1. คลองมหาสวัสดิ์ จังหวัดนครปฐม
ไฮไลต์ไม่ควรพลาด คือ การไปเชยชมกับดอกบัวสวย ๆ ที่ “นาลุงแจ่ม” นาบัวของ คุณประไพ สวัสดิ์โต บนเนื้อที่กว่า 15 ไร่ มีบัว 2 สายพันธุ์ คือ บัวสัตตบุษย์ ที่มีกลีบสีขาว และบัวสัตตบงกช ที่มีกลีบดอกเป็นสีชมพูอมม่วง ซึ่งนอกจากชมบัวสวย ๆ แล้วยังมีกิจกรรมให้ได้ทำ เช่น พายเรือกลางนาบัว ชมและเก็บดอกบัว เรียนรู้วิธีการพับดอกบัว รวมถึงมีดอกบัววางจำหน่ายให้เลือกซื้อจากเกษตรกรโดยตรง เพราะการทำนาบัวเป็นอาชีพของชาวคลองมหาสวัสดิ์ที่ทำสืบต่อกันมานาน
โทรศัพท์ : 08 7828 1892
เฟซบุ๊ก : นาบัว ลุงแจ่ม
รีวิว : เที่ยวนครปฐม ล่องเรือชมวิถีชุมชน คลองมหาสวัสดิ์ ณ บ้านศาลาดิน
2. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร
ห้องเรียนธรรมชาติในโลกใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เรียกกันว่า “ป่าชายเลนอ่าวมหาชัย” ศูนย์เรียนรู้เกี่ยวกับป่าชายเลน ตั้งขึ้นเพื่อเป็นแหล่งค้นคว้า ศึกษาวิจัย ด้านธรรมชาติวิทยาของระบบนิเวศป่าชายเลน โดยที่นี่จัดอยู่ในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าชายเลนอ่าวมหาชัย ฝั่งตะวันตก มีพื้นที่ราว 3,872 ไร่ มีสองฝั่ง คือ ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก คั่นกลางด้วยแม่น้ำท่าจีน ด้านในมีสะพานไม้ที่ลัดเลาะไปตามป่าชายเลนยาว 1.5 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมป่าชายเลน และธรรมชาติรอบ ๆ ได้ โดยจะมีทางเดินเชื่อมออกไปยังท้องทะเล ณ บริเวณนั้นสามารถชมนกทะเลนับพันตัวได้อย่างสวยงาม พร้อมกับภาพของพระอาทิตย์ตกดินและสัมผัสกับอากาศที่เย็นสบาย
การเดินทาง : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนอ่าวมหาชัย ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำท่าจีน ฝั่งขวา เดินทางไปตามถนนสุทธิวาตวิถี ประมาณ 2.5 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าไป 6 กิโลเมตร
ที่ตั้ง : หมู่ 6 ตำบลบางหญ้าแพรก อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น.
รีวิว : ที่เที่ยวสมุทรสาคร จัดมาเน้น ๆ ใกล้กรุงเทพฯ มีเวลาน้อยก็เที่ยวได้
3. สวนน้ำชุมชนบ้านคลองแค จังหวัดสมุทรสาคร
ชุมชนริมคลองในอำเภอบ้านแพ้ว ตั้งอยู่ที่หมู่ 9 ตำบลหลักสาม เป็นชุมชนที่อยู่ใกล้ชิดกับสายน้ำ (เลียบคลองชลประทานดี 7 หรือคลองตาขำ) ชาวบ้านมีการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมสวนน้ำธรรมชาติ เหมาะแก่การเที่ยวพักผ่อนในช่วงวันหยุดสั้น ๆ ซึ่งจะมีซุ้มที่นั่งให้นักท่องเที่ยวได้นั่งริมคลอง มีบริการร้านอาหาร ร้านค้า เครื่องดื่ม รวมไปถึงเครื่องเล่นพื้นบ้านที่สามารถเล่นได้ในลำคลอง เช่น เรือถีบ, กระโดดหอ, สไลเดอร์ และแพเปียก เป็นต้น
การเดินทาง : จากถนนพระราม 2 ไปตามถนน 375 ข้ามสะพานข้ามคลองตาขำ ถึงกิโลเมตรที่ 2.4 จะพบสะพานกลับรถ จากนั้นวิ่งย้อนกลับมาข้ามสะพานอีกครั้ง เมื่อลงสะพานให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนน 4042 วิ่งเลียบไปประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบสวนน้ำอยู่ทางซ้ายมือ
ที่ตั้ง : ตำบลหลักสาม อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : บ้านคลองแค บ้านแพ้ว
รีวิว : เที่ยวชุมชนบ้านคลองแค จ.สมุทรสาคร พักใจแบบบ้าน ๆ และสนุกกับวิถีริมคลอง
4. ล่องแก่งแม่น้ำนครนายก จังหวัดนครนายก
หนึ่งในกิจกรรมการเที่ยวนครนายกยอดนิยม สำหรับการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก เพราะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี ทำให้สามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล แต่น้ำจะเยอะในช่วงฤดูฝน ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม จุดเริ่มต้นของการล่องแก่งจะอยู่ที่บริเวณเชิงสะพานท่าด่าน ไปจนถึงบริเวณบ้านวังยาว มีความยาก-ง่ายอยู่ที่ระดับ 3-5 แต่ในช่วงหน้าร้อนกระแสน้ำจะไม่แรงมากนัก ทำให้เด็ก ๆ ก็สามารถเล่นได้ โดยเรือที่ใช้ในการล่องแก่งจะเป็นเรือยาง ล่องไปตามแม่น้ำใช้เวลาราว ๆ 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากรีสอร์ตที่เข้าพัก ผู้ประกอบการที่ให้บริการล่องแก่งแม่น้ำนครนายก หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก โทรศัพท์ 0 3731 2284
ที่ตั้ง : หมู่ 1 ตำบลสาริกา อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก
เฟซบุ๊ก : ท่าด่าน ล่องแก่งนครนายก
รีวิว : 10 สถานที่ล่องแก่ง เที่ยวพักผ่อนกับสายน้ำเย็นชื่นใจ
ภาพจาก 895Studio / Shutterstock.com
5. ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จังหวัดสระบุรี
ภาพจาก SNP_SS / Shutterstock.com
นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ 3 เส้นทาง ได้แก่
- เส้นที่ 1 จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปน้ำตกเจ็ดคดเหนือ แล้วกลับทางเดิม (รอบเล็ก) ระยะทาง 1.5 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
- เส้นที่ 2 จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปน้ำตกเจ็ดคดเหนือ-เจ็ดคดกลาง-เจ็ดคดใต้ (รองกลาง) ระยะทาง 3 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง
- เส้นที่ 3 จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปน้ำตกเจ็ดคดเหนือ-เจ็ดคดกลาง-เจ็ดคดใต้ และเจ็ดคดใหญ่ (รอบใหญ่) ใช้เวลา 4 ชั่วโมง
การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 (พหลโยธิน) แยกขวาไปทางจังหวัดนครราชสีมา (ถนนมิตรภาพ) ประมาณ 20 กิโลเมตร กลับรถหน้าเทศบาลทับกวาง อีก 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 20 กิโลเมตร ก็จะถึงศูนย์ธรรมชาติและท่องเที่ยวเชิงนิเวศเจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า
ที่ตั้ง : หมู่ 5 ตำบลท่ามะปราง อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
รีวิว : 8 ข้อควรรู้ก่อนออกเที่ยวที่เจ็ดคด-โป่งก้อนเส้า จ.สระบุรี
6. น้ำตกสวนมะเดื่อ จังหวัดลพบุรี
แหล่งท่องเที่ยวที่เกิดจากตาน้ำผุดขึ้นมาจากใต้ดินและหิน ทำให้น้ำที่นี่ใส สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งยังแวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย บรรยากาศร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนชิล ๆ ประกอบไปด้วยน้ำตกทั้งหมด 12 ชั้น ได้แก่ ชั้นน้ำตกสองสาย, ชั้นน้ำตกมิตรภาพ, ชั้นน้ำตกมะเดื่องามล้ำ, ชั้นน้ำตกถ้ำมหัศจรรย์, ชั้นน้ำตกถ้ำชวนชม, ชั้นน้ำตกผางาม, ชั้นน้ำตกผาต้นไทร, ชั้นน้ำตกวังมัจฉา, ชั้นน้ำตกแก้วศรีจันทร์, ชั้นน้ำตกวังกระทง, ชั้นน้ำตกตากฟ้า และชั้นน้ำตกวังขุนราม ซึ่งแต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป ต้องไปพิสูจน์ด้วยตาตัวเองสักครั้ง
การเดินทาง : น้ำตกอยู่ริมทางหลวงหมายเลข 2282 ในเขตอำเภอพัฒนานิคม ฝั่งตะวันออกของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตรงข้ามกับสามแยกที่พักสายตรวจ ตำบลห้วยขุนราม
ที่ตั้ง : บ้านสวนมะเดื่อ ตำบลห้วยขุนราม อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
เฟซบุ๊ก : น้ำตกสวนมะเดื่อ ลพบุรี
7. น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี
น้ำตกชื่อดังของเมืองไทย ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ห่างจากตัวเมือง 65 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่ใหญ่และสวยงามบนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ ต้นน้ำเกิดจากลำห้วยม่องไล่ไหลผ่านลงจากยอดเขาและผาสูง 2,100 เมตร น้ำตกเอราวัณมีความยาว 1,500 เมตร แบ่งเป็น 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นมีลักษณะเป็นอ่างสามารถเล่นน้ำได้ นอกจากนี้ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติเอราวัณ ระยะทาง 1,060 เมตร ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผ่านป่าดิบเขา จุดชมวิว และป่าผลัดใบที่สวยงาม แนะนำว่าไปค้างสักคืนสองคืนจะช่วยชาร์จพลังและทำให้คุณสดชื่นแบบสุด ๆ
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ หมู่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติเอราวัณ Erawan National Park
รีวิว : ตะลอนเที่ยว 12 น้ำตกกาญจนบุรี ไปแล้วมีหรือจะพลาด
8. น้ำตกบ่อทราย เขื่อนสียัด จังหวัดฉะเชิงเทรา
น้ำตกจากลำธารที่เกิดเองโดยธรรมชาติ บนร่องน้ำของอ่างเก็บกักน้ำคลองสียัด ที่อวดโฉมความงดงามของสายน้ำใสเย็นที่ไหลผ่านเกาะแก่ง แนวสันหิน ท่ามกลางธรรมชาติของป่าเขาที่เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์ โดยมีการดูแลควบคุมจากคณะกรรมการหมู่บ้านบ้านคลองสียัด ที่จัดระเบียบอำนวยความสะดวก มีการ์ดคอยดูแลความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว และให้ชาวบ้านในพื้นที่เข้าไปขายอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อให้มีรายได้เลี้ยงครอบครัวอีกด้วย
การเดินทาง : จากกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ ให้ใช้เส้นทาง 304 (กรุงเทพฯ-มีนบุรี-ฉะเชิงเทรา) ระยะทาง 75 กิโลเมตร จากนั้นใช้เส้นทางที่ผ่านอำเภอแปลงยาว ไปอำเภอสนามชัยเขต ต่อด้วยทางหลวง 3259 ไปอำเภอท่าตะเกียบ โดยน้ำตกบ่อทรายจะอยู่ก่อนถึงตัวอำเภอท่าตะเกียบประมาณ 8 กิโลเมตร
ที่ตั้ง : หมู่ 18 บ้านคลองสียัด ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
เฟซบุ๊ก : เฟซบุ๊ก น้ำตกบ่อทรายเขื่อนสียัด
รีวิว : เที่ยวน้ำตกบ่อทราย เขื่อนสียัด จ.ฉะเชิงเทรา แช่น้ำคลายร้อนใกล้ ๆ กรุงเทพฯ
9. หาดปึกเตียน จังหวัดเพชรบุรี
ชายหาดที่อยู่ระหว่างชายหาดเจ้าสำราญและชายหาดชะอำ บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยแนวต้นไม้น้อยใหญ่มากมาย ชายหาดที่มีความกว้างไม่มากนักแต่สามารถลงเล่นน้ำได้ โดยมีสัญลักษณ์โดดเด่น ก็คือ รูปปั้นของนางผีเสื้อสมุทรและพระอภัยมณี ซึ่งเป็นวรรณคดีของสุนทรภู่ ตั้งอยู่ด้วย ทั้งนี้ บริเวณชายหาดก็มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักไว้รองรับ
การเดินทาง : สามารถเดินทางไปทางถนนเพชรเกษม ถึงอำเภอท่ายาง แล้วเลี้ยวซ้ายตรงสี่แยกคลองชลประทานสาย 2 ประมาณ 15 กิโลเมตร
ที่ตั้ง : ตำบลปึกเตียน อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้เข้าเที่ยวชมตลอดทั้งปี
และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ที่เราหยิบมาแนะนำกัน ใครชอบที่ไหนก็ปักหมุดไว้แล้วไปเที่ยวกันนะ อ๊ะ ๆ แต่ถึงอย่างนั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะเที่ยวกันบนความประมาท อย่าลืมดูแลตัวเองกันด้วยนะ
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ททท., ททท., อุทยานแห่งชาติเอราวัณ, phatthananikhom.go.th และ kanchanaburi.go.th