8 เหตุผล ที่ควรสะพายเป้ไปเช็กอิน ณ เกาะสีชัง

8 เหตุผลที่ควรสะพายเป้ไปเช็กอิน ณ เกาะสีชัง

          "เกาะสีชัง" มีประวัติอันยาวนาน ในอดีตเป็นเกาะสำหรับการแปรพระราชฐานของรัชกาลที่ 5 และพระราชวงศานุวงศ์ รวมทั้งเป็นที่พักตากอากาศของเหล่าขุนนาง พ่อค้า คนชนชั้นสูงในสมัยนั้น มีเรือนที่ประดับซึ่งสร้างขึ้นอย่างงดงาม ถูกโอบล้อมด้วยท้องทะเลและป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านบนเกาะมีการอนุรักษ์ธรรมชาติและประเพณีต่าง ๆ ไว้อย่างดีจากรุ่นสู่รุ่น

          ปัจจุบันเกาะสีชังเริ่มเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่มากขึ้น หลายปากหลายเสียงของคนที่ได้ไปเยือนเกาะแห่งนี้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าประทับใจอย่างมาก ซึ่งวันนี้เราก็ได้รวบรวมเหตุผลที่ไม่ควรพลาดการไปเช็กอินที่เกาะแห่งนี้ จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลย

1. ใกล้กรุงเทพฯ

          ด้วยระยะทางเพียงแค่ร้อยกว่ากิโลเมตรจากกรุงเทพฯ เราก็จะได้สัมผัสกับท้องทะเลใส หาดทรายขาว บรรยากาศเงียบสงบกันแล้ว ใช้เวลาเพียงแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงเท่านั้นสำหรับรถยนต์ส่วนตัว และประมาณ 3 ชั่วโมง สำหรับรถโดยสารทั่วไป เกาะสีชังจึงเป็นทะเลที่น่าคบสำหรับชาวบางกอกมาก ๆ

เกาะสีชัง

2. การเดินทางสะดวกสบาย

          เส้นทางจากกรุงเทพฯ ไปยังเกาะสีชังมีให้เลือกหลายเส้นทาง ทุกเส้นทางล้วนมีการก่อสร้างที่ดี มีป้ายบอกทางอย่างชัดเจน ทำให้การขับรถไปเองนั้นทำได้ไม่ยาก ปัจจุบันสามารถใช้บริการรถโดยสารประจำทาง รถตู้ ได้อย่างสะดวกสบาย

          เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว
 
          1. ใช้เส้นทางสายบางนา-ตราด ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่ตัวเมืองชลบุรี เพื่อไปยังท่าเรือเกาะลอย

          2. เส้นทางสายกรุงเทพฯ-มีนบุรี ทางหลวงหมายเลข 304 ไปยังตัวเมืองชลบุรีแล้วไปยังท่าเรือเกาะลอย

          เดินทางด้วยรถโดยสารประจำทาง

          สามารถขึ้นรถได้ทั้งที่สถานีเอกมัยและสถานีหมอชิต ให้ขึ้นรถกรุงเทพฯ-ศรีราชา เพื่อไปลงที่ห้างโรบินสัน ศรีราชา จากนั้นนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างเข้าไปยังเกาะลอย

          1. สถานีขนส่งหมอชิต เส้นหมอชิต-ศรีราชา รถปรับอากาศ ป. 1 รถรอบแรกเวลา 05.00 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 21.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2.30 ชั่วโมง

          2. สถานีขนส่งเอกมัย เส้นเอกมัย-ศรีราชา รถปรับอากาศชั้น 1 รถรอบแรกเวลา 05.00 น. เที่ยวสุดท้ายเวลา 21.00 น. และรถปรับอากาศชั้น 2 รถรอบแรกเวลา 07.15 รอบสุดท้ายเวลา 19.20 น.

          เดินทางด้วยรถตู้

          สามารถขึ้นรถได้ 3 ที่หลัก คือ อนุสาวรีชัยฯ สถานีขนส่งหมอชิต และฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต

          1. ขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ ท่ารถจะอยู่บริเวณใต้ BTS อนุสาวรีย์ฯ รถรอบแรกเวลา 05.30 รอบสุดท้ายเวลา 20.30 น. โทรศัพท์ 08 1249 0707

          2. สถานีขนส่งหมอชิต สามารถใช้บริการของบริษัทศรีราชาทัวร์ โทรศัพท์ 08 4127 0006

          3. ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต โทรศัพท์ 08 4127 0005

เกาะสีชัง

3. ธรรมชาติสวยงาม

          ด้วยความที่เกาะสีชังเป็นพื้นที่ที่ชาวบ้านในพื้นที่ให้ความร่วมมือในการรักษาสิ่งแวดล้อมภายในเกาะและบริเวณรอบ ๆ ทำให้เกาะแห่งนี้ยังคงสภาพของธรรมชาติที่งดงามและอากาศที่บริสุทธิ์มายาวนานมากกว่าร้อยปี รวมทั้งการดูแลและจัดการการท่องเที่ยว ก็ยังคงรณรงค์ให้มีการท่องเที่ยวในเชิงอนุรักษ์ น้ำทะเลรอบเกาะและหาดทรายภายในเกาะจึงยังใสสะอาด อากาศที่ดีเยี่ยมก็ยิ่งทำให้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ นักท่องเที่ยวจึงมั่นใจได้เลยว่าจะได้รับประสบการณ์อันสุดแสนพิเศษกลับบ้านแน่นอน
 
4. ใช้งบประมาณไม่มาก

          แค่มีเพียงเงินหลักพันก็สามารถเที่ยวได้รอบเกาะสีชังแล้ว เพราะค่าน้ำมันหรือค่าโดยสารรถประจำทางก็ไม่ได้มากมายอะไร อยู่เพียงหลักร้อย ส่วนที่พักบนเกาะก็มีให้เลือกหลากหลายราคาไล่ไปตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนถึงหลักพัน ราคาค่าข้าวหนึ่งจานขั้นต่ำก็อยู่เพียงแค่ 50 บาท ถ้าวางแผนดี ๆ มีเพียงแบงก์พันใบเดียวก็เอาทริปเกาะสีชังอยู่

เกาะสีชัง

5. วันเดียวก็เที่ยวได้

          ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้ทริปเกาะสีชังสามารถเกิดขึ้นและปิดจ็อบได้ภายใน 1 วัน อีกทั้งพื้นที่บนเกาะก็ไม่ได้มีมากเท่าไร จึงไม่ต้องใช้เวลามากมายในการไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ถ้าไม่ได้ต้องการมาเกาะสีชังเพื่อการค้างคืน และไม่ต้องการเสียเงินค่าที่พัก เกาะแห่งนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีใช้ได้เลยทีเดียว แต่อาจจะต้องออกเดินทางกันเช้าสักนิด หากใช้บริการรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ก็มีตั้งแต่เวลา 05.00 น. ขากลับจากศรีราชาเที่ยวสุดท้ายจะอยู่ประมาณเวลา 19.00 น. แต่หากขับรถยนต์ไปเองก็ไม่ต้องกังวล เพราะเรือข้ามฟากจากท่าเรือเกาะลอยไปยังเกาะสีชังจะเริ่มมีตั้งแต่เวลา 07.00 น. และขากลับจากเกาะสีชังมายังเกาะลอยเรือรอบสุดท้ายเวลา 19.00 น.
 
6. อาหารทะเลสด สะอาด

          ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะแล้วอย่างนี้จะพลาดกับการทานอาหารทะเลได้อย่างไร บนเกาะสีชังมีร้านอาหารทะเลสด รสชาติเด็ด และบรรยากาศดีหลายร้าน อาทิ ครัวไอทะเล ป้าหน่อยซีฟู้ด ร้านเล็กท่าวัง ร้านอาหารครัวทิวไผ่ ร้านป้าปั่นกับลุงวิด ร้านจ่าจัย ร้านอาหารบริเวณหาดถ้ำพัง ฯลฯ แต่ละร้านก็มีรสชาติและเมนูอาหารแตกต่างกันไป ซึ่งการทานอาหารทะเลสิ่งที่เด็ดที่สุดก็ต้องวัดกันที่น้ำจิ้ม ร้านไหนรสชาติเด็ด รสชาติโดนใจ ตรงนี้ต้องขอบอกว่าต้องไปลองชิมกันเอาเอง เพราะแต่ละคนนั้นทานรสชาติไม่เหมือนกัน แต่ถ้าต้องการทานอาหารทะเลสด รสชาติยอดเยี่ยม ขอชูป้ายไฟเกาะสีชังสูง ๆ เลย

เกาะสีชัง

7. ประเพณีและวิถีชีวิตงดงาม

          แม้ว่าเกาะสีชังจะมีเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมมากขึ้น แต่ชาวบ้านก็ยังคงดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย และไม่ได้เปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ไปจากเดิมมาก นักท่องเที่ยวจึงได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของชาวบ้านอย่างแท้จริง ซึ่งชาวบ้านเองก็ยังรักษาวัฒนธรรมประเพณี อนุรักษ์เทศกาลดั้งเดิมไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น เทศกาลนมัสการเจ้าพ่อเขาใหญ่ พิธีบวงสรวงเทพารักษ์ประจำเกาะและงานกองข้าว ประเพณีแห่เทียนพรรษา เทศกาลไหว้รอยพระพุทธบาท และงานวันรำลึกเกาะสีชัง ซึ่งจะจัดอย่างยิ่งใหญ่ ชาวบ้านทุกคนรวมถึงนักท่องเที่ยวจะสวมชุดไทยอย่างสวยงามมาร่วมงาน

เกาะสีชัง

8. ปลอดภัย...ไปคนเดียวก็ได้

          ความปลอดภัยถือได้ว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายคนกังวลในการจะไปเที่ยว แต่สำหรับเกาะสีชังต้องบอกว่ามีความปลอดภัยในระดับดีมาก เพราะมีการจัดสรรพื้นที่ไว้อย่างดี ถนนหนทางไม่อันตราย อีกทั้งชาวบ้านและคนในพื้นที่ยังมีความเป็นกันเอง และพร้อมที่จะช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตลอดเวลา นอกจากนี้ยังมีสถานีตำรวจเกาะสีชัง โรงพยาบาลเกาะสีชัง ตั้งอยู่บนเกาะ จึงอุ่นใจหายห่วงเรื่องความปลอดภัยได้เลย

          ทั้งหมดนี้ก็เป็นเหตุผลดี ๆ ที่เราไม่ควรจะปล่อยให้เกาะสีชังหลุดลอยไปจากตารางการท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีเวลาเพียงเล็กน้อยก็สามารถออกเดินทางกันได้ แล้วอย่างนี้จะไม่ออกไปหาประสบการณ์กันได้อย่างไร ไม่ต้องรอช้า ไม่ต้องคิดนาน เพราะยิ่งคิด ยิ่งตัดสินใจ เวลาในการใช้ชีวิตก็ยิ่งหมดไปเร็วเท่านั้น เพราะฉะนั้นมาเริ่มก้าวเท้าออกจากบ้านกันเถอะ




 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
  และ sichangisland.com












เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 เหตุผล ที่ควรสะพายเป้ไปเช็กอิน ณ เกาะสีชัง อัปเดตล่าสุด 4 มีนาคม 2559 เวลา 18:31:50 25,918 อ่าน
TOP
x close