ช่วงฤดูฝนนอกจากความชุ่มฉ่ำของสายฝนที่โปรยปรายลงมาแล้ว ความเฉอะแฉะ
เลอะเทอะ เปียกปอน อาจทำให้ใครหลาย ๆ
คนมักชะลอการเที่ยวในช่วงนี้ไปโดยปริยาย อาจเพราะรู้สึกไม่สะดวกสบาย
อีกทั้งพอจะทำอะไรก็ดูเหมือนติดขัดไปซะหมด ซึ่งจริง ๆ
แล้วฤดูฝนแบบนี้กลับมีความงดงามของธรรมชาติซุกซ่อนอยู่
และน้อยคนนักที่จะได้สัมผัส อ๊ะ ๆ แต่ถ้าคุณอยากออกไป "เที่ยวหน้าฝน" และยังมีคำถามว่า "หน้าฝนเที่ยวไหนดี" ก็ตามบันทึกการเดินทางของ คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้ไกด์ไลน์สถานที่ท่องเที่ยวหน้าฝนสุดงดงามมาฝากกันค่ะ
+++++++++++++++++++++แค่คิดจะไปยืนที่ไหนสักที่ ที่มีจุดชมวิวสวย ๆ มีทะเลหมอกให้ได้ลุ้นให้ได้เห็น เชื่อไหมว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงผมก็ไปยืน ณ จุดชมวิวตรงนั้นเสมอ จากประสบการณ์ 4 ปี บนการท่องเที่ยวในฤดูกาลแบบนี้ ก็บอกอะไรผมได้เยอะ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องลุ้น นั่นก็คือ ลุ้นว่าฝนจะตกไหม เพราะความลับของช่วงเวลาแบบนี้มันจะมาตอนหลังฝนหยุดตก แล้วทันใดนั้นเองผมก็เริ่มเห็นหมอกละอองน้ำที่ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาจากเทือกเขาทีละนิด จนกลายมาเป็นทะเลหมอกที่เห็นทีไรก็ตื่นเต้นได้ทุกที จนรู้สึกไปเที่ยวภูเขาหน้าฝนทีไรก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ไม่เจอทะเลหมอก แม้ช่วงที่ไปโชคไม่ดีฝนไม่ตกขึ้นมา แต่ก็มีทะเลหมอกให้ได้เห็นในตอนเช้าทุกที นั่นคงเป็นเพราะความลับของฤดูฝนแบบนี้แน่นอน และถ้ามีใครถามผมว่าไปเที่ยวภูเขาช่วงไหนสวยที่สุด ผมก็ตอบด้วยความมั่นใจว่าไปหน้าฝนนี่แหละสวยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัยและไม่ ต้องถามซ้ำ !!!!!
และความลับอีกอย่างหนึ่งของการเที่ยวหน้าฝน คือนักท่องเที่ยวน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ไม่ต้องแย่งกันกิน ไม่ต้องแย่งกันใช้ และไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูป นอกจากบรรยากาศดี ๆ ทะเลหมอกสวย ๆ ยังประหยัดได้อีก เพราะที่พักก็พากันลดราคาจากราคาปกติลงมาเท่าตัวเลย อยู่ในหลักร้อยปลาย ๆ หรือพันนิด ๆ เรียกว่าแทบจะเหมาที่พักหรือเหมาอุทยานแห่งชาติกันเลยทีเดียว
คำแนะนำสำหรับคนที่กลัวการท่องเที่ยวฤดูฝน ก็แนะนำให้เก็บความรู้สึกแบบนั้นไว้ แล้วเลือกเที่ยวช่วงเวลาที่ไม่ใช่ฤดูฝนไปก่อน เช่น ไปเที่ยวในช่วงเวลาของฤดูหนาวหรือฤดูร้อนไปก่อน แล้ววันหนึ่งวันที่ยังมาไม่ถึง อาจจะเป็นวันที่เราค่อย ๆ เริ่มต้นเดินทางในที่ไหนสักที่ในฤดูฝน แล้วก็ค่อย ๆ รู้สึกดีกับมัน แล้ววันนั้นเราเองก็อาจจะเข้าใจได้ว่าการท่องเที่ยวในฤดูฝนสวยงามและน่า หลงใหลแค่ไหน และตอนนั้นเราคงจะได้คำตอบว่าอะไรคือสิ่งที่เราเคยคิดกับมุมมองเก่า ๆ ของฤดูฝน ??
จากความลับของฤดูฝนในตอนนั้น ทำให้ผมรู้เลยว่าภูเขาฤดูฝน คือ สิ่งที่ผมรัก ผมไม่รู้ว่าผมเริ่มรักสิ่งนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าหลงรักมันไปตั้งแต่ตอนไหน แต่ผมรู้ว่าผมชอบมองมันทุกครั้งเวลานั่งรถผ่านวิวภูเขาตั้งแต่เด็ก ๆ และจากภูเขาที่หนึ่งในตอนนั้น เชื่อมต่อเส้นทางของขุนเขาสีเขียวทั่วเมืองไทยให้กับผม มันเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกที่ดีมาก ๆ เวลาเห็นภูเขาสีเขียว สีที่ทำให้โลกนี้ของผมเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย และหนึ่งในความทรงจำเรื่องหนึ่ง ก็คือ การได้มีโอกาสใช้เวลาเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทุกช่วงเวลาของภูเขา เพื่อรอคอยบางสิ่งบางอย่าง ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่รู้ว่ามันอาจจะทำให้สิ่งที่ผมเคยทำหายในตอนเด็ก ๆ ได้วนกลับมาอีกครั้งในตอนนี้ และทะเลหมอกหน้าฝนก็เหมือนกัน มันคือแรงบันดาลใจของผม หนึ่งในความรักที่ทำให้ผมโลดแล่นไปกับความลับของภูเขาฤดูฝนในแบบฉบับของผม เสมอ
อีกหนึ่งพื้นที่ดีที่สุดของผม www.facebook.com/chanomworld
1. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม อำเภอเทพสถิต & อุทยานแห่งชาติไทรทอง อำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ
ทุก ๆ ปีในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณปลายเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนสิงหาคม จังหวัดชัยภูมิจะคึกคักเป็นพิเศษ เพราะสีชมพูจะบานในใจของคนที่รักดอกไม้ นั่นคือ เทศกาลชมทุ่งดอกกระเจียว ณ อุทยานแห่งชาติป่าหินงามและอุทยานแห่งชาติไทรทอง ในตอนแรกผมเองก็ไม่คิดจะไปที่นี่เลย แต่พอได้ไปก็ไปถึง 2 ปีติดต่อกัน สิ่งที่ได้เห็น คือ ความแตกต่างที่เราคาดไม่ถึงของสวนดอกไม้ที่ถูกจัดวางให้สวยงามกับสวนดอกไม้ ขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ที่ทำให้หลายคนเดินทางมาที่แห่งนี้ แนะนำให้ขึ้นไปแต่เช้ามืดนะครับ เพราะจะได้เห็นบรรยากาศของดอกไม้เคล้าไปกับสายหมอกเย็น ๆ ไปดูทุ่งกระเจียวที่ป่าหินงามแล้วขับรถมาอีกประมาณ 80 กิโลเมตร ก็จะได้เห็นอีกหนึ่งบรรยากาศของทุ่งกระเจียวที่ผลิดอกบานชูช่อสวยสดงดงาม เต็มทั่วท้องทุ่งไม่แพ้กับที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม แม้การชมทุ่งกระเจียวในที่แห่งนี้จะต้องใช้แรงเท้าในการเดินชมมากกว่าทุ่ง แรก แต่คุณจะประทับใจแน่นอนกับธรรมชาติของทุ่งกระเจียวที่นี่ สิ่งที่แตกต่างกัน ก็คือ ทุ่งดอกกระเจียวของอุทยานแห่งชาติไทรทองสภาพโดยทั่วไปจะยังคงความเป็น ธรรมชาติมากกว่าที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม แต่ถ้าเรื่องความสะดวกสบายแล้วต้องยกให้ที่ป่าหินงาม
ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม และ อุทยานแห่งชาติไทรทอง
2. วังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
พูดถึงวังน้ำเขียว หลายคนคงรู้สึกชินคงเป็นเพราะว่าอยู่ใกล้ ๆ เลยไปได้บ่อย ๆ หรือรู้สึกว่ามันหมดความเขียวแล้ว แต่เชื่อไหม ? พอฤดูฝนเริ่มทำงาน วังน้ำเขียวก็กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ภูเขาเริ่มกลับมามีสีเขียว มีรีสอร์ทที่พักหลายที่ที่ตอบสนองต่อการพักผ่อนในวันหยุด มีวิวให้เลือกหลายแบบ อาจจะเป็นวิวที่เห็นขุนเขาหรือจะเป็นวิวของอ่างเก็บน้ำ และไม่ว่าจะผ่านมานานแค่ไหนผมยังจำความรู้สึกแบบนั้นได้ดี ความรู้สึกของจุดเริ่มต้นการเดินทางของผมเมื่อสี่ปีที่แล้ว จุดชมวิวที่ผมชอบไปก็จะมีผาเก็บตะวัน ผาชมตะวัน นอกจากนั้นยังมีจุดชมวิวอยู่ใกล้ ซึ่งเป็นรอยต่อระหว่าง อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี กับวังน้ำเขียว นั่นคือ ขุนเขาแห่งทับลาน ที่สามารถมองเห็นวิวได้จากรีสอร์ทในบริเวณนั้น รวมทั้งอ่างเก็บน้ำทับลานที่ไปกี่ครั้งก็ประทับใจเสมอ
ข้อมูลเพิ่มเติม วังน้ำเขียว
3. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
มันคือ 1 ใน 3 ของอุทยานแห่งชาติที่ผมชอบมากที่สุด ด้วยความงดงามของทิวทัศน์และความอุดมสมบูรณ์ของป่าไม้ในฤดูฝน ผมรู้สึกมาตลอดว่าถ้าผมมาที่นี่วันไหนก็แล้วแต่ ผมจะได้เห็นความสวยงามของท้องทะเลแห่งขุนเขา และได้เห็นสายหมอกสีขาวแห่งทะเลหมอกอยู่เสมอ ตลอดเส้นทางตั้งแต่รู้สึกขับขึ้นเขา สองข้างทางเต็มไปด้วยภูเขาสวย ๆ และมีจุดชมวิวหนึ่งที่สวยมาก คือ จุดชมวิว กม.12 ซึ่งอยู่ก่อนถึงที่ว่าการอุทยาน ประมาณ 6 กิโลเมตร แล้วขับรถต่อไปอีกนิดก็ถึงอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ภายในตัวอุทยาน จะมีจุดชมวิวที่สวยงามมาก คือจุดชมวิวเนินกูดดอยและจุดชมวิวเนินช้างเผือก ผมไปที่นี่มา 4 ครั้ง ในรอบ 3 ปี และได้มีโอกาสนอนบ้านทาร์ซานในตัวอุทยาน มันเป็นประสบการณ์ที่ดีมาก จากตัวอุทยานขับรถไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะถึงหมู่บ้านอีต่องที่อยู่ท่ามกลางหุบเขาและสายหมอก ผมชอบมาที่นี่มาก เพราะมีจุดชมวิวที่สวยที่สุดอยู่ตรงนี้มัน คือ เนินช้างศึกนั่นเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
4. เขาค้อ อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
แค่คิดว่าจะไปเพชรบูรณ์ แป๊บ ๆ ก็มาถึงเขาค้อแล้ว อากาศที่นี่เย็นสบาย เปิดเพลงเพราะ ๆ ฟังแล้วขับรถชมวิวไปเรื่อยๆ ภูเขาทางโน้นก็เขียว ภูเขาทางนี้ก็เขียว มองไปทางไหนก็สดชื่นไปหมด จากประสบการณ์ 3 ปีครึ่งกับการเดินทางมาเขาค้อ 20 กว่าครั้ง ก็บอกอะไรผมได้เยอะ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่ต้องลุ้น นั่นก็คือ ลุ้นว่าฝนจะตกไหม เพราะความลับของที่นี่มันจะมาตอนหลังฝนหยุดตก แล้วสักพักผมก็เริ่มเห็นหมอกไอน้ำที่ค่อย ๆ ผุดขึ้นมาจากเทือกเขาทีละนิด กลายมาเป็นทะเลหมอกที่เห็นทีไรก็ตื่นเต้นได้ทุกที จนรู้สึกไปเที่ยวเขาค้อหน้าฝนทีไร ไม่เคยมีครั้งไหนที่ไม่เคยเจอทะเลหมอก แม้ช่วงที่ไปโชคไม่ดีฝนไม่ตก แต่ก็ยังมีทะเลหมอกในตอนเช้าทุกที นั่นคงเป็นเพราะความลับของที่นี่แน่ ๆ และถ้ามีใครถามผมว่าไปเขาค้อช่วงไหนสวยที่สุด ผมก็ตอบด้วยความมั่นใจว่าไปหน้าฝนนี่แหละสวยที่สุดอย่างไม่ต้องสงสัย
และความลับอีกอย่างหนึ่งของการเที่ยวหน้าฝนที่เขาค้อ คือ นักท่องเที่ยวน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย ไม่ต้องแย่งกันกิน ไม่ต้องแย่งกันใช้ และไม่ต้องแย่งกันถ่ายรูป นอกจากบรรยากาศดี ๆ ทะเลหมอกสวย ๆ ยังประหยัดได้อีก เพราะที่พักก็พากันลดราคาจากราคาปกติลงมาเท่าตัวเลย อยู่ในหลักร้อยปลาย ๆ หรือพันนิด ๆ และที่พักสไตล์ที่ผมชอบ คือ บ้านพักที่อยู่รอบจุดชมวิวทะเลหมอก ที่สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้จากที่พักโดยไม่ต้องขับรถไปไหนไกล ความลับของเขาค้อมักจะมาพร้อมกับความมหัศจรรย์ของธรรมชาติอยู่เสมอ นั่นก็คือ จุดชมวิวมากมายที่ทำให้ใครหลายคนได้โลดแล่นไปกับความสนุก ความตื่นเต้น ความประทับใจในแบบที่ต้องมาดูให้เห็นกับตาในฤดูฝนเท่านั้น
1. จุดชมวิวตะวันยามเช้าและชมทะเลหมอก ณ วัดกองเนียม เป็นจุดชมวิวที่อยู่ริมถนนสาย 2196 อยู่ใกล้ ๆ กับหอสมุดแห่งชาติ หรืออยู่เยื้อง ๆ กับทางขึ้นอนุสรณ์สถานผู้เสียสละเขาค้อ มันเป็นความลับที่ผมมอบให้แม่ในปีที่ผ่านมา กับอีกช่วงเวลาแห่งความทรงจำที่สวยที่สุดในเช้าวันนั้น
2. จุดชมวิวทะเลหมอกยามเช้าริมถนน 2196 เหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย เป็นจุดชมวิวหลักของเขาค้อเลย และผมมักจะชอบหามุมมองใหม่ ๆ ในการดูทะเลหมอกที่นี่เสมอ กับเส้นทางชมทะเลหมอกระยะทาง 3-5 กิโลเมตร ลากยาวไปถึงสามแยกที่เลี้ยวซ้ายลงไปอ่างเก็บน้ำรัตนัย ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวข้างทาง ด้านหลังที่ทำการไปรษณีย์ หรือตามที่พักรีสอร์ทต่าง ๆ ที่ออกแบบให้เราสามารถชมวิวทะเลหมอกได้จากห้องนอน หรือระเบียงบ้านส่วนตัวเลยทีเดียว
3. จุดชมทะเลหมอกริมถนนหลวงสาย 12 พิษณุโลก-หล่มสัก ณ ตำบลแคมป์สน โซนภูเขาผาซ่อนแก้ว โซนนี้ต้องบอกเลยว่าภูเขาสวยมาก ยังจำตอนที่ขับรถผ่านหลังจากฝนหยุดตก แล้วทะเลหมอกก็ผุดขึ้นในตอนเย็น มันน่าทึ่งแบบที่ใครหลายคนไม่เคยได้เห็นกัน หรือจะเป็นตอนเช้ากับภาพของผมที่ขับรถไล่ล่าชมทะเลหมอกของภูเขาแถบนี้ มันเหลือเชื่อมากที่ได้เห็นความลับของที่นี่ โดยเฉพาะตอนที่ขับรถขึ้นไป ดูทะเลหมอกบนสันเขาผาซ่อนแก้ว แล้วเห็นทะเลหมอกมหาศาลที่กำลังโอบล้อมวัดผาซ่อนแก้วไว้ หรือจะเป็นสถานที่ชมวิวริมข้างทาง กับร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่จะทำให้คุณหลงรักวิวริมถนนสายนี้อย่างแน่นอน
ข้อมูลเพิ่มเติม เขาค้อ
5. ภูทับเบิก อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์
เวลามาเที่ยวเขาค้อแล้วก็ไม่ควรพลาดภูทับเบิก หรือตรงกันข้าม...มาเที่ยวภูทับเบิกก็ไม่ควรพลาดเขาค้อ เพราะมันอยู่ไม่ไกลกัน ห่างกันไม่ถึง 100 กิโลเมตร นอกจากทุ่งกะหล่ำปลีสีเขียวที่มองเห็นตลอดทั้งหุบเขาแล้ว อากาศในช่วงหน้าฝนยังเย็นสบายไม่แพ้ในช่วงฤดูหนาว เมฆลอยต่ำ ๆ ลอยไปลอยมาเหมือนอยู่ท่ามกลางสายหมอก แถมยังมีทะเลหมอกหน้าฝนให้ได้ลุ้นกันตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะในตอนเช้าที่ต้องลุ้นกับทะเลหมอกที่ทำให้ผมต้องขึ้นไปภูทับเบิกนับ สิบครั้งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มันสนุกมากตอนที่ได้เห็นทะเลหมอก มันเป็นมุมมองที่อลังการแบบที่ใครหลาย ๆ คนนึกไม่ถึง แถมบ้านพักก็มีให้เลือกตามใจชอบเลย ผมยังจำได้ดีกับภาพของผมที่วิ่งไปตรงนั้นที วิ่งไปตรงนี้ทีเพื่อดูทะเลหมอกหลาย ๆ จุด แล้วก็เก็บภาพบรรยากาศที่สวยที่สุดในตอนนั้นกลับบ้านมา
ดังนั้น มาเที่ยวเพชรบูรณ์อย่าพลาดเที่ยวภูทับเบิกนะครับ ไม่อย่างนั้นน่าเสียดายแย่เลย ส่วนใครที่ชอบกะหล่ำปลีควรทราบวงจรการปลูกและการเก็บเกี่ยวด้วยนะครับ จะได้ไม่พลาดช่วงเวลาสวย ๆ กะหล่ำปลีมีอายุในการปลูก 3 เดือน แล้วจะทำการเก็บไปขาย ปลูกเดือนเมษายนเก็บไปขายเดือนกรกฎาคม ปลูกเดือนกรกฎาคมเก็บไปขายเดือนตุลาคม กะหล่ำปลีจะมีให้ชมสวย ๆ ในช่วงเดือนมิถุนายนและเดือนกันยายน แต่ปัจจุบันสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ควรโทรศัพท์สอบถามที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อนไปนะครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม ภูทับเบิก
6. อุทยานแห่งชาติแม่วงก์ อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
หลาย ๆ คนมักรู้สึกว่ากำแพงเพชร คือ ทางผ่านที่มุ่งสู่ภาคเหนือ แต่สำหรับผมมัน คือ ปลายทางที่สำคัญไม่แพ้ที่ไหน ผมกำลังพูดถึงอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ที่เต็มไปด้วยป่าเขาและธรรมชาติที่อุดม สมบูรณ์มาก ๆ ที่นี่มีจุดชมวิวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวกิ่วกระทิง จุดชมวิวขุนน้ำเย็น และช่องเย็น ที่รถยนต์สามารถขับรถขึ้นไปจนถึง เส้นทางที่ผ่านสามารถมองเห็นแนวเทือกเขาได้ตลอดสองข้างทาง และถ้าโชคดีจะเห็นทะเลหมอกในแบบที่ทำให้เราต้องหยุดรถแล้วลงไปเก็บบรรยากาศ แบบนั้นกลับมา และไฮไลท์ของที่นี่ คือ จุดชมวิวที่เรียกว่าช่องเย็น มันเป็นจุดชมวิวที่สวยมาก ๆ และถ้าได้ไปที่จุดชมวิวช่องเย็นแล้วอย่าลืมขึ้นไปต่ออีกนิดนะครับ เป็นจุดชมวิวภูสวรรค์ อยู่ด้านหลังของบ้านพักเรือนแถวช่องเย็น เดินขึ้นเขาซึ่งค่อนข้างชันไปอีก 300 เมตร ดูเหมือนไม่ไกล แต่พอได้เดินไต่ปีนขึ้นไปเล่นเอาขาสั่นหอบเหนื่อยเลย ครั้นพอได้เห็นบรรยากาศและวิวที่อยู่ต่อหน้าผมก็ไม่สงสัยเลยว่าทำไมถึงเรียก ที่นี่ว่า "ภูสวรรค์"
ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติแม่วงก์
7. อุทยานแห่งชาติคลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร
แม้จะเข้าฤดูฝนแต่ก็ยังคงมีอากาศร้อนอบอ้าวในบางวัน พาให้นึกถึงน้ำตกที่หนึ่งที่ดูยิ่งใหญ่มาก และรถยนต์สามารถขับเข้าไปถึงจุดชมวิวน้ำตกได้เลย ผมกำลังพูดถึง น้ำตกคลองลาน อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร เป็นน้ำตกที่สวยงามมาก หน้าผาน้ำตกมีความสูงถึง 95 เมตร และกว้างประมาณ 40 เมตร มันเลยเป็นน้ำตกที่ได้รับความนิยมมาก สำหรับผมเองถ้าไปที่แห่งนี้ผมจะขับไปอีกหน่อยก็จะถึงอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ ซึ่งห่างกันประมาณ 30 กิโลเมตร ได้เที่ยวทั้งสองที่เลย
ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติคลองลาน
8. วนอุทยานภูชี้ฟ้า+ภูชี้ฟ้าโฮมสเตย์บ้านออย อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย
อีกหนึ่งขุนเขาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของจังหวัดเชียงราย และเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลาย ๆ คน ที่ชอบความสวยงามของทะเลหมอก มันเป็นทะเลหมอกในฝันที่สร้างแรงบันดาลใจให้ใครต่อใครหลายคนให้ได้เดินทางมา ที่นี่ ในช่วงเวลาของฤดูฝนทำให้ที่นี่กลับมามีชีวิตด้วยสายหมอก ที่พร้อมกลับมาทำงานเต็มที่ ทำให้มองเห็นวิวที่แตกต่างกับในฤดูหนาวอย่างสิ้นเชิง ผมเองเคยรู้สึกมันไกล ไกลเกินกว่าจะขับรถจากบ้านไปถึง แต่วันหนึ่งผมก็ขับรถไปจนถึง และก็ไปจนถึง...ถึง 3 ครั้ง ในช่วงเวลา 2 ปีที่ผ่านมา และถ้าพูดถึงภูชี้ฟ้าแล้วไม่พูดถึงบ้านพักที่หนึ่งที่ผมชอบมาก ๆ คงขาดอะไรไปเยอะ ผมกำลังพูดถึงบ้านพักที่มีชื่อว่า ภูชี้ฟ้าโฮมสเตย์บ้านออย มันเป็นบ้านพักวิวทะเลหมอกในอุดมคติของผม มีระเบียงบ้านส่วนตัวที่จะได้มองเห็นวิวแบบนั้น แม้กระทั่งอยู่บนเตียงนอน !!! มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ที่ได้เห็นอะไรแบบนั้น 3 ครั้งที่มาภูชี้ฟ้า ก็เป็น 3 ครั้ง ที่ผมมานอนพักที่นี่ นี่ละมั้งความหมายของภูชี้ฟ้า ที่บอกถึงความผูกพันระหว่างขุนเขากับสายหมอก
ข้อมูลเพิ่มเติม ภูชี้ฟ้า
9. วนอุทยานดอยผาตั้ง อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย
มาภูชี้ฟ้าแล้วไม่ไปดอยผาตั้งนี่ถือว่าเสียหายหลายแสนเลยนะครับ เพราะอยู่ห่างกันแค่ 30 กิโลเมตร ตลอดสองข้างทางที่พาผมไปดอยผาตั้งมันสวยแบบชนิดที่ว่าลืมไม่ลงเลย ผมยังจำวันที่เดินทางไปที่นั้นแล้วสายหมอกปะทุขึ้นมาจากซอกเขา มองไปตรงไหนก็สวย มองไปตรงไหนก็ต้องหยุดถ่ายภาพกลับมา ดอยผาตั้งถือเป็นจุดชมวิวไทย-ลาว และทะเลหมอกที่สวยงามไม่แพ้ภูชี้ฟ้า รถยนต์สามารถขึ้นเกือบถึงจุดชมวิวบริเวณด้านบนได้ บนจุดชมวิวจะเป็นแนวเขาซึ่งชมวิวได้ตลอดแนว ด้านบนมีจุดชมวิวมากมาย แต่ที่สนุก คือ การได้เดินในทางแคบไปตามไหล่เขาไล่ระดับไปเรื่อย ๆ มันคือมิตรภาพและความสุขระหว่างการเดินทาง และการรอลุ้นว่าด้านหน้าจะเป็นวิวแบบไหน ใครที่ไปช่วงฤดูฝนอาจจะดูลำบากนิดหน่อย แต่มันก็ทำให้เราได้รู้สึกถึงพลังบางอย่างที่เติมความหมายอีกด้านที่ครั้ง หนึ่งเราอาจเคยไปไม่ถึง !!
ข้อมูลเพิ่มเติม ดอยผาตั้ง
10. สถานีเกษตรสะจุกสะเกี้ยง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดน่าน
ถ้าคุณชอบอะไรที่ไม่ค่อยมีใครไปเที่ยวกันประมาณว่าอันซีนไทยแลนด์ ผมแนะนำที่นี่นะครับ สถานีเกษตรสะจุกสะเกี้ยง และบ้านบวกอุ้ม ตั้งอยู่ตำบลขุนน่าน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ที่ซึ่งเต็มไปด้วยหุบเขาของเมืองน่านกับทุ่งข้าวสีเขียว ที่นี่มีความเป็นธรรมชาติมาก และคงต้องใช้รถ 4WD เพราะถนนหนทางยังเป็นดิน และทางขึ้นเขาค่อนข้างลำบากมาก แต่วิวด้านบนทำเอาหายเหนื่อยเลย กับทุ่งข้าวสุดขอบฟ้าและสายหมอกสีขาวในวันนั้น มันทำให้รู้สึกดีมาถึงวันนี้ ผมจินตนาการว่าถ้าไปช่วงที่ฝนชุก ทุ่งข้าวสีเขียวตัดกับท้องฟ้าสีฟ้าและสายหมอกสีขาวมันจะขนาดไหน !! ด้านบนมีที่พักให้นะครับแต่จะต้องดำเนินการติดต่อล่วงหน้า
ข้อมูลเพิ่มเติม สะจุกสะเกี้ยง
11. อุทยานแห่งชาติขุนสถาน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ความทรงจำที่มีต่อบ้านพักดอยแม่จอก 1 ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลหหมอกได้จากห้องนอน คือ เหตุผลที่ทำให้ผมรู้จักที่แห่งนี้ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเดินทางมาเที่ยวน่านในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มันเป็นดินแดนแห่งขุนเขาและทะเลหมอกโดยแท้ จริง ๆ ผมชอบใช้เวลาสบายสบายบนระเบียงบ้านตรงนั้น แล้วก็รอบรรยากาศบางอย่างที่กำลังเกิดขึ้นหลังฝนตกในตอนเย็น ๆ จนไปถึงเช้าวันต่อไปที่บางอย่างกำลังค่อย ๆ ปรากฏขึ้น มันคือทะเลหมอกที่ค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นมาอย่างที่เราคาดไม่ถึงว่ามันจะสวยและน่าทึ่งได้ขนาดนี้ นอกจากนี้ เรายังสามารถขับรถไปชมวิวกะหล่ำปลีที่อยู่ข้าง ๆ ตัวอุทยานราว ๆ 2–4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นวิวข้างทางที่ทำให้ทริปแบบนี้เต็มไปด้วยความทรงจำที่แสนพิเศษเสมอ
ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติขุนสถาน
12. อุทยานแห่งชาติศรีน่าน อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน
ถ้าพูดถึงน่าน ผมก็นึกถึงที่นี่เสมอ มันคือ อุทยานแห่งชาติศรีน่าน หลายคนคงคุ้นกับดอยเสมอดาว ซึ่งมีวิวภูเขาที่ดูยิ่งใหญ่สลับซับซ้อน พอเข้าฤดูฝนที่แห่งนี้จะยิ่งสวยงามมากขึ้นไปอีก ภาพสายหมอกลอยอ้อยอิ่งหยอกล้อกับขุนเขาเขียวขจีของธรรมชาติสวยขึ้นอย่างน่า อัศจรรย์ ไม่ว่าจะเป็นจุดชมวิวเสมอดาวหรือผาชู้ มันมักจะทำให้หลายคนที่ได้ไปตกหลุมรักที่นี่เสมอ มันเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยขุนเขาสีเขียว และไอของสายหมอกที่จะทำให้ความทรงจำของผมหรือของใครอีกมากมายที่ได้เคยมาที่ แห่งนี้ ได้กลับมามีเรื่องราว ได้กลับมารู้สึกดี ๆ และอิ่มเอมไปกับความทรงจำเดิม ๆ อีกครั้งหนึ่ง และบางทีมันอาจจะทำให้เรารู้ว่าครั้งหนึ่งเรารู้สึกแบบไหน ? และเคยยืนอยู่ที่ไหนบนโลกใบนี้ก็ได้
ข้อมูลเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติศรีน่าน
จากความลับของฤดูฝนในตอนนั้น ทำให้ผมรู้เลยว่าภูเขาฤดูฝน คือ สิ่งที่ผมรัก ผมไม่รู้ว่าผมเริ่มรักสิ่งนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าหลงรักมันไปตั้งแต่ตอนไหน แต่ผมรู้ว่าผมชอบมองมันทุกครั้งเวลานั่งรถผ่านวิวภูเขาตั้งแต่เด็ก ๆ และจากภูเขาที่หนึ่งในตอนนั้น เชื่อมต่อเส้นทางของขุนเขาสีเขียวทั่วเมืองไทยให้กับผม มันเป็นช่วงเวลาที่รู้สึกดีมาก ๆ เวลาเห็นภูเขาสีเขียว สีที่ทำให้โลกนี้ของผมเต็มไปด้วยความทรงจำมากมาย และหนึ่งในความทรงจำเรื่องหนึ่ง ก็คือ การได้มีโอกาสใช้เวลาเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงทุกช่วงเวลาของภูเขา เพื่อรอคอยบางสิ่งบางอย่าง ผมไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่รู้ว่ามันอาจจะทำให้สิ่งที่ผมเคยทำหายในตอนเด็ก ๆ ได้วนกลับมาอีกครั้งในตอนนี้ และทะเลหมอกหน้าฝนก็เหมือนกัน มันคือแรงบันดาลใจของผม หนึ่งในความรักที่ทำให้ผมโลดแล่นไปกับความลับของภูเขาฤดูฝน ในแบบฉบับของผมเสมอ
สำหรับรีวิวฉบับนี้ มันเหมือนเงาสะท้อนความสุขและความทรงจำดี ๆ ของภูเขาหน้าฝนของผมในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา มันเป็นความรู้สึกที่เหมือนกับตอนที่ผมเข้าไปดูหนังเรื่องหนึ่ง แล้วผมก็ชอบมัน กลับมาผมก็อยากมาเล่า อยากให้ใครที่ผมรักได้ไปดูกัน และในตอนที่ผมกำลังจะเล่า มันก็บังเอิญเหมือนได้กลับไปอยู่ในช่วงเวลาดี ๆ แบบนั้นอีกทุกครั้ง !!! อาจจะมีใครสักคนที่เดินผ่านเข้ามา แล้วก็มานั่งพักที่ใต้ต้นไม้ต้นหนึ่ง ค่อย ๆ ดูรีวิวฉบับนี้ แล้วก็ได้พบเจออะไรบางอย่าง ? บางอย่างที่อาจจะเป็น "แรงบันดาลใจ" ที่ครั้งหนึ่งเราอาจจะไม่เคยรู้จักมัน หรือบางทีก็อาจจะทำมันหายไปในตอนไหนก็ไม่รู้ แล้ววันหนึ่งมันก็ค่อย ๆ เริ่มต้นขึ้น เริ่มมากขึ้นและมากขึ้น และเป็นที่มาของบันทึกการเดินทางในครั้งนี้
www.facebook.com/chanomworld
http://pantip.com/profile/569090
Photo by chanomkids/chanomniks
word by chanomworld*
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณชานมชงเอง สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก chanomworld