ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2567 ชี้เป้าพิกัดเที่ยวไทย น่าไปสุด ๆ

           ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2567 ชมธรรมชาติสวย ๆ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ขาเที่ยว ทั้งทริปชิล รีแล็กซ์ เที่ยวลุย ๆ หรือถ่ายรูปโพสต์ให้สนั่นโซเชียล
           เดือนพฤษภาคม เป็นเดือนสุดท้ายของหน้าร้อน เพื่อเตรียมรับไอฝนสุดชุ่มฉ่ำ โดยฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมจนถึงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งภาคใต้จะมีปริมาณฝนมากกว่าภูมิภาคอื่น ๆ การท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่นิยมกันในเดือนนี้จะเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ อีกทั้งยังมีประเพณีที่น่าสนใจให้เราได้ไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ อีกเพียบ วันนี้เรามี ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2567 มาแนะนำ จะมีที่ไหนน่าเที่ยวบ้าง ไปดูพร้อม ๆ กันได้เลย

ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2567

1. ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

           ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ ถือเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ที่ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมืองสมุทรปราการ ภายในฟาร์มจระเข้แห่งนี้เป็นสถานเพาะเลี้ยงจระเข้ขนาดต่าง ๆ กว่า 60,000 ตัว เปิดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนวงจรชีวิตของจระเข้ได้แบบใกล้ชิด มีโชว์การแสดงสุดหวาดเสียวและระทึกใจระหว่างคนกับจระเข้ที่ได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี รวมถึงยังมีสัตว์ต่าง ๆ ให้ชมด้วย เช่น ช้าง เสือ ลิงชิมแปนซี ชะนี เต่า งู นก อูฐ ฮิปโปโปเตมัส กวาง และปลาจำนวนมาก เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชม พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ ที่มีการจัดแสดงกระดูกและหุ่นจำลองไดโนเสาร์ พร้อมการฉายสไลด์มัลติวิชั่น เรื่องของมนุษย์และสัตว์ดึกดำบรรพ์ด้วย
ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ

ภาพจาก : JK Studio Th / Shutterstock.com

2. งานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2567 จังหวัดตราด

           จังหวัดตราด โดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่ ร่วมกับทุกอำเภอและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกพื้นที่ในจังหวัดตราด ร่วมกันจัด งานวันระกำหวาน ผลไม้ และของดีเมืองตราด ประจำปี 2567 ในวันที่ 18-22 พฤษภาคม บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดตราด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ชื่อเสียงผลไม้ที่มีคุณภาพของจังหวัด อีกทั้งเป็นการส่งเสริมทางด้านการตลาดให้กับเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ผู้ผลิตสินค้าชุมชน และท้องถิ่นของจังหวัดตราด ตลอดจนเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัด
ระกำ ผลไม้จากเมืองตราด

          ภายในงานมีกิจกรรมที่หลากหลาย ประกอบด้วย การประกวดผลไม้ทั้งระกำหวาน ทุเรียนพันธุ์หมอนทอง เงาะพันธุ์โรงเรียน มังคุดผิวมัน มังคุดผิวลาย และสับปะรดพันธุ์ตราดสีทอง, การจัดบุฟเฟต์ผลไม้ 3 ชนิด คือ เงาะ มังคุด และทุเรียน ชนิดละ 2 ตัน ให้ผู้ร่วมงานได้ชิมฟรี, การเปิดตลาดนัดผลไม้คุณภาพราคาถูก, การประกวดอาหารคาว-หวานจากสับปะรดตราดสีทอง, กิจกรรมตอบคำถามด้านปศุสัตว์, การแข่งขันตำส้มตำผลไม้ลีลา, กิจกรรมปั่นจักรยานแรลลี่ท่องเที่ยวสวนเกษตร, การประกวดสุนัขพันธุ์ไทยหลังอาน เป็นต้น

3. เทศกาลดูผีเสื้อ แคมป์บ้านกร่าง จังหวัดเพชรบุรี

           เดือนพฤษภาคมถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการดูผีเสื้อมาก โดย แคมป์บ้านกร่าง ตั้งอยู่บริเวณตำบลห้วยแม่เรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี ได้จัดเทศกาลดูผีเสื้อขึ้นเพื่อเอาใจนักท่องเที่ยวที่รักในธรรมชาติ ซึ่งที่นี่จะมีผีเสื้อเยอะที่สุด มากกว่า 200 สายพันธุ์ นับพันตัว ที่จะออกมาอวดโฉมให้เราได้เห็น โดยเส้นทางเดินดูผีเสื้อจะเริ่มจากกิโลเมตรที่ 0 คือบริเวณด่านตรวจเขาสามยอด ถึงกิโลเมตรที่ 18 ซึ่งจะพบผีเสื้อได้ตามสองข้างทาง หรือตามโป่งดินระหว่างกิโลเมตรที่ 10-12 นักท่องเที่ยวสามารถขับรถเที่ยวชมได้ตั้งแต่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานไปจนถึงแคมป์บ้านกร่าง จะมีผีเสื้อให้ได้แวะชมตลอดเส้นทาง
ผีเสื้อ แคมป์บ้านกร่าง แก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

          นอกจากจะเป็นแหล่งชมผีเสื้อที่สวยที่สุดแล้ว อุทยานแห่งนี้ยังมีวิวทิวทัศน์ของป่าเขาเขียวขจีและอากาศเย็นสบายบริสุทธิ์ให้ได้สัมผัสอีก โดยมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงกัน เช่น เขื่อนแก่งกระจาน, จุดชมวิวพะเนินทุ่ง, หมู่บ้านโป่งลึก-บางกลอย, จุดกางเต็นท์ ตั้งแคมป์ หรือล่องแพเปียกชมวิถีชุมชนชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ, อุโมงค์ต้นไม้, น้ำตกปราณบุรี และน้ำตกแม่สะเลียง เป็นต้น

เทศกาลดูผีเสื้อ แคมป์บ้านกร่าง ปี 2567 ชมความงามแห่งสีสันแมลงปีกบาง

4. กุหลาบขาว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

           พาไปเที่ยวชมความสวยงามของพรรณไม้พื้นถิ่นบนลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง ในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ที่จะบานช่วงเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดย ดอกกุหลาบขาว มีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นว่า ดอกสามี เป็นพรรณไม้ในวงศ์ ERICACEAE เช่นเดียวกับกุหลาบพันปี ส่วนใหญ่สามารถพบตามภูเขาที่มีระดับความสูง 1,000-1,600 เมตร ชอบขึ้นเป็นกลุ่ม หรือกระจายตามที่โล่งแจ้งที่มีพื้นที่เป็นหินทราย
กุหลาบขาว อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จังหวัดพิษณุโลก

          ในประเทศไทยพบที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูหลวง และที่พบมากที่สุดคือ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า โดยจะผลิดอกบานสะพรั่งสวยงามแทรกแซมตามร่องหิน บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติลานหินปุ่ม และคาดว่าจะออกดอกให้ชมความสวยงามตลอดเดือนพฤษภาคมนี้

5. ประเพณีบุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธร

           งานประเพณีบุญบั้งไฟ เป็นงานประเพณีท้องถิ่นของชาวอีสานที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตและความเชื่อทางศาสนามาช้านาน โดยก่อนถึงฤดูทำนาจะต้องจุดบั้งไฟขึ้นไปเพื่อบูชาพญาแถน เทพเจ้าแห่งฝน ให้ปล่อยฝนตกลงมาเพื่อความอุดมสมบูรณ์ในการทำเกษตรกรรม โดยในปี 2567 งานประเพณีบุญบั้งไฟจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคม บริเวณด้านข้างเทศบาลยโสธร (โดมเทศบาลเมืองยโสธร)
ตารางงานประเพณีบุญบั้งไฟภายในจังหวัดยโสธรประจำปี 2567

ภาพจาก : เฟซบุ๊ก YASOHipster - ยโสฮิปสเตอร์

           ภายในงานจะได้พบกิจกรรมที่น่าสนใจ ได้แก่ ขบวนแห่บั้งไฟสวยงาม, การประกวดแห่กาพย์เซิ้งบั้งไฟ, การสาธิตและร่วมแกะลายบั้งไฟ, การแสดงรถบั้งไฟโบราณ, การประกวดเวทีกองเชียร์บั้งไฟ, การประกวดธิดาบั้งไฟโก้, การแสดงแสงสีสื่อผสม ตำนานพญาคันคาก (ตำนานบุญบั้งไฟยโสธร), การจุดบั้งไฟปฐมฤกษ์และบั้งไฟเสี่ยงทาย, การจุดโชว์บั้งไฟแฟนซี (บั้งไฟติดร่มมีควันสี), การแข่งขันบั้งไฟติดร่มแฟนซี และบั้งไฟขึ้นสูง ตลอดจนจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์ OTOP ของดียโสธร

6. ประเพณีบุญบั้งไฟตะไลล้านบ้านกุดหว้า ปี 2567 จังหวัดกาฬสินธุ์

           บั้งไฟตะไล ฟังจากชื่อแล้วค่อนข้างแปลกหูสำหรับนักท่องเที่ยว และมีลักษณะที่แตกต่างจากบั้งไฟทั่วไปที่เป็นหางยาว เพราะบั้งไฟตะไลจะมีลักษณะเป็นทรงกลมคล้ายล้อเกวียน ว่ากันว่ามีแห่งเดียวในโลก นั่นคือที่บ้านกุดหว้า อำเภอกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีการผลิตตะไลเพียงหมู่บ้านเดียวในประเทศไทย
บุญบั้งไฟตะไลล้านบ้านกุดหว้า จังหวัดกาฬสินธุ์

ภาพจาก : NPstock / Shutterstock.com

          โดยแต่ละปีช่วงวันงานเทศกาลบุญบั้งไฟ ที่หมู่บ้านแห่งนี้จะมีการจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟตะไลล้าน ภายในงานจะมีการแข่งขันบั้งไฟว่าของใครจะขึ้นสูงที่สุด และอยู่บนอากาศได้นานที่สุด รวมถึงมีการปิดถนนและขบวนแห่ ขบวนฟ้อนชุดผู้ไท และมีการถ่ายทอดสดบั้งไฟผ่านสื่อออนไลน์ให้รับชมกันมากขึ้นด้วย โดยปกติงานประเพณีบุญบั้งไฟตะไลล้านบ้านกุดหว้าจะจัดขึ้นในวันเสาร์และอาทิตย์ที่สามของเดือนพฤษภาคมของทุกปี และปี 2567 จะตรงกับวันที่ 18-19 พฤษภาคม   

7. จุดชมวิวเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

           อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ที่มีความน่าสนใจและสวยงามมาก ๆ โดยจะมีจุดท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ทั้งภูเขา ถ้ำ ทะเล หนึ่งในนั้นคือ จุดชมวิวเขาแดง ทางขึ้นยอดเขาอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 400 เมตร และต้องเดินขึ้นเขาไปตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติอีกประมาณ 400 เมตร ใช้เวลาไป-กลับ 1 ชั่วโมง โดยที่จุดชมวิวเขาแดง นักท่องเที่ยวจะได้เห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบของอุทยาน โดยเฉพาะช่วงเช้าและช่วงเย็นสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงามมาก ๆ
จุดชมวิวเขาแดง อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ภาพจาก : amnat30 / Shutterstock.com

8. เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต

          เกาะไม้ท่อน หรือ Honeymoon Island อีกหนึ่งเกาะสวยในไทยที่มีน้ำทะเลใส ๆ เป็นเกาะที่มีลักษณะยาวเหมือนท่อนไม้ อยู่ห่างจากภูเก็ตประมาณ 9-10 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 15 นาที ด้วยความที่เกาะไม้ท่อนเป็นเกาะส่วนตัว ทำให้ธรรมชาติยังคงสวยงามอุดมสมบูรณ์มาก น้ำทะเลสีฟ้าใสแจ๋วราวกับกระจก มีแนวปะการังบริเวณหน้าหาดซึ่งเต็มไปด้วยดอกไม้ทะเล ทำให้มีฝูงปลามากมายหลายชนิด จึงเหมาะกับกิจกรรมดำน้ำตื้นเป็นอย่างมาก

เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต

           ทั้งนี้ การท่องเที่ยวบนเกาะไม้ท่อนจะเป็นแบบบริการทัวร์ One Day Trip จากบริษัททัวร์ที่ได้รับอนุญาต หรือเป็นผู้เข้าพักบนรีสอร์ตของโรงแรมเท่านั้น เพราะฉะนั้นบนเกาะนี้จะมีนักท่องเที่ยวน้อยมาก ใครที่ชอบความสงบและเป็นส่วนตัวรับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอน

9. อุทยานธรณีสตูล จังหวัดสตูล

           อุทยานธรณีสตูล (Satun Geopark) มีพื้นที่ครอบคลุม 2,597 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 4 อำเภอในจังหวัดสตูล ได้แก่ อำเภอเมือง ทุ่งหว้า มะนัง และละงู ประกอบด้วยแหล่งที่มีคุณค่าทางธรณีวิทยามากกว่า 70 แห่ง ทั้งบนบกและในทะเล เช่น
 
  • ถ้ำเลสเตโกดอน มีการขุดค้นพบฟอสซิลของช้างสเตโกดอน จึงเป็นที่มาของชื่อถ้ำ รวมไปถึงซากพืช ซากสัตว์ดึกดำบรรพ์อีกมากมาย
     
  • ปราสาทหินพันยอด เกาะเขาใหญ่ ต้องนั่งเรือหางยาวหรือพายเรือคายักเข้าไป เวลาที่น้ำลดจะสามารถลอดช่องหินเข้าไปชมความสวยงามของสิ่งอัศจรรย์สุดอันซีนที่ธรรมชาติรังสรรค์ขึ้นจากการกัดเซาะหินของน้ำฝน จนกลายเป็นแท่งหินแหลมรูปร่างสวยงามแปลกตาคล้ายกับปราสาทในเทพนิยาย อีกทั้งยังเป็นพื้นที่ธรณีวิทยา มีการพบฟอสซิลอายุมากกว่า 480 ล้านปี
     
          นอกจากนี้ อุทยานธรณีสตูล ยังมีกิจกรรมการท่องเที่ยวหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการล่องแก่ง ดำน้ำ เที่ยวถ้ำ หรือจะเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจที่น้ำตกหรือชายหาด รวมถึงยังมีแหล่งซื้อของฝากผลิตภัณฑ์ชุมชน และสัมผัสวัฒนธรรมท้องถิ่นอีกด้วย
ปราสาทหินพันยอด อุทยานธรณีสตูล จังหวัดสตูล

          อุทยานธรณีสตูล ถือเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกในไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติในหลาย ๆ ด้าน ทั้งแหล่งธรณีวิทยา แหล่งอนุรักษ์ทางธรณีวิทยา แหล่งท่องเที่ยวทางธรณีวิทยาที่มีคุณค่าต่อประเทศและโลก แหล่งโบราณคดี นิเวศวิทยา และศิลปวัฒนธรรม ประเพณีที่มีคุณค่าของโลก อีกทั้งยังบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นโดยประชาชนเพื่อประชาชน และการพัฒนาที่ยั่งยืนจนได้รับการประกาศจาก UNESCO ให้เป็น อุทยานธรณีโลก (UNESCO Global Geopark) ซึ่งเป็นลำดับที่ 5 ในอาเซียน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานสตูล : TAT Satun Office

รู้จักอุทยานธรณีสตูล หลังประกาศเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของไทย

10. ดำนำชมปะการัง กองหินโลซิน จังหวัดปัตตานี

           ในทะเลไทยฝั่งอ่าวไทยมีเกาะเล็กเกาะน้อยมากมายทั้งที่มีและไม่มีผู้คนอาศัย โดยเกาะที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่งมากที่สุดต้องยกให้ เกาะโลซิน ในจังหวัดปัตตานี เกาะที่มีขนาดเล็กที่สุดในประเทศไทย ซึ่งแท้จริงแล้วเกาะแห่งนี้มีลักษณะเป็นกองหินใต้ทะเล คล้ายกับภูเขาหินขนาดย่อมที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเพียงเล็กน้อยประมาณ 10 เมตร ฐานกองหินใต้ผืนน้ำกว้างประมาณ 50 ตารางเมตร ไม่มีหาดทราย ไม่มีต้นไม้ใด ๆ ทั้งสิ้น มีเพียงประภาคารตั้งโดดเด่นเป็นจุดสังเกตแก่นักเดินเรือเท่านั้น
กองหินโลซิน จังหวัดปัตตานี

           เกาะโลซิน เป็นอีกหนึ่งแหล่งดำน้ำลึกที่สวยงามที่สุดของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เพราะใต้ท้องทะเลที่นี่น้ำจะใสแจ๋ว เต็มไปด้วยแนวปะการังที่สมบูรณ์ หลากสีสันและสายพันธุ์ อีกทั้งยังมีสัตว์ทะเลมากมาย โดยชนิดที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ได้แก่ ปลานกขุนทอง ปลาสลิดหิน ปลานกแก้ว ปลาการ์ตูน และปลาผีเสื้อ รวมถึงพี่ใหญ่ใจดีอย่าง ฉลามวาฬ ก็สามารถพบเจอได้บ่อยครั้งบริเวณเกาะแห่งนี้ด้วย

11. อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง จังหวัดพะเยา

           อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอเชียงม่วน อำเภอดอกคำใต้ และอำเภอปง จังหวัดพะเยา อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ฟังชื่ออาจจะไม่คุ้นหูเท่าไรนักถ้าไม่ใช่คนท้องถิ่น แต่บอกเลยว่าที่นี่คือ Unseen ของจังหวัดพะเยาเลย เนื่องจากมีสภาพป่าสมบูรณ์ จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งธรรมชาติที่หลากหลายและสวยงาม เช่น น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกห้วยต้นผึ้ง ถ้ำปางงุ้น ถ้ำผาตั้ง เป็นต้น อีกทั้งยังเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าต่าง ๆ โดยเฉพาะ นกยูง ที่ออกมาอวดโฉมให้เห็นบ้างเป็นครั้งคราว
น้ำตกธารสวรรค์ อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง จังหวัดพะเยา

          สำหรับจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจภายในอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง ได้แก่

  • น้ำตกธารสวรรค์ เป็นน้ำตกหินปูนขนาดกลาง 4 ชั้น เกิดจากลำห้วยหลายสายที่ไหลมารวมกันจนกลายเป็นสายน้ำใสสะอาดราวมรกต ล้อมรอบไปด้วยป่าเขาสมบูรณ์

  • น้ำตกห้วยต้นผึ้ง น้ำตกหินปูนขนาดเล็กที่ค่อย ๆ ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นเล็กชั้นน้อยทั้งหมด 6 ชั้น เป็นแหล่งน้ำสำคัญที่ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงจะใช้น้ำประปาภูเขามาทำการเกษตร ปลูกพืชผักสวนครัว และทำประโยชน์ต่าง ๆ ในชุมชน อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวย ๆ ให้ทุกคนได้มาพักผ่อนหย่อนใจกันด้วย

  • ถ้ำใหญ่ปางงุ้น ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีทั้งหมด 5 โถงด้วยกัน สามารถจุนักท่องเที่ยวได้ถึง 400 คน ด้านในเต็มไปด้วยหินงอก-หินย้อยที่ตกผลึก เมื่อกระทบกับแสงแล้วจะระยิบระยับสวยงาม

  • วนอุทยานไดโนเสาร์แก่งหลวง ที่จัดแสดง กระดูกไดโนเสาร์เชียงม่วน ไดโนเสาร์ตัวแรกที่ค้นพบทางภาคเหนือ

          นอกจากนี้บริเวณทางเข้าอุทยานก็มีทุ่งดอกทานตะวัน ซึ่งเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมาก หรือถ้าใครชื่นชอบนกยูงก็สามารถชมแบบใกล้ชิดได้ที่บริเวณหน้าที่ทำการฯ ซึ่งนกยูงจัดว่าเป็นสัญลักษณ์ของอุทยานแห่งนี้เลยก็ว่าได้ 

12. วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม จังหวัดเชียงใหม่

           วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม หรืออีกชื่อหนึ่งว่า อุโมงค์เถรจันทร์ เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 700 ปี ตั้งอยู่บริเวณเชิงดอยสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ สร้างขึ้นในสมัยพญามังราย ราวปี พ.ศ. 1839 โดยด้านในอุโมงค์นั้นจะเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ 700 ปี ศิลปกรรมล้านนา สันนิษฐานว่าสร้างประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 20 เพื่อถวายแก่พระมหาเถรจันทร์ ผู้เชี่ยวชาญในพระไตรปิฎก ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ที่วิปัสสนากรรมฐาน และประกอบพิธีกรรมทางพุทธศาสนาต่าง ๆ
วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม จังหวัดเชียงใหม่

           โดยอุโมงค์นี้มีลักษณะเป็นกำแพง ภายในมีทางเดินหลายช่องที่สามารถทะลุถึงกันได้ รวมถึงมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง สันนิษฐานว่าวาดขึ้นในระหว่าง พ.ศ. 1900-2000 ให้ความรู้สึกถึงความลึกลับและน่าค้นหา นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสถานที่สำคัญอื่น ๆ เช่น เสาหินอโศกจำลอง, หลักศิลาจารึก, บันไดขึ้นเจดีย์, เศียรพญานาค, รูปพระโพธิสัตว์, พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง, โรงภาพปริศนาธรรม, หอสมุดธรรมโฆษณ์, พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติฯ และสำนักงานสวนพุทธธรรม หากใครได้มาเที่ยววัดอุโมงค์สักครั้ง รับรองเลยว่าจะได้รับพลังงานดี ๆ มีจิตใจที่สงบกลับไปอย่างแน่นอน

          เดือนพฤษภาคม ถือเป็นช่วงต้นของฤดูฝน ซึ่งหลายที่อาจจะเริ่มมีฝนประปรายตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเป็นต้นไป เป็นช่วงกรีนซีซั่นที่ธรรมชาติสวยสดงดงามกับบรรยากาศฝนโปรยปรายให้ได้สัมผัสไอเย็น ๆ ชุ่มฉ่ำที่มีมาให้ชุ่มชื่นหัวใจ
 

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ เที่ยวหน้าร้อน เที่ยวหน้าฝน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ที่เที่ยวเดือนพฤษภาคม 2567 ชี้เป้าพิกัดเที่ยวไทย น่าไปสุด ๆ อัปเดตล่าสุด 26 เมษายน 2567 เวลา 15:56:19 55,984 อ่าน
TOP
x close