10 สถานที่ชมทะเลหมอกหน้าฝน 2567 สัมผัสฟีลสดชื่นช่วงกรีนซีซั่น

           สถานที่ชมทะเลหมอกหน้าฝน 2567 เอาไว้ชวนคนข้าง ๆ เดินทางไปเก็บโมเมนต์ความประทับใจกับทะเลหมอกหน้าฝน ให้ฟีลกู้ดรับวันฝนพรำ
           เมื่อนึกถึงทะเลหมอก หลายคนอาจคิดว่าเป็นกิจกรรมท่องเที่ยวสุดฮิตในช่วงหน้าหนาว แต่จริง ๆ แล้วหน้าฝนก็เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การชมทะเลหมอกเช่นกัน นอกจากสถานที่ชมทะเลหมอกดัง ๆ อย่างม่อนแจ่ม ภูทับเบิก เขาค้อ แล้ว ยังมีที่อื่น ๆ ให้ชม แต่ละแห่งมีเสน่ห์และความสวยงามที่แตกต่างกันไป แต่จะมีสถานที่ชมทะเลหมอกหน้าฝน 2567 ที่ไหนบ้าง มาดูกัน

สถานที่ชมทะเลหมอกหน้าฝน 2567

1. เขาพะเนินทุ่ง จังหวัดเพชรบุรี

           ช่วงหน้าฝนแบบนี้อยากชวนทุกคนออกเดินทางไปจังหวัดเพชรบุรี ไปกางเต็นท์ นอนดูดาว ตื่นเช้าชมหมอกกัน ที่เขาพะเนินทุ่ง ยอดเขาที่สูงที่สุดของอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน (เขาพะเนินทุ่ง 2567 เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2567) และยังมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ ทิวทัศน์สวยงาม อากาศสดชื่นเย็นสบาย เหมาะกับการมาพักผ่อนในฤดูกาลนี้เป็นที่สุด โดยเฉพาะในตอนเช้าที่นักท่องเที่ยวสามารถชมทะเลหมอกสีขาวลอยละล่องคลอเคลียยอดเขาสีเขียวยามพระอาทิตย์ขึ้น ถือเป็นภาพธรรมชาติที่สวยงามชวนให้ประทับใจ หาได้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
เขาพะเนินทุ่ง

ภาพจาก : ajisai13 / shutterstock.com

หลากเรื่องน่ารู้เขาพะเนินทุ่ง จ.เพชรบุรี ทริปหนาวปลายปี เห็นทีต้องจัด

2. เขายายเที่ยง จังหวัดนครราชสีมา

           หนึ่งในสถานที่ชมทะเลหมอกหน้าฝนยอดนิยมที่โคราช ด้วยเพราะอากาศที่นี่สดชื่นเย็นสบาย โดยเฉพาะถ้ามาในช่วงฤดูฝนก็จะเจอกับสายหมอกบาง ๆ ลอยเป็นปุยสุดลูกหูลูกตา นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางขึ้นมาบนยอดเขาและชมวิวสวย ๆ พร้อมเก็บบรรยากาศแบบนี้ได้เลย เมื่อขึ้นมาก็จะเจออ่างพักน้ำขนาดใหญ่ กังหันลมยักษ์ และวิวเขื่อนลำตะคอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำเพลิน ๆ จะถ่ายรูป เดินเล่น หรือปั่นจักรยานชิล ๆ เท่านี้ก็ฟินเว่อร์
เขายายเที่ยง

  • ที่อยู่ : ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
     

เรื่องน่ารู้เขายายเที่ยง โคราช เที่ยวสนุกชวนสัมผัสวิวธรรมชาติสวย ๆ

3. ภูค้อ จังหวัดเลย

           ภูค้อ เป็นส่วนหนึ่งของป่าชุมชนบ้านบุ่ง บ้านโป่งกูด และบ้านห้วยนาสี หรือ “ป่าชุมชนภูค้อ” แห่งอำเภอนาแห้ว โดยจุดหลัก ๆ ของสถานที่ชมทะเลหมอกของภูค้อ มีอยู่ด้วยกัน 2 จุด คือ จุดที่ 1 ไร่ลุงนำ (โทรศัพท์ 09-8241-9664) และจุดที่ 2 ชมภู-ดูทะเลหมอกภูค้อ วิสาหกิจชุมชนห้วยนาสี (โทรศัพท์ 09-8665-6358) ถึงแม้ว่ารถขับเคลื่อนสี่ล้อ, รถมอเตอร์ไซค์สายลุย จะขึ้นภูค้อได้ แต่ถ้าจะให้แนะนำ ลองนั่งรถอีแต๊กของชาวบ้านดู นอกจากจะเป็นการอุดหนุนเศรษฐกิจในชุมชนแล้ว ยังได้สัมผัสธรรมชาติของภูค้ออย่างเต็มตา โดยด้านบนจะมีจุดค้างแรมให้บริการ รวมถึงเมนูพื้นบ้านที่สามารถสั่งได้ เช่น หลามไก่, หลามไหล (ปลาไหล), ปลาย่าง, ส้มตำ, แจ่วดำ, แจ่วสะทอน, กุ้งหมกใบตอง, อั่วปูหิน, หมูหัน, หมูกระทะ ส่วนตอนเช้าจะมีข้าวจี่และข้าวต้มร้อน ๆ ไว้บริการ
ภูค้อ เลย

4. เขาโปกโล้น นครชุม จังหวัดพิษณุโลก

           นครชุม หมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขาและสายหมอก ล้อมรอบด้วยวิวธรรมชาติ 360 องศา การมาเที่ยวพักผ่อนที่นี่ เน้นมาใช้ชีวิตในแบบนอนโฮมสเตย์ กินอาหารแบบบ้าน ๆ ขับรถเล่นในหมู่บ้านชมวิถีชีวิตชาวบ้าน ท่ามกลางอัธยาศัยไมตรีที่เป็นกันเอง นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมปั่นจักรยาน เยี่ยมชมบ้านทหารผ่านศึก ดูบ่อเกลือพันปี โรงกลั่นสุราชุมชน กลุ่มทอผ้าดอกจิก และกลุ่มทำไม้กวาดดอกหญ้าท้องถิ่น เรียกว่าเข้าถึงรากเหง้าของชุมชนอย่างใกล้ชิด และไฮไลต์อีกหนึ่งอย่างที่ไม่ควรพลาดนั่นคือ เดินขึ้นเขาโปกโล้นด้วยระยะทาง 1-2 กิโลเมตร เพื่อชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่ค่อย ๆ สาดส่องผ่านทะเลหมอกที่ปกคลุมทั่วภูเขา โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะมีหมอกหนาเป็นพิเศษ ทำให้ทัศนียภาพตรงหน้างดงามเกินคำบรรยาย
  • ที่อยู่ : ตำบลนครชุม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก

5. ดอยสกาด จังหวัดน่าน

          ดอยสกาด ชุมชนเล็ก ๆ กับวิถีชีวิตที่เรียบง่ายบนเทือกเขาดอยภูคา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวมักนิยมพักแบบโฮมสเตย์ อยู่กับธรรมชาติ เน้นความเงียบสงบ และจะสังเกตได้ว่าที่พักแทบทุกที่จะต้อนรับด้วยชาและเมี่ยงคำ ด้วยเพราะที่นี่เป็นแหล่งปลูกต้นชาอัสสัมเป็นหมื่น ๆ ไร่เลยทีเดียว เหมาะกับนักท่องเที่ยวสายสโลว์ไลฟ์ โดยสามารถมาเที่ยวได้ตั้งแต่หน้าฝนไปจนถึงหน้าหนาว โดยหน้าฝนจะได้สดชื่นไปกับธรรมชาติและสายหมอก แนะนำว่าถ้าใครขับรถมาควรใช้ความระมัดระวัง เพราะมีทางโค้งค่อนข้างเยอะ แต่ธรรมชาติสองข้างทางก็สวยงาม สร้างความเพลินตาให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่มาเยือน

ดอยสกาด น่าน

  • ที่อยู่ : ตำบลสกาด อำเภอปัว จังหวัดน่าน
     

18 ที่พักดอยสกาด จ.น่าน ชมวิวภู ดูทะเลหมอก ในราคาสบายกระเป๋า

6. บ้านนอแล จังหวัดเชียงใหม่

           หมู่บ้านนอแล ตั้งอยู่บนดอยอ่างขาง เป็นฐานที่มั่นติดชายแดนไทย-เมียนมา ในอดีตมีประวัติการต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศ ซึ่งปัจจุบันไม่มีการสู้รบกันแล้ว แต่ยังมีทหารทั้งฝั่งไทยและเมียนมาประจำการอยู่ โดยเปิดเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวและจุดชมวิว ที่นี่จึงถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญเลยก็ว่าได้ แม้จะเป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ แต่ที่นี่ก็เต็มไปด้วยบรรยากาศความน่ารักของผู้คนและวิถีชีวิตที่ยังคงกลิ่นอายความเป็นชาวเผ่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมาชมวิวทิวทัศน์​ของผืนป่าและทิวเขาของฝั่งเมียนมาที่สวยงาม สำหรับใครที่จะไปเที่ยวช่วงหน้าฝน อย่าลืมระมัดระวังในการขับขี่ด้วยนะ เพื่อเป็นการป้องกันอุบัติเหตุและจะได้ไม่หมดสนุกกันไปเสียก่อน
บ้านนอแล เชียงใหม่

  • ที่อยู่ : ตำบลม่อนปิ่น อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่

7. ดอยช้าง จังหวัดเชียงราย

           ดอยช้าง เป็นหนึ่งที่เที่ยวยอดฮิตในเชียงราย ด้วยเพราะมีถนนเดินทางเข้าถึงได้อย่างสะดวก มีภูเขาสวย ๆ ให้ชม คาเฟ่ชิล ๆ ให้แวะ นั่งจิบกาแฟ รวมถึงที่พักดี ๆ ให้เช็กอิน หลากหลายที่เที่ยวบนดอยช้างน่าสนใจ เช่น Akha FarmVille ฟาร์มแกะวิวสวย, จุดชมวิว กม.5 + 475 ถนนลอยฟ้าที่สวยงามที่สุดบนดอยช้าง, ร้านคาเฟ่ต่าง ๆ อย่าง MiYo coffee & bar, ABONZO Paradise, Mr.Black Cafe Doichaang ยิ่งถ้ามาเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาว (ประมาณเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน) เพราะนักท่องเที่ยวจะเห็นความเขียวขจีของภูเขาและทะเลหมอก ท้องฟ้าไม่ครึ้มจนเกินไป แต่ถ้าไปช่วงหน้าหนาว ภูเขาจะไม่เขียวมาก และโอกาสที่จะเห็นทะเลหมอกก็น้อยด้วยเช่นกัน
ดอยช้าง เชียงราย

8. เขาศูนย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช

           จุดชมวิวทะเลหมอกที่สวยมากที่สุดของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ภายในสถานีถ่ายทอดสัญญาณโทรคมนาคมบนยอดเขาสูงมากกว่า 500 เมตร ซึ่งสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของภูเขาบริวารและป่าไม้โดยรอบได้ไกลสุดลูกหูลูกตา ไฮไลต์ของที่นี่คือทะเลหมอกสีขาวกว้างใหญ่ อัดแน่นคล้ายกับผ้านวมสีขาวนุ่ม ๆ ผืนใหญ่ ยิ่งถ้ามีแสงพระอาทิตย์ยามเช้าทาบทอลงมาก็จะเห็นเป็นสีเหลืองส้มอ่อน ๆ ไล่ฉาบทาไปตามลอนหมอก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีจุดกางเต็นท์ไว้บริการ
เขาศูนย์ นครศรีธรรมราช

ภาพจาก : ThewayIsee / shutterstock.com

  • ที่อยู่ : หมู่ที่ 9 ตำบลไม้เรียง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช

9. ดินแดงดอย จังหวัดกระบี่

           ดินแดงดอย เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกในเมืองกระบี่ ที่นี่เป็นที่ส่วนบุคคลซึ่งเราต้องเสียค่าเข้าชม เราจะได้เห็นหมอกไปพร้อม ๆ กับพระอาทิตย์ขึ้น แต่ต้องบอกก่อนว่ามาแล้วอาจจะไม่ได้เจอหมอกปัง ๆ ทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ถ้ามีฝนตกช่วงกลางคืนหรือมีความชื้นมาก ๆ เช้ามาก็อาจจะได้เจอทะเลหมอก นอกจากนี้ที่นี่ยังมีที่พักลานกางเต็นท์และอาหารเช้าให้บริการด้วย หรือถ้าใครที่ไปแล้วไม่อยากค้างคืนก็มีรถรับ-ส่งให้บริการไป-กลับ (คนละประมาณ 30 บาท) เรียกได้ว่าเที่ยวสะดวก เดินทางเก็บโมเมนต์ประทับใจได้แบบฟิน ๆ
ดินแดงดอย กระบี่

ภาพจาก : yutphoto freelance / shutterstock.com

  • ที่อยู่ : หมู่ 6 ตำบลหนองทะเล อำเภอเมือง จังหวัดกระบี่

10. ฆูนุงซีลีปัต จังหวัดยะลา

           ฆูนุงซีลีปัต ดินแดนขุนเขาแห่งทะเลหมอก และยังชมได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงที่จะสวยที่สุดก็อยู่ราว ๆ เดือนกุมภาพันธ์-เมษายน การขึ้นไปชมทะเลหมอกบนยอดฆูนุงซีลีปัตนั้นอาจจำเป็นที่จะต้องใช้แรงใจและแรงขาพอสมควร เนื่องจากเส้นทางการเดินขึ้นบนยอดเขามีความลาดชัน ระยะทางประมาณ 500 เมตร แต่เมื่อขึ้นไปสำเร็จแล้วรับรองว่าไม่ผิดหวังกับวิวที่เห็นเบื้องหน้า ด้านบนยอดเขาเป็นลานหินขนาดไม่กว้างมากนัก จึงต้องมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่จะเดินขึ้นด้านบนคราวละประมาณ 70-80 คน นักท่องเที่ยวที่จะเดินขึ้นเขาสามารถพักในตัวเมืองเบตงแล้วเดินทางมาในช่วงเช้ามืด หรือจะพักกางเต็นท์ค้างคืนบริเวณด้านล่างเขาก็ได้ตามอัธยาศัย
ฆูนุงซีลีปัต ยะลา

ภาพจาก : Jack FotoVerse / shutterstock.com

  • ที่อยู่ : ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา

          หน้าฝนนี้ใครที่อยากออกเดินทางไปสัมผัสธรรมชาติของสายฝนและหมอก ลองมาเช็กลิสต์สถานที่ชมทะเลหมอกหน้าฝน 2567 เหล่านี้ดู ไว้สะกิดคนข้าง ๆ ไปเที่ยวกัน ^ ^

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

แนะนำ สถานที่ชมทะเลหมอก ที่เที่ยวหน้าฝน อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

ขอบคุณข้อมูลจาก : thai.tourismthailand.org

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
10 สถานที่ชมทะเลหมอกหน้าฝน 2567 สัมผัสฟีลสดชื่นช่วงกรีนซีซั่น อัปเดตล่าสุด 15 สิงหาคม 2567 เวลา 11:36:37 38,580 อ่าน
TOP
x close