เกาะเสม็ด เป็นเกาะในตำบลเพ อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่ ลักษณะเป็นรูปสามเหลี่ยมกว้างใหญ่ทางด้านทิศเหนือ แล้วค่อย ๆ ยาวเรียวแหลมไปสุดปลายเกาะทางทิศใต้
เชื่อกันว่าเป็น "เกาะแก้วพิสดาร" ในวรรณคดีเรื่อง "พระอภัยมณี" ของท่านสุนทรภู่ อาจด้วยเพราะมีหาดทรายขาวละเอียดอยู่ทั่วไป และมีต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก จึงเป็นที่มาของชื่อ "เกาะเสม็ด" บนเกาะนี้ไม่มีแม่น้ำลำคลอง พื้นที่ส่วนใหญ่โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของเกาะเป็นภูเขาและป่าประมาณ 80% ส่วนด้านตะวันออกเป็นพื้นราบมีชายหาดสวยงาม จึงเป็นแหล่งที่พักอาศัยของชาวบ้านและรีสอร์ท ที่พักเกาะเสม็ดมีมากมาย
สำหรับพฤษภาคมอันเป็นเดือนปลายร้อนก่อนฝนมาเยือน เราเชื่อว่าน่าจะมีหลาย ๆ คนที่ยังฝันค้างจากการพลาดโอกาสไปท่องเที่ยวยังถิ่นทะเลไกลในที่ต่าง ๆ เราจึงขอแนะนำทริปคลายร้อนกับท้องทะเลงามใกล้ ๆ กรุงเทพฯ อย่าง "เกาะเสม็ด" ให้ได้รู้จักกับเสน่ห์มัดใจของเกาะแห่งนี้ อันมีมากมายหลากหลายรูปแบบให้เลือกท่องเที่ยวได้ตามรสนิยมของแต่ละคน เพราะไม่ว่าจะเป็นชายหาดขาวสะอาด น้ำทะเลเย็นใสน่าสัมผัส ในย่านเงียบสงบสำหรับผู้รักธรรมชาติต้องการพักผ่อนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง หรือจะเป็นชายหาดงามน้ำใส ในย่านที่มีกิจกรรมให้สนุกทั้งกลางวันและกลางคืน บนเกาะเสม็ดแห่งนี้ก็มีให้ทั้งนั้นนั่นแหละ จึงไม่ผิดนักจากที่เค้าเล่าลือกันว่า "มาเสม็ด..เสร็จ(ความสุข)ทุกราย"
การเดินทางมาเกาะเสม็ด หากนับจากท่าเรือบ้านเพที่มีให้เลือกมากมายหลายท่า เช่น ท่าเรือนวลทิพย์ ท่าเรือศรีบ้านเพ ท่าเรือสะพานปลาบ้านเพ ท่าเรือเพ ท่าเรือโชคกฤษดา ฯลฯ มีทั้งเรือเมล์ที่ใช้เวลาเดินทางประมาณครึ่งชั่วโมง มายังท่าเรือหน้าด่านของเกาะเสม็ด ในราคาเพียง 50 บาท/คน หรือมายังอ่าววงเดือน ในราคา 60 บาท/คน หรือจะเลือกแบบเช่าเหมาลำเรือสปีดโบ๊ทตรงไปยังหาดต่าง ๆ ที่ต้องการก็ได้ ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สนนราคาก็เป็นไปตามระยะทาง ตั้งแต่ 1,500-2,500 บาท
และนอกจากบริการเรือไป-กลับแล้ว แต่ละท่าเรือยังมีตัวแทนจองที่พักต่าง ๆ แทบทุกหาดในหมู่เกาะเสม็ด รวมไปถึงทริปทัวร์ต่าง ๆ ด้วย สำหรับผู้ที่มาขึ้นเรือที่ท่าหน้าด่านแล้วจะเดินทางต่อไปยังอ่าวต่าง ๆ บนเกาะ ก็มีบริการรถปิ๊กอัพโดยสารและรถแท๊กซี่ ราคาขึ้นอยู่กับระยะทาง สำหรับท่านใดที่รักการผจญภัยสนุกตื่นเต้นกับการขับรถบนทางวิบาก การขับรถบนเกาะเสม็ดนี้ถือว่าใช้ได้เลย รับรองว่าท่านจะไม่ผิดหวัง โดยท่านสามารถเช่ามอเตอร์ไซค์ หรือรถเอทีวีมาขับทัวร์ทั่วเกาะได้ด้วยตัวเอง ในราคา 500 – 1,200 บาทต่อวัน แต่ขอเตือนก่อนว่าต้องใช้ความระมัดระวังอย่างสูงถึงสูงที่สุดกันเลยทีเดียว!
ทีนี้ก็มาเริ่มต้นทัวร์ทั่วเกาะกับเรา ตามเส้นทางรถยนต์สายวิบากอันหลากหลายที่ว่านี้ โดยนับจาก ท่าเรือหน้าด่าน จุดตั้งต้นบนเกาะเสม็ด ขึ้นมาจากเรือก็แวะสักการะ พ่อปู่ดำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นที่เคารพนับถือของคนบนเกาะเสม็ด เพื่อขอลาภขอพรจากท่านให้เป็นศิริมงคลกันซะก่อน โดยอยู่ใกล้กับ อ่าวกลาง และเป็นที่ตั้งของชุมชนขนาดใหญ่บนเกาะ มีที่ทำการอุทยานฯ มีเซเว่นฯ มีร้านค้าขายข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้า จิปาถะ ของที่ระลึก ไปถึงเอเจนซี่ขายทริปทัวร์ทั่วเกาะ ทั้งทางบกและทางทะเล หรือจะจองรถ จองเรือ จองที่พัก ที่นี่ก็มีให้เลือกเพียบ
และยังเป็นศูนย์กลางคิวรถปิกอัพโดยสาร รถปิกอัพแท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ แนะนำว่าถ้าคุณยังมีแรงหอบของกิน ของใช้ ขนมขบเคี้ยว นม น้ำ ฯลฯ ได้ ให้ซื้อซะจากย่านนี้ เพราะส่วนใหญ่ยังมีราคาไม่ต่างจากบนฝั่ง หากไปซื้อที่ย่านอื่นอาจจะมีการบวกค่าขนส่งเพิ่มอีกราว ๆ 50%
จากนั้นเราก็ขับรถขึ้นเหนือซึ่งมีถนนเลียบตามแนวชายหาดไปยัง อ่าวน้อยหน่า อ่าวนี้มีลักษณะใกล้เคียงกับอ่าวกลางเพียงแต่อยู่ห่างจากชุมชน จึงมีความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน หรือเล่นน้ำ อาบแดด อ่านหนังสือ แบบเป็นส่วนตัว อ่าวน้อยหน่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการพัมนาในอันดับแรก ๆ มีรีสอร์ทและบ้านพักขนาดใหญ่ ค่อนข้างหรูเน้นจุดขายที่ความเงียบสงบ ปลายสุดของอ่าวน้อยหน่าเป็นแหลมหิน ไม่มีเส้นทางรถยนต์เข้าถึง
จากนั้นก็เดินไปสำรวจ อ่าวป่าช้า และ อ่าวลูกโยน ทั้งสองอ่าวเป็นอ่าวเล็ก ๆ เงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ห่างจากท่าเรือหน้าด่านประมาณ 200 เมตร ชายหาดมีโขดหินน้อยใหญ่ เล่นน้ำได้ ถัดมาเป็น อ่าวสับปะรด เป็นที่ตั้งหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตั้งแคมป์พักแรมได้ ดูเหมือนเป็นพื้นที่ไม่กี่แห่งบนเกาะเสม็ดที่สามารถเข้าไปกางเต็นท์ได้ เพราะหาดและอ่าวอื่น ๆ จะมีบริการบ้านพักและรีสอร์ทของเอกชนจับจองพื้นที่จนเต็มหมดแล้ว
เราสามารถเดินเลาะตามแนวชายหาด จากอ่าวสับปะรดมาสู่ อ่าวกล้วย ซึ่งติดกับหาดทรายแก้วได้ โดยมี แหลมใหญ่ กั้นอยู่ ระยะทางเดินไม่ไกลนัก แหลมใหญ่เป็นจุดชมวิวและถ่ายภาพพระอาทิตย์ที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเกาะ และยังเป็นจุดที่สามารถชมวิวโค้งอ่าวหาดทรายแก้วได้ทั้งหาดอีกด้วย
หาดทรายแก้ว เป็นหาดที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ถือเป็นเอกลักษณ์สำคัญของเกาะเสม็ด มีลักษณะเป็นโค้งอ่าวขนาดใหญ่ ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร หาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด ที่ท้ายหาดมีรูปปั้นนางเงือกและพระอภัยมณี ที่ชาวบ้านบนเกาะช่วยกันสร้างไว้เพื่อเป็นการรำลึกถึงบทกวีของท่านสุนทรภู่ เรื่องพระอภัยมณี ห่างจากท่าเรือหน้าด่านมาราว ๆ 800 เมตร เหมาะแก่การเล่นน้ำและกิจกรรมสันทนาการทุกประเภท มีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมสรรพ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารริมหาด ผับ บาร์ แสงสียามค่ำคืน มีที่พักให้เลือกหลากหลายราคา เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงใหลในบรรยากาศคึกคัก เฮฮาปาร์ตี้ดริ๊งค์แอนด์แดนซ์กระจายใต้แสงจันทร์
ถัดไปคือ อ่าวพุทรา เป็นอ่าวเล็ก ๆ ที่เงียบสงบเช่นกัน เหมาะแก่การนอนอ่านหนังสือ อาบแดด และจิบกาแฟเบา ๆ
อีกหนึ่งอ่าวที่ได้รับความนิยม อ่าวทับทิม เป็นอ่าวที่มีพื้นที่ติดกันกับอ่าวพุทรา อ่าวนี้เป็นอ่าวที่เงียบสงบและก็ไม่ไกลมากนักสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินไปชมแสงสียามค่ำคืน ณ หาดทรายแก้วได้ เหมาะมากสำหรับการมาเที่ยวแบบยกแก๊งเพื่อนฝูง จากอ่าวทับทิมลงมาคือ อ่าวนวล เป็นอ่าวเล็ก ๆ ที่ไม่อยากให้มองข้าม เพราะเหมาะสำหรับคนที่รักความสงบ ประเภทกินลมชมความเงียบ ต้องที่อ่าวนวลเพราะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาที่นี่น้อย แถมยังมีบังกะโลเพียงแห่งเดียวที่เปิดรองรับนักท่องเที่ยว แต่ถ้าเหงาจะข้ามไปเที่ยวอ่าวช่อหรืออ่าววงเดือนก็เดินมาได้ไม่ไกลมากนัก
ขยับลงใต้มาอีกนิดก็ถึงคิว อ่าวช่อ หรือ อ่าวลุงหวัง เป็นอ่าวที่นักท่องเที่ยวรู้จักมาช้านาน มีชื่อเสียงเทียบเท่ากับอ่าววงเดือนและหาดทรายแก้ว โค้งอ่าวลุงหวังมีความยาวประมาณ 300 เมตร หาดทรายขาวละเอียด สภาพความลาดชันของแนวชายหาดเหมาะกับการเล่นน้ำทะเล มีรีสอร์ทที่พักหลายแห่ง ผู้คนไม่พลุกพล่าน เงียบสงบกำลังดี
เมื่อเดินทางมาได้ประมาณกึ่งกลางเกาะเราก็จะได้พบกับ อ่าววงเดือน เป็นอีกหนึ่งอ่าวใหญ่ที่มีท่าเรือรับ-ส่งนักท่องเที่ยว ลักษณะเป็นอ่าวโค้งมนคล้ายวงเดือน จึงเป็นที่มาของชื่ออ่าวแห่งนี้ นอกจากจะเป็นหาดที่มีทรายขาวละเอียดสะอาดตามสไตล์ของเกาะเสม็ดแล้ว ความลาดชันของพื้นทะเลในหาดแห่งนี้มีไม่มากนัก จึงเหมาะแก่การพาครอบครัวที่มีเด็ก ๆ มาเล่นน้ำได้อย่างปลอดภัย มีร้านค้า ร้านอาหาร สถานีตำรวจ และหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ อยู่ที่บริเวณอ่าวนี้ด้วย อีกหนึ่งอ่าวที่เหมาะมากสำหรับผู้ที่ต้องการปลีกวิเวก รักความสงบ และต้องการมาพักผ่อนอย่างจริงจัง
อ่าวแสงเทียน เป็นอ่าวไม่ใหญ่นัก แต่มีความงามของน้ำทะเลที่ใสมาก และมีโขดหินใหญ่น้อยแทรกสลับกับพื้นทรายตลอดแนวหาด จึงอาจไม่เหมาะกับการว่ายน้ำมากนัก แต่ถ้ามานอนแช่น้ำรับไอเย็นใต้ร่มไม้ หรือนอนเปลอ่านหนังสือเงียบ ๆ แล้ว หาดนี้นับว่าใช่เลย ที่นี่มีบ้านพักมากมายให้เลือกพัก ทั้งที่ตั้งอยู่บนเนินเขาและแบบอยู่ติดชิดริมทะเลในราคาสบาย ๆ มีร้านค้า ร้านอาหารบริการ นอกจากนั้นยังมีจุดกางเต้นท์ที่ท้ายอ่าวติดกับอ่าวลุงดำอีกด้วย
อ่าวลุงดำ ก็เป็นอีกหนึ่งอ่าวที่รู้จักกันดีในหมู่ของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เพราะมีความเงียนสงบและราคาที่พักก็ไม่สูงมากนัก บริเวณต้นหาดมีโขดหินจึงไม่เหมาะกับการเล่นน้ำ ส่วนบริเวณกลางหาดไปจนถึงปลายหาดมีหาดทรายขาวสวยงามและสะพานไม้ทอดยาวไปในทะเล เหมาะกับการตกปลา หรือดูฝูงปลาที่แหวกว่ายอยู่ใต้สะพาน สะพานไม้แห่งนี้ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม ในยามเย็นสามารถเดินตัดไปทางด้านหลังเขาสู่ฝั่งตะวันตก ด้วยระยะทางประมาณ 100 เมตร เราก็สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินได้
ต่อกันที่อ่าวเกือบสุดท้ายปลายเกาะจะเป็น อ่าวหวาย มีลักษณะเป็นโค้งอ่าวขนาดเล็กกว่าอ่าววงเดือนเล็กน้อย มีความร่มรื่นทางธรรมชาติ และมีความเป็นส่วนตัวสูง ลักษณะของน้ำทะเลและหาดทรายมีความใกล้เคียงกัน คือสามารถเล่นน้ำทะเลได้เกือบตลอดแนวชายหาด ผ่านอ่าวหวายมาจะเป็น อ่าวกิ่ว ซึ่งอยู่ห่างจากอ่าวหวายเป็นระยะทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร สามารถเดินไปได้แต่ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากต้องเดินตัดขึ้นเขาที่บางช่วงเป็นทางชัน หรือเดินเลาะตามชายฝั่งที่เป็นโขดหินขนาดใหญ่ ซึ่งบางจุดจะเป็นทางแคบและหน้าผา ที่อ่าวกิ่วนี้นับว่าเป็นความเป็นสุดยอดทางธรรมชาติของทะเลเกาะเสม็ดที่เหลืออยู่ ด้วยหาดทรายขาวเนียน น้ำทะเลใสแจ๋วชนิดกระจกเรียกพี่ บรรยากาศเงียบสงบ มีที่พักเป็นบังกะโลแบบง่าย ๆ ไม่หรูหรา และมีน้ำจืดให้ใช้ค่อนข้างน้อย การเดินทางมาอ่าวนี้นับว่าไกลจากชุมชนทางต้นเกาะมาก จึงเป็นอ่าวที่เหมาะกับคนที่รักธรรมชาติโดยแท้และชอบความเงียบสงบอย่างจริงจังเท่านั้น
นอกจากนี้ อ่าวกิ่วยังมีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นทางด้านอ่าวกิ่วหน้านอก และสามารถเดินข้ามไปชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นที่อ่าวกิ่วหน้าในได้ด้วย จบปิดท้ายเกาะกันที่ แหลมกุด และ อ่าวปะการัง ซึ่งมีขนาดเล็ก สภาพเป็นหาดหิน ไม่เหมาะในการเล่นน้ำทะเล แต่จุดเด่นของอ่าวแห่งนี้ คือ มีแนวปะการังน้ำตื้นที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีบ้านพักขนาดเล็กไว้บริการ พร้อมร้านอาหาร ในระดับดีพอสมควร มีหน่วยพิทักษ์อุทยานฯ มีบ้านพักรับรองและลานสำหรับตั้งแคมป์ให้บริการนักท่องเที่ยว เป็นทางเลือกที่เหมาะกับคนรักความสันโดด หลีกหนีความวุ่นวาย
เมื่อมาถึงจุดสุดท้ายปลายเกาะแล้วต้องเดินทางกลับขึ้นเหนือไปในทางเดิม ไม่สามารถเดินทางวนมาทางฝั่งตะวันตกได้ เพราะเป็นด้านของภูเขาสูงชัน ไม่มีชายหาดใด ๆ จึงต้องเดินทางกลับมาจนถึง 3 แยก ที่ถ้าเลี้ยวขวาจะไปอ่าวไผ่ ก็ให้เลี้ยวซ้ายแทน สภาพเส้นทางค่อนข้างชัน เพื่อมาชม อ่าวพร้าว ซึ่งเป็นอ่าวเดียวที่อยู่อย่างเอกเทศทางฝั่งตะวันตกของเกาะเสม็ด โค้งอ่าวมีความยาวประมาณ 300 เมตร น้ำทะเลใสสะอาด น่าเล่นมาก เป็นอ่าวปิดที่ไม่มีทางรถผ่าน จึงสงบเงียบ ไม่พลุกพล่าน ที่พักในอ่าวพร้าวนี้มีระดับค่อนข้างหรูหราและราคาสูง การขับรถเที่ยวทั่วเกาะนี้สามารถทำได้ในหนึ่งวันจบ แล้วกลับสู่ที่พักในช่วงเย็น เพื่อเตรียมตัวออกเที่ยวชมแสงสีชีวิตชีวาในยามค่ำคืนของหาดทรายแก้วได้
นอกจากการขับรถทัวร์ทั่วเกาะเสม็ดแล้ว ยังมีวิธีท่องเที่ยวชมทางเรือได้อีกทางด้วย โดยสามารถซื้อทัวร์กับตัวแทนขายได้ทั่วไปในเกาะ ซึ่งส่วนใหญ่ทุกรีสอร์ทก็จะมีบริการรับจองทัวร์นี้อยู่แล้ว ทัวร์รอบเกาะนี้มีให้เลือก 2 โปรแกรมด้วยกัน คือ แบบนั่งเรือสปีดโบ๊ท ทัวร์รอบเกาะเสม็ด โดยเรือจะมารับที่หน้ารีสอร์ทในช่วงบ่ายโมงถึงบ่าย 2 แล้วพาขับผ่านหาดต่าง ๆ รอบเกาะ ไปหยุดให้ดำน้ำดูปะการังที่ อ่าวลุงดำ หรือ อ่าวหวาย หรือปลายแหลมกะรัง จุดใดจุดหนึ่งเป็นจุดแรก จากนั้นก็อ้อมแหลมมาจอดที่ แหลมเรือแตก เพื่อดำน้ำชมปะการังเป็นจุดที่ 2 แล้วพาไปจอดให้เล่นน้ำ อาบแดด หรือนอนกลิ้งเล่นใต้ร่มไม้ใบบังในบริเวณอ่าวพร้าวตามอัธยาศัย ก่อนไปชมกระชังเลี้ยงปลาที่อ่าวน้อยหน่า แล้วส่งกลับรีสอร์ท ส่วนอีกโปรมแกรมเป็นทัวร์ 4 เกาะ ใกล้ ๆ เกาะเสม็ด โปรแกรมนี้อาจแตกต่างกันไปบ้าง ตามแต่บริษัทจัดทัวร์ผู้ให้บริการจะกำหนดขึ้น
การข้ามฝั่งไปเที่ยวเกาะแก่งต่าง ๆ อาจถือเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงไปบ้างสำหรับบางท่าน แต่ก็มิใช่อุปสรรคที่ทำให้เราหมดโอกาสไปสูดโอโซนชื่นชมบรรยากาศทะเลเสียทั้งหมด เพราะไม่ไกลจากท่าเรือเพ ยังมี หาดสวนสน เรื่อยไปจนถึง หาดวังแก้ว ที่เราจะได้นั่งชมทะเลใต้ร่มเงาทิวสนตลอดแนวหาดอันยาวเหยียด มีร้านอาหารอร่อย ๆ มากมายให้เลือกรับประทานกัน หรือหากชอบสีสันความสนุกสนานก็สามารถแวะเล่นน้ำและเรือบานานาโบ๊ทได้ที่ หาดแม่พิมพ์ ที่พรั่งพร้อมทั้งอาหารและของที่ระลึกมากมายให้เลือกรื้อซื้อหากัน ก่อนกลับหากมีเวลาเราขอแนะนำให้ท่านแวะไปนมัสการ อนุเสาวรีย์สุนทรภู่ กวีเอกของไทย เจ้าของตำนาน เกาะแก้วพิสดาร หรือ เกาะเสม็ด แหล่งท่องเที่ยวของท้องทะเลฝั่งอ่าวไทยที่สวยงามและสร้างความประทับใจให้กับเราในทริปนี้เป็นอย่างมาก
ความสนุกและความสุขในการเดินทางท่องเที่ยวไม่ว่าใกล้หรือไกลจะเกิดขึ้นได้ ถ้าคุณได้ไปกับเพื่อนร่วมทางที่รู้ใจและมีความชอบอะไรที่คล้าย ๆ กัน!
TIPS การเดินทาง
1. รถยนต์ส่วนตัว
โดยใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) จากกรุงเทพฯ หรือ ทางหลวงหมายเลข 7 (สายมอเตอร์เวย์) หรือ ทางหลวงหมายเลข 34 (ถนนบางนา-ตราด) เริ่มจากตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร จังหวัดสมุทรปราการ หรือ ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส 36) ผ่านอำเภอบางปะกง เข้าจังหวัดชลบุรี มาทางอำเภอเมือง จังหวัดระยอง แล้วไปตามถนนสุขุมวิท มีทางแยกขวามือเข้าไปตลาดบ้านเพ จากตลาดจะมีถนนเลียบหาดตัดไปที่ท่าเรือบ้านเพ
2. รถโดยสารประจำทาง
บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถออกจากสถานีขนส่งเอกมัยทุกวัน สอบถามรายละเอียดและตารางเดินรถได้ที่ Call Center โทร.1490 เรียก บขส. หรือ www.transport.co.th
การเดินทางไปเกาะ
มีเรือออกจากท่าเรือบ้านเพ บริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง ค่าโดยสารระหว่างบ้านเพ-เกาะเสม็ด (ไป-กลับ 100 บาท/ท่าน) ใช้เวลาเดินเรือประมาณ 40 นาที ส่วนเรือ speed boat อยู่ที่คนละ 250 บาท หรือ เหมาลำประมาณ 1,500 - 2,500 บาท
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ท่าเรือนวลทิพย์ โทร.038 651508
ท่าเรือศรีบ้านเพ โทร.038 651901-2,
ท่าเรือสะพานปลาบ้านเพ โทร.038 651441
ท่าเรือเพ โทร.038 896155-6
ท่าเรือเสรีบ้านเพ โทร.038 6511134-5
ท่าเรือโชคมานะ โทร.038 653577
ท่าเรือโชคกฤษดา โทร.038 652040
การเดินทางบนเกาะ
มีรถปิกอัพโดยสาร และรถแท๊กซี่ ให้บริการไปตามหาดต่างๆ ค่าโดยสารประมาณ 10-500 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง สำหรับนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยและสนใจมอเตอร์ไซต์เช่า หรือรถเอทีวีราคาอยู่ที่ 500-800 บาทต่อวัน
แนะนำที่ท่องเที่ยว สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร พร้อมคูปองส่วนลดโรงแรม เพียบ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ