12 ที่เที่ยวนครนายกน่าสนใจ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ไปได้บ่อยๆ

         นครนายก จังหวัดเล็ก ๆ ในภาคกลาง แต่หารู้ไม่ว่าที่นี่เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติและโบราณสถานที่สำคัญมากมาย ที่สำคัญเป็นจังหวัดที่เงียบสงบ เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อน ถ้าจะบอกว่าจังหวัดนครนายกเป็นเมืองในฝันของคนกรุงอีกจังหวัดหนึ่งก็คงจะไม่ผิดนัก หลายคนที่มีโอกาสไปเที่ยวที่นั่นแล้ว เกิดติดใจและอยากที่จะกลับไปเที่ยวนครนายกอีกครั้ง แต่จะไปที่เดิมซ้ำ ๆ ก็กลัวจะเบื่อ วันนี้เราเลยถือโอกาสขอแนะนำสถานที่เที่ยวในจังหวัดนครนายกที่อื่น ๆ เผื่อเป็นแผนไว้สำหรับการไปทริปนครนายกครั้งต่อไปของเพื่อน ๆ กัน

          วัดเก่าแก่แห่งหนึ่งในจังหวัดนครนายก ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา ทางไปน้ำตกสาริกา-นางรอง สถานที่ศักดิ์สิทธิ์มงคลที่ใครผ่านไปผ่านมาต้องแวะเข้ามากราบไหว้ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 วัดแห่งนี้มีเรื่องราวเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ โดยสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 กองทัพญี่ปุ่นได้เลือกบริเวณที่ตั้งของวัดเป็นจุดพักทัพของกองพันทหารที่ 37 ซึ่งมีจุดหมายที่จะไปรวมพลกันที่บริเวณเขาชะโงก ทั้งนี้ได้ค้นพบโครงกระดูกของทหารญี่ปุ่นใกล้กับวัดพราหมณี ดังนั้นสมาคมทหารสหายสงครามกองพลญี่ปุ่นที่ 37 จึงได้สร้างอนุสรณ์สถานไว้เพื่อเป็นที่ระลึกถึงทหารญี่ปุ่น นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีสวนสัตว์จำลอง มีรูปปั้นสัตว์ป่ามากมาย และพระพุทธรูปเก่าแก่ทรงเครื่องดอกพิกุล พระโอษฐ์แดง หรือ "พระพุทธรูปปากแดง" ซึ่งเป็นที่เคารพของชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก

2. รอยพระพุทธบาทจำลองเขานางบวช



          ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา รอยพระพุทธบาทแห่งนี้อยู่ภายในมณฑปบนยอดเขานางบวช มีความสูง 100 เมตร ทางขึ้นเขามีบันไดคอนกรีตไปยังตัวมณฑปเป็นจำนวนทั้งสิ้น 227 ขั้น ทุกปีจะมีการจัดงานนมัสการรอยพระพุทธบาทช่วงกลางเดือน 5 เป็นประจำทุกปี และยังเป็นสถานที่จัดงานตักบาตรเทโวโรหณะอีกด้วย มีตำนานเล่าว่ารอยพระพุทธบาทแห่งนี้เป็นประจักษ์พยานความรักอมตะระหว่าง "ท้าวปาจิต" และ "พระนางองพิมพ์เทวี" ที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคความรัก จนพระอินทร์ได้มอบแหวนให้นางอรพิมพ์เทวี ซึ่งเมื่อใดก็ตามที่นางสวมแหวนนี้ร่างจะเป็นชาย และได้มาบวชที่วัดแห่งนี้เพื่อความปลอดภัยของตน จนท้าวปาจิตออกตามหาจนเจอ และอุบัติเป็นพระพุทธเจ้า ทั้งยังได้ประทับรอยพระพุทธบาทไว้ให้สักการบูชา

3. วัดนางรองและพระบรมรูปรัชกาลที่ 8


          วัดขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในตำบลหินตั้ง บนยอดเนินเขา เดิมเป็นที่พักสงฆ์ที่ได้พัฒนามาเป็นวัด ภายในวัดมีพระบรมรูปหล่อเท่าองค์จริงของรัชกาลที่ 8 ซึ่งเป็น 1 ใน 4 องค์ของประเทศไทย ได้แก่ วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลอานันทมหิดล และวัดนางรอง ซึ่งสมเด็จย่าได้สร้างขึ้นแล้วนำมาถวายที่วัดแห่งนี้ไว้เมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2514 ต่อมาปลายปี พ.ศ. 2546 ได้จัดสร้างพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 และได้นำมาไว้คู่กัน ซึ่งแลดูสวยงาม และเป็นสง่าอย่างยิ่ง นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดยังมีจุดชมทิวทัศน์บนวิหารระฆังที่สูงจากพื้นดิน ประมาณ 18 เมตร แบ่งเป็น 5 ชั้น เป็นจุดชมวิวรอบ ๆ และสามารถมองเห็นเขื่อนขุนด่านปราการชลได้อย่างชัดเจน

4. น้ำตกสาริกา


          น้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ความสวยงามของน้ำตกแห่งนี้อยู่ที่ลักษณะสายน้ำที่โยนตัวลงมาจากหน้าผาสูงชัน ในป่าทึบ ที่มีความสูงถึง 9 ชั้นด้วยกัน โดยแต่ละชั้นมีหินธรรมชาติรองรับน้ำ กลายเป็นแอ่งน้ำขนาดเล็กและไม่ลึกมาก ให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำได้ตามอัธยาศัย บริเวณด้านหน้าน้ำตกมีศาลเจ้าพ่อปลัดจ่างและเจ้าแม่สาริกา อันเป็นที่เคารพนับถือของชาวนครนายกและคนทั่วไป ช่วงที่เหมาะสำหรับการมาเที่ยวที่น้ำตกแห่งนี้ อยู่ในช่วงฤดูฝน ที่มีจำนวนปริมาณน้ำค่อนข้างมาก ทั้งนี้โดยรอบบริเวณน้ำตก มีร้านอาหาร ห้องบริการอาบน้ำ และร้านขายของที่ระลึก และ "ถ้ำสาริกา" สถานที่ที่อาจารย์มั่น ภูริทัตโต เคยมาบำเพ็ญศาสนธรรมที่นี่มาก่อน

5. น้ำตกเหวนรก


          หนึ่งในน้ำตกที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดนครนายก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สภาพโดยรอบบริเวณน้ำตกเป็นผืนป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งนี้ธารน้ำของน้ำตกเหวนรก เกิดจากน้ำลำธารคลองสมอปูน และสายธารเล็ก ๆ มากมายหลายสาย ไหลรวมกันตกลงสู่หน้าผาสูงชัน และด้วยเพราะปริมาณน้ำที่มาก ทำให้ทุกครั้งที่สายน้ำไหลตกลงมากระทบกับแผ่นผาเบื้องล่าง จนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ก้องไปทั้งหุบเขา และเป็นที่มาของการขนานนามน้ำตกแห่งนี้ว่า "น้ำตกเหวนรก" ดังนั้นนักท่องเที่ยวควรระมัดระวังระหว่างการเที่ยวชมน้ำตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงน้ำหลาก อย่าเข้าใกล้ริมผามากเกินไป เพราะนอกจากหินจะลื่นแล้ว คลื่นน้ำอาจทำอันตรายให้นักท่องเที่ยวพลัดตกได้อีกด้วย

6. อุทยานพระพิฆเนศ

          อุทยานพระพิฆเนศ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกประชาเกษม ตำบลสาริกา เป็นที่ประดิษฐานเทวรูปพระพิฆเนศขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ นับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อีกแห่งหนึ่ง ของเมืองไทย นอกจากจะมีพระพิฆเนศองค์ใหญ่แล้ว ยังมีพระพิฆเนศ 108 ปาง ให้ชม พระบรมสารีริกธาตุไว้ให้นักท่องเที่ยวได้กราบไหว้บูชา ว่ากันว่ามีเคล็ดลับในการขอพรกับพระพิฆเนศที่นั่นว่า ให้ขอพรกับหนู ซึ่งเป็นบริวารของพระพิฆเนศ ด้วยการกระซิบ และเอามือป้องไว้ที่หูของหนู โดยมืออีกข้างปิดหูข้างหนึ่งของหนูเอาไว้ เชื่อกันว่าพรที่เราขอจะส่งไปถึงองค์พระพิฆเนศ ช่วยให้เราสมหวังได้ตามที่ใจต้องการ

7. เขื่อนขุนด่านปราการชล


          เขื่อนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน เขื่อนที่สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชนชาวจังหวัดนครนายกและจังหวัดใกล้ เคียง เป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาวที่สุดในโลก โดยรับน้ำที่ไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นอกจากในแง่ประโยชน์เชิงเกษตรกรรม อุปโภค บริโภค และเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาแล้วนั้น ปัจจุบันที่นี่ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครนายก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาที่นี่มักติดใจกับความสวยงามของทิวทัศน์สวย ๆ เมืองนครนายกด้านหลังเขื่อน หรือจะเดินเล่นรับลมชิล ๆ ถ่ายรูปก็ได้ตามแต่อัธยาศัย ทั้งยังมีร้านค้า ร้านอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอยู่โดยรอบบริเวณเขื่อนอีกด้วย

8. อุทยานวังตะไคร้

          สถานที่พักผ่อน อยู่ในอำเภอเมือง ใกล้กับน้ำตกนางรอง ภายในตกแต่งด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพรรณ บนพื้นที่กว่า 1,500 ไร่ และด้วยเพราะพื้นที่ภายในที่ค่อนข้างกว้าง จึงอนุญาตให้นำรถยนต์ขับชมภายในบริเวณได้ มีลำธารที่ไหลผ่านโขดหินและซอกผา เหมาะแก่การพาเด็ก ๆ มาเล่นน้ำล่องแก่งกันได้อย่างสบายใจ พร้อมดื่มด่ำธรรมชาติ และอากาศที่สดชื่นได้ตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมผจญภัยต่าง ๆ ไว้เอาใจนักท่องเที่ยวที่ชอบแอดเวนเจอร์อีกด้วย ส่วนใครที่อยากจะซึมซับบรรยากาศนี้นาน ๆ ที่นี่ก็มีบริการบ้านพักที่เรียบง่าย แต่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์ความเป็นบ้านไทยโบราณ ภายในบ้านเย็นสบาย ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่นั่นเอง

9. ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ


          แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติอันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระ เจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่ที่บริเวณบ้านท่าด่าน ภายในการดำเนินงานของศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติแห่งนี้ประกอบด้วย อาคารนิทรรศการต้อนรับนักท่องเที่ยว อาคารประชุม ร้านค้า แปลงสาธิตกิจกรรมกลางแจ้ง แปลงสาธิตทฤษฎีแก้มลิง แปลงปลูกหญ้าแฝก แปลงทฤษฎีแผนใหม่ จุดสาธิตเรื่องพลังงานที่บริเวณ Out Door Theater หรือพิพิธภัณฑ์ระบบแสงสีเสียง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาคารจัดนิทรรศการการแสดงแนวคิดโครงการอันเนื่องมาจากพระ ราชดำริ โดยแบ่งแสดงแนวคิดการบริหารจัดการ 4 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่ การบริหารจัดการดิน การบริหารจัดการน้ำ การบริหารจัดการป่า เป็นต้น นักท่องเที่ยวจะได้องค์ความรู้ที่สอดแทรกอยู่แทบจะทุกตารางนิ้วในศูนย์ภูมิ รักษ์ธรรมชาติแห่งนี้อย่างแน่นอน

10. เมืองโบราณดงละคร


          ตั้งอยู่ในเขตตำบลดงละคร อำเภอเมือง แหล่งโบราณสถานของจังหวัด แต่เดิมเป็นผืนป่าที่เต็มไปด้วยเนินซากโบราณ ทำให้ชาวบ้านเรียกบริเวณนี้ว่าเมืองลับแล เป็นสถานที่ตั้งเมืองโบราณสมัยทวารวดีและขอม ภายในมีเมืองโบราณหรือดงเล็ก ลักษณะเป็นรูปไข่อยู่ค่อนไปทางทิศตะวันตกของเนินดิน มีคันดินเป็นกำแพง 2 ชั้น ชาวบ้านเรียกกันว่า "สันคูเมือง" และมีคูน้ำล้อมรอบ ลักษณะเดียวกับเมืองโบราณทั่วไปในสมัยทวารวดี โบราณวัตถุที่ค้นพบบริเวณโบราณสถาน ได้แก่ เศษภาชนะดินเผา ภาชนะเคลือบสีฟ้า ลูกปัดแก้ว ลูกปัดหิน เบี้ยดินเผา แผ่นตะกั่ว ตุ้มหูสัมฤทธิ์ เป็นต้น มีเรื่องเล่าว่า ได้ยินเสียงมโหรีเหมือนละครในวังดังออกมาจากป่ารกแห่งนี้ ทุกวันโกนวันพระจะได้ยินเสียง กระจับปี่ ซอ ปี่พาทย์ มโหรี ขับกล่อมคล้าย ๆ กับมีการเล่นละครในวัง ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า "ดงละคร"

11. หมู่บ้านไม้ดอกไม้ประดับ คลอง 15


          จากเดิมที่ชาวบ้านย่านคลอง 15 ประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นหลัก จนได้รับการพัฒนาปรับเปลี่ยนท้องทุ่งนาให้เป็นแปลงปลูกไม้ดอกไม้ประดับ ปัจจุบันการเพาะพันธุ์ไม้ดอกและไม้ประดับ กลายเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านย่านคลอง 15 ยกระดับชีวิตของชาวบ้านให้ดีขึ้นตามลำดับ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นกับดอกไม้สีสันสวยสดงดงาม ที่เบ่งบานรอต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็นทางเดินยาว มีทั้งไม้ดอก ไม้ประดับ บอนไซ ไม้ถัก ไม้ล้อม และอุปกรณ์ในการจัดสวน ในราคาขายส่ง นักท่องเที่ยวคนไหนที่ชอบต้นไม้เป็นทุนเดิม จึงไม่ควรพลาดที่จะแวะชม แวะอุดหนุน ต้นไม้ของชาวบ้านกลับบ้านไปสักต้นสองต้นด้วยนะคะ

12. โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า

          สถานที่ให้การศึกษาแก่ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตรแห่งกองทัพ ไทย นอกจากเป็นสถานศึกษาแล้ว ที่นี่ยังมีสถานที่น่าสนใจและกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ให้นักท่องเที่ยวได้เพลิดเพลินและสนุกสนาน ได้แก่ พระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ศาลาวงกลมหรือศาลาลม อาคารพิพิธภัณฑ์ 100 ปี ศาลเจ้าพ่อขุนด่าน พระพุทธฉาย เป็นต้น นอกจากนี้นักท่องเที่ยวสามารถขับรถหรือขี่จักรยานเที่ยวชมได้โดยรอบรวมถึง กิจกรรมต่าง ๆ เช่น สนามยิงปืน สนามกอล์ฟ สนุกเกอร์ คาราโอเกะ กิจกรรมผจญภัยที่ท้าทายได้แก่ ไต่หน้าผาจำลอง กระโดดหอสูง ยิงปืนบีบีกัน เป็นต้น ใครที่ชอบกิจกรรมแอดเวนเจอร์ ที่นี่ก็มีบริการให้คุณพร้อมเสร็จสรรพ

          ใคร มีโอกาสไปนครนายกเที่ยวนี้อย่าลืมแวะไปตามสถานที่ท่องเที่ยวที่เราแนะนำดูนะ คะ เอาจริง ๆ แล้วนครนายกถือเป็นจังหวัดที่ใช้เวลาเดินทางไม่นานจากกรุงเทพฯ แถมยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งธรรมชาติ ป่าเขา และโบราณสถานต่าง ๆ  ที่ล้วนแล้วแต่มีความสวยงามและสำคัญด้วยกันทั้งนั้น เราเลยอยากชวนเพื่อน ๆ ทุกคนไปเที่ยวที่นครนายกกันเยอะ ๆ รับรองว่าจะเป็นจังหวัดที่สร้างความสุขให้กับการท่องเที่ยวของคุณอย่างแน่ นอน

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
, ldd.go.th, wangtakrai.com, เฟซบุ๊ก ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ (bhumirak), bhumirak.com, เฟซบุ๊ก ศูนย์ไม้ดอกไม้ประดับคลอง ๑๕, เฟซบุ๊ก ททท. สำนักงานนครนายก (นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว), watnangrong.com, เฟซบุ๊ก การท่องเที่ยว รร.จปร., crma.ac.th