หากเอ่ยถึงที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ไม่ว่าจะทะเล ภูเขา หรือน้ำตก ชื่อของบางกะเจ้า น้ำตกวังตะไคร้ เขาใหญ่ วังน้ำเขียว น้ำตกเอราวัณ บางแสน หรือเกาะล้าน มักอยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ แต่วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่อยู่ไม่เกิน 300 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ กันบ้าง บอกเลยว่ามีทั้งจุดชมวิวทะเลหมอก ทะเลสวย ๆ และน้ำตกที่แวดล้อมด้วยธรรมชาติ จะไปเช้า-เย็นกลับ หรือพักค้างสัก 1-2 คืน ก็ทำได้ โดยเริ่มที่...
1. คลองมะเดื่อ จังหวัดนครนายก
แหล่งท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่ยังคงมีธรรมชาติสมบูรณ์ ตั้งอยู่ในตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายก จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 130 กิโลเมตร โดยประกอบด้วย 5 คลอง แต่สถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวพักและกางเต็นท์มีด้วยกันทั้งหมด 3 คลอง (ในส่วนของคลองที่ 4 และ 5 เป็นเขตหวงห้ามของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่) ซึ่งการเดินทางเข้าไปเยือนอาจจะสมบุกสมบันเล็กน้อย (ต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อ) และยังต้องใช้ทักษะความชำนาญในการขับค่อนข้างสูง โดยแต่ละคลองจะมีที่พักไว้คอยให้บริการทั้งรูปแบบของบ้านพักและเต็นท์ หากนักท่องเที่ยวคนไหนอยากนอนกางเต็นท์จะต้องติดต่อเจ้าของพื้นที่
2. ศูนย์ธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี
ภาพจาก Santi.m / Shutterstock.com
3. จุดชมวิวภูซับเหล็ก จังหวัดลพบุรี
จุดชมวิวสวยแบบอันซีนของจังหวัดลพบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลโคกตูม อำเภอเมือง จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร เปิดให้เที่ยวชมทุกวัน โดยการจะขึ้นไปยังจุดชมวิวได้นั้นต้องเดินขึ้นตามบันไดดินบ้าง ทางราบบ้าง ประมาณ 20-30 นาที (แล้วแต่พละกำลังส่วนตัว) พอไปถึงจุดหมายปลายทางก็จะพบกับความงดงามของวิวอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ที่มีฉากหลังเป็นเขาจีนแล แวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกเดินขึ้นไปช่วงเช้าหรือเย็นก็จะได้ฟีลที่แตกต่างกัน แต่ถ้าจะให้ดีแนะนำว่าเป็นช่วงเย็น เพราะเป็นช่วงนาทีทองที่คุณจะได้เฝ้ามองพระอาทิตย์ตกดินที่งดงามเกินบรรยาย
4. เขาพระยาเดินธง จังหวัดลพบุรี
ยอดเขาที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่เทศบาลตำบลเขาพระยาเดินธง อำเภอพัฒนานิคม อยู่ไม่ไกลจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 160 กิโลเมตร โดยการเดินทางขึ้นสู่ยอดเขานั้นสามารถขับรถขึ้นไปได้เลย ในระยะทาง 4 กิโลเมตร ซึ่งด้านบนจะเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปหันหน้าออกสู่จุดชมวิวอำเภอพัฒนานิคมแบบพาโนรามา แถมช่วงหลังฝนตกหรือฤดูหนาว ในบางวันที่อากาศเป็นใจจะมีทะเลหมอกสีขาวลอยละล่องสุดลูกหูลูกตา รวมถึงยังมองเห็นรถไฟที่วิ่งผ่านกลางน้ำอีกด้วย สอบถามข้อมูลด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานลพบุรี โทรศัพท์ 0-3677-0096-7 หรือ เฟซบุ๊ก TAT Lopburi
5. เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี
ที่เที่ยวธรรมชาติที่ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลลำสนธิและตำบลกุดตาเพชร อำเภอลำสนธิ จังหวัดลพบุรี จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 270 กิโลเมตร เป็นที่ราบหุบเขา ล้อมรอบด้วยเทือกเขารูปก้ามปู มียอดเขาที่สูงที่สุดคือ “ยอดเขาพังเหย” ความสูง 846 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น จุดชมวิวผาเขากลาง (ผารับตะวัน) มีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 300 เมตร รถยนต์เข้าถึงได้ตลอดปี, เส้นทางห้วยพริก-น้ำตกผาผึ้ง ระยะทางไป-กลับประมาณ 3.2 กิโลเมตร และเส้นทางห้วยประดู่-ถ้ำพระนอก-ถ้ำสมุยกุย ระยะทางไป-กลับประมาณ 1.8 กิโลเมตร ที่ตลอดทางจะได้พบกับความงดงามที่ธรรมชาติรังสรรค์ไว้ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา
6. อุทยานแห่งชาติพุเตย จังหวัดสุพรรณบุรี
อุทยานแห่งชาติแห่งเดียวในจังหวัดสุพรรณบุรี จากกรุงเทพฯ ถึงอุทยานเป็นระยะทางประมาณ 240 กิโลเมตร อุทยานแห่งนี้ประกอบด้วยป่าที่สมบูรณ์ เทือกเขาสลับซับซ้อน ส่วนที่สูงที่สุดเรียกว่า “ยอดเขาเทวดา” มีระดับความสูง 1,123 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นป่าสนสองใบ ป่าผืนที่มีสนสองใบกระจายพรรณไม้เป็นบริเวณกว้าง โดยเป็นเส้นทางในการศึกษาธรรมชาติ ระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร, หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่ ชนกลุ่มน้อยที่อาศัยมากว่า 200 ปี ท่ามกลางผืนป่าที่ยังคงสภาพสมบูรณ์, น้ำตกตะเพินคี่น้อย น้ำตกขนาดเล็กอยู่ใกล้กับหมู่บ้านตะเพินคี่ มีน้ำไหลตลอดปี และน้ำตกตะเพินคี่ใหญ่ มีน้ำไหลตลอดปี ล้อมรอบด้วยธรรมชาติสวยของผืนป่า โดยภายในอุทยานมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้คอยให้บริการนักท่องเที่ยว สามารถดำเนินการติดต่อได้ที่ nps.dnp.go.th
7. จุดชมวิวห้วยคอกหมู จังหวัดราชบุรี
จุดชมวิวที่สวยงามของอำเภอสวนผึ้ง ตั้งอยู่ที่ฐานปฏิบัติการห้วยคอกหมู ร้อย ตชด.137 ตำบลตะนาวศรี อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร สูงกว่าระดับน้ำทะเล 867 เมตร ซึ่งจะเป็นพื้นที่ป่าเขาอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ด้านบนจะเป็นลานกว้าง ๆ ไฮไลต์เด็ดคือสามารถชมวิวทะเลหมอกได้อย่างสวยงามอลังการ และยังมองเห็นดินแดนฝั่งประเทศเมียนมาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะหน้าหนาวที่อากาศจะหนาวเย็นจับใจ มีทะเลหมอกยามเช้าให้ชม ยามค่ำคืนก็มีทะเลดวงดาวให้นอนนับ แต่การขึ้นจะต้องมีความชำนาญในการขับขี่พอสมควร และต้องเป็นรถกระบะโฟร์วีลเท่านั้น สอบถามข้อมูลได้ที่องค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรี โทรศัพท์ 0-3239-5426
8. อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ จังหวัดกาญจนบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของกาญจนบุรี ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลเขาโจด อำเภอศรีสวัสดิ์ จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร มีสภาพเป็นผืนป่าอุดมสมบูรณ์ และมีธรรมชาติสวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นน้ำตก หน้าผา และถ้ำธารลอด และยังมีเขาหินปูนรูปร่างแปลกตา มีหลักฐานว่าบริเวณป่านั้นมีเส้นทางเดินทัพของพม่าและกองทัพญี่ปุ่นในอดีต จึงมีความสำคัญในด้านประวัติศาสตร์ด้วย ไฮไลต์คือ “ถ้ำธารลอดน้อย” และถ้ำธารลอดใหญ่ โดยภายในถ้ำธารลอดน้อยที่มีหินงอกหินย้อย มีธารน้ำไหลลอดผ่าน ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของจงโคร่งหรือหมาน้ำ สัตว์หายาก ส่วนถ้ำธารลอดใหญ่มีลักษณะคล้ายสะพานหินธรรมชาติ กว้างมากกว่า 60 เมตร และสูงราว ๆ 40 เมตร เป็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ มีภาพเขียนสีรูปพญานาคที่ผนัง สวยงามอลังการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ - Chaloemrattanakosin National Park
9. พะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี
จุดชมวิวทะเลหมอกที่อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่บนสันเขาที่ระดับความสูง 950 เมตร จากระดับน้ำทะเล รายล้อมด้วยภูเขาสูงสลับซับซ้อน ตลอดเส้นทางขึ้นไปยังยอดเขาพะเนินทุ่งจะได้พบกับสัตว์ป่าและพืชนานาพรรณ บรรยากาศเงียบสงบ ซึ่งที่นี่สามารถกางเต็นท์พักแรมได้ตลอดทั้งปี โดยต้องจองพื้นที่กางเต็นท์ผ่านระบบออนไลน์ ทางเว็บไซต์ nps.dnp.go.th ล่วงหน้า 60 วัน พื้นที่กางเต็นท์รับได้ 150 คน/คืน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - Kaeng Krachan National Park
ทั้งนี้ การเที่ยวเขาพะเนินทุ่งจะมีเวลาสำหรับการขึ้นรถเพื่อขึ้น-ลงเขา ได้แก่
รอบเช้า (สำหรับไป-กลับเท่านั้น)
ขึ้น : ตั้งแต่เวลา 05.00-08.00 น. (เริ่มนับเวลาที่บ้านกร่าง)
ลง : ตั้งแต่เวลา 09.00-11.30 น.
รอบบ่าย (สำหรับพักค้างแรมเท่านั้น) ตั้งแต่เวลา 13.00-15.00 น.
10. จุดชมวิวเขาแดง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จุดชมวิวที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 157 เมตร จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 255 กิโลเมตร ซึ่งจุดชมวิวนี้อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติไปตามถนนลาดยาง 400 เมตร แล้วเดินขึ้นเขาไปอีก 300 เมตร เวลาที่เหมาะแก่การขึ้นชมวิวคือตอนเช้ามืด ประมาณ 05.30 น. เพราะสามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือขอบทะเลบ้านเขาแดงและทัศนียภาพรอบ ๆ ได้ดี อีกทั้งยังมีกิจกรรมล่องเรือคลองเขาแดง ตื่นตาไปกับวิวธรรมชาติป่าชายเลน พร้อมเสน่ห์ของวิถีชีวิตชุมชนชาวประมง ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอดจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว โดยแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวเขาแดงจำกัดที่ 100 คน/ช่วงเวลา สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-3282-1568 และ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด - Khao Sam Roi Yot National Park
11. อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม จังหวัดชลบุรี
เกาะสวยที่ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของอำเภอสัตหีบ จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 180 กิโลเมตร (ณ ท่าเทียบเรือเขาหมาจอ จุดขึ้นเรือ) อยู่ในความดูแลของกองทัพเรือ การท่องเที่ยวเกาะขามจึงต้องเป็นไปตามกฎของกองทัพเรือ และจำกัดจำนวนคนในแต่ละวัน โดยเกาะแห่งนี้อุดมไปด้วยแนวปะการังน้ำตื้นที่ทอดยาวอยู่รอบเกาะ มีกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวได้ทำมากมาย เช่น เล่นน้ำทะเล ชมปะการังน้ำตื้น เดินเล่นชมทัศนียภาพบนเกาะ และตกปลา เป็นต้น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kohkham.com
12. สวนพฤกษศาสตร์ระยอง จังหวัดระยอง
แหล่งเรียนรู้ทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดระยอง ตั้งอยู่ในพื้นที่บึงสำนักใหญ่ (หนองจำรุง) ตำบลชากพง อำเภอแกลง จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร ที่นี่เป็นบึงน้ำจืดธรรมชาติคล้ายแอ่งกระทะ คอยรองรับน้ำที่ไหลมารวมกัน โดยมีเกาะตั้งอยู่กลางบึง ประกอบไปด้วยป่าเสม็ดขาวและสังคมพืชท้องถิ่นที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ โดยการเข้าไปเที่ยวชมแบ่งออกเป็น 3 เส้นทางหลัก ได้แก่ ทางน้ำ นั่งเรือชมธรรมชาติพื้นที่ชุ่มน้ำโดยรอบ, ทางน้ำ+ต่อด้วยทางบก นั่งเรือและเดินทางกลับออกจากเกาะ และทางบก ใช้รถจักรยานหรือการเดินเท้าเข้าสู่พื้นที่เกาะตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-3863-8880-1 หรือ เฟซบุ๊ก สวนพฤกษศาสตร์ระยอง
13. วนอุทยานเขาแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี
หนึ่งในที่เที่ยวจันทบุรีน่าสนใจ โดยวนอุทยานเขาแหลมสิงห์อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนคลองพลิ้ว จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 260 กิโลเมตร ที่นี่มีเอกลักษณ์เด่นอยู่ตรงแก่งหินที่ยื่นล้ำออกไปกลางทะเล ซึ่งดูแล้วคล้ายกับหัวสิงห์หมอบที่มองเห็นชัดทั้งลำตัว หาง เท้า และดวงตา นอกจากยังมีที่เที่ยวอื่น ๆ เช่น เกาะนมสาว เกาะจุฬา และอ่าวกระทิง เป็นอ่าวเล็ก ๆ ที่มีหาดทรายสีเหลืองนวล เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ การเดินทางไปเยือนสามารถไปได้ 2 เส้นทาง คือ ลงเรือข้ามฟากจากอำเภอแหลมสิงห์มาขึ้นที่หาดกระทิง และเดินเท้าอีกประมาณ 400 เมตร กับเส้นทางจากอำเภอท่าใหม่-บางกะไชย (ถนนบูรพาชลทิต) ระยะทางประมาณ 25 กิโลเมตร โดยเส้นทางนี้จะผ่านวัดเขาแหลมสิงห์ ตัดขึ้นภูเขาไปจนถึงที่ทำการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-3831-2750
ภาพจาก faak / Shutterstock.com
14. อุทยานแห่งชาติปางสีดา จังหวัดสระแก้ว-ปราจีนบุรี
แหล่งชมผีเสื้อแห่งภาคตะวันออก มีพื้นที่ครอบคลุมท้องที่อำเภอตาพระยา อำเภอวัฒนานคร อำเภอเมืองจังหวัดสระแก้ว และอำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 230 กิโลเมตร มีสภาพป่าอุดมสมบูรณ์ ประกอบด้วยทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญและมีค่า มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมดูผีเสื้อที่มีหลากหลายชนิด จุดชมอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานประมาณ 1 กิโลเมตร (ผีเสื้อเยอะระหว่างเดือนเมษายน-สิงหาคม) โดยการพบเห็นผีเสื้อขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ หากเป็นวันที่มีอากาศโปร่งอาจพบเห็นผีเสื้อได้เป็นจำนวนมาก, น้ำตกปางสีดา เป็นหน้าผาสูงประมาณ 10 เมตร มีน้ำไหลไม่ตลอดปี และทุ่งหญ้าบุตาปอด แหล่งหากินของสัตว์ป่าหลายประเภท เช่น กระทิง หมูป่า ช้างป่า เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติปางสีดา - Pang sida National Park
15. เขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา
จุดชมวิวที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดนครราชสีมา ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จากกรุงเทพฯ ระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร ที่นี่เป็นเขตป่าสงวนตามแผนที่-อาคารของกรมแผนที่ทหาร เมื่อปี 2545 เป็นจุดชมวิวบนยอดเขา ด้านบนมองเห็นวิวของเขื่อนลำตะคองและกังหันลมยักษ์ได้อย่างชัดเจน โดยการขึ้นข้างบนเขาไม่มีกำหนดเวลา เพราะเป็นพื้นที่เปิดและเป็นเขตชุมชน สำหรับการเที่ยวอ่างพักน้ำตอนบน และผายายเที่ยง เปิดบริการทุกวัน ไม่เสียค่าเข้าชม ฤดูหนาวและฤดูฝน เปิดเวลา 06.00-18.00 น. ฤดูร้อน เปิดเวลา 05.00-19.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0-4422-2570 (วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 08.30-15.30 น.)
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวภายในอุทยานแห่งชาติ ต้องจองคิวล่วงหน้าไม่เกิน 60 วัน ผ่านแอปพลิเคชัน QueQ สามารถตรวจสอบ/จองที่พักอุทยานแห่งชาติได้ที่ nps.dnp.go.th หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand
นี่เป็นเพียงที่เที่ยวธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ เพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมาฝากกัน ใครมีสถานที่ท่องเที่ยวโปรดในดวงใจที่ไหนบ้างแนะนำกันได้นะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดลพบุรี, เฟซบุ๊ก TAT Lopburi, park.dnp.go.th, thai.tourismthailand.org, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน - Kaeng Krachan National Park, park.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด - Khao Sam Roi Yot National Park, เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา, park.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก กฟผ.โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา, park.dnp.go.th, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติปางสีดา - Pang sida National Park, dnp.go.th และ kohkham.com