ที่เที่ยวทะเลไทย ใครที่หลงรักทะเลมาดูสิว่าคุณเก็บมาหมดหรือยังกับที่เที่ยวทะเลไทยสุดฮอต ที่ยังคงสวยงาม มีเสน่ห์ชวนหลงใหล ไปเที่ยวเมื่อไรก็หลงรัก
เกาะล้าน เป็นท้องทะเลที่มีความสวยงามเทียบเท่ากับทะเลภาคใต้ ที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด และยังสามารถเดินทางไปเที่ยวได้ง่าย ๆ ด้วยรถโดยสารสาธารณะ ใช้เวลาเดินทางเพียงแค่ประมาณ 1-2 ชั่วโมงเท่านั้น หาดทรายบนเกาะล้านนั้นขาวสะอาด แม้ว่าจะเป็นหาดทรายที่ไม่ได้กว้างขวางมากนัก แต่ก็มีให้เลือกพักผ่อนกันหลายหาด อีกทั้งน้ำทะเลยังใส มองเห็นพื้นทะเลได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งมีแนวปะการังให้ได้ดำน้ำชมกันได้อย่างง่ายดาย มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่นี่จึงเป็นตัวเลือกยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ
2. พัทยา จังหวัดชลบุรี
พัทยา ได้กลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองไทยที่ชาวต่างชาติจะต้องมาปักหมุดกันให้ได้ เพราะนอกจากที่นี่จะมีท้องทะเลที่เงียบสงบแล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่น่าสนใจอีกมากมาย แต่เชื่อหรือไม่ว่าเสน่ห์ของพัทยามักจะอยู่ที่การทำกิจกรรมง่าย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินเล่นริมชายหาดชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า การได้กินอาหารพื้นเมืองสุดแซ่บ การขึ้นไปชมทะเลมุมสูงจากจุดชมวิวพัทยา การเล่นกีฬาทางน้ำสุดมัน หรือแม้กระทั่งการนั่งจิบกาแฟในคาเฟ่สุดชิล ซึ่งสามารถทำให้ผู้มาเยือนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
เกาะแสมสาร และอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ตั้งอยู่ในเขตอำเภอสัตหีบ เป็นพื้นที่ท้องทะเลที่อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ ทั้งสองเกาะจึงยังคงมีธรรมชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากกันมากนัก สามารถเที่ยวได้แบบ 2 วัน 1 คืน
สำหรับเกาะแสมสารนั้น เป็นเกาะที่มีหาดทรายสวยงามขาวสะอาด เงียบสงบ บนเกาะไม่มีร้านค้าหรือที่พักที่จะสร้างเสียงรบกวน หรือก่อให้เกิดความสกปรกบนหาดทราย จึงเหมาะแก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการไปพักผ่อนอย่างแท้จริง สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับการเที่ยวเกาะแสมสารได้ที่ tis-museum.org
ส่วนอุทยานใต้ทะเลเกาะขาม จะเป็นพื้นที่ที่มีแนวปะการังที่สวยงามมาก ๆ เหมาะแก่การไปเที่ยวดำน้ำ น้ำทะเลจะเป็นสีฟ้าใสราวกับคริสตัล บรรยากาศเงียบสงบ มีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ kohkham.com
4. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
เกาะสีชัง เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลสุดฮิตของจังหวัดชลบุรี ซึ่งนอกจากที่นี่จะมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานแล้ว ก็ยังเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสะพานอัษฎางค์, ช่องเขาขาด, หาดถ้ำพัง, ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ และพระจุฑาธุชราชฐาน เป็นต้น ซึ่งเหมาะแก่การมาเที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน นอกจากนี้บนเกาะสีชังยังมีร้านอาหารทะเลสดใหม่ รสชาติอร่อย รวมทั้งร้านกาแฟเก๋ ๆ ให้ได้ลิ้มลองกันอีกด้วย
5. ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
ไม่ว่าจะผ่านมากี่สิบปี ชายหาดชะอำก็ยังคงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลใกล้กรุงเทพฯ ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากที่สุด เพราะพื้นที่ชายหาดเหมาะแก่การเล่นน้ำทะเล สามารถมาเที่ยวพักผ่อนได้ทั้งครอบครัว มีสถานที่จอดรถกว้างขวาง อีกทั้งมีแนวต้นสนให้ความร่มรื่นตลอดแนวชายหาด จึงทำให้นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนได้อย่างชิล ๆ นอกจากนี้ยังมีอาหารทะเลสดใหม่มาเสิร์ฟขายกันตลอดทั้งวัน รวมทั้งยังมีที่พักและร้านอาหารไว้รองรับมากมาย
6. หาดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
แม้ว่าในอำเภอหัวหินจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายหลากหลายแบบ แต่ชายหาดหัวหินก็ยังคงมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย ด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ มีทิวต้นมะพร้าวให้ความร่มรื่นตลอดแนวชายหาด หาดทรายที่ทอดยาวก็ขาวสะอาด สามารถเล่นน้ำได้อย่างชิล ๆ หลังจากเล่นน้ำทะเลจนเพลินใจแล้ว ก็ยังสามารถที่จะไปเติมความสุขกับสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ในหัวหินได้อีกด้วย อาทิ ตลาดโต้รุ่งหัวหิน, อุทยานราชภักดิ์, สถานีรถไฟหัวหิน, ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม, เพลินวาน หัวหิน, วัดห้วยมงคล หรือไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด เป็นต้น
7. เกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เกาะทะลุ อีกหนึ่งแหล่งที่เที่ยวประจวบฯ ที่อยากให้ได้ไปสัมผัสกัน ท้องทะเลที่นี่สวยงามไม่แพ้ท้องทะเลไหน ๆ ในเมืองไทยเลยค่ะ ด้วยความที่เป็นเกาะส่วนตัวและมีเพียงรีสอร์ตเดียวเท่านั้นที่อยู่บนเกาะ จึงทำให้ธรรมชาติบนเกาะยังคงสวยงาม และบรรยากาศก็เงียบสงบ น้ำทะเลบนเกาะทะลุจะเป็นสีฟ้าใสราวกับกระจก สามารถดำน้ำชมปะการังได้จากชายฝั่ง มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำชมปะการัง การเดินตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปยังจุดชมวิวบนเขา การชมฟาร์มเพาะพันธุ์เต่าทะเล การตกหมึก เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Koh Talu Island Resort
8. เกาะช้าง จังหวัดตราด
เกาะช้าง เป็นอีกหนึ่งเกาะของไทยที่มีเนื้อที่กว้างขวาง โดยมีพื้นที่ทั้งหมดราว ๆ 429 ตารางกิโลเมตร ถือได้ว่าเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเมืองไทยรองจากเกาะภูเก็ต สิ่งที่ทำให้เกาะช้างน่าท่องเที่ยวไม่ใช่เพียงแค่ท้องทะเลที่สวยงามเท่านั้น แต่บนเกาะแห่งนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาแอดเวนเจอร์ในแบบต่าง ๆ, การชมหมู่บ้านชาวประมง, การล่องเรือมาด บ้านสลักคอก, การดำน้ำดูปะการังตามเกาะน้อยใหญ่, การชมหมู่บ้านช้าง และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่สำคัญใครอยากขับรถข้ามไปยังเกาะช้าง ก็สะดวกง่ายดาย เพราะมีบริการเรือเฟอร์รี่ให้ได้เอารถไปใช้บนเกาะอีกด้วย
9. เกาะกูด จังหวัดตราด
เกาะกูด เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ท้ายสุดในผืนแผ่นดินไทยทางฝั่งตะวันออก เรียกว่าเป็นเกาะที่อยู่ห่างไกลจากฝั่งมากที่สุดก็ได้ ที่นี่จึงเงียบสงบ เต็มไปด้วยความสวยงามของธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยชาวบ้านบนเกาะยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย มีสวนมะพร้าวและสวนยางแทบจะทุกพื้นที่ของเกาะ แต่โดยรอบ ๆ ก็เต็มไปด้วยหาดทรายสวย ๆ มากมาย ซึ่งรีสอร์ตส่วนใหญ่ก็จะตั้งอยู่บริเวณริมทะเล จึงทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับท้องทะเลอย่างเต็มที่ ไม่เพียงเท่านั้นบนเกาะกูดก็ยังมีที่เที่ยวธรรมชาติอย่างน้ำตกคลองเจ้า ให้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันอีกด้วย
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียงแค่ 1 ชั่วโมงเศษ ๆ เท่านั้น เราก็จะได้สัมผัสกับท้องทะเลสุดเงียบสงบบนเกาะเสม็ดกันแล้ว ซึ่งก็มีรถโดยสารสาธารณะให้บริการจากกรุงเทพฯ ทุกวัน จึงทำให้ที่นี่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาเยี่ยมเยือนตลอดทั้งปี ซึ่งเหมาะมาก ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบความเงียบสงบ เพราะเกาะเสม็ดมีหลากหลายหาดให้ได้ไปนั่งพักผ่อนกันชิล ๆ ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายแก้ว, อ่าวน้อยหน่า, อ่าวลูกโยน, อ่าวไผ่, อ่าวพุทรา, อ่าวทับทิม, อ่าวลุงดำ, อ่าวช่อ, อ่าวตะวัน, อ่าววงเดือน, อ่าวเทียน, อ่าวหวาย, อ่าวกิ่ว, อ่าวปะการัง, อ่าวกะรัง และอ่าวพร้าว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมดำน้ำให้นักท่องเที่ยวได้ไปชมใต้ท้องทะเลอันสวยงามรอบ ๆ เกาะ พร้อมทั้งที่พักเกาะเสม็ดสวย ๆ ไว้รองรับมากมาย
11. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะสมุย สถานที่ท่องเที่ยวทะเลที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยที่นี่มีธรรมชาติที่สวยงาม เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ครบครันไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิง หาดทรายและน้ำทะเลก็สวยใส น่าเที่ยวน่าสัมผัสไปเสียหมด อยากหามุมนั่งชิลอ่านหนังสือริมทะเลก็ได้ หรือจะสนุกสนานไปกับเสียงเพลงในบาร์ริมชายหาดก็มีให้เลือก มีน้ำมะพร้าวสมุยแท้ให้ได้ลิ้มลองกันอย่างจุใจ หรืออยากไปหาทะเลอ่าวไทยที่สวยปังอย่างหมู่เกาะอ่างทอง, เกาะพะงัน, เกาะเต่า และเกาะนางยวน ฯลฯ ก็ไปเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริป ที่สำคัญบนเกาะแห่งนี้ก็มีที่พักหลากหลายแบบให้เลือก ใครมีงบประมาณแค่ไหนก็จัดไปเลยค่ะ
12. เกาะเต่า เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะเต่า สวรรค์แห่งท้องทะเลไทย ที่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติต่างยกใจให้ที่นี่อย่างไม่มีเงื่อนไข ด้วยเกาะเต่ายังเป็นเกาะที่มีธรรมชาติสวยงาม น้ำทะเลเป็นสีฟ้าครามสดใส มีแนวปะการังสวย ๆ ให้ได้ชื่นชมโดยรอบเกาะ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม มีความเป็นท้องถิ่นให้เห็นอยู่มาก อีกทั้งที่พักสไตล์กระท่อมริมทะเล ยังสวยหรู ดูชิล ให้ความรู้สึกผ่อนคลายกับผู้มาเยือนได้อย่างมากเลยทีเดียว
ส่วนเกาะนางยวน จะมีเอกลักษณ์อยู่ที่สันทรายสีขาวที่เชื่อมระหว่าง 3 เกาะ ท่ามกลางท้องทะเลสีฟ้าสวยราวกับคริสตัล ซึ่งได้กลายเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกรู้จักท้องทะเลไทย โดยบนเกาะนางยวนจะมีที่พักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น ซึ่งบ้านพักก็จะกระจายตัวอยู่บริเวณริมผาและหาดทรายบนเกาะ ซึ่งให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวมาก ๆ ที่นี่จึงรู้จักกันดีว่าเป็นเกาะสำหรับการฮันนีมูน
13. เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เกาะพะงัน ได้กลายเป็นเกาะอันโด่งดังของโลกไปแล้วเรียบร้อย ด้วยการจัดเทศกาลฟูลมูน ปาร์ตี้ หรือปาร์ตี้ริมชายหาดใต้แสงจันทร์นั่นเอง โดยในทุกค่ำคืนที่พระจันทร์เต็มดวง บริเวณหาดริ้นจะเต็มไปด้วยผู้คนจากทั่วโลก ที่มาร่วมกันเต้นและขับร้องเพลงไปกับดนตรีในจังหวะสนุกสนาน และต้องไม่พลาดกับการเพนต์สีสะท้อนแสงสุดจี๊ด รวมทั้งเครื่องดื่มอร่อย ๆ จากบาร์ต่าง ๆ บนชายหาด ไม่เพียงเท่านั้น บนเกาะพะงันก็ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติให้ได้ยลด้วยเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นชายหาดต่าง ๆ รวมทั้งเกาะข้างเคียง ก็งดงามเกินกว่าที่คนรักทะเลจะปล่อยผ่านไปได้
14. เกาะพยาม จังหวัดระนอง
เกาะพยาม เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลที่น่าไปเที่ยวมาก ๆ เพราะที่นี่ยังคงมีธรรมชาติที่สวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ ชาวบ้านในพื้นที่ยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและประมง ไม่ได้มีร้านค้า ผับ บาร์ หรือสถานที่เที่ยวเพื่อความบันเทิงมากมาย จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่จะได้พักผ่อนกับธรรมชาติและความเรียบง่ายของชุมชนอย่างแท้จริง ซึ่งบนเกาะก็มีหลายที่เที่ยวให้ได้ไปเที่ยวชมกัน อาทิ วัดเกาะพยาม, อ่าวหินขาว, อ่าวไม้ไผ่, อ่าวกวางปีป, แหลมหิน, อ่าวมุก, อ่าวใหญ่ และอ่าวเขาควาย เป็นต้น
ใครว่าชุมพรไม่มีอะไรน่าเที่ยว จริง ๆ แล้วจังหวัดนี้ก็มีท้องทะเลที่สวยงามไม่แพ้ท้องทะเลทางอันดามันเลยล่ะค่ะ อีกทั้งยังเงียบสงบ และมีแนวปะการังสวย ๆ ให้ได้ดำน้ำชมกันอย่างจุใจอีกด้วย ซึ่งถ้าอยากเห็นฉลามวาฬก็ต้องมาเที่ยวที่นี่เท่านั้น
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่ประมาณ 40 เกาะ ซึ่งแต่ละเกาะก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป อย่างเกาะลังกาจิว ก็มีทัศนียภาพที่สวยงาม มีหาดทรายสีขาวสะอาดตา สามารถไปว่ายน้ำชมปะการังได้ อีกทั้งยังมีลายพระหัตถ์จารึกพระปรมาภิไธยย่อ จ.ป.ร. สลักอยู่บนผาหินหน้าปากถ้ำรังนก เมื่อครั้งที่พระองค์เสด็จฯ มายังเกาะแห่งนี้เมื่อปี ร.ศ. 108 ให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย หรือจะเป็นเกาะง่ามน้อย เกาะง่ามใหญ่ จุดดำน้ำอันขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของทะเลอ่าวไทย และบริเวณนี้เองที่นักดำน้ำต่างภาวนาว่าให้พบกับฉลามวาฬ
16. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล
เกาะหลีเป๊ะ อีกหนึ่งเกาะสวรรค์ของทะเลไทย แม้ว่าจะเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ แต่หลีเป๊ะก็มีความสวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย หาดทรายบนเกาะหลีเป๊ะจะเป็นสีขาวสะอาด นุ่มเนียนละเอียด ราวกับปุยนุ่น และเพียงไม่กี่ก้าวจากชายหาด คุณจะได้สัมผัสกับแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ใต้ท้องทะเลสีฟ้าใสราวกับคริสตัล นอกจากนี้ก็ยังมีเกาะและที่เที่ยวที่อยู่รอบ ๆ เกาะหลีเป๊ะ ที่มีความสวยงามมาก ๆ อีกหลากหลายแห่ง อาทิ ร่องน้ำจาบัง, เกาะอาดัง-ราวี, เกาะหินงาม, เกาะรอกลอย, เกาะหินซ้อน, เกาะไม้ไผ่ และเกาะยาง เป็นต้น
17. ถ้ำมรกต เกาะกระดาน เกาะเชือก เกาะม้า และเกาะไหง จังหวัดตรัง
เส้นทางท่องเที่ยวทะเลตรังสุดฮิต ที่สามารถไปเที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ หรือใครจะไปพักผ่อนค้างคืนบนเกาะไหงก็ได้เช่นกัน ซึ่งความสวยงามของท้องทะเลเหล่านี้จะอยู่ที่แนวปะการังและปลาทะเล รวมทั้งสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ ที่มีให้ชมมากมาย ใครที่ชอบดำน้ำบอกเลยว่าเส้นทางนี้เหมาะสำหรับคุณมาก ๆ อีกทั้งยังจะได้สัมผัสกับประสบการณ์การว่ายน้ำเข้าไปยังถ้ำมรกต ที่มีเพียงแห่งเดียวในเมืองไทย บอกเลยว่าความสวยงามของท้องทะเลตรังและที่เที่ยวตรังจะทำให้คุณประทับใจไม่รู้ลืม
18. เกาะรอก จังหวัดกระบี่
เกาะรอก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา จังหวัดกระบี่ ได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งท้องทะเลไทย เพราะมีความสวยงามเป็นอันดับต้น ๆ ของท้องทะเลทางฝั่งอันดามันเลยทีเดียว ซึ่งถ้าดูจากที่ตั้งแล้ว เกาะรอกจะอยู่ใกล้กับจังหวัดตรัง แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมที่จะเดินทางมาจากทางฝั่งจังหวัดกระบี่และจังหวัดภูเก็ตมากกว่า เพราะสามารถแวะเที่ยวได้อีกหลากหลายเกาะ
19. เกาะห้อง จังหวัดกระบี่
เกาะห้อง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติธารโบกขรณี เป็นที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของกระบี่ เพราะที่นี่มีแนวชายหาดรูปครึ่งเสี้ยวพระจันทร์ที่สวยงาม อีกทั้งยังเงียบสงบ เหมาะแก่การไปนอนเล่นพักผ่อน นอกจากนี้ก็ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งเกาะเล็กใหญ่ที่อยู่รายรอบให้ได้ไปเที่ยวชมอีกหลากหลายแห่ง หรือถ้าใครอยากพายเรือแคนูชมภูเขาหินปูนกลางทะเลสวย ๆ ก็มีเส้นทางให้ไปสนุกกัน
20. เกาะปอดะ จังหวัดกระบี่
เกาะปอดะ อีกหนึ่งท้องทะเลสุดอันซีนห้ามพลาดของจังหวัดกระบี่ ด้วยหาดทรายสีขาวที่ทอดยาวสอดรับกับท้องทะเลสีฟ้าครามของอันดามันได้อย่างงดงามสุด ๆ บรรยากาศบนเกาะนั้นเงียบสงบ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะชอบมานั่งเล่นพักผ่อน นอนอ่านหนังสือหรืออาบแดดเงียบ ๆ ใครชอบดำน้ำดูปะการังก็สามารถเล่นน้ำได้บริเวณชายฝั่ง อีกทั้งเกาะปอดะยังตั้งอยู่ใกล้กับทะเลแหวก ซึ่งเป็นสันทรายที่เชื่อมกันระหว่างเกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับ ใครยังไม่ได้ไปเช็กอินต้องไม่พลาดนะคะ
เกาะพีพี ตำนานความสวยงามของท้องทะเลไทย ที่อยากให้ได้ไปสัมผัสกันสักครั้ง ภาพของเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม เป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นของที่นี่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมวิวสวย ๆ นี้ได้จากจุดชมวิวบนเกาะ นอกจากนี้เกาะพีพีก็ยังประกอบไปด้วยหาดทรายที่สวยงาม รวมทั้งเกาะน้อยใหญ่อีกมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ อ่าวมาหยา ที่มีภาพยนตร์ระดับโลกหลายเรื่องมาถ่ายทำกันที่นี่ ใครที่อยากดำน้ำชมปะการังสวย ๆ บอกเลยว่าเกาะพีพีก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน และยังมีที่พักเกาะพีพีสวย ๆ ให้เลือกพักผ่อนเพียบ
22. เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต
เกาะไม้ท่อน ได้ฉายาว่าเกาะฮันนีมูน เพราะบนเกาะนั้นมีเพียงรีสอร์ตที่พักเพียงแห่งเดียวเท่านั้น จึงให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวแบบสุด ๆ คู่รักจากทั่วโลกจึงต่างพากันมาพักผ่อนที่นี่ แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้พักที่รีสอร์ต ก็มีทัวร์พาไปเที่ยวชมเกาะแห่งนี้ด้วยเช่นกัน โดยจะเป็นทัวร์แบบวันเดย์ทริป นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับหาดทรายสีขาวสุดเงียบสงบ ได้ขึ้นไปยังจุดชมวิวเพื่อชมวิวท้องทะเลอันดามันสีฟ้าครามแบบไกลสุดลูกหูลูกตา รวมทั้งได้ดำดิ่งสู่ใต้ท้องทะเลเพื่อชมแนวปะการังอันสวยงามบริเวณชายฝั่งของเกาะไม้ท่อน ใครอยากรู้ว่าเกาะฮันนีมูนแห่งนี้สวยงามขนาดไหนก็ต้องไปพิสูจน์กันค่ะ
23. เกาะไข่นอก เกาะไข่ใน จังหวัดพังงา
ถ้ากำลังตามหาเกาะสวย ๆ สุดเงียบสงบ เราขอแนะนำเกาะไข่นอก และเกาะไข่ในแห่งนี้กันค่ะ ทั้งสองเกาะเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลอันดามัน ซึ่งสามารถมาเที่ยวได้ทั้งจากทางฝั่งจังหวัดพังงาและจังหวัดภูเก็ต บนเกาะไม่มีที่พัก เพราะมีขนาดเล็กมาก แต่มีหาดทรายที่ขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนนุ่ม ตัดกับท้องทะเลสีฟ้าคริสตัลอย่างเด่นชัด สามารถว่ายน้ำชมปะการังได้บริเวณริมฝั่ง เที่ยวได้แบบไปเช้า-เย็นกลับ เชื่อได้เลยว่าความสวยงามของเกาะไข่จะต้องทำให้คุณประทับใจอย่างแน่นอน
24. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา
หมู่เกาะสุรินทร์ ที่เที่ยวทะเลไทยที่มีความสวยงามในระดับ 10 ดาว ไม่ว่าใครได้มาสัมผัสก็ต้องตกหลุมรัก เพราะที่นี่เต็มไปด้วยหาดทรายที่สวยงาม ขาวสะอาด น้ำทะเลก็เป็นสีฟ้าใสเทอร์ควอยซ์ มีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์และสวยงาม บรรยากาศเงียบสงบ เป็นเพชรเม็ดงามของอันดามันไทย ที่คนทั่วโลกต่างต้องการมาสัมผัส
25. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
สุดยอดท้องทะเลไทยที่ทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติต่างก็หลงใหล ที่นี่เต็มไปด้วยท้องทะเลที่สวยงาม น้ำทะเลเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส มองเห็นใต้ท้องทะเลได้อย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีหาดทรายที่ขาวสะอาด เนียนนุ่มราวกับคอฟฟี่เมต ไม่เพียงเท่านั้นยังมีจุดดำน้ำ ทั้งดำน้ำตื้นและดำน้ำลึกที่สวยงามให้ได้เที่ยวชมไม่รู้เบื่อ และยังมีทั้งปลาทะเลและสัตว์ใต้ท้องทะเลอีกหลากหลายสายพันธุ์ อันแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลแห่งนี้ การได้ไปนอนพักผ่อนบนเกาะ หรือแม้กระทั่งไปว่ายน้ำลอยตัวอยู่ในท้องทะเลสิมิลัน จึงเป็นความใฝ่ฝันของคนทั่วโลก
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
kohkham.com, tis-museum.org, ททท., park.dnp.go.th, nps.dnp.go.th, Koh Talu Island Resort