เที่ยวเชียงใหม่ แนะนำ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร สถานที่ไหว้พระเชียงใหม่ยอดนิยม วัดเก่าแก่สถานที่ประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์ และเป็นที่ตั้งของพระธาตุประจำปีนักษัตรปีมะโรง
หากคุณกำลังวางแพลนไปเที่ยวเชียงใหม่ หนึ่งในหมุดหมายที่ไม่ควรพลาดก็คือ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า วัดพระสิงห์ วัดเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนาน เพราะเป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ และเป็นที่ตั้งของ พระธาตุเจดีย์ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรปีมะโรง (งูใหญ่) ที่นี่จึงมีผู้คนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางไปสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลตามความเชื่อหรือตามมายาคติเทวะมันตราของแต่ละคน พร้อมเที่ยวชมสถาปัตยกรรมและงานพุทธศิลป์ที่งดงาม วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักกับสถานที่แห่งนี้ให้มากขึ้นกัน
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เชียงใหม่
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ตั้งอยู่ที่ไหน
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร (Wat Phra Singh Woramahaviharn) พระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ในบริเวณคูเมืองเชียงใหม่ ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากประตูท่าแพประมาณ 1 กิโลเมตร และห่างจากตลาดวโรรสเพียง 3 กิโลเมตร
ประวัติวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เดิมชื่อ วัดลีเชียงพระ หมายถึง วัดที่ตั้งใกล้ตลาดกลางเมือง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1888 โดย พญาผายู กษัตริย์เชียงใหม่ องค์ที่ 5 แห่งราชวงศ์มังราย พญาผายูได้นำอัฐิ พญาคำฟู ราชบิดา ซึ่งครองเมืองเชียงแสน มาบรรจุในสถูปประดิษฐานไว้ที่แห่งนี้ แล้วสร้างพระธาตุเจดีย์ขึ้น ต่อมา เจ้ามหาพรหม กษัตริย์เมืองเชียงราย ได้อัญเชิญ พระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ มาจากเมืองกำแพงเพชร นำมาถวาย พญาแสนเมืองมา กษัตริย์เชียงใหม่ พญาแสนเมืองมาได้อัญเชิญพระพุทธสิหิงค์มาประดิษฐานไว้ที่วัดลีเชียงพระ ประชาชนจึงเรียกวัดลีเชียงพระว่า วัดพระสิงห์ นับตั้งแต่นั้นมา
วัดพระสิงห์ ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ ยกฐานะเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2483 ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล (รัชกาลที่ 8)
พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่
พระวิหารลายคำ พระวิหารที่สร้างและตกแต่งด้วยศิลปะแบบล้านนา สถานที่ประดิษฐาน พระพุทธสิหิงค์ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร ขนาดหน้าตักกว้าง 31 นิ้ว สูงจากขอบฐานถึงยอดพระเมาลีบัวตูม 51 นิ้ว ตามประวัติกล่าวว่า สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 700 โดยกษัตริย์ลังกา 3 พระองค์ และพระอรหันต์ 20 รูป จากนั้นปี พ.ศ. 1931 พระเจ้าแสนเมืองมา ได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดลีเชียงพระ (วัดพระสิงห์) โดยเทศกาลสงกรานต์ทุกปีจะมีพิธีอาราธนาอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ออกแห่ให้ประชาชนได้สรงน้ำสักการบูชาเป็นเวลา 3 วัน 3 คืน
คำไหว้พระพุทธสิหิงค์
ตั้งนะโม 3 จบ
อิติ ปะวะระ สิหิงโค อุตตะมะยะโสปิ เตโช
ยัตถะ กัตถะ จิตโต โส สักกาโร อุปะโท
สะการะ พุทธะสาสะนัง โชตะยันโตวะ ทีโป
สุระณะเรหิ มะหิโต ธะระมาโนวะ พุทโธติ
สำหรับ พระวิหารลายคำ สร้างขึ้นในสมัยพญาธรรมลังกา (พระเจ้าช้างเผือก) ระหว่าง พ.ศ. 2358-2364 เป็นศิลปะล้านนา กว้าง 8 เมตร ยาว 30 เมตร มีช่อฟ้า ใบระกา หลังคามุงกระเบื้อง ดินเผาที่มีความสวยงามมาก ได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น มีลวดลายทองล่องชาด เทคนิคการฉลุลายปรากฏบนฝาผนังหลังพระประธาน เสากลางวิหารและเสาระเบียงด้านหน้าพระวิหาร ตลอดถึงบางส่วนของโครงไม้ บนฝาผนังภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง สังข์ทองและสุวรรณหงส์ เขียนด้วยสีฝุ่นมีความงดงามมาก
พระธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
พระธาตุเจดีย์วัดพระสิงห์ หรือ พระมหาธาตุเจดีย์ (พระธาตุหลวง) พระเจดีย์เก่าแก่สร้างในสมัยเดียวกับการตั้งวัด ความสูง 25 วา ฐานสี่เหลี่ยมยาวด้านละ 16 วา 1 ศอก 6 นิ้ว ในตำนานพื้นเมืองเชียงใหม่กล่าวว่า ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระมหาสุมนเถระนำมาจากทวีปลังกา จึงมีความเชื่อว่าอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต ผู้เกิดปีมะโรง (งูใหญ่) หากได้มีโอกาสมานมัสการจะเป็นมงคลอันสูงสุด
พญาผายู เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1888 ต่อมาระหว่าง พ.ศ. 2101-2317 เชียงใหม่ตกอยู่ในอำนาจของเมียนมา วัดพระสิงห์ขณะนั้นมีสภาพเป็นวัดร้าง เสนาสนโบราณสถานอยู่ในสภาพเสื่อมโทรม มาจนถึง พ.ศ. 2469 พระราชชายา เจ้าดารารัศมี และเจ้าแก้วนวรัฐ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ และครูบาศรีวิชัย ได้นำประชาชนร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะและเสริมสร้างพระธาตุเจดีย์ให้สูงใหญ่ขึ้น
คำบูชาพระธาตุประจำปีมะโรง
ตั้งนะโม 3 จบ
นะมามิ สิหิงคะพิมพัง สุวัณณา
ภิรัมมัง ลังกาชาตัง โสภาภโสภัง
สะราภิกันตัง นะมามิหัง
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร กับสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ
พระอุโบสถสองสงฆ์ หรือพระอุโบสถ ตั้งอยู่ระหว่างวิหารหลวงและพระธาตุเจดีย์ ตามหลักศิลาจารึกบอกว่า สร้างในสมัยพระเจ้ากาวิละ และเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์ในสมัยนั้น โดยได้ร่วมกันสร้างและจัดงานฉลองเมื่อปี พ.ศ. 2355 พระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมล้านนา กว้าง 6 วา 10 นิ้ว ยาว 14 วา 1 ศอก มุงกระเบื้องดินเผา มีช่อฟ้าใบระกา มีมุขทั้ง 2 ด้าน มีซุ้มประตูทางเข้าทั้ง 2 ด้านที่งดงาม รูปทรงครึ่งปูนครึ่งไม้ ด้านบนเป็นเครื่องไม้ทั้งหมด เป็นที่ประดิษฐาน พระเจ้าทองทิพย์จำลอง พระพุทธรูปเก่าแก่สำคัญศิลปะและฝีมือตามแบบเชียงแสนในสมัยต้น สร้างด้วยทองแดง นาก และทองคำ ปนกัน โดยเหตุที่เรียกว่าพระอุโบสถสองสงฆ์ เพราะเป็นการสร้างเพื่อจำลองการทำสังฆกรรมของพระภิกษุสงฆ์และพระภิกษุณีสงฆ์
พระวิหารหลวง สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2467 สถานที่ประดิษฐาน พระศรีสรรเพชญ (หลวงพ่อโต) พระพุทธรูปปูนปั้น เป็นพระประธาน วิหารแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมแบบล้านนา โดยพระวิหารหลังเดิมถูกรื้อถอนไปในสมัยที่ครูบาศรีวิชัยมาเป็นเจ้าอาวาส และได้สร้างวิหารหลวงขึ้นมาแทน
คำไหว้พระศรีสรรเพชญ (หลวงพ่อโต)
ตั้งนะโม 3 จบ
อิมัสะมิง มะหาวิหาเร ปะธานัตตา ปะติฎฐิตัง
สิริสัพพะวิชะญะนามัง มะหาพุทธะ ปฏิมัง สิระสา
นะมามิหัง อิมิสสานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุเมฯ
ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการพระศรีสรรเพชญ (หลวงพ่อโต) ซึ่งเป็นพระประธานดำรงมั่น ณ มหาวิหารแห่งนี้ ด้วยเศียรเกล้า
ด้วยอานุภาพของพระศรีสรรเพชญนี้ ขอความสวัสดีทั้งปวงจงมีแก่ข้าพเจ้าฯ
พระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) พระพุทธรูปปูนปั้นเก่าแก่ สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2094 และได้มีการบูรณะหลายครั้ง ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2493 สมัยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ฟู อตฺตสิวมหาเถร) เป็นเจ้าอาวาส ครั้งที่ 2 เมื่อ พ.ศ. 2537 สมัยพระธรรมสิทธาจารย์ (หนู ถาวรมหาเถร) เป็นเจ้าอาวาส ครั้งที่ 3 พ.ศ. 2554 สมัยพระราชสิงหวรมุนี (โสภณ โสภโณ) เป็นเจ้าอาวาส
อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ประดิษฐานอยู่ที่แท่นวงเวียนหน้าพระวิหารหลวง สร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกถึงครูบาศรีวิชัย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ซึ่งท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัด 13 พรรษา
พระเจ้าทันใจ พระพุทธรูปปูนปั้น สร้างเมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารพระเจ้าทันใจ
คาถาบูชาพระเจ้าทันใจ
ตั้งนะโม 3 จบ
ตะมะหัง ขิปปะจิตตะ พุทธัง อภิปูชะยามิ
ตะมะหัง ขิปปะจิตตะ พุทธัง เมสิระสา อภิปูชะยามิ
ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ สะทาโสตถี ภะวันตุเม
ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ สะทา มหาลาโภ ภะวันตุเม
ขิปปะจิตตะ พุทธานุภาเวนะ สะทา มหายะโส ภะวันตุเม
หอไตร (หอพระไตรปิฎก) สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2354 ในสมัยของพระเจ้ากาวิละ เป็นสถาปัตยกรรมล้านนา กว้าง 4 วา 3 ศอก 4 นิ้ว ยาว 8 วา 118 นิ้ว เป็นที่เก็บคัมภีร์และหีบธรรม มีความงดงาม มีลวดลายปูนปั้นประดับตกแต่งรอบบริเวณหอไตร
นี่เป็นเรื่องราวเพียงบางส่วนของ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร วัดคู่เมืองเชียงใหม่ เอาเป็นว่าหากได้ไปเที่ยวเชียงใหม่ก็อย่าลืมปักหมุดไว้ แล้วไปไหว้พระ ทำบุญ พร้อมชมงานพุทธศิลป์ต่าง ๆ กันดูนะ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น.
หมายเหตุ : ข้อมูลอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาตรวจสอบอีกครั้ง
บทความ ไหว้พระเชียงใหม่ ที่เที่ยวเชียงใหม่ อื่น ๆ น่าสนใจ