปียก เขื่อนน้ำแม่สรวย ก่อนจะเดินทางไปยัง ดอยช้าง พักค้างสักคืน ซึ่งก็มีที่พัก รีสอร์ต โฮมสเตย์ หรือลานกางเต็นท์หลายแห่ง ระหว่างทางมีจุดชมวิวให้ชมหลายจุด ทั้งจุดชมวิวเขื่อนแม่สรวย, อาข่า ฟาร์มวิลล์ และจุดชมวิว กม.5 หรือหากไม่ได้ฝากมื้อเย็นไว้กับที่พัก แนะนำ ครัวอาข่า ดอยช้าง ร้านอาหารพื้นถิ่นที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ เมนูแนะนำ เช่น ลาบหมูอาข่า หอมชูผัดไข่ ไก่ทอดสมุนไพร และผัดผักกาดดอง เป็นต้น
ดอยช้าง

  • วันที่ 2 : วันนี้เราจะเที่ยวกันที่ดอยช้าง เริ่มต้นด้วยจิบกาแฟสักแก้ว เพราะที่นี่เป็นแหล่งปลูกกาแฟชั้นดีของเมืองไทย รวมถึงมีร้านกาแฟและคาเฟ่มากมาย เช่น MiYo coffee & bar, U AND ME 6395, อะบอนโซ พาราไดซ์, กาแฟดอยช้าง, YAYO FARM, The Cloud Cafe&Restaurant และ Abu Farm Coffee เป็นต้น นั่งละเลียดกาแฟชมวิวขุนเขาสักพักก็ไปเที่ยว จุดชมวิวดอยช้างป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของแนวภูเขาน้อยใหญ่ได้อย่างสวยงาม ก่อนจะมุ่งหน้าไปนอน ภูชี้ฟ้า เพื่อชมทะเลหมอกยามเช้า โดยเลือกได้เลยว่าจะพักทางฝั่งไหน เพราะสามารถขึ้นได้ 2 ทาง ได้แก่ ทางวนอุทยานภูชี้ฟ้า และทางบ้านร่มฟ้าทอง มื้อเย็นแนะนำให้กินหมูกระทะเคล้าบรรยากาศดี ๆ ก่อนจะไปนอนพักผ่อนเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นกัน
จุดชมวิวดอยช้าง

  • วันที่ 3 : วันนี้ตื่นเช้าสักหน่อยเพื่อไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกกว้างสุดสายตา ณ ภูชี้ฟ้า ซึมซับบรรยากาศสักพักก็เตรียมตัวกลับเข้าสู่ตัวเมืองเชียงรายอีกครั้ง ก่อนเข้าขอแนะนำให้ไปอำเภอแม่จัน เพื่อเที่ยว ไร่ชาฉุยฟง กันก่อน จิบชา กินขนมอร่อย ๆ ดื่มด่ำไปกับความละมุนของธรรมชาติ จากนั้นไปไหว้พระที่ วัดห้วยปลากั้ง สักการะเจ้าแม่กวนอิมสีขาวองค์ใหญ่ และพบโชคธรรมเจดีย์ พระมหาเจดีย์ 9 ชั้น รูปทรงมีเอกลักษณ์ และ วัดร่องเสือเต้น ชมความงามของพระอุโบสถสีน้ำเงินฟ้าลวดลายวิจิตร ผลงานของ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย ภายในประดิษฐานพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ พระพุทธรูปความสูง 6.5 เมตร หน้าตักกว้าง 5 เมตร เป็นอันจบทริป
ภูชี้ฟ้า

ไร่ชาฉุยฟง

วัดห้วยปลากั้ง

วัดร่องเสือเต้น

5. ตะลุยจังหวัดสงขลา เยือนเมืองเก่า เล่นน้ำทะเล ขึ้นเขาชมธรรมชาติ

  • วันที่ 1 : เริ่มวันแรกด้วย ติ่มซำ อาหารเช้าในตำนานของหาดใหญ่ ที่มีให้เลือกหลายร้าน เช่น เจ้าเด็ด โชคดีแต่เตี๊ยม, ติ่มซำชาบูระ, ติ่มซำนักวิ่ง และหาดใหญ่​ติ่มซำ เป็นต้น จากนั้นแนะนำให้ไปเที่ยว สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ สถานที่พักผ่อนใจกลางเมือง ร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระพุทธมงคลมหาราช พระโพธิสัตว์กวนอิม ท้าวมหาพรหม และไม่ควรพลาด ยอดเขาคอหงส์ จุดชมวิวที่มองเห็นตัวเมืองและทะเลสาบสงขลาได้ชัดเจน
ติ่มซำ

สวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่

เขาคอหงส์

           จากนั้นไปนั่งจิบเครื่องดื่มเย็น ๆ ที่คาเฟ่ เช่น Healthylicious Cafe, locals.hdy, Nutt - Phob coffee and more, Seeknature, KRANE และ The Company Coffee เป็นต้น ชอบสไตล์ไหนก็เลือกกันได้เลย เสร็จแล้วชวนไป มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) ไหว้พระขอพรองค์เทพเจ้าต่าง ๆ เช่น หลวงปู่ไต้ฮงโจวซือ เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ฮกเต็กแป๊ะกง เทพนาจาไท้จื้อ และพระพิฆเนศ เป็นต้น เพื่อเสริมสิริมงคล ต่อด้วยไปหา ไก่ทอดหาดใหญ่ กินกับข้าวเหนียวร้อน ๆ และหอมเจียวทอดกรอบ พร้อมชาชักสักแก้ว แหม…ลงตัวมาก ซึ่งก็มีให้เลือกหลายร้าน เช่น ไก่ทอดเดชา (สาขาชีอุทิศ), ไก่ทอดหาดใหญ่มีนา, ไก่ทอดซอฟียา, อาบีไก่ทอด หาดใหญ่ใน, ไก่ทอดบัตรคิว (หลังโรงพยาบาลหาดใหญ่) เป็นต้น
ไก่ทอดหาดใหญ่

           อิ่มแล้วไปชมความงามของ มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา หรือ มัสยิดกลางดิย์นุลอิสลาม ที่ออกแบบอย่างประณีตและละเอียดอ่อนช้อย และปิดท้ายวันแรกกันที่ ตลาดน้ำคลองแห ตั้งอยู่ริมคลองเตย ชิมและช้อปอาหารคาว-หวานมากมาย พร้อมสัมผัสกับบรรยากาศแบบพื้นบ้านดั้งเดิม ที่นี่เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ช่วงบ่าย ๆ ถึงค่ำ ๆ นะ
มัสยิดกลางประจำจังหวัดสงขลา

ตลาดน้ำคลองแห

  • วันที่ 2 : วันนี้เราจะพาข้ามสะพานติณสูลานนท์ เพื่อไปเยือน เกาะยอ เกาะในทะเลสาบสงขลา ที่ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงและสวนผลไม้ บนเกาะมีที่เที่ยว เช่น วัดพระนอนแหลมพ้อ, จุดชมวิวเกาะยอ, หมู่บ้านชาวประมง และพิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา สถาบันทักษิณคดีศึกษา เป็นต้น
เกาะยอ

           จากนั้นเข้าไปในตัวอำเภอเมืองสงขลา ไหว้ขอพร ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา และ ศาลเจ้าพ่อกวนอู สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของเมืองเก่าสงขลา ที่ตั้งอยู่บนถนนนางงาม และเดินเที่ยวย่านเมืองเก่าสงขลา สัมผัสกับวิถีชุมชนไทย-จีนดั้งเดิมของชาวสงขลา มีอาคารบ้านเรือนในสไตล์โคโลเนียลหลงเหลืออยู่ โดยจะมีภาพสตรีตอาร์ตบนกำแพงตามจุดต่าง ๆ ให้ได้ไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นอกจากนี้ยังมีประตูเมืองเก่าสงขลา, บ้านนครใน และโรงสีแดง หับ โห้ หิ้น แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของจังหวัด ให้ได้ไปชมกันด้วย
สตรีตอาร์ตสงขลา

ภาพจาก : nootwanalee / shutterstock.com

ประตูเมืองเก่าสงขลา

          และไม่ควรพลาดการตระเวนชิมของกินย่านถนนนางงามและบริเวณใกล้เคียง ไม่ว่าจะเป็นไอติมโอ่ง, จิ่นกั้วหยวน (ไอติมยิว), ร้านบ้านขนมไทยสองแสน, โรตีนางงาม ๑๑๑, ไอติมถั่วเขียวโบราณ บันหลีเฮง, ร้านป้าจวบเถ้าคั่ว ก๋วยเตี๋ยวกระดูกหมู, ร้านข้าวสตู เกียดฟั่ง ซาลาเปาลูกใหญ่, ก๋วยเตี๋ยวโบราณ (เสี่ยงโชค), ร้านตั้งฮั่วกิม (ซาลาเปาสูตรแต้จิ๋ว), ก๋วยเตี๋ยวหางหมู, ร้านสุกี้นครใน, ร้านแต้เฮี้ยงอิ๊ว และเลิศเบเกอรี่ ขนมไข่ใส่เนย เป็นต้น
ไอศกรีม

           เย็น ๆ ไปเช็กอินแลนด์มาร์กเด่นกับรูปปั้นนางเงือก ณ หาดสมิหลา หาดทรายขาวสะอาด มีทิวต้นสนตลอดแนว เล่นริมทะเลได้ ใกล้ ๆ กันจะเป็น สวนสองทะเล สวนสาธารณะวิวทะเลสาบและทะเลอ่าวไทย มีประติมากรรมหัวพญานาคพ่นน้ำขนาดใหญ่ และไม่ควรพลาดสักการะอนุสาวรีย์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ คืนนี้แนะนำให้ค้างในตัวเมืองสักวันนะ
หาดสมิหลา

  • วันที่ 3 : ขอเริ่มด้วยกาแฟดี ๆ สักแก้ว ซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลาย เช่น Mr.Lee Coffee Songkhla Old town, Heart Made Roastery, CLAY ROOM, Photograph Coffee House, WABISABI coffee space และ 22 Twenty Two Cafe' เป็นต้น จากนั้นไปเดินขึ้น เขาคูหา อำเภอรัตภูมิ ซึ่งที่นี่จะต้องเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น ทางไม่ลาดชันเท่าไรนัก แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวังพอสมควร มีป้ายบอกทางเป็นระยะ ๆ ระหว่างทางก็จะเจอกับจุดถ่ายรูปสวย ๆ มากมาย
เขาคูหา

           ปิดท้ายทริปด้วยการไปสำรวจ ตลาดกิมหยง แหล่งจำหน่ายสินค้านานาชนิด มีสินค้าจากภายในประเทศและนำเข้ามาจากประเทศต่าง ๆ ทั้งของสด ของแห้ง ขนมขบเคี้ยว เสื้อผ้า อาหาร สินค้าแฟชั่น อุปกรณ์ใช้ในครัวเรือน และอื่น ๆ ช้อปของฝากติดไม้ติดมือกลับบ้านซะหน่อย
ตลาดกิมหยง

           ทั้งหมดนี้คือเส้นทางท่องเที่ยววันหยุดยาวเพียงไม่กี่จังหวัดที่เรานำมาแนะนำกัน เมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม ร้านอาหารและคาเฟ่บรรยากาศดีอีกมาก เอาเป็นว่าหากมีเวลาว่างก็อย่าลืมออกไปท่องเที่ยวกันนะ

บทความ สถานที่ท่องเที่ยวไทย ที่เที่ยววันหยุด อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หยุดยาวเที่ยวไหนดี 2567 มัดรวม 5 โปรแกรมเที่ยววันหยุดแบบชิล ๆ อัปเดตล่าสุด 27 มีนาคม 2567 เวลา 15:01:39 15,484 อ่าน
TOP