10 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2563 ธรรมชาติเขียวชอุ่มฉ่ำใจ

          แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเดือนกรกฎาคม 2563 เที่ยวกลางปียามสายฝนโปรยปราย มีทั้งไปชมทะเลหมอก ดื่มด่ำกับบรรยากาศของนาขั้นบันได หรือจะไปล่องแก่งมัน ๆ ก็มีมาให้เลือกครบ

          เดือนกรกฎาคม เป็นช่วงเดือนที่สายฝนเข้ามาทักทายเมืองไทยแบบเต็มที่ พร้อมกับสร้างความชุ่มฉ่ำเติมพลังให้กับธรรมชาติกลับมาเขียวขจีอีกครั้ง ดอกไม้ที่ผลิบานตามฤดูกาลก็เริ่มบานสะพรั่ง ซึ่งที่เที่ยวเดือนกรกฎาคมนอกจากจะไปชมความสวยงามของทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ หรือยลโฉมผีเสื้อหลากหลายสายพันธุ์ ณ อุทยานแห่งชาติปางสีดา แล้ว ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับเดือนนี้ให้ได้ไปสัมผัสอีกมากมาย ลองไปดูกันว่าจะมีที่ไหนบ้าง

1. บ้านผาหมอน จังหวัดเชียงใหม่

           แหล่งท่องเที่ยวชุมชนที่มีบรรยากาศสวยงาม ซึ่งซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาแห่งดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ความน่าสนใจของที่นี่อยู่ตรงวิวนาข้าวขั้นบันไดกว้างใหญ่ตั้งเรียงรายลดหลั่นกันลงไปจากเนินเขาจนถึงที่ราบริมเชิงเขา ด้านข้างจะมีที่พักแบบโฮมสเตย์ตั้งอย่างโดดเด่นอยู่ หากใครได้พักผ่อนที่นี่ก็จะได้ตื่นมาพร้อมกับภาพของหมอกหน้าฝน นั่งชมพระอาทิตย์ค่อย ๆ สาดแสงส่องลงมาที่นาข้าวทีละน้อย ๆ สูดอากาศดี ๆ ได้ลึกเต็มปอดเลยล่ะ

          ที่ตั้ง : ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
          เฟซบุ๊ก : บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์
          รีวิว : บ้านผาหมอน เชียงใหม่ ความงามของนาข้าวขั้นบันไดในหุบเขาแห่งดอยอินทนนท์

2. อุทยานแห่งชาตินันทบุรี จังหวัดน่าน

           ที่เที่ยวธรรมชาติสวย ๆ อีกแห่งของจังหวัดน่าน ครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอท่าวังผา อำเภอเมือง และอำเภอบ้านหลวง รอบ ๆ ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด รวมทั้งสัตว์ป่ามากมาย จุดที่น่าสนใจก็คือ บริเวณจุดชมทิวทัศน์บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติ มีลักษณะเป็นลานหญ้ากว้าง มองเห็นวิวได้ไกลสุดลูกหูลูกตา และยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกกว้างใหญ่ได้ด้วย มีพื้นที่กางเต็นท์ไว้รองรับ ส่วนถ้าใครอยากผจญภัยนิด ๆ ก็สามารถที่จะไปเที่ยวชมดอยวาว อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานราว ๆ 1 กิโลเมตร แล้วเดินขึ้นยอดดอย ตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด อากาศเย็นสบายมาก

          ที่ตั้ง : ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
          เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาตินันทบุรี-Nanthaburi National park

ดอยวาว

3. บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

          ชุมชนท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเมืองไทย ซึ่งนำเสนอการท่องเที่ยวชุมชนในแบบเรียบง่าย และยังโดดเด่นในเรื่องของท้องทุ่งนาและวิถีชีวิตของชาวนาด้วย นักท่องเที่ยวจะได้พักผ่อนกับธรรมชาติงาม ๆ ของหมู่บ้าน ได้ปั่นจักรยานชมท้องนากว้างใหญ่ สูดอากาศบริสุทธิ์สดชื่นแบบเต็มปอด พร้อมกับกินอาหารพื้นบ้านอร่อย ๆ แบบปลอดสารพิษ นอกจากนี้ยังได้เรียนรู้การทำผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างผ้าหมักโคลน และการสาธิตทำตุ๊กตาบาร์โหนด้วย

          ที่ตั้ง : ตำบลบ้านตึก อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
          เฟซบุ๊ก : โฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่น จังหวัดสุโขทัย

ภาพจาก FotoErro / Shutterstock.com

4. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

          อำเภอฮอตฮิตของจังหวัดราชบุรีที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ เที่ยวได้ตลอดทั้งปี อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนที่จะเขียวชอุ่มและชุ่มฉ่ำไปกับสายฝนที่โปรยปรายมาสร้างความสดชื่นเป็นพิเศษ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายหลากหลายแนว ทั้งน้ำตก ภูเขา รวมถึงมีที่พักสวย ๆ ตกแต่งอย่างมีสไตล์ ร้านกาแฟและร้านอาหารอร่อย ๆ สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น จุดชมวิวห้วยคอกหมู, เขากระโจม, น้ำตกเก้าโจน, ธารน้ำร้อนบ่อคลึง, แก่งส้มแมว สวนป่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์, ตลาดโอ๊ะป่อย, สวนผึ้งไฮแลนด์, เดอะซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม, บ้านหอมเทียน, โคโรฟิลด์, อัลปาก้า ฮิลล์ หรือล่องแก่งแม่น้ำภาชีที่ทัศนา คายัค เป็นต้น ที่นี่จึงควรอยู่ในลิสต์ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคมที่ไม่ควรพลาด

          รีวิว : 18 ที่เที่ยวสวนผึ้ง น่าไปสัมผัสสุด ๆ

น้ำตกเก้าโจน

5. เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี

          ยอดเนินสูงติดกับชายแดนประเทศเมียนมาในตำบลปิล๊อก อำเภอทองผาภูมิ เป็นที่ตั้งของฐานปฏิบัติการของตำรวจตระเวนชายแดนที่ 135 (ฐานช้างศึก) ด้านบนมีลักษณะเป็นลานเนินกว้าง มีหลุมหลบภัยและบ้านพักของเจ้าหน้าที่ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,053 เมตร จึงสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์โดยรอบได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา วันไหนฟ้าเป็นใจก็เห็นไปถึงทะเลอันดามันฝั่งเมียนมา ที่นี่ในยามเช้าจะมีทะเลหมอกลอยละมุนสวยงาม ยามเย็นก็สามารถชมพระอาทิตย์ตกดิน ส่วนกลางคืนก็มีดาวนับล้านให้นอนนับกันฟิน ๆ มีพื้นที่ให้กางเต็นท์ชิล ๆ ด้วย

          รีวิว : รวมที่เที่ยวกาญจนบุรี จุดเช็กอินยอดฮิต น่าไปเก็บให้ครบในปีนี้

ภาพจาก Sasithon-sj / Shutterstock.com

6. ล่องแก่งเรือยางแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี

          แก่งกระจาน นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่บรรยากาศสวยงาม น่าไปเที่ยวพักผ่อนแล้ว ที่นี่ยังมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์สุดมันให้ได้ไปสัมผัสกันด้วย หนึ่งในกิจกรรมสุดฮิต ก็คือ การล่องแก่งเรือยางไปตามแม่น้ำเพชรบุรี ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาสูงชันในอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไหลเข้าสู่เขื่อนแก่งกระจาน แล้วไหลต่อไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดเพชรบุรี โดยจุดล่องแก่งเรือยางจะอยู่ด้านหลังของเขื่อนแก่งกระจาน มีระยะทางราว ๆ 6-8 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง ระดับการล่องแก่งไม่ยาก สามารถเล่นได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีที่พักให้บริการริมแม่น้ำเพชรบุรีมากมาย สอบถามรายละเอียดการล่องแก่งได้จากที่พัก หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเพชรบุรี โทรศัพท์ 0 3247 1005-6

          เฟซบุ๊ก : แก่งกระจาน ล่องแก่งเรือยาง
          โทรศัพท์ : 09 6886 9235

          เฟซบุ๊ก : รถขึ้นพะเนินทุ่ง
          โทรศัพท์ : 08 7954 3700

ภาพจาก DAwee / Shutterstock.com

7. ล่องแก่งหนานมดแดง จังหวัดพัทลุง

          หนึ่งในกิจกรรมที่เที่ยวหน้าฝนสุดมันสำหรับกิจกรรมล่องแก่ง โดยเฉพาะที่ล่องแก่งหนานมดแดง จังหวัดพัทลุง ที่สามารถล่องแก่งได้ตลอดทั้งปี ความสนุกอยู่ที่นักท่องเที่ยวพายเรือผจญแก่งได้ด้วยตัวเอง เพราะเป็นแก่งที่ไม่อันตราย และมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความปลอดภัยอยู่ตลอด ๆ ระยะทางประมาณ 6 กิโลเมตร ใช้เวลาล่องราว ๆ 2 ชั่วโมง มีระดับความยากอยู่ที่ 2-3 สามารถเล่นได้ทั้งครอบครัว ซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวส่วนใหญ่มักจองเป็นแพ็กเกจทัวร์ เล่นได้ทั้งล่องแก่งและไปเที่ยวยังสถานที่อื่น ๆ เช่น ถ้ำวังนายพุฒ มุดถ้ำชมป่าดงดิบวังนายพุฒ และชมน้ำตกหนานสวรรค์ เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ทางหลวงชนบท พัทลุง 3140 ป่าพะยอม อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง
          โทรศัพท์ : 08 1082 0206
          Line : @xba8153m
          เฟซบุ๊ก : ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง
          รีวิว : ล่องแก่งหนานมดแดง พัทลุง ความสนุกบนสายน้ำที่ห้ามพลาด

ภาพจาก Anucha Cheechang / Shutterstock.com

8. เกาะพะลวย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

           ใครบอกว่าหน้าฝนจะเที่ยวทะเลไม่ได้ เบื่อเขาแล้วเซเอาใจไปทิ้งทะเลที่ “เกาะพะลวย” เกาะขนาดเล็ก ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย อยู่กึ่งกลางระหว่างอำเภอเกาะสมุยและอำเภอดอนสัก กันดีกว่า เสน่ห์ความงดงามอันเลื่องชื่อของเกาะแห่งนี้คือความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ที่เดินทางมาสัมผัสความเรียบง่ายหากแฝงแต่ความสวยงามและเสน่ห์ที่น่าเย้ายวน ซึ่งมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น ถ้ำสามบ่อ ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีธารน้ำจืดไหลมาจากหุบเขา, อ่าวสองพี่น้อง มีน้ำดื่ม กับของกินเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้บริการ ซึ่งบริเวณนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาดำน้ำดูปะการังอยู่ด้วย, อ่าวเทียน ยลทะเลแหวกสวย เดินต่อไปยังเกาะหัวค่างทัก, หาดตาโย และหาดสน เป็นต้น

          ที่ตั้ง : ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
          เฟซบุ๊ก : เกาะพะลวยโฮมสเตย์
          รีวิว : ทำความรู้จักเกาะพะลวย จ.สุราษฎร์ธานี เกาะสวยพลังสะอาด ธรรมชาติน่ายล

9. เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์ จังหวัดร้อยเอ็ด

          อีกหนึ่งที่เที่ยวเดือนกรกฎาคมที่เราขอแนะนำ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอหนองพอก มีสภาพพื้นที่เป็นเทือกเขาหินทรายสูงชันและสลับซับซ้อน อุดมสมบูรณ์ด้วยป่าไม้ต่าง ๆ มีจุดที่มองเห็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติอันสวยงาม และมีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี เนื่องจากพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ และความชื้นสูงจึงทำให้บริเวณดังกล่าวมีความร่มรื่น เหมาะสำหรับผู้ที่นิยมท่องเที่ยวแบบเดินป่าศึกษาธรรมชาติ จุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น ผาภูไท จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น, ผาหมอกมิวาย จุดชมพระอาทิตย์ตกและทะเลหมอกที่สวยงาม และน้ำตกถ้ำโสดา เป็นน้ำตกอันซีนไทยแลนด์ที่ไม่ควรพลาด มีขนาดใหญ่ สายน้ำมากมายจะไหลลงสู่ชะง่อนผา เป็นสายน้ำสวยราวกับผ้าม่านสีขาวผืนใหญ่ เป็นต้น

          ทั้งนี้ บริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำผาน้ำทิพย์ มีบริการบ้านพักและสถานที่สำหรับกางเต็นท์ สอบถามรายละอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 0 9551 1782

10. เกาะหวาย จังหวัดตราด

          เกาะขนาดกะทัดรัดที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ระหว่างเกาะช้างและเกาะหมาก มีธรรมชาติของท้องทะเลที่งดงามมาก ๆ หาดทรายสวยสะอาด รอบ ๆ เกาะจะมีแนวปะการังที่สมบูรณ์มากมาย สามารถว่ายน้ำชมปะการังกันได้อย่างง่ายดาย บรรยากาศบนเกาะเงียบสงบ ทุกอย่างยังคงมีความเป็นธรรมชาติอยู่มาก ไม่มีสถานบันเทิงใด ๆ แม้แต่ที่พักก็ยังเป็นบังกะโลเรียบง่าย เน้นวัสดุจากธรรมชาติ สร้างให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม และกระทบต่อธรรมชาติน้อยที่สุด ซึ่งบนเกาะมีที่พักไว้รองรับนักท่องเที่ยว เช่น เกาะหวาย พาราไดซ์ และเกาะหวายบีชรีสอร์ท แต่ละแห่งจะมีห้องพักไม่มากนัก มีบริการแตกต่างกันออกไป

          ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะช้าง ตำบลเกาะช้างใต้ อำเภอเกาะช้าง จังหวัดตราด
          เฟซบุ๊ก : ททท. สำนักงานตราด
          รีวิว : รู้จักเกาะหวายให้มากขึ้น ก่อนไปติดเกาะสวรรค์แห่งทะเลตราด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 ที่เที่ยวเดือนกรกฎาคม 2563 ธรรมชาติเขียวชอุ่มฉ่ำใจ อัปเดตล่าสุด 1 เมษายน 2567 เวลา 14:12:03 29,344 อ่าน
TOP
x close