เอาเป็นว่าทริปเที่ยวเชียงรายครั้งนี้ เราจะพาโลดแล่นไปตามเส้นทางจิบชา-ดื่มกาแฟ เพราะจังหวัดสูงที่สุดในประเทศไทยแห่งนี้ มีลักษณะเป็นภูเขาสูง อากาศเย็นตลอดทั้งปี เหมาะสมที่จะปลูกชา-กาแฟ จึงทำให้มีไร่ชา ไร่กาแฟ กระจายตัวอยู่ทั่วบริเวณ รวมถึงมีเรื่องราวและเรื่องเล่าของชาและกาแฟที่หลายคนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว แถมยังพาไปตะลุยสถานที่เที่ยวสวย ๆ ธรรมชาติดีงาม โดยวางแผนโปรแกรมเที่ยวเชียงราย 2 วัน 1 คืน แบบชิล ๆ มาแนะนำกัน เริ่มกันที่...
จุดหมายที่ 1 : เช็กอินปางควาย ลิ้มลองกาแฟขี้ควายหอมละมุน
จนมาเจอที่นี่...ปางควาย ผมมองไปมองมาเห็นคุณค่าของควาย จึงลองเอากาแฟมาให้ควายกิน แต่ปรากฏว่าควายไม่กินเพราะเขาไม่รู้จัก แต่พอสังเกตก็พบว่าควายกินเมล็ดฉำฉา เลยนำมาผสมให้ควายกิน พร้อมกับส่วนผสมอื่น ๆ ผ่านกระบวนการต่าง ๆ จนกลายมาเป็นกาแฟขี้ควาย”
- ที่ตั้ง : ปางควาย บ้านห้วยน้ำราก ตำบลจันจว้า อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
- เบอร์โทรศัพท์ : 08 2480 1054
- เฟซบุ๊ก : buffalocoffee.office
- อินสตาแกรม : buffalocoffee.office
จุดหมายที่ 2 : เรียนรู้การเบลนด์ชาที่สวรรค์บนดิน ฟาร์ม แอนด์ โฮมสเตย์
ลิ้มรสกาแฟขี้ควายกันจนหนำใจแล้วก็ไปต่อกันที่หมุดหมายแห่งที่ 2 … ทันทีที่ข้ามสะพานไม้ขนาดกะทัดรัดไปเราก็จะพบกับ “สวรรค์บนดิน” คาเฟ่และฟาร์มสเตย์ที่ถูกโอบล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องของเครื่องดื่มสมุนไพรที่หลากหลาย โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเรียนรู้เรื่องราวของสมุนไพรต่าง ๆ พร้อมกับมีกิจกรรมให้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการเบลนด์ชา การปั้นดิน หรือกินขนมและอาหารที่ปรุงจากผักปลอดสารพิษ
แต่ครั้งนี้เราได้ไปเวิร์กช็อปเรียนรู้การเบลนด์ชา (Blend Tea) หรือการผสมผสานใบชาตั้งแต่สองชนิดขึ้นไปเข้าด้วยกัน โดยเริ่มต้นตั้งแต่เรียนรู้ประวัติของชาชนิดต่าง ๆ วัฒนธรรมการดื่มชาของแต่ละประเทศ และไม่ต้องกลัวจะลืมนะ เพราะเขามีกระดาษที่อธิบายข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้ให้เราถือติดมือกลับบ้านไปศึกษาด้วย
พร้อมกับมีชาหลากสายพันธุ์ สมุนไพรพื้นบ้านมากหน้าหลายตาวนเวียนมาให้ได้ลิ้มลองรสชาติ ทั้งชาขาว ชาเขียว ชาอู่หลง ชาดำ ดอกอัญชัน ใบเตย กระเจี๊ยบ คาโมมายล์ เก๊กฮวย มะตูม และหญ้าหวานที่หวานสมชื่อ เป็นต้น เรียกว่าได้ชิมกันจนลิ้นพอง แต่กลิ่นหอมและรสชาติของชาและสมุนไพรแต่ละชนิด ที่เราค่อย ๆ จิบ ค่อย ๆ ดื่มด่ำกับรสชาติ เคล้าไปกับขนมโฮมเมดอย่าง “คุกกี้งาขี้ม่อน” บอกเลยว่าเข้ากันดีมาก
ก่อนจะปิดท้ายด้วยการผสมชาตามแบบฉบับของตัวเอง ใครชอบแบบไหน อยากจะผสมกับสมุนไพรอะไร จัดไปได้ตามต้องการ จากนั้นทางฟาร์มจะจัดชาสูตรดังกล่าวส่งตรงจากเชียงรายไปถึงบ้านคุณเลย หรือถ้าติดใจอยากเสพบรรยากาศของฟาร์มสเตย์ให้มากกว่านี้ ที่นี่ก็มีที่พักราคาเบา ๆ บริการเช่นกัน เรียกว่ามาที่เดียวครบทุกความต้องการ
- ที่ตั้ง : 171/12 หมู่ 1 บ้านสันตาลเหลือง ตำบลริมกก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ : 081 205 3554
- เฟซบุ๊ก : Sawanbondin Farm & Home Stay
จุดหมายที่ 3 : นวดบำบัดที่โฮงฮอมผญ๋า โฮงยาหมอเมืองล้านนา
ดื่มกาแฟ จิบชา กันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว ต่อไปเราจะพาไปนวดผ่อนคลายสไตล์ล้านนากันที่ “โฮงฮอมผญ๋า โฮงยาหมอเมืองล้านนา” เป็นศูนย์เรียนรู้ชุมชนตำบลนางแล ความน่าสนใจของที่นี่คือการนวดบำบัดโรคแบบล้านนาโบราณ ซึ่งวิชาแพทย์ทางเลือกแห่งล้านนาโบราณนั้น จะใช้พืชสมุนไพรในการรักษา เช่น แช่เท้าสมุนไพร ย่างสมุนไพร อบสมุนไพร ตอกเส้น ย่ำขาง และสปาสุ่มไก่ เป็นต้น โดยมี ตุ๊เมธาวินทร์ แสนธิ หรือ ตุ๊เม (ตุ๊ ภาษาเหนือ แปลว่า พระ) เป็นผู้ฝึกสอน
กลิ่นหอมของสมุนไพรชนิดต่าง ๆ อบอวลไปทั่วโรงยา ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ เสียงไม้กระทบวัตถุอะไรสักอย่างดังโป๊ก ๆ สม่ำเสมอ ควันไฟจากหม้อดินพวยพุ่งขึ้นบ่งบอกถึงความร้อนที่ทวีคูณ ชายสูงวัยกำลังนั่งให้หนุ่มวัยละอ่อน หน้าตาน่าชัง ใช้สมุนไพรสีเหลืองพอกไปที่บริเวณข้อเท้าซ้ายเพื่อบรรเทาอาการข้อเท้าพลิก
สมุนไพรนานาชนิดเรียงรายอยู่ตรงหน้า ตุ๊เมอธิบายสรรพคุณของสมุนไพรชนิดต่าง ๆ ให้เราได้ฟัง พร้อมกับผสมสมุนไพรสูตรร้อนและสูตรเย็นให้ได้ดูกันด้วย ก่อนที่เราจะไปลองแช่เท้าด้วยสมุนไพรคลายเมื่อย ลองตอกเส้นให้กล้ามเนื้อคลายตึง และลองย่ำขางเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทำจบครบ 3 ขั้นตอนนี้บอกคำเดียวว่า...สบายยยยยยยยย
ใครเป็นคอนวดตัวยงเราแนะนำให้ลองไปเยือนสักครั้งแล้วจะติดใจ ^^ อ๊ะ ๆ แต่ก่อนเข้าไปควรสอบถามหรือจองคิวกับทางสถานที่ก่อนนะ เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะได้จัดเตรียมหมอนวด อุปกรณ์ หรือสมุนไพรต่าง ๆ เอาไว้ให้อย่างถูกต้อง
เกร็ดความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ
ตอกเส้น คือการตอกเส้นแบบล้านนา จะเป็นการนำไม้ที่โดนฟ้าผ่าหรือไม้มงคล มาทำเป็นอุปกรณ์ในการรักษา โดยจะมีคาถาเสกไม้และจังหวะในการเคาะต่างกันแล้วแต่สำนักที่ตนเองได้ร่ำเรียนมา การตอกเส้นจะมีกระบวนการรักษาคือการใช้ไฟฟ้าสถิตที่อยู่ในไฟ การใช้คลื่นเสียงจะกระทบกันระหว่างไม้ค้อนกับไม้ลิ้น และสุดท้ายการสั่นสะเทือนคือจ้งหวะของการตอกลงตามเส้นเอ็นหรือกล้ามเนื้อ เพื่อความผ่อนคลายลดอาการตึงของกล้ามเนื้อและเส้นเอ็นช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
ย่ำขาง เป็นศาสตร์แห่งการบำบัดแบบล้านนา มีการสืบทอดภูมิปัญญาจากรุ่นสู่รุ่น ผู้เป็นหมอจะต้องมีสมาธิและจิตที่นิ่งพอสมควร หรือมีคาถาเป็นตัวกำกับ ขั้นตอนคือผู้เป็นหมอจะต้องใช้เท้าไปชุบน้ำยาสมุนไพรหรือน้ำมันงา แล้วนำเท้าไปเหยียบที่เหล็กร้อน (ขาง = แผ่นไถนา) ที่กำลังเผาไฟ โดยให้เท้าของหมอเกิดความร้อนอุ่น ๆ แล้วนำพาความร้อนไปถ่ายเทให้กับผู้ที่มาทำการบำบัดรักษา จะเหยียบลงส่วนที่มีอาการเจ็บปวด ตึง ใช้เท้าเป็นตัวนวดและคลึงตามเส้นเอ็นกล้ามเนื้อ เพื่อให้ความร้อนและสมุนไพรผ่านเข้าสู่ร่างกายของผู้ที่ทำการบำบัดรักษา จะมีอาการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการเจ็บปวดได้ดี
- ที่ตั้ง : วัดพระธาตุดอยโอ่ง ตำบลนางแล อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ : 09 0280 6924
- เฟซบุ๊ก : โฮงฮอมผญ๋า โฮงยาหมอเมืองล้านนา ณ.ศูนย์เรียนรู้ชุมชนตำบลนางแล
จุดหมายที่ 4 : เดินเล่นถนนคนเดินเชียงราย
นวดสบายกันแล้วก็ปิดท้ายโปรแกรมวันแรกด้วยการไปเดินชิล ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศของ “ถนนคนเดินเชียงราย” หรือ “กาดเจียงฮายรำลึก” แหล่งช้อปปิ้งขวัญใจนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ที่ตั้งอยู่บริเวณถนนธนาลัย บริเวณสี่แยกสำนักงานยาสูบเชียงราย เรื่อยไปจนถึงสี่แยกธนาคารออมสิน ระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร เปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. เป็นต้นไป
ตลอดสองฟากฝั่งตกแต่งด้วยโคมไฟแบบล้านนา และเต็มไปด้วยสินค้าและอาหารพื้นเมืองให้ได้เลือกซื้อเลือกหาติดไม้ติดมือกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าหัตถกรรม สินค้า OTOP ของตกแต่งบ้าน หรือของกินอย่างลาบจิ้น ผักกาดจอ น้ำพริกอ่อง แกงอ่อม น้ำเงี้ยว ขนมเส้นน้ำยา เป็นต้น อีกทั้งยังมีการแสดงดนตรีพื้นบ้านจากฝีมือของทั้งเด็ก ๆ และผู้สูงอายุ และอย่าพลาดกับไฮไลต์เด็ดอย่าง “รำวงย้อนยุค” ให้ได้สนุกสนาน ช่วยสร้างบรรยากาศความคึกคักมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
- ที่ตั้ง : ถนนธนาลัย ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์ เวลา 16.00-24.00 น.
- เฟซบุ๊ก : นครเมืองเชียงราย
จุดหมายที่ 5 : ลั้ลลาดอยตุง สนุกกับกิจกรรมมัน ๆ และศึกษาเรื่องน่ารู้
เดินกันพอเรียกเหงื่อแล้วแวะจิบชา ดื่มกาแฟ กันที่ “ดอยตุงคาเฟ่” เติมพลังสักนิด นั่งชมวิวเพลิน ๆ ดื่มด่ำบรรยากาศโดยรอบที่งดงาม ก่อนจะไปชมนิทรรศการสื่อผสมผสาน ณ หอแห่งแรงบันดาลใจ บอกเล่าเรื่องราวของสมาชิกราชสกุลมหิดล ที่มุ่งมั่นพัฒนาชีวิต ความเป็นอยู่ของประชาชนคนไทย รวมถึงโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงทำเพื่อความอยู่ดี กินดี ความผาสุกของคนไทยทั้งประเทศ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ดี ๆ ในดอยตุงที่เราไม่อยากให้พลาด
- ที่ตั้ง : ตำบลแม่ฟ้าหลวง อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
- เบอร์โทรศัพท์ : 0 5376 7015 ต่อ 2248
- เว็บไซต์ : www.maefahluang.org
- เฟซบุ๊ก : DoiTung Club
จุดหมายที่ 6 : สักการะพระธาตุดอยตุง เสริมสิริมงคล
สนุกสนานและอิ่มหนำกันเรียบร้อยแล้ว ก็มุ่งหน้าไปสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองเชียงรายกันที่ “พระธาตุดอยตุง” ปูชนียสถานที่สำคัญของคนไทย ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 17.5 บนทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า นำมาจากมัธยประเทศ นับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย เมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนี้ ได้ทำธงตะขาบ (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวาปักไว้บนยอดดอย หากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหนก็จะกำหนดเป็นฐานพระสถูป เหตุนี้ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทย จึงปรากฏนามว่า “ดอยตุง”
สำหรับพระธาตุดอยตุงมีลักษณะเป็นเจดีย์สีทองอร่าม 2 องค์คู่กัน ทรงปราสาทยอดระฆังกลมขนาดเล็ก ตั้งบนฐานสี่เหลี่ยม กรุกระเบื้องดินเผา เชื่อกันว่าเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีนักษัตร “ปีกุน” หากได้กราบไหว้จะพบเจอแต่ความสุข ความเจริญ รุ่งโรจน์และร่มเย็นเป็นสุข
- ที่ตั้ง : อำเภอแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น.
จุดหมายที่ 7 : ขึ้นเขามุ่งหน้า….หมู่บ้านผาฮี้ (จิบกาแฟ เดินเล่น)
เลยจากพระธาตุดอยตุงไม่ไกลเท่าไรนัก ลัดเลาะไปตามสันเขาที่สามารถมองเห็นวิวของประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างชัดเจน ก็จะพบกับ “หมู่บ้านผาฮี้” หมู่บ้านของชนเผ่าอาข่าที่ตั้งอยู่บนขุนเขาสูงตระหง่านในอำเภอแม่สาย ติดกับชายแดนไทย-เมียนมา ช่วงที่เราไปมี “งานประเพณีโล้ชิงช้า” ของชนเผ่าอาข่าพอดิบพอดี เลยโชคดีได้เห็นชาวอาข่าทั้งเด็ก หนุ่ม สาว และผู้เฒ่าผู้แก่แต่งตัวเต็มยศสีสันสดใสมาร่วมงานกันอย่างเนืองแน่น
สำหรับประเพณีโล้ชิงช้า เป็นประเพณีเก่าแก่ที่จัดสืบทอดมาช้านาน เพื่อเป็นการรำลึกถึงเทพธิดา “อึ่มซาแยะ” ผู้ซึ่งชาวอาข่าเชื่อว่าช่วยประทานความชุ่มชื้นอุดมสมบูรณ์ให้กับพืชพรรณธัญญาหาร ในพิธีจะมีการฉลองให้กับพืชผลเจริญงอกงาม พร้อมรำลึกและให้เกียรติสตรี มีพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษด้วยการเลี้ยงฉลองและเต้นรำ ดังนั้นผู้หญิงอาข่าจะมีการแต่งกายด้วยเครื่องทรงต่าง ๆ อย่างสวยงาม
อิ่มเอมกับบรรยากาศของงานประเพณีโล้ชิงช้าเคล้ากับวิวสวย ๆ แล้ว เราก็เดินไปพักคลายเหนื่อยกันที่ “ร้านกาแฟผาฮี้” ร้านกาแฟวิวสวยหลักล้านที่ตั้งอยู่ริมเขา ฉากหน้าคือภูเขาสองลูกที่มีช่องว่างตรงกลางให้ได้ชมความงามของทิวทัศน์เมืองเชียงราย จิบเครื่องดื่มพร้อมกับชมความงามของทัศนียภาพตรงหน้า ช่างเป็นอะไรที่สุขใจไม่น้อย โดยกาแฟอาราบิก้าที่นี่จะมีรสชาติและกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์
และหนึ่งในไฮไลต์ของการไปเที่ยวดอยผาฮี้ คือการเดินชมวิวบนสะพานไม้ไผ่ไร่ผาฮี้ หรือ Bamboo Walk ที่ทอดยาวไปตามริมหน้าผากับวิวสวย 180 องศา มีร่มสีสันสดใสประดับอยู่ตลอดทางเดินของสะพานด้วย ทั้งนี้การเดินทางไปยังหมู่บ้านผาฮี้ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะถนนบางช่วงบางตอนอาจจะค่อนข้างชันและแคบ
สนุกสนานและเต็มอิ่มกับโปรแกรมเที่ยวเชียงราย 2 วัน 1 คืน แบบชิล ๆ ที่เราแนะนำกันไปแล้ว จริง ๆ เชียงรายยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมายให้ได้ไปค้นหาและเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แถมยังเป็นหนึ่งในที่เที่ยวเมืองรอง 55 จังหวัด ที่สามารถนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายกับการท่องเที่ยว ได้แก่ ค่าบริการนำเที่ยว ค่าที่พักโรงแรม โฮมสเตย์ ระหว่างวันที่ 30 เมษายน - 30 มิถุนายน 2562 มาหักลดหย่อนภาษีได้ตามที่จ่ายจริงอีกด้วยนะ (ดูเพิ่มเติมคลิกที่นี่) เห็นไหมล่ะว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่ควรไปเยือนให้ได้สักครั้งในชีวิต :D
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
thai.tourismthailand.org, thailandfestival.org และ maefahluang.org