วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมจิตรกรรมฝาผนัง

           วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา ชวนเที่ยววัดสวยเมืองเก่า ไหว้พระศักดิ์สิทธิ์ ชมจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย

          วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร (Wat Suwan Dara Ram Ratchaworawihan) เป็นวัดเก่าแก่ที่พระอุโบสถยังคงรูปแบบสมัยอยุธยาตอนปลาย และมีความโดดเด่นคือภาพจิตรกรรมฝาผนังที่งดงามและทรงคุณค่า กล่าวกันว่าเป็นภาพจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย กลายเป็นที่เที่ยวอยุธยาที่กำลังเป็นกระแสมาแรงสุด ๆ ตามรอยละครเรื่อง พรหมลิขิต เพราะวัดแห่งนี้เป็นหนึ่งในฉากสำคัญที่ใช้ถ่ายทำละครด้วย เราจะพาทุกคนไปเที่ยว วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร วัดสวยของเมืองหลวงเก่า ชมความงามที่มีมาตั้งแต่อดีตและสืบทอดมาถึงปัจจุบันกัน

  • บริเวณพื้นที่ระหว่างพระวิหารและพระอุโบสถ เป็นฉากสำคัญที่ใช้ในการถ่ายทำพระราชพิธีจองเปรียง ลดชุดลอยโคม
  • ภายในพระอุโบสถ ใช้พื้นที่เป็นฉากถ่ายทำตอนแม่แก้วและแม่ปราง ซึ่งเป็นลูกสาวของแม่หญิงการะเกด มาไหว้พระปฏิมากรในวัด

วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร
ประวัติและที่ตั้ง

          วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร ตั้งอยู่ในเกาะเมืองเขตพระนคร ด้านทิศตะวันออกค่อนลงมาทางใต้ ใกล้ป้อมเพชร ตำบลหอรัตนไชย อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สถาปนาขึ้นโดยพระสุนทรอักษร (ทองดี) พระชนกในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ณ บริเวณอันเป็นนิวาสถานเดิมของตระกูล วัดแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า วัดทอง

          ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2310 พม่าได้ยกกองทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาแตก วัดทองก็ถูกพม่าทำลายกลายเป็นวัดร้างมานานถึง 18 ปี ต่อมาในปี พ.ศ. 2325 เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) ทรงปราบดาภิเษกและสร้างกรุงเทพมหานครเป็นราชธานีแล้ว ในปี พ.ศ. 2328 ได้โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์วัดทองที่ถูกทิ้งร้างมาตั้งแต่กรุงแตกใหม่หมดทั้งอาราม ในการปฏิสังขรณ์และการก่อสร้างครั้งนี้ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท หรือ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท พระอนุชา ได้ทรงร่วมปฏิสังขรณ์วัดแห่งนี้ด้วย เมื่อการบูรณะปฏิสังขรณ์แล้วเสร็จ ได้โปรดเกล้าฯ พระราชทานนามใหม่ตามชื่อของพระราชบิดา (ทองดี) และพระราชมารดา (ดาวเรือง) ว่า วัดสุวรรณดาราราม

          ปัจจุบัน วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร เป็นอารามหลวงชั้นเอก การที่วัดสร้างขึ้นโดยพระปฐมบรมชนก และในหลวง รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้ปฏิสังขรณ์ กระทั่งพระเจ้าอยู่หัวในราชวงศ์จักรีทุกพระองค์เคยโปรดเกล้าฯ ให้ซ่อมแซมหรือเสด็จฯ มาบำเพ็ญพระราชกุศล วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหารจึงนับเป็นวัดประจำราชวงศ์จักรี
วัดสุวรรณดาราราม

สิ่งที่น่าสนใจ
วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร

อุโบสถ

          บริเวณที่สร้างพระอุโบสถนี้เป็นอาคารประธานของวัดมาตั้งแต่เดิม องค์พระอุโบสถเป็นอาคารก่ออิฐถือปูน สถาปัตยกรรมแบบอยุธยาตอนปลาย มีลักษณะแอ่นโค้งทรงท้องสำเภา ด้านหน้ามีมุขและเสาย่อมุมไม้สิบสองรองรับมุข หน้าต่างมีซุ้มบันแถลง ติดช่อฟ้า ใบระกา และ “คันทวย” (ส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมทำหน้าที่ค้ำยันชายคา ระเบียง หรือหลังคาของสิ่งก่อสร้างติดตั้งไว้ตอนบนของเสา ให้เอนขึ้นไปรับน้ำหนักชายคา (เต้า) มีทั้งที่เป็นไม้และปูนปั้น) หางหงส์นาคเบือน 3 เศียร ศิลปกรรมสกุลช่างวังหน้า ด้านหลังบานประตูมีภาพวาดนายทวารบาล “เซียวกาง” ที่สมบูรณ์มาก อีกสิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ “เสมา” เพราะใบเสมาของโบสถ์ทุกใบเป็นศิลปะอยุธยาตอนกลางที่สมบูรณ์ที่สุดในอยุธยา

          ภายในพระอุโบสถ เป็นที่ประดิษฐานพระประธาน ปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบเหนือรัตนบัลลังก์ฐานสิงห์ หน้าตักกว้างประมาณ 1.5 เมตร สูง 2 เมตร เป็นศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น รายล้อมด้วยพุทธสาวกขนาดเล็ก 8 องค์

วัดสุวรรณดาราราม

ภาพจาก : YuenSiuTien / Shutterstock.com

          ฝาผนังด้านในพระอุโบสถเขียนภาพจิตรกรรม อายุมากกว่า 200 ปี โดยฝีมือของช่างหลวงสมัยรัชกาลที่ 1 ในปี พ.ศ. 2328  ต่อมาได้รับการบูรณะเขียนซ่อมแซมในช่วงสมัยรัชกาลที่ 3 ราวปี พ.ศ. 2393 โดยเค้าโครงของภาพยังคงไว้ในรูปแบบเดิม ภาพจิตรกรรมแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนบนเหนือผนังหน้าต่างขึ้นไปจรดเพดาน เขียนภาพเทพชุมนุมนั่งประนมมือหันหน้าไปที่พระประธาน ส่วนด้านล่างระหว่างช่องหน้าต่างซึ่งมี 8 ช่อง เขียนภาพเล่าเรื่องพระเจ้าสิบชาติ หรือ ทศชาติชาดก เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติที่ล่วงมาแล้วของพระพุทธเจ้า แต่เป็นชาติที่ใกล้จะเป็นพระพุทธเจ้าแล้ว เพราะต่อจากสิบชาติแล้วก็มาเป็นสิทธัตถะกุมาร แล้วออกบวชเป็นพระพุทธเจ้า มี เตมียชาดก มหาชนกชาดก สุวรรณสามชาดก เนมิราชชาดก มโหสถชาดก ภูริทัตชาดก จันทกุมารชาดก พรหมนารทชาดก วิธุรบัณฑิตชาดก เวสสันดรชาดก (13 กัณฑ์) ด้านหลังพระประธานเขียนภาพจิตรกรรมเล่าเรื่องไตรภูมิ ผนังด้านหน้าพระประธานเขียนเล่าเรื่องพุทธประวัติ ตอนมารวิชัย

          นอกจากนี้ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่หาดูได้ยากคือ บนเพดานโบสถ์ ประดับด้วยไม้จำหลักลายดวงดาว ประกอบไปด้วยดาวประธานที่รายล้อมไปด้วยดาวบริวาร 12 ดวง

วัดสุวรรณดาราราม

ภาพจาก : Krikkiat / Shutterstock.com

พระวิหาร

           สร้างมาแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3) แต่มาแล้วเสร็จในสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) ตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของพระอุโบสถ มีลักษณะเป็นอาคารเครื่องก่อ หน้าบันและซุ้มประตูมีตราพระมหาพิชัยมงกุฎ ศิราภรณ์สำคัญของพระมหากษัตริย์ อันเป็นพระราชสัญลักษณ์ของพระนามาภิไธยว่า “มงกุฎ” ซึ่งเป็นตราประจำรัชกาลที่ 4 อยู่ในเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ มีฉัตรบริวารตั้งขนาบทั้งสองข้าง
วัดสุวรรณดาราราม

ภาพจาก : YuenSiuTien / Shutterstock.com

วัดสุวรรณดาราราม

ภาพจาก : YuenSiuTien / Shutterstock.com

           ลักษณะตัวอาคารก่อสร้างเลียนแบบจากพระอุโบสถ ไม่มีคันทวย ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธปฏิมากรโลหะลงรักปิดทอง ประทับนั่งสมาธิราบ ปางมารวิชัย บนฐานชุกชี ภายใต้ซุ้มเรือนแก้วประดับลวดลายงดงาม คล้ายคลึงพระพุทธชินราช ด้านหลังพระวิหารมีเจดีย์ใหญ่ (เจดีย์ประธาน) บรรจุพุทธสารีริกธาตุ “เจดีย์ประธาน” (The Principal Stupa) เป็นเจดีย์ทรงระฆัง มีมาลัยเถา 3 ชั้นรองรับองค์ระฆัง ตั้งอยู่บนลานประทักษิณ ซึ่งเป็นแบบที่นิยมในสมัยรัชกาลที่ 4 รายล้อมด้วยเจดีย์ทรงเครื่ององค์ระฆังริ้ว ซึ่งเป็นการสร้างเลียนแบบเจดีย์ในสมัยอยุธยา

จิตรกรรมฝาผนังวิหาร

          ภายในฝาผนังพระวิหาร มีภาพเขียนด้วยสีน้ำมัน เขียนโดยพระมหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) ผู้มีฝีมือทางด้านศิลปะ โดยเฉพาะด้านจิตรกรรมและการถ่ายภาพ จนได้เป็นจิตรกรเอกและช่างภาพประจำพระองค์ ในราชสำนักพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 6)

          จิตรกรรมในฝาผนังพระวิหาร เล่าเรื่องราวพระราชพงศาวดารของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผลงานชิ้นเอกที่คนไทยรู้จักมากที่สุดคือ ภาพเขียนการสงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระนเรศวรมหาราชกับพระมหาอุปราชมังกะยอชวา “พระมหาอุปราชา” แห่งพม่า ซึ่งเป็นสงครามที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2135 เนื้อหาของภาพสะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์เมื่อครั้งสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงฟันพระแสงของ้าวถูกพระมหาอุปราชาเข้าที่อังสะ (บ่า) ขวา จนสิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง และภาพเล่าพระราชประวัติของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเขียนตามช่องว่างระหว่างประตูและหน้าต่างช่องละตอน มีคำบรรยายประกอบอยู่ใต้ภาพ รวมทั้งสิ้น 20 ตอน ลำดับภาพเริ่มจากทางด้านซ้ายมือของพระประธานวนไปตามเข็มนาฬิกา เขียนเล่าเรื่องตั้งแต่ตอนพระอิศวรแบ่งภาคลงมาประสูติเป็นสมเด็จพระนเรศวร จนถึงเรื่องราวตอนที่สมเด็จพระนเรศวรสวรรคต และอัญเชิญพระบรมศพกลับมาสู่พระนครศรีอยุธยา เป็นภาพเขียนที่มีความเหมือนจริง มีอิทธิพลมาจากตะวันตก และได้นำมาประยุกต์ใช้ในจิตรกรรมไทย ซึ่งเชื่อว่าเป็นจิตรกรรมสีน้ำมันบนฝาผนังปูนแห่งแรกในประเทศไทย

วัดสุวรรณดาราราม

ภาพจาก : nicepix / Shutterstock.com

การเดินทางไป
วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร

           การเดินทางจากเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ไปวัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร ด้วยรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถใช้ถนนเทศบาลเมืองอโยธยาไปเจดีย์วัดสามปลื้ม ใช้ทางออกที่ 3 สู่ถนนอยุธยา-อ่างทองโรจนะ ข้ามแม่น้ำป่าสัก จะเจอโรงเรียนเสริมสวยคุณโจ เลี้ยวซ้ายเข้าซอย เลี้ยวขวาเข้าถนนอู่ทอง แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอยอู่ทอง 4 วัดอยู่ทางขวามือ ระยะทาง 4.5 กิโลเมตร ใช้เวลา 10 นาที
วัดสุวรรณดาราราม

ข้อมูลติดต่อวัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร

          วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร วัดเก่าแก่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดดเด่นที่สุดด้วยภาพวาดฝาผนังประวัติสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในวิหาร ได้กลายมาเป็นฉากหลังของละครยอดฮิตอย่าง พรหมลิขิต ที่อีกไม่นานคงจะมีแฟน ๆ ไปเที่ยวตามรอยอย่างแน่นอน 
 

หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง

บทความ เที่ยวอยุธยา วัดอยุธยา อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
วัดสุวรรณดารารามราชวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ชมจิตรกรรมฝาผนัง อัปเดตล่าสุด 27 ตุลาคม 2566 เวลา 11:31:29 14,513 อ่าน
TOP
x close