การท่องเที่ยวถือได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ใครที่เรียนหนักหรือทำงานเคร่งเครียดจนไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อนก็ควรวางแผนเพื่อไปเที่ยวกันบ้าง และอะไรจะดีไปกว่าการได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางสถานที่สวย ๆ อากาศเย็น ๆ วิวทิวทัศน์ของขุนเขาอันอุดมสมบูรณ์ รวมถึงสัมผัสกับวิถีชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์ของผู้คน
1. ไร่สิงห์ปาร์ค จังหวัดเชียงราย
ไร่สิงห์ปาร์ค เชียงราย หรือที่คุ้นกันในชื่อไร่บุญรอด ที่นี่ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย กับพื้นที่กว่า 8,000 ไร่ เพลิดเพลินไปกับทัวร์ฟาร์มสิงห์ปาร์ค ชมสวนสัตว์สายพันธ์แอฟริกัน ปั่นจักรยานชมธรรมชาติแบบใกล้ชิด กิจกรรมผจญภัย และการแข่งขันกีฬาตลอดทั้งปีอีกมากมาย ส่วนจุดที่น่าสนใจภายในไร่ ได้แก่ จุดบริการรถฟาร์มทัวร์ ร่วมสัมผัสบรรยากาศและธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขา ตระการตากับไร่ชาและสวนผลไม้นานาชนิด, ทุ่งดอกคอสมอส และสระหงส์ หรือจะไปสร้างความตื่นเต้น ณ หอซิปไลน์ หน้าผาจำลอง และซิปไลน์ชมไร่ชาท่ามกลางวิว 360 องศา ก่อนจะไปรับประทานอาหารอร่อย ๆ ที่ร้านอาหารภูภิรมย์ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Singha Park Chiang Rai สิงห์ปาร์ค เชียงราย
2. พระธาตุดอยตุง จังหวัดเชียงราย
3. วัดร่องขุ่น จังหวัดเชียงราย
4. ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย
เป็นที่ร่ำลือกันว่า "ภูชี้ฟ้า" เหมาะสำหรับเป็นจุดชมและถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้นและตกดินที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูหนาว ที่นี่จะสวยมากเป็นพิเศษ นอกเหนือจากวิวทัศน์สวย ๆ แล้ว ไม่แน่ว่าระหว่างทางที่เดินขึ้นไป นักท่องเที่ยวอาจจะได้เจอเข้ากับดอกนางพญาเสือโคร่งและต้นเสี้ยวดอกขาว ซึ่งจะออกดอกบานสะพรั่งในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ความโดดเด่นของภูชี้ฟ้าเห็นจะเป็นหน้าผาหินคล้ายนิ้วชี้ ปกคลุมด้วยหญ้า ไม้พุ่ม และโขดหิน ซึ่งเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมถ่ายรูปเป็นอย่างมาก เพราะจะเห็นสายหมอกที่ลอยละล่องกลางหุบเขางดงามเกินบรรยาย
5. ดอยผาตั้ง จังหวัดเชียงราย
ตั้งอยู่ในเขตตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่อสำหรับชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกในตอนเช้าและชมพระอาทิตย์ตกในเวลาเย็น จากยอดดอยสามารถมองเห็นแม่น้ำโขงฝั่งลาวและสามารมองเห็นยอดภูชี้ฟ้าที่อยู่ห่างออกไปกว่า 25 กิโลเมตรได้ชัดเจน โดยเฉพาะช่วงหน้าหนาว ที่นี่จะมองเห็นทะเลหมอกสวย ๆ ตรงบริเวณ "ช่องผาขาด" และ "เนิน 102-เนิน 103" ท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบสงบ หมู่มวลดอกไม้หน้าหนาว ทั้งดอกนางพญาเสือโคร่งและดอกเสี้ยว ที่กำลังออกดอกบานสะพรั่ง
6. สระน้ำมรกตขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย
ตั้งอยู่ภายในวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน เป็นสระน้ำธรรมชาติที่อยู่ใกล้กับถ้ำทรายทอง ห่างจากถ้ำหลวงราว ๆ 3 กิโลเมตร เป็นจุดที่ต้องสูบน้ำออกมาจากถ้ำหลวงเมื่อช่วงเหตุการณ์ช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลเยาวชนหมูป่า ซึ่งหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว สระน้ำบริเวณนี้ก็ได้กลายเป็นสีเขียวมรกตใส ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้เขียวขจี บรรยากาศร่มรื่นสบายตา อากาศเย็นสดชื่น สวยงามน่าท่องเที่ยว
7. สวนแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย
"สวนแม่ฟ้าหลวง" หรือ "สวนดอยตุง" สวนไม้ดอกไม้หลากสีสัน กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา บนพื้นที่ 25 ไร่ ภายในสวนถูกตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับสวยงาม ดูแลอย่างดี ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนออกดอกตลอดปี อาทิ ดอกซัลเวีย พิทูเนีย บีโกเนีย กุหลาบ ดอกลำโพง ไม้มงคลต่าง ๆ ไม้ยืนต้นและซุ้มไม้เลี้อยมากกว่า 70 ชนิด นอกจากแปลงไม้ประทับกลางแจ้งแล้วยังมีโรงเรือนไม้ในร่มจุดเด่นคือกล้วยไม้จำพวกรองเท้านารีชนิดต่าง ๆ ที่มีดอกสวยงามมาก บริเวณกลางสวนมีประติมากรรมเด็กยืนต่อตัวของ มีเซียม ยิบอินซอย โดยสมเด็จย่าพระราชทานชื่อว่าความต่อเนื่องที่สื่อถึงการทำงานจะสำเร็จได้ต้องทำอย่างต่อเนื่อง มาถึงจุดนี้แวะเติมพลังกันสักนิดกับ "ดอยตุงคาเฟ่" นั่งพักชิล ๆ จิบกาแฟหอม ๆ ในสวน ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สีสันแห่งดอยตุง กับ 7 จุดเช็กอินที่ฟินไปกับสายหมอกและขุนเขา
8. วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร จังหวัดเชียงใหม่
วัดที่มีความสำคัญในแง่ประวัติศาสตร์ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ห้ามพลาดเมื่อมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ ภายในเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบรรจุอยู่ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่มาช้านาน อีกทั้งยังเป็นพระธาตุประจำ "ปีมะแม" ด้วย นอกจากนี้ยังสามารถขึ้นมาชมความงดงามขององค์เจดีย์ พร้อมกับชมทิวทัศน์โดยรอบของตัวเมืองเชียงใหม่ได้ โดยสามารถเดินขึ้นบันไดนาค 300 ขั้น เพื่อไปยังวัด หรือจะเลือกใช้บริการรถกระเช้าขึ้น-ลงดอยสุเทพ ก็ได้ตามสะดวก
9. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่
พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เป็นวัดหนึ่งที่สำคัญของเมืองเชียงใหม่ ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน โดย "พญาผายู" กษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์มังราย ได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ พร้อมทั้งพระเจดีย์สูง 24 ศอก เพื่อใช้เป็นที่บรรจุอัฐิของ "พญาคำฟู" พระราชบิดา ภายในวัดมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยขัดสมาธิเพชร ชาวบ้านเรียกกันว่า "พระพุทธสิหิงค์" (ศิลปะเชียงแสน) เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์และชาวเชียงใหม่ให้ความเคารพนับถืออย่างมาก นอกจากนี้ยังเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิด "ปีมะโรง" อีกด้วย
10. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
ยอดดอยที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งสำหรับดอยอินทนนท์เพราะที่นี่สูงจากระดับน้ำทะเลมากถึง 2,565 เมตร จึงเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเมืองไทย ซึ่งใครต่อใครก็อยากได้ไปสัมผัสสักครั้งในชีวิต ดอยอินทนนท์ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ อากาศจึงหนาวเย็นตลอดทั้งปี นอกจากนี้บริเวณโดยรอบดอยอินทนนท์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน, เส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา, น้ำตกสิริภูมิ, น้ำตกแม่ยะ, น้ำตกวชิรธาร, พระมหาธาตุเจดีย์นภเมทนีดล, พระมหาธาตุเจดีย์นภพลภูมิสิริ เป็นต้น
11. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ส่วนหนึ่งของโครงการหลวงหอย บริเวณด้านบนของม่อนแจ่มสามารถมองเห็นภูเขาสูงใหญ่โดยรอบ พร้อมกับสายหมอกได้อย่างสวยงาม อีกทั้งชาวบ้านในพื้นที่และเจ้าหน้าที่โครงการหลวงหนองหอย ยังช่วยกันปรับปรุงทัศนียภาพของม่อนแจ่มให้มีความสวยงามไปด้วยต้นไม้ ดอกไม้นานาพรรณ ให้บานสะพรั่งตลอดทั้งปี และยังทำซุ้มไม้ไผ่ริมหน้าผาม่อนแจ่ม เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมวิวหรือรับประทานอาหารอย่างสบาย ๆ ในบริเวณใกล้เคียงยังมีแปลงผักและผลไม้เมืองหนาวให้ได้เที่ยวชมอีกด้วย เมื่อผนวกกับอากาศหนาวเย็นและบริสุทธิ์ จึงทำให้ที่นี่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไปพักผ่อน ผ่อนคลายพักสมองให้หายเหนื่อยล้า
12. ดอยหลวงเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
อีกหนึ่งยอดดอยที่มีความโดดเด่นอันดับต้น ๆ ของเมืองไทย มีความสูง 2,225 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือว่าสูงที่สุดเป็นอันดับ 3 ของเมืองไทย การที่จะพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นอกจากร่างกายจะต้องแข็งแรง พร้อมกับการเดินเท้าที่แสนยากลำบากแล้ว ใจยังต้องพร้อม ต้องสู้อีกด้วย นั่นจึงทำให้ยอดดอยหลวงเชียงดาวได้พบเจอเพื่อนใหม่เพียงวันละไม่กี่คนเท่านั้น แต่ถ้าหากใครได้ขึ้นไปจนถึงยอดดอย ก็จะพบว่ามันคุ้มค่ากับความเหนื่อย เพราะทัศนียภาพที่สามารถมองเห็นได้จากยอดดอยนั้น สวยงามจนแทบอยากจะหยุดหายใจ ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะเดินทางไปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว ต้องทำการขออนุญาตจากทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาวเสียก่อน เพราะจะต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว จ.เชียงใหม่
13. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
ดินแดนที่โอบล้อมไปด้วยหุบเขาสีเขียวอุดมสมบูรณ์ ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง ที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวชมแปลงปลูกดอกไม้ ผัก และผลไม้เมืองหนาว เดินเก็บสตรอว์เบอร์รีสด ๆ จากไร่แบบชิล ๆ ชมแปลงปลูกชาท่ามกลางสายหมอก สัมผัสวิถีชีวิตชาวเขาและอากาศที่หนาวจับใจ สวรรค์บนเขาสูงที่คุณก็สามารถเอื้อมถึง นอกจากนี้ยังมี "สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง" สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ด้วยที่นี่ตั้งอยู่ในหุบเขาสูง มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีแปลงปลูกพืชผักผลไม้เมืองหนาว และแปลงดอกไม้เมืองหนาวให้ได้เที่ยวชม ภายในมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เช่น สวนบอนไซ, เรือนไม้ดอกเมืองหนาว, โรงงานชา, แปลงบ๊วย, สวนไผ่, สวนดอกไม้ 80 ปี, แปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี เป็นต้น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เว็บไซต์ royalprojectangkhang.com
14. ถนนคนเดินเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
ถนนคนเดินเชียงใหม่ มีอยู่ 2 ที่ คือ "ถนนคนเดินวัวลาย" (เริ่มตั้งแต่ปากทางเข้าฝั่งถนนช่างหล่อ ใกล้ประตูเชียงใหม่ จนไปสิ้นสุดที่ถนนทิพย์เนตร) หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า "ถนนคนเดินวันเสาร์" เพราะเปิดเฉพาะวันเสาร์ เวลา 17.00-22.00 น. และ "ถนนคนเดินท่าแพ" (จากประตูท่าแพเรื่อยไปตามถนนราชดำเนิน จนถึงวัดพระสิงห์ฯ และจากสี่แยกกลางเวียงเรื่อยไปจนถึงอนุสาวรีย์สามกษัตริย์และวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร) เปิดเฉพาะวันอาทิตย์ เวลา 17.00-23.00 น. โดยทั้ง 2 วัน จะมีสินค้ามาจำหน่ายมากมาย ทั้งสินค้าพื้นเมือง งานฝีมือ ของที่ระลึกน่ารัก ๆ รวมไปถึงอาหารคาว-หวานแสนอร่อยกันอย่างเพลิดเพลิน
15. ฮิโนกิแลนด์ จังหวัดเชียงใหม่
อาณาจักรไม้ฮิโนกิแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ณ ตำบลศรีดงเย็น อำเภอไชยปราการ ภายในพื้นที่กว่า 83 ไร่ ได้รับการออกแบบให้กลายเป็นเมืองจำลองแบบญี่ปุ่นขนานแท้ ประดับประดาด้วยโคมแดงขนาดยักษ์ โดยไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ปราสาทฮิโนกิ สร้างจากไม้หอมทั้งหลัง ขนาดสูงกว่า 4 ชั้น ล้อมรอบไปด้วยบรรยากาศสวย ๆ ของภูเขาและธรรมชาติ ยิ่งทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราเดินเพลินจนลืมเวลา แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ แทบจะทุกตารางพื้นที่ เดินเที่ยวเล่นได้ไม่มีเบื่อ สำหรับใครที่อยากเพิ่มความอินมากยิ่งขึ้นไปอีก ที่นี่เขายังมีชุดแต่งกายประจำชาติญี่ปุ่น ทั้งกิโมโนและยูกาตะเอาไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เช่าใส่เดินเล่นถ่ายรูปกันอย่างเต็มที่ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก BannmaihomHinoki บ้านไม้หอมฮิโนกิ
16. บ้านแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่
นี่เป็นเพียงสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เพียงไม่กี่แห่งที่เราหยิบมาแนะนำกันเท่านั้น ที่นี่ยังมีที่เที่ยวแจ่ม ๆ รอต้อนรับอีกเพียบ ที่สำคัญยังเที่ยวได้ทุกฤดูกาลด้วยนะ
17. วัดภูเก็ต จังหวัดน่าน
ตั้งอยู่ที่ตำบลวรนคร อำเภอปัว เป็นวัดที่ช่างภาพต่างชอบที่จะไปเก็บภาพความสวยงามของเมืองปัวกันที่นี่ เพราะตัววัดตั้งอยู่ท่ามกลางทุ่งนาแสนสวย ที่นี่มีอาคารที่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปชมวิวมุมสูงได้ โดยหลังจากไหว้พระขอพรเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถที่จะเดินขึ้นไปยังจุดชมวิว ซึ่งสามารถมองเห็นทุ่งนากว้างไกลสุดลูกหูลูกตา อีกทั้งภูเขาน้อยใหญ่เบื้องหน้า ถ้าได้มาชมวิวในตอนเช้าในช่วงพระอาทิตย์ขึ้น ก็จะได้สัมผัสกับบรรยากาศที่สวยงามอบอุ่นไปอีกแบบ และยังมีสายหมอกบางเบาให้ได้ชื่นชมอีกด้วย
18. วัดภูมินทร์ จังหวัดน่าน
19. วัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน
20. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
21. บ่อเกลือสินเธาว์ จังหวัดน่าน
22. กว๊านพะเยา จังหวัดพะเยา
23. วนอุทยานภูลังกา จังหวัดพะเยา
24. น้ำตกภูซาง จังหวัดพะเยา
25. น้ำตกธารสวรรค์ จังหวัดพะเยา
ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยภูนาง เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อที่สุดแห่งหนึ่งของอุทยาน ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาชนิด ถึงแม้ว่าขนาดน้ำตกจะไม่ใหญ่ แต่รับรองถึงความสวยที่ยังคงความเป็นธรรมชาติ อีกทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวที่ยังคงไม่พลุกพล่าน ลำธารน้ำตกที่นี่จึงใส และอุดมสมบูรณ์ เอาไว้ให้เราได้กระโดดเล่นน้ำกันเพลิน ๆ อีกทั้งตัวน้ำตกอยู่ห่างจากอุทยานออกไปเพียงแค่ไม่กี่ร้อยเมตร เดินทางไม่ลำบาก เพราะมีทางเดินธรรมชาติจากลานจอดรถมุ่งหน้าสู่ตัวน้ำตกโดยตรง แถมยังมีสะพานไม้เอาไว้ให้เดินถ่ายรูปสวย ๆ อีกด้วย
26. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงปังค่า จังหวัดพะเยา
27. วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่
วัดพระธาตุช่อแฮ พระอารามหลวง ตั้งอยู่บนถนนช่อแฮ ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ ถือเป็นปูชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแพร่ และเป็นวัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาลอีกด้วย ว่ากันว่าหากมาจังหวัดแพร่แล้วไม่ได้มานมัสการพระธาตุช่อแฮก็เหมือนไม่ได้มาจังหวัดแพร่ ทั้งนี้ในทุกปีจะมีการงานนมัสการพระธาตุในระหว่างวันขึ้น 9 ค่ำ-ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 (ประมาณเดือนมีนาคม) โดยใช้ชื่องานว่า "งานประเพณีไหว้พระธาตุช่อแฮเมืองแพร่แห่ตุงหลวง"
28. พิพิธภัณฑ์เมืองแพร่คุ้มเจ้าหลวง จังหวัดแพร่
ตั้งอยู่บนถนนคุ้มเดิม ตำบลในเวียง อำเภอเมืองแพร่ เป็นสถาปัตยกรรมสมัยรัชกาลที่ 5 ยุคต้น ซึ่งมีรูปทรงเป็นแบบสถาปัตยกรรมไทยผสมยุโรปหรือทรงขนมปังขิง ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น หลังคามุงด้วยไม้เรียกว่า "ไม้แป้นเกล็ด" ไม่มีหน้าจั่วเป็นแบบหลังคาเรือนปั้นหยามีมุขสี่เหลี่ยมยื่นออกมา ด้านหน้าของตัวอาคารหลังคามุขมีรูปทรงสามเหลี่ยมทั้งปั้นลม และชายคาน้ำรอบตัวอาคารประดับด้วยไม้แกะฉลุสลักลวดลายอย่างสวยงาม ซึ่งเป็นฝีมือช่างชาวจีนที่มีชื่อเสียงในสมัยนั้น
29. คุ้มวงศ์บุรี จังหวัดแพร่
คุ้มวงศ์บุรี หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า "บ้านสีชมพู" ตั้งอยู่ที่ถนนคำลือ ใกล้กับวัดพงศ์สุนัน สร้างเมื่อ พ.ศ. 2440 ตามดำริของ แม่เจ้าบัวถา มหายศปันยา ชายาคนแรกในเจ้าหลวงพิริยะเทพวงศ์ โดยมอบหมายให้ หลวงพงษ์พิบูล (เจ้าน้อยพรม) และ เจ้าสุนันตา วงศ์บุรี ธิดาเจ้าบุรี (พระยาบุรีรัตน์) น้องชายของแม่เจ้าบัวถา จัดหาช่างฝีมือทั้งไทยและจีนมาร่วมกันก่อสร้างเรือนหลังนี้ จากนั้นอีก 3 ปี บ้านวงศ์บุรีได้สร้างเสร็จสวยงามตามรูปแบบงาน สถาปัตยกรรมสมัยนิยมในยุครัชกาลที่ 5 เป็นบ้านทรงปั้นหยา 2 ชั้น ฐานเป็นอิฐและซีเมนต์สูงจากพื้น 1 เมตร มีเพดานสูง หลังคาสูง มีช่องระบายลมระหว่างชั้นทั้งสอง
30. วนอุทยานแพะเมืองผี จังหวัดแพร่
เพียงแค่ได้ยินชื่อหลายคนอาจจะรู้สึกกลัว แต่ที่นี่ไม่ได้น่ากลัวอย่างชื่อ แพะเมืองผี ตั้งอยู่ที่ตำบลน้ำชำ อำเภอเมืองแพร่ เป็นความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ เกิดจากการทับถมกันของดินตะกอนแม่น้ำนานนับล้าน ๆ ปี แต่เมื่อน้ำฝนชะล้าง กัดเซาะ ทำให้พื้นดินบริเวณนี้เกิดเป็นรูปร่างแปลกสวยงาม และสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้เรื่อย ๆ เพราะน้ำฝนและลมจะกัดเซาะตลอด ที่นี่ไม่ใช่เพียงแค่ที่ท่องเที่ยวที่ชวนตื่นตาเท่านั้น แต่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางธรณีวิทยาที่สำคัญอีกด้วย ซึ่งสามารถท่องเที่ยววนอุทยานแพะเมืองผีได้ตลอดทั้งปี
31. แก่งหลวง จังหวัดแพร่
ผจญภัยไปตามลำน้ำยมที่แก่งหลวง ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำยม และเหตุที่ใช้ชื่อว่าแก่งหลวง เพราะที่แห่งนี้เป็นบริเวณที่แม่น้ำยมไหลมารวมตัวกันจนเป็นแอ่งขนาดใหญ่และลึกมาก มีน้ำตลอดปี และด้วยทั่วบริเวณเต็มไปด้วยโขดหินใหญ่น้อยเรียงรายอยู่กลางแม่น้ำ เมื่อน้ำไหลมาปะทะจะเกิดฟองฝอยสาดกระเซ็นสวยงาม เหมาะกับการนั่งแพและล่องแก่งเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ฝั่งตรงข้ามแก่งหลวงยังมี "ถ้ำเอราวัณ" ซึ่งเป็นถ้ำที่สวยงามที่สุดของจังหวัดแพร่ มีความลึกประมาณ 200 เมตร ภายในถ้ำมีห้องโถงกว้าง ตระการตาด้วยหินงอกหินย้อยอยู่ทั่วไปรูปร่างคล้ายช้างเอราวัณ สำหรับการชมถ้ำนั้นต้องนำไฟฉายมาเอง หรือสามารถเช่าไฟฉายได้
32. หมู่บ้านทุ่งโฮ้ง จังหวัดแพร่
33. วัดพระธาตุดอยกองมู จังหวัดแม่ฮ่องสอน
34. อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
35. ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เจ้าของสมญานาม "สวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก" นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งถ้าไม่มาถือว่ามาไม่ถึงแม่ฮ่องสอนเลยเชียวนะ "ปางอุ๋ง" ชื่อเต็ม ๆ ว่า "โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)" โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,200 เมตร ณ บ้านรวมไทย ภายใต้การดูแลของสำนักงานบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 (แม่สะเรียง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
36. บ้านรักไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
หมู่บ้านที่มีบรรยากาศสุดอบอุ่น ตั้งอยู่ที่ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อ "บ้านแม่ออ" ชุมชนชาวจีนยูนนาน ลูกหลานทหารกองพล 93 ที่เดินทางมากจากตอนใต้ของจีนเมื่อหลาย 10 ปีก่อน ปัจจุบันอาศัยอยู่ร่วมกันกับพี่น้องชาวไทใหญ่และชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ โดยบรรยากาศภายในจะมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ใจกลางหมู่บ้าน และถูกรายล้อมไปด้วยบ้านดินชั้นเดียวมุงหลังคาด้วยใบตองสไตล์จีนที่ถูกดัดแปลงนำมาเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก บางหลังก็ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังได้ชมทิวทัศน์ของทิวเขาที่งดงาม ตลอดจนเพลินตาไปกับไร่ชาแบบขั้นบันไดไล่ระดับประทับใจยิ่งนัก
37. ถ้ำลอด จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เป็นถ้ำที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงาม และเดินทางสะดวกสบายมากที่สุดในบรรดาถ้ำทั้งหมดในปางมะผ้า มีลำห้วย "น้ำลางไหล" ลอดภูเขาไปทะลุออกอีกด้านหนึ่ง ทำให้เกิดเป็นถ้ำที่มีหินงอกหินย้อยสวยงาม และก่อเกิดเป็นถ้ำใหญ่ ๆ ถึง 3 แห่ง ได้แก่ "ถ้ำเสาหิน" ซึ่งเป็นถ้ำกว้างใหญ่มีหินงอก หินย้อย รูปร่างต่าง ๆ, "ถ้ำตุ๊กตา" ภายในจะพบกับหินงอกเป็นปุ่มปมเล็ก ๆ คล้ายตุ๊กตาเรียงรายอยู่ และ "ถ้ำผีแมน" พบเศษเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้เหล็ก กระดูกของมนุษย์ และชิ้นสำคัญที่ขาดไม่ได้คือโลงผีแมน มีลักษณะเป็นท่อนไม้ที่ถูกขุดตรงส่วนกลางออกเป็นร่องคล้ายเรืออีกด้วย
38. วัดพระธาตุลำปางหลวง จังหวัดลำปาง
39. วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ จังหวัดลำปาง
40. กาดกองต้า จังหวัดลำปาง
ตลาดถนนคนเดินที่ใครหลายคนชื่นชอบ จากอดีตย่านการค้าที่รุ่งเรืองของตลาดจีนและผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ เมืองท่าศูนย์กลางทางน้ำที่รุ่งเรือง สู่ชุมชนห้องแถวที่อาคารบ้านเรือนมีสถาปัตยกรรมที่สวยงาม เกิดจากความสำนึกรักบ้านเกิดของคนในชุมชน ได้ช่วยกันฟื้นฟูอาคารบ้านเรือนที่อยู่อาศัยละแวกนั้นเสียใหม่ และเปิดพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้ามาชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรม และร้านค้าต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลากลางคืน ถนนคนเดินแห่งนี้จะถูกประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟสีต่าง ๆ ทั้งจากร้านค้าและบ้านเรือน ทำให้ถนนคนเดินเส้นนี้มีสีสันที่ชวนหลงใหลเป็นอย่างมาก
41. หล่มภูเขียว จังหวัดลำปาง
42. บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง
แหล่งน้ำพุร้อนที่มีสภาพการเกิดทางธรณีวิทยามีกลิ่นกำมะถันอ่อน ๆ จำนวน 9 บ่อ ตั้งอยู่รวมกันในบริเวณพื้นที่ที่ทำการอุทยานแจ้ซ้อน ประมาณ 3 ไร่ ภายในพื้นที่มีโขดหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป โดยน้ำพุร้อนนั้นมีอุณหภูมิเฉลี่ย 73 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวนิยมนำไข่ไก่และไข่นกกระทามาแช่ ซึ่งหากแช่ไข่ไก่นานประมาณ 17 นาที ไข่แดงจะแข็งมีรสชาติมันอร่อย ส่วนไข่ขาวจะเหลวคล้ายไข่เต่า
43. พระบรมธาตุหริภุญชัย จังหวัดลำพูน
ภายในบรรจุโกศทองคำของพระเกศธาตุ สูง 25 วา 2 ศอก ฐานกว้าง 12 วา 2 ศอก 1 คืบ มีลักษณะเจดีย์แบบลังกา ด้านนอกทั้ง 4 ด้าน มีซุ้มกุมภัณฑ์และฉัตรประจำสี่มุมตามลักษณะของพระธาตุในภาคเหนือ โดยมีความเชื่อกันว่าพระบรมธาตุหริภุญชัยเป็นพระธาตุประจำปีระกา เมื่อคนปีระกาได้มากราบไหว้ก็จะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น
44. ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน
ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม ตั้งอยู่ที่อำเภอลี้ ความโดดเด่นของศูนย์แห่งนี้ นอกจากเป็นแปลงสาธิตพืชผักต่าง ๆ แล้ว ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของเผ่ากะเหรี่ยงที่น่าสนใจมากมาย โดยภายในศูนย์พัฒนาโครงการหลวงพระบาทห้วยต้ม แบ่งพื้นที่หลัก ๆ ออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ แปลงสาธิตพืชผักที่แปลกใหม่, แปลงสาธิตผักที่ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก, แปลงสาธิตการปลูกผลไม้เมืองร้อน และแปลงไม้ดอกไม้ประดับ และภายในยังมีการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่น่าสนใจ การชมวิถีชีวิตชาวเขาเผ่ากะเหรี่ยง ชมภูมิปัญญาท้องถิ่น ชมการทำเครื่องเงินที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ของชนเผ่ากะเหรี่ยง
45. น้ำตกก้อหลวง จังหวัดลำพูน
ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติแม่ปิง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน เป็นน้ำตกหินปูนสีเขียวมรกตกลางป่าใหญ่ เกิดจากห้วยแม่ก้อไหลผ่านหน้าผาหินปูนทั้งหมด 7 ชั้น และตกลงมายังแอ่งน้ำขนาดใหญ่เบื้องล่างที่ใสสะอาดมองเห็นพื้นด้านล่างและปลาชนิดต่าง ๆ ที่แหวกว่ายสนุกสนาน ภายในบริเวณลานจอดรถของน้ำตกก้อหลวง จะมีจุดบริการห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ และร้านค้า ซึ่งเป็นคนในพื้นที่มาเปิดให้บริการเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น
46. วัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง จังหวัดอุตรดิตถ์
47. วัดบ้านแก่งใต้ จังหวัดอุตรดิตถ์
48. ถนนคนกิน จังหวัดอุตรดิตถ์
49. ภูแลลาว จังหวัดอุตรดิตถ์
50. เขื่อนสิริกิติ์ จังหวัดอุตรดิตถ์
และนี่คือสถานที่ท่องเที่ยวภาคเหนือที่เราหยิบมาแนะนำกันค่ะ พอจะได้ไอเดียสำหรับทริปเที่ยวภาคเหนือกันบ้างแล้วใช่ไหม เอาเป็นว่าใครชอบแบบไหนก็เตรียมวางแผนเดินทางกันได้เลย :)
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ททท. และ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช