ที่เที่ยวหน้าฝน 2567 มาเช็กที่เที่ยวสวย ๆ จากทั่วประเทศงานดี ๆ มีทั้งภูเขา น้ำตก รวมถึงสวนผลไม้ที่ชวนให้ไปอิ่มอร่อยกันสด ๆ มีที่ไหนบ้างตามไปชมแบบเต็ม ๆ กันเลย
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
- ที่เที่ยวหน้าฝน 2567 หลากหลายสไตล์ ไปสัมผัสบรรยากาศช่วงกรีนซีซั่น
ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org, สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอกัลยาณิวัฒนา, thairoyalprojecttour.com และ เฟซบุ๊ก อำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาที่เที่ยวหน้าฝน หรือคนที่ยังไม่รู้ว่าหน้าฝนเที่ยวไหนดี ตามมาทางนี้เลยจ้า เพราะเราได้รวบรวมที่เที่ยวหน้าฝนจากทั่วประเทศมาแนะนำกัน
มีทั้งภูเขา น้ำตก รวมถึงสวนผลไม้ที่ออกผลให้ได้ลิ้มรสชาติความอร่อยกันสด ๆ
จากต้น
งานนี้รับรองว่าสายฝนไม่สามารถทำให้คุณนั่งเหงาหงอยอยู่แต่ในบ้านแน่นอน
ว่าแต่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวต้อนรับความชุ่มฉ่ำที่ไหนบ้างนั้น
ลองไปชมกันเลย
ที่เที่ยวหน้าฝน 2567
1. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
อำเภอสวนผึ้ง ไม่ใช่เพียงแค่ฤดูหนาวเท่านั้นที่สามารถไปเที่ยวได้ เพราะที่นี่สามารถเดินทางไปท่องเที่ยวได้ในทุกช่วง โดยเป็นอีกอำเภอหนึ่งที่มีภูมิทัศน์สวยงามท่ามกลางขุนเขาสลับซับซ้อนบริเวณ ชายแดนแถบตะวันตกของประเทศ สวนผึ้งสมัยก่อนเป็นแหล่งทำแร่ แต่ต่อมาที่นี่ได้กลายเป็นแหล่งรวมรีสอร์ทหลากรูปแบบ ที่ตกแต่งอย่างมีสไตล์ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าแวะชมมากมาย เช่น บ้านหอมเทียน, น้ำตกเก้าโจน, เขากระโจม, จุดชมวิวห้วยคอกหมู และสวนผึ้งไฮแลนด์ เป็นต้น เป็นต้น
2. อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
สถานที่ที่ขึ้นชื่อในเรื่องความงดงามของทิวทัศน์ ความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ สำหรับ "ทองผาภูมิ" อำเภอสุดแดนตะวันตก ขอบชายแดนไทย-เมียนมา เพราะสภาพภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูงชัน ทำให้มีความสวยงามของท้องทะเลแห่งขุนเขาและทะเลหมอกในยามเช้า อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามอยู่หลายแห่ง
สถานที่ท่องเที่ยวทองผาภูมิ เช่น เขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม, เขาช้างเผือก เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มองได้รอบทิศทาง 360 องศา, บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาที่เงียบสงบ ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมเอาไว้, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ในยามหน้าฝนสายน้ำจะไหลพรั่งพรู สวยงามมาก และดอยต่องปะเล จุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ - Thongphaphum National Park
สถานที่ท่องเที่ยวทองผาภูมิ เช่น เขื่อนเขาแหลม (เขื่อนวชิราลงกรณ) อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่มีวิวทิวทัศน์ที่งดงาม, เขาช้างเผือก เส้นทางเดินไปสู่ยอดเขาเป็นป่าโปร่งสลับกับทุ่งหญ้า มองได้รอบทิศทาง 360 องศา, บ้านอีต่อง หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาที่เงียบสงบ ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั่งเดิมเอาไว้, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น มีความยาวประมาณ 5 กิโลเมตร ในยามหน้าฝนสายน้ำจะไหลพรั่งพรู สวยงามมาก และดอยต่องปะเล จุดชมทิวทัศน์ที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ - Thongphaphum National Park
3. เทศกาลผลไม้ภาคตะวันออก
นอกจากภาคตะวันออกที่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามแล้ว อีกหนึ่งเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงปลายฤดูร้อนต้นฝนก็คงเป็นเทศกาลชมผลไม้รสเลิศนานาชนิด ที่ทุกคนต่างรอคอยที่จะเดินทางไปลิ้มรสชิมความอร่อยของผลไม้สด ๆ จากต้น ภายในบรรยากาศสบาย ๆ ของสวนผลไม้ที่เป็นของดีขึ้นชื่อของภาคตะวันออก มีทั้งทุเรียน, เงาะ, สละ, ลองกอง, มังคุด และแก้วมังกร เป็นต้น แล้วยังสามารถเรียนรู้วิถีชีวิตแบบชาวสวนได้อีกด้วย ตั้งแต่ในช่วงเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคมของทุกปี ผลไม้ของภูมิภาคแห่งชายทะเลตะวันออกของไทย โดยถือเป็นโครงการที่ดีในการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนผลไม้ ควบคู่ไปกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก
4. แก่งหินเพิง จังหวัดปราจีนบุรี
สถานที่ล่องแก่งสุดมันส์ ตั้งอยู่ที่ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี เป็นแก่งหินขนาดใหญ่ที่สวยงามอยู่ในลำน้ำใสใหญ่ ซึ่งมีลักษณะทางธรณีวิทยา เป็นชั้นหินทราย อยู่ในเขตความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 (ใสใหญ่) โดยภายในอำเภอนาดี เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่เหมาะแก่การล่องเรือยางที่ท้าทายและสนุกสนาน ในช่วงฤดูฝนราวเดือนกรกฎาคม-พฤศจิกายน เป็นช่วงที่มีปริมาณน้ำหลากล้นแก่ง และไหลลดหลั่นเป็นชั้น ๆ เหมาะสำหรับการล่องแก่งผจญภัยเป็นอย่างมาก
ภาพจาก topten22photo / Shutterstock.com
สำหรับการล่องแก่งนั้นจะผ่านแก่งกินต่าง ๆ ได้แก่ แก่งหินเพิง, แก่งวังหนามล้อม, แก่งวังบอน, แก่งลูกเสือ, แก่งวังไทร และแก่งงูเห่า ใช้แพยางนั่งได้ประมาณ 8-10 คน ล่องไปตามลำน้ำใสใหญ่ ผู้ประกอบการจะพานักท่องเที่ยวไปยังบริเวณอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่ 9 (ใสใหญ่) และเดินป่าไปยังต้นน้ำ ระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที จากนั้นจะเริ่มล่องแก่งมายังจุดสุดท้ายบริเวณ ขญ.9 ใช้เวลาล่องแก่งประมาณ 30 นาที นักท่องเที่ยวสามารถติดต่อบริษัทนำเที่ยวที่จัดกิจกรรมในการล่องแก่งหินเพิงได้
5. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา
ด้วยความที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก บวกกับความงดงามทุกช่วงฤดูกาล จึงทำให้ชื่อของ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้และสัตว์ป่านานานาชนิด ตลอดจนมีลักษณะทางธรรมชาติที่สวยงาม มักจะติดอันดับต้น ๆ ในการมองหาที่เที่ยวหน้าฝน เพราะนักท่องเที่ยวนิยมมาชมความสวยงาม พร้อมกับสูดอากาศแสนบริสุทธิ์ ยิ่งฤดูฝนด้วยแล้ว ป่าไม้และทุ่งหญ้าจะเขียวขจี แถมน้ำตกทุกแห่งในพื้นที่ ทั้งน้ำตกเหวนรก, น้ำตกเหวสุวัต, น้ำตกผากล้วยไม้ และน้ำตกกองแก้ว ยังไหลแรงส่งเสียงดังสนั่นก้องผืนป่า อากาศเย็นสบาย เงียบสงบ เหมาะแก่การเดินทางไปพักผ่อน อีกทั้งบริเวณใกล้ ๆ อุทยานยังมีสถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงที่พักเก๋ ๆ ให้เลือกอีกเพียบ
6. วังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
สวิตเซอร์แลนด์แดนอีสาน นี่คือฉายาที่ใคร ๆ ต่างก็ขนานนามให้กับวังน้ำเขียวเมื่อได้มาเยือน เพราะที่นี่มีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เป็นอย่างมาก มีน้ำตกที่สวยงาม และจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นผืนป่าอุทยานแห่งชาติทับลานที่กลับคืนสู่ความสมบูรณ์ของผืนป่าดงพญาไฟในอดีต อีกทั้งยังมีผลไม้นานาชนิดให้เลือกสรร รวมทั้งยังมีสวนไม้ดอก-ไม้ประดับที่สวยงาม การปลูกผักปลอดสารพิษ และการเพาะเห็ดหอม ซึ่งเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวในพื้นที่อีกด้วย
7. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ
ถือเป็นธรรมเนียมสำหรับนักเดินทางที่ในทุกปีจะต้องเดินทางเที่ยวชมความสวยงามของ "ทุ่งดอกกระเจียว" ในเทศกาลท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ อย่าง เทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม ภายในงานมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย โดยแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียว ประกอบไปด้วย 2 สถานที่ ได้แก่
- อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต สถานที่ที่เมื่อถึงฤดูฝนดอกกระเจียวป่าหลากหลายสายพันธุ์จะออกดอกขึ้นมาอย่างหนาแน่น บริเวณทุ่งกว้างที่ถูกปกคลุมด้วย ไอหมอกในยามเช้าอีกด้วย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม Pa Hin Ngam National Park
- อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว พื้นที่สำหรับชมทุ่งดอกกระเจียวป่าของที่นี่จะอยู่บริเวณน้ำตกชวนชม ซึ่งมีการจัดให้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ 2 กิโลเมตร น้ำตกมีความสูง 20 เมตร บริเวณโดยรอบมีต้นไม้และทุ่งบัวสวรรค์หรือทุ่งดอกกระเจียว ที่มีทั้งสีชมพูและสีขาว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติไทรทอง Sai Thong National Park
8. เชียงคาน จังหวัดเลย
อำเภอเล็ก ๆ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ผู้คนมีรูปแบบวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เงียบสงบ มีอัธยาศัยดีต่อผู้มาเยือนเสมอ ในย่านชุมชนยังคงมีห้องแถวไม้ บ้านไม้เก่า แก่ที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้ เป็นเสน่ห์ที่สุดคลาสสิกของเชียงคาน บางแห่งตกแต่งทำเป็นที่พัก ร้านอาหาร ร้านค้าสำหรับรองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนแบบสบาย ๆ ใกล้ชิดกับชุมชน แต่ทว่ายังคงแฝงความเรียบง่ายและความเป็นกันเอง โดยเมื่อมาถึงที่นี่สิ่งที่น่าจะทำ คือ หาจักรยานสักคันปั่นไปในทุกที่ที่อยากไป เนื่องด้วยเชียงคานเป็นเมืองเล็ก ๆ มีความคล่องตัวสำหรับนักท่องเที่ยวได้ทั่วถึง ส่วนกิจกรรมที่น่าสนใจ เช่น ตักบาตรตอนเช้า ชมวัด และล่องเรือชมทิวทัศน์สองฝั่งโขง เป็นต้น
ภาพจาก Kornfoto.com / Shutterstock.com
9. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
ที่เที่ยวยอดนิยมในทุกฤดูกาลสำหรับ "ภูทับเบิก" ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล ห่างจากอำเภอหล่มเก่า 40 กิโลเมตร ตามเส้นทางจากหล่มเก่าไปภูหินร่องกล้า หรือห่างจากตัวจังหวัดเพชรบูรณ์ประมาณ 90 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับทะเลประมาณ 1,768 เมตร เป็นจุดที่สูงที่สุดของเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศที่สวยงามด้วยธรรมชาติแบบทะเลภูเขา อากาศบริสุทธิ์ สภาพภูมิอากาศเย็นสบายตลอดปี ในตอนเช้ามีกลุ่มเมฆและทะเลหมอกตัดกับยอดเทือกเขาเพชรบูรณ์ นอกจากนี้ไฮไลต์ที่ใคร ๆ ก็อยากไปเยือนภูทับเบิก คือแปลงปลูกกะหล่ำปลีกว้างไกลสุดสายตา ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวภูทับเบิก
10. เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เขาค้อ เป็นชื่อที่ตั้งตามลักษณะของพื้นที่ป่าบริเวณนี้ ที่แต่เดิมมีต้นค้อ ซึ่งเป็นไม้ตระกูลปาล์มขึ้นอยู่มาก ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิต เพราะมีภูมิอากาศบนเขาค้อเย็นสบายตลอดปี รวมทั้งมีทัศนียภาพสวยงาม จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจบริเวณเขาค้อมีหลายแห่ง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การสู้รบกับคอมมิวนิสต์ ได้แก่ อนุสาวรีย์จีนฮ่อ, พิพิธภัณฑ์อาวุธ, อนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ, พระบรมธาตุเจดีย์, พระตำหนักเขาค้อ และน้ำตก เป็นต้น ส่วนที่พักบนเขาค้อก็มีให้เลือกหลายแห่ง ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณตำบลทุ่งสมอและแคมป์สน นอกจากนี้ยังมีรีสอร์ตต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ตามเส้นทางขึ้นเขาค้อมากมาย
11. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก-เพชรบูรณ์
แหล่งผืนป่าสะวันนาแห่งเดียวของภาคเหนือที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในท้องที่จังหวัดพิษณุโลกและเพชรบูรณ์ มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อน เป็นต้นน้ำลำธารหลายสายที่ไหลลงสู่แม่น้ำน่าน สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวสามารถขอข้อมูลเดินทางศึกษาธรรมชาติ รวมทั้งใช้บริการที่พักและกางเต็นท์พักแรมได้จากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวในเขตอุทยาน ได้แก่ น้ำตกต่าง ๆ บนเส้นทางสายพิษณุโลก-หล่มสัก เช่น น้ำตกแก่งโสภา หรือน้ำตกวังนกแอ่น ส่วนพื้นที่ทางด้านตะวันออกและตอนกลางของอุทยาน ในเขตอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นบริเวณป่าสนและทุ่งหญ้าสะวันนา ได้แก่ ทุ่งแสลงหลวง ทุ่งพญา ทุ่งโนนสน ซึ่งนักท่องเที่ยวนิยมไปเดินป่าและกางเต็นท์พักแรม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง - Thung Salaeng Luang National Park
12. ล่องแก่งลำน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก
สำหรับคนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวแบบกิจกรรมท้าทาย ล่องแก่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่พลาดไม่ได้เด็ดขาด โดยเฉพาะการล่องแก่งลำน้ำเข็กที่สนุกสนาน ตื่นเต้น และท้าทาย โดยเริ่มต้นการล่องเรือยางจากบริเวณบ้านทรัพย์ไพรวัลย์ ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง ไปสู่บริเวณตอนบนของน้ำตกแก่งซอง ซึ่งความพิเศษของการล่องแก่งนี้จะเริ่มต้นจากกระแสน้ำนิ่งระดับ 1 และเข้าสู่ระดับน้ำที่มีความสนุกสนานท้าทายขึ้นตามลำดับ จนกระทั่งถึงระดับสูงสุดคือระดับ 5 ในช่วงท้าย ซึ่งลำน้ำจะขนานไปกับทางหลวง หมายเลข 12 (สายพิษณุโลก-หล่มสัก) รวมระยะทางในการล่องแก่งทั้งสิ้นประมาณ 8 กิโลเมตร ผ่าน 18 แก่ง ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง แล้วแต่ระดับน้ำและความยากง่าย
ทั้งนี้ การล่องแก่งลำน้ำเข็กไม่อนุญาตให้เด็กอายุต่ำกว่า 12 ขวบ ลงล่องแก่งโดยเด็ดขาด โดยยึดตามข้อบังคับของชมรมผู้ประกอบการล่องแก่งลำน้ำเข็ก ที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ททท.สำนักงานพิษณุโลก
13. อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว จังหวัดพิษณุโลก-อุตรดิตถ์
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ครอบคลุมพื้นที่ในเขตอำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาสูงตามแนวชายแดนไทย-ลาว บริเวณที่สูงที่สุด คือ ยอดเขาภูสอยดาว สูงถึง 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี สภาพป่าส่วนใหญ่ยังอุดมสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปพิชิตยอดภูสอยดาว ด้วยเส้นทางที่ท้าทาย แถมในระหว่างทางยังได้ชมความสวยงามของธรรมชาติ น้ำตก และดอกไม้ป่าชนิดต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยเฉพาะ "ทุ่งดอกหงอนนาค" ราชินีแห่งดอกไม้ที่ผลิดอกบานสะพรั่งห่มคลุมทั่วทุกทุ่งกว้าง รวมไปถึงเอื้องหมายนา ลิลลี่ป่า ลิ้นมังกร กระดุมเงิน ว่านไก่แดง และผืนหมกที่ปกคลุมป่าสนสามใบเรียงรายไปไกลสุดสายตา ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park
14. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก
น้ำตกสุดอลังการที่ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง น้ำตกแห่งนี้เป็นที่ร่ำลือในเรื่องความงดงามอลังการของผืนป่าอุ้มผาง เป็นเหมือนเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผืนป่ามรดกโลก เมื่อถึงคราวที่คุณยืนประจันหน้ากับสารธารน้ำตกทีลอซู จะต้องอึ้งอยู่พักใหญ่ เพราะจะเห็นสายน้ำที่ไหลลงสู่หน้าผาชันกว้างเกือบ 500 เมตร และไหลเป็นชั้น ๆ ท่ามกลางป่าดงดิบสมบูรณ์ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวน้ำตกทีลอซู มักเลือกใช้บริการของรีสอร์ตหรือบริษัททัวร์ ซึ่งมีให้บริการอยู่หลากหลายรูปแบบ สำหรับนักท่องเที่ยวสามารถติดต่อผ่านบริษัททัวร์ที่จัดล่องแพในอำเภออุ้มผางได้เลย
15. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ที่เที่ยวเชียงใหม่สุดออต ตั้งอยู่บนสันเขาบริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อำเภอแม่ริม อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 40 นาที ที่นี่มีลักษณะเด่นคืออากาศเย็นสบายตลอดปี มีหมอกยามเช้า และมีจุดชมวิวสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ทิวภูเขาสลับกันไกลสุดลูกหูลูกตา อีกด้านเป็นแปลงปลูกพืชและไม้เมืองหนาวของโครงการหลวง ทางด้านยอดเขาทางทิศตะวันออกมีจุดชมวิวม่อนล่อง เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์ของพื้นที่โครงการหลวง เป็นจุดชมทะเลหมอกบนหน้าผา มองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกล ทางด้านทิศใต้เป็นไหล่เขามองลงไปจะเห็นหมู่บ้านม้งหนองหอย และพื้นที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอยโดยรอบ ซึ่งเป็นแปลงปลูกผักและวิจัยพืชผักเมืองหนาว นอกจากนี้ยังมีที่พักหลากแบบหลายราคาบริการด้วย
ภาพจาก RUKSUTAKARN studio / Shutterstock.com
16. บ้านแม่กลางหลวง จังหวัดเชียงใหม่
หมู่บ้านที่ตั้งอยู่บนดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง เป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวปกาเกอะญอ ในฤดูฝนบ้านแม่กลางหลวงจะเขียวขจีไปด้วยทุ่งนาขั้นบันไดลดหลั่นเป็นขั้น และยังมีกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติหลากหลายเส้นทาง เช่น เส้นทางเดินป่าดอยหัวเสือ เส้นทางดูนกห้วยน้ำขุ่น และเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกผาเสี่ยว เหมาะสำหรับผู้รักธรรมชาติที่ต้องการความเงียบสงบและเรียนรู้วิถีชีวิตชาวบ้าน
17. อำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
อำเภอที่ 878 ของประเทศไทย แยกตัวออกจากอำเภอแม่แจ่ม อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 136 กิโลเมตร อำเภอนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่หลงรักธรรมชาติ ชื่นชอบวิถีชีวิต และต้องการพักผ่อนในบรรยากาศสบาย ๆ อีกทั้งฤดูฝนยังมีมนตร์เสน่ห์ชวนให้หลงใหลกับนาขั้นบันไดเขียวชอุ่ม สถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ เช่น วัดจันทร์ เป็นวัดที่สันนิฐานว่ามีอายุเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยละว้า (ลั๊วะ) ที่อพยพมาจากเชียงใหม่เมื่อ 300 ปี ก่อน, อ่างเก็บน้ำห้วยอ้อ เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ ทัศนียภาพสวยงาม เป็นแหล่งตกปลาตามธรรมชาติ, ศูนย์ศิลปาชีพบ้านวัดจันทร์ เป็นสถานที่ฝึกอบรมการทอผ้าและการส่งเสริมอาชีพราษฎรในพื้นที่ และศูนย์พัฒนาโครงการหลวงวัดจันทร์ ที่มีกิจกรรมต่าง ๆ ให้เลือกทำมากมาย ดูเพิ่มเติมได้ที่ royalprojectthailand.com
โครงการหลวงวัดจันทร์
18. ปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เมืองเล็ก ๆ ที่สามารถเดินทางไปดื่มด่ำกับบรรยากาศความงดงามได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะฤดูไหน ๆ เพราะแต่ละเดือน แต่ละช่วงฤดูกาล ความงดงามของธรรมชาติจะปรากฏออกมาให้พบเห็นแตกต่างกัน อย่างฤดูฝนแบบนี้ภาพของท้องทุ่งนาสีเขียวกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ขุนเขาที่มีสายหมอกบางเบาล้อมรอบ แม่น้ำปายที่มีน้ำเต็มตลิ่ง เหมาะอย่างยิ่งที่จะลงไปล่องแพชื่นชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ตลอดสองฝั่งแม่น้ำ ที่สำคัญคือค่อนข้างเงียบสงบ เป็นส่วนตัว และที่พักราคาถูก มีสถานที่ท่องเที่ยวให้เลือกไปชื่นชมหลายแห่ง เช่น ถนนคนเดิน, บ้านสันติชล หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน, น้ำตกหมอแปง, วัดพระธาตุแม่เย็น และโป่งน้ำร้อนท่าปาย เป็นต้น
19. ล่องแพพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร
อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวสุดผจญภัย ที่สร้างประสบการณ์สุดมันของการท่องเที่ยวแบบผจญภัยเชิงอนุรักษ์ได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ การล่องแพพะโต๊ะเชิงอนุรักษ์ บริเวณแม่น้ำพะโต๊ะ อำเภอพะโต๊ะ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมท่องเที่ยวที่เปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงความงดงามทางธรรมชาติ และลิ้มรสอร่อยกับเมนูพื้นบ้านอาหารพื้นเมือง ซึ่งสอดคล้องกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่เป็นการผสมผสานระหว่างกิจกรรมการท่องเที่ยวและวิถีชีวิตของชุมชนลุ่มน้ำพะโต๊ะ นอกจากนั้นสามารถเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยวกับกลุ่มโฮมสเตย์บ้านคลองเรือ ที่มีกิจกรรมท่องเที่ยวในชุมชนที่น่าสนใจมากมาย สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ทำการปกครองอำเภอพะโต๊ะ จังหวัดชุมพร โทรศัพท์ 0 7753 9040, 0 7753 9204 หรือ เฟซบุ๊ก TATChumphonRanong
20. เขื่อนรัชชประภา จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เขื่อนที่ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หมู่ที่ 3 ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน ห่างจากตัวเมืองสุราษฎร์ธานี 90 กิโลเมตร เป็นเขื่อนหินทิ้งแกนดินเหนียวอเนกประสงค์ สูง 95 เมตร ยาว 700 เมตร บริเวณเขื่อนและอ่างเก็บน้ำร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่และสวนสวยงาม อีกทั้งภูเขาหินปูนที่อยู่ในเขื่อนยังมีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาสวยงามตามธรรมชาติ ท่ามกลางผืนน้ำสีเขียวที่ดูอบอุ่นเย็นสบายเหมาะจะมาเที่ยวพักผ่อน ในบริเวณเขื่อนรัชชประภาจะมีที่พักให้เลือกมากมาย โดยจะยังมีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยว เช่น พายเรือแคนู, เที่ยวถ้ำน้ำทะลุ ซึ่งอยู่ห่างจากหน่วยพิทักษ์อุทยาน 6 กิโลเมตร โดยทางเท้า เป็นถ้ำใหญ่ที่มีธารน้ำไหล มีหินงอกหินย้อยที่งดงาม
และนี่คือที่เที่ยวหน้าฝนที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวหน้าฝนเจ๋ง ๆ สำหรับวางแผนพาคนในครอบครัวไปเที่ยวกันได้เป็นอย่างดีเลย อ๊ะ ๆ แต่ถ้าอยากรู้รายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ เพิ่มเติม สอบถามได้ที่ TAT Call Center 1672 นะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ที่เที่ยวหน้าฝน ที่พักหน้าฝน อื่น ๆ ที่น่าสนใจ
- ที่เที่ยวหน้าฝน 2567 หลากหลายสไตล์ ไปสัมผัสบรรยากาศช่วงกรีนซีซั่น