ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ปี 2024 จัดเต็มพิกัดเที่ยวฟินชุ่มฉ่ำรับสายฝนและไอหมอก

           เที่ยวเชียงใหม่ช่วงหน้าฝน สัมผัสธรรมชาติและอากาศเย็นสบาย เที่ยวไปให้หัวใจชุ่มฉ่ำในช่วงฝนพรำ
          ชวนแอ่วเหนือเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงฝนพรำกับ ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ช่วงกรีนซีซั่นที่ธรรมชาติจะดีต่อใจ ได้เห็นทุ่งนาสีเขียวขจี สายหมอกลอยละล่องในตอนเช้าปกคลุมขุนเขาให้ได้สดชื่น สูดกลิ่นดิน กลิ่นใบไม้ใบหญ้า ชมดอกไม้ในหน้าฝน เพิ่มความสุขให้ตัวเองได้ง่าย ๆ แค่ออกเดินทางไปท่องเที่ยวกัน ส่วนจะมีที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ไหนที่น่าไปในช่วงหน้าฝนนี้บ้าง เรารวบรวมมาฝากกันแบบจุใจ ดังนี้

ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน
ปี 2024

1. อ่างแก้ว มช.

           อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ อยู่ชิดมาทางด้านหน้าของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจยอดฮิตของวัยรุ่น นักศึกษา และคนทั่วไป มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำเพียบ ไม่ว่าจะเป็นเดินเล่นชมวิว ออกกำลังกาย เล่นว่าว ตีแบดมินตัน นั่งชมพระอาทิตย์ตก มองเห็นดอยสุเทพเป็นฉากหลัง โดยเฉพาะช่วงเย็นที่บรรยากาศแสนสบายและโรแมนติกสุด ๆ เหมาะสำหรับมาเดินชิล ๆ หรือนั่งปิกนิกชมวิวมาก ๆ เลย
อ่างแก้ว มช.

2. วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม

            วัดเก่าแก่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่ยิ่งจะทวีความสวยงามมากขึ้นในช่วงหน้าฝน โดย วัดอุโมงค์ หรือ สวนพุทธธรรม ตั้งอยู่ที่ถนนสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ สร้างขึ้นในสมัยพญามังราย ราว ๆ ปี พ.ศ. 1839 ซึ่งถ้านับถึงวันนี้ก็มีอายุกว่า 700 ปีแล้ว จุดเด่นของวัดคือ อุโมงค์ด้านในที่สร้างขึ้นเพื่อให้พระมหาเถรจันทร์ใช้เป็นที่วิปัสสนากรรมฐาน รวมถึงยังมีภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังที่มีความเก่าแก่อยู่ภายในอุโมงค์อีกด้วย และที่ด้านบนของอุโมงค์นั้นจะเป็นที่ประดิษฐานของเจดีย์ 700 ปี ศิลปกรรมล้านนา ซึ่งสันนิษฐานว่าสร้างประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 20 บริเวณโดยรอบมีความสวยงามด้วยต้นไม้นานาพรรณ บรรยากาศสดชื่น ร่มรื่น โดยเฉพาะช่วงหน้าฝนที่มอสส์สีเขียวชอุ่มจะขึ้นปกคลุมรอบ ๆ ตัววัด เจดีย์ และด้านหน้าของอุโมงค์ ทำให้ที่นี่สวยงามแปลกตา จึงกลายเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ในช่วงหน้าฝนที่นักท่องเที่ยวจะนิยมมาถ่ายรูปสวย ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกตรงด้านหน้าของอุโมงค์นี้
วัดอุโมงค์ สวนพุทธธรรม

3. วัดเจดีย์เจ็ดยอด หรือวัดโพธารามวิหาร

           หรือที่เรียกกันติดปากว่า วัดเจ็ดยอด เป็นวัดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดเชียงใหม่ มีลักษณะของเจดีย์อันเป็นเอกลักษณ์ คือมีถึง 7 ยอด ใน 1 เจดีย์ มีลักษณะใกล้เคียงกับมหาเจดีย์พุทธคยา ที่ประเทศอินเดีย เป็นวัดประจำคนเกิดปีมะเส็ง หรือปีงูเล็ก นอกจากนี้ยังมีโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่ เจดีย์พระเจ้าติโลกราช มณฑปและสถูปโบราณอื่น ๆ ให้ชมอีกด้วย จึงเป็นวัดที่มีความสำคัญในการศึกษาแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ ความสวยงามของวัดเจ็ดยอดในช่วงหน้าฝนคือ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นความชุ่มฉ่ำและมอสส์สีเขียวตามพื้น แน่นอนว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ถ่ายรูปสวยมาก ๆ เลยทีเดียว
วัดเจดีย์เจ็ดยอด หรือวัดโพธารามวิหาร

4. วัดถ้ำเชียงดาว

           วัดถ้ำเชียงดาว ตั้งอยู่บนเนินเขาของดอยหลวงเชียงดาว ภายในถ้ำมีความสวยงามของการปั้นแต่งจากธรรมชาติที่ชวนให้ตื่นตาตื่นใจไปกับปรากฏการณ์หินงอก-หินย้อยที่เกิดเป็นรูปร่างต่าง ๆ จนเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ บางซอกหลืบของถ้ำเมื่อฉายไฟเข้าไปจะเกิดเป็นประกายระยิบระยับสวยงามตระการตา อีกทั้งบริเวณหน้าถ้ำยังมีสระน้ำที่เกิดจากน้ำภายในถ้ำไหลออกมาบริเวณหน้าถ้ำ ซึ่งน้ำมีความใสมากจนสามารถมองเห็นปลาน้อยใหญ่ที่แหวกว่ายวนเวียนไป-มามองแล้วชวนหลงใหล ทำให้บรรยากาศภายในวัดร่มรื่นสดชื่นสุดจะบรรยาย
วัดถ้ำเชียงดาว

5. จุดชมวิวเด่นทีวี เมืองคอง

           หนึ่งในสถานที่ชมทะเลหมอกที่สวยไม่แพ้ใครในเชียงใหม่ ต้องยกให้ จุดชมวิวเด่นทีวี เมืองคอง นี่เลย เพราะนอกจากจะได้ชมทะเลหมอกสวย ๆ แล้ว ยังสามารถมองเห็นยอดดอยหลวงเชียงดาวอีกด้วย โดยเมืองคองเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่เงียบสงบในเขตอำเภอเชียงดาว ชาวบ้านส่วนใหญ่ยังคงใช้วิถีชีวิตแบบเรียบง่าย เป็นพิกัดสุดสโลว์ไลฟ์ที่อยากชวนให้ไปเที่ยวกัน มีที่พักแบบโฮมสเตย์ นอนพักสักคืนแล้วค่อยขึ้นไปดูทะเลหมอกตอนเช้าที่จุดชมวิวเด่นทีวี ซึ่งห่างจากหมู่บ้านไปประมาณ 8-10 กิโลเมตร ทั้งนี้ ชื่อของจุดชมวิวแห่งนี้มีที่มาจากในสมัยก่อนที่หมู่บ้านยังไม่มีสัญญาณโทรคมนาคม การจะดูทีวีหรือรายการต่าง ๆ แต่ละครั้ง ชาวบ้านก็ต้องยกทีวีพร้อมแบตเตอรี่นั่งรถขึ้นมาบนนี้ เพราะตรงบริเวณนี้มีสัญญาณ จนกลายเป็นที่มาของชื่อ จุดชมวิวเด่นทีวี ไปโดยปริยาย
จุดชมวิวเด่นทีวี เมืองคอง

6. ป่าบงเปียง

           แลนด์มาร์กสุดสวยของเมืองเชียงใหม่ ที่ฮีลใจสุด ๆ ในช่วงหน้าฝน ต้องยกให้นาข้าวขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียงหรือบางคนเรียกว่า นาข้าวขั้นบันไดแม่แจ่ม เพราะตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม ที่นี่ถือเป็นผืนนาขั้นบันไดที่กว้างใหญ่ กินพื้นที่ภูเขาหลายลูกต่อกัน กลายเป็นผืนนาสีเขียวอลังการสุดสายตา แนะนำว่าในฤดูฝนควรมานอนค้างโฮมสเตย์ที่นี่สักคืน สัมผัสความเป็นอยู่วิถีชาวบ้าน แล้วจะได้รู้ว่าบรรยากาศยามเช้าที่ฝนเพิ่งหยุดตก ตื่นมาเห็นนาขั้นบันไดสุดลูกหูลูกตา พร้อมกลิ่นไอความเป็นธรรมชาติ มันดีต่อใจอย่างมาก ยิ่งช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ภูเขาโดยรอบจะเป็นสีเขียวขจีให้ความงดงามแบบต้องบันทึกภาพความทรงจำเอาไว้ และเมื่อถึงช่วงเดือนพฤศจิกายน ต้นข้าวจากสีเขียวจะกลายเป็นสีทองอร่ามให้ความสวยงามไปอีกแบบ
บ้านป่าบงเปียง

7. อุทยานแห่งชาติออบหลวง

           อุทยานแห่งชาติออบหลวง ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอจอมทอง อำเภอฮอด และอำเภอแม่แจ่ม ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ราว 100 กิโลเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่ของอุทยานเป็นภูเขาสลับซับซ้อนและสูงชัน มีไฮไลต์เป็นบริเวณหน้าผาจูบกัน ซึ่งเป็นผาหินสองฝั่ง มีบางส่วนยื่นออกมาใกล้กันในระยะประชิด มีสายน้ำลอดผ่านด้านล่าง รายล้อมอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวขจีของป่าไม้ และในช่วงฤดูน้ำหลาก ทางอุทยานยังมีกิจกรรมล่องแก่งเรือยางและพายเรือคายักในลำน้ำแจ่มให้ลอง รวมถึงมีลานกางเต็นท์ไว้บริการด้วย ใครอยากชิลก็เลือกจัดกันตามความชอบได้เลย
อุทยานแห่งชาติออบหลวง

8. สวนสนบ่อแก้ว

          สวนสนบ่อแก้ว หรือชื่อเต็มคือ สถานีวนวัฒนวิจัยบ่อแก้ว ตั้งอยู่เลยอุทยานแห่งชาติออบหลวงไปประมาณ 22 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสำรวจวัตถุดิบเพื่อทำเยื่อกระดาษ ซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 2,072 ไร่ โดยภายในสถานี จะได้พบแปลงทดลองปลูกพืชจำพวกสนและยูคาลิปตัสจำนวนมาก งดงามด้วยทิวสนที่ปลูกเรียงรายกันอย่างเป็นระเบียบราวกับฉากในภาพยนตร์รักโรแมนติก นอกจากวิวทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ภูมิอากาศของที่นี่ยังชื้นและเย็นสบายตลอดปี โดยอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 27.3 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดอยู่ที่ 16.8 องศาเซลเซียส

          นอกจากนี้ยังเป็นที่ทดลองปลูกสนภูเขาชนิดต่าง ๆ ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำพันธุ์มาจากต่างประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แอฟริกาใต้ ไต้หวัน เพื่อทดลองหาพันธุ์ที่เหมาะสมมาเป็นไม้เบิกนำสำหรับปลูกบนป่าเสื่อมโทรมบนดอยทางภาคเหนืออีกด้วย ใครอยากมาเที่ยว มาถ่ายรูปสวย ๆ แนะนำให้มาเที่ยวช่วงเช้า ๆ จะเห็นม่านหมอกลอยปกคลุมตลอดแนวต้นสนสวยงามน่าประทับใจอย่างมากทีเดียว

สวนสนบ่อแก้ว

9. เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา ดอยอินทนนท์

           เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา หรือที่เรียกสั้นว่า ๆ อ่างกา (อ่างกาหลวง) ตั้งอยู่บนยอดดอยอินทนนท์ ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง เป็นป่าฝนที่อยู่สูง 2,500 เมตร จากระดับน้ำทะเล และได้ชื่อว่าเป็นป่าพรุภูเขาสูงที่สุดของเมืองไทย ภายในจะเป็นป่าดิบเขาเขตร้อนชนิดที่มีเมฆหมอกปกคลุมอย่างสม่ำเสมอ บรรยากาศครึ้ม ๆ แดดร่ม ลมเย็น อากาศค่อนข้างจะชื้นและเต็มไปด้วยละอองน้ำ ตลอดเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะ 300 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมต้นไม้ที่เติบโตในบริเวณนี้ โดยเฉพาะ กุหลาบพันปี หรือ ข้าวตอกฤาษี ซึ่งเป็นพืชที่จะขึ้นในพื้นที่ที่มีความสูงมากกว่า 2,000 เมตร และต้องมีความเย็นที่เหมาะสม นอกจากนี้ตามต้นไม้สูงใหญ่จะมีมอสส์และเฟิร์นขึ้นปกคลุมเต็มไปหมด ให้ฟีลเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในผืนป่าดึกดำบรรพ์ยุคจูราสสิกเลยทีเดียว
เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยอ่างกา ดอยอินทนนท์

10. น้ำตกแม่ยะ

           ช่วงหน้าฝน ถือเป็นช่วงเวลาที่น้ำตกเกือบทุกแห่งจะสวยสุด ๆ เพราะมีน้ำไหลแรงเต็มเปี่ยม แถมบรรดาต้นไม้รอบด้านก็ยังผลิดอกออกใบโชว์ความสมบูรณ์ให้เห็นกันเต็มที่ น้ำตกแม่ยะ อยู่ทางทิศใต้ของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ เกิดจากลำห้วยแม่ยะ ไหลลดหลั่นลงมาถึง 30 ชั้น รวมความสูงประมาณ 260 เมตร ได้ชื่อว่ามีความสวยอยู่ในระดับต้น ๆ ของเมืองไทย เป็นน้ำตกที่มีน้ำไหลตลอดปี แต่ในช่วงหน้าฝนที่มีปริมาณน้ำมาก สายน้ำตกจะกว้างไปถึง 100 เมตร เหมือนกับม่านน้ำ สวยงามอลังการอย่างมาก
น้ำตกแม่ยะ

11. บ้านผาหมอน

           หมู่บ้านขนาดกลาง ๆ เป็นที่อยู่ของชุมชนชาวปกาเกอะญอ ตั้งอยู่กลางหุบเขาไม่ไกลจากดอยอินทนนท์ เป็นบ้านที่อยู่บนสันดอย ทำให้สามารถมองเห็นวิวสวย ๆ ของนาขั้นบันไดที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติป่าเขาแบบเน้น ๆ รวมถึงยังมีแปลงดอกไม้เมืองหนาวที่ปลูกอยู่กลางนาข้าวอีกด้วย ชาวบ้านภายในหมู่บ้านได้รวมตัวกันจัดการท่องเที่ยวโดยชุมชนขึ้นมา จนที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ มีบ้านพักโฮมสเตย์ที่เน้นความเงียบสงบ ให้คนที่มาพักได้สัมผัสและเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวปกาเกอะญอ ทั้งความเรียบง่าย การใช้ชีวิตที่ผูกพันกับธรรมชาติ และลิ้มรสอาหารพื้นบ้านที่หากินได้ยาก ทั้งนี้ สำหรับใครสนใจมาชมนาข้าวขั้นบันไดที่บ้านผาหมอนตอนที่เป็นสีเขียวนั้น ควรจะมาช่วงกลางเดือนกันยายนไปจนถึงกลางเดือนตุลาคม และอีกช่วงที่นาจะกลายเป็นสีทองคือช่วงปลายเดือนตุลาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน โดยหลังจากนั้นก็จะเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวข้าวแล้ว ที่สำคัญควรจะจองล่วงหน้าเพราะคิวแน่นพอสมควรเลย
บ้านผาหมอน

12. วัดหลวงขุนวิน

          วัดสวยและเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 700 ปีของเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ที่บ้านขุนวิน ตำบลแม่วิน อำเภอแม่วาง เป็นวัดที่ถูกปล่อยทิ้งร้างอยู่นาน เนื่องจากอยู่กลางป่าและไกลจากชุมชน จนถึง พ.ศ. 2497 ครูบาอุ่นเรือน สุภทฺโท แห่งวัดควรนิมิตร อำเภอสันป่าตอง ลูกศิษย์ของครูบาเจ้าศรีวิชัย ได้บูรณะขึ้นใหม่ให้เจริญรุ่งเรืองอีกครั้ง ปัจจุบันเป็นวัดที่มีความสวยงามมากด้วยสถาปัตยกรรมแบบล้านนา ท่ามกลางบรรยากาศเย็นฉ่ำของป่าเขียวครึ้ม เป็นที่จำพรรษาของพระและเณร รวมทั้งเป็นที่ปฏิบัติธรรมของอุบาสกและอุบาสิกา

          โดดเด่นด้วยโบสถ์ไม้แกะสลักอย่างประณีตงดงาม 2 หลัง หลังแรกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปยืน ปางจงกรมแก้ว สูง 9 เมตร ฐานกว้าง 2 เมตร เป็นพระพุทธรูปไม้แกะสลักจากต้นจำปีป่าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นไม้ใหญ่ที่ยืนต้นตายตามคำทำนาย และหลังที่ 2 ประดิษฐานพระนอน ปางปรินิพพาน และพระพุทธรูปไม้แกะสลักอีกหลายองค์ รวมถึงมีการบูรณะกุฏิ ศาลาต่าง ๆ และสร้างบันไดพญานาคที่อ่อนช้อยตามแบบศิลปะล้านนา นอกจากนี้ยังมีพระเจดีย์ที่บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกด้วย ถือว่าเป็นสถานที่ลับเหมาะสำหรับคนที่ต้องการแสวงหาความเงียบสงบและอากาศที่ปลอดโปร่งเย็นสบายเป็นอย่างยิ่ง

วัดหลวงขุนวิน

13. บ้านแม่กำปอง

           หมู่บ้านน้อย ๆ กลางขุนเขาและผืนป่า ที่มาเมื่อไรก็สวยชื่นใจเมื่อนั้น ด้วยทำเลที่ตั้งที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้ น้ำตก และลำธาร ทำให้บ้านแม่กำปองเต็มไปด้วยพิกัดสวยของธรรมชาติแบบเต็มที่ ยิ่งช่วงหน้าฝน สภาพอากาศก็ยิ่งเย็นฉ่ำสดชื่น เหมาะกับการมานอนค้างสักคืนสองคืนสูดอากาศดี ๆ ให้สะใจ แถมช่วงฤดูฝนยังไม่มีผู้คนมาเที่ยวกันหนาแน่นเหมือนในช่วงหน้าหนาวอีกด้วย เรียกว่าได้มาพักผ่อนแบบสงบและเป็นส่วนตัวมาก ๆ เลย
บ้านแม่กำปอง

14. ไร่ชาลุงเดช

           ไร่ชาลุงเดช บนดอยม่อนเงาะ เป็นทั้งคาเฟ่วิวหลักล้านและที่พักสุดสโลว์ไลฟ์ ในส่วนคาเฟ่ได้รับการดัดแปลงมาจากลานตากใบชาของไร่ที่หันหน้าออกสู่วิวภูเขา และด้านล่างเป็นวิวไร่ชากว้างสุดลูกหูลูกตา ถ้าได้มาพักที่นี่นอกจากจะได้สัมผัสกับอากาศเย็นสบายแล้ว ยังได้พบกับสายหมอกที่มาให้ชมแบบฟิน ๆ ถึงหน้าบ้านเลยทีเดียว สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ก็นำใบชาในไร่มาเป็นส่วนประกอบ ไม่ว่าจะเป็นยำปลากระป๋องใบชา ไข่เจียวยอดชา และมีของหวานอย่างเค้กและเครื่องดื่มอร่อย ๆ ให้ได้ชิมกันอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่อยากมาพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ ชมวิวภูเขาสวยที่สามารถนั่งมองเพลิน ๆ ได้ทั้งวัน หรือจะเดินไปถ่ายรูปเล่นชมวิวที่ไร่ชาขั้นบันไดก็ได้
ไร่ชาลุงเดช

15. ล่องแก่งแม่แตง

           กิจกรรมสนุก ๆ ที่ถูกใจสายแอดเวนเจอร์ทั้งหลาย กับกิจกรรมล่องแก่งที่ลำน้ำแม่แตงในช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลาก นักท่องเที่ยวจะผจญภัยไปกับสายน้ำที่ไหลเชี่ยวผ่านห้วยเกาะแก่งต่าง ๆ ระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร แต่ก็มีความปลอดภัยสูง เพราะมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำก่อนการล่องแก่งและคอยดูแลตลอดเส้นทาง ใครชอบความหวาดเสียวผจญภัยต้องลองไปล่องแก่งที่แม่แตง แล้วจะรู้ว่าเที่ยวเชียงใหม่ช่วงหน้าฝนไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
ล่องแก่งแม่แตง

ภาพจาก : PPstock / Shutterstock.com

16. น้ำพุร้อนฝาง

           น้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก ตำบลบ้านปิน อำเภอฝาง เป็นบ่อน้ำร้อนธรรมชาติเกิดจากความร้อนใต้ดิน มีไอร้อนคุกรุ่นอยู่ตลอดเวลา ในพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ มีบ่อน้ำพุร้อนมากกว่า 50 บ่อเลยทีเดียว ในแต่ละบ่อก็จะมีอุณหภูมิแตกต่างกันไป อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30-80 องศาเซลเซียส ซึ่งจุดไฮไลต์ของที่นี่คือน้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมา โดยจะพุ่งออกมา 30 นาทีต่อครั้ง และมีความสูงกว่า 30-50 เมตรเลยทีเดียว ทั้งนี้ ทางอุทยานได้จัดห้องอาบน้ำแร่และอบไอน้ำไว้ให้บริการ อีกทั้งยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติขึ้นเขาผ่านป่าเบญจพรรณมาถึงบ่อน้ำร้อน ระยะทางประมาณ 1.2 กิโลเมตรอีกด้วย
น้ำพุร้อนฝาง

17. ห้วยตึงเฒ่า

           ที่นี่จัดเป็นโครงการหมู่บ้านตัวอย่างตามพระราชดำริ และได้พัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่เขตทหาร โดยสร้างขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำที่ใช้ในศูนย์เกษตรกรรมทหารฯ และราษฎรบริเวณใกล้เคียง จุดเด่นของที่นี่คือทิวทัศน์อันงดงามของอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ และบริเวณอ่างเก็บน้ำยังมีหาดทรายคล้ายชายทะเลที่สามารถลงเล่นน้ำได้ ทั้งยังมีบริการห่วงยาง เรือพาย จักรยานน้ำ ให้เช่าในราคาย่อมเยา ส่วนใครที่ชอบตกปลาก็มีซุ้มแพสำหรับตกปลาบริเวณสันเขื่อน และยังมีกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ กิจกรรมกระโดดหอ เกมโซน เพนต์บอล รถ ATV เครื่องเล่นต่าง ๆ ภายในบริเวณอ่างเก็บน้ำอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ค่ายพักแรม พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ รวมทั้งร้านอาหารมากมาย และยังมีบริการนวดแผนไทยในซุ้มต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นมาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวด้วย
ห้วยตึงเฒ่า

18. สวนสนดอยบ่อหลวง

           ที่พักเชียงใหม่สุดฟินกลางป่าสนสวย ให้ฟีลเหมือนได้ไปเที่ยวเมืองนอก สำหรับ สวนสนดอยบ่อหลวง กับบ้านไม้หน้าตาน่ารักให้เข้าพักกันได้ แถมยังมีลานกางเต็นท์และที่พักสไตล์รถบ้านให้ใช้บริการกันด้วย ซึ่งช่วงหน้าฝนถือเป็นช่วงกรีนซีซั่นที่ธรรมชาติจะสวยที่สุดของปี ต้นไม้ใบหญ้าได้รับน้ำฝนชุ่มฉ่ำ อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 15-25 องศาเซลเซียส กำลังเย็นสบายเชียว ว่าแล้วก็เตรียมเก็บกระเป๋าไปนอนสูดกลิ่นหอมของใบสนกันแบบสบาย ๆ มองเห็นหมอกยามเช้าฟิน ๆ ได้จากหน้าบ้านกันเถอะ
สวนสนดอยบ่อหลวง

ภาพจาก : Mike Towers / Shutterstock.com

19. เขื่อนแม่กวงอุดมธารา

           เขื่อนแม่กวงอุดมธารา ตั้งอยู่ที่ตำบลลวงเหนือ อำเภอดอยสะเก็ด เป็นเขื่อนดินเก็บกักน้ำ ปิดกั้นลำน้ำแม่กวง ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำปิง มีต้นน้ำอยู่บริเวณเทือกเขาในเขตอำเภอดอยสะเก็ด โดยประกอบด้วย 3 ส่วน คือ เขื่อนหลัก เขื่อนฝั่งขวา และเขื่อนฝั่งซ้าย นับเป็นเขื่อนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเมืองเชียงใหม่ พื้นที่โดยรอบของเขื่อนรายล้อมไปด้วยขุนเขาและต้นไม้ สวยฉ่ำไปด้วยความเขียวขจีรอบด้าน และยังมีไฮไลต์เป็นสะพานแขวนเชื่อมใจ ซึ่งทอดตัวข้ามลำน้ำแม่กวง คอยทำหน้าที่เป็นประตูเชื่อมต่อฝั่งอำเภอดอยสะเก็ดกับหมู่บ้านป่าสักงาม ซึ่งตั้งอยู่หลังเขื่อนเข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้คนในหมู่บ้านเดินทางได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น
เขื่อนแม่กวงอุดมธารา

20. สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล หรือสวนทวีชล

           สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล เป็นวนพฤกษศาสตร์ที่มีพื้นที่ราว ๆ 300 ไร่ ตั้งอยู่ในอำเภอดอยสะเก็ด ภายในสวนถูกเนรมิตให้เป็นทั้งสวนดอกไม้ที่รับรองว่าถูกใจสายโซเชียลแน่นอน มีจุดให้ถ่ายรูปเช็กอินสวย ๆ และยังเป็นที่รวบรวมพรรณไม้นานาชนิดไว้ด้วยกันถึง 4 กระโจม ไม่ว่าจะเป็นกระโจมป่าดิบชื้น กระโจมกล้วยไม้ กระโจมเฟิร์น และกระโจมกระบองเพชร นอกจากจะมีธรรมชาติที่สดชื่นแล้ว ยังมีสวนสัตว์ขนาดเล็กที่มีสัตว์นานาชนิดให้ได้ชมและให้อาหารอีกด้วย ถือเป็นสวนที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นปอดของเชียงใหม่ หากอยากพักผ่อนเป็นแบบครอบครัวแนะนำให้ไปที่นี่ได้เลย
สวนพฤกษศาสตร์ทวีชล หรือ สวนทวีชล

          ช่วงหน้าฝนของเมืองเชียงใหม่อาจจะไม่ใช่ช่วงไฮซีซั่นเหมือนหน้าหนาว แต่จริง ๆ แล้วช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ธรรมชาติสวยงามที่สุดในรอบปี ช่วงเช้า ๆ หลายแห่งจะมีทะเลหมอกแบบจัดเต็ม แถมอากาศยังเย็นสบาย แดดไม่ร้อนมาก ที่สำคัญคือไม่ต้องเบียดเสียดแออัดกับนักท่องเที่ยวมากมายเหมือนในช่วงหน้าหนาว วันหยุดนี้ลองวางแผนไปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงหน้าฝนกันเถอะ
 

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ เที่ยวเชียงใหม่ เที่ยวหน้าฝน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ที่เที่ยวเชียงใหม่หน้าฝน ปี 2024 จัดเต็มพิกัดเที่ยวฟินชุ่มฉ่ำรับสายฝนและไอหมอก อัปเดตล่าสุด 14 พฤษภาคม 2567 เวลา 15:06:53 63,291 อ่าน
TOP
x close