ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดภาคตะวันตกในแผนที่ประเทศไทย มีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ทั้งทะเล ภูเขา หรือตลาดเก่าแก่ ไม่ว่าจะเป็น หัวหิน ถ้ำพระยานคร วัดห้วยมงคล ชายหาดปราณบุรี อ่าวมะนาว และถนนคนเดินประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น แต่วันนี้เราจะชวนไปเที่ยวอีกหนึ่งแห่งน่าสนใจ ก็คือ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี แหล่งต้นน้ำที่คอยหล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนในจังหวัด อีกทั้งผืนป่ามีความอุดมสมบูรณ์ จึงทำให้มีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช้างป่าและเหล่าฝูงวัวกระทิง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ตามเวลาที่อุทยานกำหนด ความน่าสนใจของที่นี่ยังมีอีกมาก เอาเป็นว่าไปทำความรู้จักกับอุทยานแห่งชาติกุยบุรีกันให้มากขึ้นดีกว่า
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ตั้งอยู่ที่ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีพื้นที่ครอบคลุมในท้องที่อำเภอปราณบุรี อำเภอสามร้อยยอด อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 90 ของประเทศ ทั้งยังอยู่ในกลุ่มป่าแก่งกระจาน ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกทางธรรมชาติแห่งใหม่ของไทย เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2564
- Google Map : อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมประจำปี 2565 ระหว่างวันที่ 1 กันยายน - 31 ตุลาคม เพื่อให้แหล่งท่องเที่ยวและทรัพยากรธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติกุยบุรีเกิดการฟื้นตัว
สืบเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างคนกับช้างป่าที่ทวีความรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤต เป็นเหตุให้ช้างป่าล้มตายจำนวน 2 ตัว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2540 บริเวณท้องที่บ้านรวมไทย หมู่ 7 ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
จากการตรวจพิสูจน์ของสถาบันสุขภาพสัตว์บางเขน พบว่า ช้างป่าได้กินสารพิษชนิดร้ายแรงเข้าไปจนตาย จากกรณีดังกล่าว พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มีพระราชดำริเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2540 สรุปได้ว่า ให้ดำเนินการอนุรักษณ์และฟื้นฟูสภาพป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี โดยใช้รูปแบบในการฟื้นฟูเช่นเดียวกับการดำเนินงานของโครงการศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทรายฯ จ.เพชรบุรี และโครงการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรมเขาชะงุ้มฯ จ.ราชบุรี
นับเป็นจุดเริ่มต้นโครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรีแต่นั้นมา
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี สำรวจพบโดยจำแนกจากกล้องดักถ่ายภาพอัตโนมัติ
- สำรวจพบสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 20 วงศ์ 36 สกุล จำนวน 39 ชนิด
- สำรวจพบนก 61 วงศ์ 148 สกุล จำนวน 201 ชนิด
- สำรวจพบผีเสื้อไม่ต่ำกว่า 200 ชนิด
ทางด้านสัตว์ป่าสงวนที่พบในพื้นที่มี 4 ชนิด ดังนี้
1. สมเสร็จ
2. เลียงผา
3. แมวลายหินอ่อน
4. เก้งหม้อ
- ช้างป่า : พื้นที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติ ที่ กร. 1 (ป่ายาง) และพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติกุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีประชากรช้างป่า ไม่น้อยกว่า 237 ตัว (พ.ศ. 2559) ปัจจุบันเชื่อว่ามีจำนวนไม่น้อยกว่า 300 ตัว พบอาศัยหากินกระจายในพื้นที่อุทยาน ทั้งพื้นที่ตอนเหนือ ตอนกลาง และตอนใต้ ตอนกลางจะเป็นพื้นที่ที่ช้างป่าอาศัยอยู่จำนวนมาก
- กระทิง : กระทิงจะออกมาหากินหญ้าและดินโป่ง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีและพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ คาดว่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ กุยบุรีมีกระทิงไม่น้อยกว่า 300 ตัว
- วัวแดง : พบว่าวัวแดงออกมาหากินหญ้าและดินโป่ง ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีและพื้นที่โครงการอนุรักษ์และฟื้นฟูสภาพป่าบริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่ากุยบุรี อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ร่วมกับฝูงกระทิง สำรวจพบวัวแดงเพศเมีย จำนวน 1 ตัว วัวแดงเพศผู้ จำนวน 6 ตัว
◆ ฤดูร้อน : เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์-กลางเดือนพฤษภาคม เป็นช่วงรอยต่อของฤดูลมมรสุม หลังจากสิ้นฤดูลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือแล้วอากาศจะเริ่มร้อน และมีอากาศร้อนที่สุดในเดือนเมษายน แต่ไม่ร้อนมากนัก อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 29 องศาเซลเซียส
◆ ฤดูฝน : เริ่มตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนพฤศจิกายน โดยฝนจะตกหนักในเดือนพฤษภาคม แล้วฝนจะทิ้งช่วงในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม หลังจากนั้นจะตกหนักในช่วงเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน
◆ ฤดูหนาว : เริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม-ปลายเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 25 องศาเซลเซียส
การท่องเที่ยวชมสัตว์ป่า
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีสภาพป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ เป็นถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าที่มีความสำคัญหลายชนิด เช่น ช้างป่า กระทิง วัวแดง และสัตว์ป่าอื่น ๆ จำนวนมากและพบเห็นได้ง่าย จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนหลายภาคส่วน โดยเฉพาะชาวบ้านหมู่บ้านรวมไทย ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาช้างป่าออกมากินพืชผลทางการเกษตร ก่อตั้งชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรีขึ้น และได้จัดกิจกรรมชมสัตว์ป่า เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและชาวบ้านอีกด้วย
กิจกรรมชมสัตว์ป่านั้น จะเปิดในช่วงระหว่างเวลา 14.00-18.00 น. ซึ่งการเข้าไปยังพื้นที่ชมสัตว์ป่าจะต้องเช่ารถของชมรมท่องเที่ยวฯ เข้าไปยังจุดชมสัตว์ป่าทั้ง 4 จุด ได้แก่
- จุดที่ 1 จุดชมสัตว์ป่าโป่งสลัดได ทุ่งหญ้าขนาดใหญ่ มีหอชมสัตว์
- จุดที่ 2 หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กร.1 (ป่ายาง)
- จุดที่ 3 พุยายสาย
- จุดที่ 4 บริเวณหน้าผาจุดชมสัตว์ป่า
ระเบียบในการเข้าชมสัตว์ป่า
- ชมสัตว์ป่าเวลา 14.00-18.00 น.
- ห้ามยั่วยุหรือกระทำการให้เกิดอันตรายต่อสัตว์ป่า
- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในพื้นที่ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อโรคสู่สัตว์ป่า
- ห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และเสพสิ่งเสพติด
- ห้ามส่งเสียงดังอึกทึกครึกโครม
- ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ชมสัตว์ป่า
- ห้ามนำอาหารหรือผลไม้เข้าพื้นที่
- ห้ามทิ้งขยะหรือสิ่งปฎิกูลในพื้นที่
- รถ 1 คัน ควรนั่งไม่เกิน 10 คน
- ใส่เสื้อผ้าสีกลมกลืนกับธรรมชาติ
- ห้ามใช้เฟลชในการถ่ายรูป
- ห้ามนำรถส่วนตัวเข้าไปในพื้นที่
- อยู่ห่างจากสัตว์ป่าในระยะไม่ต่ำกว่า 100 เมตร
- ควรปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้ ช่วงเวลาชมสัตว์ป่าที่ดีที่สุดของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี จะอยู่ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. โดยขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในแต่ละวัน หากวันไหนที่มีอากาศร้อนมาก สัตว์ป่าก็จะออกมาในช่วงเย็น และหากวันไหนที่มีอากาศเย็น มีฝนตกพรํา ๆ ก็มีโอกาสได้เห็นเร็วยิ่งขึ้น
การท่องเที่ยวเดินป่าศึกษาธรรมชาติ/ดูนกและผีเสื้อ
เส้นทางศึกษาธรรมชาติมีหลายเส้นทาง ทั้งระยะสั้น 900 เมตร ไปจนถึงระยะทาง 2.94 กิโลเมตร นักท่องเที่ยวจะได้พบเห็น และศึกษาคุณค่า ความสำคัญของพันธุ์ไม้นานาพรรณที่มีประโยชน์ทั้งต่อมนุษย์และสัตว์ป่า โดยเฉพาะ "ไม้จันทน์หอม" และ "ศาลาตอไม้จันทน์หอม" ที่นำไปใช้ในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ ซึ่งตลอดเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ และในบริเวณรอบพื้นที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ยังสามารถพบนกและผีเสื้อนานาชนิดพันธุ์อีกด้วย
จุดกางเต็นท์อุทยานแห่งชาติกุยบุรี
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี มีสถานที่กางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพักค้างแรม พร้อมกับมีเต็นท์และอุปกรณ์การนอนเตรียมไว้บริการนักท่องเที่ยวเช่า อีกทั้งมีเวรยามรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง มีห้องน้ำ ห้องสุขาที่สะอาด เพราะมีแม่บ้านคอยดูแลตลอดวัน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวหลายจุด
เงื่อนไขการจอง
- จองล่วงหน้าได้ไม่เกิน 60 วัน
- จองติดต่อกันได้ไม่เกิน 3 คืน
- กรุณาเลือกวันเข้า ก่อนวันออก
- ค่าผ่านเข้า ให้เลือกเฉพาะวันเข้าเท่านั้น
ค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
อัตราค่าเข้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
- ชาวไทย เด็ก 20 บาท/คน ผู้ใหญ่ 40 บาท/คน
- ชาวต่างประเทศ เด็ก 100 บาท/คน ผู้ใหญ่ 200 บาท/คน
อัตราค่าบริการในการนำยานพาหนะเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ
- รถจักรยานยนต์ 20 บาท/คัน
- รถยนต์ส่วนบุคคล 30 บาท/คัน
- รถยนต์โดยสาร 12 ที่นั่งขึ้นไป 200 บาท/คัน
อัตราค่าบริการรถนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ท้องถิ่น
- ราคา 850 บาท ต่อคณะ 6-8 คน (ถ้าขึ้นรถจากที่ทำการอุทยาน เพิ่มเป็น 950 บาท)
ในปัจจุบันอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ร่วมกับชมรมท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สัตว์ป่ากุยบุรี ให้บริการนักท่องเที่ยวชมสัตว์ป่า โดยชมรมฯ มีรถและมัคคุเทศก์ไว้บริการนักท่องเที่ยวที่มีความประสงค์เดินทางเข้าไปชมช้างป่า กระทิง หรือสัตว์ป่าอื่น ๆ โดยอยู่ในการควบคุมและดูแลของอุทยานแห่งชาติ ซึ่งมีข้อปฏิบัติสำหรับนักท่องเที่ยว ดังนี้
- เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางมาถึงหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กร. 5 (ห้วยลึก) ให้จอดรถในบริเวณที่อุทยานแห่งชาติกำหนด
- ไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้าชมสัตว์ป่า
- นักท่องเที่ยวเดินทางไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เพื่อชมนิทรรศการของอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เกี่ยวกับประวัติความเป็นมา สัตว์ป่า พันธุ์ไม้ สถานที่ท่องเที่ยว สิ่งอำนวยความสะดวก ติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ถึงรายละเอียดในการชมสัตว์ป่า ชำระค่าบริการเข้าอุทยานแห่งชาติ ชำระค่าบริการในการชมสัตว์ป่า และเก็บบัตรค่าบริการไว้เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่บริเวณด่านตรวจ
- *นักท่องเที่ยวกรอกข้อมูลในสมุดลงทะเบียนและลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน*
- นักท่องเที่ยวเดินเท้าไปยังบริเวณด่านตรวจและแสดงบัตรค่าบริการกับเจ้าหน้าที่ กรอกข้อมูลในสมุดขออนุญาตเข้าอุทยานแห่งชาติ ลงลายมือชื่อไว้เมื่อเข้าและออกอุทยานแห่งชาติ เพื่อความสะดวกในการติดตาม ตรวจสอบ และทำการฆ่าเชื้อโรคในบริเวณที่จัดไว้ โดยการเดินจุ่มเท้าในบ่อน้ำยาฆ่าเชื้อและล้างมือให้สะอาด ทั้งการเข้าและออก
- รถนำชมสัตว์ป่าและผู้เข้าชมต้องผ่านฆ่าเชื้อในบริเวณที่กำหนดรวมทั้งคนขับและมัคคุเทศก์ จอดรถพักไว้ในจุดที่กำหนด ก่อนที่จะนำนักท่องเที่ยวเข้าไปชมสัตว์ป่าประมาณ 10 นาที
- จำนวนนักท่องเที่ยวต่อรถ 1 คัน ไม่เกิน 6-8 คน
- ปิดเส้นทางการท่องเที่ยวเวลา 18.00 น. ของทุกวัน หรือตามสภาพอากาศ
- การชมสัตว์ป่าต้องใช้รถยนต์ของชมรมฯ เท่านั้น
- ห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้าไปในพื้นที่ชมสัตว์ป่า
- ห้ามยั่วยุและล้อเล่นช้างป่าและสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ
- ห้ามนำอาหารหรือผลไม้โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลไม้ที่มีกลิ่นแรง เช่นขนุน ทุเรียนเข้าไปในพื้นที่ชมสัตว์ป่า
- ห้ามนำภาชนะใส่อาหารที่ทำจากโฟมเข้าไปในพื้นที่ชมสัตว์ป่า
- ห้ามทิ้งขยะและสิ่งปฏิกูล
- ห้ามส่งเสียงดัง
- การถ่ายภาพทุกครั้งห้ามใช้แสงแฟลช
- ควรแต่งกายรัดกุม และสีกลมกลืนกับธรรมชาติ (ไม่ฉูดฉาด)
- ห้ามทะเลาะวิวาท ห้ามเล่นการพนัน ไม่เสพสิ่งเสพติด ไม่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ก่อนและขณะนำเที่ยว
- ห้ามสูบบุหรี่ในพื้นที่ชมสัตว์ป่า
- กรณีมีเด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบ ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลของผู้ปกครองและเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด
- ห้ามพกพาอาวุธทุกชนิดเข้าไปในพื้นที่ชมสัตว์ป่า
- ห้ามเข้าใกล้สัตว์ป่าในระยะไม่ต่ำกว่า 50 เมตร
- ห้ามรังแกหรือสร้างความรำคาญให้สัตว์ป่า
- เวลาในการเข้าชมสัตว์ป่า 15.00-18.00 น.
- การเข้าชมสัตว์ป่าต้องมีเจ้าหน้าที่หรือมัคคุเทศก์ท้องถิ่นไปด้วยทุกครั้ง
- ต้องอยู่ในความควบคุมดูแลและปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด
- ที่อยู่ : บ้านย่านซื่อ ตำบลหาดขาม อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน เวลา 08.30-16.30 น.
- โทรศัพท์ : 0-3264-6292
- อีเมล : kui_np@hotmail.com
- เฟซบุ๊ก : อุทยานแห่งชาติกุยบุรี - Kui Buri National Park
- Google Map : อุทยานแห่งชาติกุยบุรี