1. หมู่บ้านมอญห้วยน้ำใส จังหวัดราชบุรี
หมู่บ้านชุมชนชาวไทยรามัญ (ชาวมอญ) ที่ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ในหุบเขา ที่ผสมผสานวิถีชีวิตไทย-มอญได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังถูกรายล้อมไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ภูเขา และลำธาร ซึ่งกิจกรรมไฮไลต์ไม่ควรพลาดคือ การตักบาตรของชาวมอญในช่วงเช้า (ชาวบ้านเรียกว่า “จู๊ดเปอป๊าด” แปลว่า ตักบาตร) โดยมีการปูเสื่อตามแนวทางเดิน เมื่อได้เวลาจะหามระฆังและตีส่งสัญญาณ จากนั้นพระสงฆ์จากสำนักสงฆ์ห้วยน้ำใสก็จะเดินเป็นแถวมาเพื่อรับบิณฑบาต ปิดท้ายด้วยนางรำของชาวมอญ หากไปเที่ยวในช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดต่อเนื่อง จะมีตลาดให้นักท่องเที่ยวเดินช้อป รวมถึงของกินหลากหลายให้เลือกซื้อหา เช่น เมี่ยงคำ กาแฟ ชา ข้าวเหนียว ขนมถ้วย หอมทอด และผลิตภัณฑ์พื้นบ้านต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมีคาเฟ่และร้านอาหารบริการด้วย
2. ส่องช้างป่า-กระทิง ณ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- จุดที่ 1 จุดชมสัตว์ป่าโป่งสลัดได ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ มีหอชมสัตว์
- จุดที่ 2 หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กร.1 (ป่ายาง)
- จุดที่ 3 พุยายสาย
- จุดที่ 4 บริเวณหน้าผาจุดชมสัตว์ป่า
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวและทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเกิดการฟื้นตัว สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติกุยบุรี - Kui Buri National Park
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี จ.ประจวบฯ ส่องช้างป่า-กระทิง ชมป่าซาฟารีเมืองไทย
3. ชมหิ่งห้อย บ้านโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทรศัพท์ 09-3253-5386 (ครูอ้วน), 09-6663-5358 (ตุ๊ก), เฟซบุ๊ก ชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัตวิถีบ้านโพธิ์ประทับช้าง และ เฟซบุ๊ก TAT Nakhonsawan.Phichit
ชวนชมหิ่งห้อย บ้านโพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ความงามแห่งปลายฝนต้นหนาว
4. บ้านน้ำจวง จังหวัดพิษณุโลก
5. จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นภูค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
เที่ยวน้ำหนาว เพชรบูรณ์ พักผ่อนกับธรรมชาติ เพลินไปกับอากาศเย็น ๆ
6. ภูสอยดาว จังหวัดอุตรดิตถ์
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะไกล ลานสนภูสอยดาว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม - วันที่ 15 มกราคม ของทุกปี เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ขึ้นมาสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติอย่างใกล้ชิด และต้องปฏิบัติตามข้อปฏิบัติต่าง ๆ สอบถามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park
ภูสอยดาว เรื่องรู้ไว้ก่อนไปปักหมุดชมทุ่งหญ้า ป่าสน และดอกไม้งาม
7. บ้านแม่ลัว จังหวัดแพร่
นอกจากนี้ยังเป็นจุดเริ่มต้นในการเดินพิชิต “ดอยช้างผาด่าน” ยอดเขาหินปูนสูงเด่น มีรูปร่างคล้ายช้างนอนหมอบ สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 840 เมตร ซึ่งด้านบนสามารถเที่ยวได้ทั้งค้างแรมและไม่ค้างแรม โดยต้องขออนุญาตจากเขตห้ามล่าสัตว์ป่าช้างผาด่าน และต้องมีชาวบ้านดูแลนำเที่ยวทุกครั้ง
8. ม่อนปุยหมอก จังหวัดตาก
ทั้งนี้ บริเวณจุดกางเต็นท์ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกใด ๆ (วางแผนสำหรับทริปนี้พอสมควร) หากใครที่จะมาพิชิตม่อนปุยหมอก จำเป็นต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางและลูกหาบล่วงหน้าด้วยนะ สอบถามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติแม่เมย - Mae Moei National Park
9. สวนดอกไม้เชียงใหม่
10. ดอยหัวหมู จังหวัดเชียงใหม่
จุดชมวิวในเส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเส้นทางเดินชมธรรมชาติ เลาะเลียบผาที่มีป่าสนหนาแน่น ซึ่งเริ่มต้นเดินทางจากพระธาตุดอยสุเทพ ผ่านตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ มุ่งสู่จุดกางเต็นท์ดอยปุย จากตรงนี้ไปจะมี 2 ทางให้เลือก คือ เส้นทางศึกษาธรรมชาติยอดดอยปุย และทางแยกหน้าหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน ทั้ง 2 เส้นทางจะมีระยะทางใกล้เคียงกัน นั่นคือประมาณ 3 กิโลเมตร และทั้ง 2 ทางสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้
1. เส้นทางจากป้อมร้างที่มีไม้กั้นและป้ายบอกทางอยู่ ควรศึกษาแผนที่ตรงป้ายก่อน แล้วเริ่มเดินไปเลย มีระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร ลักษณะทางเป็นทางปูนและทางดิน รอบล้อมไปด้วยต้นไม้ใหญ่เขียวชอุ่ม แต่ต้องเดินด้วยความระมัดระวังเพราะมีตะไคร่เกาะตามทางเดินพอสมควร จากนั้นจะเป็นทางเดินลงที่เป็นบันไดปูน ต่อด้วยทางเดินดินลาดลงก็จะถึงจุดชมวิวดอยหัวหมู
2. เส้นทางจากหน้าหมู่บ้านขุนช่างเคี่ยน จะอยู่ก่อนถึงทางเข้าหมู่บ้าน เป็นสามแยกเล็ก ๆ สามารถจอดรถตรงนั้นแล้วเดินขึ้นมาได้เลย ทางเดินเป็นทางดิน มีความชันพอประมาณ แต่เดินได้ไม่ลำบาก ระหว่างทางจะพบกับจุดพลับพลา เป็นศาลาไม้ใหญ่ ๆ มีทางแยกไปยอดดอยปุยได้จากจุดนี้ ให้เดินต่อไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงจุดชมวิวดอยหัวหมู
การมาเที่ยวดอยหัวหมู ควรจะมาเที่ยวในช่วงปลายฝนต้นหนาวหรือหน้าหนาว เพราะอากาศกำลังเย็นสบาย มีสายหมอกและลมเย็น ๆ และช่วงเวลาที่แนะนำเป็นเวลาประมาณ 07.00-15.00 น. เพราะเป็นช่วงเวลาที่มีแดด มีแสงส่องสว่าง ไม่มืดครึ้มจนเกินไป
ดอยหัวหมู เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ เดินเที่ยวรับลมเย็น ๆ
11. บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
ไฮไลต์ของการไปเที่ยวบ้านรักไทย คือ การได้เรียนรู้วัฒนธรรมไทย-จีนยูนนาน จิบชาขึ้นชื่อ นั่งเรือล่องทะเล เดินเล่นในไร่ชาที่ปลูกเป็นระดับขั้นบันได ปั่นจักรยานชมบรรยากาศรอบหมู่บ้าน และลิ้มลองอาหารยูนนานต่าง ๆ ทางด้านที่พักก็มีพร้อมให้บริการอยู่ไม่น้อย
เที่ยวแม่ฮ่องสอน 3 วัน 2 คืน ให้สายหมอกและธรรมชาติช่วยรีชาร์จความสุข
12. เกาะแรต จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ชวนเที่ยวเกาะแรต สุราษฎร์ธานี เกาะจิ๋วแต่แจ๋ว แหล่งวิถีชีวิตชาวเล
13. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา
ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาวใครบอกว่าไปได้แต่ขึ้นดอย เดินป่าล่ะ ทะเลสวย ๆ ก็ไปเที่ยวได้เหมือนกันนะ โดยเฉพาะเกาะต่าง ๆ ภายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ที่จะกลับมาเปิดการท่องเที่ยวประจำปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม เป็นต้นไป (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน จะปิดการท่องเที่ยวระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม - 14 ตุลาคม ของทุกปี) สำหรับอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ประกอบไปด้วยทั้งหมด 11 เกาะ ได้แก่ เกาะหูยง, เกาะปายัง, เกาะปาหยัน, เกาะเมียง, เกาะห้า, เกาะหก, เกาะปายู, เกาะสิมิลัน, เกาะบางู, เกาะตาชัย และเกาะบอน ซึ่งหมู่เกาะเหล่านี้มีความงามทั้งบนบกและใต้น้ำที่ยังคงความสมบูรณ์ของท้องทะเล สามารถดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังสีสันสวยงามหลายชนิด รวมทั้งปลาหลากสีสันและหายาก
การไปเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน ปัจจุบันจะเป็นแบบวันเดย์ทริปเท่านั้น และต้องจองล่วงหน้า 1 วัน กับผู้ประกอบการที่ได้รับอนุญาตจากทางอุทยาน ทั้งนี้ สอบถามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน - Mu Ko Similan National park
14. อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จังหวัดพังงา
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ปิดการท่องเที่ยวประจำปีระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม - 14 ตุลาคม ของทุกปี เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ฤดูมรสุมและเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ สอบถามรายละเอียดได้ที่ เฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ - Mu Ko Surin National Park
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา สวรรค์ของคนรักการดำน้ำ
15. เกาะลันตาใหญ่ จังหวัดกระบี่
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง