ซึ่งนอกจากการพากันไปเที่ยวงานเทศกาลตรุษจีนแล้ว ก็ยังมีที่เที่ยววันหยุดที่อื่น ๆ ที่เหมาะแก่การไปเที่ยวแบบครอบครัว วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอรวบรวมที่เที่ยวตรุษจีนมาฝากกันค่ะ ใครที่กำลังมองหาที่เที่ยวตรุษจีน 2561 ตามมาดูทางนี้เลยค่ะ
1. วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ซึ่งมีความเก่าแก่มากกว่า 200 ปี สร้างตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ์ สมัยอยุธยา มีพระอุโบสถขนาดใหญ่ หลังคาลด 4 ระดับ 3 ซ้อน มีช่อฟ้า 3 ชั้น ปิดทองประดับกระจก ประดับตกแต่งรอบพระอุโบสถอย่างสวยงาม ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระพุทธรูปปางสมาธิ ทำด้วยมณีสีเขียว หน้าตักกว้าง 48.3 เซนติเมตร สูงตั้งแต่ฐานถึงยอดพระเศียร 66 เซนติเมตร ประดิษฐานอยู่ในบุษบกทองคำ ประชาชนชาวไทยให้ความเคารพนับถือ ถือได้ว่าเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทยเลยทีเดียว วัดพระแก้วจะเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น.
2. ศาลเจ้าพ่อเสือ
เป็นศาลเจ้าจีนแต้จิ๋วที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่ถนนตะนาว ใกล้เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เป็นศาลเจ้าที่ประดิษฐาน เหี่ยงเทียงเสี่ยงตี่ (ตั่วเหล่าเอี๊ย) ซึ่งเป็นเทพเจ้าที่ชาวจีนแต้จิ๋วให้ความเคารพมาก โดยประชาชนทั่วไปมักจะมาที่นี่เพื่อกราบไหว้ขอพร เสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต หากใครมาขอลูกก็จะได้ลูกสมดั่งใจปรารถนา ซึ่งศาลเจ้าพ่อเสือจะเปิดให้เข้าขอพรทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-17.00 น.
3. ศาลหลักเมือง กรุงเทพฯ
ตั้งอยู่บริเวณมุมด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของท้องสนามหลวง ตรงข้ามพระบรมมหาราชวัง ถนนหลักเมือง ซึ่งเชื่อกันว่าหากได้มากราบไหว้ศาลหลักเมืองจะทำให้ชีวิตมั่นคง ตัดเคราะห์ ต่อดวงชะตา ส่งเสริมวาสนาบารมี ทำให้ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และจะมีแต่ความสงบสุข โดยศาลหลักเมืองจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ากราบไหว้ขอพรทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00-18.00 น.
4. วัดมังกรกมลาวาส หรือวัดเล่งเน่ยยี่
ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ย่านเยาวราช เป็นวัดจีนสังกัดคณะสงฆ์จีนนิกายแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่แก้ปีชงสุดฮอตของคนไทยเชื้อสายจีน โดยประชาชนมักจะมากราบไหว้ขอพรพระศากยมุนีพุทธเจ้า, พระอมิตาภพุทธเจ้า และพระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า รวมทั้งพระอรหันต์อีก 18 องค์ และเหล่าเทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย โดยวัดเล่งเน่ยยี่จะเปิดให้ประชาชนเข้าเยี่ยมชมตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น.
5. วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
วัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ที่ 666 ทางทิศตะวันตกของสถานีรถไฟหัวลำโพง ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร สิ่งที่โดดเด่นและสวยงามมากที่สุดอย่างหนึ่งของที่นี่ ก็คือพระมหามณฑปเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา สร้างจากหินอ่อนทรงไทยวิจิตรศิลป์ เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร (พระพุทธรูปทองคำ) มีทั้งหมด 4 ชั้น ลักษณะอาคารยิ่งใหญ่โอ่อ่า สวยงาม นอกจากนี้ประชาชนยังนิยมมากราบไหว้ขอพรพระพุทธทศพลญาณ หรือหลวงพ่อโต ซึ่งประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถอีกด้วย
6. วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร
วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวง ชั้นโท ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศบ้านและซื้อที่ดินข้างเคียงเพิ่มเติม สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2368 แล้วน้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว และต่อมารัชกาลที่ 3 ได้ทรงสร้างพระวิหารหลวงและพระประธานสำหรับพระวิหารหลวง นั่นก็คือ พระพุทธไตรรัตนนายก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อโต โดยทรงมีพระราชประสงค์ให้เป็นพระพุทธรูปใหญ่อยู่ริมแม่น้ำเหมือนกันกับที่วัดพนัญเชิง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดให้เข้าชมพระวิหารทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.
7. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
วัดอรุณราชวราราม เป็นวัดที่สวยงามและเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย มีประวัติที่ยาวนาน สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยอยุธยา อยู่ทางทิศตะวันออกของฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เดิมทีชื่อว่าวัดมะกอกนอก ในปี พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ได้มีพระราชประสงค์จะย้ายราชธานีมาตั้ง ณ กรุงธนบุรี จึงเสด็จกรีฑาทัพล่องลงมาทางชลมารคถึงหน้าวัดนี้พอดีในเวลารุ่งสาง จึงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดแจ้ง" เพื่อเป็นอนุสรณ์ว่าพระองค์ได้เสด็จมาถึงวัดนี้เมื่อเวลาอรุณรุ่ง
นอกจากประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจแล้ว วัดแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพระปรางค์, พระอุโบสถ, พระวิหารหลวง, ประตูซุ้มยอดมงกุฎ, มณฑปพระพุทธบาทจำลอง เป็นต้น โดยวัดอรุณราชวราราม เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
8. วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน
วัดพระศรีมหาธาตุ เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 18 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร สร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2483 มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญคือพระเจดีย์ศรีมหาธาตุ มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงกลมขนาดใหญ่ สูง 38 เมตร สร้างไว้เป็นเจดีย์ 2 ชั้น ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนอย่างมาก โดยเปิดให้ประชาชนเข้ากราบไหว้ขอพรทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.30-18.00 น.
9. วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร และภูเขาทอง
วัดสระเกศราชวรมหาวิหารและภูเขาทอง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บริเวณคลองมหานาค และคลองรอบกรุง แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในวัดสระเกศฯ ก็คือ พระบรมบรรพต หรือภูเขาทอง ซึ่งเป็นเจดีย์สีทอง ตั้งอยู่บนยอดเขาอย่างสง่างาม ภายในเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่ขุดค้นพบที่เมืองกบิลพัสดุ์ เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม กราบไหว้ขอพรได้ทุกวัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น.
ที่เที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับ
1. ตลาดร่มหุบ จังหวัดสมุทรสงคราม
2. อัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
ใครที่หลงรักบรรยากาศสวนผลไม้ และความเงียบสงบของบ้านเรือนริมฝั่งคลองในต่างจังหวัด ต้องไม่พลาดที่จะไปเยี่ยมเยือนอัมพวา ซึ่งเป็นตลาดริมน้ำที่มีบ้านเรือนเก่าแก่ตั้งเรียงรายอย่างสวยงาม ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีตลาดน้ำ ซึ่งมีอาหารพื้นบ้าน รวมทั้งพืชผักผลไม้ของชาวไร่ชาวสวนในบริเวณนั้นมาจำหน่ายกันในราคาย่อมเยามากมาย
นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกให้ได้เดินเลือกซื้อสินค้ากันอย่างเพลิดเพลินอีกด้วย หรือหากใครอยากไปเดินชมสวนผลไม้ ชมหิ่งห้อยยามค่ำคืน ที่นี่ก็มีเรือของชาวบ้านให้บริการเช่นกัน ตลาดน้ำจะมีสินค้าขายมากเป็นพิเศษในช่วงวันศุกร์-อาทิตย์ โดยจะเริ่มตั้งแต่ 12.00 น. เป็นต้นไป สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสมุทรสงคราม โทรศัพท์ 0 3475 2847-8
3. หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากกรุงเทพฯ ใช้เวลาเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น ก็สามารถที่จะไปสัมผัสกับท้องทะเลที่เงียบสงบในหัวหินได้แล้ว ซึ่งที่นี่ไม่ได้มีเพียงแค่ชายหาดสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งรวมสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อุทยานราชภักดิ์, ตลาดโต้รุ่งหัวหิน, เวเนเซีย หัวหิน, ตลาดน้ำหัวหินสามพันนาม, เพลินวาน หัวหิน, Cicada Market, ไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ วินยาร์ด และสวนน้ำแบล็ค เมาน์เทน เป็นต้น
4. หาดบางแสน จังหวัดชลบุรี
ภาพจาก FS11 / Shutterstock.com
หาดบางแสนเป็นชายหาดที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกรุงเทพฯ มีร้านอาหารตั้งอยู่ริมชายหาดมากมาย ที่นี่จึงกลายเป็นสถานที่ยอดนิยมของนักท่องเที่ยวที่ต้องการนั่งรับประทานอาหารเพื่อชมวิวทะเล ซึ่งบริเวณหาดสามารถเล่นน้ำได้ มีเก้าอี้ผ้าใบให้บริการอยู่บริเวณทิวมะพร้าวอันร่มรื่นริมหาด พร้อมทั้งยังมีบริการห่วงยาง บานาน่าโบ๊ท จักรยานให้เช่า ฯลฯ ที่พักที่นี่มีหลากหลายแบบให้เลือก ทั้งโรงแรม เกสต์เฮ้าท์ บังกะโล สามารถไปเที่ยวแบบเช้าไป-เย็นกลับได้อย่างง่ายดาย
5. หมู่บ้านมังกรสวรรค์ จังหวัดสุพรรณบุรี
สัมผัสบรรยากาศแห่งเมืองจีนที่หมู่บ้านมังกรสวรรค์ ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ ซึ่งติดกับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง รูปแบบของหมู่บ้านแห่งนี้ได้จำลองมาจากเมืองลี่เจียง ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่อายุหลายพันปี มีร้านขายสินค้า และของที่ระลึก โรงหนัง โรงนวด โรงเตี๊ยม ร้านอาหาร ให้ได้เดินเลือกซื้อ เลือกใช้บริการ นอกจากนี้ยังมีปฏิมากรรมที่งดงามอย่างเสามังกรฟ้า ซึ่งสามารถขึ้นไปชมวิวได้ 360 องศา บนหอคอยอีกด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสุพรรณบุรี โทรศัพท์ 0 3552 5863-4, 0 3552 5867, 0 3552 5880
6. เมืองเก่าอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นั่งรถสามล้อเที่ยวชมวัดวาอารามเก่าแก่ และไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดในเขตเมืองเก่าอยุธยา หรือจะไปเที่ยวการแสดงช้าง นั่งล่องเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ชมบรรยากาศบ้านเรือนเก่าแก่ริมฝั่งแม่น้ำก็ได้เช่นกัน สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ วัดพนัญเชิงวรวิหาร, วัดมงคลบพิตร, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดมหาธาตุ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์ และวัดท่าการ้อง เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพระนครศรีอยุธยา โทรศัพท์ 0 3524 6076
7. อุทยานวังตะไคร้ จังหวัดนครนายก
สถานที่พักผ่อนอยู่ในอำเภอเมือง มีพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ และด้วยเพราะพื้นที่ภายในที่ค่อนข้างกว้าง จึงอนุญาตให้นำรถยนต์ขับชมภายในบริเวณได้ มีลำธารที่ไหลผ่านโขดหินและซอกผา เหมาะแก่การพาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำล่องแก่งกันได้อย่างสบายใจ พร้อมดื่มด่ำธรรมชาติ และอากาศที่สดชื่นได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ ไว้เอาใจนักท่องเที่ยวที่ชอบแอดเวนเจอร์อีกด้วย
ที่เที่ยวแบบพักค้างคืน
1. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง
2. เกาะทะลุ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เกาะทะลุ เป็นเกาะเล็ก ๆ ตั้งอยู่ห่างจากชายฝั่งอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพียงประมาณ 20 นาที ใครที่ชอบการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และบรรยากาศเงียบสงบต้องไม่พลาดที่จะมาเยือนที่นี่ เพราะเกาะทะลุเป็นเกาะส่วนตัว มีรีสอร์ทเพียงแห่งเดียวเท่านั้น พร้อมทั้งยังอนุรักษ์แนวปะการังและธรรมชาติรอบ ๆ เกาะอย่างดี ที่นี่จึงเป็นสถานที่ดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
นอกจากนี้ภายในเกาะยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ หาดทรายขาวสะอาด และกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เกาะทะลุ ไอส์แลนด์ รีสอร์ท โทรศัพท์ 08 9918 3715, 0 3244 2636 และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทรศัพท์ 0 3251 3885
3. เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี
ใครที่รักกิจกรรมกลางแจ้งต้องไม่พลาดกิจกรรมโดน ๆ อาทิ การดำน้ำดูปะการัง, เรือลากร่มชูชีพ, การเล่นเรือสกี, การเล่นสกูตเตอร์ เป็นต้น สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจบนเกาะล้าน อาทิ หาดตาแหวน, หาดทองหลาง, หาดสังวาลย์, หาดเทียน, จุดชมวิวเขานม และอื่น ๆ อีกมากมาย สอบถามรายละเอียดได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา โทรศัพท์ 0 3842 7667, 0 3842 8750, 0 3842 3990
4. เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
ถ้าอยากไปเที่ยวทะเลแบบบรรยากาศเงียบสงบ อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้งบไม่มากมายนัก ต้องที่นี่เลยค่ะ เกาะสีชัง เป็นตัวเลือกที่ดีมาก ๆ มีที่พักหลากหลายแบบ ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย ไม่มีสิ่งบันเทิงรบกวนการพักผ่อน หาดทรายยังคงสะอาดตา มีที่เที่ยวทางประวัติศาสตร์ให้เที่ยวชม ซึ่งหลายคนต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเกาะสีชัง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติก
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะแล้ว ที่นี่ยังมีร้านอาหารทะเลสด สะอาด อร่อย และราคาไม่แพงอยู่หลายร้าน ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ จึงมีนักท่องเที่ยวข้ามฝั่งมาเพื่อเที่ยวที่นี่กันอย่างหนาตา สอบถามข้อมูลและการเดินทางเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานพัทยา โทรศัพท์ 0 3842 7667, 0 3842 8750, 0 3842 3990
5. เกาะกูด จังหวัดตราด
เกาะกูด เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวที่ชอบความเงียบสงบและท้องทะเล ด้วยที่นี่อยู่ห่างจากแผ่นดินใหญ่ มีธรรมชาติของท้องทะเลที่สวยงามสมบูรณ์ ไม่มีความบันเทิงมากนัก แต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมทั้งยังมีโรงแรมหรูหราตั้งอยู่ที่นี่มากมาย นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะกูดจะได้เที่ยวชมชายหาดต่าง ๆ ที่ขาวสะอาดตา ดำน้ำดูปะการังหลากสีสัน เที่ยวชมน้ำตกคลองเจ้าที่สวยงาม พร้อมทั้งชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่เรียบง่าย ถือได้ว่าใครมาที่นี่จะได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แน่นอน สอบถามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตราด โทรศัพท์ 0 3959 7259
6. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
อำเภอสวนผึ้ง เป็นพื้นที่ที่มีธรรมชาติของป่าเขาที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ ใครที่ชอบท่องเที่ยวภูเขาไม่ควรมองข้ามที่นี่เลย ซึ่งนอกจากสวนผึ้งจะมีวิวทิวทัศน์ของภูเขาที่สวยงามแล้ว ที่นี่ยังมีที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ Coro Field ฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่น, บ้านหอมเทียน, ตลาดน้ำสวนผึ้ง Veneto, เขากระโจม, โป่งยุบ, น้ำตกเก้าชั้น, จุดชมวิวห้วยคอกหมู และไร่องุ่นปัญญาสวรรค์ เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 0 3247 1005-6
7. สังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
สัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายของชาวไทยและชาวมอญที่อาศัยอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ภายในดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขาและธรรมชาติ ที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ เดินเที่ยวชมสะพานมอญ ซึ่งเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ล่องเรือชมบ้านเรือนริมน้ำ พร้อมกับไปชมเมืองบาดาล ที่จมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำในช่วงน้ำขึ้น และจะโผล่ขึ้นมาให้เห็นอย่างสง่างามในช่วงน้ำลด แวะไปสักการะกราบไหว้ขอพรหลวงพ่ออุตตมะที่วัดวังก์วิเวการาม แล้วไปสนุกสนานกับการล่องแพที่ห้วยซองกาเรีย
นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ที่น่าสนใจ อาทิ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร, อุทยานแห่งชาติเขาแหลม, น้ำตกกระเต็งเจ็ง, ด่านเจดีย์สามองค์, น้ำตกเกริงกระเวีย, น้ำตกคลีตี้, น้ำตกตะเคียนทอง เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานกาญจนบุรี โทรศัพท์ 0 3451 1200, 0 3451 2500
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงที่เที่ยวตรุษจีนใกล้กรุงเทพฯ เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น ใครที่ชอบเที่ยวแบบไหน ก็เตรียมตัววางแผนการเดินทาง จับจองที่พักกันไว้ได้ก่อนเลยค่ะ พอถึงวันเดินทางจริง ๆ จะได้ไม่วุ่นวาย ตรุษจีนปีนี้ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้านะคะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, , เฟซบุ๊ก ศาลเจ้าพ่อเสือเสาชิงช้า, dhammathai.org, wattraimitr-withayaram.com, เฟซบุ๊ก วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร, watarun.org, watphrasri.org, suphan.biz, เฟซบุ๊ก เขื่อนกระเสียว, taluisland.com, kanchanaburi.go.th