ช่วงที่เม็ดฝนยังไม่โบกมือลาท้องฟ้าอย่างเด็ดขาดเสียทีเดียว จะไปที่ไหนก็เฉอะแฉะ เดินทางลำบาก เลยทำให้ใครหลายคนกลั้นใจรอให้ฤดูฝนผ่านพ้นไปก่อน แล้วค่อยวางแผนเที่ยวอีกทีตอนใกล้หน้าหนาว แต่ใครจะรู้ว่าช่วงนี้นี่แหละที่ธรรมชาติกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง หลังจากได้รับความชุ่มฉ่ำของละอองสายฝน อากาศดีกำลังนอนหลับสบาย และตื่นมาพร้อมอากาศที่บริสุทธิ์ เหมือนกับที่ คุณมิงกะลาบาร์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ได้จัดทริปลุยเดี่ยวท้าสายฝน ณ เชียงดาว-แม่แตง-แม่กำปอง ที่ทำให้เห็นว่าเที่ยวหน้าฝนก็สนุกได้ จะเป็นยังไงบ้างลองตามไปเที่ยวกันดูค่ะ
เคยเป็นกันไหมคะ คืออยากไปเที่ยวที่ไหนสักที่ อยากพักร่าง อยากสูดอากาศดี ๆ อยากนั่งนิ่ง ๆ ไม่คิดอะไร ปล่อยใจเรื่อยเปื่อย แบบทั้งกายและใจไม่ไหวแล้ว คือแบบอยากไปมาก ก.ไก่ 10 ตัว ที่สำคัญบางทีแพลนไว้แล้วแบบสุดท้ายก็ยังหาเพื่อนไปด้วยไม่ได้สักคน มันรันทดนะคะคุณขา
ครั้งนี้ก็เหมือนกัน คือบังเอิญเจ้าของกระทู้ไปซื้อแพ็กเกจที่พักที่หนึ่งแถว ๆ อำเภอแม่แตงไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว เอาล่ะสิทำไงดีมันจะหมดเขตแล้วนี่นา ไม่ได้ ๆ ฉันต้องไป ชวนคนนั้นคนนี้หลอกล่อสารพัดสุดท้ายก็บัวแล้งน้ำ แล้วจะทำอย่างไรก็ฉันอยากเที่ยวนี่...เอาวะไหน ๆ ก็เคยตะลอน ๆ คนเดียวมาบ้างอะไรบ้าง แค่ครั้งนี้มันจะนานขึ้นก็แค่นั้น...ว่าแล้วก็จัดการร่างแพลนไว้คร่าว ๆ ว่าอยากไปไหนบ้าง ท้ายสุดลิสต์ออกมาเป็นแบบนี้ เชียงดาว+แม่แตง+จบด้วยแม่กำปอง จากนั้นก็หาข้อมูล+ลางาน...จองตั๋วรถ ตั๋วเครื่องบิน จองที่พัก บลา ๆๆๆ
เช้าวันแรกถึงอาเขตปุ๊บเรียกมอเตอร์ไซค์แว้นไปขนส่งช้างเผือกต่อด้วยรถตู้ของนิววิริยะยานยนต์ที่วิ่งเชียงใหม่-ท่าตอน วิ่งจากเชียงใหม่-แม่ริม-แม่แตง-เชียงดาว-ฝาง-ท่าตอน ออกทุก ๆ ชั่วโมง พอดีเราไปทันรอบ 07.00 น. รถออกพอดี (ค่ารถ 150 บาท) จริง ๆ อยากนั่งสองแถวหรือรถบัสสีส้มไปนะ แต่เราไม่อยากเสี่ยงตกรถอะ...และในที่สุดหลังจากนั่งเพลิน ๆ มาสักชั่วโมงก็มาถึงแล้วเชียงดาว อยากจะถามว่า "ไม่เจอกันนานคิดถึงกันไหม" ก็กลัวจะมีคนว่าบ้า......
นี่เป็นจุดที่เราลงรถห่างจากเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส และ 7-11 มานิดหนึ่ง
ลงรถเสร็จหันซ้ายหันขวาอย่างเคว้งคว้าง เห็นฝั่งตรงข้ามมีร้านขายข้าว...เอาน่าเติมพลังก่อน
นั่งกินจนจะหมดจานนึกขึ้นได้เลยถามป้าร้านข้าวว่า "ท่ารถเมืองคองอยู่ตรงไหนเจ้าป้า" ป้ายิ้ม ๆ แล้วชี้บอก "ซอยข้าง ๆ ร้านนี่แหละ ลองไปถามคนขับก่อนเน้อว่าออกกี่โมง" เอ้า...เอาละสิจะตกรถไหมเนี่ย คว้าเป้ได้ก็วิ่งเลยค่ะท่านผู้ชม ซอยนี้นะคะ บ้านเหลือง ๆ นี่ก็ร้านข้าวขาหมูที่นั่งกินเมื่อกี้
ปากซอยจะมีร้านขายของพวกขนมปี๊บประมาณนี้ ซึ่งซอยนี้เค้าเรียกซอยวัดอินฯ
ซึ่งจะเห็นรถกระบะคล้าย ๆ สองแถวจอดอยู่...นั่นล่ะใช่เลย ถามลุงคนขับบอกรถออก 09.00 น. เฮ้อโล่ง.....รอดแล้วเรา
ซึ่งระหว่างทางที่นั่งรถไปเนี่ย อากาศดีมาก ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตลอดทาง คิดในใจจะรอดไหมฟระ.. ซึ่งหลังจากผ่านด่านตรวจอุทยานฯ เชียงดาว-บ้านนาเลา แล้วทางจะเป็นทางขึ้นเขาตลอด คนไม่ชินทางจะขับลำบากนิดหนึ่ง แต่สำหรับกระบะของลุงแล้วสบาย.....เอาล่ะถึงบ้านนาเลาใหม่ ลุงบอกเดี๋ยวลุงขับไปส่งตรงบ้านระเบียงดาวอย่าเพิ่งลง ไอ้เราก็นึกว่าไกล จริง ๆ ห่างจากถนนหลักประมาณ 200 เมตรเอง แต่ลุงแกคงเอ็นดูเห็นมาคนเดียว ^_^ ส่งถึงที่เลย (ค่ารถ 50 บาท)
ด้วยความที่เราไปถึงตอน 10 โมงนิด ๆ ไปต้องรอเคลียร์บ้านพักนิดหนึ่ง เพราะเมื่อคืนแขกพักเต็มทุกหลัง ดีนะที่โทรมาจองก่อน นั่งรอสักพักคุณอั้นก็เดินพาไปบ้านพัก A6 เค้าเรียกว่าบ้านบัวคำ ถึงปุ๊บไม่สนใจอะไรใด ๆ ทั้งสิ้น จัดการปูเสื่อนอนสูดอากาศเข้าปอดก่อนเลย
นอนเกลือกกลิ้งไปจนบ่าย ๆ ท้องร้องถึงได้ลุกไปสั่งข้าวกลางวัน ข้าวกะเพราหมูไข่เจียว อะไรก็ได้ง่าย ๆ คือ ณ ตอนนั้นกินอะไรก็อร่อย กลางวันเลยจัดเมนูนี้ 2 วันติด อูมามิ......
ส่วนมื้อเย็นเค้ารวมไว้ในค่าที่พักแล้ว ดูจากรูปคือแน่ใจนะว่าสำหรับกินคนเดียว คือมาเต็มมาก อลังการงานสร้าง ข้าวมาเป็นหม้อ O_O มา ๆ มากินข้าวแลงโตยกั๋นเน้อเจ้า
กินข้าวไปนั่งดูวิวงาม ๆ ยามเย็นไป อื้อหือ ! ฟินไปอีก หมอกลอยจาง ๆ อยู่ด้านล่างหลังฝนตก คือจะบอกว่าอยู่ที่นี่เดี๋ยวฝนตก สักพักแดดออก อีกแป๊บตกใหม่ เอาแดดมา นั่งฟังเสียงฝน มองดูฟ้ากับป่าเขียว ๆ เพลินไปเลย
เช้าวันที่สองตื่นมาตั้งแต่ตี 5 คือตื่นเสียงไก่ขัน ปกติได้ยินแต่เสียงนาฬิกาปลุกถึงกับนอนไม่หลับเลยทีเดียว เช้านี้มีหมอกมาทักทาย
เห็นแบบนี้แล้วเสียใจอะ ไม่ได้พกกล้องมา กล้องมือถือล้วน ๆ T_T
แถมเช้านี้มีข้าวต้มร้อน ๆ มาเสิร์ฟถึงหน้าบ้านเลย เมนูข้าวต้มยกหม้อ มากันเป็นหม้อเลย
กินอิ่มก็เดินย่อย ดูนั่นนี่ไปเรื่อย
บ้านพักเราเอง
บ้านหลังหนึ่งน่าจะนอนได้ 4 คน เพราะที่นอนกว้างมาก
มาดูห้องน้ำบ้าง จะเห็นว่าตากผ้าเต็มไปหมด ฮี่ ๆ
เบื่อ ๆ ก็นอนเล่นอ่านหนังสือ หิวก็กิน ง่วงก็นอน แถมวันนี้มีเรื่องให้ตื่นเต้นนิดหน่อย จนต้องย้ายบ้านไปนอนอีกหลัง ไม่เป็นไรเราไม่ซี (เรียส)
มานั่งรอโบกรถที่มาจากเมืองคองไปเชียงดาว
นั่งรอเกือบชั่วโมงมีรถพี่สาวใจดีจอดรับ แถมพาไปส่งจนถึงท่ารถเชียงดาว เชียงใหม่-ฝาง
จากเชียงดาวนั่งรถบัสส้มที่มาจากฝางไปลงกาดแม่มาลัย อ.แม่แตง (ค่ารถ 19 บาท) แล้วรอรถของรีสอร์ทมารับ (รีสอร์ทนี้ล่ะที่เราซื้อแพ็กเกจไว้) อันนี้ป้ายก่อนถึงรีสอร์ท
มาถึงแล้วเดินเล่นรอบ ๆ มีต่างชาติมาล่องแก่งกัน
ถึงแล้วที่ซุกหัวนอนอีก 2 คืน
เรานอน ๆ เดิน ๆ เล่น ๆ กิน ๆ ที่นี่อยู่ 2 วัน จนเจ้าหน้าที่รีสอร์ทถามว่าไม่ออกไปไหนไม่เบื่อเหรอคะ คือก็แบบคนอยากอยู่นิ่ง ๆ เฉย ๆ อะ ขี้เกียจขยับตัวมากบอกเลย.....แต่ก็ออกไปเดินเล่นอยู่นะ
ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามต้องเดินข้ามสะพานไป...
ลองถ่ายย้อนหลับไป มืดซะงั้น -*- ถ้ามาหน้าหนาวน้ำคงใสน่าดู
เอาเป็นว่าวันที่ 3-4 เนี่ยนั่ง ๆ นอน ๆ แอบส่องคนเค้ามาขี่ช้างบ้าง ล่องแพบ้าง อ่านหนังสือบ้าง แต่ก็ไม่เบื่อเลยชอบมาก zzZzZZ
วันที่ห้ารถของรีสอร์ทไปส่งที่กาดแม่มาลัย จากกาดแม่มาลัยเรานั่งรถสองแถวสีขาว แม่แตง-เชียงใหม่ ไปลงปากหลวง ค่ารถ 25 บาท (รถจะจอดอยู่ฝรั่งตรงข้ามกาดแม่มาลัยฝั่งขาล่องลงเชียงใหม่) รูปนี้เราถ่ายตอนมาถึงกาดหลวงแล้ว รถจะมาจอดที่กาดหลวงแป๊บเดียวแล้ววนไปที่ขนส่งช้างเผือก เห็นพี่คนขับว่างั้นนะ
จุดหมายวันนี้คือไปบ้านแม่กำปอง ลงรถที่กาดหลวงก็ต้องเดินไปต่อรถสองแถวสีเหลืองสาย เชียงใหม่-ป่าป้อง-ดอยสะเก็ด-น้ำพุร้อนสันกำแพง
คิวรถจอดอยู่ฝั่งติดแม่น้ำ หน้าป้อมตำรวจตรงสามแยกกาดต้นลำไย
รถจะวิ่งผ่าน อ.สันทราย-ดอยสะเก็ด-สันกำแพง-สุดสายที่ตลาดสหกรณ์ 2 อ.แม่ออน ถ้าลงที่น้ำพุร้อนค่ารถ 40 บาท ลงที่ตลาดสหกรณ์ 50 บาท
แต่ถ้าจะไปบ้านแม่กำปองก็ต้องลงที่ตลาดสหกรณ์แล้วให้รถที่หมู่บ้านมารับนะคะ ของเราจากตลาดสหกรณ์ไปบ้านแม่กำปอง พ่อหลวงคิดค่ารถ 400 บาท/เที่ยว ถึงแล้วตลาดสหกรณ์........
คิวรถจะจอดหน้าที่ทำการอบต.บ้านสหกรณ์ ตรงข้ามกับตลาด
ถ้าจะนั่งรถเหลืองกลับเข้าเชียงใหม่ต้องมาถึงที่คิวก่อน 15.30 น.
เพราะรถเที่ยวสุดท้ายออกจากคิวรถตรงตลาดสหกรณ์ 16.00 น. และไปแวะรับคนที่น้ำพุร้อนประมาณ 16.30 น.
ระหว่างรอรถมารับก็ต้องหาอะไรรองท้องก่อน....สั่งปูปลาร้าแต่ไหงออกมาหน้าตาเป็นตำไทย T_T
จากป้ายบ้านแม่กำปองอีก 16 กม. ใครจะโบกรถไปคงรอนานหน่อย
วันนี้เราได้พักบ้านป้ารี ถามว่าบ้านป้ารีอยู่ตรงไหนก็หลังสุดท้ายของหมู่บ้านทางที่จะเดินขึ้นไปดูน้ำตกนั่นล่ะ พอดีบ้านป้ากำลังรื้อสร้างใหม่เลยได้มานอนบ้านลูกสาวป้าหลังนี้ แถมบ้านทั้งหลังเรานอนคนเดียว...
ลำธารข้างบ้านน้ำใสไหลเย็น
วันนี้มาถึงแม่กำปองเย็นมาก ๆ ไม่ได้ออกไปไหน ตอนเย็นป้ารีทำกับข้าวให้กินกับข้าวพื้น ๆ แต่อร่อยมาก กินข้าวฟังเสียงฝนไป ก็มาหน้าฝนนี่เนอะ...กินข้าวเสร็จอาบน้ำนอนพักผ่อนกายา
วันที่หกตื่นมาซะสายโด่ง อาบน้ำแล้วเดินออกไปหาอะไรกิน บวกกับเดินเที่ยวรอบ ๆ หมู่บ้านหาเสบียงมื้อกลางวันด้วย
ผ่านร้านลุงปุ๊ด ป้าเป็ง ร้านกาแฟน่ารัก ๆ มีที่พักด้วยนะเออ.....
เดินเล่นไปเรื่อย ๆ ผ่านเจอคุณลุงคุณป้าก็จะถามว่าจะไปไหน มาคนเดียวเหรอ เดินไปไกลขากลับเหนื่อยนะ เดินขึ้นเนินลงเนินจนมาถึงปากทางเข้าหมู่บ้าน
ระหว่างทางเจอดอกไม้ใบไม้ที่เจ้าของบ้านปลูกไว้ริมรั้ว
โดยเฉพาะดอกนี้ ชอบมาก ๆ ปลูกเป็นรั้วเลย
ขากลับเดินจนเหงื่อตกทำไมมันเหนื่อยกว่าขาไป T_T พักเหนื่อยหาอะไรกินแล้ว เดินย้อนกลับไปท้ายหมู่บ้าน ผ่านบ้านที่พักขึ้นไปทางน้ำตกแม่กำปอง
เดินขึ้นไปจนสุดทางจะโผล่มาเจอถนนตรงนี้
ซึ่งถ้าเลี้ยวขวาก็จะเป็นน้ำตกแม่กำปองแล้ว
แต่ถ้าเลี้ยวซ้ายไปทางถนนเมื่อกี้แล้วเดินต่อไปอีกสัก 300-400 เมตร ก็จะถึงร้านกาแฟชมนกชมไม้
เราใช้เวลานั่งร้านนี้นานมาก ๆ แบบว่าฟ้าครึ้ม ๆ ลมเย็น ๆ ชิลสุด ๆ แต่ร้านนี้วันธรรมดาคนก็ยังเยอะนะ ที่สำคัญช่วงนี้แม่กำปองมาแรงจริง ๆ เราเป็นโรคกลัวคนเยอะ ๆ อะ T_T
เจอพี่ ๆ กลุ่มนี้น่ารักมาก ๆ โดยเฉพาะคุณตา มาชวนเราคุยซะเขินเลย...ต้องขออนุญาตพี่ ๆ ด้วยนะคะที่เอารูปมาลง
เอาเป็นว่าถ้าอยากจะเที่ยวก็เที่ยวเลยไม่ต้องรอใคร ถ้าไม่เคยลองแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเราทำได้หรือไม่ได้...จริงไหม "เพียงแค่คุณกล้าที่จะเปิด โลกก็เปลี่ยน" คุ้น ๆ เนอะ แต่ชอบอะมันโดน
กลับมาที่เช้าวันที่เจ็ดเราให้รถไปส่งที่ตลาดสหกรณ์เหมือนเดิม แล้วนั่งรถสองแถวสีเหลืองไปลงกาดหลวง แล้วโบกรถแดงไปขนส่งช้างเผือก ค่ารถ 20 บาท จากขนส่งช้างเผือกนั่งรถสองแถวสาย 4 ไปสนามบิน ค่ารถ 14 บาทเอง วิ่งวนไปไกลมากแต่เราไม่รีบนั่งชิล แต่เชียงใหม่วันเสาร์-อาทิตย์นี่รถติดมากกกกกกกกกก
สรุปค่าใช้จ่าย 7 วัน
- ค่ารถนครชัยแอร์ First Class = 837 บาท
- ค่ารถมอเตอร์ไซค์จากอาเขตไปขนส่งช้างเผือก = 50 บาท
- รถตู้เชียงใหม่-ท่าตอน ไปลงเชียงดาว ราคาเดียว = 150 บาท
- ค่าข้าวขาหมู+น้ำ ตลาดเชียงดาว = 60 บาท
- ค่ารถสองแถวเชียงดาว-เมืองคอง ลงบ้านระเบียงดาว = 50 บาท
- ค่าที่พักบ้านระเบียงดาว 2 คืน รวมอาหารเช้า+เย็น 500x2 = 1,000 บาท
- ค่าอาหารกลางวันบ้านระเบียงดาว 2 มื้อ 50x2 = 100 บาท
- ค่ารถจากบ้านระเบียงดาว-เชียงดาว ไม่เสีย โบกรถฟรี
- ค่ารถบัสสีส้มจากเชียงดาว-แม่แตง ลงกาดแม่มาลัย = 19 บาท
- ค่ารถรีสอร์ทมารับไป-กลับ 200x2 = 400 บาท
- ค่าที่พักรีสอร์ทที่ อ.แม่แตง 2 คืน รวมอาหารเช้า = 1,990 บาท
- ค่าอาหารกลางวันและเย็นที่รีสอร์ท 4 มื้อ = 890 บาท
- ค่ารถสองแถวสีขาวจากกาดแม่มาลัยไปกาดหลวง = 25 บาท
- ค่ารถสองแถวกาดหลวง-ตลาดสหกรณ์ ไป-กลับ = 100 บาท
- ค่ารถรับ-ส่ง ตลาดสหกรณ์-แม่กำปอง 400x2 = 800 บาท
- ค่าที่พักบ้านแม่กำปอง 2 คืน รวมอาหาร 5 มื้อ = 780 บาท
- ค่าข้าวเช้า+ข้าวกลางวันรวม 3 มื้อ ซื้อกินเองที่แม่กำปอง = 150 บาท
- ค่ากาแฟและเค้กที่ร้านชมนกชมไม้ = 120 บาท
- ค่ารถสองแถวแดงจากกาดหลวงไปขนส่งช้างเผือก = 20 บาท
- ค่ารถสาย 4 จากขนส่งช้างเผือกไปสนามบิน = 14 บาท
- ค่าตั๋วเครื่องบินขากลับ = 1,290 บาท
รวมทั้งหมด 7 วัน 6 คืน เป็นเงิน = 8,845 บาท
ถ้ามีเพื่อนไปช่วยแชร์ค่ารถค่าที่พักคงประหยัดได้อีกเยอะ สำหรับใครที่จะไปบ้านระเบียงดาวให้โทรจองล่วงหน้านะคะ เพราะวันธรรมดาคนก็เยอะค่ะ อาจจะโทรติดยากสักหน่อยเพราะไม่ค่อยมีสัญญาณ แต่ถ้าโทรช่วงเช้าสักประมาณ 07.00-09.30 น. จะโทรติดง่ายหน่อย ที่สำคัญเจ้าหน้าที่เค้าอยู่แถวหน้าเคาน์เตอร์ก็ช่วงนี้ สำหรับบ้านแม่กำปองตอนแรกเราคิดว่าจะทำรีวิวดีไหม เพราะช่วงนี้กำลังบูมเลย กลัวจะเหมือนเชียงคานหรือปาย แต่คิดว่าชุมชนที่นี่เข้มแข็งพอ อีกอย่างอยากเก็บข้อมูลไว้ให้ตัวเองด้วย ไม่ว่าจะอย่างไรก็ขอให้ทุกคนเที่ยวให้สนุกและเคารพสถานที่นะคะ แล้วเจอกันคราวหน้า ^_^ บ๊าย...บาย
ป.ล. ขออภัยรูปใหญ่บ้างเล็กบ้าง ปรับไซส์ให้มันเท่ากันไม่เป็นอะ...
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณมิงกะลาบาร์ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม