แนะนำกิจกรรมไหว้พระ 9 วัดอยุธยา เดินทางง่าย ๆ ด้วยรถไฟ แถมอยู่ใกล้กรุงเทพฯ เที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับได้สบาย ๆ
หากนึกถึงที่เที่ยวใกล้กรุงเทพฯ ขึ้นมาสักจังหวัดหนึ่ง
“อยุธยา” น่าจะเป็นจังหวัดที่อยู่ในลิสต์อันดับต้น ๆ ของคนอยากไปท่องเที่ยวเพลิน ๆ เพราะมากด้วยเสน่ห์เฉพาะของสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะวัดวาอารามและโบราณสถานต่าง ๆ ที่ยังคงโดดเด่นสง่างามเหนือกาลเวลาอยู่เสมอ ทำให้กิจกรรมเดินสายไหว้พระ 9 วัด จึงกลายเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดนิยมสำหรับคนที่เดินทางไปเที่ยว
อยุธยา เพราะนอกจากจะได้ยลสถาปัตยกรรมที่งดงามแล้ว ยังถือโอกาสนี้ทำบุญเสริมสิริมงคลให้กับตัวเองและเผื่อแผ่ให้คนรอบข้างอีกด้วย
หลายคนอาจคิดว่าการไปเที่ยวอยุธยาแบบไม่มีรถส่วนตัว จะเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวกหรือเปล่า ? บอกเลยว่าไม่เป็นอย่างที่คิด แล้วยิ่งถ้าเป็นแบบ One Day Trip ไปเช้า-เย็นกลับด้วยแล้ว แนะนำว่าให้เดินทางด้วยรถไฟ เพราะระหว่างทางได้นั่งมองวิวสองข้างทางไปเพลิน ๆ แต่ก่อนอื่นจะขึ้นรถไฟได้ก็ต้องเช็กตารางเดินรถกันก่อน ซึ่งขบวนรถไฟจากกรุงเทพฯ ไปอยุธยา มีเที่ยวรถไฟให้เลือกเยอะมาก หรือสอบถาม Call Center 1690
*** สามารถตรวจสอบเวลาการเดินรถได้ที่ เว็บไซต์ procurement.railway.co.th
ปู๊น ๆ ฉึกฉัก ๆ...ประมาณ 2 ชั่วโมง ก็ถึงสถานีอยุธยาแล้ว นักท่องเที่ยวสามารถเลือกวิธีเดินทางเพื่อตระเวนไหว้พระ 9 วัด ได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเหมารถสามล้อนำเที่ยว วิธีนี้เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มากันหลาย ๆ คน เหมารถเป็นวัน (ตกลงราคากันให้เรียบร้อย) หรือจะเช่าจักรยานปั่น เพราะวัดแต่ละแห่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันมาก โดยสามารถติดต่อขอเช่าบริเวณสถานีรถไฟได้เลย ซึ่งหมุดหมายทั้ง 9 วัดสำหรับทริปไหว้พระในครั้งนี้…
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 1 วัดพนัญเชิงวรวิหาร
วัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ภายในประดิษฐานพระไตรรัตนนายก พระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัด เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของคนในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ตลอดจนสิ่งที่น่าสนใจภายในวัดอื่น ๆ เช่น "พระพุทธรูปทองคำในพระอุโบสถ" ซึ่งมีพระพุทธรูปสำคัญ 3 องค์ คือพระพุทธรูปทองคำ พระพุทธรูปปูน และพระพุทธรูปนาค และ "ตำหนักเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก" ประดิษฐานรูปปั้นเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก อนุสรณ์ความรักอันน่าเศร้าของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง กษัตริย์ของไทย และพระนางสร้อยดอกหมาก จากแผ่นดินจีน อันเป็นที่เคารพสักการะของชาวจีนโดยทั่วไปอีกด้วย
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 2 วัดใหญ่ชัยมงคล
วัดใหญ่ชัยมงคล นับเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของจังหวัด มีนักท่องเที่ยวต่างแวะเข้ามาเยี่ยมเยือนเป็นจำนวนมาก จุดเด่นของวัด คือ เจดีย์องค์ใหญ่ ภายในได้มีการค้นพบชัยมงคลคาถาบรรจุอยู่ ภายในพระอุโบสถยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชัยมงคล” พระประธานที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัดอีกด้วย นอกเหนือจากการได้ไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้ยลความสวยงามของโบราณสถาน ท่ามกลางความเงียบสงบและร่มเย็นของหมู่แมกไม้นานาชนิด เหมาะอย่างยิ่งที่จะจัดอยู่ในลิสต์ไหว้พระอยุธยา
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 3 วัดมงคลบพิตร
วัดเก่าแก่และสำคัญแห่งหนึ่งของอยุธยา ความน่าสนใจของวัดแห่งนี้ นั่นคือ ภายในวิหารมี “พระมงคลบพิตร” พระพุทธรูปประธานขนาดใหญ่ ครั้งหนึ่งในอดีตได้รับความเสียหายตั้งแต่เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่สอง แต่ได้รับการบูรณะใหม่ทั้งหมด ด้วยทองสำริดหุ้มทองตามปัจจุบัน ในแต่ละวันมีทั้งชาวอยุธยาและนักท่องเที่ยวแวะเวียนมากราบไหว้ขอพร ขอ
ตรวจหวยเป็นจำนวนมาก ตลอดจนการเยี่ยมชมความงดงามของสถาปัตยกรรมครั้งกรุงเก่า นับเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวที่น่าหลงใหลเป็นอย่างยิ่ง
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 4 วัดหน้าพระเมรุ
วัดเก่าแก่ชื่อดังที่มีอายุร่วม 500 ปี ทั้งยังเป็นวัดเดียวในกรุงศรีอยุธยาที่ไม่ถูกพม่าทำลาย ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจและทรงคุณค่ามากมาย เช่น “พระพุทธนิมิต” พระประธานในพระอุโบสถ หล่อด้วยทองสำริด มีพระลักษณะงดงามเป็นที่ยิ่ง “พระคันธารราฐ” ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารสรรเพชญ์
เป็นพระพุทธรูปเนื้อศิลาเขียวแกะสลักที่งดงามที่สุดองค์หนึ่งของประเทศ รวมถึงการยลความงดงามสถาปัตยกรรมของ “พระอุโบสถ” “พระปรางค์” “เจดีย์ราย 3 องค์” และ “พระวิหารขาว” สวยงามและคงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 5 วัดมหาธาตุ
ความโดดเด่นและน่าสนใจของวัดแห่งนี้ คือ เศียรพระพุทธรูปกว่าร้อยปีในรากไม้ ตามแบบศิลปะอยุธยา คาดว่าเศียรพระพุทธรูปนี้จะหล่นลงมาอยู่ที่โคนต้นไม้ในสมัยเสียกรุงจนรากไม้ขึ้นปกคลุม ทำให้มีความงดงามแปลกตากลายเป็นความมหัศจรรย์ ที่ใครไปวัดมหาธาตุก็ต้องไปชมด้วยตาตัวเอง นอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น “พระปรางค์ขนาดใหญ่”, “วิหารที่ฐานชุกชี” และ “วิหารเล็ก” และ “ตำหนักพระสังฆราช” เป็นต้น
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 6 วัดพุทไธศวรรย์
พระอารามหลวงที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียงวัดหนึ่งของจังหวัด สิ่งที่โดดเด่นที่สุดภายในวัดพุทไธศวรรย์ก็คือ "พระมหาธาตุ" หรือปรางค์ประธานสีขาวสะอาดตา มีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบปราสาทขอม ตลอดจนวิหารพระพุทไธศวรรย์ (วิหารพระนอน) ปัจจุบันเหลือแต่เพียงกำแพง และองค์พระพุทธไสยาสน์นอกจากนี้วัดพุทไธศวรรย์ยังถูกพูดถึงในแง่ที่ว่าเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปและเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ ด้านในอุโบสถเป็นสถานที่ประดิษฐานของ "หลวงพ่อดำ" พระพุทธรูปปูนปั้นสีดำปางมารวิชัย ลักษณะศิลปะแบบอยุธยาตอนต้น สมัยก่อนใครเจ็บป่วยก็มาขอหลวงพ่อดำให้หายเจ็บป่วย ขอบุตรก็จะได้บุตร และยังมีการเล่าขานกันว่าในอดีตวัดแห่งนี้เป็นสถานที่ฝึกอาวุธยุทโธปกรณ์ของทหารก่อนที่จะออกศึกสงครามอีกด้วย
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 7 วัดธรรมิกราช
สร้างขึ้นโดยพระยาธรรมิกราช โอรสของพระเจ้าสายน้ำผึ้ง พลาดไม่ได้กับการยลความอลังการของเศียรพระที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดอยุธยา ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา แต่ทางวัดได้ทำเศียรจำลองขึ้นและประดิษฐานไว้หน้าวัดให้ได้เยี่ยมชม ตลอดจนเยี่ยมชมสิ่งที่น่าสนใจต่าง ๆ เช่น “เจดีย์และสิงห์ล้อม 52 ตัว” องค์เจดีย์เป็นทรงระฆังคว่ำบนฐานแปดเหลี่ยม ด้านล่างของลานประทักษิณมีสิงห์ล้อม 52 ตัว, “พระธรรมิกราชจำลอง” อันเป็นที่เคารพเลื่อมใสศรัทธา และ “วิหารพระนอน” ภายในประดิษฐานพระนอนวัดธรรมิกราชเป็นปางพักผ่อนพระอิริยาบถ เป็นต้น
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 8 วัดราชบูรณะ
หนึ่งในวัดที่มีการขุดดค้นพบสมบัติล้ำค่าของมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาไว้มากมาย นอกเหนือจากความน่าสนใจในแง่ประวัติศาสตร์แล้ว พลาดไม่ได้กับการยลปรางค์ประธานขนาดสูงใหญ่ ก่อสร้างด้วยศิลาแลงบนฐานสี่เหลี่ยม ถือเป็นปรางค์แบบไทยที่นิยมทำฐานสูง ต่างจากปรางค์แบบขอมที่มักมีฐานเตี้ย รวมถึงเที่ยวชมกรุวัดราชบูรณะ ในปรางค์ประธาน ประกอบด้วยห้องรวม 3 ชั้น คือ ชั้นแรก มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง, ส่วนชั้น 2 คือ กรุหรือห้องเก็บเครื่องทอง และชั้น 3 คือ ที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ หลากหลายเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่รอให้นักท่องเที่ยวทุกคนได้มาสัมผัสด้วยตาตัวเอง
ไหว้พระ 9 วัดอยุธยา วัดที่ 9 วัดพระราม
สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระราเมศวร ราวปี พ.ศ. 1912 พระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดนี้ในบริเวณที่ถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระราชบิดา ตั้งอยู่ใจกลางเกาะเมืองเก่าอยุธยา ใกล้กับสวนสาธารณะพระราม เป็นอีกหนึ่งวัดที่มีความสวยงามมาก ๆ ของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา มีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตโอ่อ่า โดดเด่นด้วยพระปรางค์ตามแบบสถาปัตยกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ซึ่งได้รับอิทธิพลมาจากเขมร และมีบึงน้ำกว้างใหญ่อยู่หน้าวัด หรือที่เรียกกันว่าบึงพระรามนั่นเอง
หลังจากตระเวนไหว้พระครบ 9 วัดเสร็จ ก็เอารถที่เช่าหรือนั่งรถสามล้อกลับไปยังสถานีอยุธยา เพื่อตีตั๋วรถไฟกลับเข้ากรุงเทพฯ บอกแล้วว่าเที่ยวง่าย แถมรอบเวลารถไฟก็มีให้บริการแทบจะตลอดทั้งวัน คราวนี้ก็ไม่มีอะไรมาเป็นอุปสรรคขวางกั้นการทำบุญของเราอีกต่อไป เหมาะเป็นทริปสั้น ๆ ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ทั้งยังเป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ในครอบครัว เดินทางและเที่ยวด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตา แฮปปี้ถ้วนหน้ากันไปเลย
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
ขอบคุณข้อมูลจาก
railway.co.th, thai.tourismthailand.org