อยากไปเที่ยวต่างจังหวัด แต่มีเวลาเพียงแค่ 1 วัน จะไปเที่ยวที่ไหนดี นี่เป็นคำถามยอดฮิตของคนที่มีเวลาน้อยแต่อยากพักผ่อน สูดอากาศบริสุทธิ์ เสพธรรมชาติสวย ๆ ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ มามะ...ตามมาเลยค่ะ เพราะวันนี้เราหยิบเอาที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ แบบ One Day Trip มาฝาก มีเวลาน้อยก็ไปเที่ยวได้ จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างไปดูกันเลย
บอกเลยว่าธรรมชาติที่นี่สวยเด็ดจนต้องยกนิ้วให้ และน่าจะถูกใจสายถ่ายรูปอยู่ไม่น้อย เขาช่องลม ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของเขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก สถานที่แห่งนี้ยังมีธรรมชาติที่สมบูรณ์ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายกรีน ซึ่งการมาเที่ยวที่ช่องเขาลมนักท่องเที่ยวจะต้องนั่งเรือ (โดยมีจุดบริการที่เขื่อนขุนด่านปราการชล) ระยะทางจากเขื่อนมาถึงเขาช่องลม ใช้เวลาประมาณ 15 นาที เรือจะแวะจุดท่องเที่ยวทั้งหมด 4 จุด ด้วยกัน ได้แก่ น้ำตกผางามงอน, น้ำตกคลองคราม, น้ำตกต้นน้ำ และน้ำตกช่องลม เป็นต้น
ว่ากันว่าช่วงที่เหมาะมาเที่ยวที่เขาช่องลมมากที่สุด ก็ต้องเป็นช่วงหน้าฝน เพราะถ้ามาช่วงต้นฤดูน้ำในเขื่อนยังไม่เยอะ เรือก็จะแล่นเข้ามาไม่ได้ แต่ถ้าไม่อยากเดินเท้าไกล ๆ แนะนำว่าให้มาช่วงเดือนพฤศจิกายนจะดีที่สุด
ถ้าอยากไหว้พระ 9 วัด ก็ต้องตรงดิ่งไปที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมืองเก่าที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมามากมาย ซึ่ง 9 วัด ที่เราแนะนำ ได้แก่
- วัดไชยวัฒนาราม ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ไม่ว่าจะเป็น "พระปรางค์ศรีรัตนมหาธาตุ" เป็นปรางค์ประธานของวัด, “พระระเบียง” ภายในพระระเบียงมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย, "พระอุโบสถ" ภายในมีซากพระประธาน เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสร้างด้วยหินทราย ทั้งนี้กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะมาโดยตลอด และยังคงมองเห็นเค้าแห่งความสวยงามยิ่งใหญ่ตระการตา ซึ่งผู้ไปเยือนไม่ควรพลาดชมอย่างยิ่ง
- วัดพุทไธศวรรย์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่ม วัดเก่าแก่ที่รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายเมื่อครั้งเสียกรุงใน พ.ศ. 2310 ภายในวัดจึงมีสิ่งน่าชมมากมาย เช่น "องค์ปรางค์ประธาน" ภายในประดิษฐานพระเจดีย์องค์เล็ก ๆ และรอยพระพุทธบาท ให้กราบสักการะ, "ตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์" เชื่อกันว่าเป็นที่ประทับของพระพุทธโฆษาจารย์ พระเถระชั้นผู้ใหญ่ผู้เป็นอาจารย์ของสมเด็จพระเพทราชา รวมถึงยังมี "วิหารองค์พ่อจตุคามรามเทพ" ที่มีผู้คนเดินทางมากราบไหว้บูชาอย่างต่อเนื่อง
- วัดธรรมิกราช ตั้งอยู่ที่ตำบลท่าวาสุกรี เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นก่อนการสถาปนากรุงศรีอยุธยา ภายในเต็มไปด้วยงานพุทธศิลป์ที่หาชมได้ยาก เช่น "วิหารพระพุทธไสยาสน์", "องค์พระนอน" ที่มีความยาว 12 เมตร, "เจดีย์สิงห์ล้อม" และกราบบูชาพระประธานภายในพระอุโบสถ ซึ่งประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยสีขาว ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น เป็นต้น
- วัดมงคลบพิตร ตั้งอยู่ที่ตำบลประตูชัย ภายในวัดเป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อมงคลบพิตร" พระพุทธรูปบุสำริดปางมารวิชัย มีความสวยงามเป็นอย่างยิ่ง อันสะท้อนภูมิปัญญาในศาสตร์แห่งโลหะ และความชำนิชำนาญของช่างฝีมือไทย โดยเฉพาะงานหล่อสำริดโลหะสำคัญในสมัยอยุธยา
- วัดพนัญเชิงวรวิหาร ตั้งอยู่ในท้องที่ตำบลคลองสวนพลู ริมแม่น้ำป่าสัก เป็นวัดเก่าแก่และมีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่ง โดยเฉพาะ "หลวงพ่อโต" หรือ "เจ้าพ่อซำปอกง" อันเป็นที่เคารพนับถือของพุทธศาสนิกชนเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมี "ตำหนักเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก" ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก อนุสรณ์ความรักอันน่าเศร้าของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง กษัตริย์ของไทย และพระนางสร้อยดอกหมาก จากแผ่นดินจีน
- วัดใหญ่ชัยมงคล ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองสวนพลู สิ่งที่น่าสนใจภายในวัด ได้แก่ เจดีย์ชัยมงคล อนุสรณ์แห่งชัยชนะของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เหนือมังกะยอชวา พระมหาอุปราชของหงสาวดี และวิหารพระพุทธไสยาสน์ สร้างในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อเป็นที่ถวายสักการบูชาและปฏิบัติพระกรรมฐาน ปัจจุบันมีการสร้างพระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีผู้นิยมไปนมัสการอย่างสม่ำเสมอ
- วัดหน้าพระเมรุ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครศรีอยุธยา ผู้คนนิยมไปนมัสการ "หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ" พระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ และมีพระลักษณะสวยงามที่สุดองค์หนึ่ง พลาดไม่ได้กับการเยี่ยมชมความสวยงามของ "พระวิหารน้อย" ภายในมีพระคันธารราฐ พระพุทธรูปศิลาเขียวสมัยทวารวดี นอกจากนี้ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสมัยรัชกาลที่ 3 ซึ่งลบเลือนไปตามกาลเวลา แต่ยังพอมองเห็นอยู่บ้าง
- วัดมหาธาตุ ตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็นวัดที่ประดิษฐานพระบรมธาตุใจกลางพระนคร ความน่าสนใจของวัดมหาธาตุ ได้แก่ เศียรพระพุทธรูปหินทราย ตั้งอยู่ในรากโพธิ์ และเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของวัด, เจดีย์แปดเหลี่ยม, วิหารเล็ก, พระปรางค์ประธาน, จิตรกรรมฝาผนัง, วิหารหลวง และพระอุโบสถ เป็นต้น
- วัดแม่นางปลื้ม ตั้งอยู่ที่ตำบลหัวรอ วัดเก่าแก่ที่มีโบราณสถานที่น่าสนใจมากมาย ได้แก่ พระวิหารเก่าแก่ ภายในประดิษฐาน "หลวงพ่อขาว" พระประธานองค์สีขาวบริสุทธิ์ ศิลปะสมัยอยุธยาตอนต้น "เจดีย์สิงห์ล้อม" เจดีย์ประธานของวัด มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังกลมบนฐานสูงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ พร้อมชม "พระอุโบสถ" หน้าบันประดับด้วยปูนปั้นลวดลายวิจิตร เป็นต้น
จังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวให้ได้ไปสัมผัสมากมาย วันหยุดเสาร์หรืออาทิตย์ว่าง ๆ เราอยากชวนให้ไปโดนกันค่ะ โดยเฉพาะตลาดน้ำมากหน้าหลายตา ไม่ว่าจะเป็น "ตลาดน้ำประชารัฐสวนบัว" ตั้งอยู่ที่บางเลน ซอย 1 เป็นตลาดน้ำขนาดกะทัดรัดที่มีของกินให้เลือกซื้อเลือกหามากมาย มีร้านค้าต่าง ๆ รายล้อมอยู่รอบสระน้ำกว้าง ให้นักท่องเที่ยวได้เดินวนเลือกชมและซื้อสินค้ากันอย่างครบถ้วน เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 09.00-16.30 น.
"ตลาดน้ำวัดตะเคียน" ตั้งอยู่ภายในวัดตะเคียน บรรยากาศชิล ๆ สบาย ๆ มีพ่อค้าแม่ขายมาพายเรือขายของ ทั้งผัก ผลไม้ และอาหารหน้าตาน่ากิน ด้วยรอยยิ้มและอัธยาศัยเป็นกันเอง เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00-16.00 น.
"ตลาดน้ำไทรน้อย" ตั้งอยู่ริมคลองพระพิมลราชา แม้จะเป็นตลาดที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่ แต่เดินได้สะดวกสบาย ไฮไลต์ของตลาดน้ำแห่งนี้อยู่ที่การเป็นศูนย์กลางของอาหารคาวหวาน ผัก ผลไม้หลากหลายชนิด ซึ่งชาวบ้านปลูกขายเองในราคาไม่แพง อร่อย สด และสะอาด เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
อีกสวรรค์ของการท่องเที่ยวทะเล เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลที่อยู่ใกล้กรุงเทพฯ สำหรับ "เกาะขาม" หรืออุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ตั้งอยู่ในพื้นที่ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ภายใต้ความดูแลของกองทัพเรือ การท่องเที่ยวเกาะขามจึงต้องเป็นไปตามกฎของกองทัพเรือ ที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง สามารถเที่ยวได้แบบวันเดย์ทริป เพราะเปิดให้เที่ยวชมทุกวัน
การข้ามไปเที่ยวเกาะขาม
- วันจันทร์-ศุกร์ มีเที่ยวเรือไปเกาะขามตั้งแต่เวลา 09.00-10.00 น.
- วันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ มีรอบเรือไปเกาะขามทั้งหมด 4 รอบ คือ เวลา 08.30 น., 09.30 น., 10.00 น. และ 11.00 น. ส่วนรอบเรือกลับมี 4 รอบ คือ เวลา 13.30 น., 14.30 น., 15.30 น. และ 16.30 น.
ด้านการซื้อตั๋วได้ 2 ช่องทาง คือ การโทรศัพท์จอง เบอร์โทรศัพท์ 0 3312 4848 (โทร. ได้เฉพาะวันและเวลาราชการเท่านั้น) รับหมายเลขการจอง แล้วในวันเดินทางให้มารับตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋วล่วงหน้า 1 ชั่วโมงก่อนเรือออก และการซื้อที่จุดจำหน่ายตั๋ว มีรายละเอียด จะซื้อได้เฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์เท่านั้น ตั้งแต่เวลา 07.00-10.00 น. ณ ด้านหน้าของกรมก่อสร้างและพัฒนา (ด้านหลังจุดรักษาการณ์) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kohkham.com
5. ตลาดศาลเจ้าโรงทอง จังหวัดอ่างทอง
ตลาดศาลเจ้าโรงทอง หรือตลาดวิเศษชัยชาญ ตั้งอยู่ที่อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นตลาดโบราณเก่าแก่กว่า 100 ปี บรรยากาศภายในเป็นเรือนแถวไม้ ตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ซึ่งยังคงมีการอนุรักษ์กลุ่มอาคารบ้านเรือน ตึกแถวไม้ โรงแรมเก่า โรงสีข้าว ร้านขายของชำและอื่น ๆ บรรดาร้านค้ายังคงรักษารูปแบบดั้งเดิมเอาไว้ให้เห็น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งผลิตขนมไทยโบราณ ขนมดอกลำดวน ขนมโสมนัส ขนมดอกดิน ซาลาเปา ขนมจีบ สำหรับคนรักขนมไทยจึงไม่ควรพลาดเป็นอันขาด
ตั้งอยู่ที่ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง เป็นตลาดชุมชนชาวจีนโบราณ อายุมากกว่า 100 ปี ซึ่งปัจจุบันก็ได้มีการรื้อฟื้นให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ที่นี่เป็นห้องแถวไม้เรียงรายกันไปตลอดแนวและรอบ ๆ ชุมชน มีมากกว่า 300 หลังคาเรือน ชุมชนและหน่วยงานในท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องได้มีการปรับปรุงให้กลายเป็นถนนคนเดินบรรยากาศชิค ๆ ตกแต่งประดับประดาไปด้วยโคมไฟสไตล์จีนโบราณสีแดงนับร้อยดวง พ่อค้าแม่ค้าก็แต่งกายสไตล์จีนโบราณ ยามเย็นที่นี่จึงมีบรรยากาศที่สวยงามโรแมนติกสุด ๆ
บริเวณถนนคนเดินมีร้านค้าจำหน่ายของเด็ดของดีในชุมชนทั้งสินค้าทำมือ อาหารพื้นเมือง ขนมโบราณ เครื่องดื่มหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละอย่างก็รสชาติอร่อยโดนใจ ราคาไม่แพง นอกจากนี้บ้านเรือนต่าง ๆ ภายในตลาดยังเปิดบ้านให้ชมวิถีชีวิตเก่าแก่ตามแบบฉบับชุมชนชาวจีนกันด้วย และยังมีร้านค้าโบราณ โรงหนังเก่า รวมทั้งศาลเจ้าแม่ทับทิมให้เที่ยวชมอีกด้วยเช่นกัน
ตลาดจีนชากแง้ว เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเที่ยวชมทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 16.00-21.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ชุมชนจีนบ้านชากแง้ว
ตลาดน้ำบนน้ำตกแห่งแรกและแห่งเดียวในโลก ตั้งอยู่ที่อำเภอหนองหญ้าปล้อง ภายในเขตอุทยานน้ำตกกวางโจว ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ โดยตลาดน้ำแห่งนี้ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงที่จัดให้แม่บ้านในชุมชนบริเวณใกล้เคียง นำของมาจำหน่ายกับนักท่องเที่ยวในทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ
สินค้าในตลาดน้ำกวางโจวส่วนใหญ่จะเป็นพืชผัก ผลไม้ และอาหารที่หาชิมได้ยาก เช่น ห่อหมกกระบอกไม้ไผ่, ขนมหม้อแกงกระบอกไม้ไผ่, ทอดมันปลากราย, หอยทอดหลุมสูตรโบราณ, ก๋วยเตี๋ยวเรือหม้อดินไก๋ตุ๋น, น้ำแว่นแก้วปั่น, หมูยอห่อไผ่ (สูตรต้นตำรับเมืองกวางโจว) และผัดไทยม้ง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกเพียบ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.kwangchowwaterfall-resort.com
หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของจังหวัดสมุทรสงคราม ตั้งอยู่ปากแม่น้ำแม่กลอง มีอาณาเขตกว้างประมาณ 3 กิโลเมตร ยื่นลึกออกไปในทะเล เกิดเป็นตะกอนทับถมจากปากแม่น้ำผสมกับตะกอนจากทะเล จนเป็นสันดอนที่มีลักษณะเด่นที่พบได้ยากในเมืองไทย สาเหตุที่ชื่อว่าดอนหอยหลอด เพราะที่นี่เป็นแหล่งที่อยู่ของหอยนานาชนิด แต่พบว่าหอยหลอดมีจำนวนมากที่สุด
ช่วงที่เหมาะสำหรับการท่องเที่ยว คือ ประมาณเดือนมีนาคม-พฤษภาคม ซึ่งเป็นเวลาที่น้ำทะเลลดลงนานกว่าช่วงอื่น จนสามารถเห็นสันดอนที่โผล่พ้นน้ำออกมา โดยรอบบริเวณดอนหอยหลอดมีร้านค้าร้านอาหารไว้ให้บริการมากมาย แต่ละร้านต่างคัดเอาวัตถุดิบที่ทั้งสดและใหม่จากท้องทะเลมาปรุง เรียกได้ว่าเป็นที่ถูกอกถูกใจเหล่าบรรดานักชิมและเหล่าซีฟู้ดเลิฟเว่อร์มาก ๆ นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรับลมเย็น ๆ เพลิน ๆ กินอาหารอร่อย ๆ หรือจะลงไปจับหอยหลอดได้ด้วยตนเอง หรือในช่วงที่น้ำขึ้นก็สามารถนั่งเรือหางยาวรับลมเย็น ๆ ในอ่าวไทยได้เช่นกัน
เข้าสู้ช่วงปลายฝนต้นหนาวทีไร หนึ่งในลิสต์ที่เที่ยวที่น่าสนใจเห็นทีว่าจะต้องมีที่เที่ยวทุ่งดอกไม้ โดยเฉพาะ "ทุ่งดอกหงอนนาค" ที่ตั้งอยู่ภายในไร่ศักดิ์สุภา รีสอร์ท ตำบลสะพานหิน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ชูช่อสีม่วงสะพรั่งอย่างสวยงาม โดยทุ่งดอกหงอนนาคเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมอย่างเป็นทางการ วันที่ 1 กันยายน 2561 โดย เสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท แต่ลูกค้าที่ใช้บริการแพ็กเกจล่องแก่ง ที่พักและล่องแก่งหินเพิงเข้าชมฟรี !!! ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Saksupha Resort
บลูลากูนเมืองไทยอีกแห่งหนึ่งที่อยากให้ไปเยือน ตั้งอยู่ในบริเวณวัดบ่อน้ำเดือด ตำบลน้ำสุด อำเภอพัฒนานิคม มีลักษณะเป็นบ่อน้ำสีฟ้าใส ขอบบ่อกว้างพอสมควร การเกิดบ่อน้ำเดือดนี้มาจากบริเวณดังกล่าวมีตาน้ำอยู่ด้านล่าง ซึ่งเมื่อผุดขึ้นมาจากใต้ดินผ่านชั้นหินต่าง ๆ ผสมผสานกับแร่ธาตุหลายอย่าง จึงทำให้น้ำใสและมีสีฟ้าสวยงาม
บ่อน้ำเดือดสามารถเที่ยวชมได้ทุกวัน ไม่มีเวลาเปิด-ปิด แต่ไม่ควรไปเช้าหรือดึกเกินไป เพราะบริเวณดังกล่าวยังไม่มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวก หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะลำบาก และขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวปฏิบัติตามกฎระเบียบ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานลพบุรี โทรศัพท์ 0 3677 0096-7 และองค์การบริหารส่วนตำบลน้ำสุด โทรศัพท์ 0 3670 4224, 0 3670 4225
ที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ชิล ๆ เหมาะสำหรับเป็นสถานที่ฟอกปอด ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว แถมที่นี่ยังมีกิจกรรมสนุก ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ทำอีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็นแวะเดินเล่นซื้อของกินอร่อย ๆ ที่ "ตลาดบางน้ำผึ้ง", สักการะพระพิฆเนศองค์ใหญ่ ณ วัดพราหมณ์ มหาเทวลัย, พิพิธภัณฑ์ปลากัดไทย สถานที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่จะทำให้รู้เรื่องราวของปลากัดหลากหลายสายพันธุ์ หรือจะปั่นจักรยานชื่นชมธรรมชาติในสวนศรีนครเขื่อนขันธ์ รวมถึงยังมีร้านอาหารอร่อย ๆ ริมแม่น้ำชิล ๆ เหมาะกับการจูงมือคนรัก เพื่อน และครอบครัว มาซึมซับบรรยากาศที่นี่มาก ๆ
ชวนไปเยี่ยมชม "ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ" ตั้งอยู่ที่ตำบลภูเขาทอง จากพื้นที่ว่างเปล่า สู่การสร้างแหล่งเรียนรู้เกษตรทฤษฎีใหม่บนวิถีแห่งความพอเพียงของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้และเผยแพร่หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมเปิดโอกาสให้เด็กและประชาชนทั่วไป ได้เข้ามาศึกษาได้แบบฟรี ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็นส่วนต่าง ๆ ประกอบด้วยพื้นที่นา, พื้นที่เพาะปลูก, เลี้ยงสัตว์, พื้นที่กักเก็บน้ำ และพื้นที่พักอาศัย ท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติที่เงียบสงบ รวมถึงยังสนุกไปกับฐานกิจกรรมต่าง ๆ
นอกจากจะสนุกไปกับกิจกรรมในแต่ละฐานแล้ว ยังมีการจัดแสดงเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริมากมาย ทั้งแปลงสาธิต การเพาะพืชผักสวนครัวและผลไม้ การเลี้ยงสัตว์ สร้างรายได้เสริมให้กับชาวบ้านอีกหนึ่งช่องทาง เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. (หยุดวันจันทร์) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงบ้านของพ่อ
ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ก็ได้สัมผัสกับความงามของ "ตลาดน้ำทุ่งบัวแดง" ในอำเภอบางเลน เป็นตลาดน้ำที่ไม่เหมือนกับที่ไหน เพราะตั้งอยู่ริมสระบัวกว้างใหญ่ บรรยากาศสวยงาม ที่นี่มีเนื้อที่ทั้งหมดราว ๆ 44 ไร่ แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ อย่างชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณสระบัวที่กว้างขวางมากถึง 24 ไร่ สามารถที่จะมาเที่ยวชมบัวแดงได้ตลอดทั้งปี เพราะบัวที่นี่มีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ "บัวสายพันธุ์ดั้งเดิม" และ "บัวแดงมะเหมี่ยว" เพราะฉะนั้นใครอยากจะมาพายเรือชมบัวแดงและสูดอากาศบริสุทธิ์ในยามเช้าก็ได้ หรือจะมาเที่ยว มานั่งพักกินข้าว ดื่มกาแฟมองบัวแดงยามบ่ายก็ดี ยิ่งถ้าเป็นช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศก็จะยิ่งโรแมนติกขึ้นไปอีกเท่าตัว
14. เที่ยวลพบุรี
หนึ่งในจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ที่เราไม่อยากให้พลาด ด้วยการเดินทางไปมาที่สะดวก ทำให้ลพบุรีเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เหมาะสำหรับการไปเที่ยวในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือไปเช้า-เย็นกลับ เริ่มจากไหว้ "ศาลพระกาฬ" ที่ภายในประดิษฐานเจ้าพ่อพระกาฬ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองลพบุรี เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนจะไปชม "พระปรางค์สามยอด" โบราณสถานที่โดดเด่นด้วยลักษณะทางสถาปัตยกรรมปราสาทเขมรในศิลปะบายน มีลักษณะเป็นปราสาทปรางค์เรียงต่อกัน 3 องค์
จากนั้นไปเยือน "พระนารายณ์ราชนิเวศน์" ปัจจุบันได้จัดพื้นที่บางส่วนภายในวังให้เป็นที่ตั้งของ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สมเด็จพระนารายณ์ สถานที่สำหรับจัดแสดงศิลปะโบราณวัตถุตามอาคารและพระที่นั่งต่าง ๆ ภายในพิพิธภัณฑ์เป็นจำนวนกว่าพันรายการ ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยการไปเดินชิล ๆ ที่ "ตลาดโบราณบ้าน ๔ ภาค ลพบุรี" ตั้งอยู่ใกล้กับวิทยาลัยนาฏศิลปลพบุรี เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าพื้นเมืองและอาหารอร่อยเด็ดจากทั่วทุกภาคของเมืองไทย มาที่เดียวเหมือนได้เที่ยวทั่วไทย
อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง หรือที่เรียกกันว่า ปางอุ๋งสุพรรณบุรี แหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สวย ๆ บรรยากาศสุดเงียบสงบ ตั้งอยู่ที่ตำบลพุน้ำร้อน อำเภอด่านช้าง มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก รายล้อมไปด้วยภูเขาและป่าสีเขียวขจี อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีพื้นที่ให้กางเต็นท์ชิล ๆ และมีแพไม้ไผ่ของชุมชนที่ร่วมกันจัดทำขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งนี้สามารถประกอบอาหารได้ แต่ต้องช่วยกันดูแลรักษาพื้นที่ มีห้องน้ำบริการ เปิดให้บริการวันที่ 12 สิงหาคม ถึง 27/28 กุมภาพันธ์ของทุกปี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อ่างเก็บน้ำหุบเขาวง ปางอุ๋ง สุพรรณบุรี
16. เที่ยวราชบุรี
ชวนเช็กอินที่เที่ยวราชบุรี ที่จะทำให้คุณสนุกและพักผ่อนได้อย่างชิล ๆ เริ่มกันที่ "อุทยานหินเขางู" ตั้งอยู่ที่ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี มีลักษณะเป็นภูเขาหินปูนสูงใหญ่ รูปร่างสวยงามแปลกตา โอบล้อมด้วยสระน้ำใส บรรยากาศเงียบสงบ จากนั้นแนะนำให้ไปเยือน "เถ้าฮงไถ่" โรงงานเซรามิกเก่าแก่ของจังหวัดราชบุรี ที่ได้กลายมาเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ มีร้านกาแฟเล็ก ๆ ให้ได้นั่งพักผ่อน หรือจะช้อปปิ้งเซรามิกเก๋ ๆ กลับบ้านก็ได้
ต่อด้วยไปชม "หนังใหญ่" ศิลปะไทยอีกหนึ่งแขนงที่ทรงคุณค่าและควรค่าแก่การรักษาไว้ ณ พิพิธภัณฑ์หนังใหญ่วัดขนอน อำเภอโพธาราม โดยทุกวันเสาร์-อาทิตย์ จะมีการแสดงเชิดหนังใหญ่ให้นักท่องเที่ยวได้ชมกัน โดยจะจัดวันละ 1 รอบเท่านั้น วันเสาร์ เวลา 10.00 น. และวันอาทิตย์ เวลา 11.00 น. ก่อนจะปิดท้ายทริปด้วยการเดินชิล ๆ ชม "ตลาดเก่า 119 ปี เจ็ดเสมียน" ตลาดเก่าแก่แห่งอำเภอโพธาราม ที่มีอาหารการกินให้ได้ลิ้มลองเพียบ
น้ำตกเจ็ดสาวน้อย ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย บริเวณหมู่บ้านแก่งหลุ ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก เป็นน้ำตกที่เกิดจากลำห้วยมวกเหล็ก มีลักษณะเป็นชั้นเตี้ย ๆ จำนวน 7 ชั้น รวมระยะทางทั้งสิ้น 490 เมตร แต่ละชั้นมีความสูงประมาณ 1-4 เมตร บางชั้นจะมีแอ่งน้ำตื้น ๆ ให้นักท่องเที่ยวได้ลงเล่นคลายร้อน น้ำใสสะอาด ไม่ไหลเชี่ยว ปลอดภัย บริเวณรอบด้านของน้ำตกจะมีต้นไม้น้อยใหญ่ให้ร่มเงา บรรยากาศร่มรื่น ช่วงที่น่าเที่ยวคือเดือนพฤศจิกายน-เมษายน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย โทรศัพท์ 0 3634 6586
ตลาดโบราณริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงอายุกว่า 100 ปี สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตผู้คน กับชุมชนที่อยู่ริมแม่น้ำมาเก่าแก่ ตั้งแต่ก่อนสมัยรัชกาลที่ 5 สิ่งหนึ่งที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาสัมผัส ตลาดบ้านใหม่ นอกจากอาหารการกินแล้ว นั่นคืออาคารบ้านเรือนที่แสดงบรรยากาศของอดีตได้เป็นอย่างดี โดยการเป็นแผ่นไม้กระดานที่ปลูกสร้างให้ชิดติดกับริมลำน้ำ และยังคงสภาพเดิม ๆ ตั้งแต่ครั้งนั้นมาได้อย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งถูกใช้เป็นสถานที่สำหรับถ่ายทำภาพยนตร์และละครอยู่เสมอ
เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น. ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดบ้านใหม่ ๑๐๐ ปี
ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ถูกจัดขึ้นบริเวณใต้ต้นไม้ใหญ่ภายในวัดโพธิ์เก้าต้น ตำบลบางระจัน อำเภอค่ายบางระจัน บรรยากาศจึงร่มรื่นน่าเที่ยวชม มีการจัดแต่งซุ้มจำหน่ายสินค้าด้วยวัสดุธรรมชาติในรูปแบบพื้นบ้าน ให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลาย ชาวบ้านจะแต่งตัวย้อนยุคมานั่งจำหน่ายสินค้า พูดจาขอรับ/เจ้าค่ะ พาให้บรรยากาศยิ่งคล้ายกับตลาดในยุคโบราณ
สินค้าที่ชาวบ้านนำมาจำหน่ายก็จะเป็นอาหารท้องถิ่น ขนมโบราณที่หากินยาก ผลิตภัณฑ์ทำมือ รวมไปถึงพืชผักและผลไม้สด ๆ จากไร่ของชาวบ้าน ซึ่งจะเริ่มขายกันในราคาเพียงแค่หลักสิบเท่านั้น เปิดให้บริการวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่อยู่ติดกับเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.30-17.00 น. ไม่มีค่าเข้าชม ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน
20. ชุมชนตะเคียนเตี้ย จังหวัดชลบุรี
ชุมชนเล็ก ๆ ในอำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตชาวบ้านไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ หล่อเลี้ยงชีพด้วยการทำเกษตรกรรม การใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น รวมถึงยังมีธรรมชาติที่บริสุทธิ์ จึงทำให้ที่นี่ยังคงความเป็นอยู่ที่แสนเรียบง่ายไม่ต่างจากในอดีต ปัจจุบันสวนมะพร้าวยังคงเป็นอาชีพหลัก แต่ก็มีการทำสวนเกษตรที่หลากหลายมากขึ้น แปรรูปมะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สร้างรายได้ให้กับครอบครัว
นอกจากการเที่ยวชมสวนมะพร้าวแบบพัทยาดั้งเดิมแล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ให้ได้เรียนรู้มากมาย เช่น กิจกรรมเพื่อสุขภาพ, เรียนรู้สารพันงานศิลปะพื้นบ้าน, การปลูกผักสวนครัวและสวนสมุนไพร และงานหัตถกรรมพื้นบ้าน เป็นต้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชนตะเคียนเตี้ย โทรศัพท์ 085 698 9732
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ททท., เฟซบุ๊ก ฅนชอบเที่ยว, เฟซบุ๊ก Tat Ayutthaya และ kwangchowwaterfall-resort.com