เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ hollaneung สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ภาพวิวทิวทัศน์ของนาขั้นบันไดตามไหล่เขาสีเขียวชอุ่ม ที่ค่อย ๆ ลดหลั่นกันลงมาเรื่อย ๆ อีกทั้งยังกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ยังคงเป็นสิ่งดึงดูดใจให้นักเดินทางต่างอยากไปเห็นด้วยตัวเองสักครั้ง เพราะไม่ว่าจะมองเมื่อไหร่ก็ทำให้ชื่นใจแทบทุกครั้ง อีกทั้งตามจังหวัดต่าง ๆ ในแถบภาคเหนือก็ยังมีนาขั้นบันไดให้คุณได้ไปสัมผัส และสูดกลิ่นอายของความงดงามอีกมากมาย อาจเพราะนอกจากการทำนาแบบขั้นบันไดจะสวยงามแล้ว ยังเป็นเสมือนภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวบ้าน ที่ควรอนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่สืบไปอีกด้วย
เพราะฉะนั้น วันนี้กระปุกท่องเที่ยวเลยจะพาเพื่อน ๆ ไปชมอีกหนึ่งความสวยงามของนาขั้นบันได นั่นคือ นาขั้นบันไดบ้านป่าบงเปียง และ นาขั้นบันไดบ้านแม่กลางหลวง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ จากบันทึกการเดินทางและมุมกล้องสวย ๆ ของ คุณ hollaneung สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม กันค่ะ
+++++++++++++++++
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาวโลกสีฟ้าทุกคนค่ะ แอบส่งงานอีกหนึ่งสถานที่ที่อยากนำเสนอ ด้วยความเป็นธรรมชาติมาก ๆ และที่สำคัญอากาศดีมาก ๆ เลยค่ะ เด็กบางกอกแบบหนึ่งถึงกับเพ้ออยากกลับไปอีก เหอ ๆ เป็นเอามาก...สำหรับหลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกับกับนาขั้นบันไดที่แม่แจ่มเป็นอย่างดี แต่สำหรับหนึ่ง บ้านป่าบงเปียง เป็นชื่อที่สะดุดหูตั้งแต่เห็นเพื่อนนักเดินทางท่านหนึ่ง โพสต์ชวนไปกันเป็นทริปหารเฉลี่ย เพื่อนร่วมทริปคราวนี้ บอกตรง ๆ นะคะ ไม่รู้จักใครแม้แต่คนเดียวมาก่อน คิดในใจเอาว่า...ลองเปิดหูเปิดตาเจอเพื่อนที่รักการถ่ายภาพเหมือนกันดูบ้างจะเป็นไรไป
ทริปนี้เดินทางไปช่วงวันที่ 21 - 23 กันยายน พ.ศ. 2555 ก่อนออกจากงานประจำแค่ 2 วันเองค่ะ เราออกเดินทางกันทั้งหมด 11 ชีวิต ด้วยรถตู้ โดยมีหัวหน้าทริปเป็นผู้ชำนาญการนำทัวร์เดินป่า อย่าง นายเตร็ดเตร่ สะพายเป้เท่ห์ทั่วไทย เป็นครั้งแรกที่เจอ นายโดม (ลายจุด) และก็รู้แล้วว่าทำไมนายโดมมักมีเพื่อนไปร่วมทริปเยอะมาก ๆ นายสุดยอดมากอ่ะ ^^
เอาล่ะค่ะ ทริปนี้คงไม่ต้องบอกเส้นทางกันมาก เพราะเราต้องไปตั้งหลักกันที่ดอยอินทนนท์นะคะ
พร้อมยังคะเพื่อน ๆ เตรียมสะพายเป้ แบกกล้อง ตามมาเลยค่ะ หัวใจมันอยากกลับไปดอยอินทนนท์อีกรอบจะแย่แล้ว
เลิกงานปุ๊บกระโดดขึ้นรถเมล์ แบกเป้ไปเลย อิอิ แล้วก็ไปถึงเชียงใหม่กันในช่วงเช้ามืดประมาณ ตี 5 ได้ค่ะ พี่เต้ เลยพาขึ้นไปถ่ายรูปกัน ที่ กม. 41 ดอยอินทนนท์กัน
พอไปถึงเราก็ขึ้นไปถ่ายรูปกันที่ กม. 41 กันค่ะ ตอนนี้มีงานก่อสร้างนิดหน่อย แต่ก็สามารถเดินขึ้นไปจุดชมวิวได้นะคะ
มีดอกไม้สวย ๆ เยอะเลยค่ะ แต่ไม่รู้ชื่อนะคะ ใครรู้วอนช่วยบอกที
มาละพลาดไม่ได้ต้องดอกหญ้ากับฟ้าใส ๆ
หลังจากที่เราถ่ายรูปหมอกกันสมใจแล้ว คณะเราก็กลับไปตั้งหลักที่ บ้านแม่กลางหลวง ค่ะ คืนนี้เราจะพักกันที่นี่
เป็นการนอนแบบโฮมสเตย์ครั้งแรกในชีวิต สบายมาก อากาศดี เงียบสงบ หลังบ้านเป็นลำธาร ในห้องมีแต่เตียงไม้ธรรมดา กับตู้ไม้วางของ ไม่มีทีวี ที่สำคัญหนึ่งไม่สามารถติดต่อโลกภายนอกได้เลยค่ะ เพราะสัญญาณโทรศัพท์มันไม่มี อิอิ เหมาะกับการหนีงานไปพักมาก ๆ เลย
ลำธารหลังบ้านพัก น่ากระโดดมาก ๆ เลยค่ะ
เตียงนอนเล่นหลังห้อง...มองไปเห็นลำธาร เห็นนาขั้นบันไดไกล ๆ ลมเย็นพัดโชยมา อืม...เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมแล้วค่ะ
หลังจากเดินเล่น พักผ่อนกันนิดหน่อยแล้ว ช่วงบ่ายเราก็ได้เวลาไปหานางเอกของทริปนี้กันแล้วค่ะ กว่าที่เราจะได้พบกับเธอไม่ใช่เรื่องง่ายนะคะ...เกิดอะไรขึ้นบ้างตามมาค่ะ
เนื่องจากทางไป บ้านป่าบงเปียง เป็นทางโคลนและลื่นมากค่ะ เราจำเป็นต้องเปลี่ยนรถและใช้รถกระบะของคนในพื้นที่พาเราไป พลขับ ชื่อ พี่สีทอง ขับรถเก่งมากเลยค่ะ พวกเราทั้ง 11 คน หนุ่ม ๆ นั่งกระบะหลัง สาวสวยตัวบาง ๆ แบบหนึ่งได้นั่งหน้า อิอิ แต่ไม่สบายเลยค่ะ ก้นลอยตลอด กรี๊ด ๆ ตลอดเลย เพราะลุ้นทุกโค้ง ทุกหลุม เพื่อน ๆ กระบะหลังบอกว่าก้นลอยไม่รู้กี่รอบ เกาะกันแน่นทีเดียว เหมือนไปเล่นสวนสนุกยังไงไม่รู้ ไม่เวียนหัวนะคะ แค่ลุ้นว่ารถจะติดหล่มหรือเปล่า
ปล. พี่สีทอง ขับรถชำนาญมาก เก่งมาก ขับมือเดียวแล้วเปลี่ยนแผ่นซีดีไปด้วย พวกหนึ่งกรี๊ด ๆ กันในใจ กลัวรถเสียหลัก อิอิ แต่พี่เขามีความสุขในการขับรถและชิลมาก จนเราวางใจกันทั้งคันรถเลยค่ะ
ไปเดินชมกันค่ะว่าปลายทางหลังจากที่เราผจญภัยกันมา คุ้มค่ากับการก้นลอยไหม
ระหว่างที่เราเดินไปเดินเล่น แดดดีมากเลยค่ะ ร้อนตับแตกกันเลยทีเดียว
คุณป้าในภาพใจดี ๆ มาก ๆ ค่ะ แต่ดูจะตื่นเต้นกับกล้องมากเลย ระหว่างที่เรานั่งเล่นรอพระอาทิตย์ตกดินในกระท่อมของคุณป้า ไม่มีใครมีน้ำสักคน แกยกแตงกวายักษ์ให้ไว้กินแก้กระหายลูกเบ้อเริ่มเลยค่ะ ใจดีมาก ๆ ขอบพระคุณคุณป้ามา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
เห็นแดดแบบนี้ แต่ฟ้าไม่เป็นใจนะคะ อีกไม่นานจากนั้นเราก็เจอเมฆดำ (สงสัยลูกชายงอนไม่พามา เลยส่งเพื่อนมาทักทาย) แล้วพระพิรุณก็โปรยปรายลงมาจนชุ่มฉ่ำ...
หลังฝนกระหน่ำจนหนำใจ...ก็พอได้เห็นแสงรำไร ก่อนพระอาทิตย์ลาขอบฟ้าค่ะ
หลังจากฝนกระหน่ำลงมาอย่างหนัก คงไม่ต้องบอกนะคะว่าทางจะเละสักแค่ไหน หวั่น ๆ ว่ารถจะติดหล่ม แต่พี่สีทองก็ไม่ทำให้เราเกิดปัญหา ขับสบายบรื้อ แถมเปลี่ยนซีดี เปลี่ยนเพลง เปิดเสียงดัง ข่มความกลัวของพวกเราจนหมด ฮ่า ๆๆ คืนนั้นเลยหลับเป็นตายเพราะฤทธิ์ยา จากแดดจ้า ฟ้าฝนที่กระหน่ำลงมา แต่หนึ่งก็ได้ตื่นมาเห็นหลังคาดวงดาวหน้าบ้านแบบนี้ค่ะ สวยมากเลย ภาพที่ถ่ายไม่ได้เสี้ยวของความสวยเลยนะคะ
เช้าวันรุ่งขึ้นเราก็ไปเดินเล่น รอบ ๆ บ้านแม่กลางหลวงกันค่ะ
ไปเดินเล่นรอบ ๆ บ้านพักกันนะคะ บ้านที่เมื่อคืนนอนสบายมาก ๆ
แสงสีทองต้อนรับนาขั้นบันได ที่บ้านแม่กลางหลวงสวยมาก ๆ เลยค่ะ
โชคดีมาก ๆ วันนี้มีงานบุญใหญ่ของบ้านแม่กลางหลวง คือ งานอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ไปประดิษฐานที่สถานปฏิบัติธรรมที่บ้านแม่กลางหลวง เราเลยได้เห็นคนที่นี่ใส่ชุดประจำเผ่าของเขามาร่วมงานบุญกันค่ะ
ขบวนนำและมีธงพุทธชยันตี ที่ได้หลวงพ่อจากวัดพระราม 9 มาช่วยดูแลให้ค่ะ
ไปดูบรรยากาศงานบุญที่นาน ๆ พวกเราจะได้เห็นกันนะคะ เห็นแล้วปลื้มใจที่ชาวบ้านที่นี่ ศรัทธาและรวมใจ รวมกายมาช่วยกัน
บรรยากาศในงานบุญครื้นเครงมากค่ะ ของกินเยอะมากแล้วก็อร่อยด้วย หนึ่งได้ชิมขนมจีนน้ำเงี้ยวชามหนึ่ง เขาทำหม้อใหญ่หลายหม้อเลย ไว้เลี้ยงคนที่มาร่วมงานบุญกัน รสชาติอร่อยมาก ๆ เลยค่ะ คนเยอะล้นหลาม แถมอิ่มใจได้ร่วมทำบุญไปด้วย
หลังจากอิ่มท้อง อิ่มใจแล้ว ก็ถึงเวลาไปลุย น้ำตกผาดอกเสี้ยว แล้วค่ะ ระหว่างทางไปจะเจอกับศาลากาแฟ มีกาแฟของบ้านแม่กลางหลวงให้ชิมฟรี มีพี่ ๆ บอกว่าอร่อย แต่หนึ่งไม่ได้ชิมนะคะ เพราะไม่ดื่มกาแฟค่ะ
ทางเดินไปน้ำตกผาดอกเสี้ยว ก็ต้องเดินผ่านบ้านของชาวบ้านขึ้นไป มีทางบอกค่ะ แต่ถ้าไม่มั่นใจถามชาวบ้านแถวนั้นได้ทุกคนค่ะ ใจดีกันมาก ๆ เลยนะคะ บรรยากาศทางเดินไปน้ำตกก็เป็นนาขั้นบันได สลับกับแปลงดอกไม้
นาขั้นบันไดระหว่างเดินไปน้ำตก
ถึงแล้วค่ะ "น้ำตกผาดอกเสี้ยว" น้ำแรงมากเลย
ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง น่าจะได้นะคะ
ด้านบนน้ำตก น้ำไหลแรงน่ากลัวมากเลยคะ
ระหว่างทางก็เจอฝนอีกวันนึง คิดในใจ...ไข้คงหายละ เริ่มชิน
หลังจากกลับจากน้ำตกแล้วก็เดินเล่นถ่ายรูปกันอีกนิดหน่อย แต่หนึ่งไม่ไหวแล้วหมดสภาพ เราก็เดินทางกลับกันแล้วค่ะ อาหารอร่อยมาก ๆ เลยค่ะทริปนี้ ไม่ได้กินร้านหรูหรา แต่กินแล้วอิ่มท้อง อิ่มใจมากเลยนะคะ ต้องขอบคุณพี่ ๆ เพื่อน ๆ น้อง ๆ หลาย ๆ คนสำหรับการร่วมทริปกันนะคะ เป็นการเดินทางที่สนุกมาก ๆ เลย