1. อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี
20 สถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี ที่เที่ยวหลากรสไม่ไกลกรุงเทพฯ
2. บ้านป่าหมาก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ทั้งนี้ช่วงหน้าฝนลานกางเต็นท์อาจจะมีการปิดบริการชั่วคราว เนื่องจากฝนตกและการเดินทางบางช่วงค่อนข้างลำบาก โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ที่ เฟซบุ๊ก ท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าหมาก นะ
ที่ตั้ง : บ้านป่าหมาก ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เบอร์โทรศัพท์ : 06 2323 5537
เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวชุมชนบ้านป่าหมาก
บ้านป่าหมาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ชุมชนเล็ก ๆ กับความเรียบง่ายแห่งสายน้ำและขุนเขา
3. บ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี
4. ดอยสวนยาหลวง จังหวัดน่าน
ไฮไลต์ที่ใคร ๆ ก็อยากเยือนที่นี่คือ "ยอดดอยสวนยาหลวง" ซึ่งเป็นยอดดอยเปิดโล่งกว้าง มีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่บนเนินเขา ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,500-1,600 เมตร ทำให้สามารถมองเห็นวิวทะเลหมอกที่น่าตื่นตาตื่นใจ
ที่ตั้ง : หมู่บ้านสันเจริญ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
เบอร์โทรศัพท์ : 09 6952 2223
เฟซบุ๊ก : ท่องเที่ยวดอยสวนยาหลวง บ้านสันเจริญ
5. ดอยผาหมี จังหวัดเชียงราย
แหล่งท่องเที่ยวในละแวกใกล้ ๆ กับหมู่บ้าน เช่น ร้านกาแฟ A h p o K a f e i, ร้านกาแฟโอโซน, ร้านกาแฟออกซิเจนผาหมี, ร้านกาแฟดอยผาหมี, ร้านกาแฟ 71 coffee view, ร้านอาหารและโฮมสเตย์ภูฟ้าซาเจ๊ะ และบูซอ โฮมสเตย์ เป็นต้น
ที่ตั้ง : หมู่บ้านผาหมี ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย
เบอร์โทรศัพท์ : งานประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการท่องเที่ยว เทศบาลตำบลเวียงพางคำ โทรศัพท์ 0 5364 6569
6. บ้านจ่าโบ่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ที่ตั้ง : หมู่บ้านจ่าโบ่ ตำบลปางมะผ้า อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เบอร์โทรศัพท์ : 08 0677 5794
เฟซบุ๊ก : CBT BAAN JABO การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยชุมชนบ้านจ่าโบ่
ไปเที่ยวบ้านจ่าโบ่ แม่ฮ่องสอน ยลเสน่ห์ความเรียบง่ายที่ไม่เหมือนใคร
7. บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่
กิจกรรมท่องเที่ยวที่แนะนำ เช่น เที่ยวน้ำตกแม่กำปอง, เดินสำรวจเส้นทางธรรมชาติ, สัมผัสวิถีชีวิตชุมชน ฯลฯ และยังสามารถพักค้างคืนโฮมสเตย์ ใช้ชีวิตร่วมกับชาวบ้าน ซึ่งเป็นจุดเด่นของโฮมสเตย์เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างเต็มที่
ที่ตั้ง : หมู่บ้านแม่กำปอง ตำบลห้วยแก้ว อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : 06 4909 8359
เฟซบุ๊ก : หมู่บ้านโฮมสเตย์แม่กำปอง
15 เรื่องน่ารู้หมู่บ้านแม่กำปอง เชียงใหม่ วิวสวย เดินทางง่าย ไปเองได้
8. บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่
ไปยลโฉมนาขั้นบันไดอันเลืองชื่อกันที่ “บ้านแม่กลางหลวง” หมู่บ้านของชาวปกาเกอะญอ ตั้งอยู่ในหุบเขาขั้นบันไดบริเวณลุ่มน้ำแม่กลางบนดอยอินทนนท์ ความงดงามของนาขั้นบันไดเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ใคร ๆ ก็อยากเดินทางไปดื่มด่ำกับทัศนียภาพที่นี่
พลาดไม่ได้กับกิจกรรมท่องเที่ยวอย่างการเรียนรู้การดำรงชีวิตของชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็น การทอผ้า การทำการเกษตร หรือแม้แต่การใช้ชีวิต ซึ่งที่นี่มีที่พักแบบโฮมสเตย์ไว้รองรับ หรือถ้าต้องการความเป็นส่วนตัว พร้อม ๆ กับอยากดื่มด่ำกับธรรมชาติก็มีบ้านพักเชิงอนุรักษ์ที่อยู่ท่ามกลางท้องทุ่งนาไว้บริการ
ที่ตั้ง : บ้านแม่กลางหลวง (ดอยอินทนนท์ กม.26) ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
เบอร์โทรศัพท์ : 08 1960 8856
เฟซบุ๊ก : ศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านแม่กลางหลวง
9. บ้านแม่แมะ จังหวัดเชียงใหม่
ดาวเด่นแห่งเชียงดาว อีกหนึ่งที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่เราอยากแนะนำ เป็นหมู่บ้านที่รายล้อมด้วยธรรมชาติที่สมบูรณ์ และแฝงไว้ด้วยวิถีชีวิตแสนเรียบง่าย อีกหนึ่งไฮไลต์ที่หลาย ๆ คนอยากมาเยือนบ้านแม่แมะ ก็คือ ที่พักแบบโฮมสเตย์ ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าเขา ล้อมรอบด้วยต้นไม้นานาพรรณ มีลำห้วยเล็ก ๆ ไหลผ่าน อากาศเย็นสบาย และเงียบสงบมาก ๆ เพราะอยู่ไกลจากตัวเมือง อีกทั้งยังไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ บอกเลยว่าคุณจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติได้แบบเต็มทุกอณู และยังจะได้กินอาหารพื้นเมืองอร่อย ๆ ที่สำคัญได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แน่นอน
12 ที่พักบ้านแม่แมะ จ.เชียงใหม่ นอนฟอกปอด กอดต้นไม้ ชิลกับธรรมชาติริมธาร
10. ดอยตาปัง จังหวัดชุมพร
11. หมู่บ้านอีต่อง จังหวัดกาญจนบุรี
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถนอนกางเต็นท์ตรงบริเวณ “เนินช้างศึก” หรือ “ฐานช้างศึก” ที่นี่มีจุดชมวิวให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมความสวยงามของพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินสวยที่สุดแห่งหนึ่ง
ที่ตั้ง : บ้านอีต่อง ตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
12. อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
อีกหนึ่งที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่เราขอแนะนำให้ไปเยือน นั่นก็คือ “เนินมะปราง” อำเภอเล็ก ๆ ในจังหวัดพิษณุโลก ความโดดเด่นของอำเภอเนินมะปราง คือตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่สวยงามของภูเขาหินปูนรูปร่างสวยงามแปลกตา และท้องทุ่งนาสุดกว้างใหญ่ เต็มไปด้วยป่าเขาสีเขียวขจีสุดอุดมสมบูรณ์ อากาศเย็นสบายสดชื่นตลอดทั้งปี บรรยากาศเงียบสงบ มีจุดชมวิวและทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ที่ไหนในเมืองไทย
ที่ตั้ง : อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
เฟซบุ๊ก : ที่นี่ อำเภอเนินมะปราง จังหวัดพิษณุโลก
13. อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวที่ได้รับความนิยมเสมอ สำหรับ “สวนผึ้ง” เพราะเป็นเหมือนอัญมณีที่เปล่งประกายท่ามกลางหมอกขาวและผืนป่าสีเขียว ในความเป็นจริงแล้วสวนผึ้งสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ในช่วงปลายฝนต้นหนาวและฤดูหนาวจะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ ที่นี่คุณจะได้สัมผัสธรรมชาติ ดินแดนแห่งหุบเขาและทุ่งหญ้า พร้อมด้วยการพักผ่อนแบบชิล ๆ แถมยังใช้เวลาเดินทางไม่นานเพียง 2 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ นอกจากอากาศที่เย็นสบายด้วยภูมิประเทศที่ล้อมรอบด้วยหุบเขาแล้ว ที่สวนผึ้งยังครบครันทั้งเรื่องที่พักและร้านอาหารอีกด้วย
สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในสวนผึ้ง เช่น The Scenery Resort & Farm, บ้านหอมเทียน, ธารน้ำร้อนบ่อคลึง, น้ำตกเก้าโจน, เขากระโจม, ห้วยคอกหมู และตลาดโอ๊ะป่อย ตลาดริมธารน่าไปเช็กอิน เป็นต้น
ที่ตั้ง : อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
14. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
ดินแดนสวรรค์ของนักเดินป่า สำหรับ “ภูสอยดาว” ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว นับเป็นผืนป่าธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์สวยงามที่สุดแห่งหนึ่ง จุดเด่นล่อตาล่อให้นักท่องเที่ยวทุกคนอยากที่จะไปพิชิตยอดภูสอยดาวสักครั้ง นั่นคือการได้ชมทุ่งดอกไม้สีม่วงหรือดอกหงอนนาค และดอกไม้ป่าสวย ๆ มากมายหลากหลายชนิด ที่ออกดอกชูช่อบานสลับสีสันอยู่ทั่วลานสน ยิ่งถ้าได้ไปในช่วงหน้าฝนจะยิ่งประทับใจมากเป็นสองเท่า ตลอดจนเส้นทางเดินระหว่างขึ้นภูสอยดาว นักท่องเที่ยวจะได้พบเจอกับธรรมชาติสองข้างทางที่งดงามจับใจ ที่จะช่วยคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินทางไม่มากก็น้อย
เบอร์โทรศัพท์ : 095 629 9528, 091 024 7633
15 เรื่องรู้ไว้ก่อนไปภูสอยดาว ปักหมุดชมทุ่งหญ้า ป่าสน และดอกไม้งาม
15. อำเภอปัว จังหวัดน่าน
อำเภอที่โดดเด่นในเรื่องของภูเขาและนาข้าวสีเขียวกว้างใหญ่ไพศาล ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับความเรียบง่ายของชาวบ้านในท้องถิ่น ได้ลองใช้ชีวิตช้า ๆ กับท้องไร่ท้องนา ได้ลองกินอาหารพื้นเมืองปลอดสารพิษ และนอนพักผ่อนท่ามกลางท้องนาอากาศเย็นสบาย อยากกินช็อกโกแลตอร่อย ๆ ที่นี่ก็มีไร่โกโก้ให้ได้ไปเที่ยวและลิ้มลองผลิตภัณฑ์จากโกโก้และช็อกโกแลตคุณภาพ เป็นอำเภอที่จิ๋วแต่แจ๋วจริง ๆ
สถานที่ท่องเที่ยวปัวที่ไม่อยากให้พลาด เช่น อุทยานแห่งชาติดอยภูคา, วัดบ้านต้นแหลง, วัดภูเก็ต, วังน้ำปัว, วังศิลาแลง, ต้นดิ๊กเดียม วัดบ้านปรางค์, ร้านกาแฟบ้านไทลื้อ, โรงเรียนชาวนา, ตูบนาไทลื้อ, บ้านป้าหลอม ผ้าทอโบราณ, ฟาร์มเห็ดบ้านหัวน้ำ, Cocoa Valley Café และวัดพระธาตุเบ็งสกัด ฯลฯ
ที่ตั้ง : อำเภอปัว จังหวัดน่าน
16. ม่อนครูบาใส จังหวัดตาก
จุดชมวิวทะเลหมอกที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของไทย บริเวณจุดชมวิวจะเป็นลานราบกว้าง สามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่ที่อยู่โดยรอบได้อย่างใกล้ชิด ยิ่งถ้าเข้าสู่ฤดูหนาวจะมีสายหมอกสีขาวนุ่มละมุนมาทักทายให้ได้ถ่ายรูปสวย ๆ กันทุกเช้า และบริเวณนี้ยังสามารถมากางเต็นท์ชมดาว ชมหมอกกันได้ด้วย
เบอร์โทรศัพท์ : 08 8290 7964
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติแม่เมย - Mae Moei National Park
17. ภูผาหอบ จังหวัดลำปาง
แหล่งท่องเที่ยวสุดอันซีนของจังหวัดลำปาง ภูผาหอบหรือดอยผาหอบ มีลักษณะเป็นหน้าผาหินสูงชันขนาบข้างลำน้ำแม่น้ำจาง มีระยะทางประมาณ 200 เมตร เป็นความงามที่ธรรมชาติรังสรรค์เอาไว้ได้อย่างลงตัว ซึ่งนักท่องเที่ยวจะพายเรือแคนูเที่ยวชมหน้าผาหิน นั่งล่องแพไม้ไผ่ หรืองล่องห่วงยางชิล ๆ เที่ยวชมก็ได้เช่นกัน โดยกิจกรรมทางน้ำทุกอย่างจะมีเสื้อชูชีพบริการนักท่องเที่ยวก่อนลงน้ำ
ที่ตั้ง : บ้านแม่เกี๋ยง หมู่ 7 ตำบลสบป้าด อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง
เฟซบุ๊ก : ผาหอบ Pha Hob
18. ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม จังหวัดอุบลราชธานี
อีกหนึ่งความงามของฤดูฝนที่เราขอแนะนำกับ “ทุ่งดอกไม้ป่าดงนาทาม” ตั้งอยู่ในพื้นที่ทางตอนเหนือของอุทยานแห่งชาติผาแต้ม โดยดอกไม้ป่าจะเริ่มบานตามลานหินต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม-ธันวาคมของทุกปี ดอกไม้หลัก ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะได้เห็นตามซอกลานหิน เช่น ดุสิตา ดอกสร้อยสุวรรณ มณีเทวา และดอกทิพเกสร
ที่ตั้ง : บ้านนาโพธิ์กลาง อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
เบอร์โทรศัพท์ : อบต.นาโพธิ์กลาง โทรศัพท์ 045 381 063
19. ภูผาดัก จังหวัดหนองคาย
สถานที่ชมวิวทะเลหมอกเหนือลำน้ำโขงที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ชอบผจญภัยกลางป่าเขา เมื่อเดินเท้าถึงบนยอดจะพบจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม โดยเฉพาะช่วงปลายฝนจนตลอดฤดูหนาว บริเวณนี้จะมีทะเลหมอกสวยงามเกิดขึ้นมองเห็น 180 องศาเลยทีเดียว ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะนั่งรอชมเก็บภาพความงามตอนพระอาทิตย์ขึ้น สวยงามและน่าประทับใจ
การขึ้นไปเที่ยวชมยังจุดชมวิวภูผาดัก นักท่องเที่ยวจะต้องเดินขึ้นเขาเป็นระยะทางประมาณ 800-900 เมตร เส้นทางมีลักษณะชันประมาณ 45-60 องศา ใช้เวลาราว ๆ 30-45 นาที ร่างกายจึงต้องแข็งแรงพอสมควร ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะสมแก่การขึ้นไปชมทะเลหมอกจะอยู่ในช่วงเช้า ต้องไปถึงจุดขึ้นเขาราว ๆ ตี 4 เส้นทางจะมืดมาก จึงจำเป็นต้องมีผู้นำทาง โดย 1 กรุ๊ป ไม่เกิน 10 คน
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านม่วง อำเภอสังคม จังหวัดหนองคาย
เบอร์โทรศัพท์ : 09 1045 249
เฟซบุ๊ก : ภูผาดัก บ้านม่วง หนองคาย
20. บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช
หมู่บ้านเล็ก ๆ ที่นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงสายใยการอยู่ร่วมกันระหว่างชุมชนและธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน เสน่ห์ของบ้านคีรีวงที่เป็นที่กล่าวขานในหมู่นักท่องเที่ยว คือความสงบและความเงียบ การสัมผัสวิถีชีวิตแบบชนบท อิ่มไปกับบรรยากาศหมู่บ้านกลางหุบเขา ฟังเสียงน้ำไหล ผ่านแก่งหินต่าง ๆ ไหลรวมเป็นแม่น้ำสายเล็ก ๆ ผ่านกลางหมู่บ้าน
กิจกรรมไม่ควรพลาดเมื่อมาเที่ยวบ้านคีรีวง เช่น นอนโฮมสเตย์ของชาวบ้านแบบใกล้ชิดธรรมชาติ, เล่นน้ำในลำธาร, แวะช้อปสินค้าพื้นเมืองน่ารัก ๆ ทั้งเครื่องประดับน่ารัก ๆ ผ้าบาติกสวย ๆ หรือจะเป็นพวกสมุนไพรบำรุงผิว เหล่านี้เป็นสินค้าจากภูมิปัญญาของชาวบ้านในหมู่บ้านคีรีวงที่น่าอุดหนุนมาก ๆ หรือเที่ยวชมสวนผลไม้ ใครมาเที่ยวบ้านคีรีวงในช่วงฤดูผลไม้ (ประมาณเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม ของทุกปี) คุณจะอิ่มหนำไปกับผลไม้นานาชนิด เช่น จำปาดะ มังคุด เงาะ และลองกอง เป็นต้น
ที่ตั้ง : บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
เบอร์โทรศัพท์ : 075 533 111
เว็บไซต์ : www.kamlone.go.th
นี่เป็นที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวสวย ๆ เพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมาแนะนำกัน เมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวย ๆ รอให้เพื่อน ๆ ไปสัมผัสอีกมากมาย เอาเป็นว่าหากมีโอกาสอย่าพลาดออกไปท่องเที่ยวไทยกันนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ททท., park.dnp.go.th, thailandtourismdirectory.go.th และ tiewpakklang.com