ที่เที่ยวหน้าฝนบรรยากาศดี หลากหลายสไตล์การท่องเที่ยว ที่จะทำให้การเที่ยวช่วงหน้าฝนปีนี้ของทุกคนไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป
เมื่อเข้าสู่หน้าฝนหลายคนเริ่มเซ็ง เพราะจะออกไปเที่ยวแต่ละทีก็กลัวว่าจะเปียก แถมอากาศก็ยังชื้นเฉอะแฉะ ไม่ชวนให้น่าเที่ยวเอาเสียเลย หลายคนจึงตัดสินใจนอนคลุมโปงอยู่บ้าน แต่รู้หรือเปล่าว่า ในเมืองไทยยังมีที่เที่ยวหน้าฝนสวย ๆ ซ่อนอยู่อีกเพียบ ที่สำคัญบรรยากาศดี แถมวิวสวย ไม่แพ้ฤดูอื่นเลยทีเดียว วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำที่เที่ยวหน้าฝนบรรยากาศดี เผื่อใครอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศ จะได้ไม่ต้องนอนเหงาดูฝนตกอยู่ที่บ้าน มีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้น ตามเรามาดูกันเลย
2. มนตร์เสน่ห์ทุ่งดอกกระเจียวบาน จังหวัดชัยภูมิ
3. ทักทายสายหมอกที่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
ตั้งอยู่ที่ตำบลสันทะ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน พลาดไม่ได้กับการชมทะเลหมอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งฤดูฝนแบบนี้ ว่ากันว่าจะพบทะเลหมอกได้มากกว่าฤดูอื่น แถมอากาศยังหนาวเย็นตลอดทั้งปี มองออกไปเบื้องหน้าจะเห็นวิวธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่อลังการ ตกกลางคืนก็สามารถมองเห็นดาวเกลื่อนเต็มท้องฟ้า รับรองว่าหาดูไม่ได้จากในเมืองหลวง อุทยานแห่งชาติขุนสถานจึงเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยขุนเขาและไอหมอกที่สวยงาม กลายเป็นภาพความประทับใจที่คุณเองไม่มีวันลืม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน โทร. 054 70 1121
4. เก็บผักสด ๆ ที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ
ภาพจาก thairoyalprojecttour.com
กิจกรรมท่องเที่ยวที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ คือการเยี่ยมชมแปลงสาธิตผัก ชมการปลูกผักในโรงเรือนไม้ไผ่ รวมถึงการเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวม้งและกะเหรี่ยง นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจมากมาย ตรงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่โถ นักท่องเที่ยวสามารถชมทัศนียภาพความสวยงามของเทือกเขาและผืนป่ากว้าง ยิ่งเข้าช่วงหน้าฝนแบบนี้ รับรองว่าคุณจะได้ซึมซับกับธรรมชาติสีเขียวขจี ที่ไม่ว่ามองไปทางไหนก็แลดูเพลินตาและเพลินใจเป็นที่สุด (อบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่โถ โทร. 088 434 4902
5. เดินป่า ปีนเขา พิชิตยอดภูสอยดาว
การเดินป่าช่วงหน้าฝนที่ภูสอยดาว เป็นกิจกรรมท่องเที่ยวที่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด แต่ความท้าทายกลับอยู่ตรงที่ความสูงชันที่ทุกคนต้องพิชิตเพื่อขึ้นไปยังลานสนสามใบ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าธรรมชาติกว้าง 1,000 กว่าไร่ และอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลกว่า 1,500 เมตร โดยในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี จะมีดอกไม้ดินชูช่อแย่งกันออกดอกรวมตัวเป็นกลุ่ม เช่น ดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณา ดอกหญ้ารากหอม เป็นต้น ซึ่งการเดินทางไปยังลานสนสามใบภูสอยดาว ต้องใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 4-6 ชั่วโมง ผ่านความชันและเนินดินต่าง ๆ เพื่อไต่ขึ้นไปยังยอดภูสอยดาว แต่ถ้าใครได้ลองขึ้นไปแล้วจะรู้เลยว่าสวยคุ้มค่าคุ้มเวลาแน่นอน
6. นั่งมองนาขั้นบันได ณ ป่าบงเปียง
ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ความสวยงามของป่าบงเปียงอยู่ที่หมู่บ้านที่รายล้อมด้วยนาขั้นบันได ว่ากันว่าช่วงที่นาข้าวสวยงามมากที่สุดอยู่ในช่วงเดือนกันยายนเป็นต้นไป ส่วนใหญ่แล้วนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่ป่าบงเปียงมักจะมาเก็บภาพบรรยากาศความอบอุ่นของแสงอาทิตย์ยามเช้า หรือไม่ก็ช่วงที่อาทิตย์กำลังตกดินในช่วงเย็น ๆ นับเป็นช่วงเวลานาทีทอง ที่เราจะได้เห็นแสงอาทิตย์สวย ๆ ลอดผ่านก้อนเมฆ และกระทบกับหุบเขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน เป็นภาพความงามของธรรมชาติที่สามารถนั่งมองได้ตลอดทั้งวัน
7. เชียงดาวหน้าฝนก็ฟินเว่อร์
เชียงดาว เป็นหนึ่งในอำเภอทางภาคเหนือของเชียงใหม่ อุดมไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวโดนใจมากมาย ทั้ง "ดอยหลวงเชียงดาว" ซึ่งเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า หรือจะเป็น "ถ้ำเชียงดาว" ถ้ำอุโมงค์ลึกยาวที่ดูน่าค้นหา หรือจะเป็น "ศูนย์ฝึกช้างเชียงดาว" ปางช้างน่ารัก ที่มีการนำช้างมาบริการนักท่องเที่ยวในการเดินชมป่า แวดล้อมไปด้วยทั้งป่าไม้ ขุนเขา และลำธาร ถือได้ว่าเป็นปางช้างที่บรรยากาศสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของภาคเหนือ นอกเหนือจากนี้เชียงดาวยังมีที่เที่ยวอีกมากมาย ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น
8. สัมผัสวิถีชาวมอญ ณ สังขละบุรี
อำเภอติดต่อกับชายแดนพม่า รายล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขาที่เขียวขจี มีบรรยากาศที่สวยงามและประเพณีวัฒนธรรมที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะฝั่งมอญ พลาดไม่ได้กับการเดินเที่ยวชมสะพานมอญ เฝ้าดูวิถีชีวิตชาวมอญ ใส่บาตรพระ รวมถึงการเลือกเดินเลือกซื้ออาหารบริเวณหมู่บ้านมอญ หรือจะเดินเลยไปชมบ้านเรือนในแบบชาวมอญ ซื้อของที่ระลึก หรือจะแวะชิมขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย ที่เป็นอาหารพื้นบ้านชาวมอญก็ได้ตามอัธยาศัย
9. ท่องอำเภอกัลยาณิวัฒนา
หนึ่งในอำเภอน่าเที่ยวของอำเภอเชียงใหม่ ด้วยเพราะตั้งอยู่บนเทือกเขาสูง รายล้อมด้วยป่าสน ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่เงียบสงบ อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงเป็นที่เที่ยวในฝันของใครหลายคน ยิ่งถ้ามาในช่วงหน้าฝน นักท่องเที่ยวจะได้เห็นบรรยากาศความเขียวขจีของป่าสน ว่ากันว่าเป็นป่าสนผืนที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าใครมาในช่วงหน้าหนาว ป่าสนที่นี่จะทำการผลัดใบแลดูสวยงามมาก ๆ และพลาดไม่ได้กับการเยี่ยมชมโครงการหลวงบ้านวัดจันทร์ สถานที่เที่ยวดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างหลั่งไหลเข้ามาสัมผัสความโรแมนติกกัน อย่างไม่ขาดสาย
10. ล่องแก่งลำน้ำเข็กสุดมันส์
ล่องแก่งน้ำเข็ก จังหวัดพิษณุโลก ถือเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวสุดมันส์ช่วงหน้าฝน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักความตื่นเต้นและผจญภัย ซึ่งช่วงเวลาที่เหมาะกับการล่องแก่งมากที่สุดคือมิถุนายน-ตุลาคม จากเดิมลำน้ำใส เมื่อเข้าช่วงหน้าฝนจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มและไหลเชี่ยว ถึงแม้ว่านักท่องเที่ยวบางคนจะไม่กล้าเสี่ยงที่จะเล่นน้ำ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าช่วงหน้าฝนแบบนี้นี่แหละ เป็นช่วงที่เหมาะแก่การล่องแก่งที่สนุกและเร้าใจมากที่สุด และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวควรจะต้องเชื่อฟังคำสั่งนายท้ายเรือ รวมถึงสวมใส่อุปกรณ์ชูชีพอย่างเคร่งครัด
11. ก้ม ๆ เงย ๆ เก็บกะหล่ำปลีหัวโต ณ ภูทับเบิก
หากใครมีโอกาสไปเที่ยวภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ หนึ่งในกิจกรรมท่องเที่ยวที่คุณไม่ควรพลาดเลย คือการแวะชมไร่กะหล่ำปลีขนาดใหญ่ ซึ่งเหมือนเป็นสัญลักษณ์ของสถานที่นี้ นักท่องเที่ยวจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์สีเขียวของแปลงกะหล่ำปลีสุดลูกหูลูกตา หรือจะเป็นบรรยากาศช่วงตอนเช้า ที่คุณจะพบเห็นกลุ่มก้อนเมฆและทะเลหมอกที่ตัดพาดผ่านยอดเขาเพชรบูรณ์ เป็นภาพความสวยงามที่งดงามจับใจ อีกทั้งบรรยากาศยังเย็นสบายตลอดทั้งปี ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งหนึ่งของเมืองไทย
12. ดูผีเสื้อบินละลิ่วที่อุทยานแห่งชาติปางสีดา
พลาดไม่ได้กับไฮไลท์เด็ดช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา ซึ่งเป็นช่วงฤดูกาลที่เหล่าผีเสื้อจะออกมาโบยบินประชันความสวยงาม จนทำให้นักท่องเที่ยวต้องตกตะลึงกับสีสันลวดลายของผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ โดยช่วงเวลาที่เหมาะสำหรับการดูผีเสื้อ คือช่วงเวลา 09.00-15.00 น. เป็นช่วงที่ฝูงผีเสื้อจะบนกระจุกตามดินโป่งเป็นจำนวนมาก จนถึงขั้นได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองผีเสื้อแห่งผืนป่าตะวันออก" โดยใน "เทศกาลผีเสื้อปางสีดา ครั้งที่ 12" จะกำหนดจัดในวันที่ 10 กรกฎาคม 2559 ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา นอกจากการเดินชมผีเสื้อสวย ๆ แล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอีกเพียบ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สมาคมรักษ์ปางสีดา โทร. 085 275 5522
ขอบอกเลยว่าหน้าฝนใช่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่เราต้องนั่งจับเจ่าอยู่แต่กับบ้านอย่างเดียว เอาจริง ๆ แล้วยังมีที่เที่ยวหน้าฝนที่น่าสนใจอยู่มากมาย แถมบรรยากาศดีและวิวสวย ไม่แพ้ฤดูอื่น ๆ เลยทีเดียว มาถึงขนาดนี้แล้ว จะรอช้านอนเหงาอยู่กับบ้านเฉย ๆ ได้ยังไง รีบไปเก็บกระเป๋าแล้วออกไปเที่ยวด้วยกันเถอะนะคะ ^ ^
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, , , , , , , chpao.org, thairoyalprojecttour.com, เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพิษณุโลก, rakpangsida.net, เฟซบุ๊ก สมาคมรักษ์ปางสีดา