ท้องทะเลอันดามัน ดินแดนสวรรค์สำหรับคนรักทะเล ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวชาวไทยหรือชาวต่างชาติ ต่างก็หลงรักที่นี่ไปตาม ๆ กัน เสน่ห์ของทะเลอันดามันไม่ได้มีแค่หาดทรายขาว น้ำทะเลสีฟ้าใสเท่านั้น แต่ท้องทะเลที่นี่ยังมีแนวปะการังที่สวยงาม พร้อมทั้งสัตว์ทะเลมากมายหลากหลายชนิด และยังมีวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่น่ารัก น่าหลงใหลอีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอเอาใจคนชอบทะเล ด้วยการรวบรวมทะเลทางฝั่งอันดามันมาฝากกันค่ะ จะมีที่ไหนบ้างตามไปเก็บข้อมูลกันได้เลย
1. อ่าวเขาควาย เกาะกำตก จังหวัดระนอง

อ่าวเขาควาย เป็นอีกหนึ่งอันซีนของท้องทะเลระนอง แหล่งท่องเที่ยวใหม่ที่จะมากระชากหัวใจของนักท่องเที่ยวที่หลงใหลทะเล อ่าวเขาควายเป็นชายหาดที่อยู่ในเกาะกำตก ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ทางด้านเหนือของเกาะกำใหญ่ ภายในอุทยานแห่งชาติแหลมสน อำเภอสุขสำราญ จังหวัดระนอง หาดทรายที่นี่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยเป็นโค้งครึ่งวงกลมคล้ายกับเขาควาย และยังมีสีขาวสะอาดตา มีทิวสนที่ร่มรื่นตลอดแนวชายหาด ไม่มีร้านค้า ร้านอาหารมาบดบังทัศนียภาพ น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส มีแนวปะการังอยู่ใกล้ชายหาด สามารถที่จะลงไปดำน้ำได้อย่างง่ายดาย บรรยากาศโดยรอบเงียบสงบ เหมาะแก่การไปเที่ยวพักผ่อนสุด ๆ
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวต้องทำการโทร. จองเรือล่วงหน้า และสามารถมาขึ้นเรือได้ที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแหลมสน บ้านบางเบน ตำบลม่วงกลวง อำเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง โดยจะมีบริการเรือทั้งของชาวบ้านและบริษัททัวร์ ซึ่งจะเป็นการพาเที่ยวในลักษณะวันเดย์ทริป เพราะบนเกาะกำตกยังไม่มีที่พัก ร้านค้า หรือร้านอาหาร
2. เกาะไม้ท่อน

เกาะไม้ท่อน อดีตเคยเป็นเกาะส่วนตัวที่ปิดมานาน จึงทำให้ที่นี่มีธรรมชาติของท้องทะเลที่สวยงาม และเป็นโอกาสดีที่ตอนนี้เกาะไม้ท่อนได้เปิดให้นักท่องเที่ยวทั่วไปสามารถขึ้นมาเที่ยวชมได้ โดยบนเกาะมีหาดทรายสีขาวสะอาดตา เงียบสงบ เป็นส่วนตัว ล้อมรอบไปด้วยท้องทะเลสีฟ้าครามใส มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติขึ้นไปชมวิวยังยอดเขา พร้อมทั้งยังมีโรงแรมสุดหรูหราไว้บริการ ใครที่ชอบความเงียบสงบต้องไม่พลาดที่นี่
การเดินทาง : ยังไม่มีเรือสาธารณะไปยังเกาะไม้ท่อน นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องซื้อแพ็กเกจทัวร์จากบริษัททัวร์
3. เกาะราชาใหญ่

การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือของเอกชนได้ที่บริเวณอ่าวฉลอง จังหวัดภูเก็ต มีบริษัททัวร์ให้เลือกใช้บริการหลากหลาย จากท่าเรืออ่าวฉลองไปยังเกาะราชาใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง
4. เกาะเฮ

การเดินทาง : นั่งท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ที่บริเวณหาดราไวย์ อำเภอเมืองภูเก็ต จะมีทั้งเรือสปีดโบ๊ทและเรือหางยาวให้บริการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานจังหวัดภูเก็ต 0 7621 1036, 0 7621 2213
5. หมู่เกาะสุรินทร์

ภาพจาก jiraphoto / shutterstock.com
หมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดพังงา
ห่างจากฝั่งทะเลด้านตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร
ประกอบไปด้วยเกาะทั้งหมด 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้
เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง
ธรรมชาติของหมู่เกาะสุรินทร์เต็มไปด้วยแนวปะการังอันสวยงาม เรียกกันว่า
Fringing Reef พร้อมทั้งน้ำทะเลสีฟ้าเขียวใส
ใต้น้ำยังมีสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด อาทิ กุ้งมังกร, ปลานกขุนทอง,
ปลาสินสมุทร, ปลานกแก้ว, ปลาสิงโต, ฉลามวาฬ, วาฬ, เต่ามะเฟือง เป็นต้น
แต่ละเกาะมีหาดทรายสีขาวสะอาดตา พร้อมทั้งขุนเขาสีเขียวขจีทั้งนี้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ปิดการท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝน กำหนดปิดระหว่างวันที่ 16 พฤษภาคม-15 พฤศจิกายนของทุกปี
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถมาขึ้นเรือโดยสารได้ที่บริเวณท่าเรือคุระบุรี ซึ่งเป็นของบริษัทเอกชน เรือโดยสารจะวิ่งให้บริการทุกวันจนถึงช่วงเวลาปิดเกาะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โทรศัพท์ 0 7647 2145-6, 0 7647 2146
6. หมู่เกาะสิมิลัน

หมู่เกาะสิมิลัน มีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการดำน้ำลึก ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกเลยทีเดียว ด้วยภายในหมู่เกาะสิมิลันมีแนวปะการังที่งดงาม พร้อมทั้งฝูงปลาที่อุดมสมบูรณ์และหลากหลายสายพันธุ์ หมู่เกาะสิมิลัน ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดพังงา ประกอบไปด้วยเกาะบอน เกาะบางู เกาะสิมิลัน เกาะปายู เกาะห้า เกาะเมียง เกาะปาหยัน เกาะปายัง เกาะหูยง และเกาะตาชัย โดยแต่ละเกาะจะมีธรรมชาติใต้ท้องทะเลที่สวยงาม เอกลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกจดจำสิมิลันได้ก็คือ "หินเรือใบ" ซึ่งตั้งอยู่ที่เกาะสิมิลัน (เกาะ 8)
หมู่เกาะสิมิลัน จะไม่สามารถเที่ยวได้ในช่วงฤดูฝน มีการปิด-เปิดฤดู ดังนี้
- ปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม-31 ตุลาคมของทุกปี
- เปิดฤดูการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน-30 เมษายนของทุกปี
การเดินทาง : จากท่าเรือทับละมุ อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา มีเรือโดยสารของบริษัทเอกชนให้บริการทุกวันในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจำเป็นจะต้องจองเรือล่วงหน้า เพราะในแต่ละวันจะมีเรือไป-กลับเพียงเที่ยวเดียวเท่านั้น โดยเรือโดยสารจะพานักท่องเที่ยวไปส่งยังเกาะเมี่ยง ซึ่งเป็นที่ตั้งที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลันและเกาะสิมิลัน
7. เกาะพีพี

เกาะพีพี เป็นอีกหนึ่งเกาะของท้องทะเลอันดามันในประเทศไทยที่มีชื่อเสียงระดับโลก ภาพของเวิ้งอ่าวคู่ของอ่าวต้นไทรและอ่าวโละดาลัม กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้คนทั่วโลกต้องการมาสัมผัสเกาะพีพี เกาะพีพีตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดกระบี่ ห่างจากแผ่นดินใหญ่ประมาณ 42 กิโลเมตร ประกอบด้วย 2 เกาะใหญ่ คือ เกาะพีพีดอนและเกาะพีพีเล โดยนักท่องเที่ยวจะสามารถเดินขึ้นไปยังจุดชมวิวได้ที่บริเวณอ่าวต้นไทร เกาะพีพีดอน เมื่อขึ้นไปด้านบนก็จะเห็นวิวของสองอ่าวแบบ 180 องศา นอกจากนี้บริเวณโดยรอบเกาะพีพี ยังมีแนวปะการังที่สวยงาม เหมาะแก่การดำน้ำตื้นมาก ๆ อีกทั้งบนเกาะพีพียังมีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พักให้บริการแก่นักท่องเที่ยวมากมายอีกด้วย
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ทั้งจากทางฝั่งจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่ สำหรับทางฝั่งจังหวัดภูเก็ตจะมีเรือนำเที่ยวเกาะพีพีแบบเช้าไป-เย็นกลับ สอบถามรายละเอียดได้ที่บริษัททัวร์ในเมืองภูเก็ต ส่วนจากทางฝั่งจังหวัดกระบี่สามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือเจ้าฟ้าในตัวเมืองกระบี่ มีเรือโดยสารออกจากกระบี่ไปเกาะพีพี วันละ 2 เที่ยว *เวลา 10.00 น. และ 14.30 น. และจากเกาะพีพีกลับกระบี่เรือออก *เวลา 09.00 น. และ 13.00 น. นอกจากนี้ยังมีเรือเร็วจากตัวเมืองกระบี่อีกด้วย สอบถามรายละเอียดได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทรศัพท์ 0 7562 2163
8. เกาะปอดะ

การเดินทาง : บริเวณอ่าวนางของจังหวัดกระบี่จะมีเรือนำเที่ยวจอดให้บริการมากมาย มีทั้งแบบเช่าเหมาลำพาเที่ยวทั้งวัน และแบบไปเที่ยวเฉพาะเกาะปอดะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทรศัพท์ 0 7562 2163, 0 7561 2811-2
9. เกาะรอก

เกาะรอก เป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ประกอบไปด้วย เกาะรอกนอกและเกาะรอกใน ความสวยงามของเกาะรอกอยู่ตรงที่หาดทรายจะขาวมาก มีเนื้อเบาบางเนียนละเอียด น้ำทะเลโดยรอบยังคงใสสะอาด มีปลาและสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด พร้อมทั้งแนวปะการังที่สวยงาม บรรยากาศบนเกาะเงียบสงบ ที่นี่จึงได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง
การเดินทาง : ปัจจุบันยังไม่มีเรือโดยสารให้บริการ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องเช่าเรือเหมาลำไปยังเกาะรอก โดยจะมี 2 จุด ที่สามารถเช่าเรือไปเกาะรอกได้สะดวก คือจากท่าเรือปากเมง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง และจากเกาะลันตา จังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทรศัพท์ 0 7562 2163, 0 7561 2811-2
10. เกาะห้อง

เกาะห้อง เป็นเกาะหินปูนขนาดใหญ่ ตั้งอยู่กลางทะเลกระบี่ มีรูปร่างของเกาะที่เว้าแหว่งแปลกตา ทำให้เกาะห้องมีทั้งหาดทรายและป่าชายเลน พร้อมทั้งยังมีทัศนียภาพของภูเขาที่สวยงาม เอกลักษณ์ของเกาะห้องก็คือหาดทรายรูปพระจันทร์เสี้ยว ให้ความรู้สึกว่าเป็นหาดทรายส่วนตัว บริเวณชายหาดมีทรายขาวสะอาด พร้อมกับฝูงปลามากมาย นักท่องเที่ยวจึงนิยมที่จะมาเล่นน้ำและนอนเล่นพักผ่อนบริเวณชายหาด
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือเหมาลำได้ที่บริเวณอ่าวนาง อำเภอเมืองกระบี่, ท่าเรือแหลมสัก และท่าเรือควนโอ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกระบี่ โทรศัพท์ 0 7562 2163, 0 7561 2811-2 11. เกาะลันตา

เกาะลันตา เป็นเกาะขนาดใหญ่ มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดกระบี่ ลักษณะรูปร่างเรียวยาว มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 472 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะลันตาใหญ่และเกาะลันตาน้อย โดยแหล่งท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดจะตั้งอยู่บนเกาะลันตาใหญ่ สิ่งที่โดดเด่นของเกาะแห่งนี้ก็คือทางด้านทิศตะวันตกจะมีหาดทรายที่เรียงรายกันมากกว่า 10 หาด ซึ่งมีทั้งหาดหินและหาดทราย แต่ละหาดก็มีความสวยงามแตกต่างกันออกไป พร้อมทั้งยังมีที่พักมากมายให้เลือกพักตามความชอบใจ นอกจากนี้ทางฝั่งตะวันออกยังมีชุมชนเก่าแก่ คือ "ชุมชนบ้านศรีรายา" ซึ่งชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย ทำอาชีพประมงเป็นหลัก ภายในชุมชนมีโฮมสเตย์ของชาวบ้านเปิดให้บริการ ใครอยากสัมผัสวิถีชีวิตและความเงียบสงบต้องไม่พลาดการมาเที่ยวทางฝั่งนี้
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือแพขนานยนต์ได้ที่ท่าเรือบ้านหัวหิน จังหวัดกระบี่ มีเรือให้บริการข้ามไปเกาะลันตาทุกวัน
12. เกาะไหง

เกาะไหง ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ซึ่งอยู่ระหว่างรอยต่อของทะเลจังหวัดกระบี่และจังหวัดตรัง เป็นเกาะขนาดเล็ก มีความสวยงามมาก ๆ ด้วยหาดทรายรอบ ๆ เกาะไหงนั้นจะขาวสะอาด เนียนละเอียด น้ำทะเลจะเป็นสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส สามารถมองเห็นฝูงปลาว่ายวนไปมาได้อย่างชัดเจน รอบ ๆ ยังมีแนวปะการังที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีทั้งปะการังแข็งและปะการังอ่อนที่มีสีสันสวยงามมากมาย บรรยากาศบนเกาะไหงจะเงียบสงบ จึงทำให้นักท่องเที่ยวที่ชอบความเป็นส่วนตัวมักจะมานอนเล่นพักผ่อนบนหาดทรายบนเกาะไหง
การเดินทาง : แนะนำให้เดินทางจากทางจังหวัดตรัง เพราะจะมีระยะทางที่ใกล้มากกว่าจังหวัดกระบี่ โดยนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ที่บริเวณท่าเรือปากเมง จังหวัดตรัง ซึ่งมีทั้งเรือหางยาวและเรือสปีดโบ๊ทให้บริการ
13. เกาะบุโหลน

การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือได้ที่ท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล มีเรือออกทุกวัน
14. เกาะตะรุเตา

เกาะตะรุเตา เป็นเกาะที่มีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ด้วยอดีตนั้นเกาะแห่งนี้เป็นที่ตั้งของทัณฑสถานและเป็นนิคมฝึกอาชีพของนักโทษเด็ดขาดและนักโทษผู้มีสันดานเป็นผู้ร้าย เมื่อเกิดการขาดแคลนอาหารและเสบียงต่าง ๆ ผู้คุมนักโทษจึงได้ทำตัวเป็นโจรสลัดเข้าปล้นสะดมเรือบรรทุกสินค้าชาวไทยและต่างประเทศที่แล่นผ่านไปมา จนมีการปราบอย่างจริงจัง และยกเลิกนิคมฝึกอาชีพตะรุเตา ต่อมาได้จัดตั้งให้เป็นที่ทำการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา บนเกาะแห่งนี้มีธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ ดินแดนแห่งประวัติศาสตร์ สถานที่กักขังนักโทษ, อ่าวพันเตมะละกา, ถ้ำจระเข้, หน้าผาโต๊ะบู, น้ำตกโจรสลัด เป็นต้น บนเกาะตะรุเตามีบรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือโดยสารเอกชนได้ที่ท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล โดยจะมีเรือออกจากท่าเรือปากบารา *เวลาประมาณ 11.30 น. และ 13.00 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา โทรศัพท์ 0 7478 3597
15. เกาะอาดัง-ราวี

เกาะอาดัง-ราวี เป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ซึ่งอยู่ห่างจากเกาะตะรุเตาประมาณ 40 กิโลเมตร มีเนื้อที่เกาะประมาณ 30 กิโลเมตร รายล้อมไปด้วยเกาะเล็ก เกาะน้อยมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือเกาะหลีเป๊ะ บนเกาะอาดังมีภูเขาสูงใหญ่ ซึ่งมีเส้นทางที่จะขึ้นไปยังผาชะโด อันเป็นจุดชมวิวที่สวยงามของทะเลในแถบนี้ สามารถมองเห็นเกาะหลีเป๊ะได้ทั้งเกาะอย่างชัดเจน รวมทั้งเกาะอื่น ๆ ที่อยู่รอบ ๆ นอกจากนี้เกาะอาดังยังมีบ้านพักและลานกางเต็นท์ไว้รองรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
ส่วนเกาะราวี เป็นเกาะที่อยู่ด้านหลังของเกาะอาดัง ความโดดเด่นของที่นี่คือหาดทรายขาว เนื้อเนียนนุ่มละเอียด เรือนำเที่ยวมักจะพานักท่องเที่ยวมาแวะพักผ่อนและทานอาหารกลางวันที่นี่
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือโดยสารของเอกชนได้ที่บริเวณท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อเดินทางไปยังเกาะหลีเป๊ะ โดยให้แจ้งกับทางบริษัทเรือว่าจะไปเกาะหลีเป๊ะ เมื่อไปถึงเกาะหลีเป๊ะ ให้ต่อเรือหางยาวไปที่เกาะอาดัง หรือจะพักที่เกาะหลีเป๊ะแล้วเช่าเรือหางยาวไปเที่ยวเกาะอาดัง-ราวีก็ได้เช่นกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ชมรมเรือหางยาวนำเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ โทรศัพท์ 08 1959 6542
16. เกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของจังหวัดสตูล ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองสตูลประมาณ 80 กิโลเมตร และอยู่ห่างจากเกาะอาดังเพียงแค่ 2 กิโลเมตรเท่านั้น เกาะหลีเป๊ะเป็นเพียงเกาะเล็ก ๆ ซึ่งสามารถเดินถึงกันได้เพียงไม่กี่นาที แต่บนเกาะก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีถนนคนเดินที่เชื่อมต่อระหว่างหาดพัทยาและหาดชาวเล รวมทั้งมีรีสอร์ท โรงเรียน สถานพยาบาล และสถานีตำรวจด้วย ภายในเกาะมีหาดทรายขาว ล้อมรอบไปด้วยน้ำทะเลสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ใส สามารถมองเห็นปะการังและสัตว์ทะเลใต้น้ำได้ตั้งแต่ริมชายหาด พร้อมทั้งยังมีหมู่บ้านชาวเล (ชนเผ่าอูรักลาโว้ย) ซึ่งเป็นคนท้องถิ่นที่อาศัยอยู่บนเกาะมาอย่างยาวนานให้ได้เที่ยวชม
นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังสามารถเช่าเรือไปเที่ยวยังเกาะใกล้เคียงอื่น ๆ ได้ อาทิ เกาะรอกลอย, เกาะหินงาม, เกาะอาดัง-ราวี, เกาะผึ้ง, ร่องน้ำจาบัง, เกาะยาง และเกาะหินซ้อน เป็นต้น
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวต้องซื้อตั๋วโดยสารเรือของเอกชนที่บริเวณท่าเรือปากบารา อำเภอละงู จังหวัดสตูล แล้วแจ้งว่าไปเกาะหลีเป๊ะ เพราะเรือจะจอด 2 จุด คือเกาะตะรุเตาและเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งจะคิดราคาตั๋วเรือที่แตกต่างกัน เมื่อไปถึงเกาะหลีเป๊ะนักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือหางยาวเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อุทยานแห่งชาติตะรุเตา โทรศัพท์ 0 7478 3485, 0 7478 3597
17. เกาะพยาม

หากคุณต้องการไปพักผ่อนบนเกาะที่เงียบสงบสักแห่ง ต้องไม่พลาดการไปเยือนเกาะพยาม จังหวัดระนอง ซึ่งที่นี่มีหาดทรายที่สะอาดตา มีความเป็นส่วนตัว ชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันอย่างเรียบง่าย มีชุมชนชาวมอแกนดั้งเดิมตั้งอยู่ เราจึงได้เห็นชาวบ้านออกไปจับปลาด้วยเครื่องมือจับปลาแบบพื้นบ้าน บนเกาะพยามมีพื้นที่กว้างพอสมควร จึงมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย อาทิ วัดเกาะพยาม, อ่าวหินขาว, ศาลพ่อตา หินขาว, อ่าวไม้ไผ่, อ่าวกวางปีบ, แหลมหิน, อ่าวมุก, อ่าวใหญ่, อ่าวเขาควาย, เขาทะลุ เป็นต้น สิ่งที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปเยือนเกาะพยาม ก็คือการชมปรากฏการณ์สันทรายเชื่อมระหว่างเกาะขามและเกาะพยาม ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเกาะพยามนั่นเอง
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือโดยสารได้ที่ท่าเรือปากน้ำ อำเภอเมืองระนอง โดยเรือจะออกจากท่าเรือปากน้ำ *เวลา 09.30 น. และ 14.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง และจากเกาะพยาม-ระนอง เรือจะออก *เวลา 08.30 น. และ 14.00 น. เช่นกัน แต่หากใครต้องการความรวดเร็วสามารถขึ้นเรือสปีดโบ๊ทได้ โดยเรือสปีดโบ๊ทจะออกจากท่าเรือปากน้ำ *เวลา 10.00 น., 11.30 น. และ 16.30 น. โดยจะใช้เวลาประมาณ 35-40 นาที และจากเกาะพยาม-ระนอง เรือจะออก *เวลา 09.00 น., 10.00 น. และ 14.30 น. สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร โทรศัพท์ 0 7750 2775-6, 0 7750 1831-2
18. เกาะเหลาเหลียง

เกาะเหลาเหลียง ตั้งอยู่ในตำบลเกาะสุกร อำเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง มีความโดดเด่นตรงที่มีภูเขาหินปูนสูงสง่าสวยงามอยู่บนเกาะ พร้อมทั้งหาดทรายยังขาว เนียนนุ่มราวกับผงแป้ง น้ำทะเลเป็นสีฟ้าใส มองเห็นฝูงปลามากมายได้จากฝั่ง ใต้ทะเลโดยรอบยังมีแนวปะการัง ทั้งปะการังอ่อน และปะการังแข็งที่สวยงาม และยังมีปลาทะเลหลากหลายชนิด เรียกได้ว่าที่นี่คือสวรรค์สำหรับนักดำน้ำเลยทีเดียว
การเดินทาง : นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเรือโดยสารได้ที่บริเวณท่าเรือหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง ซึ่งสามารถบรรจุคนได้ประมาณ 15 คน ใช้เวลาเดินทางจากท่าเรือถึงเกาะเหลาเหลียงประมาณ 45 นาที โดยเรือจะออกจากท่าเรือหาดสำราญเวลาประมาณ 13.00 น. และออกจากท่าเรือเกาะเหลาเหลียงเวลาประมาณ 12.00 น. แต่ถ้าใครไม่ต้องการค้างคืนบนเกาะสามารถเช่าเรือเหมาลำไปเที่ยวยังเกาะได้เช่นกัน
19. เกาะมุก เกาะเชือก เกาะม้า เกาะกระดาน

โดยส่วนมากแล้วเรือนำเที่ยวจะพานักท่องเที่ยวไปเที่ยวยังเกาะมุก และจะพาเที่ยวเกาะอื่น ๆ ด้วย ซึ่งเกาะที่ได้รับความนิยมก็คือ เกาะเชือก เกาะม้า และเกาะกระดาน โดยทั้ง 4 เกาะนี้มักจะอยู่ในแผนของเรือท่องเที่ยวเกือบทุกแห่ง สามารถเที่ยวได้ในวันเดียว
การเดินทาง : จากท่าเรือปากเมงและท่าเรือควนตุ้งกู จะมีเรือให้เช่าเหมาลำมายังเกาะมุก ซึ่งโดยส่วนมากจะพาไปชมยังเกาะใกล้เคียงอื่น ๆ ด้วย
20. เกาะลิบง

เกาะลิบง เป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในท้องทะเลตรัง มีพื้นที่ประมาณ 25,000 ไร่ ได้ชื่อว่าเป็นเกาะที่อนุรักษ์พะยูน ด้วยรอบ ๆ เกาะจะเต็มไปด้วยหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของพะยูน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้พบเห็นพะยูนแล้ว บนเกาะลิบงยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ หาดตูบ แหลมจุโหย แหลมทวด แหลมโต๊ะชัย หาดหญ้าคา เป็นต้น และนักท่องเที่ยวยังสามารถเที่ยวชมตามหมู่บ้านต่าง ๆ ซึ่งชาวบ้านยังคงใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่ายได้อีกด้วย
การเดินทาง : มีเรือโดยสารจากท่าเรือหาดยาว อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ไปถึงท่าเรือบ้านพร้าวบนเกาะลิบง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที หรือนักท่องเที่ยวจะเช่าเรือเหมาลำไปก็ได้เช่นกัน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง โทรศัพท์ 0 7525 1932
ใครที่อยากจะไปเที่ยวทะเลอันดามันก็เลือกเอาเลยค่ะ ว่าชอบบรรยากาศของเกาะไหน แล้วไปสนุกสนานกับท้องทะเลไทยกันนะคะ :)
หมายเหตุ : * ข้อมูลและราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง ข้อมูล ณ วันที่ 31 มีนาคม 2560
ขอขอบคุณข้อมูลจาก


