10 ที่เที่ยวสุพรรณบุรี ไฮไลท์เด็ดที่ต้องไปให้ครบ

           สุพรรณบุรี จังหวัดที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก แต่ซุกซ่อนสถานที่ท่องเที่ยวสุพรรณบุรีน่าสนใจเอาไว้เพียบ

           ถึงแม้ว่าสุพรรณบุรีในวันนี้จะเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยความทันสมัย มีแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่ก็ยังแฝงไว้ซึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ยังคงกลิ่นอายของอดีตในย่านเมืองเก่า ทั้งตลาด วัดวาอาราม เหล่านี้เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เราเห็นถึงการผสมผสานความทันสมัยและอดีตได้อย่างลงตัว วันนี้เราเลยจะขออาสาพาไปเที่ยวสุพรรณบุรี ดูสิว่าแต่ละสถานที่มีเสน่ห์น่าดึงดูใจให้ไปเที่ยวอย่างไรบ้าง
1. ตลาดสามชุก

          ตลาดเก่าแก่ที่มีอายุร่วม 100 ปี ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน เสน่ห์ของตลาดแห่งนี้หนีไม่พ้นในเรื่องบรรยากาศโดยรอบ ที่ยังคงไว้ซึ่งวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เราจะเห็นอาคารไม้หลังเก่าแก่ที่คนในชุมชนต่างร่วมใจกันรักษา จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนที่ตลาดแห่งนี้ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งรวมของอร่อย ที่ใครหลายคนจำต้องยอมยกนิ้วให้ ทั้งร้านก๋วยเตี๋ยวที่ให้เครื่องมาเต็มชาม ร้านข้าวห่อใบบัว ร้านเป็ดย่าง ร้านห่อหมก รวมถึงร้านขนมไทยหลากหลายชนิด ทั้งทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง สาลี่ ขนมเปี๊ยะ ทองม้วนโบราณ สารพัดบรรดาอาหารที่ต่างยกพลความอร่อยมาไว้ที่ตลอดสามชุกแห่งนี้ งานนี้คงต้องมาอุดหนุนอยู่หลายรอบกว่าจะกินของอร่อยได้หมดตลาด

2. หอคอยบรรหาร-แจ่มใส

          ตั้งอยู่ใจกลางเมืองสุพรรณบุรี บนถนนนางพิม เป็นหอคอยแห่งแรกและสูงที่สุดในประเทศไทย บนหอติดตั้งกล่องส่องทางไกล เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมวิวมุมสูงของเมืองสุพรรณได้แบบ 360 องศา นอกจากเดินชมวิวสวย ๆ แล้ว ในแต่ละชั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจอื่น ๆ มากมาย เช่น ชั้น 4 แสดงภาพพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองสุพรรณ ชั้น 3 จุดชมวิวและจำหน่ายของที่ระลึกต่าง ๆ ชั้น 2 มีร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม พร้อมที่นั่งติดกระจกบานใหญ่ และชั้น 1 แวะช้อปของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้าน

          นอกจากนี้บริเวณรอบ ๆ หอคอยยังมีสวนประดับดอกไม้นานาชนิด รวมถึงเพลิดเพลินกับน้ำพุดนตรี ที่โลดเล่นตามจังหวะของเสียงเพลงให้นักท่องเที่ยวให้ชมเพลิน ๆ อีกด้วย ทั้งนี้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท. สำนักงานสุพรรณบุรี (สสพ.) จังหวัดสุพรรณบุรี จังหวัดอ่างทอง จังหวัดชัยนาท โทร. 035 536 030

3. พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร (อุทยานมังกรสวรรค์)

          ตั้งอยู่ภายในบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ก่อตั้งขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน มีความสัมพันธ์ทางการทูตครบ 20 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2539 ภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้นำเสนอเรื่องราวความเป็นมาของชาวจีนในประเทศไทย ตลอดจนประวัติศาสตร์และอารยธรรมจีน แบ่งออกเป็น 18 ห้อง เล่าเรื่องตั้งแต่สมัยตำนานการสร้างโลกยุคเริ่มแรกประวัติศาสตร์จีน เรื่อยมาจนกระทั่งการสถาปนาสาธารณรัฐจีน ทั้งยังมีการจัดแสดงเรื่องราวประวัติความเป็นมาของพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีนในประเทศไทย ทั้งบุคคลสำคัญ ภูมิปัญญาผ่านสื่อจัดแสดงที่น่าสนใจและทันสมัย แสง สี และเสียงครบครัน

          ทั้งนี้ใกล้ ๆ กันเป็นที่ตั้งของ "หมู่บ้านมังกรสวรรค์" สถานที่ท่องเที่ยวที่ได้จำลองหมู่บ้านใน "เมืองลีเจียง" ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่โบราณอายุนับพันปีมาตั้งไว้ให้ได้เที่ยวชม

4. ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง

          ตั้งอยู่ใกล้ ๆ กับพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร เดิมศาลเจ้าพ่อหลักเมืองแห่งนี้เป็นศาลไม้ทรงไทย ปัจจุบันได้สร้างศาลเป็นรูปวิหารและเก๋งจีน เจ้าพ่อหลักเมืองเป็นพุทธประติมากรรมสลักบนแผ่นหินแบบนูนต่ำ ในพุทธศาสนาลัทธิมหายาน แบบศิลปะเขมร มีพระนามว่า พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของคนในจังหวัดและนักท่องเที่ยวทั่วไปให้ความเคารพ

          ทุกปีในช่วงเทศกาลสารทจีนจะมีประเพณีทิ้งกระจาด มีการแห่ขบวนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองไปรอบตัวเมืองสุพรรณอย่างยิ่งใหญ่ เช่น ขบวนกลองศึก ขบวนมังกร 9 เซียน ขบวนเทพธิดาโปรยดอกดาวเรือง เป็นต้น งานดังกล่าวจะจัดขึ้นตามปฏิทินจีน จึงไม่สามารถระบุวันได้แน่ชัด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถติดตามข่าวสารได้จากประชาสัมพันธ์จังหวัด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 035 521 690

5. หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย (บ้านควาย)

          สถานที่ที่รวบรวมและบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างสังคมไทยและควาย บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ นักท่องเที่ยวจะได้เห็นแบบจำลองวิถีชีวิตเกษตรกรรมดั้งเดิมของชาวนาไทย บ้านเรือนไม้ปลายท้องทุ่งนา เหล่านี้เป็นรูปแบบวิถีชีวิตที่หาไม่ได้จากเมืองหลวง ภายในพื้นที่บ้านควายแบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ เช่น หมู่บ้านชาวนา มีลานนวดข้าว คอกควาย บ้านเรือนไทยภาคกลาง เยี่ยมชมสวนผีเสื้อ สวนกล้วยไม้ และสวนสมุนไพร

          "บ้านควาย" จึงเปรียบเสมือนเป็นแหล่งรวบรวมศาสตร์ความรู้ต่าง ๆ ของการทำนา ที่สะท้อนให้เห็นความสำคัญของภาคเกษตรกรรมไทย อันเป็นรายได้หลักทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 089 036 4445, 086 345 9814, 086 345 9815


6. อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หรือปางอุ๋ง สุพรรณบุรี

          แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดสุพรรณบุรี ได้รับสมญานามว่าเป็น "ปางอุ๋ง สุพรรณบุรี" เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเหมาะสำหรับการพักผ่อนสูดอากาศบริสุทธิ์ มีลานกางเต็นท์ไว้สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการมาเที่ยวเขาวงคือช่วงเช้าและช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงที่บรรยากาศกำลังดี

          อ๊ะ ๆ แต่ขอเตือนก่อนว่าที่นี่ยังไม่ค่อยมีสัญญาโทรศัพท์ รับรองได้ว่าคุณจะได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มอิ่มแบบไร้การรบกวนจากโลกโซเชียลมีเดีย และยังไม่มีไฟฟ้าใช้ นักท่องเที่ยวต้องเตรียมอุปกรณ์ให้แสงสว่างไปด้วยตัวเอง และเนื่องจากอ่างเก็บเขาหุบเขาวงยังเป็นสถานที่เที่ยวใหม่ ที่พักและบริเวณกางเต็นท์อาจมีจำนวนไม่มากพอที่จะรองรับนักท่องเที่ยวได้หมด ยังไงก็ใจเย็น ๆ แบ่ง ๆ กันเที่ยวนะคะ

7. ตลาดเก้าห้อง

          ตลาดห้องแถวเก่าแก่ ตั้งฝั่งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีนที่มีอายุร่วม 100 ปี ในอดีตพื้นตลาดเก้าห้องยังเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญในจังหวัดสุพรรณบุรี ที่ถึงแม้ว่าในวันนี้ความเจริญจะวิ่งเข้ามาแทนที่ แต่เมื่อนักท่องเที่ยวได้เข้ามายังตลาดแห่งนี้ คุณจะรู้สึกได้ว่าเวลาเดินย้อนกลับหลัง เพราะที่นี่ยังคงมีกลิ่นอายของอดีตเก่า ๆ รูปแบบวิถีการดำเนินชีวิตแบบดั้งเดิมของชาวบ้านร้านค้า

          รวมถึงมี "หอดูโจร" สถานที่หนึ่งเดียวในสุพรรณ ที่กลายเป็นเอกลักษณ์ของตลาดเก้าห้อง ซึ่งแต่ก่อนเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปยังหอดูโจรได้ เดี๋ยวนี้ไม่สามารถปีนขึ้นไปดูวิวของชุมชนได้แล้ว เพราะทางตลาดห่วงเรื่องความปลอดภัย แต่ไม่ต้องห่วงที่ตลาดเก่าห้องยังมีมุมที่น่าสนใจอีกมากมายให้คุณได้เดินเที่ยวเล่นแบบเพลิน ๆ

8. อุทยานแห่งชาติพุเตย


          พื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดของจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพื้นที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่รักในการผจญภัย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย และรักการเดินป่า แถมยังมีลานกางเต็นท์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสและใกล้ชิดกับธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจต่าง ๆ มากมาย เช่น ชื่นชมความงามของ "ป่าสนสองใบ" บนเทือกเขาพุเตย อันเป็นป่าสนที่เจริญเติบโตในเฉพาะพื้นที่ภูเขาสูงชันเท่านั้น "หมู่บ้านกะเหรี่ยงตะเพินคี่" เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านกะเหรี่ยงชนกลุ่มน้อย ใกล้ ๆ กันนั้นยังมี "น้ำตกตะเพินคี่น้อย" น้ำตกขนาดเล็ก ที่มีความงดงาม น้อยคนนักที่จะได้สัมผัส และ "น้ำตกตะเพินคี่ใหญ่" น้ำตกขนาดเล็กสองชั้น และมีถ้ำที่สวยงามที่อยู่ในระหว่างการสำรวจ

9. หาดทรายห้วยกระเสียว

          ลำธารน้ำขนาดใหญ่ที่มีต้นน้ำมาจากอ่างเก็บน้ำกระเสียว เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนสำหรับคนทุกเพศทุกวัย โดยส่วนใหญ่นิยมพาลูกหลานมาเล่นน้ำ เพราะระดับน้ำที่นี่ไม่ลึก จึงไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัย ไม่ต้องห่วงในเรื่องของอาหารการกิน เพราะบริเวณดังกล่าวเต็มไปด้วยร้านค้าที่จำหน่ายอาหารมากมายหลายชนิด แถมยังมีซุ้มให้นั่งเล่น มีห่วงยางลอยน้ำไว้คอยบริการเด็ก ๆ ที่นี่จึงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ช่วยผ่อนคลายความร้อนให้ทั้งผู้มาเล่นน้ำและคนนั่งเฝ้าได้เป็นอย่างดี มีต้นไม้ใหญ่ที่คอยช่วยกำบังไอความร้อนจากดวงอาทิตย์ และให้ความร่มรื่นแก่ผู้ที่มาเยี่ยมเยือน "หาดทรายห้วยกระเสียว" อยู่เสมอ

10. บึงฉวาก

          แหล่งท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้โลกใต้น้ำบนพื้นที่กว่า 2,000 ไร่ ภายในประกอบด้วยส่วนของสวนสัตว์ และสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนทุเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงแดดร่มลมตก เราจะเห็นหลายครอบครัวพากันมานั่งชิลอยู่ริมบึง เพื่อคอยรับลมเย็น ๆ ที่พัดมา

          ภายในมีอาคารจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำ ที่รวบรวมสัตว์น้ำจืดและน้ำเค็ม พันธุ์ปลาทั้งของไทยและต่างประเทศมากกว่า 50 ชนิด พร้อมบอกอธิบายรายละเอียดอย่างชัดเจน รวมถึงยังมีอุโมงค์ให้เราดินลอดใต้ตู้ปลา ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับเด็ก ๆ ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว รับรองได้ว่าใครมาเที่ยวที่นี่ต้องได้รับทั้งความสุขและความเพลิดเพลินกลับบ้านไปไม่มากก็น้อย

          ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าที่สุพรรณบุรีมีที่เที่ยวที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หลายครั้งที่มาสุพรรณบุรีเรามักมีโอกาสได้ไปแค่สถานที่ที่เที่ยวหลัก ๆ เพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นเอง มาสุพรรณเที่ยวหน้าก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวตามสถานที่ที่เราบอกด้วยนะคะ เพียงใช้เวลาเดินทางไม่กี่ชั่วโมงจากกรุงเทพฯ เพื่อน ๆ ก็จะได้พบกับแหล่งท่องเทียวทั้งชื่อดังและชื่อใหม่ในจังหวัดสุพรรณบุรีอย่างแน่นอน

ขอบขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
, tatsuphan.net, suphan.biz, เฟซบุ๊ก พิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร สุพรรณบุรี, suphan.biz, buffalovillages.com, suphan.biz, เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติ