x close

20 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2563 ช่วงรอยต่อของฤดูกาลที่งดงาม

          ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวจากทั่วประเทศไทย ชวนไปสัมผัสธรรมชาติอันเขียวขจีหลังสายฝนโปรยปราย ที่มาพร้อมกับสายลมหนาวพัดผ่านบางเบา เคล้ากับสายหมอกคลอเคลียเพิ่มความน่ามอง
          ก่อนลมหนาวจะมาทักทาย ช่วงปลายฝนต้นหนาวอากาศกำลังเย็นสบาย ธรรมชาติเขียวขจี แม่น้ำลำธารเอ่อล้นไปด้วยสายน้ำ เพิ่มความชุ่มฉ่ำ ซึ่งช่วงเวลาแบบนี้แหละที่หลาย ๆ คนเริ่มออกเดินทางโลดแล่นออกไปสูดอากาศดี ๆ ไม่ว่าจะเป็นเขาใหญ่ วังน้ำเขียว ภูทับเบิก เขาค้อ หรือแก่งกระจาน ซึ่งเป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนสักครั้ง และหลังจากที่เราเคยหยิบเอา 30 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว จดลิสต์ไว้แล้วไปลุยกัน มาแนะนำกันไปแล้ว คราวนี้ถึงคิวของปี 2563 กันบ้าง ไปดูสิว่ามีที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2563 ที่ไหนเข้าตาโดนใจกันบ้าง

1. อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี

           ถ้าเอ่ยถึงอำเภอด่านช้าง หลาย ๆ คนจะนึกถึง “อุทยานแห่งชาติพุเตย” ที่เที่ยวธรรมชาติขึ้นชื่อของจังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าของฉายา “ดินแดนสวรรค์ตะวันตกสำหรับนักผจญภัย” แต่จริง ๆ แล้วอำเภอมากเสน่ห์แห่งนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ไปสัมผัสอีกมากมาย โดยอำเภอด่านช้างครอบคลุมพื้นที่ตำบลหนองมะค่าโมง, ตำบลด่านช้าง, ตำบลห้วยขมิ้น, ตำบลองค์พระ, ตำบลวังคัน, ตำบลนิคมกระเสียว และตำบลวังยาว ด้วยสภาพภูมิประเทศที่อยู่ติดเทือกเขาตะนาวศรี จึงทำให้มีอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว ที่รอบกายเขียวชอุ่มไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ สายหมอกคลอเคลียยอดเขาหลังสายฝนโปรยปราย
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง

          สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอด่านช้าง เช่น อุทยานแห่งชาติพุเตย, เขื่อนกระเสียว, ถ้ำเวฬุวัน, หาดทรายท้ายเขื่อนกระเสียว, อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง และอ่างเก็บน้ำห้วยท่าเดื่อ เป็นต้น

20 สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี ที่เที่ยวหลากรสไม่ไกลกรุงเทพฯ

2. บ้านป่าหมาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          หมู่บ้านที่ตั้งอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันอุดมสมบูรณ์ แรงดึงดูดมหาศาลที่ทำให้เหล่านักเดินทางอยากไปเยือนสักครั้ง คือวิถีความเรียบง่ายของชาวบ้านที่ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน ตัวชุมชนนั้นเป็นเพียงหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ริมคลองตะลุยแพรกซ้าย ชาวบ้านใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก โดยพืชพรรณที่เป็นดาวเด่นของที่นี่ ก็คือ กาแฟพันธุ์โรบัสต้า ที่ชาวบ้านปลูกกันแบบอินทรีย์ไม่มีสารพิษ ผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ร่วมกันพัฒนาให้มีจุดกางเต็นท์ริมลำธารไว้ให้นักท่องเที่ยวได้มาพักผ่อนเบา ๆ พร้อมทั้งมีร้านกาแฟโรบัสต้าป่าช้างขาว ร้านกาแฟเล็ก ๆ ริมลำธารให้ได้มานั่งชิมกาแฟเข้มข้น ชิลกับวิวธรรมชาติสวย ๆ รอบด้าน
บ้านป่าหมาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

          ทั้งนี้ช่วงหน้าฝนลานกางเต็นท์อาจจะมีการปิดบริการชั่วคราว เนื่องจากฝนตกและการเดินทางบางช่วงค่อนข้างลำบาก โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าหมาก นะ

          ที่ตั้ง : บ้านป่าหมาก ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
          เบอร์โทรศัพท์ : 06 2323 5537
          เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าหมาก

บ้านป่าหมาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมชนเล็ก ๆ กับความเรียบง่ายแห่งสายน้ำและขุนเขา

3. บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

          เป็นอำเภอน่าเที่ยวที่นี่ก็มีแหล่งท่องเที่ยวซ่อนอยู่เยอะทีเดียว โดยเฉพาะธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของป่าเขาและวิถีชีวิตสุดเรียบง่ายของชาวบ้าน ใครอยากพักผ่อนกับธรรมชาติชิล ๆ อำเภอบ้านไร่ถือได้ว่าเหมาะมาก ๆ
บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี

          สถานที่ท่องเที่ยว เช่น บ้านแก่นมะกรูด แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีอากาศเย็น ๆ และบรรยากาศป่าเขาแบบเมืองเหนือ นอกจากนี้ยังมีลานกางเต็นท์และโฮมสเตย์ของชาวไทยภูเขาเผ่ากะเหรี่ยงไว้รองรับด้วย อีกทั้งยังมีเทศกาลดอกไม้เมืองหนาวให้ได้เที่ยวชมกันตลอดในช่วงหน้าหนาวของแต่ละปี, น้ำตกผาร่มเย็น ตั้งอยู่ที่ตำบลเจ้าวัด ลักษณะเป็นน้ำตกสายเดียวไหลลงสู่หน้าผาสูง รายล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ รวมทั้งมีเฟิร์นสีเขียวขจีขึ้นเต็มหน้าผาหินโดยรอบ ๆ อากาศเย็น
วนอุทยานถ้ำเขาวง

ภาพจาก Bubbers BB / Shutterstock.com

          วนอุทยานถ้ำเขาวง ถ้ำที่มีอายุเก่าแก่หลายพันปี โดยเฉพาะ “ถ้ำพุหวาย” ที่มีหินงอกหินย้อยสุดอลังการ และยังเป็นสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องนาคีอีกด้วย และวัดถ้ำเขาวง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากถ้ำพุหวาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของอำเภอบ้านไร่ เพราะตัววัดมีการสร้างอาคารอย่างสวยงามในสไตล์เรือนไทย โดยที่ด้านหลังเป็นภูเขาหินปูนสีเขียว มีบึงน้ำกว้างขวางอยู่ด้านหน้า รายล้อมไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพรรณ จัดแต่งสวนอย่างสวยงาม

ที่เที่ยวบ้านไร่ อุทัยธานี แหล่งสูดโอโซนบริสุทธิ์ชั้นเยี่ยม

4. ดอยสวนยาหลวง จังหวัดน่าน

          หนึ่งในที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่เราแนะนำ ซึ่งการเดินทางมาเที่ยว “ดอยสวนหลวงยา” จำเป็นต้องติดต่อไกด์เจ้าถิ่นผ่าน เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอดทั้งทริป และไม่แนะนำให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวเอง ด้วยเพราะเส้นทางขึ้นค่อนข้างลำบาก ทางเป็นหลุมลึก แคบและชัน ถ้าฝนตกก็จะยิ่งลำบาก ที่นี่นักท่องเที่ยวจะได้นอนพักบ้านพักแบบโฮมสเตย์ ได้กินอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ รวมถึงยังได้เรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้านที่แสนเรียบง่าย
ดอยสวนยาหลวง จังหวัดน่าน

          ไฮไลต์ที่ใคร ๆ ก็อยากเยือนที่นี่คือ "ยอดดอยสวนยาหลวง" ซึ่งเป็นยอดดอยเปิดโล่งกว้าง มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่บนเนินเขา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500-1,600 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลหมอกที่น่าตื่นตาตื่นใจ

          ที่ตั้ง : หมู่บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
          เบอร์โทรศัพท์ : 09 6952 2223
          เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ
         

ดอยสวนยาหลวง จังหวัดน่าน เสพธรรมชาติสวยหลากอรรถรส

5. ดอยผาหมี จังหวัดเชียงราย

          หมู่บ้านกลางหุบเขาสุดชายแดนไทย-เมียนมา สถานที่ที่ครั้งหนึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เคยเสด็จพระราชดำเนินเพื่อเยี่ยมเยือนราษฎร และยังเป็นหมู่บ้านที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม มีไร่กาแฟ ไร่ชา ร้านกาแฟ พร้อมที่พักแบบโฮมสเตย์และจุดกางเต็นท์ให้ได้ไปเที่ยวพักผ่อนกันแบบชิล ๆ ด้วย
ดอยผาหมี จังหวัดเชียงราย

           แหล่งท่องเที่ยวในละแวกใกล้ ๆ กับหมู่บ้าน  เช่น ร้านกาแฟ A h p o K a f e i, ร้านกาแฟโอโซน, ร้านกาแฟออกซิเจนผาหมี, ร้านกาแฟดอยผาหมี, ร้านกาแฟ 71 coffee view, ร้านอาหารและโฮมสเตย์ภูฟ้าซาเจ๊ะ และบูซอ โฮมสเตย์ เป็นต้น

           ที่ตั้ง : หมู่บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
           เบอร์โทรศัพท์ : งานประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเวียงพางคำ โทรศัพท์ 0 5364 6569

ดอยผาหมี เชียงราย ชมความงดงามของหมู่บ้านกลางหุบเขา

6. บ้านจ่าโบ่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

          หมู่บ้านเล็ก ๆ ของพี่น้องชาวเผ่าลาหู่แซแล ที่ซ่อนตัวอยู่บนเนินเขาสูงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีวิวของธรรมชาติสวย ๆ ได้ชมกันตลอดทั้งปี เสน่ห์ที่น่าหลงใหลของชุมชนบ้านจ่าโบ่คือวิถีชีวิตแสนจะเรียบง่ายของชาวบ้าน ที่ยังคงยึดอาชีพเกษตรกรรม ทำไร่ ปลูกผัก และเลี้ยงสัตว์เป็นหลัก ซึ่งน่าแปลกตรงที่ว่าความเรียบง่ายเหล่านี้นี่แหละ กลับเป็นเสน่ห์ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวที่ใฝ่หาความสงบเดินทางเข้าพบความสงบที่นี่
บ้านจ่าโบ่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน

          โดยเฉพาะการเข้าไปสัมผัสและเรียนรู้วัฒนธรรมความเรียบง่ายของชุมชนบ้านจ่าโบ่ให้มากขึ้น แนะนำให้คุณลองไปกิน ไปอยู่ ไปนอนกับชาวบ้านในรูปแบบบ้านพักโฮมสเตย์ แถมยังได้สัมผัสกับสายหมอกและแสงอาทิตย์แรกของอรุณ ณ บริเวณจุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้ดื่มด่ำและสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด

          ที่ตั้ง : หมู่บ้านจ่าโบ่ ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
          เบอร์โทรศัพท์ : 08 0677 5794
          เฟซบุ๊ก : CBT BAAN JABO การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่
         

ไปเที่ยวบ้านจ่าโบ่ แม่ฮ่องสอน ยลเสน่ห์ความเรียบง่ายที่ไม่เหมือนใคร

7. บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่

          แลนด์มาร์กของเชียงใหม่อีกแห่งหนึ่ง ที่เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ถึงจะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ความงามของธรรมชาติเหลือล้น อาจเพราะบ้านแม่กำปองตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา แทบทุกตารางพื้นที่ในหมู่บ้านโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่าน และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ แน่นอนว่าอากาศที่นี่ดีตลอดทั้งปี ประกอบกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่แสนเรียบง่าย ยิ่งทำให้ที่นี่ดูเหมือนจะมีเสน่ห์ดึงดูดให้คนแปลกหน้าต่างถิ่น อยากที่จะไปเที่ยวที่แม่กำปองดูสักครั้ง
บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่

          กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น เที่ยวน้ำตกแม่กำปอง, เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ, สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ฯลฯ และยังสามารถพักค้างคืนโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งเป็นจุดเด่นของโฮมสเตย์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่

          ที่ตั้ง : หมู่บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
          เบอร์โทรศัพท์ : 06 4909 8359
          เฟซบุ๊ก : หมู่บ้านโฮมสเตย์แม่กำปอง
 

15 เรื่องน่ารู้หมู่บ้านแม่กำปอง เชียงใหม่ วิวสวย เดินทางง่าย ไปเองได้

8. บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่

          ไปยลโฉมนาขั้นบันไดอันเลืองชื่อกันที่ “บ้านแม่กลางหลวง” หมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ ตั้งอยู่ในหุบเขาขั้นบันไดบริเวณลุ่มน้ำแม่กลางบนดอยอินทนนท์ ความงดงามของนาขั้นบันไดเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่นี่

บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่

          พลาดไม่ได้กับกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างการเรียนรู้การดำรงชีวิตของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น การทอผ้า การทำการเกษตร หรือแม้แต่การใช้ชีวิต ซึ่งที่นี่มีที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับ หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว พร้อม ๆ กับอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติก็มีบ้านพักเชิงอนุรักษ์ที่อยู่ท่ามกลางท้องทุ่งนาไว้บริการ

          ที่ตั้ง : บ้านแม่กลางหลวง (ดอยอินทนนท์ กม.26) ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
          เบอร์โทรศัพท์ : 08 1960 8856
          เฟซบุ๊ก : ศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแม่กลางหลวง
 

ที่พักบ้านแม่กลางหลวง นอนชิลท่ามกลางวิวสวยและธรรมชาติเน้น ๆ

9. บ้านแม่แมะ จังหวัดเชียงใหม่

          ดาวเด่นแห่งเชียงดาว อีกหนึ่งที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่เราอยากแนะนำ เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ และแฝงไว้ด้วยวิถีชีวิตแสนเรียบง่าย อีกหนึ่งไฮไลต์ที่หลาย ๆ คนอยากมาเยือนบ้านแม่แมะ ก็คือ ที่พักแบบโฮมสเตย์ ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเขา ล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาพรรณ มีลำห้วยเล็ก ๆ ไหลผ่าน อากาศเย็นสบาย และเงียบสงบมาก ๆ เพราะอยู่ไกลจากตัวเมือง อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ บอกเลยว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้แบบเต็มทุกอณู และยังจะได้กินอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ ที่สำคัญได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แน่นอน

บ้านแม่แมะ จังหวัดเชียงใหม่

ภาพจาก amabird / Shutterstock.com

          ที่ตั้ง : บ้านแม่แมะ ตำบลแม่นะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
 

12 ที่พักบ้านแม่แมะ จ.เชียงใหม่ นอนฟอกปอด กอดต้นไม้ ชิลกับธรรมชาติริมธาร

10. ดอยตาปัง จังหวัดชุมพร

          ชวนไปเที่ยวภาคใต้กันบ้าง ณ “ดอยตาปัง” บนนยอดเขาทะลุ เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของภาคใต้ สามารถมองเห็นวิวของขุนเขารูปทรงสวยแปลกตา ที่หยอกล้อกับสายหมอกสีขาวในยามเช้าได้อย่างสวยงามสุด ๆ พร้อมกับได้ชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นส่องสะท้อนแสงสีส้มบาง ๆ ลงสู่ทะเลหมอกด้วย อากาศบนยอดดอยเย็นสบาย มีลานกางเต็นท์ให้บริการ โดยต้องใช้รถกระบะขึ้นไปเท่านั้น
ดอยตาปัง จังหวัดชุมพร

          ที่ตั้ง : หมู่ 7 ตำบลเขาทะลุ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
          เฟซบุ๊ก : @ดอยตาปัง
  

10 จุดชมทะเลหมอกสวยมองเพลินตา ถ่ายรูปเพลินใจ

11. หมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี

          หมู่บ้านในหุบเขาที่จังหวัดกาญจนบุรี จากอดีตเหมืองปิล๊อกที่รุ่งโรจน์ ที่วันนี้คงเหลือไว้แต่ความทรงจำและสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติและวิถีชีวิตผู้คนที่เงียบสงบ พลาดไม่ได้กับการเที่ยวชมหมู่บ้านเล็ก ๆ ติดชายแดนชื่อว่า “อีต่อง” ในอดีตหมู่บ้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งศูนย์รวมความเจริญต่าง ๆ หากแต่ในวันนี้คงเหลือไว้แต่กลิ่นอายของอดีตที่ยังคงติดค้างหลงเหลือตามอาคารบ้านเรือนหลังเก่า ๆ ที่ถูกปรับเปลี่ยนเป็นร้านค้า
หมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี

          นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถนอนกางเต็นท์ตรงบริเวณ “เนินช้างศึก” หรือ “ฐานช้างศึก” ที่นี่มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินสวยที่สุดแห่งหนึ่ง

          ที่ตั้ง : บ้านอีต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ปิล๊อก สัมผัสเสน่ห์ตำบลเล็ก ๆ กลางหุบเขาในกาญจนบุรี

12. อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

          อีกหนึ่งที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่เราขอแนะนำให้ไปเยือน นั่นก็คือ “เนินมะปราง” อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ความโดดเด่นของอำเภอเนินมะปราง คือตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตา และท้องทุ่งนาสุดกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยป่าเขาสีเขียวขจีสุดอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายสดชื่นตลอดทั้งปี บรรยากาศเงียบสงบ มีจุดชมวิวและทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนในเมืองไทย

อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

          สถานที่ท่องเที่ยวเนินมะปราง เช่น  จุดชมวิวและโฮมสเตย์บ้านรักไทย แหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของเนินมะปราง โดยมีความพิเศษอยู่ที่ สลิงชิงช้า ซึ่งอยู่บนต้นไม้สูง สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ได้แบบตระการตา, จุดชมวิวบ้านเผ่าไทย เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกที่สามารถมองเห็นแนวภูเขา และท้องทุ่งนาที่สลับกับบ้านเรือนชาวบ้านได้ไกลสุดลูกหูลูกตา, ภูเขาหินปูนบ้านมุง จุดที่สามารถชมภูเขาหินปูนสูงใหญ่ได้อย่างสวยงามและชัดเจนมาก ๆ และไฮไลต์เด็ดห้ามพลาดอย่างหนึ่งของอำเภอเนินมะปราง ก็คือ การชมค้างคาวนับล้านตัวบินออกหากินยามเย็น

          ที่ตั้ง : อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
          เฟซบุ๊ก : ที่นี่ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก

เที่ยวเนินมะปราง พิษณุโลก สวรรค์แห่งขุนเขาและไร่นากว้างใหญ่

13. อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

          ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่ได้รับความนิยมเสมอ สำหรับ “สวนผึ้ง” เพราะเป็นเหมือนอัญมณีที่เปล่งประกายท่ามกลางหมอกขาวและผืนป่าสีเขียว ในความเป็นจริงแล้วสวนผึ้งสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวและฤดูหนาวจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติ ดินแดนแห่งหุบเขาและทุ่งหญ้า พร้อมด้วยการพักผ่อนแบบชิล ๆ แถมยังใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียง 2 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ นอกจากอากาศที่เย็นสบายด้วยภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยหุบเขาแล้ว ที่สวนผึ้งยังครบครันทั้งเรื่องที่พักและร้านอาหารอีกด้วย

อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

           สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในสวนผึ้ง เช่น The Scenery Resort & Farm, บ้านหอมเทียน, ธารน้ำร้อนบ่อคลึง, น้ำตกเก้าโจน, เขากระโจม, ห้วยคอกหมู และตลาดโอ๊ะป่อย ตลาดริมธารน่าไปเช็กอิน เป็นต้น

          ที่ตั้ง : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

18 ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

14. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

          ดินแดนสวรรค์ของนักเดินป่า สำหรับ “ภูสอยดาว” ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว นับเป็นผืนป่าธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง จุดเด่นล่อตาล่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนอยากที่จะไปพิชิตยอดภูสอยดาวสักครั้ง นั่นคือการได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงหรือดอกหงอนนาค และดอกไม้ป่าสวย ๆ มากมายหลากหลายชนิด ที่ออกดอกชูช่อบานสลับสีสันอยู่ทั่วลานสน ยิ่งถ้าได้ไปในช่วงหน้าฝนจะยิ่งประทับใจมากเป็นสองเท่า ตลอดจนเส้นทางเดินระหว่างขึ้นภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะได้พบเจอกับธรรมชาติสองข้างทางที่งดงามจับใจ ที่จะช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไม่มากก็น้อย

ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์
          เบอร์โทรศัพท์ : 095 629 9528, 091 024 7633

15 เรื่องรู้ไว้ก่อนไปภูสอยดาว ปักหมุดชมทุ่งหญ้า ป่าสน และดอกไม้งาม

15. อำเภอปัว จังหวัดน่าน

          อำเภอที่โดดเด่นในเรื่องของภูเขาและนาข้าวสีเขียวกว้างใหญ่ไพศาล ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับความเรียบง่ายของชาวบ้านในท้องถิ่น ได้ลองใช้ชีวิตช้า ๆ กับท้องไร่ท้องนา ได้ลองกินอาหารพื้นเมืองปลอดสารพิษ และนอนพักผ่อนท่ามกลางท้องนาอากาศเย็นสบาย อยากกินช็อกโกแลตอร่อย ๆ ที่นี่ก็มีไร่โกโก้ให้ได้ไปเที่ยวและลิ้มลองผลิตภัณฑ์จากโกโก้และช็อกโกแลตคุณภาพ เป็นอำเภอที่จิ๋วแต่แจ๋วจริง ๆ

อำเภอปัว จังหวัดน่าน

          สถานที่ท่องเที่ยวปัวที่ไม่อยากให้พลาด เช่น อุทยานแห่งชาติดอยภูคา, วัดบ้านต้นแหลง, วัดภูเก็ต, วังน้ำปัว, วังศิลาแลง, ต้นดิ๊กเดียม วัดบ้านปรางค์, ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ, โรงเรียนชาวนา, ตูบนาไทลื้อ, บ้านป้าหลอม ผ้าทอโบราณ, ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ, Cocoa Valley Café และวัดพระธาตุเบ็งสกัด ฯลฯ

          ที่ตั้ง : อำเภอปัว จังหวัดน่าน

40 ที่เที่ยวน่าน เมืองแห่งขุนเขาอันมากเสน่ห์

16. ม่อนครูบาใส จังหวัดตาก

          จุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย บริเวณจุดชมวิวจะเป็นลานราบกว้าง สามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบได้อย่างใกล้ชิด ยิ่งถ้าเข้าสู่ฤดูหนาวจะมีสายหมอกสีขาวนุ่มละมุนมาทักทายให้ได้ถ่ายรูปสวย ๆ กันทุกเช้า และบริเวณนี้ยังสามารถมากางเต็นท์ชมดาว ชมหมอกกันได้ด้วย

ม่อนครูบาใส จังหวัดตาก

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติแม่เมย ตำบลแม่สอง อำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก
          เบอร์โทรศัพท์ : 08 8290 7964
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติแม่เมย - Mae Moei National Park

ชี้เป้า 22 สถานที่ชมทะเลหมอกในเมืองไทย

17. ภูผาหอบ จังหวัดลำปาง

          แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดลำปาง ภูผาหอบหรือดอยผาหอบ มีลักษณะเป็นหน้าผาหินสูงชันขนาบข้างลำน้ำแม่น้ำจาง มีระยะทางประมาณ 200 เมตร เป็นความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์เอาไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะพายเรือแคนูเที่ยวชมหน้าผาหิน นั่งล่องแพไม้ไผ่ หรืองล่องห่วงยางชิล ๆ เที่ยวชมก็ได้เช่นกัน โดยกิจกรรมทางน้ำทุกอย่างจะมีเสื้อชูชีพบริการนักท่องเที่ยวก่อนลงน้ำ

          ที่ตั้ง : บ้านแม่เกี๋ยง หมู่ 7 ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
          เฟซบุ๊ก : ผาหอบ Pha Hob

18. ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม จังหวัดอุบลราชธานี

          อีกหนึ่งความงามของฤดูฝนที่เราขอแนะนำกับ “ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม” ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม โดยดอกไม้ป่าจะเริ่มบานตามลานหินต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี ดอกไม้หลัก ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นตามซอกลานหิน เช่น ดุสิตา ดอกสร้อยสุวรรณ มณีเทวา และดอกทิพเกสร

ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม จังหวัดอุบลราชธานี

          ทั้งนี้สามารถพบเห็นได้ตลอดเส้นทางเดินทางไปถึงจุดกางเต็นท์ ถ้ามาในช่วงหน้าร้อนเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม นักท่องเที่ยวจะเห็นต้นไม้ใหญ่บางประเภทออกดอก เช่น รัง ตะแบก พุดผา ช้างน้าว หรือเหมย เป็นต้น

          ที่ตั้ง : บ้านนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
          เบอร์โทรศัพท์ : อบต.นาโพธิ์กลาง โทรศัพท์ 045 381 063

ทุ่งดอกไม้หน้าฝน ชวนไปยลความงามของป่าเขาในวันฝนโปรย

19. ภูผาดัก จังหวัดหนองคาย

          สถานที่ชมวิวทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัยกลางป่าเขา เมื่อเดินเท้าถึงบนยอดจะพบจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม โดยเฉพาะช่วงปลายฝนจนตลอดฤดูหนาว บริเวณนี้จะมีทะเลหมอกสวยงามเกิดขึ้นมองเห็น 180 องศาเลยทีเดียว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนั่งรอชมเก็บภาพความงามตอนพระอาทิตย์ขึ้น สวยงามและน่าประทับใจ

ภูผาดัก จังหวัดหนองคาย

          การขึ้นไปเที่ยวชมยังจุดชมวิวภูผาดัก นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณ 800-900 เมตร เส้นทางมีลักษณะชันประมาณ 45-60 องศา ใช้เวลาราว ๆ 30-45 นาที ร่างกายจึงต้องแข็งแรงพอสมควร ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การขึ้นไปชมทะเลหมอกจะอยู่ในช่วงเช้า ต้องไปถึงจุดขึ้นเขาราว ๆ ตี 4 เส้นทางจะมืดมาก จึงจำเป็นต้องมีผู้นำทาง โดย 1 กรุ๊ป ไม่เกิน 10 คน

          ที่ตั้ง : ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
          เบอร์โทรศัพท์ : 09 1045 249
          เฟซบุ๊ก : ภูผาดัก บ้านม่วง หนองคาย

ภูผาดัก หนองคาย จุดชมวิวทะเลหมอกสุดอันซีนเหนือลำน้ำโขง

20. บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช

           หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงสายใยการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน เสน่ห์ของบ้านคีรีวงที่เป็นที่กล่าวขานในหมู่นักท่องเที่ยว คือความสงบและความเงียบ การสัมผัสวิถีชีวิตแบบชนบท อิ่มไปกับบรรยากาศหมู่บ้านกลางหุบเขา ฟังเสียงน้ำไหล ผ่านแก่งหินต่าง ๆ ไหลรวมเป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ผ่านกลางหมู่บ้าน

บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช

          กิจกรรมไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวบ้านคีรีวง เช่น นอนโฮมสเตย์ของชาวบ้านแบบใกล้ชิดธรรมชาติ, เล่นน้ำในลำธาร, แวะช้อปสินค้าพื้นเมืองน่ารัก ๆ ทั้งเครื่องประดับน่ารัก ๆ ผ้าบาติกสวย ๆ หรือจะเป็นพวกสมุนไพรบำรุงผิว เหล่านี้เป็นสินค้าจากภูมิปัญญาของชาวบ้านในหมู่บ้านคีรีวงที่น่าอุดหนุนมาก ๆ หรือเที่ยวชมสวนผลไม้ ใครมาเที่ยวบ้านคีรีวงในช่วงฤดูผลไม้ (ประมาณเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ของทุกปี) คุณจะอิ่มหนำไปกับผลไม้นานาชนิด เช่น จำปาดะ มังคุด เงาะ และลองกอง เป็นต้น

          ที่ตั้ง : บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
          เบอร์โทรศัพท์ : 075 533 111
          เว็บไซต์ : www.kamlone.go.th

เที่ยวคีรีวง ยลเสน่ห์ความเรียบง่ายและวิถีชาวบ้านกลางขุนเขา

          นี่เป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวสวย ๆ เพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมาแนะนำกัน เมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ รอให้เพื่อน ๆ ไปสัมผัสอีกมากมาย เอาเป็นว่าหากมีโอกาสอย่าพลาดออกไปท่องเที่ยวไทยกันนะ

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

ขอบคุณข้อมูลจาก
ททท., park.dnp.go.th, thailandtourismdirectory.go.th และ tiewpakklang.com
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
20 ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว 2563 ช่วงรอยต่อของฤดูกาลที่งดงาม อัปเดตล่าสุด 2 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15:40:30 49,444 อ่าน
TOP